Home Theater Guide webboard > มุม โฮมเธียเตอร์ (HT)
ช่วยแนะนำเครื่องเล่น ที่สามารถใช้เป็นแหล่งต้นกำเนิดเสียงแทน CD PLAYER ครับ
Malako:
เขียนให้อ่านแบบจุใจคงมีหลายตอนนะครับ เพราะมันต้องอ้างต้องอิงโน่นนี่พอควร
รวมทั้งต้องเจาะลึก วิแคะ ถึงเหตุผลที่มาที่ไป
ผมอาจโชคดีที่เกิดในยุค "อนาล็อก" เริ่มคลานหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
และหลายเหตุการณ์ต้องเข้าไปคลุกคลีกับระบบกระจายเสียงกลางแจ้ง งานวัด งานฉายหนังกลางแปลง
สมัยอายุ 8-9 มีงานกระจายเสียงของอำเภอที คนคุมตัวจริงเครื่องเอาแต่กินเหล้า
ส่วนผมคือตัวจริง หลายครั้งคุมเครื่องฉายหนัง เปิดเพลงจากเครื่องเล่นแผ่นครั่ง
สิ่งที่ตามมาคือความรักในเสียงเพลงและเครื่องเสียง
เรียนจบทำงานจึงมีเครื่องเสียงเป็นของตัวเอง
ไม่นานนักถึงยุคดิจิตอล CD ที่ให้เสียงใสเหมือนไก่อู ขับไล่เทปคาสเสท แผ่นเสียงช่วงแรกกระเจิง
ก่อนที่จะมีแผ่นซีดี เครื่องเล่นวางตลาด มีหนังสือเรื่องของซีดีตีพิมพ์โดยแปลจากต่างประเทศ
ผมละตามอ่านจนซึ่งถึงแก่ใจว่า บริษัทฟิลิปส์ + โซนี่ ที่จับมือพัฒนา นั้นฉลาดมากๆ ในเรื่องธุรกิจ
และก็ร่ำรวยจากลิขสิทธิ์ เครื่องเล่นซีดี แผ่นซีดีแบบชาติหน้าถ้ามีก็กินไม่หมด
สิ่งที่เป็นการก้าวกระโดดในเรื่องดิจิตอลมาจากแผนยุทธศาสตร์ของอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน
ที่ต้องการสร้างอเมริกาให้มีอำนาจและอิทธิพลทางเศรษฐกิจ ซึ่งสรุปว่าต้องชนะด้วยสินค้าไฮเทคโนโลยี่
การต่อยอดให้มี PC หรือคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะส่วบุคคล การคิดค้น Operation System ขึ้นมารันงานให้ง่าย
ตรงจุดนี้แหละครับ มีไอบีเอ็ม มีแอปเปิ้ล มีอินเทล มีไมโครซอร์ฟ มีซิลิคอนแวลเลย์
ผลักดันให้เกิดการก้าวกระโดดครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดที่โลกเคยมี
พลอยทำให้อเมริกาผูกขาดความร่ำรวยจากสินค้าไฮเทค ยกตัวอย่าง Windows , ชิพ CPU Intel , Ipod , Iphone ฯลฯ จนปัจจุบัน
คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องทำงานด้วยระบบตัวเลขฐานสอง มันถูกเรียกว่า การทำงานแบบดิจิตอล
คอมฯ จะให้เสียง(Sound) ได้ต้องมี Sound card ซึ่งขั้นต้นทำหน้าแปลงเสียงสัญญาณอนาล็อกเป็นดิจิตอลให้คอมทำงานได้ เช่นเสียงคนร้องเพลงผ่านไมค์
เรียกกันว่า Analog to Digital Converter ทำงานเสร้จต้องแปลงกลับเป็นอนาล็อก เรียกว่า DAC หรือ Digital to Analog
ได้สัญญาณเป็น V ไม่มีกำลัง ต้องมีวงจรหนึ่งแปลงให้เป็นแรงดัน
ส่งเข้าสู่ภาคขยายเล็กๆ ออกมาเป็นสัญญาณ Line Out เข้าแอมป์ให้เราฟังเพลงกัน
จุดนี้นะครับที่พลิกผันให้เกิด Wave File ขึ้นมาและไมโครซอร์ฟเป็นผู้กำหนด Format ให้เป็นมาตรฐานการใช้งาน
เกิดโปรแกรมตัดต่อเพลงที่เรียกว่า DAW คำเต็มว่าอะไรลืมละ
ดิจิตอลเกิดไม่กี่ปีแต่ความก้าวหน้านั้นก้าวกระโดด จนทุกวันนี้ครับ เรามีเครื่องเล่นเสียงโดยใช้ดิจิตอลไฟล์ในรูปแบบต่างๆ เก็บในเมมเมอรี่
ซึ่งแน่นอนมีความผิดพลาดน้อยกว่าการเก็นในแผ่นซีดี ที่ฟังทีต้องให้หมุน หมุน เร็วสุดวงใน 500 รอบต่อนาที
หมุนนี่ละครับมันต้องมีรอบที่ Error แล้วใช้วงจรเซอร์โวแก้เอา กูรูบอกแพ้ขาดต่อการเก็บในเมมเมอรี่
เสียงเพลง เสียงดนตรี หนังความคมชัดสูง จึงถูกเก็บในเมมเมอรี่ ในฮาร์ดดีสรุ่นใหม่ที่ไม่หมุน
เกิดเป็น HTPC น่าจะหมายถึง Home Theartrer PC ผมอยากเรียกว่า Home Entertainment PC มากกว่า ครับ
ถึงปัจจุบัน Ipod , Ipad , โน๊ตบุ๊ค และเครื่องเล่นเพลง ดูหนัง
จึงเข้าถึงมือผู้บริโภคตั้งแต่อนุบาลยันคนแกจวนเข้าโลงครับ
รู้ความเป็นมาพอสังเขป ถ้าจะรู้ให้ถึงทางเลือกที่จะเล่นตามวัตถุประสงค์ของแต่ละคน มันยากตรงนี้ครับ
ถ้าให้ผมเลือกตามแบบผม ที่ยอมเป็นหนี้เพื่อให้ได้เล่นก่อนเป็นก่อน เหมือนถูกผีเครื่องเสียงเล่นงานก็อีกแบบ
แต่ถ้าจะเล่นแบบค่อยเป็นค่อยไป แบบไม่เจ็บตัวมาก ทั้งนี้เพราะเทคโนโลยี่มันเปลี่ยนเร็ว
มันอยู่ที่งบประมาณครับ เป็นต้นว่า จะซื้อ ไอโฟน หรือ ซัมซุง แบบนั้น
หรือจะเล่นแบบ HTPC มีให้เลือกทั้ง PC และ Mac เอามาใช้ในการดูหนัง ฟังเพลง หรือแม้แต่ร้องคาราโอเกะ ครับผม
ture:
ถ้าสามารถอธิบายขยายความ เพิ่มเติมได้อีกสักนิด ก็อาจจะง่ายขึ้นอีก
สำหรับผู้ที่เริ่มนับหนึ่งใหม่ในแนวทางนี้ หรือ ถ้ามีlink ให้ไปค้นคว้าต่อ ก็พอไปต่อยอดความรู้ได้อีก
ตอนนี้ผมก็กำลังงม หาความรู้อยู่ใน Google อยู่เหมือนกันครับ
ขอบคุณครับ
Too' Ninja:
--- อ้างจาก: Freedom ที่ 30 สิงหาคม, 2016, 09:24:06 pm ---HTPC + DAC, Rapsberry + I2S DAC, มือถือ + USB DAC
--- End quote ---
อยากได้รายละเอียดเพิ่มเติม ในแต่ละคู่ ว่าจะใช้ยังไง และต้องใช้ software , hardware อะไรบ้างครับ สำหรับผู้เริ่มต้น จะได้ลองทำดูครับ
ขอบคุณครับ
ture:
ขอบคุณครับ
Freedom:
HTPC + DAC, Rapsberry + I2S DAC, มือถือ + USB DAC
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version