Home Theater Guide webboard > มุม โฮมเธียเตอร์ (HT)
Thunderbolt, FireWire และ USB กับคุณภาพเสียงและ Jitter
Freedom:
ใช้การเชื่อมต่อแบบไหนจะเสียงดีกว่ากัน?
ถ้าให้สรุปคือ บอกไม่ได้หรอกครับ ว่าแบบไหนจะดีกว่า มันมีปัจจัยเยอะมาก ยกตัวอย่างง่ายๆ แค่ Jitter ก็พอครับ
Jitter คือปัญหาที่สัญญาณนาฬิกาเหลื่อมไปจากที่ควรจะเป็นในทางอุดมคติ ยิ่งเหลื่อมมาก ค่ายิ่งสูง โดยนับเป็นช่วงเวลา เช่น nano second (ns), pico second (ps)
ในระบบที่ Jitter สูงจะทำให้การแปลงสัญญาณระหว่าง Analog กับ Digital ทั้งใน DAC แล ADC มีความผิดพลาด
รายละเอียดลองดูได้จากที่
https://www.youtube.com/watch?v=JylNhQaig0c
ปกติ Jitter สามารถวัดได้โดยการทำ Loopback testing โดยใช้โปรแกรมเช่น RightMark Audio Analyzer (RMAA)
ในอุดมคติก็คือตามรูปครับ ต้องเป็นแบบรูปด้านบน แต่ในความเป็นจริงเมื่อวัดค่าออกมาจะเป็นแบบรูปด้านล่าง
ส่วนหน้าจอวัด Jitter ของจริงก็จะประมาณในรูปนี้
สมัยเมื่อ 10 กว่าปีก่อน มีอดีตมิตรสหายท่านนึง ได้โทรมาชวนผมเล่น Creative Audigy USB ในยุคที่ ชิพ USB สมัยนั้น ใช้ของ BB รุ่น PCM270x ซึ่งค่า jitter อยู่แถวๆ 500-3500ps (แล้วแต่รุ่นว่ารุ่นไหน) สมัยนั้นผมจึงบอกเขาไปว่า USB ห่วยครับ ไปเล่น PCI Sound Card ไม่ก็ FireWire Audio Interface ดีกว่า
ซึ่งในปัจจุบันข้อเท็จจริงหลายอย่างเปลี่ยนไปมากแล้ว
ลองดูค่า Jitter ของชิพ Receiver ดูนะครับ (ใช้กับ Coaxial Input)
CS841x 200ps
DIR9001 50ps
WM8805 50ps
AK411x < 50ps
ถ้าอ่านกระทู้ก่อนๆ ของผมจะรู้ว่าผมมี DAC อยู่ 2 ตัวที่ผมอัพเกรดชิพจาก CS841x เป็น AK4113 เสียงดีขึ้นพอตัวเลยครับ c)
Thunderbolt, USB หรือ FireWire มันเป็นแค่ระบบ Port ที่ส่งข้อมูลระหว่าง อุปกรณ์ 2 ตัวครับ
การส่งรับข้อมูลไม่ว่าจะผ่าน Thunderbolt USB หรือ FireWire เมื่ออีกฝ่ายได้รับข้อมูลแล้วระบบยืนยันว่าถูกต้องแล้วมัน การันตีว่า ข้อมูลที่ส่งกับได้รับตรงกันทุกประการครับ หรือว่ามีใครเคยมีประการณ์ ก็อปปี้ไฟลเอกสารผ่าน USB แล้วข้อมูลในไฟล์เอกสารเปลี่ยนไปครับ (ยกเว้นกรณี Bad Sector หรือ ติดไวรัส อะไรพวกนี้นะครับ)
ถ้าพี่คนไหนเคย DIY และออกแบบแผงวงจรเอง จะทราบว่าพวกชิพ Receiver ที่รับสัญญาณ SP/DIF มันมีขา Clock ออกมาจากตัว IC ด้วย แต่ในวงจรมันไม่มี Crystal Oscillator พูดไป เหมือนเอามะพร้าวห้าวไปขายสวน พี่ๆ คงทราบกันดีแล้วว่า SP/DIF มีส่งสัญญาณ Clock มาด้วย พร้อมกับข้อมูล แล้วตัว Receiver IC สร้างสัญญาณนาฬิกาจากที่ได้รับมาจาก SP/DIF อีกที เพื่อส่งต่อให้ชิพ DAC
แต่ USB ไม่มี ถ้าสังเกตตั้งแต่สมัย PCM270x จำเป็นต้องมี Crystal Oscillator มากับวงจรด้วย
และเนื่องจาก Jitter เกิดจากความไม่เที่ยงตรงของสัญญาณนาฬิกา คุณภาพของ IC ทั้ง Chip ที่เป็นตัวรับสัญญาณ และตัว Crystal เองต่างก็มีผลต่อ Jitter สมัย PCM270x นี่ ค่า Jitter มันมหาศาลจริงครับ USB ถึงห่วย PCM270x นี่ใครมีไม่ต้องไปอัพ Clock หรอกฮะ เปลืองเงิน
แต่ปัจจุบันชิพ XMOS U8, XMOS XU208 และ Amanero Combo384 นี่ค่า Jitter ต่ำมากครับ
XMOS 4.6ps
AMAENRO 2.42 ps
ซึ่งค่า Jitter ที่ว่า วัดจาก References board ที่ใช้ Crystal มาตรฐานตามสเปคเขานะครับ ใช้ Crystal SCTF ของเซินเจิ้น อาจจะมากกว่านี้ แต่ถ้าใช้ Crystal ดีๆ อย่างของ Crystek หรือ SiTime ก็อาจจะต่ำกว่านี้เช่นกันครับ
หากไปดู USB DAC รุ่นใหญ่ๆ จะพบว่า เขาใช้ Crystal ที่ความแม่นยำสูง ค่าต่ำกว่า 10 ppm เช่น 1ppm หรือ น้อยกว่านั้นอีก อย่างเช่นของ LKS ที่ใช้ Crystal ของ Crystek ค่าตัวเกือบ 30 USD... http://www.digikey.com/product-detail/en/crystek-corporation/CCHD-957-25-45.1584/744-1458-ND/2742157
และถ้าไปดูราคา พวกตัว USB-to-I2S ที่เป็นตัวแปลงสัญญาณ USB ไปเข้า DAC แล้ว Clock ดีๆ พวกนี้ ยังไม่รวม DAC ก็ราคาเป็นหมื่นแล้วครับ แหงมนะครับ IC Clock ตัวละพัน ใช้ 2-3 ตัว ก็ 2-3 พันไปล่ะ ยังไม่รวมอย่างอื่น ไม่ราคาเป็นหมื่นก็แปลกล่ะ
สำหรับพวก Audio Interface นั้น เนื่องจากข้อจำกัดเรื่องราคา และหลายๆ อย่าง แม้กระทั่งรุ่นใหญ่ๆ ราคาเกือบแสน หรือแสนต้นๆ ก็ยังเป็นไปได้ที่ว่าจะใช้ Clock ที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไร ทำให้ต้องมีช่อง Clock In เพื่อรับสัญญาณนาฬิกาจากภายนอกครับ
ยกตัวอย่างเช่น RME Fireface UFX+ ราคาเหยียบแสนครับ Internal Clock มีค่า Jitter อยู่แถวๆ 800ps K]
https://www.rme-audio.de/en/products/fireface_ufx-plus.php
งั้นถ้า Audio Interface Jitter สูง แล้วพวก Studio ทำยังไง?
คือ พวก Studio โหดๆ เขาไม่แคร์ค่า Internal Clock Jitter เดิมๆ ของ Audio Interface หรอกครับ เหตุผลเหรอครับ หลายที่แม่งมี External Clock Generator อยู่แล้วครับ บางทีล่อ Atomic Clock ครับ อย่าง Atomic Clock ของ Antelop ที่ Studio เทพๆ ใช้กัน ตัวละ 6-7000 USD ครับ เรียกว่าแพงกว่าตัว Audio Interface อีก
คูณเป็นเงินไทยเอาเอง ราคานี้ผมยอมแพ้ :giveup
https://www.bhphotovideo.com/c/product/1223812-REG/antelope_a10m_audiophile_atomic_clock.html
ส่วนถ้าจะมาใช้ Word Clock ภายนอกโดยใช้ตัวกากๆ ราคาแค่ 99 USD แบบตัวนี้ https://www.bhphotovideo.com/c/product/547600-REG/ART_SYNCGEN_SyncGen_Wordclock_Sample.html
คงจำราคา Crystal Oscillator ของ Crystek ได้นะครับ ตัวละเกือบ 30 USD
มันไม่น่าจะได้ความเท่าไรหรอกครับ... เปิดฝาออกมาอาจจะตกกะจัย กับ Crystal ที่อยู่ในกล่องก็ได้
ป.ล.
โดยส่วนตัว เนื่องจากผมเคยเล่นชิพ ESS Sabre32 ไปแล้ว ถึงแม้ตัวชิพจะมีวงจรลด Jitter อยู่ ผมพบว่าการอัพเกรด Clock ทั้ง Clock ของชิพ ESS เอง และ USB-to-I2S นั้นมีผลกับเสียงอยู่มากพอสมควรเลยทีเดียว
เป็นเหตุผลที่ว่า ณ เวลานี้ ถ้าถามผมล่ะก็ กรณีฟังเพลงอย่างเดียว ไม่ได้ Rip แผ่นเสียง ไม่ได้ทำสตู ไม่ได้บันทึกเสียง
USB DAC (Amanero หรือ XMOS) เข้าท่าสุดแล้วครับ เป็นเรื่อง Price-Performance ครับ
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version