ไม่รีวิว 810 SE ด้วยหรือครับ ??? อยากรู้แนวเสียงอ่ะครับ..810 ถ้าจะเอาแบบเต็มๆ หน่อยก็คงต้องเชิญขึ้นชั้นบนครับ ต้องให้สมาชิกกลุ่มนักเลงแผ่นดำซักท่านมา Review เสียงให้ฟังครับ ผมไม่ได้ขึ้นไปกะเค้าเลย N]
el34se เป็นของคุณกุนครับ
ส่วน 810E พละกำลังเหลือเฟือสำหรับลำโพงที่กินวัตต์ และน่าจะขับลำโพงทุกตัวที่ขับยาก ๆ ได้สบาย แม้แต่โมสาร์ทของผมยังโดนพละกำลังของมันอัดน่วมเลยครับ
ผมคิดว่าถ้าจะให้แมชชิ่งลำโพงโมสาร์ทที่มีความไว 89db น่าจะลดพลังของมันลงไปอีกหน่อย น่าจะกลมกลืนกว่านี้ ขณะเดียวกันเสียงเบสที่เหลือเฟือมันค่อนข้างจะกลบเสียงกลางกับเสียงแหลมไปพอสมควร ยิ่งตอนใช้ Phono Pearl ที่คัปปิ้ง ด้วย C ค่า 2.2uF ผมคิดว่าเสียงกลางแหลมนั้นโดนพลังเบสกลบจนหมด จนกระทั่งเปลี่ยน Phono ที่ใช้ค่า 10uF เข้าไป รายละเอียดของเสียงกลางแหลมจึงแสดงตัวออกมามากขึ้น
แนวเพลงร็อคเหมาะกับ 810 มาก โดยเฉพาะอัลบัม Pink Floyd The Wall แต่ถ้าฟังแจ๊ส ผมคิดว่าเสียงดับเบิ้ลเบสมันใหญ่ไปนิดหนึ่ง ดังนั้นมันเหมาะกับฟังเพลงป๊อป ร๊อค เมทัล ได้อย่างมันส์แนนอนครับ หรือท่านใดที่ชอบพละกำลังแอมป์มาก ๆ ห้องที่ใช้ใหญ่ ๆ 810 เป็นคำตอบทีท้าทายมาก
ส่วนตอนที่ขับลำโพง 80 บาท นั้น เสียงที่ได้กลับนิ่งกว่า โดยเฉพาะเสียงกลาง จนหลายคนอดทึ่งไม่ได้ ผมเดาว่าอาจจะเป็นเพราะมันตั้งอยู่ในที่โล่งแจ้งกว่าในห้องมาก ทำให้คลื่นเสียงความถี่ต่าง ๆ ไม่วกไปวนมากลบกันเหมือนอยู่ภายในห้อง
ขอบคุณ คุณ DIYman ครับ ผมจะได้เอาไปปรับปรุงเสียงอีก.... :victoryดูจากลักษณะการฟังเพลงหรือที่คุณไทได้ Tune เสียงออกมาแล้ว ผมว่าลองเปลี่ยนไปเป็น Jensen Copper Foil in Oil แทน Coupling Cap ตัวเดิมผมว่ามันน่าจะไปได้ดีกับ 1626 SE ชุดนี้นะครับ มันอาจจะดูว่าราคาค่าตัวแพงกว่าหลอด O/P อยู่พอสมควร แต่ผลที่ได้ผมว่าคุ้มครับ นุ่มนวลชวนฟัง Very Detail แถมเราไม่ต้องไปเสียเวลาลองกับ Coupling Cap. PIO ยี่ห้ออื่นๆ ให้มัวเสียเวลา และถ้าคุณฟัง Vocal และเน้น Relax ฟังสบายๆ ไม่ได้ยึด Speed และ Dynamic มากจนเสียเป็นหลักใหญ่ พวก Plastic Film หรือ Film & Foil Type ผมว่ามันลืมไปได้เลยครับ
ผมก็ชอบเสียงของ 1626 โต๊ะหมู่ ตัวนี้ครับ... ประจำการแทนที่ Gainclone ไปเรียบร้อยแล้วครับ :headphone
Jensen/Copper Foil in Oil ค่าตัวสักเท่าไหร่ครับ จะตามหาได้ที่ไหนครับ....
ตอนนี้ผมมี C oil Spague VitaminQ .15uf 100vdc จะไหวไหมครับ... เดิมใช้ .22 250vac :help
พูดถึงแผ่นเสียงที่พี่วัฒน์แกเอามาเลหลัง แผ่นที่ผมซื้อเป็นแผ่นที่ผมหาอยู่พอดี ต้องบอกว่าถูกใจมากครับ ทั้งเพลงและการบันทึกเสียง แผ่น TBM บันทึกเสียงดีมากครับ ที่จริงอยากได้แผ่น BEE GEE รวมฮิตอีกแผ่นนึงนะครับ ไม่รู้ยังอยู่หรือเปล่า จะเอาใจแม่บ้านเสียหน่อย :)
ตัวนี้เด็ดที่วงจร Drive ครับ สุดจะสลับซับซ้อน เป็น 2A3 SE ตัวแรกที่ขับด้วย 12AU7 ที่ผมเคยฟัง รบกวนพี่สิงห์มาให้รายละเอียดด้วยนะครับ ผมสนใจ Driver Stage Concept มากกกก
งานนี้เลยทำให้พวกเราได้ลอง Tweak อะไรๆ กันสนุกครับ เป็นภาคที่กระเป๋าโดเรมอนของพี่รักหลอดเปิดเข้าออกอย่างสนุกสนาน เจอ 12AU7 Mullard /Clear Top เปลี่ยน OPT เปลี่ยน Coupling Cap และอีกหลากหลาย ได้ประสบการณ์ทางเสียงที่แปรเปลี่ยนไปกันอย่างสนุกสนานครับ
Jensen/Copper Foil in Oil ค่าตัวสักเท่าไหร่ครับ จะตามหาได้ที่ไหนครับ....
ตอนนี้ผมมี C oil Spague VitaminQ .15uf 100vdc จะไหวไหมครับ... เดิมใช้ .22 250vac :help
EL34 SE ตัวนี้เสียงก็น่าสนครับ :headphone จำได้ว่าเสียงมันแว่วผ่านออกไปสะดุดหูตั้งแต่ผมเพิ่งเดินทางมาถึงหน้าประตูรั้วหน้าบ้านตอนที่ผมได้มาถึงพร้อมๆกันท่านผู้พันเลย (แต่ต้องขออภัยผมจำไม่ได้จริงๆว่าพี่เจ้าของมีนามว่าอะไร??) ยังไงเข้ามาให้รายละเอียดวงจรและการสร้างต่อด้วยนะครับพี่ เห็นบอกว่า OPT พันเองกับมือเลยแหละครับ O0 O0 น่าสนใจในรายละเอียดภายในยิ่งนักสำหรับรายละเอียดของ EL 34 SEมีดังนี้ เริ่มจากแหล่งกำลังจากหม้อแปลง Power TOROID จากแสงทองขนาด 100 VA ผ่านวงจร ไดโอด Half Wave rectifier Double voltage โดยมี C ขนาด 2200 UF 2 ตัว ได้ไฟ 300 V ผ่านโช้ค ขนาด3 H 250 MA (โช้คพันเอง) เพื่อกรองกระแสให้เรียบปราศจาก Noise และมี C ขนาด 330 UF กรองอีกชั้นหนึ่ง ก็ได้ไฟตรงที่ 300 V ที่นิ่งและเรียบ กำลังเหลือเฟือ หลอด input ใช้ 6922 (6DJ8) ของ Jan Phillip เพื่อเป็น pre และ ขับหลอด EL34 โดยมี C coupling ส่วนหลอด EL34 (ใช้หลอด MATSUSHITA) นั้นจัดวงจรแบบ Fixed Bias จัดกระแส Bias Ip ที่ 80 MA เป็นแบบ เพ็นโทด (300 V X 80 MA= 24 watt) output หม้อแปลงมี Impedeance 3.5 K ซึ่ง output ตัวนี้ พันเองด้วยสูตรผมเอง ซึ่งวงจร output นี้ต่อลำโพงโดยตรงที่ 8 โอม ซึ่งจุดเด่นของวงจรนี้คือ เป็น Zero negative feedback และวงจรนี้ก็ออกแบบด้วยสูตรผมเองอีกหล่ะครับ ครั้งนี้ผมก็เปิดไส้ให้ดูภายใน หมดไส้หมดพุง จะเห็นว่าเป็นวงจรธรรมดาๆเหลือเกิน ทั้งเครื่องมี3 หลอดเท่านั้นเอง คือ EL 34 2 หลอด และ 6922 อีก 1 หลอดเท่านั้น
เรียบง่ายแต่ดุดันครับเจ้า EL34 ตัวนี้ เด่นที่พละกำลังและรายละเอียดดีเลยแหละครับ จำได้ว่าอัดกับ Album # Brasso Track 2 กลองจีนตอนกระหน่ำนี่หนังตึงเปรี๊ยะครับ...ขอบอก O0 แม้เสียงร้องจะยังไม่ค่อยหวานระรื่นเนียนหูนัก (Style EL34 อาการอย่างนี้ต้องเจอ Philips หรือ Mullard ครับ) แบบหลอด DHT หรือ Power Triode แต่ก็น่าจะเป็นอีกทางเลือกนึงเพราะหลอดเบอร์นี้เรายังหาภายในประเทศได้ไม่ยากนักครับ :victory
สำหรับ DAC ของ DIY Man ที่โดนความร้อนเล่นงานจนเดี้ยง ผมได้ฟังอยู่พอสมควร เสียงที่ได้ยินเป็นไปตามสไตล์ของเจ้าของคือหนานุ่มชุ่มชื่นหัวใจ หลายคนที่เล่นซีดีเป็นหลัก ผมคิดว่าถ้ามี DAC ดี ๆ ก็ไม่ต้องเปลี่ยนมาเล่นแผ่นเสียงให้เสียตังค์เพิ่มข้นก็ได้นะครับ (เว้นแต่ว่าอยากลองเสียตังค์สักก้อน) เพราะเสียง DAC นั้นทำให้เครื่องเล่น DVD ถูก ๆ ฟังเพลงได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มีความหนานุ่ม ไม่คลิป หรือเสียงกลางแข็งทื่อเหมือนเครื่องเล่นราคาถูกอื่ม....มันแปลกจริงๆนะ วันอาทิตย์ผมได้ลองเอากลับไปต่อลองที่บ้านมันก็กลับปกติส่งเสียงดีครับ สงสัยเกิดจาก วันนั้น Ambient Temp ค้อนข้างร้อนไปหน่อยตัว IC/ Regulator มันคงร้อนจัดจน Off ไป เลยเดี้ยงครับ ผมลุ้นให้มันพัง ซึ่งไม่กลัว เพราะผมยังเหลือ V1 ที่ทำไว้อีก 2 ชุด และ V2 ฝาแฝดมันอีก 1 ชุด....5555 ลืมขนเอาไปไว้สำรอง ต้องขอโทษด้วยครับ Y]
ถ้าใช้หลอดขับเจ้า 810 กลัวว่านอกจะถอดเสื้อแล้ว อาจจะต้องถอดกางเกงฟังด้วยครับ :D
ตัว 810 ต้องการประมาณ 140Vpp สำหรับ full power (60Wrms output) เท่านั้นครับ แต่ grid ต้องการ power ประมาณ 2-3W ตรงนี้ที่ยากหน่อย เพราะปกติถ้าเราออกแบบ driver ให้ทำงานได้ถึง 3W อย่างมีประสิทธิภาพ ก็ควรจะให้มันมี full output สองเท่าขึ้นไปคือประมาณ 5-6W ครับ300B น่าเป็นตัวเลือกนะครับ d_d :drunk
ผมคิดว่าถ้าจะให้แมชชิ่งลำโพงโมสาร์ทที่มีความไว 89db น่าจะลดพลังของมันลงไปอีกหน่อย น่าจะกลมกลืนกว่านี้ ขณะเดียวกันเสียงเบสที่เหลือเฟือมันค่อนข้างจะกลบเสียงกลางกับเสียงแหลมไปพอสมควร ยิ่งตอนใช้ Phono Pearl ที่คัปปิ้ง ด้วย C ค่า 2.2uF ผมคิดว่าเสียงกลางแหลมนั้นโดนพลังเบสกลบจนหมด จนกระทั่งเปลี่ยน Phono ที่ใช้ค่า 10uF เข้าไป รายละเอียดของเสียงกลางแหลมจึงแสดงตัวออกมามากขึ้นการใช้แอมป์กำลังเกินเสียงจะออกมาอับๆทึบๆ ครับ แต่ถ้าพบว่าวันนั้นมีแต่เบสมากกว่าส่วนอื่นๆ นี่ผมคิดว่าต้องลองใช้ CD เป็น Source ที่มีเสียง Flat ถูกต้องมากกว่า Pre-phono ที่ยังไม่ได้วัดค่า RIAA ครับ ต้องลองดูกันอีกครั้งละครับ เสียดายผมไม่ได้ไป ไม่งั้นคงได้ฟังแผ่น Manger เพลงที่ 15 ทดสอบมันดูกับลำโพงที่มีมาตรฐานอย่าง Mozart
ส่วน 810 ผมมีความเห็นเช่นเดียวกับพี่พินิจครับว่าอยากได้ยินมันไดรฟ์กับหลอดด้วยเช่นกันหากคุณ Karin ใช้หลอดเป็น Driver เสร็จเมื่อไรผมยินดีเอา Focus ยกไปลองที่บ้านคุณ Karin ก็ได้นะครับ
output หม้อแปลงมี Impedeance 3.5 K ซึ่ง output ตัวนี้ พันเองด้วยสูตรผมเอง ซึ่งวงจร output นี้ต่อลำโพงโดยตรงที่ 8 โอมขอรายละเอียดการพันครับ ใช้แกนเหล็กขนาดเท่าไหร่ พันกี่รอบ ลวดเบอร์ไหนครับ :whistling
พูดถึงแผ่นเสียงที่พี่วัฒน์แกเอามาเลหลัง แผ่นที่ผมซื้อเป็นแผ่นที่ผมหาอยู่พอดี ต้องบอกว่าถูกใจมากครับ ทั้งเพลงและการบันทึกเสียง แผ่น TBM บันทึกเสียงดีมากครับ ที่จริงอยากได้แผ่น BEE GEE รวมฮิตอีกแผ่นนึงนะครับ ไม่รู้ยังอยู่หรือเปล่า จะเอาใจแม่บ้านเสียหน่อย :)