HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม Thai DIY Audio => ข้อความที่เริ่มโดย: .Beetle. ที่ 01 สิงหาคม, 2006, 03:27:55 am
-
ขอถามเพื่อนๆดังนี้ ครับ.. :help.
คือผมได้ประกอบเครื่อง el34 se เครื่องแรกเสร็จแล้วตอนเปิดเครื่องใหม่ๆ
1.-ใส้หลอด 12ax7สว่าง.วาบ..แล้วก็วูบลงเป็นปกติ อย่างนี้เป็นเพราะอะไร ครับ แล้วเกิดจากอะไร..
2.-opt -ของใหม่มีสิทธิ์เสียหรือขาดได้หรือไม่ครับ(เพราะว่ามันดังข้างเดียว พอสลับ opt ก็ใช้ได้ เราจะวัดอย่างไรว่า opt เสีย ครับ
3.เพิ่งจะถูกไฟสูง320V. ดูด.. :(เป็นครั้งแรกเลยกลัวๆ ครับ..เราจะมีทางคายประจุไฟที่ค้างอยู่ในC อย่างไรครับ.
.....ขอบคุณมาก. ครับ....
-
โห .. ยังไม่นอนเหรอคับพี่
ขอตอบข้อ 3 ดีก่า ข้อ 1 ไม่รู้ ไม่เคยเจอเรยยย
เมื่อก่อนโดนไปหลายครั้งต่อวันเล่นเอาเบลอไปเลยคับ กลัวเปงหมัน ... ผมใช้ R ต่อขนานกับ Cap เพื่อนคลายประจุคับ แต่ผมก็ใส่ถุงมือยางอ่ะ สบายจาย ไม่รู้ถุงมือผู้รักษาประตูจะใช้ได้ป่าว
มีในกระทู้เก่าๆ ลองค้นดูนคะคับ เหนว่าเอาหลอดไฟ 40w หรือยังไงเนี่ยแหละมาต่อเพื่อนให้คลายประจุเป็นอีกทางหนึ่งคับ
-
ลองดูคับ
http://www.htg2.net/index.php?topic=3836.0
http://www.htg2.net/index.php?topic=9806.0
-
โห .. ยังไม่นอนเหรอคับพี่
แล้วน้อง..ทำไมตื่น..เช้าจัง.. :o
...ขอบคุณ ครับ สำหรับ คำตอบ
...นิ้วที่ถูกไฟดูดเป็นจุดแผลไหม้สีขาวๆเจ็บ นิดหน่อย.. :(
-
ไม่ได้เก่งนะครับ แต่พอรู้บ้างจากพี่ๆ เพื่อนๆ
1.การที่ใส้หลอดสว่างวาบ เป็นไฮเทคของการสร้างของคนยุคก่อน เพื่อให้หลอดวอร์มอัพได้ไวขึ้น ไม่มีอันตรายต่อหลอด และจะเป็นกับการจุดด้วยเอซีเท่านั้น ถ้ากลัวหลอดอายุสั้น ก็ใช้ดีซีครับ (เขาว่ามา)
2. ใช้มิเตอร์วัดความต้านทานครับ ถ้า ขดลวดขาดเข็มก็ไม่ขั้น ปกติจะอยู่สัก 100กว่าๆเท่านั้น ลวดอาจขาดได้ในการต่อครั้งแรก เพราะมีตำหนิในลวด เมื่อมีกระแสไหลก็ขาด โยเฉพาะซิงเกิ้ลเอ็นด์ มีกระแสดีซีไหลตลอดเวลาถ้าเคลมไม่ได้ก็รื้อมาดู แล้วพันใหม่ให้เหมือนเดิมครับ การใช้ลวดเส้นเล็กก็จำเป็นเพราะเนิ้อที่จำกัด ต้องการสนามแม่เหล็กมาก
และต้องการความต้านทานดีซีที่มากพอควรดังกล่าว
ข้อ3 มีผู้ตอบแล้ว หากอยากจะรู้มากกว่านี้ ก็โพส พีเอ็มมาหาผมได้ครับ ยินดี
-
ลองดูคับ
http://www.htg2.net/index.php?topic=9806.0
โดนไฟดูดแล้ว..กลัว!! ครับ
เลยรีบไปทำตาม..คุณ Mc เสร็จแล้วครับ
ของคุณ Mcใช้หลอดไฟ 40w.ของผม(กลัวจัด)..ใช้มัน 100 w.เลย
..ผลลัพธ์ที่ได้..ได้ผลดีมาก ครับ O0..สว่าง.วาบ..ใช้มิเตอร์วัดไม่มีไฟเหลือใน C อีกเลยครับ.
ขอบคุณมาก ครับ :bye1
-
ของคุณ Mcใช้หลอดไฟ 40w.ของผม(กลัวจัด)..ใช้มัน 100 w.เลย
..ผลลัพธ์ที่ได้..ได้ผลดีมาก ครับ O0..สว่าง.วาบ..ใช้มิเตอร์วัดไม่มีไฟเหลือใน C อีกเลยครับ.
ขอบคุณมาก ครับ :bye1
ผมว่าใช้ R ต่อดีกว่าไหมครับ อย่างนี้ C จะคายประจุเร็วไปไหมครับ เดี๋ยว C เดี้ยงเร็วครับ
-
ผมใช้ R 75 k 20w. ต่อขนาน C เลยแป๊บเดียวก็หมดครับ
-
แล้วน้อง..ทำไมตื่น..เช้าจัง..
ไม่ได้ตื่นเช้าคับ ... พึ่งกลับคับ :drunk :)
ผมว่าใช้ R ต่อดีกว่าไหมครับ อย่างนี้ C จะคายประจุเร็วไปไหมครับ เดี๋ยว C เดี้ยงเร็วครับ
อันนี้ขอเป็นความรู้สักหน่อยจะได้ไหมคับว่า ทำไม C มันถึงจะเสียเร็วอ่ะคับ เพราะคลายประจุเร็วไปหรือคับ ??
-
เปิดหลอดแล้วสว่างวาบสงสัย MULLARD แน่ๆเลย Y] or N]
-
อันนี้ขอเป็นความรู้สักหน่อยจะได้ไหมคับว่า ทำไม C มันถึงจะเสียเร็วอ่ะคับ เพราะคลายประจุเร็วไปหรือคับ ??
โดยหลักวิชาการผมเองก็ไม่ทราบครับ แต่จินตนาการเอาว่า เหมือนมันรัดวงจรครับ เช่นเดียวกับแบตเตอรี่ที่เขาแนะนำไม่ให้มันช๊อตกันนะครับ มันจะเสื่อมเร็วครับ ท่านอื่นว่าอย่างไรครับ
-
ผมคิดว่าหลอดไฟก็เหมือน R ครับ
วัตต์สูง R ต่ำ
วัตต์ต่ำ R สูง
-
อันนี้วงจรอะไรเหรอคับพี่ santi
-
Zen Lightenment ครับ
single stage, single end class A ใช้หลอดไฟเป็น current source
http://passdiy.com/projects/zenlite1.htm (http://passdiy.com/projects/zenlite1.htm)
-
1.การที่ใส้หลอดสว่างวาบ เป็นไฮเทคของการสร้างของคนยุคก่อน เพื่อให้หลอดวอร์มอัพได้ไวขึ้น ไม่มีอันตรายต่อหลอด และจะเป็นกับการจุดด้วยเอซีเท่านั้น ถ้ากลัวหลอดอายุสั้น ก็ใช้ดีซีครับ (เขาว่ามา)
จริงๆแล้วไม่ถูกต้องครับ หลอดที่ไส้หลอดสว่างวาบขึ้นมาเป็นเพราะความต้านทานของไส้หลอดตอนเย็นต่ำกว่าปกติ พบมากในหลอด Europeon มากกว่า US ตรงนี้ถือเป็น defect ซึ่งไส้หลอดจะขาดง่ายกว่าปกติ นึกถึงตอนหลอดไฟไส้ขาดสิครับ ส่วนมากจะขาดตอนเปิดสวิทช์
ส่วนที่ว่าไส้หลอดร้อนเร็วกว่า ผมทดลองด้วยการป้อนไฟสูงให้กับหลอด 12AX7 รอไว้ แล้วก็จ่ายไฟ heater ทีหลัง พบว่าแบบทั้งที่มีไฟวาบ และไม่มีไฟวาบ ทำงานที่เวลาพร้อมๆกัน เพราะฉนั้นจึงสรุปได้ว่าไฟวาบไม่ใช้การทำให้ไส้หลอดร้อนเร็วกว่าปกติครับ
วิธีที่ผมรับมือกับหลอดพวกนี้คือใช้ constant current source ค่อยๆจ่ายกระแสให้ไส้หลอด ซึ่งจะทำให้อายุการใช้งานของหลอดมากขึ้นด้วย
ไส้หลอดที่ร้อนเร็วส่วนมากจะเป็นพวก Tungsten ที่ใช้ในหลอด transmitting เป็นส่วนใหญ่ครับ
-
หลอดไฟที่ทำ ผมว่าใช้ได้ แต่คิดว่าเอา r ดักไว้ซักตัวเพื่อเพิ่มความต้านทาน อย่าให้เหมือนกับ c โดนลัดวงจร ก็ น่าจะ ok
Idea ดีครับ เดี่ยวทำมั้ง ผมยังไม่เคยโดนดูดเลย ทำมา 2 เครื่อง คือทำเสร็จ แล้วมันดัง เลย ไม่ได้วัดอะไรมัน เลยไม่โดนดูด
5555 ที่ไม่วัดไม่ใช่ไม่อยากวัด มือมันสั่นนนน ไปหมด เลยไม่เอาดีกว่า แบบ กลัวอะ :cold
-
5555 ที่ไม่วัดไม่ใช่ไม่อยากวัด มือมันสั่นนนน ไปหมด เลยไม่เอาดีกว่า แบบ กลัวอะ :cold
ก่อนจะวัด พี่ก็ล่อหลอดเขียวซักขวด มือก็นิ่งแล้ว d_d
-
สสำหรับพี่ Alex200 ขวดเดียวเกรงจะไม่พอดิคับพี่สิงห์ วันงานเหนฟาดไปหลายยังสั่นอยู่เลยง่ะ .... หรือเพราะเมื่อยต้องนวด!!! ก่อนวัด
-
วัดไหนครับคุณ PP ;D ;D 2f
-
วัดไหนครับคุณ PP
ก่อนวัดไฟจิคับพี่รักหลอด B) B) B) B)
-
1.การที่ใส้หลอดสว่างวาบ เป็นไฮเทคของการสร้างของคนยุคก่อน เพื่อให้หลอดวอร์มอัพได้ไวขึ้น ไม่มีอันตรายต่อหลอด และจะเป็นกับการจุดด้วยเอซีเท่านั้น ถ้ากลัวหลอดอายุสั้น ก็ใช้ดีซีครับ (เขาว่ามา)
จริงๆแล้วไม่ถูกต้องครับ หลอดที่ไส้หลอดสว่างวาบขึ้นมาเป็นเพราะความต้านทานของไส้หลอดตอนเย็นต่ำกว่าปกติ พบมากในหลอด Europeon มากกว่า US ตรงนี้ถือเป็น defect ซึ่งไส้หลอดจะขาดง่ายกว่าปกติ นึกถึงตอนหลอดไฟไส้ขาดสิครับ ส่วนมากจะขาดตอนเปิดสวิทช์
ส่วนที่ว่าไส้หลอดร้อนเร็วกว่า ผมทดลองด้วยการป้อนไฟสูงให้กับหลอด 12AX7 รอไว้ แล้วก็จ่ายไฟ heater ทีหลัง พบว่าแบบทั้งที่มีไฟวาบ และไม่มีไฟวาบ ทำงานที่เวลาพร้อมๆกัน เพราะฉนั้นจึงสรุปได้ว่าไฟวาบไม่ใช้การทำให้ไส้หลอดร้อนเร็วกว่าปกติครับ
วิธีที่ผมรับมือกับหลอดพวกนี้คือใช้ constant current source ค่อยๆจ่ายกระแสให้ไส้หลอด ซึ่งจะทำให้อายุการใช้งานของหลอดมากขึ้นด้วย
ไส้หลอดที่ร้อนเร็วส่วนมากจะเป็นพวก Tungsten ที่ใช้ในหลอด transmitting เป็นส่วนใหญ่ครับ
สงสัยเรื่อง constant current source ครับ ใครช่วยขยายความให้หน่อยได้ไหมครับ
พอดี 12ax7 ที่มีก็มีปัญหานี้อยู่ครับ เปิดครั้งแรกตกใจเลยครับ :D
-
ใช้ LM317 ธรรมดาครับ โดยต่อ resistor แบบนี้ครับ
--- (in out) ---- R -------> to heater
( adj ) |
+ |
|-----------------+
R หาได้จาก 1.25 หารด้วยกระแสที่ต้องการจุดไส้หลอด สมมติว่า 12ax7 ต้องการ 0.3A จะได้ R = 1.25/0.3 = 4.17 ohm โดย V in ควรจะประมาณ 15V ครับ
-
ใช้ LM317 ธรรมดาครับ โดยต่อ resistor แบบนี้ครับ
--- (in out) ---- R -------> to heater
( adj ) |
+ |
|-----------------+
R หาได้จาก 1.25 หารด้วยกระแสที่ต้องการจุดไส้หลอด สมมติว่า 12ax7 ต้องการ 0.3A จะได้ R = 1.25/0.3 = 4.17 ohm โดย V in ควรจะประมาณ 15V ครับ
แล้วแรงดันมันจะเป็นเท่าไหร่ อันนี้คำนวณอย่างไรครับ เพราะผมเคยใช้โดยใช้แรงดันออกจากหม้อแปลง 31 v พอต่อผ่านวงจรconstant current source แล้วเหลื่อ 29 v (แรงดันที่ต้องการ 31 v 100ma)
-
ใช้ LM317 ธรรมดาครับ โดยต่อ resistor แบบนี้ครับ
--- (in out) ---- R -------> to heater
( adj ) |
+ |
|-----------------+
R หาได้จาก 1.25 หารด้วยกระแสที่ต้องการจุดไส้หลอด สมมติว่า 12ax7 ต้องการ 0.3A จะได้ R = 1.25/0.3 = 4.17 ohm โดย V in ควรจะประมาณ 15V ครับ
ขอบคุณครับ รวดเร็วทันใจ :)
เดี๋ยวจะเซฟเก็บไว้ใช้ตอนเอามาทำ dac I/V
รีบๆหา 12au7 มาเสียบคืนดีกว่า ขาดไปเสียดายแย่
-
แล้วแรงดันมันจะเป็นเท่าไหร่ อันนี้คำนวณอย่างไรครับ เพราะผมเคยใช้โดยใช้แรงดันออกจากหม้อแปลง 31 v พอต่อผ่านวงจรconstant current source แล้วเหลื่อ 29 v (แรงดันที่ต้องการ 31 v 100ma)
ควรจะมากกว่าแรงดันที่ต้องการครับ ยิ่งมากกว่าเท่าไหร่ การ reject ripple ก็ดีมากขึ้น แต่ก็ทำให้ regulator มันร้อนมากขึ้นเช่นกัน
สมมติง่ายๆว่าต้องการ 31V 100ma หมายความว่าเจ้า LM317 จะต้องลดแรงดันให้เหลือ 31V แต่ถ้าใส่เข้าไป 31V ตรงๆ แรงดันก็มีแต่จะลดครับ เพราะฉนั้นถ้าต้องการ 31V ควรจะใช้ประมาณ 35V ขึ้นไปครับ
-
ขออนุญาตคุณ Beetl5 แทรกกระทู้หน่อยนะครับ
อยากถามเรื่องการวัดไฟหน่อย
1. จ่ายไฟแรงดันต่ำให้ไส้หลอด วัดไส้หลอดเทียบกับกราวด์
พอจ่ายไฟสูงแล้วต้องต่อกับโหลดไหมครับ แล้วต้องวัดตรงไหนก่อน
(ภาคจ่ายไฟ ภาคหน้า ภาคหลัง)
step 2. 3. 4. ต้องทำไรต่อ... :drive1