HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม Thai DIY Audio => ข้อความที่เริ่มโดย: paganini ที่ 07 สิงหาคม, 2006, 10:05:31 am
-
หลังจากได้แผ่น PCB มาผมก็ไม่ได้ทำอะไรกับ Pearl Phono ของ Pass Labs จนกระทั่งได้อุปกรณ์ลงปริ๊นทซ์ครบแล้วจึงค่อย ๆ ทำครับ ยอมรับว่าเป็นเครื่องที่ต้องลงอุปกรณ์มากที่สุดตัวหนึ่งเท่าที่เคยทำมา และไม่ใช่เครื่องหลอดตัวแรก รู้สึกไม่ค่อยคุ้นมือเท่าไหร่ แถมอุปกรณ์ที่สั่งมาหลายตัวมีขาที่ใหญ่กว่ารูของแผ่น PCB เวลาจับยัดต้องเสียเวลาไปพอสมควรกว่าจะหาหลักได้
ลงอุปกรณ์เสร็จหลายสัปดาห์ หมดตังค์ไปพอประมาณ ตอนแรกจะหากล่องสวย ๆ ของ ATI มาลง แต่ดูราคาค่าตัวแล้วต้องหมดตัวไปอีกหลายตังค์แน่ๆ แถม C 10uF ตามที่ตั้งใจก็ยังไม่ได้ได้ เพราะต้องเจียดเงินมาลงกับ Fostex 206 ด้วย สุดท้ายก็เลยต้องใส่ค่าที่มีอยู่ในมือ คือ 2.2uF
ช่วงวันศุกร์เสาร์ผมจึงลงกล่องและต่อไฟจนเสร็จ เปิดลองไม่มีควัน ไม่มีช๊อต ถอนหายใจ โล่งอก
ตอนต่อกราวด์แรก งง ๆ นิดหน่อยว่าสายไหนต่อจากเครื่องเล่นแผ่นเสียง ต่อตอนแรกผมเอากราวด์ไปที่ขั้วลบของขาออก ปรากฏว่ามีแต่เสียงหึ่ง ๆ เลยเอาสายจากขั้วลบออกไปต่อที่กราวด์ที่มาจากเครื่องเล่นแผ่นเสียง ปรากฏว่าไม่ฮัมครับแต่พอหมุนโวลุ่มไปสักสิบนาฬิกามีเสียงหึ่ง ๆ ไม่รู้เกิดจากอะไรเหมือนกัน แต่คิดว่ามันต้องมีจุดลงกราวด์ผิดจุดนึงแน่นอน แต่ช่างมัน ขี้เกียจทำขอฟังเสียงก่อน ยอมรับเลยว่าแรกที่ต่อฟังเสียง ผมไม่ได้ประทับใจกับเสียงของมันเลยแม้แต่น้อยกล่าวคือ เสียงเบสมันลอย ๆ ยังไงไม่รู้ (ผมเดาว่าอาจจะเป็นเพราะว่า C 2.2uF) คิดในใจว่า เดี๋ยวเปลี่ยน C เป็น 10 uF มันคงจะช่วยเรื่องเบสได้เยอะขึ้น ส่วนเสียงกลางก็ฟังไม่เท่าไหร่ มีดีที่เสียงแหลมใสดีถ้าเทียบกับหลอดแล้ว ใสกว่าเยอะ
รุ่งขึ้น พยายามจัดสายสัญญาณให้เป็นระเบียบ จากนั้นมาดูว่าอะไรเป็นสาเหตุของเสียงหึ่ง ๆ เวลาบิดโวลุ่ม ในที่สุดก็ตัดสายกราวด์จากปลั๊กไฟออกจากตัวถัง ปรากฏว่า...เงียบสงัดราวกับปิดเครื่อง คิดในใจว่ามันติดหรือดับกันแน่ บิดโวลุ่มไปถึง 12 นาฬิกา ก็ไม่มีเสียงอันใดออกจากลำโพง แม้แต่แนบหูไปที่ลำโพง คราวนี้จัดการลงเข็มที่แนเสียง นั่งฟัง...
วันนี้ไม่เหมือนเมื่อวาน ต่างราวกับฟ้ากับเหว เสียงเปียโนใสกริ๊งฟังจาก แผ่น Tsuyoshi Yamamoto แจ๊สเปียโน Trio เสียงเปียโนใสกังวาน เสียงเบสดีกว่าคราวแรกมาก แต่ก็ยังไม่ดีเท่าหลอด รอให้เปลี่ยน C ก่อนเถอะ (คิดในใจ) เสียงกลางมีความราบเรียบและมั่นคงมาก ไม่มีอาการแกว่งของเสียง เปลี่ยนไปเล่นแผ่น Bill Evans ชุด Waltz For Debby เป็นแจ๊ส Trio แต่แสดงสดในคาเฟ่อย่าง เดอะ วิลเลจ แวนกราด ซาวด์ประเภทเสียงแก้ว เสียงคุยกันของคนดูสร้างบรรยากาศได้เยี่ยมมาก แต่ถ้าเทียบกับหลอดแล้วมันคนละแบบกันเลย บรรยากาศต่างกัน Blaclk Pearl ดูสะอาดสะอ้านกว่า
สรุปแล้วถ้าท่านยังไม่ลงอุปกรณ์ ผมคิดว่าอุปกรณ์ดี ๆ มีส่วนกับเสียงแน่นอนครับ ถ้าเทียบกับตอนแรกกับตอนนี้ผมคิดว่าเป็นโฟโนที่คุ้มค่าในการรอคอยและทำมาฟังเป็นอย่างยิ่ง แม้ว่าจะไม่ใช่หลอด แต่ความสะอาด ความนิ่งของเสียง Black Pearl ตัวนี้ของผมถือว่าคุ้มค่าในการลงแรงมาก ๆ ตัวหนึ่ง เอาไว้รอเปลี่ยน C ที่ผมเล็งเอาไว้ค่อยมาว่ากันต่อ
-
ด้านในตอนต่อสายกราวด์ผิด
ระบบกราวด์มีส่วนกับเสียงมาก ๆ
-
เอาขึ้นไปลองกับ System Truntable
Thorens TD295
Pre TS-6922
Power TS-211-2a3
Speaker Vienna Mozart
Phono Black Pearl Pass Labs
-
ตรง C 10uF ทำสำหรับให้เปลี่ยนลองได้แบบง่าย ๆ จะได้ไม่ต้องรื้อ PCB ออกมาจากตัวยึด
-
สวยดีมากครับ ชอบไอ้ตรงเอา C หางหนู มาใช้แล้ววกหางมาลงรูเนี๊ยะ ดูเก๋ดีครับ... :clap
คุณปอ เอา C ตัวที่มี ค่าต่างๆ มาลองหนีบฟังดูสิครับ ลองเอา C oil กระป๋องใหญ่ๆ ค่า 1.0-4.8 uf มาลองต่อดูเล่นๆ จะเห็นความแตกต่างชัดเจนดีครับ มีให้เล่นแล้วลองมันส์ อย่าเพิ่งสรุป C ตัวนี้ไวไปนะครับ :victory
คุณปอเคยฟัง Dact CT100 หรือ Phono ของหมอไกรฯ คิดว่า Phono Black Pearl /Pass Labs/MasterAT สู้ได้ไหมครับ... c)
-
อันตรายครับ
คุณ ปอ ต่อสายไฟจากแกน น็อทที่ยึดหม้อแปลงเทอรอย ลงกราวด์ไม่ได้นะครับ จะทำให้หม้อแปลงใหม้ได้ครับ เพราะว่าเท่ากับเราพันขดลวดไว้หนึงวงในแกนและจับช้อตกัน นะครับ
ต้องเอาออกด่วนนะครับ
-
:clap c)
-
อันตรายครับ
คุณ ปอ ต่อสายไฟจากแกน น็อทที่ยึดหม้อแปลงเทอรอย ลงกราวด์ไม่ได้นะครับ จะทำให้หม้อแปลงใหม้ได้ครับ เพราะว่าเท่ากับเราพันขดลวดไว้หนึงวงในแกนและจับช้อตกัน นะครับ
ต้องเอาออกด่วนนะครับ
เอาออกแล้วครับ :cry2 ไม่งั้น :black_eye
-
สวยดีมากครับ ชอบไอ้ตรงเอา C หางหนู มาใช้แล้ววกหางมาลงรูเนี๊ยะ ดูเก๋ดีครับ... :clap
มันเป็นความผิดพลาดที่ผมตัดสายเผื่อยาวไปหน่อย ก็เลยต้องม้วนเป็นวงแบบนั้นแหละครับ :whistling
คุณปอ เอา C ตัวที่มี ค่าต่างๆ มาลองหนีบฟังดูสิครับ ลองเอา C oil กระป๋องใหญ่ๆ ค่า 1.0-4.8 uf มาลองต่อดูเล่นๆ จะเห็นความแตกต่างชัดเจนดีครับ มีให้เล่นแล้วลองมันส์ อย่าเพิ่งสรุป C ตัวนี้ไวไปนะครับ :victory
ภาระกิจต่อไปคือลองเปลี่ยน C เล่นดูครับ :)
คุณปอเคยฟัง Dact CT100 หรือ Phono ของหมอไกรฯ คิดว่า Phono Black Pearl /Pass Labs/MasterAT สู้ได้ไหมครับ... c)
Dact CT100 ผมไม่เคยฟังครับ แต่ราคาค่าตัวของ Black Pearl ถูกกว่ามากครับ ทั้งที่ผมใช้ R Dale เกือบหมด ส่วน Phono ที่คุณหมอใช้ ผมว่ามันเทียบกันลำบากครับ เพราะ System ที่ฟังในคราวนั้นกับของผมมันต่างกันเยอะเลย แต่ถ้าจะให้เทียบกับ maranzt 7 ที่ผมใช้อยู่มันคนละแนวคนละสไตล์กันเลย ถามว่าใครดีกว่ากัน ตอบยากครับ อย่าง Black Pearl ได้ความนิ่งใส รายละเอียดเสียงแหลมดีมาก ขณะที่ maranzt7 ออกแนว Dark กว่า บรรยากาศดีกว่า Output แรงกว่า
-
ผมเชื่อว่า เปลี่ยน C แล้ว จะหนี maranzt7 ไปอีกครับ.... :victory
-
สำหรับสายสัญญาณที่ใช้ไวริ่งคือ Canare GS-4 ชีลสองชั้น ตัวนำเป็นทองแดงฝอย แถมเนื้อพลาสติกนิ่มดีเวลาจับให้ไปทางไหนก็ทำได้ง่าย ผมว่าเสียงใช้ได้เลยนะครับ ออกโทนอุ่น ๆ รายละเอียดดีตามสไตล์ของสาย Canare และราคาเป็นมิตรครับ
-
ด้านในตอนต่อสายกราวด์ผิด
ระบบกราวด์มีส่วนกับเสียงมาก ๆ
ถูกต้องแล้วครับ แสดงว่าคุณปอได้เรียนรู้ด้วยตัวเองมาอีกขั้นนึงแล้ว เยี่ยมครับ O0
ระบบกราวด์มีผลต่อเสียงอย่างมากครับ ต่อให้วงจรเดียวกัน แต่เดินกราวด์ต่างกัน ถึงแม้จะเงียบเหมือนกัน แต่ก็ให้เสียงที่ต่างกันครับ
ลองเบิ้ลสายกราวด์ หรือใช้สายใหญ่กว่าเดิมอีกสักหน่อยสิครับ น่าจะเห็นความแตกต่างได้พอสมควรครับ
อ้อ..อย่าลืมกลับไปแก้กราวด์ของปรีหลอด ที่ลงกล่องอลูมิเนียมหล่อไว้ด้วยนะครับ ผมจำได้ว่าตอนเอามาเป็นนายแบบ เจอที่ผิดอื้อเลย :nono
-
ด้านในตอนต่อสายกราวด์ผิด
ระบบกราวด์มีส่วนกับเสียงมาก ๆ
ถูกต้องแล้วครับ แสดงว่าคุณปอได้เรียนรู้ด้วยตัวเองมาอีกขั้นนึงแล้ว เยี่ยมครับ O0
ระบบกราวด์มีผลต่อเสียงอย่างมากครับ ต่อให้วงจรเดียวกัน แต่เดินกราวด์ต่างกัน ถึงแม้จะเงียบเหมือนกัน แต่ก็ให้เสียงที่ต่างกันครับ
ลองเบิ้ลสายกราวด์ หรือใช้สายใหญ่กว่าเดิมอีกสักหน่อยสิครับ น่าจะเห็นความแตกต่างได้พอสมควรครับ
อ้อ..อย่าลืมกลับไปแก้กราวด์ของปรีหลอด ที่ลงกล่องอลูมิเนียมหล่อไว้ด้วยนะครับ ผมจำได้ว่าตอนเอามาเป็นนายแบบ เจอที่ผิดอื้อเลย :nono
ขอบคุณอาจารย์มดมากครับที่แนะนำ :clap :clap :clap
ผมเพิ่งฟังจะจะหูว่า ถ้ามีเสียงจี่หรือฮัมรบกวนมาก ๆ มันไปกลบเสียงที่มีย่านความถี่เดียวกันหมดเลย ทำให้เสียงหดหายความพลิ้วไปเยอะเลยครับ
-
ไม่ทราบว่าตัวกล่องราคาเท่าไรครับจะได้เปรียบเทียบกับของ ATI ตัวภาพข้างล่างครับ ของ ATI เป็นอลูมิเนียมอโนไดซ์ทั้งใบ จากที่เคยทดสอบมาพวกวงจร PHONO หรืองวจรอะไรที่ไวๆ ควรใช้กล่องที่มี การ SHIELD ที่ดี อลูมิเนียมเป็นตัวเลือกหนึ่งที่เครื่องเสียงชั้นดีเลือกใช้ ถ้าใครมีเครื่องวัด AUDIO PRECISION ทดสอบได้ครับ เอาปริ๊นเดียวกันใส่กล่องเหล็กกับกล่องอลูมิเนียม สัญญานรบกวนของกล่องเหล็กมีมากมายกว่าอลูมิเนียมเยอะทีนี้ก็ถึงบางอ้อว่าทำไมเครื่องเสียง HI-END ส่วนใหญ่ใช้กล่องอลูมิเนียมกัน อย่ามองที่สวยอย่าเดียวจะต้องมองว่าคุณสมบัติเป็นอย่างไร เราต้องการทำเครื่องเสียงที่ดีที่สุดและการรบกวนจากสนาแม่เหล็กต่างๆน้อยที่สุด วงจร PHONO ไวกับสิ่งเหล่านื้
-
ช่วงนี้คุณปอมีผลงานออกมาติดๆกันเพียบเลย O0
-
ชอบตรงมีรูปให้ดูแถมรีวิวอ่านเพลินๆครับ O0 O0 O0
-
ถ่ายรูปล่าสุดมาให้ชมครับ ยิ่งเบิร์นนานชั่วโมงขึ้นเสียงยิ่งดีเป็นลำดับ
สำหรับแผ่นที่เจ้า Black Pearl ไม่ชอบคือแผ่น original ที่มีสภาพกอบแกบตลอดแผ่น มันค่อนข้างชอบแผ่นใหม่มากกว่าแผ่นเก่า ค่อนข้างจะขี้ฟ้อง เพราะรายละเอียดของมันยิบยับดีเหลือเกิน เสียงเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่เคยไยน หรือได้ยินเบา ๆ ก็ได้ยินเพิ่มขึ้น ทำให้สนุกกบการเอาแผ่นเก่า ๆ ที่ไม่เคยฟังกลับมาฟังใหม่
สำหรับคอ "เครื่องเล่นแผ่นเสียง" ผมได้คุยกับพี่เจริญเรื่องการตั้งหัวเข็มเอาไว้ เดี๋ยวจะโพสต์วิธีง่าย ๆ ในการตั้งหัวเข็มนะครับ เครื่องเล่นแผ่นเสียงของใครที่แทรกแรกฟังไพเราะ แต่เพราะแทรกจะหมดแผ่นเสียงคนละเรื่องเลย เดี๋ยวผมเคลียร์งานล้วช่วงบ่ายจะมาโพสต์นะครับ 8)
http://www.htg2.net/index.php?topic=12453.0
-
ผมลองเปลี่ยน C ค่า 0.33uF เปลี่ยนมาใช้ Auri Cap ตอนแรกเปลี่ยนจุดนี้จุดเดียว และ C คับปลิ้งยังใช้ค่า 2.2uF เช่นเดิม ตอนเปลี่ยนแรก ๆ ไม่ค่อยเห็นความเปลี่ยนแปลงนัก แต่พอใช้สักพักรู้สึกว่าทำได้ดีกว่ายี่ห้อเก่า แม้หลายคนจะบอกไม่ค่อยชอบเสียงของ Auri Cap เท่าไหร่ แต่เปลี่ยนที่จุดนี้แล้วเห็นผลเหมือนกันนะครับ
ที่น่าสนใจคือยิ่งเบิร์นหลายชั่วโมง เสียงดีขึ้นเป้นลำดับครับ
-
ต่อมาเปลี่ยน C ค่า 2.2uF มาเป็น 8.2 uF
ฟังครั้งแรกเสียงเปลี่ยนแน่นอน แต่ไม่ออกไปในทางที่ผมชอบเท่าไหร่ C ตัวเดิมให้เสียงที่ถูกใจมากกว่า
ที่ลองเปลี่ยนอยากจะรู้ว่าถ้าเพิ่มค่าลงไปแล้ว สิ่งที่เราต้องการเช่นเสียงเบสจะแน่นขึ้นไหม
ถ้าฟังเฉพาะจุดนี้ โดยรวมแล้วโทนัลบาลานซ์ดีขึ้น แต่เนียวเสียงของ C ยี่ห้อนี้ไม่ถูกหูของผมเท่าไหร่
เมื่อวานลองไปดู janzen ที่บ้านหม้อ น่าแปลกที่ ซียี่ห้อนี้หายไปจากตู้โชว์หมดเลย ใครเหมาไปหรือว่ายังไงไม่รู้ เลยต้องสั่งจากในเวบเลย รออีกสักสองสัปดาห์ครับ...
-
ไปฟังมาแล้วครับ...เสียงดีมากๆ
ผมจำไม่ได้ว่าวันที่ผมไปฟังใช้ C อะไร
แต่รู้สึกว่าเสียงจะดีกว่าเครื่องในวันงาน
ให้คุณpaganini ลุยไปก่อน...เดียวผมทำตามทีหลัง ;)
-
ผมประกอบลง PCB ไปเกิน 80-90% แล้วครับ ขาด C ค่า .33uf กับ C คับปลิ้ง ยังไม่รู้จะใช้ตัวไหนดี
ที่หนักใจคือ กล่องครับ หายังไม่ได้เลย :headphone
-
ในที่สุด Capasitor ของ janzen 5uF ก็มาถึงครับ ตัวมันใหญ่กว่าที่ผมเห็นที่บ้านหม้ออีก
ตอนเห็นครั้งแรกหนักใจว่ามันจะใส่ลงไปได้หรือเปล่า...
-
อาทิตย์นี้ผมอยู่ที่โรงงานไม่ได้กลับบ้านเลย แต่อาศัยตอนเช้าติดรถน้องชายไปส่งลูกที่โรงเรียนแล้วแวะไปเอาเจ้า Black Pearl ของผมมาทำที่โรงงานช่วงเย็น ๆ
-
เมื่อคืนผมปรับปรุงไปสองจุดคือเปลี่ยน C 5uF ของแจนเซ่นเข้าไป
อีกจุดคือ C 0.15uF พอดีผมไปได้ของ ERO มา (ตอนแรกว่าจะใช้มึนดรอฟ) แต่พอได้ ERO ซึ่งดูแล้วก็เข้าท่าดีครับ ก็เลยเปลี่ยนตรงจุดนี้อีกจุดไปด้วยเลย
ทำเสร็จยังลองไม่ได้ เพราะที่โรงงานไม่มีเครื่องเล่นแผ่นเสียง รู้สึกหงุหงิดครับ
เมื่อเช้าอดทนไม่ได้เลยต้องย่องกลับไปที่บ้านเพื่อลองฟังเสียง... O0
แต่จะเป็นอย่างไรผมจะมารายงานต่อในวันจันทร์นะครับ สำหรับท่านที่กังวนใจว่าเบสของมันจะสู้ ONO ไม่ได้ ผมว่าปัญหานี้น่าจะหมดไป (สำหรับผมนะครับ) ดูจากวงจรโอ้โน แล้วโอ้โนใช้ C 10uF ตั้งสามตัวต่อข้างแน่ะ...
สำหรับ Pearl ของผมเสร็จสิ้นแล้วครับ คงไม่ต้องปรับอะไรอีกแล้ว d_d
-
ERO 0.15uf เอาไปใช้ตรงไหนครับ....
อ้อ ยังไม่ได้ลองเสียงไม่ใช่เหรอครับ ทำไมถึงหยุดจูนล่ะครับ หรือมั่นใจว่า Jensen เอาอยู่เจงๆ.. ที่เฮียปอสั่งมา มันราคากี่... ครับ :cold
-
ERO 0.15uf เอาไปใช้ตรงไหนครับ....
ERO 0.15uF/250V ตัวสีขาวคล้ายๆ มึนดรอฟรุ่นเล็กเลยครับ (แค่คล้าย ๆ นะครับ) ใส่ตรงภาพที่ผมลงเอาไว้ครับ ตามวงจรมันเขียนว่า 0.15F/63V ครับ
อ้อ ยังไม่ได้ลองเสียงไม่ใช่เหรอครับ ทำไมถึงหยุดจูนล่ะครับ หรือมั่นใจว่า Jensen เอาอยู่เจงๆ.. ที่เฮียปอสั่งมา มันราคากี่... ครับ :cold
เมื่อวานตอนเย็นผมดอดไปฟังเพลงที่บ้านก่อนรับลูก ฟังไปสามเพลง (ฟังแล้วไม่อยากไปไหนเลยให้ตายเถอะ) เสียงจะเป็นอย่างไรค่อยว่ากันวันจันทร์ครับ :whistling
คิดว่าไม่ต้องเปลี่ยนอะไรแล้วละครับ เว้นแต่จะได้ Jenzen 10uF :showoff
-
เผา Jenzen ไปถึงไหนแล้วครับ
-
อยากลองฟัง Jenzen จัง Y]
-
หลังจากที่ใส่เจ้าแจนเซ่น 5uF เข้าไป แม้จะเบิร์นได้ระยะหนึ่งแล้ว ทว่าผมคิดว่าไม่ต้องเบิร์นนานนักเสียงที่ออกมาเป็นแนวที่ผมชอบเลยล่ะ
ประการแรก ตอนที่ใช้ C ประเภทเมทัลฟิล์ม เสียงที่ได้ออกไปในเนียนใสกระจ่าง ผมฟังแล้วมันไม่ค่อยเหมือนเล่น TT เท่าไหร่ เหมือนเครื่องเล่น CD ที่ใช้ DAC มากกว่า
ประการที่สองมันทำให้เสียงแตกต่างจากเครื่องคอมเมอร์เชียลโดยเฉพาะพวก Phono ทั้งหลาย แจนเซ่นค่อนข้างจะมีเอกลกษณ์เฉพาะตัวมาก
เมื่อเปลี่ยนเป็น C PIO Janzen เสียงยังคงความใส รายละเอียดเสียงกลางแหลมยังโดดเด่นเช่นเดิม เบสอาจจะไม่มากแต่ออกไปในแนวนุ่มฟังสบาย เบิร์นนานขึ้นน่าจะดีขึ้นเป็นลำดับ มีความหนาของเสียงเพิ่มขึ้น บรรยากาศเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังไม่เหมือนหลอด บรรยากาศยังสู้หลอดไม่ได้ แต่แนวเสียงของแจนเซ่นผมถูกใจมากกว่า C ประเภท Film มากครับ คงต้องขึ้นอยู่กับรสนิยมแล้วล่ะ บางคนอาจจะชอบความใสกริ๊งของฟิล์มก็ได้
-
อีกจุดหนึ่งที่ผมเปลี่ยนคือ C 0.15uF/63V มาใช้ ERO 0.15uF/250V ตรงจุดนี้ผมไม่แน่ใจว่าเสียงเปลี่ยนแค่ไหนครับ ผมคิดว่าท่านที่ทำหลัง ๆ ก่อนลงอุปกรณ์น่าจะตัดสินใจว่าจะใช้ตัวไหนไปเลยนะครับ เพราะว่าเวลามาเปลี่ยนใส่ลงไปมันเสียเวลาและแก้ยากครับ
-
ขนาดของแจนเซ่นความสูงเท่า ๆ ขวดกาแฟเบอร์ดี้ แต่ความหนามากกว่า ตอนใส่ต้องลากสาย ตอนแรกผมกลัวเรื่องฮัม เพราะต้องลากสายจากด้านหน้า แต่ปรากฏว่าไม่มีเสียงฮัมใด ๆ ครับ จะมีก็เป็นเสียงจี่เบา ๆ ที่มาจาก Pre Amp (แถมมีข้างซ้ายข้างเดียว) ต้องเอาหูแนบถึงจะได้ยิน แต่ถ้าทำให้มนหายไปได้จะดีมาก :help
-
คิดว่าคงไม่ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ใด ๆ บนบอร์ดอีกแล้วครับ คือเปลี่ยนแล้วคงดีขึ้นไม่มากนัก
-
ในภาพ เห็นขนาด ซีแล้วจะเป็นลม ใหญ่มากครับ น้ำหนักคงมากตามนะครับ สายที่ต่อจากขั้ว ซี มาที่ปริ้นน่าจะใช้สาย ชิลด์นะครับ อาจช่วยเก็บเรื่องสัญญาญรบกวนได้มากขึ้นเพราะดูจากรูปแล้วสายเดินไกลพอสมควรครับ ค่าตัว ซี พอจะแจ้งได้มั้ยครับ
-
ในภาพ เห็นขนาด ซีแล้วจะเป็นลม ใหญ่มากครับ น้ำหนักคงมากตามนะครับ สายที่ต่อจากขั้ว ซี มาที่ปริ้นน่าจะใช้สาย ชิลด์นะครับ อาจช่วยเก็บเรื่องสัญญาญรบกวนได้มากขึ้นเพราะดูจากรูปแล้วสายเดินไกลพอสมควรครับ ค่าตัว ซี พอจะแจ้งได้มั้ยครับ
น้ำหนักเยอะครับ แต่ไม่ถึงกับหนักมาก
ส่วนค่า C คือ 5 uF/400V ครับ
สายที่โยงไปยาวพอสมควรครับ ตอนนั้นไม่มีสายชีลด์เหลือเลย แต่ก็ไม่มีเสียงรบกวนเท่าไหร่ครับ
-
รบกวนสอบถาม C PIO Janzen 5uF/400V. สั่งเข้ามานี่ตกราคาเท่าไหร่ครับ...เห็นที่บ้านหม้อมีขาย (แต่ค่าอาจจะไม่ใช่ค่านี้) เพื่อจะได้เปรียบเทียบราคาได้ถูกครับ....
-
ส่วนค่า C คือ 5 uF/400V ครับ
สงสัยเข้าใจผิด ผมถามค่าตัวค่าสินสอดครับ :yahoo
-
รบกวนสอบถาม C PIO Janzen 5uF/400V. สั่งเข้ามานี่ตกราคาเท่าไหร่ครับ...เห็นที่บ้านหม้อมีขาย (แต่ค่าอาจจะไม่ใช่ค่านี้) เพื่อจะได้เปรียบเทียบราคาได้ถูกครับ....
ราคาประมาณ 1,800 บาท ต่อตัวครับ (แพงที่ค่าส่ง ทางแคนาดาบวกค่าส่งผมตั้งแปดร้อยบาท (ค่าส่งท้งหมดนะ)
ราคาน่าจะพอ ๆ ที่บ้านหม้อครับ อาจจะแพงกว่าด้วย
-
ว้าวววววววสุดยอดอะ แหม ถ้ามีขายที่เมืองไทย
ตัวละ 1000 ยังพอลุ้น เหอตั้ง 1800 เวรกรรม :(
-
อย่าลืม Review ผลการทดลอง C Jansen นะครับ ;)
-
ไม่ทราบมีท่านใด ขึ้น MC Module ใช้แล้วบ้างครับ วันนี้ลองต่อ MM ผ่านแล้วสัญญาณเบามากเลย และลองสับสวิสซ์ MC สัญญาณที่ได้จาก Scope ข้างหนึ่งดังกว่าอีกข้างหนึ่งมาก สงสัย Transistor ที่ต่อขนานกัน 4 ตัวอาจจะ...ไปแล้ว :cry2 ต้องขอเช็คอีกที
อีกทีคงต้องลองไม่ต่อ MC Module ดูว่าสัญญาณจะเป็นอย่างไร สำหรับ MM ไว้จะเข้ามารายงานใหม่ :bye1