HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม Thai DIY Audio => ข้อความที่เริ่มโดย: darkman ที่ 14 กันยายน, 2006, 03:48:28 pm
-
ซื้อหลอดมาตั้งแต่สิ้นปีที่แล้ว แต่เนื่องจากประสบการณ์ยังน้อยครับ เลยไปต่อหลอดเล็กๆ เล่นมา 2 วงจร ก่อนเพิ่งมาเริ่มทำตัวนี้เมื่อ 3 เดือนก่อนครับ ดูรูปประกอบกันดีฝ่า
ทีแรกกะออกแบบมาให้มันหน้าตางี้ครับ
-
กระบวนการต่อไปก็ทำแท่นครับ อุดรอยต่อด้วยขี้เลื่อยผสมกาว แล้วก็ ขัดๆๆๆๆๆ
ส่วนแผ่นเหล็กด้านบนกับด้านหลัง เอามาจากถาดชั้นวางของทิ้งแล้ว เอามาขัดแล้วพ่นสีใหม่
อ้อ ขอบอกว่าแท่นนี้อุปกรณ์ทุกอย่างเก็บเอาจากแถวบ้านล้วนๆ ไม่มีซื้อ
-
จากนั้นตัวแท่นก็เอาไปพ่นแล็กเกอร์ครับ ผมเลือกพ่น เพราะทาทีไรเละทุกที ;D สีมันออกมาไม่ค่อยเท่ากัน
-
ตรงที่ใส่ Volumn ต้องโมเอาหน่อยเพราะไม้มันหนาครับ ต้องคว้านเข้าไปด้วยสิ่วเล็กๆ
-
สุดท้ายก็ได้แท่นออกมาหน้าตางี้ครับ แต่กว่าจะทำได้เหนื่อพอใช้ได้เลยละ :showoff
งานไม้ต้องใจเย็นๆ ครับ กว่าผมจะเข้ามุมได้นี่เลื่อยอยู่มุมละ 2 รอบ แถมยังต้องตะไบแต่งอีกพอควร
-
จากนั้นก็ทดลองต่อวงจรแล้วเสียบหลอดเข้าไป ทำ Amp หลอดใครว่ายาก ;D
-
ผมถูแซงหน้าไปแล้ว....
เยียมครับ O0
-
สำหรับวงจร ผมเอาภาคขยายภาคสุดท้ายมาจากบทความ Experimenter 47 มาจาก YB2003 ที่คุณวิวัฒน์ เขียนเอาไว้ครับ ส่วนภาค Drive นั้นกำลังหาความลงตัวอยู่ครับ ตอนนี้ลองมา 2 แล้ว คือ เอา 6SN7 SRPP กับ 6SN7 Drive แบบ 2 Stage เหมือนกับที่คุณ masterAT ใช้ใน 2A3 อ่ะครับ ผมเคยถามในกระทู้นั้นแล้วว่าเอามาขับ 47 มันจะแรงไปมั้ย ผลก็คือว่า บิด Volumn เลย 9 นาฬิกาไปนิดนึงก็ดังลั่นห้องแล้วครับ แถมบิดเลยเที่ยงไป มีของแถมเป็นจี่ด้วย ตอนนี้กำลังทดลองแบบ State เดียวอยู่ครับ ว่าจะต่อแบบขนาน section ของหลอด 6SN7 แบบที่คุณ เกรียงศักดิ์เขียนไว้ใน YB2005 เรื่อง SE R120 คิดว่าน่าจะ ok ครับ เห็นมั้ย YearBook มันดีอย่างนี้นี่เอง ช่วยรุ่นน้องๆ ได้เยอะเลย รูปล่างนี่เป็นวงจรที่ผมต่อแบบทดลองอยู่ครับ เดี๋ยวได้ถูกใจแล้วค่อยจัดสายกับตัดขาอุปกรณ์ให้มันดีๆ หน่อย
-
วิธียึด Teflon Cap ของผม กับ วิธียึด C oil ครับ ก็มันหนักทั้งคู่เลยนิ เลยต้องยึดแบบนี้แข็งแรงดี
-
สุ้มเสียงที่ได้เรียกได้ว่าถูกใจมากครับ ตั้งแต่ต่อวงจรหลอดมามีตัวนี้เป็นเครื่องแรก ที่ให้เสียง Bass แบบพื้นกระเทือนได้เลย โดยที่เสียงร้องยังคงหวาน รายละเอียดก็ดีครับ คงได้อานิสงค์จาก Teflon ครับ
อ้ออีกนิดนึง ผมใช้ไฟ B+ 285V ครับ ถ้าดู Spec หลอดนี้ มันได้สูงสุดแค่ 250V แต่ผมอ่านเอาจาก Web เมืองนอกเค้าว่ามันโครงสร้างเดียวกับ 46 หรือ 42 น่ะครับ ไฟสูงกว่า 250 รับได้ แล้วแนะนำว่า จุดที่หวานที่สุดอยู่ประมาณ 285V น่ะครับ ขอโชว์รูปอีกสักมุมครับ
-
สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณ เริ่มตั้งแต่คุณดาวเหนือที่ช่วยเสาะหาหม้อแปลงคู่นี้มาให้ครับ และอีกหลายท่านในบอร์ดที่ผมได้ PM หรือ Mail ไปปรึกษาครับ
และต้องขอขอบคุณ Webboard นี้ที่ทำให้ผมกล้าทำ Amp หลอดขึ้นมาเอง ด้วยความคิดที่ว่าถ้าเกิดติดอะไรขึ้นมาก็มีเพื่อนในบอร์ดช่วยได้ครับ
อีกสองรูปสุดท้ายถ่ายตอนดับไฟครับ มี Bule Glow ด้วยยย :yahoo
อ้อ ใครมีหลอดเบอร์นี้ในมือผมว่าไม่ควรพลาดนะครับ :bye1
-
:drunk
ยินดีด้วยครับ ผมก็ ง้างๆอยู่เหมือนกันครับ
-
ทำแท่นได้สวยบาดใจมากครับ น่าจะลงวิธีการทำแท่นแบบเป็นขั้นตอนด้วยนะครับ แบบว่าอยากได้แท่นสวยๆแบบนี้มั่งอ้ะครับ :help :help :help
-
ผมชอบรูที่ใส C จังครับ
-
ชื่นชม งานประณีตศิลป์ครับ ตั้งใจมากเลยเชียว ..... :clap :clap :clap
-
สวยงามมากครับ O0 O0 ไม่ทราบว่าแท่นใช้ไม้อะไรครับ?? ดูผ่านๆ มีลายเส้นๆ เหมือนไม้จากต้นมะพร้าวเลย :o :o
ผมใช้ไฟ B+ 285V ครับ ถ้าดู Spec หลอดนี้ มันได้สูงสุดแค่ 250V แต่ผมอ่านเอาจาก Web เมืองนอกเค้าว่ามันโครงสร้างเดียวกับ 46 หรือ 42 น่ะครับ ไฟสูงกว่า 250 รับได้ แล้วแนะนำว่า จุดที่หวานที่สุดอยู่ประมาณ 285V น่ะครับ ขอโชว์รูปอีกสักมุมครับ
ไม่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไมมีสีม่วงๆ ปรากฏออกมา :o :o
-
ทำแท่นได้สวยบาดใจมากครับ น่าจะลงวิธีการทำแท่นแบบเป็นขั้นตอนด้วยนะครับ แบบว่าอยากได้แท่นสวยๆแบบนี้มั่งอ้ะครับ :help :help :help
ผมได้วิชาช่างไม้มาตอนเด็กๆ น่ะครับ ตอนเด็กๆ บ้านผมมักต่อเติมบ่อย พ่อผมจะจ้างช่างไม้ที่รู้จักกันมาทำให้ แล้วให้ผมเป็นลูกมือน่ะครับ คอยช่วยจับโน่นจับนี่ให้ลุงที่เป็นช่างไม้แกก็จะสอนผมใช้เครื่องมือต่างๆ เวลาทำงานน่ะครับผมก็ไม่รู้จะสอนต่อยังไง แต่แกสอนเคล็ดลับผมอย่างนึงว่า
"เวลาทำงานต้องใจเย็นๆ ห้ามใจร้อน งานไม้ผิดนิดเดียวไม้อาจจะเสียทั้งแผ่นเสียเวลาที่เราทำมาตั้งนาน"
ผมเคยช่วยแกใส่ประตูบ้านครับ แกยกประตูทาบกับวงกบ หลายรอบมากๆ เกือบ 10 รอบได้ แกบอกต้องขยันยกเข้ายกออกแบบนี้ เวลาใช้กบไสไม้จะได้ไม่กินเนื้อไม้มากไป
ที่พวกเราทำกันผมว่าสำคัญเวลาตัดไม้น่ะครับพวกเรามักตัดไม้กันไม่ตรงครับ เลยอาจจะเข้ามุมได้ไม่ค่อยสวย วิธีก็คือขีดเส้นให้มันรอบด้านเลยครับ เวลาตัดค่อยๆ เลื่อยลงไปแล้วหยุดดูเป็นระยะๆ ถ้ามันไม่ตรงไปนิดหน่อยตะไบช่วยได้ครับ อีกนิดนึง เวลาขัดกระดาษทรายครับ ผมไสไม้มาด้วยกบไฟฟ้าไม้จะไม่ค่อยเรียบเท่าไหร่ ต้องลงด้วยกระดาษทราบเบอร์ 4 เลยครับ พอมันเรียบขึ้นค่อยเปลี่ยนมาลงเบอร์ 1 การขัดกระดาษทรายช่างไม้คนเดิมสอนผมว่า ก่อนขัดเอากระดาษทราบไปตากแดดร้อนๆ สัก ชั่วโมงนึงครับ มันจะทำให้กระดาษทรายแข็งละคมขัดง่ายขึ้น เวลาขัดไม่ต้องใจร้อนครับยิ่งขัดงานงานยิ่งสวยคิดไว้งี้ครับ
ผมชอบรูที่ใส C จังครับ
รูใส่ C นี่ผมตะไบอยู่ เป็นชม. เลยละ อิอิ
อ้อผมได้จากเว็บนี้นะครับเรื่องไฟ B+ ของ 47 น่ะครับ ลองอ่านๆ ดูครับจะรู้ว่าหลอดนี้ไม่ธรรมดายังไง
http://www.diyhifisupply.com/lance-joplin/lance.htm
-
:clap สวยมากครับ O0 DIY แท่นได้สวยดีครับ... K)ต้องเลียนแบบซะแล้ว :secret
-
งานเยี่ยมครับ O0 .... :euro
-
รูปร่างหน้าตา ออกแบบได้สวยดีจังครับ.... O0
-
ชอบรายละเอียด ของแท่นมากครับ โดยเฉพาะรูที่ใส่ C ยอดมาก :clap :clap
-
สวยจัดครับ Meeting ปลายปี อย่างลืมนำมาให้เพื่อนๆ ฟังนะครับ ถ้ามาได้
-
O0 O0 O0 สวยงามมากครับ
-
สวยงามมากๆ เลยครับ สวยจริงๆครับ ....... O0 :clap O0 :clap O0 :clap
ได้ลองฟังเสียงหลังจากปรับแล้วเป็นอย่างไรบ้างครับ ... ฟังกับเพลงประเภทไหนครับ
ขออนุญาตกล่าวพาดพิงหน่อยครับ .... ขออนุญาตคุณ Darkmanเจ้าของกระทู้ด้วยนะครับ (ไม่รู้ดำเท่าผมหรือเปล่า ขนาดผมยังเรียกตัวเองว่า Gray Man เลย)
มีข้อสงสัยครับจากที่คุณ DiyMan กล่าวครับ
ไม่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไมมีสีม่วงๆ ปรากฏออกมา
มันเกิดขึ้นเพราะอะไรหรือครับแล้วมันดีหรือไม่ อย่างไรครับ
-
:clap :clap สวยมากครับ งานไม้ เนียบจริงๆสวยครับ :clap :clap
-
ขออนุญาตกล่าวพาดพิงหน่อยครับ .... ขออนุญาตคุณ Darkmanเจ้าของกระทู้ด้วยนะครับ (ไม่รู้ดำเท่าผมหรือเปล่า ขนาดผมยังเรียกตัวเองว่า Gray Man เลย)
จากที่ผมเคยพบทั้งสองท่าน พี่ต้อม Gray Man มากกว่าคุณDarkman ครับ :secret
-
O0 สุดยอดจริง...ๆ :clap :clap สงสัยต้องรื้อโครงการ DHT ของเราที่กำลังขึ้นโครงใหม่ซะแล้ว เทียบกันไม่ได้เลยจริงๆ :cry2
-
สุดยอดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :clap :clap :clap O0 O0 O0
-
สวยไม่มีที่ติ O0
-
เยี่ยมมากๆครับ
-
O0 O0 O0 O0 O0 O0
-
O0 O0 O0
-
O0 O0
-
มีข้อสงสัยครับจากที่คุณ DiyMan กล่าวครับ
ไม่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไมมีสีม่วงๆ ปรากฏออกมา
มันเกิดขึ้นเพราะอะไรหรือครับแล้วมันดีหรือไม่ อย่างไรครับ
อ๋อ..ไม่มีอะไรครับ หลอดบางเบอร์เมื่อเรา Run ถึงระดับที่จุดทำงาน (ค่อนไปทางย่านสูง ทั้งกระแสและแรงดัน) ระดับนึง ก็จะเกิดปรากฏการณ์ เช่น นี้ได้ครับ ไม่ได้เสียหายอะไรหรอกครับ ถ้ายังไม่เกิน Limit และ เราไม่ค่อยเห็นมันจริงๆ หรอก ที่เห็นเข้มๆ แบบนี้ เพราะกล้องช่วยใน Night Mode ครับ หรือต้องปิดไฟสนิทจริงๆ :)
-
:clap สุดยอดทั้งคนทั้งของครับ ... O0
-
เรื่องของ Blue Glow ท่าน DIY Man ช่วยตอบให้แล้ว ตอนถ่ายรูปผมสังเกตเห็นตอนปิดไฟจริงๆ น่ะครับ ผมเอา link มาเพิ่มให้อีกหน่อย
http://www.jacmusic.com/html/articles/blueglow/blueglow.htm
ได้ลองฟังเสียงหลังจากปรับแล้วเป็นอย่างไรบ้างครับ ... ฟังกับเพลงประเภทไหนครับ
ส่วนเรื่องเพลงนั้น ผมฟังดนตรี Jazz เป็นหลักครับ ชอบแนว Live มากที่สุด มันฟังแล้วเป็นธรรมชาติดีครับ Vocal Jazz ก็ชอบ ผมไม่ได้ Tune ให้มันหนักไปทางเสียงหวานๆ ยานๆ มากนักเพราะผมชอบฟังเครื่องดนตรีประเภทเครื่องเคาะ เครื่องสายมากกว่าเสียงนักร้องน่ะครับ
ผมไม่รู้จะเปรียบเทียบเสียงกับ DHT หลอดไหนเพราะว่าหลอดที่ฟังเป็นประจำคือ EL821 คล้ายๆ EL84 นั้นแหละครับ สิ่งที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดก็คือเสียง Bass ครับ ต่างกันมากมายเลย ไดนามิกดีแรงปะทะดีกว่าอยู่แล้ว อีกอย่างที่เห็นได้ชัดคือมิติครับ นักร้องก้าวมายืนแถวหน้าค่อนข้างชัดเจน
แผ่นที่ลองแล้วประทับใจกับเครื่องนี้มากที่สุดคงเป็นแผ่นนี้ครับ เพราะผมฟังกับ EL821 แล้วเสียงสาย Bass มันสั่นไม่เหมือนกันเลย :whistling
-
สุดยอดมากครับคุณ Drakman O0
-
แท่นสวยมากเลยครับ อยากขอคำแนะนำครับ แท่นที่ทำใช้กระดาษทรายเบอร์อะไรขัดก่อนและหลังครับ และใช้พ่นแล็กเกอร์อย่างเดียวหรือครับ ถ้าทาชะแลคย้อมลายไม้จะสวยมากขึ้นรึเปล่าครับ ผมมีแท่นไม้แดงอยู่แล้ว สีมันแดงในเนื้อไม้เลยอย่างนี้เอาไปพ่นแล็กเกอร์ อย่างเดียว หรือเอาไปเคลือบก่อนดีครับ และแล็คเกอร์นี่คือแบบที่เหมือนกระป๋องสีหรือเปล่าครับ ขอบคุณครับ
-
O0 สุดยอดมากๆ เลยครับ :clap :clap :clap
เห็นแล้วอยากทำบ้างจังเลยครับ จนใจที่เป็นมือใหม่ คงต้องศึกษาไปเรื่อยๆ ก่อน
แต่ขอบอกครับ ผมเห็นแล้วอยากทำจริงๆ 0)] 0)] 0)]
ขออนุญาติ PM ไปคุยด้วยได้ไหมครับ
-
แท่นสวยมากเลยครับ อยากขอคำแนะนำครับ แท่นที่ทำใช้กระดาษทรายเบอร์อะไรขัดก่อนและหลังครับ และใช้พ่นแล็กเกอร์อย่างเดียวหรือครับ ถ้าทาชะแลคย้อมลายไม้จะสวยมากขึ้นรึเปล่าครับ ผมมีแท่นไม้แดงอยู่แล้ว สีมันแดงในเนื้อไม้เลยอย่างนี้เอาไปพ่นแล็กเกอร์ อย่างเดียว หรือเอาไปเคลือบก่อนดีครับ และแล็คเกอร์นี่คือแบบที่เหมือนกระป๋องสีหรือเปล่าครับ ขอบคุณครับ
ดูว่าเราไสไม้ได้เรียบขนาดไหนน่ะครับ ถ้ากบมือผมว่าไสได้ค่อนข้างเรียบ ลงกระดาษทรายเบอร์ 2 แล้วก็ 1 ตามหลังก็ได้ครับ ถ้าเอามือลูบแล้วยังไม่เรียบลงเบอร์ 4 ไปก่อนจะได้ไม่ต้องเสียเวลาแล้วมาขัดด้วยเบอร์ 1 อีกที ส่วนเรื่องการทาชะแลคนั้นสีคงสวยกว่าครับถ้าลายไม้สวยอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่เคยมีประสบการณ์ทามาเลยจะทำให้สีมันเสมอกันได้ยากกว่าการพ่นครับเนื่องจากตอนเราทานั้นมันช้ากว่าพ่นชะแลคมันจะแห้งไม่พร้อมกันทำให้สังเกตสีได้ยาก บางครั้งเวลาเราจะทาซ้ำรอบสองถ้ามันยังไม่แห้งดี มันจะไปละลายรอบแรกออกมาผสมอีกทำให้กะให้สีมันเสมอกันยากน่ะครับ ผมเลยเลือกใช้แล็กเกอร์ที่เหมือนสีสเปรย์กระป๋องทั่วๆ ไปนี่แหละ ถ้าอยากทาชะแลคแนะนำให้ลองกับงานชิ้นอื่นก่อนครับ ดูว่าตัวเองพอใจหรือเปล่า
อ้อถ้าจะทาน้ำมันเคลือบเงาไม้อื่นๆ ควรจะลงแล็กเกอร์แบบน้ำรองพื้นก่อน 1 รอบนะครับ เอาพอบางๆ นะครับ เพื่อให้ไม้มันจะได้ไม่ดูดสีน้ำมันเคลือบเงาที่เราจะทาไปทีหลังน่ะครับ อันนี้สูตรที่ผมเคยเห็นเค้าทำกันมาทำให้ทาชั้นต่อไปได้ง่ายขึ้นน่ะครับ
อีกอย่างนึงเรื่องการฝังหัวตะปูไม่รู้ทราบกันหรือยัง ผมก็ใช้ตะปูธรรดานี่แหละครับ เอาหัวตะปูมาทุบให้รอบๆ เวลาตอกเข้าไปมันจะฝังหัวลงไป ใช้เหล็กส่งที่เราตอกเข็มขัดรัดสายไฟน่ะครับ ตอกส่งลงไปสัก 3-4 มิล แล้วก่อนขัดกระดาษทราบเอาขี้เลื่อยผสมกาวลาเท็กซ์อุดครับ แล้วขัดไปพร้อมกันตอนขัดกระดาษทรายนี่แหละจะได้ไม่เห็นหัวตะปูครับ
ขออนุญาติ PM ไปคุยด้วยได้ไหมครับ
ยินดีให้คำแนะนำครับ
-
ว้าว......ได้ประสบการณ์งานไม้เยอะแยะเลยครับ :clap :clap :clap[
ผมไม่รู้จะเปรียบเทียบเสียงกับ DHT หลอดไหนเพราะว่าหลอดที่ฟังเป็นประจำคือ EL821 คล้ายๆ EL84 นั้นแหละครับ สิ่งที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดก็คือเสียง Bass ครับ ต่างกันมากมายเลย ไดนามิกดีแรงปะทะดีกว่าอยู่แล้ว อีกอย่างที่เห็นได้ชัดคือมิติครับ นักร้องก้าวมายืนแถวหน้าค่อนข้างชัดเจน
แผ่นที่ลองแล้วประทับใจกับเครื่องนี้มากที่สุดคงเป็นแผ่นนี้ครับ เพราะผมฟังกับ EL821 แล้วเสียงสาย Bass มันสั่นไม่เหมือนกันเลย :whistling
c)ยินดีด้วยครับที่ชอบ ;) ผมว่ามันเป็นคุณสมบัติเฉพาะของหลอด DHT ประเภท 2 Digit ครับ ;)
ต่อไปถ้ามีโอกาส ผมขออณุญาติแนะนำให้ลองหาหลอด DHT อย่าง #45/#46 มาดัดแปลงเสียบลงเป็นอันดับต่อไปครับ แล้วจากนั้นลองเปรียบเทียบกันดูอีกที :headphone
-
ว้าว......ได้ประสบการณ์งานไม้เยอะแยะเลยครับ :clap :clap :clap[
ผมไม่รู้จะเปรียบเทียบเสียงกับ DHT หลอดไหนเพราะว่าหลอดที่ฟังเป็นประจำคือ EL821 คล้ายๆ EL84 นั้นแหละครับ สิ่งที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดก็คือเสียง Bass ครับ ต่างกันมากมายเลย ไดนามิกดีแรงปะทะดีกว่าอยู่แล้ว อีกอย่างที่เห็นได้ชัดคือมิติครับ นักร้องก้าวมายืนแถวหน้าค่อนข้างชัดเจน
แผ่นที่ลองแล้วประทับใจกับเครื่องนี้มากที่สุดคงเป็นแผ่นนี้ครับ เพราะผมฟังกับ EL821 แล้วเสียงสาย Bass มันสั่นไม่เหมือนกันเลย :whistling
c)ยินดีด้วยครับที่ชอบ ;) ผมว่ามันเป็นคุณสมบัติเฉพาะของหลอด DHT ประเภท 2 Digit ครับ ;)
ต่อไปถ้ามีโอกาส ผมขออณุญาติแนะนำให้ลองหาหลอด DHT อย่าง #45/#46 มาดัดแปลงเสียบลงเป็นอันดับต่อไปครับ แล้วจากนั้นลองเปรียบเทียบกันดูอีกที :headphone
คุณ DIY MAN ผมอยากสัมผัสเสียงหลอด 45 บ้างอะครับ แวะไปแถว คุณเบ เจอแต่คนไทย จ่อคิวอยู่ เลยไม่อยากแข่งด้วย พอจะมีอะไรแนะนำบ้างมั้ยครับ :clap
-
คุณ DIY MAN ผมอยากสัมผัสเสียงหลอด 45 บ้างอะครับ แวะไปแถว คุณเบ เจอแต่คนไทย จ่อคิวอยู่ เลยไม่อยากแข่งด้วย พอจะมีอะไรแนะนำบ้างมั้ยครับ :clap
Watching ไว้ซัก 10-20 คู่ครับ สร้างตราง Reminders ใส่มือถือไว้ให้แม่นยำเสมอในทุกๆ iTem ไม่ว่าจะเมียงมอง 0)] หรือชื่นชมแค่ภาพได้นานแค่ไหน?? โอกาสเป็นเจ้าของก็ตัดสินอยู่แค่ 10 Sec สุดท้ายเท่านั้นครับ ทั้งหมดที่เรา Watching เคาะได้ Won แค่คู่เดียวก็ถือว่าชนะแล้วครับ c) มันต้องมีเวลาที่พวก Japan/Korea..หรือใครสักคน???..ที่งานกำลังยุ่งๆ เข้ามาเคาะไม่ทันกันบ้างล่ะ....5555
จริงๆ ผมว่าคนไทยโดยเฉพาะสมาชิกเรา ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นเข้าไป Bid หลอดน่ะ เห็นสอยกันแต่พวกแผ่นดำๆ กันอื้อเลย.....ได้มาก็ฟังกันจนหูแฉะเลยครับ ;D
:secret วิญญานของการ Collective แผ่นดำ....มันช่างน่ากลัวจริงๆ 2f 2f 2f
-
คุณ DIY MAN ผมอยากสัมผัสเสียงหลอด 45 บ้างอะครับ
ยิ่งอ่าน ยิ่งอยากลองแฮะ.... :euro
-
คุณ DIY MAN ผมอยากสัมผัสเสียงหลอด 45 บ้างอะครับ แวะไปแถว คุณเบ เจอแต่คนไทย จ่อคิวอยู่ เลยไม่อยากแข่งด้วย พอจะมีอะไรแนะนำบ้างมั้ยครับ :clap
Watching ไว้ซัก 10-20 คู่ครับ สร้างตราง Reminders ใส่มือถือไว้ให้แม่นยำเสมอในทุกๆ iTem ไม่ว่าจะเมียงมอง 0)] หรือชื่นชมแค่ภาพได้นานแค่ไหน?? โอกาสเป็นเจ้าของก็ตัดสินอยู่แค่ 10 Sec สุดท้ายเท่านั้นครับ ทั้งหมดที่เรา Watching เคาะได้ Won แค่คู่เดียวก็ถือว่าชนะแล้วครับ c) มันต้องมีเวลาที่พวก Japan/Korea..หรือใครสักคน???..ที่งานกำลังยุ่งๆ เข้ามาเคาะไม่ทันกันบ้างล่ะ....5555
จริงๆ ผมว่าคนไทยโดยเฉพาะสมาชิกเรา ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นเข้าไป Bid หลอดน่ะ เห็นสอยกันแต่พวกแผ่นดำๆ กันอื้อเลย.....ได้มาก็ฟังกันจนหูแฉะเลยครับ ;D
:secret วิญญานของการ Collective แผ่นดำ....มันช่างน่ากลัวจริงๆ 2f 2f 2f
แหมผมอุตส่าห์ อ้อม ๆ ไม่ได้ผล บอกตรงตรงเลยละกัน ว่า มีแบ่งผมบ้างมั้ย :yahoo
-
จริงๆ ผมว่าคนไทยโดยเฉพาะสมาชิกเรา ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นเข้าไป Bid หลอดน่ะ เห็นสอยกันแต่พวกแผ่นดำๆ กันอื้อเลย.....ได้มาก็ฟังกันจนหูแฉะเลยครับ ;D
:secret วิญญานของการ Collective แผ่นดำ....มันช่างน่ากลัวจริงๆ 2f 2f 2f
ยอมรับเลยครับ.....วิญญานของการ Collective แผ่นดำ....มันช่างน่ากลัวจริงๆ ;D ;D
-
ดูว่าเราไสไม้ได้เรียบขนาดไหนน่ะครับ ถ้ากบมือผมว่าไสได้ค่อนข้างเรียบ ลงกระดาษทรายเบอร์ 2 แล้วก็ 1 ตามหลังก็ได้ครับ ถ้าเอามือลูบแล้วยังไม่เรียบลงเบอร์ 4 ไปก่อนจะได้ไม่ต้องเสียเวลาแล้วมาขัดด้วยเบอร์ 1 อีกที ส่วนเรื่องการทาชะแลคนั้นสีคงสวยกว่าครับถ้าลายไม้สวยอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่เคยมีประสบการณ์ทามาเลยจะทำให้สีมันเสมอกันได้ยากกว่าการพ่นครับเนื่องจากตอนเราทานั้นมันช้ากว่าพ่นชะแลคมันจะแห้งไม่พร้อมกันทำให้สังเกตสีได้ยาก บางครั้งเวลาเราจะทาซ้ำรอบสองถ้ามันยังไม่แห้งดี มันจะไปละลายรอบแรกออกมาผสมอีกทำให้กะให้สีมันเสมอกันยากน่ะครับ ผมเลยเลือกใช้แล็กเกอร์ที่เหมือนสีสเปรย์กระป๋องทั่วๆ ไปนี่แหละ ถ้าอยากทาชะแลคแนะนำให้ลองกับงานชิ้นอื่นก่อนครับ ดูว่าตัวเองพอใจหรือเปล่า
อ้อถ้าจะทาน้ำมันเคลือบเงาไม้อื่นๆ ควรจะลงแล็กเกอร์แบบน้ำรองพื้นก่อน 1 รอบนะครับ เอาพอบางๆ นะครับ เพื่อให้ไม้มันจะได้ไม่ดูดสีน้ำมันเคลือบเงาที่เราจะทาไปทีหลังน่ะครับ อันนี้สูตรที่ผมเคยเห็นเค้าทำกันมาทำให้ทาชั้นต่อไปได้ง่ายขึ้นน่ะครับ
อีกอย่างนึงเรื่องการฝังหัวตะปูไม่รู้ทราบกันหรือยัง ผมก็ใช้ตะปูธรรดานี่แหละครับ เอาหัวตะปูมาทุบให้รอบๆ เวลาตอกเข้าไปมันจะฝังหัวลงไป ใช้เหล็กส่งที่เราตอกเข็มขัดรัดสายไฟน่ะครับ ตอกส่งลงไปสัก 3-4 มิล แล้วก่อนขัดกระดาษทราบเอาขี้เลื่อยผสมกาวลาเท็กซ์อุดครับ แล้วขัดไปพร้อมกันตอนขัดกระดาษทรายนี่แหละจะได้ไม่เห็นหัวตะปูครับ
ผมขอให้ความเห็นนิดนึง
การเคลือบเงางานไม้ ถ้าเป็นงานเคลือบแข็งไม่ควรลองพื้นด้วยแลคเกอร์ให้ใช้ลองพื้นเฉพาะของมันเอง
เราสามารถแยกประเภทงานเคลือยได้กว้างเป็น 2 ลัดษณะ
1.งานเคลือบแข็งที่รู้จักกันดีเช่น พวกยูริเทน งานพวกนี้พวกลองพื้นด้วยน้ำมันเฉพาะของตัวมันเอง เวลาทาแล้วให้ดีต้องขัดเบาด้วยกระทายละเอียดทุกชั้นไม่งั้นมีโอกาสล่อน
2.งานแลคเกอร์นิยมใช้ในงานไม่ต้องการทนทานสูงมากนัก ทำได้3แบบคือแบบเงา กี่งเงาและด้าน งานนี้สามารถใช้ ชแลคลองพื้นได้ ส่วนใหญ่ใช้ชะแลคขาว ถ้าใช้ชะแลคสีหมายถึงเราต้องการย้อไม้ให้ได้สีตามความต้องการก่อน ปต่ไม่นิยมใช้ในกรณีที่ไม้มีลายสวยอยู่แล้ว ให้ใช้ชะแลคขาวแทน เพื่อประหยัดจำนวนเที่ยวในการลงแลคเกอร์ ความจริงชะแลคยังแบ่งเป็นแบบผงและนำอีก อ้อชะแลคนี่ละลายในแอลกอฮอส่วนแลคเกอร์ละลายในทินเนอร์นะ
*ส่วนเรื่องการทำสีไม้โดยไม้ใช้ชะแลคก็ให้ใช้สีย้อมไม้ได้ มี3สีคือแดง เหลือง ดำ ผสมให้ได้สีที่ต้องการ นัยว่าเพื่อให้สีของไม้มีโทนที่เหมือนกัน การผสมให้ให้น้ำมันสนเป็นตัวทำละลายสี แล้วใช้ผ้าชุบเช็ดไม้ที่ต้องการย้อม จากนั้นนำไปลงเงาได้ทั้ง2แบบข้างต้น
*การใช้กาวให้ดีจริงต้องใช้กาวผงเท่านั้นอย่าใช้ลาแทกซ์ในงานไม้จริง(ส่วนใช้ในงานไม้อัด)
*ในการทำแท่นผมอยากให้ลองใช้แบบวิธีโบราณในสลัดไม้แทนตะปูโดยใช้กาวผงผสมน้ำช่วยให้ได้งานที่ดีกว่ากว่าตีตะปูฝังหัว
*ถ้าอยาดได้งานแบบมืออาชีพต้องมีเครื่องขัด
-
เอทใหม้พิพ์ผิดเยอะ
ผมขอให้ความเห็นนิดนึง
การเคลือบเงางานไม้ ถ้าเป็นงานเคลือบแข็งไม่ควรลองพื้นด้วยแลคเกอร์ให้ใช้ลองพื้นเฉพาะของมันเอง
เราสามารถแยกประเภทงานเคลือบไม้กว้างๆเป็น 2 ลัดษณะ
1.งานเคลือบแข็งที่รู้จักกันดีเช่น พวกยูริเทน งานพวกนี้ลองพื้นด้วยน้ำมันเฉพาะของตัวมันเอง เวลาทาแล้วให้ดีต้องขัดเบาๆด้วยกระทายละเอียดทุกชั้นไม่งั้นมีโอกาสล่อน
2.งานแลคเกอร์นิยมใช้ในงานที่ไม่ต้องการความทนทานสูงมากนัก ทำได้3แบบคือแบบเงา กี่งเงาและด้าน งานนี้สามารถใช้ ชะแลคลองพื้นได้ ส่วนใหญ่ใช้ชะแลคขาว ถ้าใช้ชะแลคสีหมายถึงเราต้องการย้อมไม้ให้ได้สีตามความต้องการก่อน ปกติไม่นิยมใช้ในกรณีที่ไม้มีลายสวยอยู่แล้ว ให้ใช้ชะแลคขาวแทน เพื่อประหยัดจำนวนเที่ยวในการลงแลคเกอร์ ความจริงชะแลคยังแบ่งเป็นแบบผงและน้ำอีก อ้อชะแลคนี่ละลายในแอลกอฮอส่วนแลคเกอร์ละลายในทินเนอร์นะ
*ส่วนเรื่องการทำสีไม้โดยไม่ใช้ชะแลคก็ให้ใช้สีย้อมไม้ได้ มี3สีคือแดง เหลือง ดำ ผสมให้ได้สีที่ต้องการ นัยว่าเพื่อให้สีของไม้มีโทนที่เหมือนกัน การผสมให้ให้น้ำมันสนเป็นตัวทำละลายสี แล้วใช้ผ้าชุบเช็ดไม้ที่ต้องการย้อม จากนั้นนำไปลงเงาได้ทั้ง2แบบข้างต้น
*การใช้กาวให้ดีจริงต้องใช้กาวผงเท่านั้นอย่าใช้ลาแทกซ์ในงานไม้จริง(ส่วนใหญ่ใช้ในงานไม้อัด)
*ในการทำแท่นผมอยากให้ลองใช้แบบวิธีโบราณ ใช้สลักไม้แทนตะปูโดยใช้กาวผงผสมน้ำช่วย ได้งานที่ดีกว่ากว่าตีตะปูฝังหัว
*ถ้าอยากได้งานแบบมืออาชีพต้องมีเครื่องขัด
-
O0 งานไม้นี่ต้องอาศัยความใจเย็นจริงๆ ครับ...เห็นแล้ว :cold เลยครับ... เยี่ยมจริงๆ O0
-
เอ... คุณ Darkman ใช้ #47 กับลำโพงอะรัยอ่ะครับ ??? :secret
-
ขอโทษนะค้าบบบ
อยากรู้ว่า DHT นี่แปลว่าอะไรหรือคับ .... ไม่รุง่ะคับ :help
-
จริงๆ ผมว่าคนไทยโดยเฉพาะสมาชิกเรา ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นเข้าไป Bid หลอดน่ะ เห็นสอยกันแต่พวกแผ่นดำๆ กันอื้อเลย.....ได้มาก็ฟังกันจนหูแฉะเลยครับ ;D
:secret วิญญานของการ Collective แผ่นดำ....มันช่างน่ากลัวจริงๆ 2f 2f 2f
ยอมรับเลยครับ.....วิญญานของการ Collective แผ่นดำ....มันช่างน่ากลัวจริงๆ ;D ;D
ความน่ากลัวมันอยู่ตรงนี้ครับ Bid จ่ายตังค์ ส่งของ รับของ เปิดฟัง ได้ทันที และที่สำคัญคือตอนที่ของเดินทางมาถึง เสียงของแผ่นเสียงแผ่นนี้จะเป็นยังไงน้า สภาพจะดีไหม เสียงกอบแกบเยอะหรือเปล่า แต่หลอด Bid แล้วต้องทำนี่สิ วิญญาณความขี้เกียจมักจะโหมกระหน่ำ
-
แต่หลอด Bid แล้วต้องทำนี่สิ วิญญาณความขี้เกียจมักจะโหมกระหน่ำ
ใช้เลยครับ......... ;D ;D ;D
-
ขอโทษนะค้าบบบ
อยากรู้ว่า DHT นี่แปลว่าอะไรหรือคับ .... ไม่รุง่ะคับ :help
ย่อมาจาก Directly Heated Triode ครับ แต่หลอด #47 นี่มันเป็น Pentode นะครับเอามาต่อแบบ Triode Mode เอากันง่ายๆ ก็คือ Heater (ไส้หลอด) ก็คือ Cathode เลยอ่ะครับ
DHT จะใช้ใส้หลอดเป็นตัวทำความร้อนและปลดปล่อย Electron ไปในตัวเลยไงคับ ส่วน พวก Indirectly Heated จะมีแผ่น Cathode มาเป็นตัวปลดปล่อย Electron แทนโดยอาศัยความร้อนจากไส้หลอดอีกทีนึง
อธิบายเข้าใจป่าวดูรูปแล้วกัน
เอ... คุณ Darkman ใช้ #47 กับลำโพงอะรัยอ่ะครับ ??? :secret
ลำโพงผมฟังอยู่ 2 คู่ครับ เป็นลำโพงทำเองใช้ Driver ของ GIP โดยซื้อตู้ + Cross รุ่นที่ดู Hi-End หน่อยทำจากจีนเมื่อก่อนร้านอมรสั่งมาขายน่ะครับ เป็นลำโพง 3 ทาง ความไวคงไม่เกิน 85-86 db หรอกครับ
อีกคู่นึงใช้ดอก Fullrange วงรีที่คุณไทช่วยทำ Group Buy ลำโพงให้น่ะครับ หลอด #47 นี่ไม่ต้องลำโพงความไวสูงนักก็ขับได้ครับ
-
ขอบคุณคับ :)
-
อีกคู่นึงใช้ดอก Fullrange วงรีที่คุณไทช่วยทำ Group Buy ลำโพงให้น่ะครับ หลอด #47 นี่ไม่ต้องลำโพงความไวสูงนักก็ขับได้ครับ
พอใจ-ไม่พอใจขนาดไหน ไม่รีวิวบอกกันม่างเลยครับ... ทำแล้วอยากได้ฟีดแบค บ้างง่ะ :help
-
จ๊าก :cry2 ของป๋มรอบสองคับ ฟังแต่ดอกนี้อยู่อ่ะยังไม่ได้ตู้ แต่คาดว่าต้องถูกใจแน่ๆ ละ ขนาดใส่กล่องฟังอยู่ยังถูกใจเลย
-
http://www.mif.pg.gda.pl/homepages/frank/sheets/093/4/47.pdf
ไฟสูงเกินไปมาก น่ากลัวน่ะ.. เสียดายหลอด ;D ;D
-
ผมได้ข้อมูลเรื่องไฟ B+ มาจาก 2 แหล่งนี้ละครับ เลยกล้าลอง งงกับ Datasheet อยู่เหมือนกันว่า Vplate MAX ก็ 250 Vplate AVG ก็ 250 มันไม่น่าจะเท่ากัน
http://db.audioasylum.com/cgi/m.mpl?forum=tubediy&n=5751&highlight=47+tube&r=&session=
http://www.diyhifisupply.com/lance-joplin/lance.htm
-
จริงๆ ผมว่าคนไทยโดยเฉพาะสมาชิกเรา ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นเข้าไป Bid หลอดน่ะ เห็นสอยกันแต่พวกแผ่นดำๆ กันอื้อเลย.....ได้มาก็ฟังกันจนหูแฉะเลยครับ ;D
:secret วิญญานของการ Collective แผ่นดำ....มันช่างน่ากลัวจริงๆ 2f 2f 2f
ยอมรับเลยครับ.....วิญญานของการ Collective แผ่นดำ....มันช่างน่ากลัวจริงๆ ;D ;D
ความน่ากลัวมันอยู่ตรงนี้ครับ Bid จ่ายตังค์ ส่งของ รับของ เปิดฟัง ได้ทันที และที่สำคัญคือตอนที่ของเดินทางมาถึง เสียงของแผ่นเสียงแผ่นนี้จะเป็นยังไงน้า สภาพจะดีไหม เสียงกอบแกบเยอะหรือเปล่า แต่หลอด Bid แล้วต้องทำนี่สิ วิญญาณความขี้เกียจมักจะโหมกระหน่ำ
คนอื่นผมไม่รู้นา.....5555 ผมมันประเภทดองเค็มไม่ค่อยเป็น จริงๆก็คงคล้ายๆกันแหละ แต่ผมมันเป็น Hardware อยากรู้ว่าเสียงมันเป็นยังไง??? หลอดที่ถูก Bid เข้ามา หลังจากแกะกล่องจะต้องถูกหนีบเพื่อ Test เสียงให้จงได้เลยครับ ถ้า Bid เก็บๆไว้ก่อนเพื่อรอวันจะสร้างจริง ผมว่ามันเป็นไปได้ยากกว่าจะมีเวลาหรือเสียเวลาต้องลงทุนจัดหาในอุปกรณ์ประกอบทั้งหมดครับ เผลอๆ ทำมันแตกซะก่อน ฉะนั้นเราต้องทำ Test Figure ไว้รอท่าก่อนหลอดจะมาถึงมือครับ จากนั้นก็วาดฝันว่าเสียบแล้วมันจะแตกต่างยังไง?? :headphone
-
ผมขอทำตามบ้างนะครับ แล้วจะขอคำปรืกษาครับ
-
:clap :clap :clap
ยอดเยี่ยมครับ
-
:clap :clap :clap
ยอดเยี่ยมครับ
แหมเล่นขุดกระทู้เก่ามาซะเขินเลย ตอนนี้ปรับแต่งใส้ในไปเยอะกว่าเดิมมากแล้วครับ หลอดเบอร์นี้มันถูกหูและถูกกะตังค์ผมจิงๆ ไว้ว่างๆ ก่อนจะมา update ตอนนี้ติดเรียนต่ออยู่ ถ้าใครคิดจะทำก็ลุยได้เลย ว่าแต่ถ้าจะทำ Triode Mode ลองใช้ OPT 5K พอนะ ผมว่า 7K มันเป็น Spec ของ Pentode
-
เบอร์47 จุดใส้หลอดAC. ไหวมั๊ยครับ..
-
ผมจุด AC ใช้ hum pot ปรับเอาครับ
-
ตามมาดูด้วยคน คิดว่ามีไรupdate เครื่องนี้ได้ข่าวว่า เมพ เห้ย..เทพครับ อิอิ d_d (แต่ยังไม่เคยฟังเลย :black_eye)
-
:o O0 O0 O0
-
รู้จักมาก็น่าจะสองปี เพิ่งจะเคยเห็นกระทู้คุณ Darkman เมื่อก่อนคุยเก่งเหมือนกันนี่ :)
-
เพิ่งเคยเห็นแอมป์ คุณ darkman K) (สงสัยเกิดไม่ทันมั้งช่วงนั้น ;D)
ทำหม้อ... เก่ง แถมยังทำแอมป์สวยอีก O0
-
47 ผมใช้หม้อ 7K ลองทั้งเพนโทดและไทรโอดโมด ตอนนี้เป็นเพนโทดโมดครับ ผมจุดใส้ AC ไม่ใช่ humpot ไม่มี hum เสียงดีครับ เบสตูมมาก กลางแหลมดีทีเดียว
-
47 ผมใช้หม้อ 7K ลองทั้งเพนโทดและไทรโอดโมด ตอนนี้เป็นเพนโทดโมดครับ ผมจุดใส้ AC ไม่ใช่ humpot ไม่มี hum เสียงดีครับ เบสตูมมาก กลางแหลมดีทีเดียว
เสียงดีกว่าสากเบือผมอีก :headphone
-
47 น้าป้อก็ไม่ธรรมดา ฝีมือเหมือนกันนะป๋าป้อ :cold :giveup