HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม Thai DIY Audio => ข้อความที่เริ่มโดย: DIY C ที่ 03 มกราคม, 2007, 01:37:05 pm
-
ไม่ทราบจริงๆ ครับ โดยปกติจะเช็คดูว่า ตัว C ใช้ได้หรือไม่ก็ใช้ ammeter วัดดูโดยดูเข็มตีขึ้นแล้ว
ค่อยๆลดลงมา แล้วกลับขั้วก็จะเป็นเช่นเดียวกัน แต่เจอ C ที่เป็นโละหะคล้ายอลูมิเนียม คนขายบอกว่าดี
มากของ US แต่เมือลองวัดดู ครั้งแรกเข็มตีขึ้นแล้วลด แต่พอสลับเข็มตีขึ้นแต่ไม่ลด ตรงนี้แหละครับที่สงสัย
คนขายก็บอกว่ามีคนซื่อไปใช้เยอะไม่เห็นเป็นไร ซึ่งความจริงเป็นอย่างไรครับ ท่านผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยครับ
( ผมยังไม่ซื่อครับ กลับมา :secret ก่อนดีกว่า) ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณมาก
-
ไม่ทราบจริงๆ ครับ โดยปกติจะเช็คดูว่า ตัว C ใช้ได้หรือไม่ก็ใช้ ammeter วัดดูโดยดูเข็มตีขึ้นแล้ว
ค่อยๆลดลงมา แล้วกลับขั้วก็จะเป็นเช่นเดียวกัน แต่เจอ C ที่เป็นโละหะคล้ายอลูมิเนียม คนขายบอกว่าดี
มากของ US แต่เมือลองวัดดู ครั้งแรกเข็มตีขึ้นแล้วลด แต่พอสลับเข็มตีขึ้นแต่ไม่ลด ตรงนี้แหละครับที่สงสัย
คนขายก็บอกว่ามีคนซื่อไปใช้เยอะไม่เห็นเป็นไร ซึ่งความจริงเป็นอย่างไรครับ ท่านผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยครับ
( ผมยังไม่ซื่อครับ กลับมา :secret ก่อนดีกว่า) ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณมาก
อาการแบบนี้ใม่ช๊อตก็รั่วครับผม มีพี่ๆในนี้แหละเขาบอกวิธีการเช็คอยู่ผมจำใม่ใด้แล้วครับลองๆค้นหาดู K]
-
ถ้าเป็น C มีขั้วก็ปกติครับถ้าเข็ม มิเตอร์ขึ้นและลงข้างเดียวก็ใช้ได้ครับ
-
ขอบคุณมากครับ
(เป็นแบบมีขั้วครับ)
-
ไม่ทราบจริงๆ ครับ โดยปกติจะเช็คดูว่า ตัว C ใช้ได้หรือไม่ก็ใช้ ammeter วัดดูโดยดูเข็มตีขึ้นแล้ว
ค่อยๆลดลงมา แล้วกลับขั้วก็จะเป็นเช่นเดียวกัน แต่เจอ C ที่เป็นโละหะคล้ายอลูมิเนียม คนขายบอกว่าดี
มากของ US แต่เมือลองวัดดู ครั้งแรกเข็มตีขึ้นแล้วลด แต่พอสลับเข็มตีขึ้นแต่ไม่ลด ตรงนี้แหละครับที่สงสัย
คนขายก็บอกว่ามีคนซื่อไปใช้เยอะไม่เห็นเป็นไร ซึ่งความจริงเป็นอย่างไรครับ ท่านผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยครับ
( ผมยังไม่ซื่อครับ กลับมา :secret ก่อนดีกว่า) ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณมาก
วันก่อนผมไปบ้านหม้อมามีร้านหนึ่งก้อบอกแบบนี้เหมือนกันครับ แล้วยังบอกว่าเวลาเช็คต้องเอาสายมิเตอร์นึงวัดที่ขั้ว และอีกสายนึงวัดที่ตัว body ของ C ผมก็งงเหมือนกัน
-
C เก่าๆ ยิ่งเป็นพวกมีขั้ว (Electrolytic Capacitor) ต้องระวังครับ :nonoพวกนี้มีอายุการใช้งาน เก็บนานไปก็รั่วได้ครับ :P หรือได้มาถูกและอยากใช้จริงๆ ควรเอามันมา Reform ทิ้งไว้ซักพักก่อนก็ดีนาครับ ขืนใส่ไปโดยไม่ตรวจสอบก่อนอาจจะระเบิดหรือไม่ก็ทำให้ Rectifier Tube เสียหายได้คาตาเลยครับ :bye1
http://www.vmars.org.uk/capacitor_reforming.htm
-
:)ของผมเดี่ยวนี้เพื่อความมั่นใจแบบสุดๆ..จะใช้ HV Power Supply ปรับค่าได้จ่ายไฟจริงคร่อมขั้ว C เลยครับ..ถ้า C ไม่รั่วจะเห็นเข็ม mA Meter ลงสุดที่ 0 mA ครับแต่ถ้าตัวไหนรั่วจะเห็นกระแสรั่วดังในรูปครับ..ลองแบบนี้ทิ้งไว้สักพักถ้าไม่ร้อนและกระแสไม่มีรั่วไหลก็มั่นใจนำไปใช้ได้เลย.. :yahoo
-
[/quote]
วันก่อนผมไปบ้านหม้อมามีร้านหนึ่งก้อบอกแบบนี้เหมือนกันครับ แล้วยังบอกว่าเวลาเช็คต้องเอาสายมิเตอร์นึงวัดที่ขั้ว และอีกสายนึงวัดที่ตัว body ของ C ผมก็งงเหมือนกัน
[/quote] ผมว่าอาจเป็นไปได้ครับที่ Body อาจเป็น ground
-
ลงทุนซื้อมิเตอร์ ของจีนแดงวัด C อย่างเดียว สักตัวเลยครับ หลักร้อยไม่ถึงพัน มีค่าผิดพลาดบ้างก็ยังดีกว่า :cold
-
ถ้าเป็นแบบไม่มีขั้ว วิธีการทำเครื่องทดสอบให้ลองไปดูในหนังสือ รวมวงจรประสบการณ์อิเลคทรอนิดส์ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นเล่มที่ 1 หัวข้อเรื่อง "วัด C แบบง่ายๆ แต่ชัวร์" พอดีเพื่อนยืมหนังสือไปเลยไม่ได้เอาวงจรมาให้ดู
ในวงจรเค้าใช้ไฟบ้าน 220Vac ผ่านบริดจ์เร็กติไฟร์แล้วมีหลอดนีออนเป็นตัวแสดงผลว่ารั่วหรือไม่รั่ว ทดลองใช้มาแล้วคุ้มค่าน่าทำไว้ใช้เองครับ
-
ลงทุนซื้อมิเตอร์ ของจีนแดงวัด C อย่างเดียว สักตัวเลยครับ หลักร้อยไม่ถึงพัน มีค่าผิดพลาดบ้างก็ยังดีกว่า :cold
อันนี้ถึงวัดค่าได้ค่อนข้างปกติก็ยังต้องระวังครับ วันก่อนผมได้ C.oil 0.056 uF มาใหม่ เลยว่าจะลองเอาไป coupling ดู ก็เลยมาวัดค่าด้วย Fluke 8xx ก่อนปรากฎว่าได้ 0.62 uF ซึ่งค่าที่ได้ยังอยู่ในช่วง +-20% อยู่คิดว่าน่าจะไม่มีปัญหา ใส่โช๊ะเข้าไป ปรากฎว่าไฟ DC รั่วออกมาเต็มๆครับ :D :D :D แต่ยังโชคดีที่ผมลองวัดดูก่อนยังไม่ทันได้ต่อเข้าระบบ ไม่งั้นลำโพงผมคงกลับบ้านเก่าไปแล้ว เฮ้อ ดังนั้นอยากจะเตือนเอาไว้ครับว่าถึงวัดดูแล้วก็ยังต้องวัดค่าจริงในวงจรอีกทีก่อนจะต่อเข้าระบบนะครับผม :victory
-
เรียนถามครับ c ที่ต่อขนานกับ r ที่ขาคาโธดของหลอดไดร์และหลอดเพาเวอร์ ถ้า c ตัวนี้รั่วจะมีผลอย่างไรกับวงจรครับ
-
เรียนถามครับ c ที่ต่อขนานกับ r ที่ขาคาโธดของหลอดไดร์และหลอดเพาเวอร์ ถ้า c ตัวนี้รั่วจะมีผลอย่างไรกับวงจรครับ
ถ้า C รั่วก็เหมือนกับไม่ได้ต่อ R คาโถดตัวนี้เลยแหละครับ หลอดก็จะทำงานเต็มกำลังเลยครับ :cold
-
เรียนถามครับ c ที่ต่อขนานกับ r ที่ขาคาโธดของหลอดไดร์และหลอดเพาเวอร์ ถ้า c ตัวนี้รั่วจะมีผลอย่างไรกับวงจรครับ
ถ้า C รั่วก็เหมือนกับไม่ได้ต่อ R คาโถดตัวนี้เลยแหละครับ หลอดก็จะทำงานเต็มกำลังเลยครับ :cold
ผลลัพท์จะเป็นยังใงบ้างครับ หรือว่าเจ๊งอย่างเดียว :bye1
-
เรียนถามครับ c ที่ต่อขนานกับ r ที่ขาคาโธดของหลอดไดร์และหลอดเพาเวอร์ ถ้า c ตัวนี้รั่วจะมีผลอย่างไรกับวงจรครับ
ถ้า C รั่วก็เหมือนกับไม่ได้ต่อ R คาโถดตัวนี้เลยแหละครับ หลอดก็จะทำงานเต็มกำลังเลยครับ :cold
ผลลัพท์จะเป็นยังใงบ้างครับ หรือว่าเจ๊งอย่างเดียว :bye1
ถ้ารั่วประมาณว่าวัดได้ 0 Ohm หลอดก็จะเจ๊งสถานเดียวครับ แต่อาจจะยังไม่ทันทีทันใด ต้องปล่อยไว้สักพักนึงเพราะมันก็อึดอยู่นะครับเจ้าหลอดเนี่ย ;D
-
:secretพี่ LOUIS เป็นฝรั่งหรือเปล่าครับ ขออณุญาติครับ.
-
:secretพี่ LOUIS เป็นฝรั่งหรือเปล่าครับ ขออณุญาติครับ.
เป็นคนไทยนี่แหละครับ อยู่ชนบทด้วย :whistling ทำไมเหรอครับ ??? หรือว่าผมใช้ภาษาไม่ถูกต้อง :D
-
เราจะรู้หรือมีสิ่งบอกเหตุอย่างไรครับว่า c ที่ใช้อยู่นั้นมันเสีย (ก่อนใช้งานเราวัดแล้วว่าดี แต่มาเสียภายหลังขณะใช้งาน)
-
ถ้า C รั่วก็เหมือนกับไม่ได้ต่อ R คาโถดตัวนี้เลยแหละครับ หลอดก็จะทำงานเต็มกำลังเลยครับ :cold
[/quote]ผลลัพท์จะเป็นยังใงบ้างครับ หรือว่าเจ๊งอย่างเดียว :bye1
[/quote]
ถ้ารั่วประมาณว่าวัดได้ 0 Ohm หลอดก็จะเจ๊งสถานเดียวครับ แต่อาจจะยังไม่ทันทีทันใด ต้องปล่อยไว้สักพักนึงเพราะมันก็อึดอยู่นะครับเจ้าหลอดเนี่ย ;D
[/quote] มีลางอะไรบอกเหตุก่อนหรือเปล่าครับ ยิ่งหลอดแพงหายากพังแล้วยิ่งเสียว และอีกประการคือของปลอม
ไมมีคุณภาพเดียวนี้ก็มีมากมาย เรามีทางป้องกันอย่างไร หรือว่าจะต้องมีระบบฟิวส์ ครับ
-
capacitor วัดค่าความจุดกับวัดรั่วต้องทำทั้งคู่ครับโดยแฉพราะที่นำไปคับปลิ้งเพราะวัดค่าได้ถูกแต่เมื่อใช้กับไฟสูงอาจรั่วและมันจะไปลดไฟลบที่เราใบอัสไว้ทำให้หลอดรับประทานไฟมากขึ้นหลอดแดงครับแปบเดียวเจ๊ง
-
R cathod ถ้าเราใม่ใส่จะใด้หรือใม่ มีความจำเป็นมากน้อยแค่ใหนครับ ใด้ยินมาว่าใส่ก็ใด้ใม่ใส่ก็ใด้ ผมเริ่มเป็นห่วงหลอดแล้วครับ อย่างอื่นพังพอหาใด้หลอดพังเนี่ย.. :cry2
-
R cathod ถ้าเราใม่ใส่จะใด้หรือใม่ มีความจำเป็นมากน้อยแค่ใหนครับ ใด้ยินมาว่าใส่ก็ใด้ใม่ใส่ก็ใด้ ผมเริ่มเป็นห่วงหลอดแล้วครับ อย่างอื่นพังพอหาใด้หลอดพังเนี่ย.. :cry2
อ่ะ?ไม่ได้นะครับเหมือนที่หลายท่านข้างบนบอก ถ้าไม่ใส่ก็เหมือนกับ C ช๊อตครับ ทำให้หลอดทำงานหนักแล้วพังได้ ผมเคยเจออาการ C รั่วคือไม่ถึงกับช๊อต ทำให้เสียงแตกพร่าหาอยู่ตั้งนาน แต่ถ้าเป็น C Cathode ไม่ต้องใส่ก็ได้โดยเฉพราะหลอดที่มีค่า Mu สูง ๆ เช่น 12AX7 ครับ
-
R cathod ถ้าเราใม่ใส่จะใด้หรือใม่ มีความจำเป็นมากน้อยแค่ใหนครับ ใด้ยินมาว่าใส่ก็ใด้ใม่ใส่ก็ใด้ ผมเริ่มเป็นห่วงหลอดแล้วครับ อย่างอื่นพังพอหาใด้หลอดพังเนี่ย.. :cry2
ถ้าไม่ใส่แล้วจะมี ไฟลบ Bias หลอดยังไงละครับ.. ;D ถ้าอย่างนั้นต้องทำไฟลบไป bias โดยตรงที่กริดครับหรือเรียกว่า Fix bias ;D
-
R cathod ถ้าเราใม่ใส่จะใด้หรือใม่ มีความจำเป็นมากน้อยแค่ใหนครับ ใด้ยินมาว่าใส่ก็ใด้ใม่ใส่ก็ใด้ ผมเริ่มเป็นห่วงหลอดแล้วครับ อย่างอื่นพังพอหาใด้หลอดพังเนี่ย.. :cry2
โทษทีครับเป็นCครับใม่ช่R :D K] K]
-
R cathod ถ้าเราใม่ใส่จะใด้หรือใม่ มีความจำเป็นมากน้อยแค่ใหนครับ ใด้ยินมาว่าใส่ก็ใด้ใม่ใส่ก็ใด้ ผมเริ่มเป็นห่วงหลอดแล้วครับ อย่างอื่นพังพอหาใด้หลอดพังเนี่ย.. :cry2
โทษทีครับเป็นCครับใม่ช่R :D K] K]
ถ้าไม่มี C Cathode by pass จะทำให้ Gain การขยายลดลงครับ..
-
ถ้า C รั่วก็เหมือนกับไม่ได้ต่อ R คาโถดตัวนี้เลยแหละครับ หลอดก็จะทำงานเต็มกำลังเลยครับ :cold
ผลลัพท์จะเป็นยังใงบ้างครับ หรือว่าเจ๊งอย่างเดียว :bye1
[/quote]
ถ้ารั่วประมาณว่าวัดได้ 0 Ohm หลอดก็จะเจ๊งสถานเดียวครับ แต่อาจจะยังไม่ทันทีทันใด ต้องปล่อยไว้สักพักนึงเพราะมันก็อึดอยู่นะครับเจ้าหลอดเนี่ย ;D
มีลางอะไรบอกเหตุก่อนหรือเปล่าครับ ยิ่งหลอดแพงหายากพังแล้วยิ่งเสียว และอีกประการคือของปลอม
ไมมีคุณภาพเดียวนี้ก็มีมากมาย เรามีทางป้องกันอย่างไร หรือว่าจะต้องมีระบบฟิวส์ ครับ
ก็ต้องหูไวตาไวหน่อยอ่ะครับ เวลาฟังเพลงก็สังเกตที่เสียงว่าเปลี่ยนมั๊ย แล้วก็หมั่นมองที่หลอดว่า plateแดงผิดปกติรึปล่าว ตัว C มีอาการบวมปูดรึปล่าว
เช็คไบอัสโดยวัดโวลท์ที่ cathode บ่อยๆหน่อยครับ(ในช่วงที่ต่อวงจรแรกๆ) ถ้าวงจรเริ่มนิ่งไม่มีอะไรแล้วก็เช็คอาทิตย์ละครั้งก็ได้ครับ
ถ้าจะใส่ฟิวส์ก็ใส่ที่ B+ก่อนเข้า OPTก็ได้ครับ ซัก 250mA แต่ถ้าวันดีนดี C มันจะรั่วขึ้นมาก็ตัวใครตัวมันล่ะครับ :-\