HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม Thai DIY Audio => ข้อความที่เริ่มโดย: nim ที่ 15 พฤษภาคม, 2007, 08:36:14 am
-
เหตุที่ตั้งกระทู้นี้เนื่องจากอยากทราบประสพการณ์ของท่านทั้งหลายที่เจอะเจอมา เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้สมาชิกใหม่ๆรวมทั้งผมด้วย ระมัดระวังอันตรายหรืออุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ ไว้เป็นความรู้ที่จะหลีกเลี่ยงอันตรายที่จะเกิดจากการ DIY ครับ
สำหรับผมเคยซ่อมแอมป์งานวัด พอเครื่องมาถึงก็จัดการหงายเครื่อง Visual check แล้วจัดการเปิด SW สักพัก..เสียงอะไรดังจี่....... ก้มมองหา :blowup ตูม ม้วนกระดาษและน้ำมันเฉี่ยวหน้าไป ปรากฏว่า C กระป๋องระเบิด เลยรู้ว่าภายใน C ประกอบอะไรบ้าง และก็ซ่อมได้โดยไม่ต้องใช้เวลามาก(เพราะมันระเบิดให้เห็น) ยังเสียวจนทุกวันนี้
ป.ล. ท่านสิงห์ได้เผยความจริงก็คราวนี้แหละ เกี่ยวกับแผลที่ต้นคอน่ะ
-
เคยเจอไฟดูดจาก C filter ครับ เป็นเพราะตอนนั้นยังมือใหม่อยู่ ไม่ใส่ bleeding resistor เลยเจอดูด
และก็มีพวก transistor ที่ใส่ heatsink เล็กไป พอมันร้อนมากๆก็ไหม้ กับ resistor กระเบื้องก็เคยเจอ ทั้งๆที่ dissipate แค่ 2W ใช้ 10W ปรากฏว่ามันร้อนจนเกรียม ทำให้ C ที่อยู่แถวๆนั้นเสื่อม พาลให้หลอด bias ผิดไปด้วย
-
ผมเผลอเอาไฟ 250 Vac จากหม้อแปลงไปจ่ายเป็นไฟจุดไส้หลอดให้ 8532 ครับ
ก็ไม่มีไรมาก เปิดสวิทช์มา 8532 ทั้งสองหลอดสว่างวาบสวยงาม แล้วก็ไม่เคยสว่างอีกเลย
สภาพสองหลอดตอนนี้ก็ดูดีอยู่ครับ เหมือนนอนหลับไปเฉยๆ ขำ ขำ อิ อิ อุ อุ ฮือ ฮือ :cry2
-
DIY จนดึกแล้วเบลอครับ คล้ายๆหลับใน จะเอาหัวแร้งจี้ที่สายดันจี้มือตัวเอง K]
อีกครั้งก็รีบร้อนเสียบปลั๊กลองทั้งที่ต่อสายไฟผิดขั้ว เสีย 1541A กับ R อีกตัว :black_eye
-
อิ อิ เคยแต่ซนเอาหัวเข็ม Shure M44-7 มาดัดไปดัดมา แล้วก้านเข็มหัก เซ็งเลย เสียตังส์อีกแว้ววววว... :'(
แต่ตอนนี้ผมใช้ฟลอยด์อลูฯ พันไว้ ใช้ได้เหมือนกัน 2f
-
สวัสดีครับ
เคยมาหลายอย่าง เปลี่ยน C ภาคจ่ายไฟให้TANIN พอเปิดทำไมไม่ดังหว่าแป๊บเดียวควันขึ้นดีไม่ระเบิดเพราะไฟต่ำถ้าเป็นหลอดระเบิดแน่ นอกนั้นมีไฟบวกมันขึ้นคร่อม
ไฟลบ สงสัยไฟลบไม่ยอมเสียงดังเปรี๊ยะ(คงโดนตบ) แต่แหมตบแรงจังมีประกายไฟด้วย ดีที่ปิดสวิทช์ทัน ไฟดูดก็เคย หัวแร้งไหม้มือ.....ยังก็แต่หลอดไม่เคยพัง..เดี๋ยวต้องลอง
เอ๊ะ...ไม่ลองดีกว่า ยิ่งไม่ค่อยมีใช้กับเขาอยู่
prepiag
-
ส่วนของผมอยากจะให้ทุกท่านตรวจสอบดูเครื่องมือของตัวเองว่าอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานหรือไม่
มีอยู่ครั้งหนึ่งผมทดลอง power supply แต่สายมิเตอร์ตรงโคนที่วัดมันมีรอยรั่วอยู่ ทำให้ช๊อตข้อมือถึงกับเป็นรอยไหม้เลยที่เดียว :blowup
-
ที่โดนบ่อยก็ไอ้เจ้าตะกั่วกับหัวแร้งครับ ตะกั่วชอบหยดใส่แขนขาประจำตอนโดนใหม่ๆรีบปัดทันทีหนังเปิดทุกที ตอนนี้รู้สูตรแล้วปล่อยให้มันติดหนังจนเย็นแล้วค่อยเอาออก :'(
เมือวานก็พึ่งโดนได้แต่มองตาปริบๆ :) ไอ้เจ้าหัวแร้งก็ชอบไถลโดนแขนหรือไม่ก็หล่นใส่ขา :black_eye อีกอันหลอดร้อนๆเวลาเอื้อมมือต่อนู้นต่อนี้พลาดโดนหลอดร้อนๆ เหมือนโดนปล่องรถเครื่องเลย N] แต่ไม่เป็นไรใจรัก ;D
-
ของผมตอนปรับแต่ง 1626 ครับผมพันหม้อแปลงจ่ายไฟสูงมาหลาย Tap เพื่อทดลอง Tab ที่ไม่ได้ใช้ก็ปล่อยใว้เพราะไม่เห็นทองแดงโผล่ออกมาไม่ได้เอาอะไรหุ้มใว้ทำไปทำมาเกิดไฟสว่างวาบเหมือน Flash ถ่ายรูปแล้ว Fuse ก็ขาดดูไปดูมาปรากฏว่าปลายสายไฟที่ทิ้งใว้ไม้ได้หุ้มลัดวงจรกับแท่นครับ ถ้าไม่มี Fuse ไม่อะไรสักอย่างคงต้องพังไปแล้ว และถ้าไม่ไช่แท่นเครื่องแต่เป็นคนไม่รู้จะเป็นงัย :cold :cold :cold
คำเตือน
1 Fuse สำคัญมากอุบัติเหตุไม่เกิดตอนฟังหรอกครับแต่จะเกิดตอนเราปรับแต่งอย่าลืมไส่ Fuse กันไว้ก่อน
2 สายไฟหม้อแปลง Tab ที่ไม่ใช้หาอะไรหุ้มซะ อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง ของผมมัวแต่ผลัดไว้คิดว่าไม่เป็นไรเลยโดนซะ หลังจากนั้นผมก็ไปเอาท่อหดขนาดเล็ก (ซึ่งมีอยู่แล้ว) มาตัดเละลนไฟหุ้มใว้ใช้เงลาไม่เกิน 5 นาทีก็สร็จ
-
อีกอย่างนึงที่เคยโดนคือหัวแร้งไหม้ผมตัวเอง :'(
-
ป.ล. ท่านสิงห์ได้เผยความจริงก็คราวนี้แหละ เกี่ยวกับแผลที่ต้นคอน่ะ
คดีผมหมดอายุความไปแล้วครับ เอาผิดไม่ได้ ;D ;D ;D
ท่องคำนี้ไว้ครับ " จงอย่าประมาท " แล้วจะมีความสุขกับการ ดีไอวาย ไปอีกนาน ขอให้ทุกท่านโชคดีมีเงินใช้ปลอดภัยทุกประการครับ d_d
-
ชองผมส่วนใหญ่ ปากพองเพราะไปอมหัวแร้ง ไม่ใช่ ชอบเอาห้วแร้งมาดมดูว่ามันร้อนหรือยัง โดนประจำ อีกอย่างก็ไฟดูดประจำครับ
-
อีกอย่างนึงที่เคยโดนคือหัวแร้งไหม้ผมตัวเอง :'(
ใช่ครับ บางครั้งตอนบัดกรีเราจะต้องจัดสายให้เข้าที่ แต่ขี้เกียจวางหัวแร้ง ปลายหัวแร้งก็จะสะเป๊ะสะปะ ไปโดนนู่นโดนนี่เป็นประจำ เพราะตอนนั้นสายตาเราไปจดจ่อกับสายที่เรากำลังจัดอยู่ ก็เลยไม่ได้ระวังหัวแร้ง...... ระวังด้วยครับ
-
ไม่รู้เรียกว่าประสบการณ์หรือเปล่าครับ เนื่องจากผมชอบใช้แบตเตอรี่ไบแอสมีอย่างครั้งหนึ่งเปิดฟังแอมป์ไปได้สักพักมันก็มีเสียงก็อกแก็กออกลำโพง ในใจคิดว่า opt กลับบ้านเก่าลำโพงจะเจ๊งเปล่า เช็คไปตั้งหลายอย่างมั่วเอาตอนแรกสรุปว่า opt เจ็ง เพราะเปลี่ยนลูกใหม่เข้าไปก็หาย แต่พอฟังไปได้ 3 -4 วัน มันก็เป็นอีกแล้ว สุดท้ายไปเจอต้นเหตุเลยครับ รังใส่ถ่านมันชื้นหรือว่าอะไรก็ไม่รู้ อยู่ดีมันเป็นสนิมขึ้นมารวมไปถึงที่ขั้วของตัวถ่านเองด้วย โดยเฉพาะถ่านจำพวกที่ชาร์ตไม่ได้ ทำให้กระแสและแรงดันที่ไหลผ่านไม่ค่อยดี บางที่ไบแอสเป็น 0 volt กระแสน่าจะไหลผ่านเยอะ เพลตแดงหลอดเจ๊งไปเลยก็มีครับ พอเปลี่ยนรังถ่านใหม่ก็หายสนิทเลย หลังๆมาผมก็ใช้วิธีการบัดกรีตรงขั่วถ่านเลยครับ แน่นหนาไม่มีหลุด แต่มีต้องพึงระวังอีกเช่นกันสำหรับ ถ่านจำพวกที่ชาร์ตไม่ได้ ถ้าเอาหัวแร้งจี้ตรงขั่วนานไปจะทำให้ถ่านกลับบ้านเก่าไปเลยครับ อย่างการไบแอสไฟสูงๆๆๆๆ ที่จำเป็นต้องใช้ถ่าน 9 volts มาต่อกันหลายก้อนต้องยอมใช้ socket เสียบขั่วถ่านละครับ เพราะจะให้ไปซื้อถ่าน 9 volts แบบชาร์ตได้ก็แพงบรรลัย :bye1 :bye1 :bye1 ก่อนละ 200-400 บาท ถ้าใช้ ข้างละห้าก้อนไม่อยากจะคิดเลย :cold :cold :cold :cold :cold :cold :cold
-
อย่าใจร้อนครับ ก่อนจะจ่ายไฟ ให้เก็บเครื่องมือ ไขควง คีม... .ทำความสอาด ให้เรียบร้อยก่อน ตรวจดูให้ครบว่าต่อถูกต้องแล้ว ไปอาบน้ำ (ก็ที่บ้านนะแหละ) แล้วมาดูอีกงานอีกทีเมื่อสดชื่นแล้ว
งานเจาะ ขัด... ก็ค่อยๆทำ ไม่งั้นออกมาไม่สวย ไม่มีเวลา ไม่เป็นไร เก็บไว้ทำทีหลังได้ ของผมมักจะโดนตอนรีบๆนี่แหละ เดียวนี้เลยใจเย็น ดองไว้ชะเค็มเลย ถ้าไม่พร้อม อย่าฝืน
-
เคยสะเพร่าปลายหัวแร้งไปจี้เอาสายไฟของมันเองไหม้ครับ ผมเองก็รีบจะทำให้เสร็จ..เห็นว่ายังใช้ได้เลยไม่ได้สนใจทำต่อไป :nonono... ซักพักสายไฟตรงที่ไหม้มีทองแดงโผล่ออกมาแกว่งมาช๊อตพุงครับ 2f 2f ..เล่นซะกระเพื่อมเลย :black_eye...
-
:D :D โดยมากผมจะโดนหัวแร้งไหม้ผม เพราะว่าผมไว้ผมยาว เวลาจะทำอะไรให้รวบผมให้เรียบร้อยก่อนการทำงาน ซึ่งโดยมากมักจะขีเกียจเอาซะมากกว่า พอโดนมาก็มาเสียดายผม บางทีถึงกับแหว่งแถมมีกลิ่นอีกต่างหาก แล้วก็เวลาลองอะไรทีแรกจะหาจุดหลบจาก C ต่างๆที่อาจจะระเบิดได้ :victory :victory
-
ทำหม้อแปลงไหม้ไปตัวนึง
เป็นหม้อแปลงแบบคว่ำ เจาะมาไม่พอดี (ตอนแรกคิอดว่าน่าจะรอดพ้น) แต่ไม่เป็นอย่างนั้น มันคงแตะกับตัวถัง พอเปิดปุ๊ป ก็ยังไม่เป้นไร ห้านาทีผ่านไป ควันไฟขโมงเลยครับ ปิดเคตรื่องแทบไม่ทัน
ส่วนที่โดนประจำคือไฟจาก C ดูด เวลาเปลี่ยนอุปกรณ์
-
ที่ผมเคยโดนตอน DIY ใหม่ๆ คือ C Electrolyte ในภาคจ่ายไฟครับ หลังจากเราปิดเครื่อง แล้ว ยัง มีไฟค้างอยู่ โดยเฉพาะใน Line B+ ผมเคยโดน เข้าไฟสะดุ้งเลย แถม หลอด 12AX7 Long Plate แตกไปเลย :cry2 ตอนหลังเลยรู้แกวเลยใช้ Discharge Curcuit หรือ ต่อ R ลง Ground ในภาคจ่ายไฟทิ้งๆ ไว้ Discharge ประจุ ครับ :victory
-
ที่ผมเคยโดนตอน DIY ใหม่ๆ คือ C Electrolyte ในภาคจ่ายไฟครับ
เพิ่งโดนเมื่อคืนคับถอดหลอดออก มันแน่นมาก ดันไปโดน ขั้ว c-filter เหอๆๆๆ มือชาคับพี่น้อง :'( :'( :'(
-
:) ผมเหรอครับ โดนเหมือนกัน ล่าสุดก็ C filter นี่หละครับ ก็ชอบค่ามาก ๆ มันเลยค้างนานหน่อย ก็เลยเอา R 50K 5W คร่อมเข้าไปก็เลยดีขึ้นป้องกันได้ระดับหนึ่งครับ :D :D
-
สมัยยังเด็กๆ อายุ 11-12 ปี อ่ยู่แถวฝั่งธน ข้างบ้านเป็นศาลเจ้า เวลาถึงซีซั่นงานงิ้ว
ก็จะมีงิ้วมาแสดง กว่าจะหมดทัวร์นาเม้นท์เป็นเดือนครับ หนวกหูมาก อ่านหนังสือไม่ได้เลย
ทั้งเสียงการแสดงและเสียงจากเครื่องปั่นไฟเครื่องใหญ่ ซึ่งจะเริ่มเปิดกันตอนเย็นไปจนดึ่ก
วันหนึ่งผมก็จัดการหาสายไฟทองแดงเส้นใหญ่ ต่อเชื่อมระหว่างขั้ว 2 ขั้ว ของเครื่องปั่นไฟ
เข้าด้วยกันอย่างแน่นหนา(เครื่องดับอยู่นะครับ) แล้วหักกิ่งไม้สดพรางไว้ จุดประสงค์ก็เพื่อ
แก้แค้นที่ทำให้อ่านหนังสือสอบไม่ได้เลย จะนอนยังนอนไม่หลับเพราะฟังไม่รู้เรื่อง
หลังจากจัดการเสร็จก็ไปเรียนหนังสือตามปกติ และบอกผู้ปกครองว่าต้องซ้อมกีฬาถึงเย็น
กลับถึงบ้านก็เกือบ 2 ทุ่ม โรงงิ้วก็สว่างไสวตามปกติ คิดว่าผลงานตัวเองคงโดนคนสตาร์ท
เครื่องปั่นไฟพบเจอแล้วปลดออก ก็รอจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้นก็ไปเลาะแระดูผลงาน ปรากฎว่า
เส้นลวดเส้นใหญ่ขาดกระจุยหล่นอยู่แถวนั้น ข้างๆ เป็นรั้วไม้ มีรอยไหม้ดำๆ กิ่งไม้สดเหี่ยวเฉา
เป็นอันว่าเครื่องไม่พังอย่างที่ผมคิด แบบนี้เป็นผลงานได้ไหมครับ
มีอีกเรื่องนึง.....อันนี้แรงจริง
-
รูปข้างบนเป็นเวทีประกวดมิสไชนีสครับ
เรื่องที่เล่นกับไฟฟ้าแล้วเกือบเสียชีวิตอีกเรื่องก็คือการเล่นวิทยุแร่ตอนสักอายุ 12-13 ครับ
ผมซื้อวิทยุแร่แบบไฮโซมามาเล่นเครื่องหนึ่ง มันเป็นแบบปรับหาคลื่นความถี่ได้ รับคลื่น
เอเอ็มนะครับ ตัววิทยุเป็นกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ด้านหนึ่งมีสายต่อตอนปลายเป็นปากคีบ
อีกด้านหนึ่งมีสายต่อหูฟัง ไม่ต้องใช้ถ่านหรือพลังงานอะไรนะครับ ผมก็เที่ยวเอาปากคีบ
ไปคีบตามสื่อที่เป็นโลหะรับสัญญาณ สำรวจไปเรื่อย รั้วลวดหนาม สังกะสี หลังคา ประตู
เสาวอลเลย์ ประมาณว่าอันไหนคีบได้คีบหมดเลย วันหนึ่งไปกินข้าวบ้านลุง ก็นั่งกินข้าว
ล้อมวงกับพื้นนะครับ นั่งขัดสมาธิกันเป็นวง ผู้ใหญ่ก็ดื่มไปโม้ไป เด็กๆ ก็นั่งฟังกินกับเล่น
ตัวผมก็ฟังวิทยุแร่ไปด้วย แล้วก็คีบไปรอบๆ ตัว จนกระทั่ง...
-
ผมแหย่ปากคีบเข้าไปในรูปลั๊กไฟสีขาว ผมทันเห็นมือตัวเองแหย่ปากคีบไปที่รูเท่านั้น
รู้สึกตัวอีกที วงกับข้าวกับแกล้มข้างหน้าผมกระจาย ตัวผมนอนเหยียดเท้าราบอยู่กับพื้น
ตัวผมคงกระตุกอย่างแรง และคงวูบไปประมาณ 5 วินาที หงายหลังผลึ่งแล้วปากคีบคง
หลุดจากปลั๊กไฟเอง ความรู้สึกตอนนั้นไม่เจ็บปวดแต่รู้สึกแน่นๆ ทึบๆ เหมือนโดนบีบอัด
ด้วยแรงกดจากทุกทิศทาง ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ถ้าความตายเป็นเช่นนี้ก็ไม่เลว
นะครับ
-
มิน่า ถึงทำแอมป์เก่ง...
อยากดูรูป ประกวด Miss Chinese อีกนะ ตั้งเป็นกระทู้นอกเรื่องก็ได้ ไม่เคยเห็นวุ้ย Bikini+Chinese Opera อย่างนี้ ต้องเรียกว่า Hybride
-
มิน่า ถึงทำแอมป์เก่ง...
อยากดูรูป ประกวด Miss Chinese อีกนะ ตั้งเป็นกระทู้นอกเรื่องก็ได้ ไม่เคยเห็นวุ้ย Bikini+Chinese Opera อย่างนี้ ต้องเรียกว่า Hybride
จัดให้คุณดอนนะครับ http://foolishtext.exteen.com/category-gender
-
มีเรื่องนึงครับ เครื่องทำงานปกติทุกอย่าง ใช้งานได้อย่างดี ใช้ไปใช้มาวันหนึ่งมันช้อตขึ้นมา เปิดเครื่องไปดู ก็พบว่า pcb ระหว่าง ไฟ B+ ช่วงหนึ่งที่อยู่ใกล้ground ช้อต ช้อตมาจากขี้ผึ้งที่ไหลลงมาผสมกับฝุ่นเป็นตัวนำไฟฟ้า ขี้ผึ้งมาจากไหน มาจากไม้ปัดเงาครับ แม่บ้านหวังดี เอาไม้ปัดเงา (ไม้ที่ขนยาวๆ มีน้ำยาเคลือบอยู่ ที่ใช้ปัดรถนะครับ) มาปัดที่เครื่อง ไอ้ไม้ปัดนี่มันจะทิ้งคราว wax ไว้ด้วย พอมันร้อน ก็ละลายลงไปจับกับแผ่น pcb พอมีฝ่นมาผสมก็ได้เรื่องครับ
-
ของผมเจอมดต่อตัว ลัดวงจรปลั้กพ่วงครับ 2f
-
ที่เคยๆเจอก็ด้วยความประมาทต่อ C Filter ของภาคจ่ายไฟกลับขั้วกัน เปิดเครื่องได้ก็เตรียมมิเตอร์มาเช็คไฟในวงจรพอก็ก้มหน้าลงไปใกล้ๆก็ได้ยินเสียงลั่นเปรี๊ยะๆเบาๆสองสามครั้งพร้อมกับกลิ่นที่คุ้นเคยเลยรีบปิดเครื่องแล้วหาต้นตอเจอเจ้า C Electro ที่ใช้เป็น Filter ตัวอ้วนกลมขึ้นขนาดกำลังน่ารักเลยครับ ดีนะที่ไม่ระเบิดใส่หน้าไม่งั้นหมดหล่อแน่ๆ
-
เกี่ยวกับการตั้งย่านมิเตอร์ครับ
ผมใช้มิเตอร์วัดไฟเพลตโดยเอาปากคีบๆแช่ไว้เลย ต่อมาไม่รู้อะไรดลใจเลยเลยบิดกลับมาที่โอห์มมิเตอร์เพื่อคาริเบลตเข็ม แล้วลืมหมุนกลับไปที่โวลต์มิเตอร์ เปิดเครื่องฟังเพลงสบายใจ ไหนลองดูไฟเพลตซิว่าได้เท่าไหร่กันหนอ !!@#$%!! สนิทรักกกสสส์ เปิดฝาดูข้างในกลายเป็นนิโกลไปแล้วมิเตอร์ตัวแรกในชีวิต....ไม่เป็นไร ตกเย็นออกไปถอยมิเตอร์แบบเข็มออกมาใหม่จากตลาดนัด (ร้อยเก้าเก้าบาท) เอากลับไปเช็คแอมป์ตัวเดิม ท่าทางวันนี้จะเป็นวันของเรา ไฟเพลต ไฟเคโทด จดบันทึก อืม...ไม่มีอะไร ชั่วโมงต่อมาวัดไฟดูอีกที แต่คาริเบลตเข็มก่อนที่ X1 โอห์มมิเตอร์ แล้วไปคีบวัดไฟเพลต....แว๊บบบบบ มีลำแสงออกมาจากตัวมิเตอร์ เอื้อมมือไปปิดสวิตซ์ตามสัญชาตญาณ เปิดฝาออกมาดู เอาอีกแล้วกลายเป็นลูกครึ่งนิโกลไปอีกตัว (แต่ยังใช้งานได้ครับ) K] K] K]
-
ระวังไฟสูงใว้บ้างนะครับ...ผมมือเจ๊งเป็นเดือนเลยครับ
-
แหะๆ ของผมก็มี :headphone
- ต่อไฟบวกเข้าลบ ลบเข้าบวก ไปหา regulator นั่งเช็คอยู่ตั้งนาน ทำไมไฟมันตกหว่า จนกระทั่งบริดจ์ร้องเปรี๊ยะๆเตือน ถึงได้รู้ :black_eye
- regulator ต่อผิดขา พังอีกนั่นแหล่ะ ใครจะไปคิดว่า reg+ กะ reg- มันดันจัดขาไม่เหมือนกัน :black_eye
- เอา silmic2 35v ไป output coupling gain clone ซึ่งใช้ไฟแค่ 26-0-26v (เอง) เพราะว่ามี offset เกือบ 10v ที่ output (ทำไมเป็นงี้หว่า) เบิร์นไปได้ซักพัก แหม เสียงดีจัง เนียนๆ ฟังต่อไปอีกซักพักเดียว เปรี้ยง! กลายเป็น pop corn ไปเลย มานั่งนึกดู electrolyte มันไม่ค่อยชอบ reverse voltage แล้วถ้านับกันจริงๆ 26-0-26 มันก็คือ 0-52 :secret /1.414 ก็ประมาณ 36กว่าๆ อืมม ไม่พังก็แปลกแล้ว :black_eye
- c filter มันช๊อตกับโต๊ะอลูมิเนียมที่ใช้ เล่นซะเป็นรูเลย เพราะคิดว่ามันนานแล้วไม่คิดว่ามันจะยังมีไฟค้างอยู่ แต่คิดผิดถนัด ตอนนี้ซึ้งแล้วครับ :black_eye
แล้วก็มีเอาหัวแร้งไปพาดกับสาย โดนตะกั่วร้อนๆ หัวแร้งนาบแขน อุปกรณ์ที่ยังร้อนๆลวกมือ โอย สารพัด :giveup
-
มีครั้งนึงครับ หัวแร้งที่ใช้มันเก่ามากแล้ว สายไฟเปื่อยและมีเส้นทองแดงโผล่มาหนึ่งเส้น เส้นเดียวเท่านั้น แค่นี้ก็ดูดจนสะดุ้งแล้วครับ
หลังจากนั้นเลยรีบเผ่นไปซื้ออันใหม่ในบันดล :plane
-
เวลาเจาะซ๊อคเก็ต เหยีบแผ่นอลูมิเนียมแน่น ๆ นะครับ
เคยแผ่นอลูมิเนียมหมุนตามสว่านเฉียวขาไปนิดเดียว
-
เรื่องหัวแร้งครับ
สมัยเด็กๆ เอาหัวแร้งแบบปืนของพ่อ แบบมีหลอดไฟ อันใหญ่ๆ หนักๆ โบราณๆ สีน้ำตาลเข้ม (สมัยก่อนที่บ้านซ่อมมอเตอร์) แอบเอามาบัตกรีเล่น โดยไม่รู้ว่าเป็นอันสำรองเพราะพลาสติกตัวถังมันร้าวพอสมควร
เอามาเล่นไปเล่นมา ผลก็คือ ไฟลุกคามือครับ :blowup เข็ดเลย + โดนด่าด้วย ตอนนี้ถ้าลูกผม เล่นแบบนั้นก็คงทำเหมือนกัน :kicking
รู้แค่ว่าหัวแร้งแบบนี้น่าใช้ เพราะมีไฟ (บัตกรีตอนมืดๆได้) และ ร้อนเร็วมากๆ
-
จขกท. อยากทราบเรื่องงาน ดี ไอ วาย เป็นหลักนะครับผม เล่าให้ฟังอีกเรื่องนะครับ
ครั้งนี้เป็นเรื่องของการทำระเบิด
เมื่อปี พ.ศ. 2530 ผมเริ่มทำงานทำการเป็นหลักแหล่งแล้ว
ที่พักของผมเป็นอาคารหอประชุมที่มีห้องประตูเหล็กยืด 3 ห้อง
ทึบ 3 ด้าน ทางประตูนี่โปร่ง ฝุ่นเข้าได้ ครูพรคงทราบดีว่าอาคารแบบไหนนะครับ
ที่จริงผมทำงานที่อื่น แต่อาศัยเขาอยู่ ก็แบ่งกันเป็นห้องผู้ชายห้องนึง ผู้หญิง 2 ห้อง
อาคารที่ว่านี้อยู่ติดกับลานตากมันสำปะหลังของเอกชนที่ใหญ่มาก ที่ลานมันจะทำงาน
กันทั้งวัน ถ้าเป็นฤดูมันออกจากไร่ก็แถมกันอีกครึ่งคืน ช่วงเวลาไหนฝนตกจะมีกลิ่นเหม็น
มันเน่า ชื้น แสบจมูก จนกว่าจะตากมันได้แห้งสะเด็ดน้ำ ถ้าช่วงแล้งก็จะมีฝุ่นตระหลบ
อบอวลตลอด
ผมรู้สึกเป็นทุกข์มาก เคยยกพวกไปคุยกับเจ้าของลานมันเหมือนกันแต่ก็ไม่สามารถยุติได้
จากทุกข์ก็เป็นเก็บกด เกิดเป็นความแค้น จึงเกิดไอเดียสร้างอะไรที่มันน่ารำคาญได้สาสมกัน
ผมจัดการไปตลาดครับ ซื้อลูกปิงปองมา 20 ลูก แก๊ปที่ใช้กับปืนแก๊ปแบบที่เป็นแผงกระดาษ
แดงๆ นะครับ อีก 4 กล่อง แล้วก็เศษหินก้อนเล็กๆ แถวๆ ที่พักอีกกระป๋องโอวัลติน แล้วก็
เทปพันสายไฟสีดำอีกหลายม้วน จัดการสร้างระเบิดโดยการแกะแก้ปออกจากแผงกระดาษ
ตอนแรกผมกะทำ 5 ลูกก่อน เป็นการทดลอง เอาแก้ปมาบดในครกครับ บดเบาๆ ใจเย็นๆ
พอได้แก้ปป่นๆ ก็นำมาคลุกๆ ผสมกับเศษหิน กรอกใส่ลูกปิงปอง เจาะรูเล็กๆ ที่ลูกปิงปองนะครับ
พอเต็มได้ที่ อัดให้แน่นหน่อยๆ พันทับให้แน่นปั๋งอีกทีด้วยเทปพันสายไฟ เตรียมไว้รอตอนค่ำ
ตกกลางคืนกินข้าวปลาอาหารเสร็จ จะได้เวลานอน แต่ลานมันข้างๆ ยังไม่นอนครับ ทั้งเสียง
รถที่ไถตักมัน ทั้งฝุ่น จะนอนก็หนวกหู และหวาดระแวงว่าตื่นมาจะมีฝุ่นอยู่เต็มปอด จัดการลำเลียง
ระเบิดปิงปองที่ ดี ไอ วาย ไว้ออกมา ทะยอยอัดไปทีละลูก คือพอรถไถวนมาใกล้ๆ ก็อัดไป
ได้สัก 3 ลูก ลานมันก็เลิกงานครับ
ผมได้ใจ วันรุ่งขึ้นเป็นวันหยุด พอสายๆ ผมก็ทำการ ดี ไอ วาย ระเบิดอีกรอบ ก็ทำแบบเดิม
แกะแก้ปเสร็จก็บดในครก รอบนี้แก้ปเยอะครับ ผมก็บดไป ปากก็คุยฟุ้งกับเพื่อนๆ ไปด้วย
ไม่นานครับ ผมได้ยินเสียง ฟุ้บ ....แลเห็นไฟแวบที่หางตา หันหน้าหลบโดยสัญชาตญาณ
ทิ้งครก ทิ้งสาก กระโจนลงจากเตียง 2 ชั้น ที่ผมนั่งโขลกแก้ปอยู่ชั้นบน มองดูแขนซ้าย
ที่กำสาก ขาวไปทั้งแถบ ตอนนั้นยังไม่แสบร้อนครับ รีบเดินไปดูกระจก หน้าซึกซ้ายก็ขาว
ขนคิ้วก็หายไปครึ่งคิ้ว เส้นผมซึกนึงหายไปด้วย ได้ยินเสียงเพื่อนที่นอกห้องโวยวายใหญ่
ควันอะไร ควันอะไร เป็นไรไม๊ พอเห็นหน้าผมก็พากันหัวเราะกันน้ำตาไหลพรากๆ ผมก็
หัวเราะขันตัวเองไปด้วย รีบเดินไปโอ่งน้ำล้างคราบสีขาวออก โชคยังดีที่ไหม้แค่มือซ้าย
ขนาดบาดเจ็บ นอกนั้นไม่เป็นไร ก็มือไหม้ครับ แต่ไม่พอง เพียงแต่ดำๆ แสบร้อนนิดหน่อย
พอสัปดาห์นึงผ่านไปก็ลอกออกหมดครับ
แค่นี้ยังไม่พอ ... ยังไม่หายแค้นครับ พอหายบาดเจ็บเล่นลูกซองสั้นเลย วันนั้นฝนตกพรำๆ
มันก็ยังขับรถส่งเสียงดังอยู่นั้นแล้ว เบอร์ 20 ครับ ยื่นออกไปทางหน้าต่าง ทีนี้เวลายิงก็ต้อง
ยิงขึ้นฟ้า ตูม... ตามด้วยเสียงผมครับ อุ้ย ๐๐๐ ๆ ปืนสะบัดขึ้นบนอย่างแรง เพราะยิงมือเดียว
ข้อนิ้วโป้งฟาดเต็มแรงสะบัดเข้าที่วงกบเหล็กครับ เหล็กยุบครับ เพราะโดนปีนด้วย มือผม
ถลอกแตกเลือดไหลครับ ป้าดโท่ นึกขึ้นมายังไม่หายแค้นครับ หลังจากนั้นไม่กี่เดือนผมก็
ย้ายที่ทำงานมาอยู่ในเมือง ละทิ้งอุดมการณ์ ภูเขา ถ้ำ ลำธาร อาหารป่า ผ่านไปสิบกว่าปี
ผ่านไปแถวนั้นอีกทีเห็นมีกำแพงสูงกว่าปกติกันพรมแดนกันไว้ ความแค้นค่อยคลายลงครับ
จบครับเรื่องนี้ ยังมีเรื่องอื่นอีกล้วนพิเรนทร์ทั้งนั้น ขอนั่งนึกก่อนครับ
-
จขกท. อยากทราบเรื่องงาน ดี ไอ วาย เป็นหลักนะครับผม เล่าให้ฟังอีกเรื่องนะครับ
ครั้งนี้เป็นเรื่องของการทำระเบิด
เมื่อปี พ.ศ. 2530 ผมเริ่มทำงานทำการเป็นหลักแหล่งแล้ว
ที่พักของผมเป็นอาคารหอประชุมที่มีห้องประตูเหล็กยืด 3 ห้อง
ทึบ 3 ด้าน ทางประตูนี่โปร่ง ฝุ่นเข้าได้ ครูพรคงทราบดีว่าอาคารแบบไหนนะครับ
ที่จริงผมทำงานที่อื่น แต่อาศัยเขาอยู่ ก็แบ่งกันเป็นห้องผู้ชายห้องนึง ผู้หญิง 2 ห้อง
อาคารที่ว่านี้อยู่ติดกับลานตากมันสำปะหลังของเอกชนที่ใหญ่มาก ที่ลานมันจะทำงาน
กันทั้งวัน ถ้าเป็นฤดูมันออกจากไร่ก็แถมกันอีกครึ่งคืน ช่วงเวลาไหนฝนตกจะมีกลิ่นเหม็น
มันเน่า ชื้น แสบจมูก จนกว่าจะตากมันได้แห้งสะเด็ดน้ำ ถ้าช่วงแล้งก็จะมีฝุ่นตระหลบ
อบอวลตลอด
ผมรู้สึกเป็นทุกข์มาก เคยยกพวกไปคุยกับเจ้าของลานมันเหมือนกันแต่ก็ไม่สามารถยุติได้
จากทุกข์ก็เป็นเก็บกด เกิดเป็นความแค้น จึงเกิดไอเดียสร้างอะไรที่มันน่ารำคาญได้สาสมกัน
ผมจัดการไปตลาดครับ ซื้อลูกปิงปองมา 20 ลูก แก๊ปที่ใช้กับปืนแก๊ปแบบที่เป็นแผงกระดาษ
แดงๆ นะครับ อีก 4 กล่อง แล้วก็เศษหินก้อนเล็กๆ แถวๆ ที่พักอีกกระป๋องโอวัลติน แล้วก็
เทปพันสายไฟสีดำอีกหลายม้วน จัดการสร้างระเบิดโดยการแกะแก้ปออกจากแผงกระดาษ
ตอนแรกผมกะทำ 5 ลูกก่อน เป็นการทดลอง เอาแก้ปมาบดในครกครับ บดเบาๆ ใจเย็นๆ
พอได้แก้ปป่นๆ ก็นำมาคลุกๆ ผสมกับเศษหิน กรอกใส่ลูกปิงปอง เจาะรูเล็กๆ ที่ลูกปิงปองนะครับ
พอเต็มได้ที่ อัดให้แน่นหน่อยๆ พันทับให้แน่นปั๋งอีกทีด้วยเทปพันสายไฟ เตรียมไว้รอตอนค่ำ
ตกกลางคืนกินข้าวปลาอาหารเสร็จ จะได้เวลานอน แต่ลานมันข้างๆ ยังไม่นอนครับ ทั้งเสียง
รถที่ไถตักมัน ทั้งฝุ่น จะนอนก็หนวกหู และหวาดระแวงว่าตื่นมาจะมีฝุ่นอยู่เต็มปอด จัดการลำเลียง
ระเบิดปิงปองที่ ดี ไอ วาย ไว้ออกมา ทะยอยอัดไปทีละลูก คือพอรถไถวนมาใกล้ๆ ก็อัดไป
ได้สัก 3 ลูก ลานมันก็เลิกงานครับ
ได้ความรู้เรื่องการ DIY (ระเบิดปิงปอง)ด้วยครับ ;D
-
เวลาเจาะซ๊อคเก็ต เหยีบแผ่นอลูมิเนียมแน่น ๆ นะครับ
เคยแผ่นอลูมิเนียมหมุนตามสว่านเฉียวขาไปนิดเดียว
ผมว่าใช้ ปากกาเล็กๆจับดีกว่าครับ หวาดเสียวน้อยหน่อยครับ ใช้เหยียบนี่โดนกันมาหลายคนแล้วครับ :secret
-
:D :D โดยมากผมจะโดนหัวแร้งไหม้ผม เพราะว่าผมไว้ผมยาว เวลาจะทำอะไรให้รวบผมให้เรียบร้อยก่อนการทำงาน ซึ่งโดยมากมักจะขีเกียจเอาซะมากกว่า พอโดนมาก็มาเสียดายผม บางทีถึงกับแหว่งแถมมีกลิ่นอีกต่างหาก แล้วก็เวลาลองอะไรทีแรกจะหาจุดหลบจาก C ต่างๆที่อาจจะระเบิดได้ :victory :victory
อันนี้ผมไม่มี.. ไม่มีปัญหาครับ 2f 2f 2f
-
ของผมเคยครั้งหนึ่งจากการเปลี่ยนสายปลั๊กไฟใหม่นานมาแล้วเสร็จแล้วไม่ได้เอาสายเส้นเก่าทิ้งวางอยู่ใกล้ๆสายเส้นใหม่ที่เปลียน แล้วที่นี้พอจะเสียบปลั๊กไฟไม่ทันได้สังเกตุดันไปคว้าเอาปลั๊กสายเส้นเก่าไปเสียบเต้าไฟ เท่านั้นแหละไฟแล้ปและสปาร์กข้างเท้าเลย ดึงปลั๊กออกแทบไม่ทัน ดีที่ไม่ไปโดนเท้าตัวเองหรือไปเหยียบเอาเข้า เดี่ยวก็จะกลายเป็นการเสียบปลั๊กไฟให้ช็อตตัวเอง นึกแล้วยังเสียวไม่หายจนเดี่ยวนี้ (( K] :nono จากนั้นก็จำจนตายว่าเปลี่ยนสายไฟใหม่แล้วเอาเส้นเก่าไปทิ้งเลยทันทีกลัวเผลออีก