HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม Thai DIY Audio => ข้อความที่เริ่มโดย: harn ที่ 27 พฤษภาคม, 2007, 08:48:03 pm
-
สวัสดีครับพี่ๆน้องๆเพื่อนๆทุกท่าน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาคุณหมอโทรมาขอทดลองใช้ Pre 6SN7 ที่ผมมีจะทดลองต่อกับ SE 6C41 เพื่อทดลองหาหลอด ที่เป็น หลอด Driver หลายๆแบบเพื่อหาแนวเสียง ก็เลยมีรายการ Micro meeting เล็กๆที่บ้านผมครับ จริงๆก็ไม่มีวิชาการเท่าไรแค่ต่อเครื่องเล่นๆกันครับ ;D
ตอนแรกก็ทดลองฟัง 2A3 ของผมก่อนครับ สัก 3 -4 เพลง หลังจากนั้นก็ต่อ 6c41 ของคุณหมอ กับPre 6SN7 ของผมครับ ทดลองฟัง เสียงยังอั้นๆครับเหมือนไม่เต็มใจร้องเพลง ถึงตอนนี้ 2A3 ยังนำอยู่หลายช่วงตัวครับ c) :kicking หลังจากนั้นก็วิเคราะห์กันว่าเกนยังไม่พอ Driver 6c41 พอดีผมมี Pre12au7 วงจรคุณมดอีกตัวเลยเอามาต่ออนุกรมกันอีก ตัวครับ ต่อเสร็จก็เปิดฟัง ทีนี้ทั้งผมทั้งคุณหมอ ก็ร้องโอ้โห พร้อมๆกัน เสียงดีขึ้นแบบฟ้ากับเหวเลยครับ (เวอร์ไปหน่อย) ;D ที่เห็นชัดๆ Dynamic ดีกว่า 2a3 ของผมอีกครับ ส่วนเสียงกลางเสียงแหลมต้องใช้รูปถ่ายครับ ในขณะที่คุณหมอใช้หม้อแปลง 15 Volt 1 Amp.VRK และเป็นเครื่องหลอดเครื่องแรกของคุณหมอด้วย ไม่อยากคิดถ้าคุณหมอ เปลื่ยนหม้อแปลงดีๆ 2A3 ผมคง :black_eye :shutup เดี๋ยวรายละเอียด ด้านวงจรให้คุณหมอมาตอบเองดีกว่าครับ
-
หนุ่มน้อยตัวเล็กเด็กข้างบ้านมาเป็นสักขีพยานด้วยครับ และภาพรวมๆที่ใช้ทดสอบวันนั้นครับ
-
อ้าวววววววววว...เขาไป Micro meeting กันตรงไหนเนี้ย...ที่หนามบิน ป่ะคับ นี่ถ้ารู้ล่วงหน้าว่าจะไปมั่ง :cry2...วันก่อนไปฟังของพี่ อบ มาที่เบิดท้ายขนส่ง คับ O0
-
มารายงานตัวครับ ต้นเหตุของการ meeting ครั้งนี้ครับ
สืบเนื่องจากการที่ไม่สามารถเเก้ปัญหาได้ครับ เสียงที่ได้จากแอมป์ตัวนี้ฟังครั้งแรกน่าตื่นเต้นครับ (ตามประสาคนที่ทำเอง ของตัวเองต้องดีที่สุดครับ) เเต่พอเริ่มจับรายละเอียดพบว่าเสียงไม่มีพลัง ดังแต่ขาดบรรยากาศครับ คิดไม่ตกเลยต้องไปปรึกษา "อาจารย์"
-
วงจรต้นแบบที่ใช้
เอาเฉพาะภาค power ครับเนื่องจากไม่มีหลอดภาค drive :drive1และลดไฟลงมาเหลือแค่ 190v 110mA ครับ นัยว่าเพื่อความ soft ของเสียง
แต่ความจริงก็คือว่าออกแบบภาคจ่ายไฟผิดครับ มีโหลดเเล้วเหลือแค่นี้ :whistling
-
สวยมากครับ คุณหมอ O0 O0 O0
-
ไม่ได้ทำการ ground ไฟจุดใส้หลอดครับ เนื่องจากไม่ค่อยมีเสียงรบกวน (ค่อนข้างเงียบมากครับ c) ) ตามประสาอนาถาเเบบ"พ่อน้องเปรียว"
c ที่ใช้ตัวละ 10 บาท 30 บาท และ 90 (rubycon ตัวนี้หรูหน่อย)บาทครับ
ภาคจ่ายไฟใช้ c68uf= R75=c68uf=r75=c450uf ก่อนจะเเยก ซ้าย ขวาด้วย R200=c220uf
คำถามที่ต้องการปรึกษาครับ
1 ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นครับ พอมีpre 2 stage คือ pre ซ้อนกัน2ตัว 12au7+6sn7 เสียงที่ได้มีพลัง รายละเอียด บรรยากาศเเละความนุ่มนวลดีกว่าเดิมมากๆๆๆๆครับ
2 6c41 ตัวนี้ไม่ทราบว่าต้องการภาคขยายภาคแรกเเบบใหนจึงจะเหมาะครับ
ขอคำแนะนำด้วยครับกำลังจะลุยต่อ
ผมกับคุณหาญ ลงความเห็นกันว่า line stage ไม่น่าจะพอสำหรับขับ 6c41
อ้อ ผมมีหลอด ในมือ 12by7 12fx5 6922 12au7 12ax7 3ha5 3gk5 7es8 6bn8 6dj8 ไม่ทราบว่าหลอดใหนน่าจะใช้ได้ครับ เผื่อจะได้ไม่ต้องซื้อเพิ่ม
-
สวยมากครับ คุณหมอ O0 O0 O0
ขอบคุณครับ
หนึ่งคำชม เหมือน หนึ่งพันกำลังใจ
ความจริงผมได้แรงใจในการทำจากคุณเขียวหวานนี่แหละครับ
-
ขออนุญาติดันหน่อยครับ ยังไม่มีใครตอบเลย :cry2 :cry2
-
1 ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นครับ พอมีpre 2 stage คือ pre ซ้อนกัน2ตัว 12au7+6sn7 เสียงที่ได้มีพลัง รายละเอียด บรรยากาศเเละความนุ่มนวลดีกว่าเดิมมากๆๆๆๆครับ
อ้อ ผมมีหลอด ในมือ 12by7 12fx5 6922 12au7 12ax7 3ha5 3gk5 7es8 6bn8 6dj8 ไม่ทราบว่าหลอดใหนน่าจะใช้ได้ครับ เผื่อจะได้ไม่ต้องซื้อเพิ่ม
วงจร 2 Stage แบบ ใหนครับ Anode + Anode Follwer หรือ Anode+Cathode Follower ครับ
ถ้าวงจรแบบ แรก มักจัด Gain ในแต่ละ Stage ไม่มาก ผลที่ได้ คือกำลังขยายเพิ่มขึ้น (จาก 2 Stage) แต่แต่ละหลอดทำงานไม่มาก เสียงจึงไม่เกร็งครับและหลอดทำงานไม่หนัก :showoff
ถ้าแบบหลัง จะได้ Impedance ที่ต่ำลงครับ :wiggle
ผมไม่มี Data ตัวหลอด Output อยู่ในมือ แต่ว่า ถ้าใช้ 12AX7,6DJ8 นี่ขับได้เกือบหมดทุกหลอดละครับ เนื่องจาก Mu สูง ขึ้นกับว่าจะชอบเสียงมันหรือเปล่าครับ
แต่ผมอยากให้ลอง Penthode ขับดูครับ หลอดเดียว พอเลย ใช้พวก 6SJ7 นี่หลอดเอนกประสงค์ครับ ขึ้นอยู่กับว่าชอบเสียงมันอีกหรือเปล่าครับ O0
-
ลองดูวงจรนี้ครับ
ใช้หลอด EC8010 เป็นปรี
และDrive ด้วย 6SN7 แบบ SRPP ครับ
โดยอาจปรับเปลี่ยนวงจรเป็น ปรี 12AU7 + Driveด้วย 6922 ก็ได้ครับ
-
ดูท่าทางชักไม่ค่อยMicroเท่าไรแล้ว....เนาะ :clap
-
ลองดูวงจรนี้ครับ
ใช้หลอด EC8010 เป็นปรี
และDrive ด้วย 6SN7 แบบ SRPP ครับ
โดยอาจปรับเปลี่ยนวงจรเป็น ปรี 12AU7 + Driveด้วย 6922 ก็ได้ครับ
อย่างนี้ต้องลองครับ ผมมีทั้ง 2 เบอร์อยู่ในมือแล้ว จะได้เอามาใช้ประโยชน์เสียที
-
ไม่ได้เข้ามานานมากๆ มี 6c41 เป็นเพื่อนแล้วววว :clap :clap
-
มารายงานผลความคืบหน้าเเละเล่าประสพการณ์ครับ
จากที่ได้มีข้อสงสัยเรื่อง volt ของสัญญานที่ใช้ขับ 6c41c ผมเลยปรึกษากับคุณharn และได้ลองเอา step up transformer (3X) มาคั่น input ก่อนเข้า power
ผลที่ได้รับ คือ volt สวิงมาก เสียงดังๆๆ ครับ แต่................. เสียงบางและแตกพร่า แม้จะเปิดเพียงเล็กน้อย
ผมรีบกลับทาง เป็น step down ผลครับ เสียงดีเเต่เบา ครับ
ก่อนนอนประมาณ ตี2 ครับ ผมรื้อกลับเหมือนเดิม คราวนี้เกิดเรื่องครับ
เสียงที่เดิมก่อนทดลองจะไม่มีการแตกพร่า กลับได้ยินมาเมื่อเปิดดังๆ .!!!!!!!!!!!!!!! ผมไม่เเน่ใจว่ามีอะไรเสียบ้างครับและแก้ยังไงดีครับ ใครทราบช่วยหน่อย :cry2 :cry2
ต่อครับ
เที่ยงนี้ลอง 6de7 ขับแบบ anode+ cathode ครับ อุปกรณ์ เอาเท่าที่มีครับไม่ได้ละเอียดมาก แค่อยากลองฟังเสียงดู
ผลครับ มีแววดีครับ ถ้าได้ลองปรับอีกหน่อยน่าจะดีกว่านี้เสียงซ่าที่ได้ยินชัดเริ่มลดลงครับแต่ไม่หมด (แย่จังไม่น่าซนเลยเรา)
เสียดายที่ไม่มีกล้องถ่ายรูป ใว้เสร็จก่อนค่อยถ่ายรูปมาโชว์ครับ
-
ก่อนนอนประมาณ ตี2 ครับ ผมรื้อกลับเหมือนเดิม คราวนี้เกิดเรื่องครับ
เสียงที่เดิมก่อนทดลองจะไม่มีการแตกพร่า กลับได้ยินมาเมื่อเปิดดังๆ .!!!!!!!!!!!!!!! ผมไม่เเน่ใจว่ามีอะไรเสียบ้างครับและแก้ยังไงดีครับ ใครทราบช่วยหน่อย :cry2 :cry2
ถ้าต่อกลับคืนแบบเดิมเป๊ะ แล้ววัดไฟทุกจุดแล้วได้เท่าเดิม ผมเดาเอาว่าน่าจะมีจุดบัดกรีตรงไหนไม่แน่นสักจุดครับ โดยเฉพาะจุดที่ต่อลงกราว ลองขยับสายไล่ดูทุกจุดครับ
-
ก่อนนอนประมาณ ตี2 ครับ ผมรื้อกลับเหมือนเดิม คราวนี้เกิดเรื่องครับ
เสียงที่เดิมก่อนทดลองจะไม่มีการแตกพร่า กลับได้ยินมาเมื่อเปิดดังๆ .!!!!!!!!!!!!!!! ผมไม่เเน่ใจว่ามีอะไรเสียบ้างครับและแก้ยังไงดีครับ ใครทราบช่วยหน่อย :cry2 :cry2
ถ้าต่อกลับคืนแบบเดิมเป๊ะ แล้ววัดไฟทุกจุดแล้วได้เท่าเดิม ผมเดาเอาว่าน่าจะมีจุดบัดกรีตรงไหนไม่แน่นสักจุดครับ โดยเฉพาะจุดที่ต่อลงกราว ลองขยับสายไล่ดูทุกจุดครับ
ผมกลัวว่าจะเป็นเพราะมีจุดตรงไหนบัดกรีก่อนหน้านั้นไม่แน่นน่ะสิ แต่เสียงดี แล้วพอบัดกรีใหม่แน่นทุกจุดแต่ทำให้การทำงานเปลี่ยนไปเลยทำให้เสียงเปลี่ยนไปอีก ถ้าอย่างนี้ลำบากครับแต่คงไม่น่าจะใช่
-
ถ้าต่อกลับคืนแบบเดิมเป๊ะ แล้ววัดไฟทุกจุดแล้วได้เท่าเดิม ผมเดาเอาว่าน่าจะมีจุดบัดกรีตรงไหนไม่แน่นสักจุดครับ โดยเฉพาะจุดที่ต่อลงกราว ลองขยับสายไล่ดูทุกจุดครับ
พรุ่งนี้จะลองดูครับ อาจเป็นได้เพราะผมรื้อจุดลงกราวนด์หลายครั้ง
เเต่ไม่น่าจะเสียที่หลอดใช่ใหมครับ
-
คุณมะขามทำอยู่ที่ตรงไหนครับ.....เดี๋ยวจะไปช่วยอีกแรงครับ :shutup
-
ลองบัดกรีจุด ground ใหม่แล้วครับ รู้สึกว่าจะเป็นการแก้ปัญหาได้ตรงจุดแล้วครับ ดีขึ้นมากๆครับ
แต่เจออีกปัญหาครับ คือ C ภาคจ่ายไฟ ร้อนครับ ไม่ทราบว่าปรกติใหม เดิมผมไม่ทราบว่าร้อนหรือเปล่า
เดี๋ยวจะรีบหากล้องมาถ่ายรูปลงครับ
คุณมะขามทำอยู่ที่ตรงไหนครับ.....เดี๋ยวจะไปช่วยอีกแรงครับ :shutup
ทำที่บ้านหลังองค์การเภสัชฯ ว่างๆน่าจะนัดกันหลายๆคนน่ะครับ ผมมีความรู้น้อยมาก อยากขอคำแนะนำบ้าง ที่ผ่านมารบกวนคุณ harn บ่อยมากๆๆเลยครับ
-
ลองบัดกรีจุด ground ใหม่แล้วครับ รู้สึกว่าจะเป็นการแก้ปัญหาได้ตรงจุดแล้วครับ ดีขึ้นมากๆครับ
แต่เจออีกปัญหาครับ คือ C ภาคจ่ายไฟ ร้อนครับ ไม่ทราบว่าปรกติใหม เดิมผมไม่ทราบว่าร้อนหรือเปล่า
ถ้า V ที่ C ทนได้ มากกว่า V ที่มันต่อคร่อมอยู่สักประมาณ 2 เท่า น่าจะสบายใจได้อยู่นะครับ
ว่าแต่ตอนจ่ายไปเข้าหรือถอดปลั๊กออกใหม่ๆ กล้าจับ C ด้วยเหรอ ผมอ่ะ โดนดูก็ไอ้เรื่องไม่ยอมคายประจุ C นี่แหละ รู้ทั้งรู้แต่เผลอประจำ
-
ถ้า V ที่ C ทนได้ มากกว่า V ที่มันต่อคร่อมอยู่สักประมาณ 2 เท่า น่าจะสบายใจได้อยู่นะครับ
ว่าแต่ตอนจ่ายไปเข้าหรือถอดปลั๊กออกใหม่ๆ กล้าจับ C ด้วยเหรอ ผมอ่ะ โดนดูก็ไอ้เรื่องไม่ยอมคายประจุ C นี่แหละ รู้ทั้งรู้แต่เผลอประจำ
ผมใช้ค่า V ของ C ประมาณ140% ครับ (v ในวงจรมากสุด 250v ผมใช้ค่า C 250v 350v 420 v ครับ)
ส่วนที่กล้าจับเพราะว่าหลังถอดปลั๊กพบว่าประมาณ 20 วินาที จะมีการคายประจุเร็วมากครับ เหลือแค่ประมาณ 10 v ครับ
ไม่ทราบว่าตรงใหนลง ground ผิด เเละอาจเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้มีเสียงเหมือนลำโพงแตกเวลาเปิดดัง
ที่ผมว่าคล้ายเสียงลำโพงแตก ผมอธิบายยากครับ แต่เหมือนกับตอนที่เราถอดปลักไฟของปรีและจะได้ยินเสียงอยู่สักครู่หนึ่งก่อนไฟเริ่มหมด เเละเสียงเริ่มแตกครับ
-
ถ่ายรูปใกล้ๆ มาให้ดูกันบ้างซิครับ
-
ถ้า V ที่ C ทนได้ มากกว่า V ที่มันต่อคร่อมอยู่สักประมาณ 2 เท่า น่าจะสบายใจได้อยู่นะครับ
ว่าแต่ตอนจ่ายไปเข้าหรือถอดปลั๊กออกใหม่ๆ กล้าจับ C ด้วยเหรอ ผมอ่ะ โดนดูก็ไอ้เรื่องไม่ยอมคายประจุ C นี่แหละ รู้ทั้งรู้แต่เผลอประจำ
ผมใช้ค่า V ของ C ประมาณ140% ครับ (v ในวงจรมากสุด 250v ผมใช้ค่า C 250v 350v 420 v ครับ)
ส่วนที่กล้าจับเพราะว่าหลังถอดปลั๊กพบว่าประมาณ 20 วินาที จะมีการคายประจุเร็วมากครับ เหลือแค่ประมาณ 10 v ครับ
ไม่ทราบว่าตรงใหนลง ground ผิด เเละอาจเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้มีเสียงเหมือนลำโพงแตกเวลาเปิดดัง
ที่ผมว่าคล้ายเสียงลำโพงแตก ผมอธิบายยากครับ แต่เหมือนกับตอนที่เราถอดปลักไฟของปรีและจะได้ยินเสียงอยู่สักครู่หนึ่งก่อนไฟเริ่มหมด เเละเสียงเริ่มแตกครับ
ลองวาดวงจร ให้ดูคร่าวๆพร้อมทั้ง วัดไฟให้ด้วยครับ จะได้ช่วยๆกันดูครับ d_d
-
ส่วนที่กล้าจับเพราะว่าหลังถอดปลั๊กพบว่าประมาณ 20 วินาที จะมีการคายประจุเร็วมากครับ เหลือแค่ประมาณ 10 v ครับ
ไม่ทราบว่าตรงใหนลง ground ผิด เเละอาจเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้มีเสียงเหมือนลำโพงแตกเวลาเปิดดัง
ที่ผมว่าคล้ายเสียงลำโพงแตก ผมอธิบายยากครับ แต่เหมือนกับตอนที่เราถอดปลักไฟของปรีและจะได้ยินเสียงอยู่สักครู่หนึ่งก่อนไฟเริ่มหมด เเละเสียงเริ่มแตกครับ
ได้ต่อ bleeder resistor ไว้ป่าวครับ เอาง่ายๆลองถอดสายไฟสูงที่ต่อกับวงจรออกแล้วลองวัดคร่อมดูว่าได้ค่า resistance เท่าไหร่ ถ้าปกติเข็มจะตกเหมือนวัดคร่อม C. แล้วจะกลับมาเป็นค่าสูงๆ ถ้าต่อ bleeder resistor ไว้ค่าที่ได้น่าจะใกล้เคียงกัน ถ้าต่ำกว่าก็ต้องตรวจดูต่อไปว่ามีตรงไหนชอร์ตหรือเสียรึป่าวครับ ลองดูก่อนนะครับ