HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม Thai DIY Audio => ข้อความที่เริ่มโดย: Puppet ที่ 01 กันยายน, 2007, 07:12:51 am
-
ผมสังเกตเห็นว่า ใน data ของหลอด rectifier นั้น จะมีกราฟซึ่งแบ่งการใช้งานหลอดออกเป็น 2 ลักษณะ คือ
1. rectifier with choke-input filter และ
2. recitfier with capacitor-input filter
ในการใช้งานทั้ง 2 แบบนี้ มีข้อดี c) ข้อด้อย :( ต่างกันอย่างไร
(แต่จากสังเกตจากวงจรต่างๆ ที่ลงในบอร์ดนี้ มักจะเป็นแบบที่ 2 ครับ :) )
:help ไหนๆ ก็ถามแล้ว ก็ขอให้พี่ช่วยคำนวณภาคจ่ายไฟให้ดูเป็นตัวอย่างสัก 1 ข้อ จากการทำงานของหลอดทั้งแบบ choke-input filter และ capacitor-input filter ครับ
:wiggle รายละเอียดความต้องการ
หลอด rectifier 5U4-GB ข้อมูลเกี่ยวกับหลอดก็ตาม link นี้ http://tdsl.duncanamps.com/link.php?target=0025628F
แรงดันไฟที่จะใช้งาน 365 V.(dc) กระแส 105 mA. จะต้องพันหม้อแปลง, choke และใช้ capacitor filter ค่าเท่าใดบ้าง (ขอดูทั้ง 2 แบบเลยครับ)
ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ ;)
-
อยากรู้ด้วยคนครับ กำลังจะเริ่มต้นทำ ปรีแอมป์ครับ :clap
-
ขอตอบในแนวของการใช้งานแล้วกันนะครับ
ผมเคยทำแอมป์ EL156 SE โดยแรกเริ่มเดิมทีจะใช้ choke input เนื่องจากตอนนั้นอ่านกระทู้ต่างๆ แล้วมักอ้างอิงว่า choke input จะได้เสียงที่ดีกว่าในเรื่องความฉับไวและ dynamic เสียง ผมจึงอยากลองทำดูบ้าง
แอมป์ ใช้ B+ ที่ 440V กระแส 196mA
กรณี choke input หม้อแปลงเป็น 540-0-540V 300mA filter เป็น LCLC 5H>35uF>10H>35uF C oil ทั้งหมด
ปัญหาคือ choke ตัวแรกครางเกิดเสียงหึ่งๆ ที่ choke ไม่ไหวครับ ผมเลยแก้ปัญหาเป็นใส่ RC เข้าไปข้างหน้าหวังว่ามันจะเป็น semi choke input โดย C ต้องมีค่าน้อยๆ RCLCLC 25R>1uF>5H>35uF>10H>35uF ผลคือ choke ไม่ครางเสียงออกมาไม่ฮัมใช้งานได้ตามปกติ เสียงผมก็รู้สึกไม่แตกต่างจาก choke input แท้ๆมากนัก แต่มันก็เสียความรู้สึกว่าเราต้องการทำ choke input ไป และหากตั้งใจฟังดีๆเสียงน่าจะต่างกันแต่กรณีผม เสียงกวนมันน่ารำคาญไม่มีสมาธิฟังจริงจังเลย
ปัจจุบัน ผมเปลี่ยน config เป็น C input เพื่อลดขนาดมันลง เป็น RCLCRC ค่า 400R>6uF>10H>100uF>400R>220uF เปลี่ยนจาก C oil เหลือเป็น oil ตัวแรกตัวเดียวตัวสุดท้ายเป็น electrolytic ใช้งานได้ตามปกติ ยกเว้น R จะร้อนมากๆ ซึ่งจริงๆ ในกรณีที่ต้องการ 440V C input ผมควรใช้หม้อแปลง 400-0-400 ครับ
สรุปข้อแตกต่างด้านการใช้งาน choke input จะยุ่งยากกว่า 2 เรื่องคือ หม้อแปลง power ต้องพันมาไฟสูงกว่าที่จะใช้งาน ปกติ 1.2 เท่า และ choke ตัวแรกต้องคุณภาพดีมากๆ เนื่องจาก choke input พลังงานจะเกิดที่ choke ตัวแรกเต็มๆ ปกติเขาให้พัน choke ให้ทนกระแสได้ 3 เท่าของกระแสที่ต้องการใช้งาน เช่นต้องการ 100mA ก็ต้องพัน choke ขนาด 300mA ส่วนกรณี C input มันมี C มารองรับพลังงานไปก่อนทำให้ choke ไม่ต้องรองรับพลังงานมากนักจึงไม่ค่อยมีปัญหา ดังนั้นกรณี C input จึงใช้งานง่ายกว่า หม้อแปลงพันมาไฟต่ำกว่า ปกติหลัง rectify และ filter ต่างๆ ก็จะได้ B+ ประมาณ 1.2 เท่า ของไฟที่พันมา เพราะมันยุ่งยากอย่างนี้คนจึงทำ choke input น้อยครับ
เรื่องเสียงคงต้องลองกันเอง ผมเองหลังๆก็ C input ตลอดเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา choke คราง ในกรณี ปรีแอมป์ กระแสมันน้อยมากลองเล่น choke input ดูก็ได้ครับ อาจไม่เจอปัญหา choke ครางได้ ผมไปเน้นเรื่องวงจรต่างๆจึงไม่ค่อยสนใจภาคจ่ายไฟนัก และปัจจุบันผมหันมาสนใจในการใช้ CCS load ให้วงจรโดยเฉพาะปรีแอมป์ ซึ่งมันจะตัดเรื่องเสียงของภาคจ่ายไฟออกไปเลย เลยทำภาคจ่ายไฟแค่ให้เพียงพอใช้งานและไม่ฮัมก็ OK แล้วครับ
ส่วนกรณีต้องการตัวอย่าง ลอง download duncanamp PSU design มาลองดูก่อนซิครับง่ายๆ ครับ
-
เรื่อง Choke ครางหึ่งๆ ผมก็เป็นเหมือนกันครับ ขนาดเคยเอา Choke แกน 45 มาลองดูมันยังครางเลยครับ
เคยลองเอาผ้าพันไว้ หมกใส่กล่อง มันก็ยังมีเสียงออกมาอีก :giveup เจ้า Choke input เนี่ยถ้ากระแสไม่เยอะก็พอเล่นได้ครับ
แต่ถ้า ใช้กระแสเยอะๆ ก็ไม่ไหวเหมือนกันครับ เพลงจบทีเสียงครางก็ดังมาเลยครับ ฟังเพลงไม่มีความสุข :-\
แต่มีคนเคยแก้ด้วยวิธีเอาปูนโบกซะเลยมันถึงจะหมดฤทธิครับ ;D
-
ถ้าขดลวดทนกระแสไม่ได้ จะร้อนมากจนไหม้ ควันขึ้น ตกใจครับ
-
เรื่อง Choke ครางหึ่งๆ ผมก็เป็นเหมือนกันครับ ขนาดเคยเอา Choke แกน 45 มาลองดูมันยังครางเลยครับ
เคยลองเอาผ้าพันไว้ หมกใส่กล่อง มันก็ยังมีเสียงออกมาอีก :giveup เจ้า Choke input เนี่ยถ้ากระแสไม่เยอะก็พอเล่นได้ครับ
แต่ถ้า ใช้กระแสเยอะๆ ก็ไม่ไหวเหมือนกันครับ เพลงจบทีเสียงครางก็ดังมาเลยครับ ฟังเพลงไม่มีความสุข :-\
แต่มีคนเคยแก้ด้วยวิธีเอาปูนโบกซะเลยมันถึงจะหมดฤทธิครับ ;D
ของผม potted ด้วยยางมะตอยครับ เอาไม่อยู่ ตอนนั้นใช้กระแสประมาณ 190 mA ผมทำ choke มา 5H 300mA ถ้าตามที่เขาแนะนำมันต้องเป็น 400-600mA ขนาดมันคงใหญ่โตพอควร ไม่ไหวครับ N]
-
ขอบคุณมากครับ สำหรับทุกความคิดเห็น ได้อ่านครบหมดแล้ว แต่ก็ยังมีข้อสงสัยเพิ่มเติมอีกสักหน่อยครับ
:wiggle การ potted ด้วยยางมะตอยนี่เขาทำกันอย่างไรครับ เผื่อเป็นประสบการณ์เล่าสู่กันฟัง
:) ผมเคยอ่านใน Yearbook2002 หัวข้อ BATMAN 2A3 SE with battery bias พบว่าวงจรนี้ก็ใช้ภาคจ่ายไฟที่เป็น choke-input filter ด้วย หากท่านผู้เขียน YB ผ่านมาเจอกระทู้นี้ ผมก็รบกวนขอความเห็น ตลอดจนคำแนะนำด้วยครับ
อนึ่ง ผมได้ลอง download duncanamp PSU design มาลองดูแล้ว แต่ก็ติดอยู่ตรงที่ว่า โปรแกรมที่ใช้ เป็นการคำนวณจากต้นทาง (ไฟฟ้ากระแสสลับ---> ไฟฟ้ากระแสตรงที่ต้องการ) แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราคงต้องกำหนดแรงดันไฟฟ้ากระแสตรงที่ต้องการ ย้อนกลับไปหาแรงดันไฟฟ้ากระแสสลับที่จะสั่งพันหม้อแปลงอ่ะครับ อีกอย่างหนึ่งก็คือ ค่าความต้านทานที่เกิดขึ้นจากตัวอุปกรณ์จำพวก C, L, T ในวงจรเราจะหาค่ามาได้อย่างไร ท่านใดที่เคยใช้โปรแกรมนี้ก็ขอให้ช่วยให้ความกระจ่างในประเด็นเหล่านี้ให้หน่อยนะครับ
ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ
-
เป็นคำถามที่ต้องตอบย้อนไปพอสมควรครับ
เริ่มจากการเลือกหม้อแปลงก่อนแล้วกัน ปกติวิธีการเลือกหม้อแปลงผมจะคิดง่ายๆว่าต้องการ VDC เท่าไหร่ ให้สั่งค่า VAC เท่านั้นเลยเช่น ต้องการ365V ก็สั่ง 365VAC เลย หรือไม่ผมก็สั่งมากกว่าเป็น 400V ไปเลยถ้าคิดว่าจะใช้ choke input เพราะหลายๆครั้ง มีมากยังลดได้ ในขณะที่น้อยไปไม่สามารถเพิ่มได้ และหม้อแปลงบางเจ้า พันมา regulation สูงมาก บางเจ้าเกิน 10% อีก ผมเลยสั่งเผื่อเอาไว้ก่อนเลย ส่วน กระแส ก็ดูว่าวงจรต้องการเท่าไหร่ ถ้าเป็นเจ้าที่ผมมั่นใจ ผมจะสั่งเผื่อ 30% ถ้าเป็นเจ้าที่ผมไม่มั่นใจ ผมจะไม่สั่ง (ล้อเล่นนะ ) ก็สั่งเผื่อ 50% ขึ้นไป เช่นในวงจรต้องการ 150mA ผมจะสั่งเผื่อไปเลย 200mA หรือ 250mA แล้วแต่เจ้า
เวลาใส่ค่าใน psud2 เริ่มจากค่าหม้อแปลง สำหรับหม้อแปลงไทย ผมจะใส่ regulation 10-15% ครับ ถ้าสั่งมาเผื่อเยอะ ก็ 10%
จากนั้นก็ใส่วงจรค่าที่ต้องลงไป ผมทำให้ดูเป็น choke input LCRC
loadผมใส่ current source 150mA เพราะเราคงทำเป็น class A ผมเลยเหมาเอาเป็น current source ไว้ก่อน
จะเห็นว่าเอ้าพุทไม่ได้ ตามที่ต้องการ นี่ขนาดเราเผื่อหม้อแปลงเอาไว้แล้วนะครับ เพราะไอ้หลอด 5u4 มันดรอบไฟไปเยอะด้วยแหละ
-
ถ้าเราลองใส่ C 2uF ลงไปดูหละ
ก็จะได้เป็น 320กว่าV
จะเห็นว่า C input จะได้ Volt สูงกว่า choke input เยอะ
-
ถ้าเราเพิ่ม C input 4.4uF เพิ่ม R 100ohm ก็จะได้แบบนี้
-
การบ้านครับ คุณลองทำบ้าง ทั้งสองแบบ แล้วเอามา post และต้องบอกด้วยว่า สำหรับวงจร choke input และ c input กระแสที่ไหลผ่าน choke และ หม้อแปลง แตกต่างกันไหม
-
ส่งการบ้านครับ
ข้อที่ 1 กระแสที่ไหลผ่านหม้อแปลง T1
1.1 ใช้ choke-input filter
1.2 ใช้ capaciter-input filter
-
ข้อ 2 กระแสที่ไหลผ่านโช้ค L1
2.1 ใช้ choke-input filter
2.2 ใช้ capaciter-input filter
ส่วนการเปรียบเทียบต้องรอต่อพรุ่งนี้ครับ ต้องส่งลูกไปโรงเรียนแล้วครับ
-
R ที่ป็น Bleeder ควรใส่ไว้ที่ไหนอย่างไรครับ ......... ขอคำแนะนำด้วย
-
ขอส่งการบ้านที่ค้างอยู่ครับ
1. กระแส max ที่ไหลใน L1
1.1 choke-input filter = 600.66m
1.2 capacitor-input filter = 648.66m
2. กระแส max ที่ไหลใน T1
2.1 choke-input filter = 584.04m
2.2 capacitor-input filter = 1.1464
-
จากการทดลองจะเห็นใช่ไหมครับว่ากรณีไหน มันจะเกิดโหลดเป็นอย่างไร เราเอาค่าที่เกิดขึ้นไปใช้ได้ จะเห็นว่าในกรณีที่เป็น choke load มันจะเกิดโหลดที่หม้อแปลง และโช้คมากกว่า ฉะนั้น เราก็ต้องสั่งอุปกรณ์เผื่อเอาไว้ด้วยครับ แต่ส่วนมากในชีวิตจริง เรามักจะได้หม้อแปลง และโช้คมาก่อน แล้วค่อยมา sim ดูว่าจะจัดวงจรยังไงให้เหมาะกับของที่มีอยู่มากกว่า