HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม โฮมเธียเตอร์ (HT) => ข้อความที่เริ่มโดย: หนุ่มเมืองน่าน ที่ 11 กันยายน, 2007, 03:54:56 pm
-
ไม่รู้ว่าลงถูกห้องหรือเปล่านะครับ แต่...ไม่เป็นไร คุณตู่ใจดีครับ
เป็นรีวิวเล็ก ๆ สำหรับคนที่ติดคอมพิวเตอร์เป็นชีวิตจิตใจอย่างผม ให้ได้รู้กันว่าเสียงดี มันเป็นยังไง
ผมเลยลองซื้อมาทดสอบดู...และรีวิวตามความรู้สึกผู้ฟังเท่านั้น อาจจะขัดใจผู้อ่านบ้าง ไม่ว่ากันนะครับ (ผมยังน้อยประสพการณ์)
ข้ามบ้าน ข้ามบอร์ดกันมาเลย
http://www.karaoke-soft.com/smf/index.php?topic=2512.0
อ้างถึงกระทู้โน้น... http://www.karaoke-soft.com/smf/index.php?topic=2492.0
ตอนนี้เบิร์นครบ 50 ชม. แล้ว จึงเริ่มลงรีวิวให้ท่านผู้อ่านที่ติดตามผลงานได้อ่านกันครับ
เรามาเริ่มกันดีกว่าครับ
รูปสินค้า คือตัวสีม่วงนะครับ (สำหรับรุ่นที่มี USB ด้วย)
(http://www.discoveryhifi.com/image/sp_dual.jpg)
ข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติม
http://www.discoveryhifi.com/superpro.html
http://www.discoveryhifi.com/superpro_techinfo.html
ราคาจำหน่าย 3,900 บาท (สามพันเก้าร้อยบาทถ้วน) (ผมไม่ใช่คนขายและหน้าม้าของร้านนะครับ เป็นเพียงผู้ซื้อสินค้าแล้วมาทดลองใช้และรีวิวให้ฟังเท่านั้น)
อุปกรณ์ที่ใช้ในการทดสอบ
Sound Card: Creative Sound Blaster X-Fi Xtreme Gammer (ราคา 3590 บาท)
Sound Card: Creative Professional EMU-1212M (ราคา 11900 บาท)
USB-DAC: Super Pro 707 USB (ราคา 3900 บาท)
Integrated Amplifier: CEC AMP3300R (ราคา 21500 บาท)
Speaker: Monitor Audio Bronze B2 (ราคา 12900 บาท)
Speaker Cable: สายลำโพงยี่ห้อ QED รุ่น Silver Anniversary (25th) (ราคาเมตรละ 800 บาท)
Analog Interconnect Cable:
- สายสัญญาณ Mini to RCA ยี่ห้อ Monster รุ่น MusicConnect (สำหรับ X-Fi) (ราคา 1250 บาท)
- สายสัญญาณแบบ Balance TRS to XLR ทำเอง สาย Canare รุ่น L2T2S หัว Neutrik รุ่น NC3MX-B / NP3X-B (สำหรับ EMU-1212M) (ราคา 1200 บาท)
- สายสัญญาณ RCA to RCA ยี่ห้อ QED รุ่น Qunex3 (สำหรับ Super Pro 707) (ราคา 5400 บาท)
...มาเริ่มกันดีกว่าครับ...
เริ่มกันที่ฟังเพลงนะครับ จั่วไว้ก่อนดีกว่า จากดีที่สุด ถึง ดีน้อยที่สุด ตามนี้ครับ Super Pro 707 USB -> EMU-1212M -> X-Fi
X-Fi ซาวนด์การ์ดมาตรฐานสำหรับดูหนัง ฟังเพลง เล่นคาราโอเกะบนคอมพิวเตอร์สำหรับยุคนี้ ให้เสียงที่ดีกว่าเครื่องเล่น DVD Player ทั่ว ๆ ไปนิดหน่อยเอง เทียบกับอุปกรณ์ที่ผมมีอยู่ เสียงน่าจะพอ ๆ กับเครื่องเล่น CD Changer Sony CDP-CX355 (300 แผ่น) ที่ผมใช้อยู่ น่าจะประมาณนั้นครับ
EMU-1212M ตัวนี้เสียงใกล้เคียงกับ Super Pro 707 USB นะครับ เคยนำไปร่วมทดสอบการฟังเพลงกับเครื่องเล่น CD Marantz SA-8400 มาแล้ว เสียงที่ได้ ไม่แตกต่างกันนัก ดีคนละแบบ เสียงของ EMU-1212M ก็ตามที่มันควรจะเป็นแหละครับ คือออก Dark นิดนึง สำหรับการนำมาฟังเพลง เพราะมันเป็นการ์ดสำหรับทำเพลง และไว้เพื่อต่อกับลำโพง Monitor (เสียงแข็งโป๊ก) สำหรับการทำเพลง น่าจะเหมาะกว่าการฟังเพลง เมื่อเทียบกับ Super Pro 707 แต่...เมื่อเทียบกับ X-Fi Xtreme Gammer ที่ใช้อยู่แล้ว เสียงดีกว่า X-Fi ตัวนี้มาก (ถ้าเป็น X-Fi Elite Pro เสียงน่าจะดีใกล้เคียงกับ EMU-1212M นะ เผอิญผมไม่มีให้ทดสอบเทียบกัน)
Super Pro 707 USB ตัวนี้ทำได้ดีครับ เสียบกับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้ง OS มาตรฐานอย่าง Windows XP หรือใหม่กว่า แล้ว Windows รู้จัก และสามารถเรียกใช้งานได้เลย ใช้ชิพเซ็ตเสียงของ C-Media (รุ่นไม่ทราบ) ครับ ที่ตัวเครื่อง (กล่อง) ของ Super Pro 707 USB นั้น มีรูเสียบไมค์แบบ Mini Jack ด้วย (แต่...ยังไม่ได้ทดลองใช้งาน ขอติดไว้ก่อน)
เมื่อตั้งค่าโปรแกรม Windows Media Player 11 ให้เลือกอุปกรณ์เสียงออกเรียบร้อยแล้ว เราก็มาเลือกเพลงกัน
เพลงที่ใช้ ผมใช้เพลงของต่าย อรทัย ดาบคำ ชุดที่ 2 ขอใจกันหนาว เพลงขอใจกันหนาว โดย Rip มาจาก CD Audio โดยไม่แปลงไฟล์เพื่อลดคุณภาพ (ยังคงเป็นไฟล์แบบ PCM Wave File 16Bit / 44.1KHz อยู่เหมือนเดิมนะครับ
ท้าวความถึงตอนทดสอบกับเครื่องเล่น DVD ที่ต่อ Digital Coax / Optic เข้า Super Pro 707 USB ก่อนนะครับ
เสียงจาก Optic (TOS-Link) นั้น ให้เสียงที่สดใจตลอดทั้งย่านเลย (เหมาะกับคนที่ชอบเสียงแบบสด ๆ และใส ๆ ครับ) แต่...ขาดบรรยากาศของเพลงไป นั่นคือความเนียนละเอียดของเสียง บรรยากาศรายล้อม รวมถึงเสียง Effect ต่าง ๆ ที่มีมาในเพลง ค่อนข้างที่จะน้อยนิดนึง (อันนี้อาจจะเป็นที่สาย Optic ของผมก็ได้ เพราะสายที่ผมใช้ เส้นละ 600 บาท เอง เป็นสายยี่ห้อ Monitor รุ่น Starlight Black ถ้าได้ลองเทียบกับสายแพง ๆ กว่านี้ เช่น Monitor Shining S-1 อาจจะดีขึ้น แล้วจะมาเล่าให้ฟังทีหลังครับ)
เสียงจาก Digital Coaxial นั้นให้ความเนียนละเอียด รวมถึงบรรยากาศ ที่ดีกว่าสาย Optic อย่างเห็นได้ชัดเลย แม้จะใช้สาย Coax ของจีน ราคาแค่ 500 บาทเท่านั้น (อันนี้ขออภัยสำหรับคนหูทองนะครับ เพราะผมไม่ได้มีสายแพง ๆ ไว้ทดสอบ อย่างที่บอก สาย Coax / Optic ที่ผมมี คือเอาไว้ใช้ดูหนังกับชุดดูหนังเล็ก ๆ เท่านั้นน่ะครับ) เสียงที่ได้นั้น เหมาะแก่การฟังเพลงเป็นอย่างยิ่ง ความสดของเสียงลดลง ความใสก็ลดลงด้วย (ความใสนี่น่าจะขึ้นอยู่กับคุณภาพของสาย Coax นะ ผมคิดว่างั้น) แต่...ถึงยังไง ก็เหมาะกับฟังเพลงมากกว่าสาย Optic ข้างบนอยู่ดีครับ
คราวนี้ มาที่การเชื่อมต่อแบบ USB บ้าง แค่แวบแรกที่ลองเล่นเพลงเท่านั้นแหละครับ ทุกคนที่นั่งฟังอยู่ ถึงกับตะลึงในคุณภาพเสียง เมื่อเทียบกับราคาค่าตัวของ Super Pro 707 USB ว่ามันทำได้ยังไง :o
เสียงที่ว่าความสดใสลดลง ของ Coax เมื่อกี้ คราวนี้มันมีมาหมดเลย ได้รายละเอียดของเสียงที่ดีมาก ได้น้ำเสียงที่ฉ่ำหวาน กังวาล บรรยากาศที่ได้ แม้แต่เครื่องเล่น CD ราคา 3 หมื่นที่กล่าวไว้ข้างต้นก็มิอาจเทียบได้ (EMU-1212M จะให้เนื้อเสียงที่หนากว่า แต่นั่นก็ทำให้เสียงนั้น Dark กว่าด้วย บรรยากาศ ความกังวาล ของเสียงเทียบกับตัวนี้ไม่ได้ ก็...นะ มันเป็นซาวนด์สำหรับทำเพลง) จนพี่ท่านนึงที่เป็นเจ้าของเว็บแห่งนึง ถึงกับสงสัยว่า ไอ้เจ้ากล่องนี้มันแอบใส่ Reverb ไว้หรือเปล่า 555+ ;D ผมว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ กับความเล็กขนาดนี้ และที่สำคัญ มันไม่มี DSP ที่จะประมวลผลเสียงด้วย ความสดใจ (ไม่จัดจ้าน) กังวาล น่าจะมาจากอุปกรณ์ที่คัดเกรดมาเป็นอย่างดี (ตามที่ผู้ผลิต และผู้จำหน่ายแจ้งไว้มากกว่า) เสียงที่ได้ มีความละเมียดละไม อ่อนช้อย ขี้อ้อน (หมายถึงน้ำเสียงของต่าย ที่กำลังฟังอยู่น่ะ) ได้ยินน้ำเสียงจนถึงเสียงน้ำลายคลอเบ้า (มีด้วยเหรอ เคยได้ยินแต่น้ำตาคลอเบ้า) ประมาณนั้นน่ะ โอ๊ย...บรรยายไม่ถูก
ถามว่า...คุ้มค่ามั้ย
คุ้มค่าเกินราคาเป็นอย่างมากครับ...ป๋าลำดวนยืนยัน นั่งยัน นอนยัน จนเมาข้าวเหนียว ;D ;D ;D
ทีนี้...เรามาต่อกันที่เรื่องของ Midi Karaoke กันบ้างครับ
ต้องบอกไว้ก่อนนะครับว่า Super Pro 707 USB ไม่สามารถเทียบชั้นการเล่น SoundFont กับการ์ด Creative ได้นะครับ คือยังไง ถ้าจะเล่น SoundFont เป็นหลัก ผมก็ยังยืนยันคำเดิมครับว่า ที่ราคานี้ ซื้อ X-Fi Xtreme Gammer ไปเถอะครับ
อ้าว...ไหงเป็นงั้น แล้วตัวนี้มันดียังไง ???
อ้อ...ตอบได้ครับ มันดีด้านออดิโอ ที่ตัวกล่องนี้แปลงออกมาเป็นเสียงให้เราได้ยินกันครับ
ถ้ามาเล่น Software SoundFont หรือ VSTi เทียบกันแล้ว น้ำเสียงที่ได้ ดีกว่า EMU-1212M และ X-Fi อย่างที่บอกไว้ครับ
มีช่องเสียบไมค์ให้ด้วย (ยังไม่ได้ทดสอบ) ช่องเสียบไมค์น่าจะเสียบ Dynamic Microphone ทั่ว ๆ ไปได้นะครับ โดยการใช้ตัวแปลง TS to Mini (รองรับแค่ไมค์แบบ Unbalance เท่านั้น) ส่วน Effect คงต้องใช้ VST Effect ผ่าน Sonar เข้าช่วยน่ะครับ รวมถึงการปรับแต่งอย่างอื่นด้วย (เดี๋ยวว่าง ๆ จะลองให้ครับ) งานนี้น่าจะมีเด็กบางมดมาร่วมแจมด้วยน่าจะดีนะ
ได้ความสะดวกเพิ่มขึ้น เพราะสามารถนำติดตัวไปได้เลย เสียบปุ๊บ ใช้ได้ปั๊บ
อีกไม่นาน น่าจะมี eXtreme Karaoke 2 Go ที่ใช้ Hard Lock ผ่าน USB อย่าง WIBU-KEY หรืออื่น ๆ ออกมาเป็นตัวเลือกให้ สำหรับคนที่ Format เครื่องบ่อย ชอบลองอะไรแผลง ๆ หรืออยากนำใส่ Flash Drive ติดตัวไปไว้ร้องเพลงตามที่ต่าง ๆ เช่น บ้านเพื่อน ห้องสัมมนา โรงแรม รีสอร์ท ไปเที่ยวป่า (เอ...ใครหว่า) เอาไว้อวดเพื่อน อะไรอย่างนั้นเป็นต้นน่ะครับ ;D
ได้ดีเรื่อง Connection ด้วย เพราะเป็นขั้วต่อแบบ RCA ชุบทอง 24K หาสายสัญญาณง่าย และหาดี ๆ ได้ด้วย
คุ้มค่า คุ้มราคามาก ๆ กับสิ่งที่ได้
ก่อนจบการรีวิว ขอย้ำคำเดิมว่า
ชุดเครื่องเสียงและอุปกรณ์ประกอบของท่านมีส่วนสำคัญเป็นอย่างมาก ที่จะทำให้เสียงที่ได้แปรเปลี่ยนไป อุปกรณ์ตัวนี้เป็นเหมือนอุปกรณ์ต้นทาง หากกลางทาง และปลายทางของท่านไม่ดีพอ ก็ไม่มีประโยชน์อะไร อาจจะเห็นความแตกต่างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ผมขอให้แง่คิดท่านไว้แค่นี้นะครับ
แต่...(อีกแล้ว) เสียงดีกว่าอุปกรณ์ต้นเสียงที่ท่านใช้อยู่แน่นอนครับ
ใครที่ได้ฟังเสียงแล้วอยากจะแจม หรือเพิ่มเติมความคิดเห็น ก็เชิญนะครับ สองเสือเมื่อคืนห้ามพลาดนะครับ ช่วยผมหน่อยละกัน
ฟังแล้วเป็นอย่างไร ก็บอกไปตามนั้นครับ เทียบกันกับ 3 อุปกรณ์นั่นแหละครับ
จบการรีวิวสำหรับวันนี้ครับ...
เพิ่มเติม 12/9/2550
วันนี้ได้หิ้วไอ้เจ้าตัวเล็กนี้ไปทดสอบที่ร้านปิยะนัส สาขาเสรีเซ็นเตอร์มา (ขอขอบคุณที่เอื้อเฟื้อสำหรับการทดสอบครับ)
แบบว่าบ้าหอบฟาง พกไปหมดเลย หอบหิ้วอุปกรณ์ไปอย่างพะรุงพะรัง (หนักเหมือนกันนะ)
ไปถึงก็จัดแจงขอทดสอบกับผู้จัดการร้านเลย อิ อิ
วันนี้ได้ทดสอบการต่อใช้งาน 3 รูปแบบเช่นเคยครับ แถมมีทีเด็ดกว่านั้นด้วย
โดยได้ทดสอบกับเครื่องเล่น DVD ยี่ห้อ Soken (ที่ทางร้านแจ้งมาว่า ห่วยที่สุดในร้านแล้ว ความจริงผมบอกเขาไปหยิบมาให้ลองเองแหละ อุ อุ)
เริ่มต้นด้วยการต่อด้วย Optic ครับ ทีนี้เลือกสายเส้นที่แพงที่สุดในร้านมาเลยครับ ทดสอบกับสาย Optic ยี่ห้อ Monitor Cable รุ่น Shinning S-1 (เส้นละ 3800 บาท) ครับ
เสียงที่ได้...อืมส์...มีความละเอียดของชิ้นดนตรีดีมากเลยครับ ให้เสียงที่สดใสตลอดย่าน (แต่ไม่จัดจ้านนะครับ) ดีกว่า Monitor Cable รุ่น Starlight Black (เส้นละ 600 บาท) เยอะเลย
ใครที่ชอบเสียงในโทนนี้รับรองไม่ผิดหวังครับ แต่....
แต่ครับ...มาตกม้าตายที่เสียงร้อง และเสียงย่านความถี่ต่ำหรือเสียงเบสนั่นเองครับ เพราะฟังแล้วโดยรวม ๆ จะออกบางและแห้งไปหน่อยน่ะครับ เมื่อเทียบกับ Coax และ USB
ต่อมาลองทดสอบกับ Coax ดูครับ... เป็นสาย Coax ยี่ห้อ QED รุ่น Qunex P75 (เส้นละ 3200 บาท) ครับ (ก่อนหน้านี้ลองเอา Monitor Cable รุ่น On/Off 202 (เส้นละ 3900 บาท) มาต่อดู...ผลคือ...รับไม่ได้ครับ ไม่ไหว ๆ เสียงแทบไม่ต่างจากสาย Optic เมื่อกี้เลย เสียงแย่กว่าอีกต่างหาก) เลยเปลี่ยนเป็น QED แทน
อืมส์...เสียงหวาน หนานุ่ม เนียน รายละเอียดดีมาก ๆ เลยครับ (ย่านความถี่สูงด้อยกว่า Optic หน่อยนึง) เสียงดีจนเครื่องเล่น CEC 3300R (เครื่องละ 17000 บาท) ที่วางอยู่ข้าง ๆ ด้อยไปเลย (ขนาด Rotel RCD-02 ที่ว่าดี ยังสู้ตัวนี้ไม่ได้เลย)
นา นา จิตตัง ครับ วันก่อนที่บ้านผมสายจีนมันไม่ได้เรื่องเอง วันนี้เพิ่งจะบรรลุครับ
ต่อมาลองต่อแบบ USB จากคอมพิวเตอร์ดูบ้าง...
อืมส์...เสียงสู้ Coax ไม่ได้แฮะ เสียงบางไปหน่อยนึง แต่...ก็อย่างที่บอกไว้วันก่อน ต่อแบบ USB ให้รายละเอียดเสียงเยอะกว่า Coax วันนี้ก็ยังเป็นเช่นนั้นเหมือนเดิมครับ
คราวนี้ทีเด็ดครับ
ผมลองต่อ Battery แห้ง Panasonic 12V / 7.2Ah เข้าไปจ่ายไฟแทน Switching Power Supply ที่แถมมากับตัวเครื่อง
โอ้วส์ส์ส์....ทำไมเสียงมันดีอย่างงี้ เสียงดีกว่าเมื่อกี้เป็นกองเลย แบบว่ารู้สึกได้ชัดเจนมากครับ
สำหรับคนที่ต้องการเสียงดี ๆ แนะนำให้ลองต่อกับ Battery ดูครับ เอาแบต 12V ก็พอครับ
เพราะตัว Super Pro 707 นั้น ข้างในมันกินไฟแค่ 5V เองครับ โดยมันจะไปผ่าน Regulator ข้างในกล่องอีกที
แล้วท่านจะรู้ว่าแหล่งจ่ายไฟตรงที่ดีที่สุดอย่างแบตเตอรี่นั้นดียังไง
ตัว Super Pro 707 นั้นกินกระแสเพียง 88mA เองครับ (กินไฟน้อยมาก) ผมวัดด้วยแอมป์มิเตอร์เรียบร้อยแล้ว
และข้างในกล่องยังมีตัวแปลงไปเป็น 5VDC อีกที (ผมคิดว่าในอนาคตผมจะโมให้มันใช้ไฟจาก USB Port ได้ด้วย จะได้ไม่ต้องพก Adapter ซึ่งคนที่ใช้ Notebook น่าจะปลื้มนะครับ ดูวงจรแล้ว โมได้ง่ายมาก ๆ ครับ แค่ใส่ไดโอดเพิ่มตัวเดียวเอง อิ อิ)
เนื่องจากการกินกระแสที่น้อยนิดเพียงแค่นี้ เมื่อใช้กับแบตเตอรี่ 7.2Ah แล้ว จะสามารถเปิดต่อเนื่องได้ถึง 81 ชั่วโมงกันเลยทีเดียวครับ (เปิดได้นานจนลืมเลย ถ้าแบตเตอรี่มีไฟอยู่เต็มนะครับ)
เดี๋ยวขอไปค้นวงจร Battery Auto Charger ก่อน ว่าอยู่ตรงไหน จะได้เอามาดัดแปลงใช้งานซะเลย (เป็นชุดคิทขายก็มีนะครับ ของประกิต)
แนะนำครับ แนะนำให้ใช้ Battery จ่ายไฟแทน AC Adapter ครับ เสียงดีกว่าจริง ๆ ครับ ไม่ได้โม้
อ้อ...ลืมบอกไป ของที่ซื้อมาล็อตหลัง ๆ นี้ จะไม่ได้ Capacitor ELNA Cerafine แล้วนะครับ (คาดว่าทางผู้ผลิตน่าจะลดต้นทุน)
แต่...เดี๋ยวผมลองโมเปลี่ยนเป็นแบบดี ๆ ดูครับ เพราะมันเป็น C Coupling น่าจะช่วยให้เสียงดีขึ้นอีกเป็นกอง
เสร็จแล้วจะมาเล่าให้ฟังใหม่ครับ ;D
-
ด้วยความยินดีและขอขอบคุณครับผม...
-
เพิ่มเติม 12/9/2550
วันนี้ได้หิ้วไอ้เจ้าตัวเล็กนี้ไปทดสอบที่ร้านปิยะนัส สาขาเสรีเซ็นเตอร์มา (ขอขอบคุณที่เอื้อเฟื้อสำหรับการทดสอบครับ)
แบบว่าบ้าหอบฟาง พกไปหมดเลย หอบหิ้วอุปกรณ์ไปอย่างพะรุงพะรัง (หนักเหมือนกันนะ)
ไปถึงก็จัดแจงขอทดสอบกับผู้จัดการร้านเลย อิ อิ
วันนี้ได้ทดสอบการต่อใช้งาน 3 รูปแบบเช่นเคยครับ แถมมีทีเด็ดกว่านั้นด้วย
โดยได้ทดสอบกับเครื่องเล่น DVD ยี่ห้อ Soken (ที่ทางร้านแจ้งมาว่า ห่วยที่สุดในร้านแล้ว ความจริงผมบอกเขาไปหยิบมาให้ลองเองแหละ อุ อุ)
เริ่มต้นด้วยการต่อด้วย Optic ครับ ทีนี้เลือกสายเส้นที่แพงที่สุดในร้านมาเลยครับ ทดสอบกับสาย Optic ยี่ห้อ Monitor Cable รุ่น Shinning S-1 (เส้นละ 3800 บาท) ครับ
เสียงที่ได้...อืมส์...มีความละเอียดของชิ้นดนตรีดีมากเลยครับ ให้เสียงที่สดใสตลอดย่าน (แต่ไม่จัดจ้านนะครับ) ดีกว่า Monitor Cable รุ่น Starlight Black (เส้นละ 600 บาท) เยอะเลย
ใครที่ชอบเสียงในโทนนี้รับรองไม่ผิดหวังครับ แต่....
แต่ครับ...มาตกม้าตายที่เสียงร้อง และเสียงย่านความถี่ต่ำหรือเสียงเบสนั่นเองครับ เพราะฟังแล้วโดยรวม ๆ จะออกบางและแห้งไปหน่อยน่ะครับ เมื่อเทียบกับ Coax และ USB
ต่อมาลองทดสอบกับ Coax ดูครับ... เป็นสาย Coax ยี่ห้อ QED รุ่น Qunex P75 (เส้นละ 3200 บาท) ครับ (ก่อนหน้านี้ลองเอา Monitor Cable รุ่น On/Off 202 (เส้นละ 3900 บาท) มาต่อดู...ผลคือ...รับไม่ได้ครับ ไม่ไหว ๆ เสียงแทบไม่ต่างจากสาย Optic เมื่อกี้เลย เสียงแย่กว่าอีกต่างหาก) เลยเปลี่ยนเป็น QED แทน
อืมส์...เสียงหวาน หนานุ่ม เนียน รายละเอียดดีมาก ๆ เลยครับ (ย่านความถี่สูงด้อยกว่า Optic หน่อยนึง) เสียงดีจนเครื่องเล่น CEC 3300R (เครื่องละ 17000 บาท) ที่วางอยู่ข้าง ๆ ด้อยไปเลย (ขนาด Rotel RCD-02 ที่ว่าดี ยังสู้ตัวนี้ไม่ได้เลย)
นา นา จิตตัง ครับ วันก่อนที่บ้านผมสายจีนมันไม่ได้เรื่องเอง วันนี้เพิ่งจะบรรลุครับ
ต่อมาลองต่อแบบ USB จากคอมพิวเตอร์ดูบ้าง...
อืมส์...เสียงสู้ Coax ไม่ได้แฮะ เสียงบางไปหน่อยนึง แต่...ก็อย่างที่บอกไว้วันก่อน ต่อแบบ USB ให้รายละเอียดเสียงเยอะกว่า Coax วันนี้ก็ยังเป็นเช่นนั้นเหมือนเดิมครับ
คราวนี้ทีเด็ดครับ
ผมลองต่อ Battery แห้ง Panasonic 12V / 7.2Ah เข้าไปจ่ายไฟแทน Switching Power Supply ที่แถมมากับตัวเครื่อง
โอ้วส์ส์ส์....ทำไมเสียงมันดีอย่างงี้ เสียงดีกว่าเมื่อกี้เป็นกองเลย แบบว่ารู้สึกได้ชัดเจนมากครับ
สำหรับคนที่ต้องการเสียงดี ๆ แนะนำให้ลองต่อกับ Battery ดูครับ เอาแบต 12V ก็พอครับ
เพราะตัว Super Pro 707 นั้น ข้างในมันกินไฟแค่ 5V เองครับ โดยมันจะไปผ่าน Regulator ข้างในกล่องอีกที
แล้วท่านจะรู้ว่าแหล่งจ่ายไฟตรงที่ดีที่สุดอย่างแบตเตอรี่นั้นดียังไง
ตัว Super Pro 707 นั้นกินกระแสเพียง 88mA เองครับ (กินไฟน้อยมาก) ผมวัดด้วยแอมป์มิเตอร์เรียบร้อยแล้ว
และข้างในกล่องยังมีตัวแปลงไปเป็น 5VDC อีกที (ผมคิดว่าในอนาคตผมจะโมให้มันใช้ไฟจาก USB Port ได้ด้วย จะได้ไม่ต้องพก Adapter ซึ่งคนที่ใช้ Notebook น่าจะปลื้มนะครับ ดูวงจรแล้ว โมได้ง่ายมาก ๆ ครับ แค่ใส่ไดโอดเพิ่มตัวเดียวเอง อิ อิ)
เนื่องจากการกินกระแสที่น้อยนิดเพียงแค่นี้ เมื่อใช้กับแบตเตอรี่ 7.2Ah แล้ว จะสามารถเปิดต่อเนื่องได้ถึง 81 ชั่วโมงกันเลยทีเดียวครับ (เปิดได้นานจนลืมเลย ถ้าแบตเตอรี่มีไฟอยู่เต็มนะครับ)
เดี๋ยวขอไปค้นวงจร Battery Auto Charger ก่อน ว่าอยู่ตรงไหน จะได้เอามาดัดแปลงใช้งานซะเลย (เป็นชุดคิทขายก็มีนะครับ ของประกิต)
แนะนำครับ แนะนำให้ใช้ Battery จ่ายไฟแทน AC Adapter ครับ เสียงดีกว่าจริง ๆ ครับ ไม่ได้โม้
อ้อ...ลืมบอกไป ของที่ซื้อมาล็อตหลัง ๆ นี้ จะไม่ได้ Capacitor ELNA Cerafine แล้วนะครับ (คาดว่าทางผู้ผลิตน่าจะลดต้นทุน)
แต่...เดี๋ยวผมลองโมเปลี่ยนเป็นแบบดี ๆ ดูครับ เพราะมันเป็น C Coupling น่าจะช่วยให้เสียงดีขึ้นอีกเป็นกอง
เสร็จแล้วจะมาเล่าให้ฟังใหม่ครับ ;D
-
c)
-
หลังๆเลยมีคนถามให้ผมหาสาย USB ดีๆมาขาย :secret
สาย Monster USB™ Ultimate Performance USB Cable 7 ft. length Type A male to Type B Male
http://www.lukjeabhifi.com/forum/index.php?topic=91.0
-
โห .. เดี๋ยวนี้ Monster ทำแม้แต่ USB ... K]
-
โห .. เดี๋ยวนี้ Monster ทำแม้แต่ USB ... K]
มันทำมานานมากแล้วครับ ตั้งแต่ยังไม่มี USB DAC จากจีน
สมัยนั้นรู้สึกจะมีของ harman/kardon มั๊ง
-
สาย Monster USB แบบนี้ผมเคยซื้อมาใช้กะ MediaBox แต่เป็นรุ่นสีขาว iMonster ไม่ทราบแบบไหนดีกว่าครับ
-
สาย Monster USB แบบนี้ผมเคยซื้อมาใช้กะ MediaBox แต่เป็นรุ่นสีขาว iMonster ไม่ทราบแบบไหนดีกว่าครับ
ดูจากสเปคตัว Ultimate Performance จะได้ 500 MHz of bandwidth
ตัว iCable จะได้แค่ 400 MHz of bandwidth ครับ
แต่ตัว Ultimate Performance ที่มีข้อมูลในเวบปัจจุบันมันจะไม่สวยแล้วเนื่องจากตอนหลังเขาไม่หุ้มตาข่ายและไม่มีไฟบอกเวลามีการส่งผ่านข้อมูล
รุ่นนี้ตัว 7ft นี่หายาก จะมีมาเป็นพักๆ แต่ถ้า 12ft ยังพอหาได้เรื่อยๆ
-
หนุ่มเมืองน่าน "บ้านเดียวกั๋น..แต้ๆ"
-
หนุ่มเมืองน่าน "บ้านเดียวกั๋น..แต้ๆ"
ยินดีตี้ได้ฮู้จักครับ... ;D
-
ถึงคุณพ่อลูกเจี๊ยบ สาย Monster USB รุ่นนี้ยังมีของไหมครับ อยากได้ 1 เส้น ช่วยโทรบอกหน่อย 081-8329102
-
ตกลง PM ที่อยู่ไปแล้วนะครับ เดี๋ยวจะโอนเงินให้เลยครับ
-
พรุ่งนี้ส่งให้ครับ ขอบคุณครับ :)