HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม Thai DIY Audio => ข้อความที่เริ่มโดย: nut_ty ที่ 13 ตุลาคม, 2007, 10:04:08 am
-
ได้ pcb AD 1865 I/V 12AU7 CLONE มาจาก AUDIO NOTE ครับ ตอนนี้กำลังประกอบ ยังงัยประกอบเสร็จแล้วจะ เอารูปมาโพสครับ
-
ได้ pcb AD 1865 I/V 12AU7 CLONE มาจาก AUDIO NOTE ครับ ตอนนี้กำลังประกอบ ยังงัยประกอบเสร็จแล้วจะ เอารูปมาโพสครับ
รอชมอยู่
-
ได้ pcb AD 1865 I/V 12AU7 CLONE มาจาก AUDIO NOTE ครับ ตอนนี้กำลังประกอบ ยังงัยประกอบเสร็จแล้วจะ เอารูปมาโพสครับ
คุ้นๆ ;)
-
จองที่นั่งด้วยคน
-
รอด้วยคนซิครับ :)
-
:whistling เอ้า... ต่อคิวรอชมด้วยคนครับ...
-
ดูเรียบร้อยมากครับ เดินสายเป็นระเบียบดี แอมป์ตัวข้างๆใช้หลอดเบอร์อะไรครับอยากดูใด้เครื่องจังครับผม เสียงเป็นยังไงบ้างครับ :whistling :whistling
:black_eye
-
โทดกร๊าบ รอดูอยู่ก๊ราบ
-
วันนี้จะเสร็จมั้ยครับ เย็นแล้ว :-\
-
รอชมครับ :headphone :headphone :headphone
-
ไม่ทราบว่าเป็นตัวเดียวกับดิฉันหรือเปล่าคะ ซื้อที่ร้าน DEXICON แต่ดิฉันซื้อมาเป็น PCB เปล่าๆ แล้วสั่งซื้ออุปกรณ์จาก SAC มาประกอบ เสียงดีนะคะ เมื่อเทียบกับ 1541 ดิฉันว่าต้องลำดับการฟัง แบบเดิมๆ ใหม่เลยล่ะ มิติ ชิ้นดนตรี เรียบเรียงได้เหลือเชื่อคะ กะว่าคงเป็นตัวสุดท้ายที่ลงทุนแล้วค่ะ (1*,***) ท่านใดซื้อแบบสำเร็จมาแล้วนำมาลงให้ชมบ้างนะคะ ของดิฉันกระทู้หน้าค่ะ
-
ไม่ทราบว่าเป็นตัวเดียวกับดิฉันหรือเปล่าคะ ซื้อที่ร้าน DEXICON แต่ดิฉันซื้อมาเป็น PCB เปล่าๆ แล้วสั่งซื้ออุปกรณ์จาก SAC มาประกอบ เสียงดีนะคะ เมื่อเทียบกับ 1541 ดิฉันว่าต้องลำดับการฟัง แบบเดิมๆ ใหม่เลยล่ะ มิติ ชิ้นดนตรี เรียบเรียงได้เหลือเชื่อคะ กะว่าคงเป็นตัวสุดท้ายที่ลงทุนแล้วค่ะ (1*,***) ท่านใดซื้อแบบสำเร็จมาแล้วนำมาลงให้ชมบ้างนะคะ ของดิฉันกระทู้หน้าค่ะ
น่าสนใจครับ เอามาโชว์เลยครับ :victory
-
ยังไม่มีคนเอามาอวดเลยเหรอครับ :o :o
-
อันนี้ล่าสุด(มากๆ)ที่ใช้อยู่ เท่าที่เทียบมากับสองสามเครื่อง อันนี้ยังเยี่ยมอยู่ครับ...
แต่ผมอัพ opamp เป็น 627AP แล้วนะ อันเดิมเป็น NE55xx จำไม่ได้
รูปกับสเป็ค
http://www.promitheusaudio.com/dac.htm
ส่งถึงประตูบ้านเลยในราคาหมื่นกลางครับ
-
พรุ่งนี้คงได้เอารูปมาลงอวดครับ
-
;)ขอร่วมรับชมด้วยอีกซักคนค้าบ...CLONE มาจาก AUDIO NOTE :headphone
-
ตีตั๋วรอ เผื่อทำบ้าง :whistling
-
รูป
-
เสียงดีกว่า TDA1541 อ้ะป่าวครับ
-
ในความคิดผม คิดว่าคนละเรื่องเลยครับ มีมิติกว่าเลยครับน้ำหนักดีด้วย
-
ในความคิดผม คิดว่าคนละเรื่องเลยครับ มีมิติกว่าเลยครับน้ำหนักดีด้วย
0)] 0)] 0)] สงกะสัยต้องหาโอกาศไปฟังซะแร้ววว ;D
-
ถ้าลงรายละเอียดมากกว่านี้ก็จะดีนะครับ พวกวงจร และ ลาย PCB น่ะครับ
-
ได้ pcb AD 1865 I/V 12AU7 CLONE มาจาก AUDIO NOTE ครับ ตอนนี้กำลังประกอบ ยังงัยประกอบเสร็จแล้วจะ เอารูปมาโพสครับ
ถ้าจะทำเล่นบ้างทำไงดีครับ..
-
สั่งทำแผ่นปลิ้นที่ไหน จะขอสั่งทำบ้าง (ขอกันดื้อๆเลยครับ) :secret :whistling
-
สั่งทำแผ่นปลิ้นที่ไหน จะขอสั่งทำบ้าง (ขอกันดื้อๆเลยครับ) :secret :whistling
ด้วยคน :whistling
-
ซื้อร้านร้าน playback หรือ 12au7 เทเล 2 หลอดไปแลกครับ
-
ซื้อร้านร้าน playback หรือ 12au7 เทเล 2 หลอดไปแลกครับ
แล้วร้านที่ว่าอยู่ส่วนไหนของประเทศไทย..มีเบอร์โทรมั๊ยครับ.
-
ซื้อร้านร้าน playback หรือ 12au7 เทเล 2 หลอดไปแลกครับ
แล้วร้านที่ว่าอยู่ส่วนไหนของประเทศไทย..มีเบอร์โทรมั๊ยครับ.
ถ้าหน้าไมค็ไม่ได้วานหลังไมค์(PM)ได้มั้ยครับ เพราะตอนนี้ DAC ของผมโดนฉี่หนูพังหมดเลย แง๊ แง๊ แง๊ :cry2 :cry2 :cry2
-
ซื้อร้านร้าน playback หรือ 12au7 เทเล 2 หลอดไปแลกครับ
แล้วร้านที่ว่าอยู่ส่วนไหนของประเทศไทย..มีเบอร์โทรมั๊ยครับ.
ถ้าหน้าไมค็ไม่ได้วานหลังไมค์(PM)ได้มั้ยครับ เพราะตอนนี้ DAC ของผมโดนฉี่หนูพังหมดเลย แง๊ แง๊ แง๊ :cry2 :cry2 :cry2
นั่นนะซิ.
-
น่าทำGroup buy ดูนะครับ แบบนี้
http://www.diyaudio.com/forums/showthread.php?postid=554556#post554556 (http://www.diyaudio.com/forums/showthread.php?postid=554556#post554556)
-
:D วงจรนี้เป็นตัวเดียวกะในรูปที่ถ่ายมาหรือป่าว ครับ และ AD1865 ไม่ต้องมี ภาค I/V หรือครับ
-
ถ้าลงรายละเอียดมากกว่านี้ก็จะดีนะครับ พวกวงจร และ ลาย PCB น่ะครับ
น่านซิ..... ดูแปลก ๆ .... ว่าม่ะ....
-
ถ้าลงรายละเอียดมากกว่านี้ก็จะดีนะครับ พวกวงจร และ ลาย PCB น่ะครับ
น่านซิ..... ดูแปลก ๆ .... ว่าม่ะ....
วันก่อนเข้าไปบ้านหม้อ...ร้านที่ว่าไม่เห็นของเลย
-
วงจร ไม่มีหรอกครับ เพราะ เค้าทำขาย ผมซื้อมาก้อ เลยโพสให้ดูหนะครับ แต่เห็น คนขายเค้าบอกว่าเป็นของ audio note หนะ i/v เป็น 12au7 ภาคจ่ายไฟเป็น WALT-JUNG REGURATOR ครับ ซึ่งถ้าผมออกแบบเองก้อคงเอาลายวงจรมาให้ดาว์นโหลดแล้วครับ ส่วนอีกอย่าง AD1865 ผมไม่เคยเห็นที่ไหนขายเลย ถ้าถามเรื่องเสียงต้องให้ป๋าพงษ์เค้ามาเล่าให้ฟังหนะ เพราะผมหูไม่ถึง แต่ ป๋าพงษ์ได้ฟังเมื่อไม่นานนี้เอง ส่วนเรื่องร้านที่เค้าขายผมก้อไม่ช่ายคนกรุงเทพครับแต่ตรงนั้นเค้าเรียกบ้านหม้อพลาซ่าดูจากป้ายเข้าไปแล้วเห็นร้านนี้คุณ อนาล็อก เค้าก้อเคยเห็น d/a ตัวนี้นิครับ
-
วงจร ไม่มีหรอกครับ เพราะ เค้าทำขาย ผมซื้อมาก้อ เลยโพสให้ดูหนะครับ แต่เห็น คนขายเค้าบอกว่าเป็นของ audio note หนะ i/v เป็น 12au7 ภาคจ่ายไฟเป็น WALT-JUNG REGURATOR ครับ ซึ่งถ้าผมออกแบบเองก้อคงเอาลายวงจรมาให้ดาว์นโหลดแล้วครับ ส่วนอีกอย่าง AD1865 ผมไม่เคยเห็นที่ไหนขายเลย ถ้าถามเรื่องเสียงต้องให้ป๋าพงษ์เค้ามาเล่าให้ฟังหนะ เพราะผมหูไม่ถึง แต่ ป๋าพงษ์ได้ฟังเมื่อไม่นานนี้เอง ส่วนเรื่องร้านที่เค้าขายผมก้อไม่ช่ายคนกรุงเทพครับแต่ตรงนั้นเค้าเรียกบ้านหม้อพลาซ่าดูจากป้ายเข้าไปแล้วเห็นร้านนี้คุณ อนาล็อก เค้าก้อเคยเห็น d/a ตัวนี้นิครับ
มีครับผมกำลังเขียนอยู่ ;D ตอนนี้ติดเรื่องขนาดของ footprint ขา Coil ตรงภาค supply เพราะต้องพันเองหรือหาที่มีขายตามท้องตลาดทั่วไป ที่เขาทำขายเป็น coil ขาแบบ Axial ธรรมดาครับ
-
วงจร ไม่มีหรอกครับ เพราะ เค้าทำขาย ผมซื้อมาก้อ เลยโพสให้ดูหนะครับ แต่เห็น คนขายเค้าบอกว่าเป็นของ audio note หนะ i/v เป็น 12au7 ภาคจ่ายไฟเป็น WALT-JUNG REGURATOR ครับ ซึ่งถ้าผมออกแบบเองก้อคงเอาลายวงจรมาให้ดาว์นโหลดแล้วครับ ส่วนอีกอย่าง AD1865 ผมไม่เคยเห็นที่ไหนขายเลย ถ้าถามเรื่องเสียงต้องให้ป๋าพงษ์เค้ามาเล่าให้ฟังหนะ เพราะผมหูไม่ถึง แต่ ป๋าพงษ์ได้ฟังเมื่อไม่นานนี้เอง ส่วนเรื่องร้านที่เค้าขายผมก้อไม่ช่ายคนกรุงเทพครับแต่ตรงนั้นเค้าเรียกบ้านหม้อพลาซ่าดูจากป้ายเข้าไปแล้วเห็นร้านนี้คุณ อนาล็อก เค้าก้อเคยเห็น d/a ตัวนี้นิครับ
มีครับผมกำลังเขียนอยู่ ;D ตอนนี้ติดเรื่องขนาดของ footprint ขา Coil ตรงภาค supply เพราะต้องพันเองหรือหาที่มีขายตามท้องตลาดทั่วไป ที่เขาทำขายเป็น coil ขาแบบ Axial ธรรมดาครับ
Mr.Q ช่วยทำให้เป็นจริงหน่อยเถอะ...หลายคนอยากทำกัน
-
มีครับผมกำลังเขียนอยู่ ;D ตอนนี้ติดเรื่องขนาดของ footprint ขา Coil ตรงภาค supply เพราะต้องพันเองหรือหาที่มีขายตามท้องตลาดทั่วไป ที่เขาทำขายเป็น coil ขาแบบ Axial ธรรมดาครับ
c) c) c)
-
เข้าชื่อรอครับ ^-^ ^-^ ^-^
-
ถ้าเป็น DAC ตัวนี้ผมเชียร์ให้ทำเลยครับ เห็นมีอยู่ใน
AUDIO NOTE CD-2
AUDIO NOTE CD-2.1x
AUDIO NOTE CD-3
AUDIO NOTE CD-3.1x
บังเอิญได้ฟัง DAC ตัวนี้จาก TASCAM DA-60 ที่ผมเอามาต่อเป็น DAC ไว้ฟังเพลง มันใช้ AD1865N ภาค I/V ใช้ op-amp NE5532 2 stage ธรรมดานี่แหละครับ แต่เสียงที่ได้ถูกใจมาก ราบเรียบตั้งแต่เสียงต่ำยันเสียงสูง แหลมไม่จัด เสียงต่ำลงได้ลึกมาก เสียงกลางก็หายห่วง ตอนนี้อยากลองฟังแบบ ภาค I/V เป็นหลอดบ้างครับ :)
(http://img88.imageshack.us/img88/8945/da60lr8.jpg)
-
สำหรับร้านที่คุณ nut บอกนั้น อยู่ในบ้านหม้อพลาซ่า ถ้าใครที่รู้จักร้านแม่ย่านางก้ออยู่ตรงข้ามกันล่ะครับ ขายเครื่องเสียงพวก Solid state ข้าง ๆ ขายอุปกรณ์พวก C,R,L และไม่รู้อะไรอีกเยอะแยะ เดินเข้าไปแล้วเงยหน้าขึ้นสักนิดจพบชื่อร้านเลยถ้าเห็นผู้ชายผมยาว ๆ นั่งอยู่นั่นล่ะ ผมเคยแวะสอบถามดูเหมือนกัน แต่เห็นราคาแล้ว :'( (( แต่ถ้าใครมี 12AU7 Tele สัก 2 หลอดเอาไปได้เลย แต่ถ้าจะซื้อต้องทั้งชุดก้อเหยียบ 5 หลักเหมือนกัน จะขอซื้อเฉพาะปริ๊นเค้าก็ไม่ขาย คิดแล้วรอเพื่อน ๆ ทำ Group by ดีกว่า คุณ Mr.Q ครับผมขอจอง 1 ชุดครับ
c) c) c) :thumb :thumb :groovy
-
ถ้าเป็น DAC ตัวนี้ผมเชียร์ให้ทำเลยครับ เห็นมีอยู่ใน
AUDIO NOTE CD-2
AUDIO NOTE CD-2.1x
AUDIO NOTE CD-3
AUDIO NOTE CD-3.1x
บังเอิญได้ฟัง DAC ตัวนี้จาก TASCAM DA-60 ที่ผมเอามาต่อเป็น DAC ไว้ฟังเพลง มันใช้ AD1865N ภาค I/V ใช้ op-amp NE5532 2 stage ธรรมดานี่แหละครับ แต่เสียงที่ได้ถูกใจมาก ราบเรียบตั้งแต่เสียงต่ำยันเสียงสูง แหลมไม่จัด เสียงต่ำลงได้ลึกมาก เสียงกลางก็หายห่วง ตอนนี้อยากลองฟังแบบ ภาค I/V เป็นหลอดบ้างครับ :)
(http://img88.imageshack.us/img88/8945/da60lr8.jpg)
นี่แหละครับโดนเลย
สำหรับร้านที่คุณ nut บอกนั้น อยู่ในบ้านหม้อพลาซ่า ถ้าใครที่รู้จักร้านแม่ย่านางก้ออยู่ตรงข้ามกันล่ะครับ ขายเครื่องเสียงพวก Solid state ข้าง ๆ ขายอุปกรณ์พวก C,R,L และไม่รู้อะไรอีกเยอะแยะ เดินเข้าไปแล้วเงยหน้าขึ้นสักนิดจพบชื่อร้านเลยถ้าเห็นผู้ชายผมยาว ๆ นั่งอยู่นั่นล่ะ ผมเคยแวะสอบถามดูเหมือนกัน แต่เห็นราคาแล้ว :'( (( แต่ถ้าใครมี 12AU7 Tele สัก 2 หลอดเอาไปได้เลย แต่ถ้าจะซื้อต้องทั้งชุดก้อเหยียบ 5 หลักเหมือนกัน จะขอซื้อเฉพาะปริ๊นเค้าก็ไม่ขาย คิดแล้วรอเพื่อน ๆ ทำ Group by ดีกว่า คุณ Mr.Q ครับผมขอจอง 1 ชุดครับ
c) c) c) :thumb :thumb :groovy
เขาเคยสบประมาทชาว TDA ทำนองว่ายากนะ ...เดียวก็รู้ ;D
-
เขาเคยสบประมาทชาว TDA ทำนองว่ายากนะ ...เดียวก็รู้ ;D
เอาเลยครับผมหนุนสุด ๆ เลย แล้วเรามารวมกันหา AD1865 N-K ที่เค้าบอกว่าหายากเย็นหนักหนากันว่ามันจริงมั้ย c)
-
มาเข้าคิวรอด้วยคนครับ d_d
-
เป็นผู้ตามที่ดีด้วยคน :D
-
ถ้าหา ad1865 ได้ผมขอซื้อด้วยครับ
-
เขาเคยสบประมาทชาว TDA ทำนองว่ายากนะ ...เดียวก็รู้ ;D
เอาเลยครับผมหนุนสุด ๆ เลย แล้วเรามารวมกันหา AD1865 N-K ที่เค้าบอกว่าหายากเย็นหนักหนากันว่ามันจริงมั้ย c)
ในประเทศน่ะคงหาไม่ได้ แต่ต่างประเทศหาไม่ยากนะครับ
www.newark.com ก็มี
www.arrownac.com ก็มี
www.digikey.com ก็มีครับ
ถ้าเอาใกล้ๆ RS ที่ Singapore ก็มีขาย AD1851 ซึ่งใกล้เคียงกับ AD1865 แต่เป็น 16 Bit ครับ สถาปัตยกรรมรุ่นเดียวกัน การทำงานก็ไม่น่าจะต่างกันมากครับ อย่างไรก็ตาม DAC ของ AD ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับ Philips ที่เล่นๆ กันอยู่นะครับ :)
-
:) ดีครับ ลอง DAC หลายๆ ตัวจะได้มีข้อเปรียบเทียบ กับ TDA1541 :clap
-
วงจร AUDIONOTE AD1865 ตามLink
http://www.ptsoundlab.com/sources/dac/mondac1865/ad1865nonover.htm
-
:clap :clap :clap
-
ลองทำดูครับ อยาก ลองเทียบกับของเพื่อนๆดูครับ
-
รอกรุ๊ปบายด้วยครับ 0)]c) c)
-
... AD1865N-K , CS8412CP. ถ้าของผมเข้ามาแล้วและเท็สผ่านว่าไม่เสีย.. O0
ถ้าสนใจจะทำก็หยอดกระปุกรอไว้ได้เลย . :showoff :drunk
.หรือใครจะรับอาสาจะช่วยเอาไปลองให้ผมก็ยินดีครับจะได้รู้กันไปเลยว่า AD1865N-K. เกร็ด กับ TDA1541A S1 , S2. ใครเสียงดีกว่ากัน. :showoff
-
c)รอกรุ๊ปบายPCB เเละAD1865 ด้วยครับ
-
... AD1865N-K , CS8412CP. ถ้าของผมเข้ามาแล้วและเท็สผ่านว่าไม่เสีย.. O0
ถ้าสนใจจะทำก็หยอดกระปุกรอไว้ได้เลย . :showoff :drunk
.หรือใครจะรับอาสาจะช่วยเอาไปลองให้ผมก็ยินดีครับจะได้รู้กันไปเลยว่า AD1865N-K. เกร็ด กับ TDA1541A S1 , S2. ใครเสียงดีกว่ากัน. :showoff
รอกรุ๊ปบายด้วยคนครับ... AD1865N-K ,
สนใจลองให้เช่นกันครับ
"""""หรือใครจะรับอาสาจะช่วยเอาไปลองให้ผมก็ยินดีครับจะได้รู้กันไปเลยว่า AD1865N-K. เกร็ด กับ TDA1541A S1 """",
ผมไม่มีเอสทู (แต่คิดว่าคงไม่หนีกันสำหรับเอสวันซักเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับค่าตัวที่ต้องจ่าย)
-
... AD1865N-K , CS8412CP. ถ้าของผมเข้ามาแล้วและเท็สผ่านว่าไม่เสีย.. O0
ถ้าสนใจจะทำก็หยอดกระปุกรอไว้ได้เลย . :showoff :drunk
.หรือใครจะรับอาสาจะช่วยเอาไปลองให้ผมก็ยินดีครับจะได้รู้กันไปเลยว่า AD1865N-K. เกร็ด กับ TDA1541A S1 , S2. ใครเสียงดีกว่ากัน. :showoff
c) ผมกำลังจะ PM ไปถามอยู่พอดีเลยครับ วงจรแบบที่คุณ sumeth Link ไว้ครับ แต่ตั้งใจว่าจะทำแบบแผ่นเดียวจบครับ
-
O0 c) c) c) c) c) c) c) c) c) c) c) c) c) c) c) c) c) c) c) c) c) c) c) O0
-
เขาเคยสบประมาทชาว TDA ทำนองว่ายากนะ ...เดียวก็รู้ ;D
เอาเลยครับผมหนุนสุด ๆ เลย แล้วเรามารวมกันหา AD1865 N-K ที่เค้าบอกว่าหายากเย็นหนักหนากันว่ามันจริงมั้ย c)
เอาใจช่วยด้วยคน tda มีคนก่งๆๆ เยอะแยะ สู้สู้ O0 O0 O0 O0 O0 c) c) c) c) c) c) c) :victory :victory :victory :victory :victory :victory :victory :victory :victory :victory
:victory :victory :victory :victory :victory :victory :victory :victory :victory :victory :victory :victory :victory :victory :victory :victory :victory :victory :victory :victory
-
:yahoo รอกรุ๊ปบายด้วยครับ :yahoo
:headphone :headphone :headphone
-
รอ ซื้อกลุ่ม ด้วยครับ ลืมไปยังน้อ..... :headphone
-
รอ ซื้อกลุ่ม ด้วยครับ ลืมไปยังน้อ..... :headphone
รอคุณ Mr.Q ทำ PCB เสร็จก่อนคงได้ Group ครับ
http://www.htg2.net/index.php?topic=26755.0 (http://www.htg2.net/index.php?topic=26755.0)
คงอีกไม่นานเกินรอ
-
เค้ารออยู่นะตะเอง :-* :-*
-
รอ ซื้อกลุ่ม ด้วยครับ ลืมไปยังน้อ..... :headphone
รอคุณ Mr.Q ทำ PCB เสร็จก่อนคงได้ Group ครับ
http://www.htg2.net/index.php?topic=26755.0 (http://www.htg2.net/index.php?topic=26755.0)
คงอีกไม่นานเกินรอ
:oรอกรุ๊ปด้วยอีกคน....นานแค่ไหนก็จะรอครับ ;D
-
ยังรอด้วยใจแน๊วแน่ :) :) :)
-
รอด้วยคนคับ :whistling
-
รอด้วยคนคับ :drunk :drunk
-
รอด้วยคนครับ O0
-
Mr.Q รอกันหลายจริงๆ..
-
ไม่ค่อยรู้เรื่อง dac เท่าไหร่แต่อยากแจมด้วย ถ้าออกแบบให้มันขนานๆกัน4-8-32 ตัวแบบในเครื่อง hiend น่าจะ work ขึ้นไหมคับ อยากรู้เหมือนกัน K]
-
ตอนนี้ผมกำลังวางแผนอยู่ครับ คือเกี่ยวกับเรื่อง วงจรยังคิดไม่ออกว่าจะเลือกภาค I/V เป็นหลอดหรือ IC Opamp ดี ภาคจ่ายไฟก็เหมือนกันครับจะใช้ IC หรือ TR.ดี และก็เรื่องการวาง Lay Out ผมคิดว่าจะทำแบบแผ่นเดียวจบและวาง RCA Jack ไว้บนบร์อดเลย อาจจะทำเป็น PCB เป็น 2 Layer PTH ทำ Ground Plane แยกออกเป็นของแต่ละภาค คิดว่าเร็ว ๆ นี้คงเสร็จครับ
-
อย่าลืมนึกถึงกล่องที่จะใส่ไปด้วยเลย...หรือจะเอากล่องที่ผมมีไปเป็นไอเดียก่อน
-
ตอนนี้ผมกำลังวางแผนอยู่ครับ คือเกี่ยวกับเรื่อง วงจรยังคิดไม่ออกว่าจะเลือกภาค I/V เป็นหลอดหรือ IC Opamp ดี ภาคจ่ายไฟก็เหมือนกันครับจะใช้ IC หรือ TR.ดี และก็เรื่องการวาง Lay Out ผมคิดว่าจะทำแบบแผ่นเดียวจบและวาง RCA Jack ไว้บนบร์อดเลย อาจจะทำเป็น PCB เป็น 2 Layer PTH ทำ Ground Plane แยกออกเป็นของแต่ละภาค คิดว่าเร็ว ๆ นี้คงเสร็จครับ
ผมสนับสนุนภาค I/V เป็นหลอดครับ
-
ตอนนี้ผมกำลังวางแผนอยู่ครับ คือเกี่ยวกับเรื่อง วงจรยังคิดไม่ออกว่าจะเลือกภาค I/V เป็นหลอดหรือ IC Opamp ดี ภาคจ่ายไฟก็เหมือนกันครับจะใช้ IC หรือ TR.ดี และก็เรื่องการวาง Lay Out ผมคิดว่าจะทำแบบแผ่นเดียวจบและวาง RCA Jack ไว้บนบร์อดเลย อาจจะทำเป็น PCB เป็น 2 Layer PTH ทำ Ground Plane แยกออกเป็นของแต่ละภาค คิดว่าเร็ว ๆ นี้คงเสร็จครับ
แยกอิสระได้ก็ดีเช่นกันนะครับ
บอร์ดหลัก ๑)สำหรับรีซีฟเวอร์ แล้วก็ ๒)สำหรับแด็ค
แต่ละบอร์ดจะได้ใส่ภาคจ่ายไฟแบบเต็มที่สุดๆ แยกเร็คกูเลทอิสระ สำหรับขาไฟแต่ละขา ของแต่ละชิบไปเลย เพื่อผลลัพท์สูงสุด
นอกจากนี้ใครใคร่เพิ่มรีคล็อก ก็ทำได้ง่าย
ภาคไอวี หรือเอ้าท์พุทก็ทำได้อิสระจะหลอด จะอ็อปแอ็มป์ได้ทั้งนั้น
ขอบคุณครับ
-
ตอนนี้ผมกำลังวางแผนอยู่ครับ คือเกี่ยวกับเรื่อง วงจรยังคิดไม่ออกว่าจะเลือกภาค I/V เป็นหลอดหรือ IC Opamp ดี ภาคจ่ายไฟก็เหมือนกันครับจะใช้ IC หรือ TR.ดี และก็เรื่องการวาง Lay Out ผมคิดว่าจะทำแบบแผ่นเดียวจบและวาง RCA Jack ไว้บนบร์อดเลย อาจจะทำเป็น PCB เป็น 2 Layer PTH ทำ Ground Plane แยกออกเป็นของแต่ละภาค คิดว่าเร็ว ๆ นี้คงเสร็จครับ
แยกอิสระได้ก็ดีเช่นกันนะครับ
บอร์ดหลัก ๑)สำหรับรีซีฟเวอร์ แล้วก็ ๒)สำหรับแด็ค
แต่ละบอร์ดจะได้ใส่ภาคจ่ายไฟแบบเต็มที่สุดๆ แยกเร็คกูเลทอิสระ สำหรับขาไฟแต่ละขา ของแต่ละชิบไปเลย เพื่อผลลัพท์สูงสุด
นอกจากนี้ใครใคร่เพิ่มรีคล็อก ก็ทำได้ง่าย
ภาคไอวี หรือเอ้าท์พุทก็ทำได้อิสระจะหลอด จะอ็อปแอ็มป์ได้ทั้งนั้น
ขอบคุณครับ
สุดสุดไปเลยครับ
-
1865 กลับมาอีกแล้วหรือครับ ลองถาม Mr tube สิครับ ถ้าจำไม่ผิดแกทำ 1865 มาก่อนจะทำ tda1541A เสียอีก ถ้าจำไม่ผิดน่าจะอยู่ใน year book ของ TAOTN เล่มแรกๆ ประมาณ 4-5 ปีก่อน
-
ตอนนี้มีพี่ท่านหนึ่ง PM มาขอแผ่นวงจรของร้าน DEXICON ไม่ทราบว่าจะลอง cloned ของเค้าดูจะเป็นไรมั้ยคะ เพราะตามที่คุณ คุ้ม request รู้สึกว่าจะครบเลยค่ะ อยากลองเวอร์ชั่นใหม่ดูเหมือนกัน
-
สวัสดีครับ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ ผมก็เป็น แฟนพันธ์แท้ AD1865 คนนึงเหมือนกันจึงขอหยิบยืมชื่อนี้มาใช้บ้าง สำหรับวงจรของ audio note dac kit 1.1 เดิมทีผมจะเข้าๆ ออกๆ อยู่ที่ DIYAUDIO เพียงอย่างเดียว เป็นสมาชิกที่นั่นมา 3 ปีแล้ว ก็ยังไม่สามารถที่จะปั้น AD1865 ให้ดังได้สักที สงสัยฝรั่งเขาไม่ชอบ ตอนนั้นผมกับเพื่อนๆ ดีไซน์เป็นบาลานซ์เอาต์พุตโดยใช้ AD1865 จำนวน 2 ตัว ขับด้วยหลอด 12AU7 แยกเฟสหลอดละแชนเนล
สำหรับวงจรภาคจ่ายไฟ DAC KIT 1.1 นั้นได้แยกภาคจ่ายไฟออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ ก็คือ ดิจิตอล 5 โวลต์ อนาล็อก +/- 5 โวลต์ และ ไฟสูง กับ ไฟจุดไส้หลอดภาค I/V ในส่วนของภาคดิจิตอล และ อนาล็อกได้ใช้วงจรซีรี่ย์เร็กกูเลเตอร์ โดยมี ไอซี ซิงเกิ้ลออปแอมป์ ที่ทำหน้าที่เปรียบเทียบแรงดันเอาต์พุต และ ขับกระแสออกสู่เอาต์พุตโดยใช้ทรานซิสเตอร์ ซึ่งผมเองก็ลองดัดแปลงมาใช้ LT1086 ร่วมกับ TL431 ก็ไม่เห็นผลว่าจะมีผลในด้านเสียงที่ดีขึ้นเลย สุดท้ายก็กลับมาใช้แบบเดิมๆ ของเขา อันที่จริงแล้วตอนแรกผมกะว่าจะลองดูเล่นๆ ทำไปทำมาก็หมดไปหลายรุ่นเหมือนกัน ปัจจุบันนี้ก็ยังไม่ลงตัวกับรุ่นไหนสักรุ่นเลย
หากพี่ๆ ท่านใดสนใจที่จะ group buy ก็ลองเสนอมาได้นะครับเผื่อผมจะมีโมเดลที่ตรงกับความต้องการ ในส่วนซัพพลายผมมีทั้ง LM7805, LM317T,LT1086,TL431 ส่วนของระบบดิจิตอลผมไม่ขอพูดถึงนะครับ เพราะใช้วงจรเดียวกันกับที่พี่ๆ ได้ลงเอาไว้
-
ตอนนี้ผมกำลังวางแผนอยู่ครับ คือเกี่ยวกับเรื่อง วงจรยังคิดไม่ออกว่าจะเลือกภาค I/V เป็นหลอดหรือ IC Opamp ดี ภาคจ่ายไฟก็เหมือนกันครับจะใช้ IC หรือ TR.ดี และก็เรื่องการวาง Lay Out ผมคิดว่าจะทำแบบแผ่นเดียวจบและวาง RCA Jack ไว้บนบร์อดเลย อาจจะทำเป็น PCB เป็น 2 Layer PTH ทำ Ground Plane แยกออกเป็นของแต่ละภาค คิดว่าเร็ว ๆ นี้คงเสร็จครับ
ช่วยดันกระทู้ครับ
อยากลองเหมือนกัน 1865 นี่ ได้ยินพวกฝรั่งใน DIYAUDIO พูดถึงกันเหลือเกิน ไหนๆจะทำแล้วก็เอาแบบดีๆไปเลยครับ
-
1865 กลับมาอีกแล้วหรือครับ ลองถาม Mr tube สิครับ ถ้าจำไม่ผิดแกทำ 1865 มาก่อนจะทำ tda1541A เสียอีก ถ้าจำไม่ผิดน่าจะอยู่ใน year book ของ TAOTN เล่มแรกๆ ประมาณ 4-5 ปีก่อน
ผมก็คิดอยู่เหมือนกันครับ แต่เท่าที่ค้นดูพวกเราที่นี้ยังไม่เคยทำเป็นกิจจะลักษณะเลยครับ
สวัสดีครับ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ ผมก็เป็น แฟนพันธ์แท้ AD1865 คนนึงเหมือนกันจึงขอหยิบยืมชื่อนี้มาใช้บ้าง สำหรับวงจรของ audio note dac kit 1.1 เดิมทีผมจะเข้าๆ ออกๆ อยู่ที่ DIYAUDIO เพียงอย่างเดียว เป็นสมาชิกที่นั่นมา 3 ปีแล้ว ก็ยังไม่สามารถที่จะปั้น AD1865 ให้ดังได้สักที สงสัยฝรั่งเขาไม่ชอบ ตอนนั้นผมกับเพื่อนๆ ดีไซน์เป็นบาลานซ์เอาต์พุตโดยใช้ AD1865 จำนวน 2 ตัว ขับด้วยหลอด 12AU7 แยกเฟสหลอดละแชนเนล
สำหรับวงจรภาคจ่ายไฟ DAC KIT 1.1 นั้นได้แยกภาคจ่ายไฟออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ ก็คือ ดิจิตอล 5 โวลต์ อนาล็อก +/- 5 โวลต์ และ ไฟสูง กับ ไฟจุดไส้หลอดภาค I/V ในส่วนของภาคดิจิตอล และ อนาล็อกได้ใช้วงจรซีรี่ย์เร็กกูเลเตอร์ โดยมี ไอซี ซิงเกิ้ลออปแอมป์ ที่ทำหน้าที่เปรียบเทียบแรงดันเอาต์พุต และ ขับกระแสออกสู่เอาต์พุตโดยใช้ทรานซิสเตอร์ ซึ่งผมเองก็ลองดัดแปลงมาใช้ LT1086 ร่วมกับ TL431 ก็ไม่เห็นผลว่าจะมีผลในด้านเสียงที่ดีขึ้นเลย สุดท้ายก็กลับมาใช้แบบเดิมๆ ของเขา อันที่จริงแล้วตอนแรกผมกะว่าจะลองดูเล่นๆ ทำไปทำมาก็หมดไปหลายรุ่นเหมือนกัน ปัจจุบันนี้ก็ยังไม่ลงตัวกับรุ่นไหนสักรุ่นเลย
หากพี่ๆ ท่านใดสนใจที่จะ group buy ก็ลองเสนอมาได้นะครับเผื่อผมจะมีโมเดลที่ตรงกับความต้องการ ในส่วนซัพพลายผมมีทั้ง LM7805, LM317T,LT1086,TL431 ส่วนของระบบดิจิตอลผมไม่ขอพูดถึงนะครับ เพราะใช้วงจรเดียวกันกับที่พี่ๆ ได้ลงเอาไว้
ความสำคัณของถาคจ่ายไฟคือภาคถัดไปครับ เช่น Preamp. ครับ
ตอนนี้ผมกำลังวางแผนอยู่ครับ คือเกี่ยวกับเรื่อง วงจรยังคิดไม่ออกว่าจะเลือกภาค I/V เป็นหลอดหรือ IC Opamp ดี ภาคจ่ายไฟก็เหมือนกันครับจะใช้ IC หรือ TR.ดี และก็เรื่องการวาง Lay Out ผมคิดว่าจะทำแบบแผ่นเดียวจบและวาง RCA Jack ไว้บนบร์อดเลย อาจจะทำเป็น PCB เป็น 2 Layer PTH ทำ Ground Plane แยกออกเป็นของแต่ละภาค คิดว่าเร็ว ๆ นี้คงเสร็จครับ
ช่วยดันกระทู้ครับ
อยากลองเหมือนกัน 1865 นี่ ได้ยินพวกฝรั่งใน DIYAUDIO พูดถึงกันเหลือเกิน ไหนๆจะทำแล้วก็เอาแบบดีๆไปเลยครับ
ใช่เลยครับ ไหน ๆ ทำแล้วต้องดีครับ ผมเองให้ความสำคัณตรงนี้มาก ๆ จากการทดลองผิดลองถูกมา10กว่าปีทำให้ผมคิดมากเหมือนกันครับ ถึงทำให้ช้าอยู่ไงละครับ เพราะว่าวงจร RF, AF, Power, Digital ถ้ามองลึก ๆ แล้วนั้นหลักการแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเลยครับ ........ครั้งนี้ PCB ต้อง EDL อีกแล้วครับ เพราะว่าผมเปรียบเทียบกับค่ายอื่นแล้ว EDL กินขาดเลยครับไม่เชื่อลองเทียบกับ JP-80 ดูก็ได้ครับจะมีก็สีร่อนตอนบัดกรีแต่ก็ไม่มีปัญหาถ้าใช้เวลา 15 วันขึ้นไปครับ งั้นผมลุยต่อเลยครับ
-
ภาคจ่ายไฟแบบซีรี่ย์เร็กกูเลเตอร์ กับ ภาค OPAMP I/V AD844 ตอนนั้นคิดว่าเสียงดีที่สุดแล้วแต่ก็ต้องเปลี่ยนใจเมื่อนำมาเทียบกับหลอด 5687 ที่ใช้หม้อแปลง I/V ของลันดาห์ล แต่ก็นั่นล่ะมันยังเกินงบไปหน่อยรวมราคาแล้วเพียงพอที่จะซื้อแบรนด์เนมได้เลย ก็เลยตัดใจมาใช้ 6DJ8 SRPP แทนที่ 12AU7 ที่ต่อเป็น CATHODE FOLLOWER นับว่าเสียงที่ได้มาใกล้เคียงกับตัวจริงที่ซื้อมาในตอนนั้น (ลืมบอกไปว่าเคยซื้อมาประกอบแล้วครับ AUDIO NOTE DAC KIT 1.1) ตอนนั้นใช้ THULE SPIRIT CD 150B MKII เป็นทรานสปอร์ต ด้วยความเห็นส่วนตัวแล้ว ไม่อยากซื้อ มาร์ค เลวินสันเลยล่ะ (ไม่มีงบ 555++)
-
ตอนนี้ผมกำลังนั่งออกแบบตัวใหม่ (อีกแล้ว) จะเอาภาคต่างๆ มารวมกันให้หมดเลย แล้วก็ตัดฟังก์ชั่นของขา 3 ใน CS8414 ออกเพราะไม่จำเป็นต้องมิ้วติ้ง ไซ้ส์ของ PCB ดูคร่าวๆ แล้วใหญ๋กว่ากระดาษ A4 นิดหน่อย ทำเป็น เพลตทรูโฮล 2 หน้า ด้านบนชีลด์กราวนด์เพลนเฉพาะภาคดิจิตอล ภาคอื่นๆ ปล่อยลอยเอาไว้ด้านล่างทำเป็นสตาร์กราวนด์ในภาคอนาล็อก แต่ที่สำคัญก็คือจะหาชิปได้จากที่ไหนล่ะครับ เพราะที่ผมใช้อยู่ก็สั่งมาจากฟาร์เนล เร็วดีแต่แพง แถมยังไม่ใช่ K เกรดด้วย ถ้าเป็น K เกรดราคาคงทะลุ 2000 มั้ง ผมคำนวณคร่าวๆ ดูแล้วถ้าทำ PCB จำนวน 10 แผ่นขึ้นไป ราคาประมาณแผ่นละพันกว่าๆ
-
รอกรุ๊ปบายด้วยครับ K)
-
รอกรุ๊ปบาย ด้วยครับ... c) :clap
-
IC AD1865 CS8414 ต้องรบกวนพี่BETA.10 กรุ๊ปบาย หรือ
http://www.pridediyjunk.com/catalog/index.php?cPath=45&osCsid=5e73c342b6de598579d39d9f8298a1ff
-
เห็นลงไปทั่วเลย
-
อะโหยยย...นั่นมันงานระดับมาร์เก็ต โปรดักส์แล้วน่ะ เรามันนัก DIY คงไปไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ เคยเข้าไปคุยที่หน้าร้านเขาเหมือนกัน ดีนะ ไม่หวงความรู้ด้วย แต่ขอ PCB เขาไม่ให้ (555++) จากลิ้งค์ที่ CEW นั่นเป็นรุ่นที่ 2 ของเขาแล้วนี่ครับ รุ่นแรกเห็นยังใช้แค่ 2 หลอดอยู่เลย
กลับเข้ามาที่เรื่องของเรากันต่อ ท่านใดสนใจกรุ๊ปบายบ้างครับ PM มาก็ได้ หรือลงทางหน้าเว็บก็ได้ครับ แล้วจะนับกันยังไงเนี่ย PM ดีกว่าง่ายดี ผมจะพยายามหา AD1865N-K เกรดนะครับ แบบ N ธรรมดา ฟังจนชินหูแล้ว น้อง nut_ty ได้ข่าวว่ามีใช้อยู่อยากจะขอยืมได้มั้ยครับ 7 วันเป็นอันรู้เรื่อง
หลอดเร็กติฟายใช้อันไหนดีครับ EZ80 - EZ81 - 6X4 - 6X5 ?
-
รอกรุ๊ปบายด้วยคนครับ :yahoo :yahoo :yahoo
-
กำลังจะบอกเลยครับว่า ผมไปเห็นอยู่ลิ้งค์หนึ่งที่ http://www.diy55.com/index.php?type=webboard&add=2&update=1&id=1315 เป็นเว็บขายพาร์ทเกี่ยวกับโมดิฟายเครื่องเสียง แต่ไหงมี D/A ตัวนี้อยู่ด้วยมิทราบ สงสัยน่าจะเป็นเจ้าเดียวกันครับ แต่มิได้ลงราคาไว้สงสัย **,*** :-X
-
ตอนนี้ผมกำลังนั่งออกแบบตัวใหม่ (อีกแล้ว) จะเอาภาคต่างๆ มารวมกันให้หมดเลย แล้วก็ตัดฟังก์ชั่นของขา 3 ใน CS8414 ออกเพราะไม่จำเป็นต้องมิ้วติ้ง ไซ้ส์ของ PCB ดูคร่าวๆ แล้วใหญ๋กว่ากระดาษ A4 นิดหน่อย ทำเป็น เพลตทรูโฮล 2 หน้า ด้านบนชีลด์กราวนด์เพลนเฉพาะภาคดิจิตอล ภาคอื่นๆ ปล่อยลอยเอาไว้ด้านล่างทำเป็นสตาร์กราวนด์ในภาคอนาล็อก แต่ที่สำคัญก็คือจะหาชิปได้จากที่ไหนล่ะครับ เพราะที่ผมใช้อยู่ก็สั่งมาจากฟาร์เนล เร็วดีแต่แพง แถมยังไม่ใช่ K เกรดด้วย ถ้าเป็น K เกรดราคาคงทะลุ 2000 มั้ง ผมคำนวณคร่าวๆ ดูแล้วถ้าทำ PCB จำนวน 10 แผ่นขึ้นไป ราคาประมาณแผ่นละพันกว่าๆ
หยั่งงัยก้ออย่าให้ราคามันสูงจนเกินไปแล้วนะครับ เอาพอสมน้ำสมเนื้อหน่อย :secret
-
ขอหยั่งเสียงหน่อยนะครับว่า ระหว่างรวมบอร์ดกับแยกบอร์ด พี่ๆ มีความชอบในรูปแบบไหนมากกว่ากันครับ
-
ขอหยั่งเสียงหน่อยนะครับว่า ระหว่างรวมบอร์ดกับแยกบอร์ด พี่ๆ มีความชอบในรูปแบบไหนมากกว่ากันครับ
ขอชูมือให้แบบ แยก ครับ โมง่ายดี หาพื้นทีติดตั้ง(ยัด)ง่าย คล่องตัวเมื่อต้องการยำ ฯ :wiggle :wiggle :wiggle
-
ขอหยั่งเสียงหน่อยนะครับว่า ระหว่างรวมบอร์ดกับแยกบอร์ด พี่ๆ มีความชอบในรูปแบบไหนมากกว่ากันครับ
แต่ถ้าทำ pcb. ให้เป็นแผ่นเดียวกันแต่มีลอยให้แยกไว้เป็นภาคๆ ก็ดีเหมือนกันนะครับ
-
ขอหยั่งเสียงหน่อยนะครับว่า ระหว่างรวมบอร์ดกับแยกบอร์ด พี่ๆ มีความชอบในรูปแบบไหนมากกว่ากันครับ
แต่ถ้าทำ pcb. ให้เป็นแผ่นเดียวกันแต่มีลอยให้แยกไว้เป็นภาคๆ ก็ดีเหมือนกันนะครับ
O0 O0 O0 O0 O0
-
1865 กลับมาอีกแล้วหรือครับ ลองถาม Mr tube สิครับ ถ้าจำไม่ผิดแกทำ 1865 มาก่อนจะทำ tda1541A เสียอีก ถ้าจำไม่ผิดน่าจะอยู่ใน year book ของ TAOTN เล่มแรกๆ ประมาณ 4-5 ปีก่อน
ผมก็คิดอยู่เหมือนกันครับ แต่เท่าที่ค้นดูพวกเราที่นี้ยังไม่เคยทำเป็นกิจจะลักษณะเลยครับ
สวัสดีครับ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ ผมก็เป็น แฟนพันธ์แท้ AD1865 คนนึงเหมือนกันจึงขอหยิบยืมชื่อนี้มาใช้บ้าง สำหรับวงจรของ audio note dac kit 1.1 เดิมทีผมจะเข้าๆ ออกๆ อยู่ที่ DIYAUDIO เพียงอย่างเดียว เป็นสมาชิกที่นั่นมา 3 ปีแล้ว ก็ยังไม่สามารถที่จะปั้น AD1865 ให้ดังได้สักที สงสัยฝรั่งเขาไม่ชอบ ตอนนั้นผมกับเพื่อนๆ ดีไซน์เป็นบาลานซ์เอาต์พุตโดยใช้ AD1865 จำนวน 2 ตัว ขับด้วยหลอด 12AU7 แยกเฟสหลอดละแชนเนล
สำหรับวงจรภาคจ่ายไฟ DAC KIT 1.1 นั้นได้แยกภาคจ่ายไฟออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ ก็คือ ดิจิตอล 5 โวลต์ อนาล็อก +/- 5 โวลต์ และ ไฟสูง กับ ไฟจุดไส้หลอดภาค I/V ในส่วนของภาคดิจิตอล และ อนาล็อกได้ใช้วงจรซีรี่ย์เร็กกูเลเตอร์ โดยมี ไอซี ซิงเกิ้ลออปแอมป์ ที่ทำหน้าที่เปรียบเทียบแรงดันเอาต์พุต และ ขับกระแสออกสู่เอาต์พุตโดยใช้ทรานซิสเตอร์ ซึ่งผมเองก็ลองดัดแปลงมาใช้ LT1086 ร่วมกับ TL431 ก็ไม่เห็นผลว่าจะมีผลในด้านเสียงที่ดีขึ้นเลย สุดท้ายก็กลับมาใช้แบบเดิมๆ ของเขา อันที่จริงแล้วตอนแรกผมกะว่าจะลองดูเล่นๆ ทำไปทำมาก็หมดไปหลายรุ่นเหมือนกัน ปัจจุบันนี้ก็ยังไม่ลงตัวกับรุ่นไหนสักรุ่นเลย
หากพี่ๆ ท่านใดสนใจที่จะ group buy ก็ลองเสนอมาได้นะครับเผื่อผมจะมีโมเดลที่ตรงกับความต้องการ ในส่วนซัพพลายผมมีทั้ง LM7805, LM317T,LT1086,TL431 ส่วนของระบบดิจิตอลผมไม่ขอพูดถึงนะครับ เพราะใช้วงจรเดียวกันกับที่พี่ๆ ได้ลงเอาไว้
ความสำคัณของถาคจ่ายไฟคือภาคถัดไปครับ เช่น Preamp. ครับ
ตอนนี้ผมกำลังวางแผนอยู่ครับ คือเกี่ยวกับเรื่อง วงจรยังคิดไม่ออกว่าจะเลือกภาค I/V เป็นหลอดหรือ IC Opamp ดี ภาคจ่ายไฟก็เหมือนกันครับจะใช้ IC หรือ TR.ดี และก็เรื่องการวาง Lay Out ผมคิดว่าจะทำแบบแผ่นเดียวจบและวาง RCA Jack ไว้บนบร์อดเลย อาจจะทำเป็น PCB เป็น 2 Layer PTH ทำ Ground Plane แยกออกเป็นของแต่ละภาค คิดว่าเร็ว ๆ นี้คงเสร็จครับ
ช่วยดันกระทู้ครับ
อยากลองเหมือนกัน 1865 นี่ ได้ยินพวกฝรั่งใน DIYAUDIO พูดถึงกันเหลือเกิน ไหนๆจะทำแล้วก็เอาแบบดีๆไปเลยครับ
ใช่เลยครับ ไหน ๆ ทำแล้วต้องดีครับ ผมเองให้ความสำคัณตรงนี้มาก ๆ จากการทดลองผิดลองถูกมา10กว่าปีทำให้ผมคิดมากเหมือนกันครับ ถึงทำให้ช้าอยู่ไงละครับ เพราะว่าวงจร RF, AF, Power, Digital ถ้ามองลึก ๆ แล้วนั้นหลักการแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเลยครับ ........ครั้งนี้ PCB ต้อง EDL อีกแล้วครับ เพราะว่าผมเปรียบเทียบกับค่ายอื่นแล้ว EDL กินขาดเลยครับไม่เชื่อลองเทียบกับ JP-80 ดูก็ได้ครับจะมีก็สีร่อนตอนบัดกรีแต่ก็ไม่มีปัญหาถ้าใช้เวลา 15 วันขึ้นไปครับ งั้นผมลุยต่อเลยครับ
ช่วงนี้โครงงาน1865เป็นไงบ้างครับ..
-
รายงานความคืบหน้าครับ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วผมไปเดินซื้ออะไหล่ที่บ้านหม้อจนเจอตัวจริงของร้านที่ขาย AD1865 DAC แล้วครับ หลังจากเจรจาอยู่นาน เขาก็ยอมให้ผมนำ DAC รุ่นแรกของเขาที่ใช้หลอด 12AU7 เป็นเอาต์พุตมาทำเล่นกันแล้วครับ แต่เขามีข้อแม้อยู่ว่าทรานซิสเตอร์ส่วนหนึ่งในวงจรภาค walt jung super regulater (ประมาณ 20 ตัว) เขาขอลบเบอร์แต่จะจำหน่ายให้ในราคาถูก ตามราคาท้องตลาด พูดง่ายๆ ว่าขอปิดเทคโนโลยีบางส่วนไว้เท่านั้น เพราะมีหลายๆ คนไปจีบขอวงจรกับ PCB เขามากเหลือเกิน (รวมกระทั่งผมด้วย) แต่ในส่วนของวงจรรุ่นใหม่ที่เป็น ของ Audio Note DAC KIT 2.1 ที่เป็นหลอด 6Dj8 เอาต์พุต เขาขอเอาไว้ เนื่องจากเขาจะต้องเขียนเป็นโครงงานลงหนังสือครับ
-
แต่เขามีข้อแม้อยู่ว่าทรานซิสเตอร์ส่วนหนึ่งในวงจรภาค walt jung super regulater (ประมาณ 20 ตัว) เขาขอลบเบอร์แต่จะจำหน่ายให้ในราคาถูก ตามราคาท้องตลาด พูดง่ายๆ ว่าขอปิดเทคโนโลยีบางส่วนไว้เท่านั้น
ไม่จำเป็นเลยครับ วงจรส่วนหนึ่งก็ coppy เขามาทั้งนั้นครับ แม้แต่... ;D
-
......แต่เขามีข้อแม้อยู่ว่าทรานซิสเตอร์ส่วนหนึ่งในวงจรภาค walt jung super regulater (ประมาณ 20 ตัว) เขาขอลบเบอร์แต่จะ...........
อาการแบบนี้ ออกห่างๆเถอะ...ไม่จำเป็นเลยครับ คุณ....ก็ coppy เขามาทั้งนั้นครับ แม้แต่...จริงครับMr.Q
-
..
:headphone
-
อ้าว เหรอครับ เป็นงั้นไป งั้นกรุ๊ปบายขอยกเลิกละกันครับ ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเจตนาของเขาเป็นอย่างไร แต่เท่าที่คุยกันก็แฟร์ดีครับ หรือ จุดประสงค์ของใครบางคนเป็นอย่างไร งั้นผมขอรอของคุณ Mr.Q ละกันครับ หวังว่าไม่น่าจะนาน และ ออกมาสวยกว่าของเขานะครับ ถ้าเสร็จแล้วผมขอจองคนแรกเลย
-
ตามอ่านอยู่นาน งง งง ไม่รู้โปรเจคใครกันแน่ จะกรุ๊ปบงกรุ๊ปบายอะไรก็น่าจะเปิดกระทู้กันใหม่เอาให้แน่ๆ ยืดๆหดๆอย่างนี้ สมาชิกเซ๊ง :-*
-
ตามอ่านอยู่นาน งง งง ไม่รู้โปรเจคใครกันแน่ จะกรุ๊ปบงกรุ๊ปบายอะไรก็น่าจะเปิดกระทู้กันใหม่เอาให้แน่ๆ ยืดๆหดๆอย่างนี้ สมาชิกเซ๊ง :-*
ฮี่ๆ ผมว่าใจเย็นๆครับ :showoff :showoff รอ Mr.Q ก่อนนะครับ งานดีๆต้องใจเย็นๆ ;D ;D
-
;D ;D ;D
-
ถ้าวงจรพวกนี้คิดเองได้ผมว่าป่านนี้คงไม่มีaudio note ขายแล้วครับ c)
-
ขอแสดงความเห็นหน่อยนะครับ ขอตอบในฐานะที่ผมไม่ได้เล่น DAC ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับเรื่องนี้
ผมว่าน่าจะทำใหม่กันไปเลยดีกว่าไม๊ครับ ของเขาทำขายก็ปล่อยให้เขาขายไปเถอะครับ พวกเรามีฝีมือกันทั้งนั้น ถ้าใครไม่อยากทำเอง ก็ไปซื้อสำเร็จก็ได้ จะถูกหรือแพง ผมว่าอยู่ที่วิจารณญาณของพวกเรามากกว่า ถ้าเรารู้ที่มาที่ไปของมัน รู้ต้นทุนของมัน และเห็นว่ามันแพงเกินไป ก็ต้องมาทำเองล่ะครับ
หรือใครอยากทำ group buy ก็เห็นด้วยครับ เป็นประโยชน์กับสมาชิกที่นี่ทั้งนั้น
-
เห็นด้วยอย่าง แรงกับคุณ มด คุณยุทธ และคุณNut_ty ครับ
ผมว่าไม่ต้องสนใจหรอกครับ พวกนี้เผลอ ใช้พวกเราช่วย โฆษณา ผลงานไปในตัวครับ และมันก็ไม่ใช่ DIY มากนัก เป็นการประกอบมากว่า ถ้าเราไม่รู้เบอร์อุปกรณ์ ไม่รู้หลักการทำงาน ผมว่า ไปที่ร้านฟังเสียง ถ้าชอบซื้อมาเลยครับ ไม่ต้องมาทำให้เมื่อยเปล่าๆ ครับ Y]
-
ขอแสดงความเห็นหน่อยนะครับ ขอตอบในฐานะที่ผมไม่ได้เล่น DAC ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับเรื่องนี้
ผมว่าน่าจะทำใหม่กันไปเลยดีกว่าไม๊ครับ ของเขาทำขายก็ปล่อยให้เขาขายไปเถอะครับ พวกเรามีฝีมือกันทั้งนั้น ถ้าใครไม่อยากทำเอง ก็ไปซื้อสำเร็จก็ได้ จะถูกหรือแพง ผมว่าอยู่ที่วิจารณญาณของพวกเรามากกว่า ถ้าเรารู้ที่มาที่ไปของมัน รู้ต้นทุนของมัน และเห็นว่ามันแพงเกินไป ก็ต้องมาทำเองล่ะครับ
หรือใครอยากทำ group buy ก็เห็นด้วยครับ เป็นประโยชน์กับสมาชิกที่นี่ทั้งนั้น
เห็นด้วยอย่าง แรงกับคุณ มด คุณยุทธ และคุณNut_ty ครับ
ผมว่าไม่ต้องสนใจหรอกครับ พวกนี้เผลอ ใช้พวกเราช่วย โฆษณา ผลงานไปในตัวครับ และมันก็ไม่ใช่ DIY มากนัก เป็นการประกอบมากว่า ถ้าเราไม่รู้เบอร์อุปกรณ์ ไม่รู้หลักการทำงาน ผมว่า ไปที่ร้านฟังเสียง ถ้าชอบซื้อมาเลยครับ ไม่ต้องมาทำให้เมื่อยเปล่าๆ ครับ Y]
เป็นเทคนิคการตลาดอย่างหนึ่ง...group buy กันดีกว่า
-
เห็นด้วยกับคุณมดครับ O0
มาทำเล่นกันเองดีกว่าครับ K)
-
ไม่แน่ใจว่า Mr.Q กำลังดำเนินการอยู่หรือป่าว
-
รอคุณ Mr.Q ด้วยคนครับ จากสายข่าววงใน รู้สึกว่าจะลุล่วงไปกว่า 90% แล้วนะครับ คิดว่าไม่เกินอาทิตย์ก็น่าจะเสร็จแล้วกระมังครับ ต้องรอเจ้าตัวมาตอบเองครับ ผมก็ฟังเขาพูดมาอีกทีเหมือนกัน
-
รอคุณ Mr.Q ด้วยคนครับ จากสายข่าววงใน รู้สึกว่าจะลุล่วงไปกว่า 90% แล้วนะครับ คิดว่าไม่เกินอาทิตย์ก็น่าจะเสร็จแล้วกระมังครับ ต้องรอเจ้าตัวมาตอบเองครับ ผมก็ฟังเขาพูดมาอีกทีเหมือนกัน
ยิ่งอ่านยิ่งงงค่ะ ลองสังเกตดูดีๆ จะพบจุดผิดอยู่ 5 จุดค่ะ แต่แก้ไม่เป็น เข้าเรื่องของเรากันต่อ ดิฉันคิดว่าไม่น่าจะเป็นอะไรนะคะที่เราจะเอาสินค้าของใครมาสานต่อ ถ้าเราได้รับอนุญาตจากเขาแล้ว ก็เหมือนกับเป็นชิ้นงานสาธารณะนะคะ ใครจะลอกแบบ หรือ ดัดแปลงยังไงก็ได้ ดิฉันยังเคยซื้อ PCB ในร้านที่บ้านหม้อสแควร์มาเลยค่ะ ทั้งๆ ที่เขาก็บอกว่าเป็นยี่ห้อๆ อะไร ดิฉันก็ไม่ได้สนใจนะคะ ว่าจะก็อปปี้ใครมา เราเห็นเราชอบก็เพียงพอแล้ว ถึงดิฉันจะเคยเป็นลูกค้าของ DAC ตัวที่พูดถึง ก็ไม่ได้หมายความว่า ของเขาดีที่สุดจึงซื้อมา แต่เห็นว่าน่าจะเอามาพัฒนาได้ก็เลยซื้อมา
-
รอคุณ Mr.Q ด้วยคนครับ จากสายข่าววงใน รู้สึกว่าจะลุล่วงไปกว่า 90% แล้วนะครับ คิดว่าไม่เกินอาทิตย์ก็น่าจะเสร็จแล้วกระมังครับ ต้องรอเจ้าตัวมาตอบเองครับ ผมก็ฟังเขาพูดมาอีกทีเหมือนกัน
ยิ่งอ่านยิ่งงงค่ะ ลองสังเกตดูดีๆ จะพบจุดผิดอยู่ 5 จุดค่ะ แต่แก้ไม่เป็น เข้าเรื่องของเรากันต่อ ดิฉันคิดว่าไม่น่าจะเป็นอะไรนะคะที่เราจะเอาสินค้าของใครมาสานต่อ ถ้าเราได้รับอนุญาตจากเขาแล้ว ก็เหมือนกับเป็นชิ้นงานสาธารณะนะคะ ใครจะลอกแบบ หรือ ดัดแปลงยังไงก็ได้ ดิฉันยังเคยซื้อ PCB ในร้านที่บ้านหม้อสแควร์มาเลยค่ะ ทั้งๆ ที่เขาก็บอกว่าเป็นยี่ห้อๆ อะไร ดิฉันก็ไม่ได้สนใจนะคะ ว่าจะก็อปปี้ใครมา เราเห็นเราชอบก็เพียงพอแล้ว ถึงดิฉันจะเคยเป็นลูกค้าของ DAC ตัวที่พูดถึง ก็ไม่ได้หมายความว่า ของเขาดีที่สุดจึงซื้อมา แต่เห็นว่าน่าจะเอามาพัฒนาได้ก็เลยซื้อมา
;D ;D 2fคุณยัง งงเลย แล้วผมจะไม่งง?ได้ไงครับ... โครงนี้ทำแน่ครับ อดใจรออีกหน่อย ตอนนี้ได้ไกล้แล้วครับติดปัณหานิดหน่อย ถึงตรงนี้ผมอยากจะบอกพ่อค้าหน่อยครับเรื่องการ copy เป็นเรื่องปกติครับไม่ต้องกลัวกลับการที่ผมมาเอ่ยชื่อแล้วจะทำให้ขายสินค้าของคุณไม่ได้ ตรงนี้มันอยู่ที่ตัวคุณเองครับ มีใครบ้างที่คิดเองทั้งหมดมันเสียเวลาและเสียโอกาสครับ แต่กระทู้นี้มีเพื่อนสมาชิกเอามาวงจรเสนอผมก็แค่แสดงความคิดเห็นออกไปก็เท่านั้นส่วนตัวผมเองก็ยังชอบน้องคนนี้ที่เอ่ยถึงว่าเป็นคนเก่งนิสัยดี แต่อย่าลืมว่า นัก DIY ไม่ใช่ธรรมดานะครับ การที่คุณจะขายสินค้าให้กับนัก DIY ควรมีกลยุทธ์อย่างอื่นมากกว่านี้ครับ
-
;D ;D 2fคุณยัง งงเลย แล้วผมจะไม่งง?ได้ไงครับ... โครงนี้ทำแน่ครับ อดใจรออีกหน่อย ตอนนี้ได้ไกล้แล้วครับติดปัณหานิดหน่อย ถึงตรงนี้ผมอยากจะบอกพ่อค้าหน่อยครับเรื่องการ copy เป็นเรื่องปกติครับไม่ต้องกลัวกลับการที่ผมมาเอ่ยชื่อแล้วจะทำให้ขายสินค้าของคุณไม่ได้ ตรงนี้มันอยู่ที่ตัวคุณเองครับ มีใครบ้างที่คิดเองทั้งหมดมันเสียเวลาและเสียโอกาสครับ แต่กระทู้นี้มีเพื่อนสมาชิกเอามาวงจรเสนอผมก็แค่แสดงความคิดเห็นออกไปก็เท่านั้นส่วนตัวผมเองก็ยังชอบน้องคนนี้ที่เอ่ยถึงว่าเป็นคนเก่งนิสัยดี แต่อย่าลืมว่า นัก DIY ไม่ใช่ธรรมดานะครับ การที่คุณจะขายสินค้าให้กับนัก DIY ควรมีกลยุทธ์อย่างอื่นมากกว่านี้ครับ
ตามมาเชียร์
-
ตามมาติดๆอีกคนรออยู่ครับ d_d d_d d_d
-
ตามมาอัพกระทู้ค่ะ ยังรอ Mr.Q อยู่นะคะ ดิฉันใช้งาน AD1865 อยู่สองคนกับคุณ nutty เหงาๆ รู้สึกไม่มีเพื่อนๆ สงสัยจะต้องหันมาลองใช้ tda1541a เหมือนเดิมแล้วล่ะค่ะ
-
ตามมาอัพกระทู้ค่ะ ยังรอ Mr.Q อยู่นะคะ ดิฉันใช้งาน AD1865 อยู่สองคนกับคุณ nutty เหงาๆ รู้สึกไม่มีเพื่อนๆ สงสัยจะต้องหันมาลองใช้ tda1541a เหมือนเดิมแล้วล่ะค่ะ
เสียงดีกว่าไม่ใช้ DAC หรือไม่ล่ะครับ :)
-
ตามมาอัพกระทู้ค่ะ ยังรอ Mr.Q อยู่นะคะ ดิฉันใช้งาน AD1865 อยู่สองคนกับคุณ nutty เหงาๆ รู้สึกไม่มีเพื่อนๆ สงสัยจะต้องหันมาลองใช้ tda1541a เหมือนเดิมแล้วล่ะค่ะ
คุณพี่ Mr.Q งานยุ่งมากๆ
(ผ่านไปเห็นทุกทีเวลาทานข้าว ยังไม่มีเลยครับ)
-
หาก DAC เบอร์ที่ทำมี output +/- รอซื้อกลุ่มด้วยเช่นกันครับ จะไปทำเป็น fully balanced
-
ผมว่าน่าทำเหมือนที่จีนนะครับให้สมาชิกหุ้นเงินกันซื้อตัวจริงของเขามาก๊อปแล้วต่อยอดขายเมืองนอกเลยครับน่าจะทำรายได้ให้ประเทศเรามากขึ้นนะครับ และอีกอย่างสมาชิกในเว็ปทุกคนมีฝีมือเก่งกาจครับ ในอนาคตเป็นการเพิ่มลู่ทางให้กับวิศวะเพิ่งจบใหม่ไม่ตกงานครับ
-
ไม่ต้องก๊อบก็ได้ครับ 99.9% ในแง่ของวงจรไม่ใช่ของใหม่ครับ อย่าง Super regulator ของ Jung จริงๆก็มีชาวญี่ปุ่นทำเล่นมาตั้งแต่ปี 70 แล้วครับ ;)
ผมว่าเราออกแบบเอง ทำเอง อาจจะจับนู่นนี่มาใส่ ซึ่งความจริงมันก็ไม่ใช่ของใหม่อยู่แล้ว ทำเสร็จก็ไปเทียบกับเครื่อง commercial ราคาแพงๆดีกว่าครับ น่าจะสนุกกว่า :headphone d_d
-
ลองอ่าน ที่ Mr.tube Comment ที่นี่ครับ น่าสนใจครับ
http://www.htg2.net/index.php?topic=27801.0
-
มาดันกระทู้ครับ เห็นเงียบเหงาเหลือเกิน รอมาระยะหนึ่งแล้ว อยากทราบว่าเพื่อนๆ ใช้วงจร OPAMP I/V แบบไหนกันบ้างครับ สำหรับ IOUT 1mA, มีอยู่ท่านหนึ่งเสนอให้ออกแบบเป็นบาลานซ์ DAC ผมว่าใช้ BAL134 ทำบาลานซ์ง่ายกว่ามั้ย แล้วเอา DAC มาขนานจะดีกว่า เพื่อนๆ มีความเห็นอย่างไรบ้างครับ
ป.ล.รูปที่แนบมาเอามาจากเว็บไซต์ในมาเลเซียครับ เขาก็เล่นเหมือนกัน ออกแบบยุ่งเหยิงพอดู
-
ช่วยดันครับ อยากทำเหมือนกัน :secret
-
ทำบาลานซ์แท้ไปเลยดีกว่ามั้งครับ Y]
-
ผมว่าก่อนอืนใครมีวงจร เอามา Post แล้วให้บรรดา เซียน DAC ช่วยกันวิเคราะห์ กันเป็นเรื่องเป็นราว ก่อนทำ Group Buy PCB เหมือนคราวก่อนๆ ดีใหมครับ ผมอ่านๆ กระทู้ นี้รู้สึกแปลกๆคุยกันเป็นเรื่องยาว แต่ยังไม่เห็นวงจรเลย ??? :D ???
-
วงจรผมก็ใช้ตามนี้ล่ะครับ
http://www.ptsoundlab.com/sources/dac/mondac1865/ad1865nonover.htm
ดัดแปลงส่วนอื่นๆ นิดๆ หน่อยๆ ตามความชอบส่วนตัว
-
เอาอย่างนี้ดีไหมครับ ช่วยกันแนะนำวงจรถาคจ่ายไฟ กับ ถาค I/V ให้ผมหน่อย ผมติดตรงนี้กับ Coil ในวงจร Low passfilter ถ้าไม่มีขายคงจะต้องพันกันเองล่ะครับ
-
ภาคจ่ายไฟไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเลยครับ ผมเองก็ทำมาสารพัดรูปแบบแล้ว ก็มาตกลงปลงใจที่ต้นแบบตามลิ้งค์นั่นล่ะครับ ของแท้เขาก็แบบนั้นเลยครับ ผมพอจะจำได้ ตอนนี้ที่อยากทราบก็คือใครจะเป็นคนตั้งต้นทำครับ เงื้อๆ ง่าๆ กันมานานแล้ว ผมเองก็มีเท่าที่มี ก็ตามรูปที่เห็นว่าทำขึ้นมาแล้ว ก็อยากเห็นท่านอื่นนำพาตัวเองเป็นหนูลองยาดูบ้าง มากกว่าโยนหินถามทาง ปัญหาที่ยกตัวอย่างมานั้นง่ายมากเลยครับ ในวงการนักออกแบบ PCB เราจะไม่มองปัญหานี้เลยครับ เขียน schematic ขึ้นมา แล้ว manual place จากนั้นก็ auto route จะกี่หน้าก็ตามแต่ วันเดียวก็ได้หลายรูปแบบแล้วล่ะครับ เพราะ NOS มันไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก มีเพื่อนผมอยู่คนหนึ่งเก่งมากๆ บอกว่าจะทำให้ ผ่านมาเป็นเดือนแล้วก็ยังเห็นนั่งทำงานงกๆ อยู่ ไม่เห็นจะมาออกแบบให้เลย อุตส่าห์รีเควสต์ไว้ว่าขอเป็นแบบบาลานซ์เอาต์พุต สุดท้ายปัจจุบันนี้ก็ยังคงปล่อยให้ผมรออยู่อย่างนี้ ไอ้ที่ผมเองใช้อยู่ก็สุดแสนจะธรรมดา อวดใครไม่ได้เลย ยังเป็นชิ้นๆ อยู่
-
ผมว่าใจเย็นๆค่อยๆคุยกันเดี๋ยวมันก็เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาเองครับ รายละเอียดจุดเล็กๆน้อยๆผมว่ามันเยอะเอาการเหมือนกัน Y]
ภาคจ่ายไฟถ้าใช้เป็น pass transistor แบบใช้ tl431 คุมผมก็ว่าง่ายดีนะครับ output imp ประมาณ 0.2R ตลอดย่านความถี่เสียง (lm317 ประมาณ 1R ที่ความถี่ต่ำและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆที่ความถี่สูงขึ้น)วงจรก็ตามใน tl431 datasheet ครับ ใช้อุปกรณ์น้อยมาก เพราะมันไปสิงสถิตย์อยู่ในตัว tl431 กันหมด ;D ตัวนี้จะว่าไปแล้วดูการจัดวงจรโดยรวมคล้ายๆ super regulator ในยุคแรกๆที่เอา supply มาจากด้าน raw เหมือนกัน ส่วน super regulator ยุคใหม่ผมยังไม่ได้อ่านดูว่าสเป็คเป็นอย่างไรบ้างครับ ถ้าใครลองอ่านๆแล้วช่วยแนะนำด้วย ถ้าไม่หนีกับตัวแรกมาก
ส่วนเรื่อง coil นี่สอบถามพี่ Mr.Q เพิ่มหน่อยครับ ว่ามันมีความจำเป็นแค่ไหนครับ และผลต่อเสียงมันจะเป็นอย่างไรบ้างครับ เมื่อเทียบกับ low pass แบบ rc ครับ :help
iv นี่ถ้าจำไม่ผิด 1865 จะมี output ทั้งแบบกระแส และแบบแรงดันรึเปล่าครับ แล้วเราควรจะเลือกแบบไหนดีครับ :black_eye
-
ภาคจ่ายไฟไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเลยครับ ผมเองก็ทำมาสารพัดรูปแบบแล้ว ก็มาตกลงปลงใจที่ต้นแบบตามลิ้งค์นั่นล่ะครับ ของแท้เขาก็แบบนั้นเลยครับ ผมพอจะจำได้ ตอนนี้ที่อยากทราบก็คือใครจะเป็นคนตั้งต้นทำครับ เงื้อๆ ง่าๆ กันมานานแล้ว ผมเองก็มีเท่าที่มี ก็ตามรูปที่เห็นว่าทำขึ้นมาแล้ว ก็อยากเห็นท่านอื่นนำพาตัวเองเป็นหนูลองยาดูบ้าง มากกว่าโยนหินถามทาง ปัญหาที่ยกตัวอย่างมานั้นง่ายมากเลยครับ ในวงการนักออกแบบ PCB เราจะไม่มองปัญหานี้เลยครับ เขียน schematic ขึ้นมา แล้ว manual place จากนั้นก็ auto route จะกี่หน้าก็ตามแต่ วันเดียวก็ได้หลายรูปแบบแล้วล่ะครับ เพราะ NOS มันไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก มีเพื่อนผมอยู่คนหนึ่งเก่งมากๆ บอกว่าจะทำให้ ผ่านมาเป็นเดือนแล้วก็ยังเห็นนั่งทำงานงกๆ อยู่ ไม่เห็นจะมาออกแบบให้เลย อุตส่าห์รีเควสต์ไว้ว่าขอเป็นแบบบาลานซ์เอาต์พุต สุดท้ายปัจจุบันนี้ก็ยังคงปล่อยให้ผมรออยู่อย่างนี้ ไอ้ที่ผมเองใช้อยู่ก็สุดแสนจะธรรมดา อวดใครไม่ได้เลย ยังเป็นชิ้นๆ อยู่
ถ้ามันง่ายขนาดนั้น คุณ AD1865 ก็รับไปทำก็ได้นี่ครับ
ผมว่าใจเย็นๆค่อยๆคุยกันเดี๋ยวมันก็เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาเองครับ รายละเอียดจุดเล็กๆน้อยๆผมว่ามันเยอะเอาการเหมือนกัน Y]
ภาคจ่ายไฟถ้าใช้เป็น pass transistor แบบใช้ tl431 คุมผมก็ว่าง่ายดีนะครับ output imp ประมาณ 0.2R ตลอดย่านความถี่เสียง (lm317 ประมาณ 1R ที่ความถี่ต่ำและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆที่ความถี่สูงขึ้น)วงจรก็ตามใน tl431 datasheet ครับ ใช้อุปกรณ์น้อยมาก เพราะมันไปสิงสถิตย์อยู่ในตัว tl431 กันหมด ;D ตัวนี้จะว่าไปแล้วดูการจัดวงจรโดยรวมคล้ายๆ super regulator ในยุคแรกๆที่เอา supply มาจากด้าน raw เหมือนกัน ส่วน super regulator ยุคใหม่ผมยังไม่ได้อ่านดูว่าสเป็คเป็นอย่างไรบ้างครับ ถ้าใครลองอ่านๆแล้วช่วยแนะนำด้วย ถ้าไม่หนีกับตัวแรกมาก
ส่วนเรื่อง coil นี่สอบถามพี่ Mr.Q เพิ่มหน่อยครับ ว่ามันมีความจำเป็นแค่ไหนครับ และผลต่อเสียงมันจะเป็นอย่างไรบ้างครับ เมื่อเทียบกับ low pass แบบ rc ครับ :help
iv นี่ถ้าจำไม่ผิด 1865 จะมี output ทั้งแบบกระแส และแบบแรงดันรึเปล่าครับ แล้วเราควรจะเลือกแบบไหนดีครับ :black_eye
ผมว่าวงจร passive filter ที่ใช้ L C จะดีกว่า R C ตรงที่ตรงจุด roll-off จะชันกว่า R C ครับ แต่ความจริงมันก็คงไม่แตกต่างกันมากนัก เพราะยังไงก็หนี้ไม่พ้น Jitter อยู่ดี ตกลงคุณ AD1865 ก็รับไปทำก็แล้วกันครับ ส่วนผมจะทำเล่นของผมเองครับ
-
ใจเย็นๆสิครับ อย่ากินเกาเหลาเลยครับ มีเพื่อนๆให้กำลังใจและรอความหวังอยู่นะครับ ถ้าได้ทำตัวนี้ มันคงดีไม่น้อย เพราะถ้าให้ผมคลำทางเองคงทำไม่ได้หรอกครับ 8)
-
ผมเคยลองใช้ตัวนี้ครับ ลองดูนะครับว่าชอบมั้ย แนวเดียวกับ TL431 นั่นล่ะครับ แต่อยู่คนละแพ็กเกจ
-
มีภาพสวยๆให้ชมกันครับ
ใครถนัดภาษาจีน ช่วยแปลสรุปข้อความคร่าวๆด้วยก็แล้วกันครับ จักขอบคุณยิ่ง
ไม่แน่ใจว่าฝรั่งเว็ปไหน คุยกันว่า ถ้ากรุปบายจะได้ประมาณ ร้อยเหรียญยูเอส
แต่ผมว่าประเด็นมันอยู่ที่ชิบเคเกรด ถ้าหาชิบได้ โปรเจ็คก็คงจบไม่ยาก
http://blog.diyzone.net/blog/imagine/dac/2006/04/22/ad1865_tube_dac_ee
http://www.cndiyclub.com/c_read.php?tid=4723
-
PCB ตัวนั้นมีขายที่บ้านหม้อแล้วนี่ครับ เคยไปถามแล้วขายราคาแพงเอาการอยู่ เรามาออกแบบเองดีกว่าไม่ต้องไปตามเมืองนอกหรอก ยังไงก็ไม่ถูกใจคนหมู่มาก เท่ากับระดมสมองแน่ๆ
-
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งส่วนของซัพพลายที่ใช้ LT1084-5 ภาค i/v ของชุดนี้จะเป็น opamp ที่รับ iout มาโดยตรงจาก ad1865 ใช้ไฟเลี้ยง +/- 15 โวลต์ สำหรับ opamp ส่วนตัว ad1865 นั้นใช้ไฟ +/- 5 โวลต์
ผมมีความเห็นว่าน่าจะทำภาคต่างๆ แยกกันะครับ เหมือนกับ audio note dac5 เขายังแยกออกเป็นส่วนๆ ให้อัพเกรดได้เลยครับ
-
รูป audio note dac 5 ครับ อลังการงานสร้างจริงๆ ราคาก็ไม่ต้องห่วงครับ เกือบสองล้าน ในส่วนของภาคดิจิตอลไม่เห็นเขาจะยุ่งยากอะไรมากเลย เหมือนกับรุ่นเล็กๆ ของเขาเลย รีคล็อกก็ไม่มี เขาให้เหตุผลไว้อย่างนี้ครับ
In other words, the Audio Note™ DAC 5 Special has no over sampling, no jitter reduction, no noise shaping and no re-clocking, it uses the highest grade Analogue Devices AD1865, 18Bit stereo converter chip because we found this chip to be the best sounding available (yes, even better than the 20Bit versions!!), the digital power supply is an exceptionally low noise, shunt-type. Having removed all the digital filtering that is part of the over sampling, all filtering in the DAC 5 Signature is done in the analogue domain where is appears to be easier to retain good wide band phase-frequency and dynamically coherent behaviour than in the digital domain."
ประมาณว่าชิปมันดีอยู่แล้ว ไม่ต้องรีคล็อก...แปลสั้นดีมั้ย :D
-
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งส่วนของซัพพลายที่ใช้ LT1084-5 ภาค i/v ของชุดนี้จะเป็น opamp ที่รับ iout มาโดยตรงจาก ad1865 ใช้ไฟเลี้ยง +/- 15 โวลต์ สำหรับ opamp ส่วนตัว ad1865 นั้นใช้ไฟ +/- 5 โวลต์
ผมมีความเห็นว่าน่าจะทำภาคต่างๆ แยกกันะครับ เหมือนกับ audio note dac5 เขายังแยกออกเป็นส่วนๆ ให้อัพเกรดได้เลยครับ
เห็นด้วยครับ ถ้าเอาแบบง่ายสุด ไวสุด ออกแบบเฉพาะซีดีคัปปลิ้งให้แต่ละชิบ ก็คงพอแล้วกระมังครับ บอร์ดก็จะจิ๋วลงมาเลย
ทีนี้ใครใคร่ทำภาคจ่ายไฟแบบไหน ก็เลือกทำกันไป ได้ผลอย่างไรก็มาแชร์กัน
ที่แน่ๆ ชิบเคเกรด จะซื้อได้ราคาเท่าไหร่หนอ
-
วงจรที่ผมเขียนเป็นแบบนี้ครับช่วยดูหน่อยครับ
-
ผมเคยลองใช้ตัวนี้ครับ ลองดูนะครับว่าชอบมั้ย แนวเดียวกับ TL431 นั่นล่ะครับ แต่อยู่คนละแพ็กเกจ
ตัวนี้เป็น shunt regulator ครับ ยิ่งง่ายเข้าไปอีก ไม่ต้องใช้ pass transistor ด้วย ผมก็ลืมไปว่า 1865 ใช้กระแสไม่เยอะ ทำแบบนี้ก็ได้ครับ จับวางใกล้ๆกันได้เลย Y]
มีภาพสวยๆให้ชมกันครับ
ใครถนัดภาษาจีน ช่วยแปลสรุปข้อความคร่าวๆด้วยก็แล้วกันครับ จักขอบคุณยิ่ง
ไม่แน่ใจว่าฝรั่งเว็ปไหน คุยกันว่า ถ้ากรุปบายจะได้ประมาณ ร้อยเหรียญยูเอส
แต่ผมว่าประเด็นมันอยู่ที่ชิบเคเกรด ถ้าหาชิบได้ โปรเจ็คก็คงจบไม่ยาก
http://blog.diyzone.net/blog/imagine/dac/2006/04/22/ad1865_tube_dac_ee
http://www.cndiyclub.com/c_read.php?tid=4723
ถ้า k grade หายาก เล่นแบบไม่ต้อง k ก่อนก็ได้มั้งครับ อย่างน้อยร้านพี่ pride ก็มีขาย Y] ถ้าอยากได้ k grade ใน diyaudio.com มีคนขายอยู่เรื่อยๆครับ ราคาก็ไม่แรงมากมาย ไว้ถ้าผมจะสั่งมาจะแจ้งให้ทราบละกันครับ เผื่อใครจะแจมก็ว่ากันตามสะดวกครับ ;)
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งส่วนของซัพพลายที่ใช้ LT1084-5 ภาค i/v ของชุดนี้จะเป็น opamp ที่รับ iout มาโดยตรงจาก ad1865 ใช้ไฟเลี้ยง +/- 15 โวลต์ สำหรับ opamp ส่วนตัว ad1865 นั้นใช้ไฟ +/- 5 โวลต์
ผมมีความเห็นว่าน่าจะทำภาคต่างๆ แยกกันะครับ เหมือนกับ audio note dac5 เขายังแยกออกเป็นส่วนๆ ให้อัพเกรดได้เลยครับ
ตัวนี้ก็ได้ครับ แต่ output impedance จะสูงกว่า shunt reg อยู่เหมือนกันครับ Y]
รูป audio note dac 5 ครับ อลังการงานสร้างจริงๆ ราคาก็ไม่ต้องห่วงครับ เกือบสองล้าน ในส่วนของภาคดิจิตอลไม่เห็นเขาจะยุ่งยากอะไรมากเลย เหมือนกับรุ่นเล็กๆ ของเขาเลย รีคล็อกก็ไม่มี เขาให้เหตุผลไว้อย่างนี้ครับ
In other words, the Audio Note™ DAC 5 Special has no over sampling, no jitter reduction, no noise shaping and no re-clocking, it uses the highest grade Analogue Devices AD1865, 18Bit stereo converter chip because we found this chip to be the best sounding available (yes, even better than the 20Bit versions!!), the digital power supply is an exceptionally low noise, shunt-type. Having removed all the digital filtering that is part of the over sampling, all filtering in the DAC 5 Signature is done in the analogue domain where is appears to be easier to retain good wide band phase-frequency and dynamically coherent behaviour than in the digital domain."
ประมาณว่าชิปมันดีอยู่แล้ว ไม่ต้องรีคล็อก...แปลสั้นดีมั้ย :D
ก็ไม่เชิงนะครับพี่ เค้าตัดทุกอย่างออกเพราะใช้วิธีไปกรองเอาตรง step up transformer ครับ ส่วนตัว 1865 ไม่รีคล๊อกก็ได้ครับ แต่ผมมองว่าทำแบบเลือกรีคล๊อกได้ด้วยจะดีกว่าครับ เพราะพวก jitter ลิมิตมันไปอยู่ที่ตัว cs8414 แทนครับ jitter มัน 200ps ผมกำลังมองหาอะไรที่มันต่ำๆอย่าง BB DIR1703 ไม่ก็ DIR9001 เป็น reciever แทนครับ jitter มัน 50ps พี่ Beta.10 ก็เห็นว่าจะสั่งเข้ามาครับ ;)
วงจรที่ผมเขียนเป็นแบบนี้ครับช่วยดูหน่อยครับ
พี่ Mr.Q พอมีข้อมูลของ super reg. แบบที่พี่ใช้รึเปล่าครับ ว่า output impedance ประมาณเท่าไหร่ครับ :help พี่ทำเล่นเองก็มาแบ่งเพื่อนๆชมได้นะครับ บางคนอาจจะขอแจม pcb ด้วยครับ ผมด้วยล่ะคนนึง ;D
-
วงจรซัพพลายของพี่ Mr.Q รู้สึกว่าจะเป็นตัวเดียวกับที่ร้าน DEXICON ให้มาใน construction manual เลยค่ะ ต่างกันนิดเดียวที่ LT1085 กับ หม้อแปลงอินพุตน่ะค่ะ ซัพพลายตัวนี้ดีนะคะ ที่ SAC ยังออกปากชมเลยค่ะ ตอนที่เอาไปให้โมดิฟาย เสียนิดเดียวที่ร้อนไปหน่อย
-
เป็นไฟล์ PDF ต้องแปลงเป็นรูปน่ะค่ะ อาจจะไม่ชัด แต่ดูแล้วเหมือนกันมากเลยค่ะ แต่รู้สึกว่าตอนนี้จะอัพเกรดตั้งกระแสเป็นรุ่นเจเฟตบายอัสแล้วแต่ยังไม่ได้เอาไปให้เขาแก้เลย นัดไว้หลายวันแล้ว แต่ยังไม่ว่างเข้าไปที่บ้านหม้อ ก็ตัวนี้ล่ะค่ะที่มีพี่ๆ รอกรุ๊ปบายกันอยู่
-
ขออภัย ลืมลงรูปค่ะ
-
รวมๆกันซื้อแบบนี้กันดีกว่ามั้งครับ..
-
รวมๆกันซื้อแบบนี้กันดีกว่ามั้งครับ..
แบบนี้ของที่ไหนครับ
-
มีภาพสวยๆให้ชมกันครับ
ใครถนัดภาษาจีน ช่วยแปลสรุปข้อความคร่าวๆด้วยก็แล้วกันครับ จักขอบคุณยิ่ง
ไม่แน่ใจว่าฝรั่งเว็ปไหน คุยกันว่า ถ้ากรุปบายจะได้ประมาณ ร้อยเหรียญยูเอส
แต่ผมว่าประเด็นมันอยู่ที่ชิบเคเกรด ถ้าหาชิบได้ โปรเจ็คก็คงจบไม่ยาก
http://blog.diyzone.net/blog/imagine/dac/2006/04/22/ad1865_tube_dac_ee
http://www.cndiyclub.com/c_read.php?tid=4723
มาจากกระทู้นี้...แต่อ่านภาษาจีนไม่ออกครับ
-
รูปที่ลงนั่นเป็น group buy ของเมืองจีนเค้าครับรู้สึกจะจบไปแล้วด้วย อ่านมาตั้งแต่ตอนเค้าทำกันใหม่ๆ เมื่อ 2 ปีที่แล้วแน่ะ ที่จริงเค้ามีกล่องด้วยนะ ขายอยู่เครื่องละ 3-4 หมื่นได้มั้ง แต่อุปกรณ์ชั้นฟ้าทั้งนั้นเลยครับ ตัวต้านทาน RIKEN ทั้งชุดเลยมั้ง ราคามันสูงมากเลยไม่กล้าสั่งมาลองเล่น อีกอย่างสั่งของกับจีนตอนนั้นมันเสียวๆ ยังไงก็ไม่รู้ เพราะเขาไม่ได้เปิดขายเป็นหลักเป็นฐานแบบยืนยันตัวตนได้ ถ้าเป็นในฮ่องกงยังพอว่า ตามตัวเจอได้
-
คอมเสียครับเพิ่งจะเข้ามาได้
พี่ Mr.Q พอมีข้อมูลของ super reg. แบบที่พี่ใช้รึเปล่าครับ ว่า output impedance ประมาณเท่าไหร่ครับ :help พี่ทำเล่นเองก็มาแบ่งเพื่อนๆชมได้นะครับ บางคนอาจจะขอแจม pcb ด้วยครับ ผมด้วยล่ะคนนึง ;D
ผมไม่มีข้อมูลเลยครับ ส่วนตัวคิดว่าเรื่อง Impedance ของแหล่งจ่ายไฟไม่น่าใส่ใจเท่าไรครับถ้าไม่แตกต่างกันมากเพราะว่าผมฟังไม่ออกครับ
วงจรซัพพลายของพี่ Mr.Q รู้สึกว่าจะเป็นตัวเดียวกับที่ร้าน DEXICON ให้มาใน construction manual เลยค่ะ ต่างกันนิดเดียวที่ LT1085 กับ หม้อแปลงอินพุตน่ะค่ะ ซัพพลายตัวนี้ดีนะคะ ที่ SAC ยังออกปากชมเลยค่ะ ตอนที่เอาไปให้โมดิฟาย เสียนิดเดียวที่ร้อนไปหน่อย
คิดว่าน่าจะเป็นวงจรเดียวกันครับ วงจรนี้คุณ sumeth เป็นคนแนะนำมาครับ แต่อยากจะบอกว่าคนไทยไม่ได้ออกแบบนะครับ
โชคดีของผมครับ Files ยังไม่สูญหายครับ c) เขียนผิดไปบางจุดครับ
-
วงจรReg.คนไทยน่าจะไม่ได้ออกแบบเองครับ น่าจะคนเยอรมัน linkวงจร www.diyaudio.de/archive/dac2.pdf ในหน้า3 www.diyaudio.de ยังมีวงจรDACอีกหลายๆวงจรให้ศึกษาและมีลายPCBให้ด้วยครับ
-
วงจรReg.คนไทยน่าจะไม่ได้ออกแบบเองครับ น่าจะคนเยอรมัน
ขอบคุณครับ หูตา สว่างอีกมากเลยครับ O0 O0 O0
-
ขอบคุณมากเลยครับ โอ้โหเยอรมันทำได้ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย น่าจะเอามาก็อปปี้ซักหน่อยแล้ว ดูแล้วเอามาพัฒนาได้อีกหลายๆ รุ่นเลยนะเนี่ย ขอบคุณ คุณ sumeth มากๆ เลยครับ ตาสว่างจริงๆ แล้วมีวงจรดีๆ มาแนะนำบ้างมั้ยครับ เห็นแล้วกระตุ้นให้ดีไซน์จริงๆ เลย
-
jung regulator protel ที่ผมทำไว้ กัดปริ้นท์แล้วด้วย แต่หาอุปกรณ์ได้ไม่ครบ เลยไม่รู้ว่าจะใช้ได้จริงหรือไม่ ลองเอาไปต่อยอดดูกันเองนะครับ ปล ผมเพิ่ม pre regulate ไปอีกชุดไว้ข้างหน้าครับ
-
ปัญหาที่ยกตัวอย่างมานั้นง่ายมากเลยครับ ในวงการนักออกแบบ PCB เราจะไม่มองปัญหานี้เลยครับ เขียน schematic ขึ้นมา แล้ว manual place จากนั้นก็ auto route จะกี่หน้าก็ตามแต่ วันเดียวก็ได้หลายรูปแบบแล้วล่ะครับ เพราะ NOS มันไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก
ตามอ่านมาพักหนึ่งแล้ว ตอนแรกว่าจะรอให้ฝุ่นมันจางซะก่อนค่อยเข้ามา แต่อ่านหลายๆ เรื่องแล้วขอแสดงความเห็นในฐานะคนที่เล่นเบอร์นี้มาก่อนซักหน่อยนะครับ :)
ในประเด็นของการออกแบบแผ่น PCB สำหรับ Audio DAC เช่นนี้ หลายๆ จุดไม่เหมาะกับการใช้ Auto Route ครับ Function พวกนี้มันจะทำงานแบบ Point to point ตามลำดับของการเขียน Schematic ครับ เวลาคุณเขียนวงจรก็จะเป็นมุมมองของการเขียนวงจร แต่เวลาลากลาย PCB ต้องใช้มุมมองเรื่องอื่นๆ ด้วย เช่น ความเป็น L ของ PCB Trace, เรื่อง Interference, เรื่อง Decoupling, เรื่อง Signal Level และเรื่อง Pulse or Analog Signal เป็นต้น พวกนี้มันมีข้อควรระวังในการออกแบบอยู่ครับ แนะนำให้ลองศึกษาดู ตัว Auto Route มันไม่ได้พิจารณาเรื่องพวกนี้ให้เราหรอกครับ ถึงจะใช้วงจรเดียวกัน แต่ใช้ความปราณีตในการออกแบบ PCB ต่างกัน ก็ให้ผลแตกต่างกันครับ อย่างเช่น TDA1543 กับ TDA1541A ทุกคนจะเข้าใจว่า Chip มันคนละ Class กัน แต่ถ้าคุณมีโอกาสได้ฟัง Board TDA1543 ที่ออกแบบมาอย่างดี เทียบกับ TDA1541A ที่ออกแบบพื้นๆ แล้ว จะรู้ว่าการออกแบบ PCB สำคัญอย่างไรครับ (ผมไม่ได้หมายจำเพาะเจาะจงว่า PCB ของใครนะครับ ผมเองออกแบบ PCB 1541A มา 6 Ver และ 1543 อีก 4 Ver ผมมีเปรียบเทียบของผมเองครับ) :bye1
-
มาดันกระทู้ครับ เห็นเงียบเหงาเหลือเกิน รอมาระยะหนึ่งแล้ว อยากทราบว่าเพื่อนๆ ใช้วงจร OPAMP I/V แบบไหนกันบ้างครับ สำหรับ IOUT 1mA, มีอยู่ท่านหนึ่งเสนอให้ออกแบบเป็นบาลานซ์ DAC ผมว่าใช้ BAL134 ทำบาลานซ์ง่ายกว่ามั้ย แล้วเอา DAC มาขนานจะดีกว่า เพื่อนๆ มีความเห็นอย่างไรบ้างครับ
เห็นด้วยว่าง่ายกว่า และไม่จำเป็นต้องเอา DAC อีกตัวมาขนานด้วยครับ Chip ตัวนี้ถือว่าราคาสูงครับ อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้ดีกว่าครับ ยังไงแยก Phase ที่ Digital ก็ได้ผลดีกว่าแยกที่ Analog ครับ ;)
-
เอาอย่างนี้ดีไหมครับ ช่วยกันแนะนำวงจรถาคจ่ายไฟ กับ ถาค I/V ให้ผมหน่อย ผมติดตรงนี้กับ Coil ในวงจร Low passfilter ถ้าไม่มีขายคงจะต้องพันกันเองล่ะครับ
เรื่องภาคจ่ายไฟ ผมไม่มีความเห็นเรื่องวงจรครับ แล้วแต่ style ใคร style มัน แต่มีข้อพิจารณาเกี่ยวกับความสามารถของวงจร Reg และการเลือกใช้ Decoupling มาเสนอครับ
AD1865 มี Digital Supply 1 ชุด และ Analog Supply 2 ชุดเป็นไฟ +/- ชุด Digital มันทำงานที่ความถี่ราว 2MHz Supply ควรจะใช้พวก High Speed ครับ อุปกรณ์ Decoupling ก็ควรใช้ที่เหมาะกับความถี่ช่วง 1-5MHz ลองดู Spec Ferrite Bead และ C X5R หรือ X7R ที่เหมาะสมนะครับ และเนื่องจาก Load ต้องการกระแสแบบ Pulse กรณีใช้พวก Shunt Reg ควรจะมีตัวกันกลับไปที่ Rectifier ด้วยครับ ถ้าใช้พวก Series Reg ก็ไม่ค่อยมีผลเท่าไหร่ ส่วนชุด Analog มองเผินๆ มันเป็น Analog เป็นสัญญาณต่อเนื่อง คงไม่มีอะไร แต่จะชี้ให้เห็นว่าความจริงมันเป็น Multi-Level Pulse ครับ DAC แบบ Current Source จะเป็นแบบนี้หมดครับ เพราะฉะนั้นช่วงการทำงานของ Reg และการเลือกใช้ Decoupling นอกจากต้องคำนึงถึง Audio Range แล้ว ก็ควรจะพิจารณาจนถึงช่วงความถี่ Sampling ด้วยครับ กรณี Non-OS ก็ไม่ต่ำกว่า 100kHz เพื่อให้ครอบคลุมความถี่ Sampling ครับ
Walt Jung's Reg เป็นแบบ Feedback Type ใช้ Op-amp เป็น Comparator ซึ่งโดยมากวงจรพวกนี้ Transient และ Settling Time จะต่ำครับ เมื่อเทียบกับ IC คือจะทำให้สูงก็ได้ ขึ้นกับการเลือกใช้ Op-amp และ Device ที่ใช้ผ่านกระแสครับ :)
ภาค I/V เท่าที่เล่นมา ผมชอบ Passive I/V + Transformer Couple + Tube Output ที่สุดครับ Style Audio Note นั่นแหล่ะครับ มันเหมาะกับ Style การเล่นของผม แต่สำหรับโครงการมหาชน ผมคิดว่า Op-amp I/V เหมาะสมกว่าครับ ราคาถูกกว่า Trans Couple มาก และมี Variation ของ Chip ให้เลือกใช้ได้มากมายครับ Op-amp ที่ Build-in มาใน Chip แค่ระดับพื้นๆ ครับ ควรจะใช้ I-out แล้วมาต่อ Op-amp ภายนอกจะดีกว่า ถ้าใช้ Op-amp Coil ในวงจร Filter ก็ไม่จำเป็นด้วยครับ แต่ถ้าจะใช้ Passive I/V ผมก็คิดว่า Coil ก็ยังไม่จำเป็นอยู่ดีครับ
ลองพิจารณาดูนะครับ เผื่อจะใช้ประโยชน์ได้ สงสัยก็สอบถามได้ครับ :bye1
-
ลืมไปอีก 2 เรื่องครับ เรื่องแรกคือ ควรจะออกแบบให้ปรับ MSB Level ได้เป็น Option ด้วยครับ คือถ้าสามารถปรับได้ ก็ติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเข้าไปแล้วปรับเอาครับ ถ้าไม่สามารถก็ไม่ต้องใส่อุปกรณ์ วิธีการปรับและวงจรอยู่ใน Datasheet อยู่แล้วครับ เรื่องที่ 2 คือ Analog Supply +/- ควรจะให้ปรับค่าได้ด้านใดด้านหนึ่ง เพื่อปรับสมดุลของ Supply Voltage ได้ครับ ;)
เพื่อนๆ ที่คิดจะทำเบอร์นี้อย่าเพิ่งไปคาดหวังมากมายกับคุณภาพเสียงที่จะได้นะครับว่าจะเหนือกว่าเบอร์นั้นเบอร์นี้ อย่างที่เคยกล่าวไว้ครับว่า Chip เป็นแค่ส่วนประกอบหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด คือไม่ได้หมายความว่า Chip เบอร์นี้เสียงดีกว่าเบอร์นั้น แล้วมันจะเป็นอย่างนั้นเสมอไปไม่ว่าวงจรจะเป็นอย่างไร สิ่งแวดล้อมมีส่วนอย่างมากครับ และอย่างที่ได้เล่าให้ฟังแล้วว่า วงจรเดียวกัน-อุปกรณ์เหมือนกัน แต่ PCB ต่างกัน ยังให้ผลต่างกันได้ครับ ถ้าจะเล่นก็คิดซะว่าเป็นเรื่องของความหลากหลายของการเล่น มากกว่าเรื่องของระดับสูง-ต่ำครับ :)
-
คอมผมคงจะเสียยาวตอนนี้กำลังหาเครื่องสำรองอยู่ครับที่โพสอยู่นี้ก็เครื่องของลูกค้าครับ ว่าจะเขียนให้เสร็จสักหน่อยมีอุปสรรคอีกแล้วครับ
-
เยี่ยมเลยครับ มีพี่ Mr.Tube มาช่วยแนะนำเพิ่มอีกคน O0 ตอนนี้ก็รอคอมฯพี่ Mr.Q หายป่วยไวๆ แหะๆ c) d_d
-
แต่สำหรับโครงการมหาชน ผมคิดว่า Op-amp I/V เหมาะสมกว่าครับ ราคาถูกกว่า Trans Couple มาก และมี Variation ของ Chip ให้เลือกใช้ได้มากมายครับ
โครงการมหาชนแปลว่าว่าอาไรคับ ???
-
โครงการมหาชนแปลว่าว่าอาไรคับ ???
คือปกติผมทำใช้เอง ผมก็คิดเองทำเองคนเดียว เสร็จแล้วถ้าได้ผลดีก็ค่อยเอามาบอกกัน แต่สำหรับโครงการนี้ ผมเห็นว่ามีผู้สนใจจะเอาแบบ PCB ไปทำตามเยอะครับ ต้องถามความเห็นคนอื่นเยอะเหลือเกิน คนก็ตั้งความหวังเยอะพอกัน ทั้งที่ยังไม่มีต้นแบบเลย ก็เลยเรียกโครงการมหาชนครับ ไม่มีอะไรครับ :)
-
สอบถามพี่ Mr.Tube เพิ่มเติมหน่อยครับ ถ้า decoupling cap ที่เราใช้มันความถี่ไม่ถึงนี่จะเกิดอาการประมาณไหนบ้างอ่ะครับพี่ :help
Walt Jung's Reg เป็นแบบ Feedback Type ใช้ Op-amp เป็น Comparator ซึ่งโดยมากวงจรพวกนี้ Transient และ Settling Time จะต่ำครับ เมื่อเทียบกับ IC คือจะทำให้สูงก็ได้ ขึ้นกับการเลือกใช้ Op-amp และ Device ที่ใช้ผ่านกระแสครับ :)
หมายถึง WJ Reg มี transient response ไม่ดี และ settling time ช้า เมื่อเทียบกับ IC (tl431) รึเปล่าครับ :help
-
สอบถามพี่ Mr.Tube เพิ่มเติมหน่อยครับ ถ้า decoupling cap ที่เราใช้มันความถี่ไม่ถึงนี่จะเกิดอาการประมาณไหนบ้างอ่ะครับพี่ :help
ถามได้เลยครับ ผมก็ไม่ได้ทราบทุกเรื่องครับ แต่ถ้าทราบก็ยินดีตอบอยู่แล้วครับ :)
Decoupling ก็คือการตัดการเชื่อมต่อตามชื่อครับ ในทางอุดมคติเลยก็คือต้องทำให้เสมือน Power Supply ไม่มีตัวตนครับ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ ในทางปฏิบัติก็ต้องดูว่า Load ประพฤติตัวอย่างไร เราก็ Focus การ Decoupling ไปตามการประพฤติตัวของ Load ครับ ถ้าเรากำหนดช่วง Decoupling ผิด Load ก็จะได้รับความแปรปรวนจาก Power Supply ไปด้วยครับ
กรณีวงจร DAC ก็ต้องดูกันว่าเป็น Analog Supply หรือ Digital Supply ครับ คำถามของคุณ analoque น่าจะหมายถึง Digital ใช่ไม๊ครับ ผลกระทบก็จะเกิดกับ Jitter ในระบบเป็นหลักครับ แต่ผลการรับฟังเป็นอย่างไรก็ต้องทำมาลองฟังกันครับ
หมายถึง WJ Reg มี transient response ไม่ดี และ settling time ช้า เมื่อเทียบกับ IC (tl431) รึเปล่าครับ :help
ขอตอบในเชิงหลักการนะครับ ตอบตามคำถามอาจจะนำไปสู่ความเข้าใจสั้นๆ ที่ผิดได้น่ะครับ
ขึ้นกับการเลือกใช้อุปกรณ์ครับ แนะนำให้ศึกษาบทความของ Walt Jung ให้ละเอียดครับ แนวคิดของ WJ's Super Reg คือ Low Noise เป็นพื้นฐานครับ WJ ไม่ได้ใส่ใจกับ Transient หรือเรื่อง Fast Response มากนัก เพราะเค้า Focus ที่ Audio Freq (<20kHz) การเลือกอุปกรณ์ของ WJ's จึงเน้น Low Noise เป็นหลักครับ พอมี IC เบอร์ใหม่ๆ ที่ Noise ต่ำกว่า วงจรก็ปรับตามไปครับ เช่นกัน ถ้าเราเลือกใช้อุปกรณ์ที่ Fast Response มาใช้ Reg ก็ Fast Response ด้วยได้ครับ แต่ถ้าระบุชื่อ WJ's Reg แล้ว ตามวงจรและแนวคิดของเค้า Low Noise เป็นประเด็นหลักครับ
คือวงจร Series Reg ลักษณะนี้มันมีมาตั้งแต่ยุคหลอดแล้วครับ พอถึงยุค SS ก็แค่ปรับเปลี่ยนนิดหน่อยให้เหมาะกับ Tr น่ะครับ ตอนนี้พอมี Device ใหม่ๆ ออกมา และ Spec ดีกว่า มันก็ Improve การทำงานของวงจรไปด้วยครับ แต่อย่าลืมว่าในขณะที่เค้าวิจัย Op-amp + Tr ใหม่ๆ ออกมาขาย ตัวผู้ผลิตเองก็สามารถเอามันมารวมกันเป็น Intergrated Circuit หรือ IC Reg ได้เช่นกัน เพราะวงจรมัน Standard อยู่แล้ว แต่จะขายแยกหรือขายรวมเท่านั้นเอง ในขณะที่ Designer อย่างเราต้องเอา IC/Tr มารวมกันเป็นวงจร Reg อยู่ นักวิจัยของผู้ผลิตเค้าทำเสร็จเป็นตัวพร้อมขายแล้ว ในขณะที่ Spec แทบจะไม่ต่างกัน อะไรทำนองนี้น่ะครับ ก็ลองศึกษา IC Reg ตัวอื่นๆ ดูครับ TL431 เป็น IC ที่ดีตัวหนึ่ง แต่มันอายุ 10 กว่าปีแล้วนะครับ :)
-
เข้ามาได้แล้วครับ ตอนนี้รู้สาเหตุอาการเสีย ขอบคุณ คุณ memeth คุณ hapy tube ที่ให้ข้อมูลการซ่อมครับ และขอขอบคุณเพื่อน ๆ สมาชิกทุกท่านที่ให้ข้อมูล และที่จะลืมไม่ได้เลยคือ อาจารย์ Art หรือ Mr. Tube ครับ ผมขอหยุด 3 วัน หลังจากนั้นจะมาเขียน PCB ต่อครับ ตอนนี้คิดว่าภาค IV คิดว่าจะใช้หลอดและภาคจ่ายแบบ shunt regulator ครับ เพื่อน ๆ สมาชิกท่านใดมีข้อเสนอแนะอะไรบ้างก็ดีครับ
-
ภาค reg ถ้าจะทำ pre-regulate ด้วย IC regulator
เท่าที่ผมดูตาม datasheet negative regulator spec สู้แบบ positive ไม่ได้ แถมเบอร์ดีๆแบบ neg ราคาในบ้านเราแพงกว่า แบบ pos เกือบเท่าตัวเลยครับ
เอาส่วนต่างพอไปพันหม้อแปลงเป็น 0-15, 0-15 (สองขด) แล้ว regulate ด้วย positive reg จากนั้นก็มาต่ออนุกรมกันก็ได้ครับ
-
ขอบคุณพี่ Mr.Tube มากครับ พอเข้าใจแล้วครับ Y] :headphone
สอบถามเพิ่มอีกนิดครับ x5r /x7r มันเป็น class ii dielectric ถ้าเราหันไปเล่นพวก c0g / np0 จะมีข้อได้เปรียบ/เสียเปรียบยังไงบ้างครับ :help
เข้ามาได้แล้วครับ ตอนนี้รู้สาเหตุอาการเสีย ขอบคุณ คุณ memeth คุณ hapy tube ที่ให้ข้อมูลการซ่อมครับ และขอขอบคุณเพื่อน ๆ สมาชิกทุกท่านที่ให้ข้อมูล และที่จะลืมไม่ได้เลยคือ อาจารย์ Art หรือ Mr. Tube ครับ ผมขอหยุด 3 วัน หลังจากนั้นจะมาเขียน PCB ต่อครับ ตอนนี้คิดว่าภาค IV คิดว่าจะใช้หลอดและภาคจ่ายแบบ shunt regulator ครับ เพื่อน ๆ สมาชิกท่านใดมีข้อเสนอแนะอะไรบ้างก็ดีครับ
มาแว้วๆ c) ถ้าเป็นตามนี้ผมก็ยังไม่มีข้อเสนออะไรเพิ่มเติมครับ ยังไงก็ได้อยู่แล้วครับ O0 :headphone
ภาค reg ถ้าจะทำ pre-regulate ด้วย IC regulator
เท่าที่ผมดูตาม datasheet negative regulator spec สู้แบบ positive ไม่ได้ แถมเบอร์ดีๆแบบ neg ราคาในบ้านเราแพงกว่า แบบ pos เกือบเท่าตัวเลยครับ
เอาส่วนต่างพอไปพันหม้อแปลงเป็น 0-15, 0-15 (สองขด) แล้ว regulate ด้วย positive reg จากนั้นก็มาต่ออนุกรมกันก็ได้ครับ
dual secondaries ก็เป็นทางออกนึงครับ บางคนบอกว่าเสียงดีกว่าใช้ center tapped ด้วยครับ ถ้าไม่อยากใช้ negative reg แต่ต้องใช้ center tapped จะลอง tl431 + pnp pass transistor ที่ไฟลบก็เป็นอีกทางออกนึงครับ Y]
-
และขอขอบคุณเพื่อน ๆ สมาชิกทุกท่านที่ให้ข้อมูล และที่จะลืมไม่ได้เลยคือ อาจารย์ Art หรือ Mr. Tube ครับ
ยินดีครับ แต่อย่าเรียกอาจารย์เลยครับ ผมก็นักศึกษาเหมือนกัน :)
-
ขอบคุณพี่ Mr.Tube มากครับ พอเข้าใจแล้วครับ Y] :headphone
สอบถามเพิ่มอีกนิดครับ x5r /x7r มันเป็น class ii dielectric ถ้าเราหันไปเล่นพวก c0g / np0 จะมีข้อได้เปรียบ/เสียเปรียบยังไงบ้างครับ :help
NP0 หรือพวก Class I ทั้งหมด เสถียรภาพต่อสิ่งแวดล้อมเช่น Temp หรือ Applied Voltage ดีกว่า Class II ครับ แต่ NP0 มันไม่ค่อยมีค่าสูงๆ สำหรับทำ Decoupling น่ะครับ ผมเคยหาค่า 1nF มาขนานกับ Decoupling ตัวเดิมที่เป็น X7R 100nF แล้วไม่เห็นความแตกต่างทางการรับฟังครับ ก็เลยคิดว่าลำพังคุณสมบัติของ Class II น่าจะดีพอเพียงแล้วน่ะครับ :bye1
-
มิสเตอร์ทิวบ์ครับ
http://www.thaiavclub.org/forums/index.php?topic=2960.msg29900
AD1860 nos mode เทียบกับ1865 nos mode แล้วเป็นอย่างไรบ้างครับ
-
ตั้งนานแล้วยังไปขุดเจออีกเหรอครับเนี่ย ;D
มันเทียบกันไม่แฟร์น่ะครับ DITB ไม่ได้ลงทุนเรื่อง Supply และ Analog output เท่าไหร่ครับ ตัว AD1865 V2 ของผมดีกว่ามากครับ อย่างไรก็ตาม AD1860 กับ AD1865 เป็น Chip รุ่นราวคราวเดียวกันครับ แค่ Mono/Stereo Package เท่านั้นเองครับ Mono Package ก็ได้เปรียบเรื่อง Channel Separation ที่น่าจะดีกว่า Stereo Package ครับ ผมคิดว่าถ้าเอา AD1860 มาทำดีๆ อย่างน้อย Style เสียงน่าจะเหมือนกัน ส่วนระดับ Fidelity ก็ขึ้นกับการใช้งาน Chip อย่างที่เล่าให้ฟังไปก่อนแล้วครับ :)
คุณคุ้มสนใจ AD1860 หรือครับ ผมมี AD1851 ซุกไว้ (ตรงไหนก็ไม่รู้นะครับ :D ) 2-3 ตัว สนใจเอามันไปฝึกร้องเพลงไม๊ล่ะครับ จะไปค้นมาให้ :)
-
ขอถาม Mr. tube หน่อยครับ ว่าเราสามารถใช้ IC เบอร์อื่นแทน CS8412,CS8414 ในภาคดิจิตอลได้ไหมครับ
เพราะว่าCS8412,Cs8414หายากมากๆ
-
ขอถาม Mr. tube หน่อยครับ ว่าเราสามารถใช้ IC เบอร์อื่นแทน CS8412,CS8414 ในภาคดิจิตอลได้ไหมครับ
เพราะว่าCS8412,Cs8414หายากมากๆ
ร่วมถามด้วยคน
-
งานนี้น่าสนใจมากเลยครับ ได้ Mr.Tube Comment เรื่องวงจร Mr.Q ออก แบบ PCB O0 O0 O0
-
ขอถาม Mr. tube หน่อยครับ ว่าเราสามารถใช้ IC เบอร์อื่นแทน CS8412,CS8414 ในภาคดิจิตอลได้ไหมครับ
เพราะว่าCS8412,Cs8414หายากมากๆ
เท่าที่ผมทราบ ถ้าเสียบแทนได้เลยไม่มีแล้วครับ แต่ที่ทำหน้าที่คล้ายๆ กันมีอีกหลายเบอร์เลยครับ ของ Crystal เองก็เช่น CS8415, CS8416, CS8420 ครับ ของ Burr-brown ก็มี DIR1701, DIR1703 ครับ :)
-
ตั้งนานแล้วยังไปขุดเจออีกเหรอครับเนี่ย ;D
มันเทียบกันไม่แฟร์น่ะครับ DITB ไม่ได้ลงทุนเรื่อง Supply และ Analog output เท่าไหร่ครับ ตัว AD1865 V2 ของผมดีกว่ามากครับ อย่างไรก็ตาม AD1860 กับ AD1865 เป็น Chip รุ่นราวคราวเดียวกันครับ แค่ Mono/Stereo Package เท่านั้นเองครับ Mono Package ก็ได้เปรียบเรื่อง Channel Separation ที่น่าจะดีกว่า Stereo Package ครับ ผมคิดว่าถ้าเอา AD1860 มาทำดีๆ อย่างน้อย Style เสียงน่าจะเหมือนกัน ส่วนระดับ Fidelity ก็ขึ้นกับการใช้งาน Chip อย่างที่เล่าให้ฟังไปก่อนแล้วครับ :)
คุณคุ้มสนใจ AD1860 หรือครับ ผมมี AD1851 ซุกไว้ (ตรงไหนก็ไม่รู้นะครับ :D ) 2-3 ตัว สนใจเอามันไปฝึกร้องเพลงไม๊ล่ะครับ จะไปค้นมาให้ :)
น่าคิดครับ เดี๋ยวผมจะอัพภาคจ่ายไฟให้มันสุดๆ ดูครับว่า จะเป็นอย่างไร
ส่วนAD1851 ที่ซุกไว้ ขุดออกมาถอะครับ สนครับผม
ขอบคุณครับ
-
น่าคิดครับ เดี๋ยวผมจะอัพภาคจ่ายไฟให้มันสุดๆ ดูครับว่า จะเป็นอย่างไร
ส่วนAD1851 ที่ซุกไว้ ขุดออกมาถอะครับ สนครับผม
ขอบคุณครับ
หาเจอ-ไม่เจอ จะ PM ไปบอกละกันนะครับ พอดีผมได้เบอร์อื่นมาแล้ว คงไม่ได้เล่น AD1851 แล้วครับ
ถ้าจะ Upgrade ภาคจ่ายไฟของ DITB คงต้อง Up กล่องก่อนละครับ ข้างในมันแทบไม่มีที่ว่างให้ใส่อะไรอีกแล้วละครับ ;D
-
ขอบคุณพี่ Mr.Tube มากครับ ผมไปแอบด้อมๆมองๆเดี๋ยวนี้พวก np0 เริ่มมีค่าสูงๆพวก 0.1uF ขายแล้วครับ c) ว่าจะเอามาลองเทียบกันอีกซักทีครับ
ขอสอบถามเพิ่มเติมครับ ferrite bead ต้องดู spec ด้วยเหรอครับพี่ ไม่ทราบว่าต้องดูตรงไหนบ้างครับ :help
-
ขอบคุณพี่ Mr.Tube มากครับ ผมไปแอบด้อมๆมองๆเดี๋ยวนี้พวก np0 เริ่มมีค่าสูงๆพวก 0.1uF ขายแล้วครับ c) ว่าจะเอามาลองเทียบกันอีกซักทีครับ
ได้ผลอย่างไร รบกวนแจ้งให้ทราบด้วยนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ d_d
ขอสอบถามเพิ่มเติมครับ ferrite bead ต้องดู spec ด้วยเหรอครับพี่ ไม่ทราบว่าต้องดูตรงไหนบ้างครับ :help
Ferrite Bead เองก็มี Spec ครับ เป็นค่า Impedance ในแต่ละย่านความถี่ครับ ปกติเราสามารถกำหนดได้ว่าจะกรองที่ความถี่เท่าใด ลดทอนกี่ dB แล้วค่อยเลือก Ferrite Bead กับ C Decoupling ครับ ส่วนพวกที่เป็น Bead แล้วเรามาร้อยลวดเอง พวกนี้เราไม่อาจทราบ Spec ได้ ก็หลับตาข้างนึงใช้ไปครับ :)
-
ขอบคุณพี่ Mr.Tube มากครับ :headphone
ferrite bead นี่ล้ำลึกกว่าที่คิดเยอะเลยแฮะ decoupling อีก อ่านกันสนุกเลยงานนี้ :black_eye
ตกลงภาคจ่ายไฟพี่ Mr.Tube แนะนำเป็นตัวไหนครับ หรือว่าพอๆกันหมดและควรจะไปเน้นที่ ferrite bead / decoupling มากกว่าครับ :help
แล้วตอนนี้มี ic อะไรที่ทำงานเหมือน tl431 แต่สเป็กดีกว่ามั้ยครับ หรือว่าเราควรหา voltage reference ที่ noise ต่ำๆ แล้วใช้ opamp hi speed / low noise ทำ shunt regulate แทนครับ :-\
-
ขอบคุณพี่ Mr.Tube มากครับ :headphone
ferrite bead นี่ล้ำลึกกว่าที่คิดเยอะเลยแฮะ decoupling อีก อ่านกันสนุกเลยงานนี้ :black_eye
ตกลงภาคจ่ายไฟพี่ Mr.Tube แนะนำเป็นตัวไหนครับ หรือว่าพอๆกันหมดและควรจะไปเน้นที่ ferrite bead / decoupling มากกว่าครับ :help
แล้วตอนนี้มี ic อะไรที่ทำงานเหมือน tl431 แต่สเป็กดีกว่ามั้ยครับ หรือว่าเราควรหา voltage reference ที่ noise ต่ำๆ แล้วใช้ opamp hi speed / low noise ทำ shunt regulate แทนครับ :-\
ไม่มีเบอร์ที่แนะนำครับ ผมแค่อยากชี้ประเด็นให้เพิ่มน้ำหนักเรื่องการใช้งาน (Application and Implementation) ให้มากขึ้น ลดน้ำหนักเรื่อง IC/Chip สวรรค์สร้าง ลงไปบ้างครับ วงจรแบบที่คุณ analogue กล่าวถึงก็น่าสนใจครับ ลองแล้วได้ผลยังไงเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ :)
-
;) เล่นเงียบกันไปหมด ขาเสียบรอ group buy อย่างผมเซ็งเลยครับ ^-^
2f 2f 2f 2f
-
K)ไม่รู้ไปถึงไหนกันแล้วน้า :secretรอgroup buy เหมือนกัน ;D 2f
-
ดู dac ยี่ห้อ dackit 2.1 ที่ร้านมาสเตอร์คอมโพเนนท์แล้ว ไม่อยากออกแบบเลยครับ กำลังเก็บเงินซื้อมาทีเดียวเลยดีกว่า ค่อยมาลงอุปกรณ์อัพเกรดเอาเอง ตัวเดียวกับที่คุณ davit เลยเอาลิ้งค์มาให้เลยล่ะครับ แต่ของเขาสีดำ ตอนนี้สองจิตสองใจอยู่ว่าจะซื้อหรือจะสร้างดี เห็นงานเขาแล้วใจแป้วๆ
-
หลังสงกรานต์จะมาทำต่อครับ คงมีเวลามากเพราะว่าไม่ได้ไปช่วยเพื่อนที่บ้านหม้อแล้วครับ และขอเปลี่ยนวงจรหใม่ด้วยครับ ผมรู้สึกว่าวงจรนี้มันตลาดไปหน่อยครับ แต่ยังคงใช้ IC เบอร์เดิมครับ และยังมีโครงงานต่อ ๆ ที่ผมอยากจะทำ ผมคนบ้าครับ ;D (เครื่องเสียง)ถ้าใครบ้าเหมือนผมตามผมมาครับ ;D
-
มีพี่ๆ ท่านใด มีวงจรตามรูปที่คุณ davit แสดงไว้บ้างครับ อยากทราบการทำงานเบื้องต้น ถ้ามีทั้งภาคดิจิตอล และ ภาคหลอดด้วยยิ่งดีเลยครับ
-
เอาวงจรที่เขียนใหม่มาให้กันช่วยดูแล้วติชมด้วยครับ วงจรผมเปลี่ยนภาคจ่ายไฟเป็น Shunt Regulator ทั้งหมด ช่วยกันตรวจสอบหน่อยครับ PCB ผมเขียนได้แล้ว 60 % ยากมากครับ ผมพยายามทำให้ขนาดเล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ก็เพื่อประยัดงบประมาณครับ
-
เย้ ใกล้แล้ว c) :headphone d_d
-
ลาย PCB ที่ยังไม่ได้เท ground plane ครับ
-
group buy group buy group buy group buy ;D ;D ;D
-
group buy group buy group buy group buy ;D ;D ;D
ขอบคุณ Mr.Q ครับ O0
-
group buy group buy group buy group buy ;D ;D ;D
ขอบคุณมากๆด้วยคนครับ O0 O0 O0
-
ฝากดูตรงช่วงดิจิตอลชีลด์ด้วยนะครับ ชีลด์เฉพาะส่วนที่เราต้องการ และ ต้องไม่ลืมจิตอลสตาร์กราวนด์ด้วยนะครับ ส่วนอื่นเว้นไว้ ตัวอย่างตามรูปนี้ครับ นำมาจาก www.diyaudio.com ครับ
-
ดันครับ :victory
-
ฝากดูตรงช่วงดิจิตอลชีลด์ด้วยนะครับ ชีลด์เฉพาะส่วนที่เราต้องการ และ ต้องไม่ลืมจิตอลสตาร์กราวนด์ด้วยนะครับ ส่วนอื่นเว้นไว้ ตัวอย่างตามรูปนี้ครับ นำมาจาก www.diyaudio.com ครับ
ตัวนี้ละคับโดนใจ :o
-
ขอบคุณมากๆด้วยคนครับ O0 O0 O0 O0
-
เห็นลาย PCB แล้วยั่วความอยากทำจริงๆ c)
-
ฝากดูตรงช่วงดิจิตอลชีลด์ด้วยนะครับ ชีลด์เฉพาะส่วนที่เราต้องการ และ ต้องไม่ลืมจิตอลสตาร์กราวนด์ด้วยนะครับ ส่วนอื่นเว้นไว้ ตัวอย่างตามรูปนี้ครับ นำมาจาก www.diyaudio.com ครับ
ขอบคุณครับ ผมทำ Ground Plane แยกออกเป็น 2 จุดคือ Ground ของ Digital กับ Analog ด้าน Toplayer แล้ว Connect Ground กับ Ground ของ Ground หลักเอาไว้เพียงจุดเดียว
-
ฝากดูตรงช่วงดิจิตอลชีลด์ด้วยนะครับ ชีลด์เฉพาะส่วนที่เราต้องการ และ ต้องไม่ลืมจิตอลสตาร์กราวนด์ด้วยนะครับ ส่วนอื่นเว้นไว้ ตัวอย่างตามรูปนี้ครับ นำมาจาก www.diyaudio.com ครับ
ขอบคุณครับ ผมทำ Ground Plane แยกออกเป็น 2 จุดคือ Ground ของ Digital กับ Analog ด้าน Toplayer แล้ว Connect Ground กับ Ground ของ Ground หลักเอาไว้เพียงจุดเดียว
เยี่ยมครับ O0 O0 O0 O0 O0 O0 O0
-
อยากให้ลองอ่านเรื่องความต่างศักย์ของดิจิตอลกราวนด์ และ อนาล็อกกรานด์ครับ อยู่ในแอพพลิเคชั่นโน้ตของ protel เองเลยครับ มันมีวิธีวางเลย์เอาต์อยู่ ไม่ใช่ว่าเราขีดเส้นกั้นแยกดิจิตอล อนาล็อก แล้วเท (โพลีกอน) กราวนด์เพลนครับ แบบนั้นมันก็จะเหมือนเจ้าหนึ่งในหนังสือ CEW ทำอยู่ครับ ซึ่งผมเคยโทรไปแนะนำเรื่องการเทโพลีกอนเพลนแบบผิดๆ ในภาคหลอด และ ซัพพลาย แล้วโดนด่ากลับมา ว่า "อย่ามาสอน ผมทำมาแบบนี้ใครๆ ก็ชอบ ผมมีจุดยืนของผม" ดีนะที่เขาไม่ทำเกี่ยวกับระบบดิจิตอล ไม่งั้นคงโดนหนักกว่านี้ ตั้งแต่นั้นมาเวลาจะแนะนำอะไรใครสักที ต้องดูทิศทางลมก่อนเลย :-X
-
ผมมีมุมมองในการเรกกูเลชั่นที่ต่างมุมออกไปนิดนึงนะครับ ก็คือการใช้ การใช้ TL431 อีกหนึ่งซีรี่ย์มาแทนที่ TL431 แบบเดิมๆ ก็คือ LM431ACM อันนี้เอาของนอกมา รูปอาจจะไม่ชัดนะครับ แต่พอจะดูรู้เรื่อง และ เรื่องการไอโซเลตกราวนด์ความถี่สูงด้วย ตัวต้านทาน 10 โอห์ม ขนานกับ Inductor ก็เป็นเรื่องการแยกกราวนด์แทนที่การเฟอไรท์บีดด้วยครับ
-
ผมเคยถาม ราคาแผ่น pcb ที่ร้าน ในบ้านหม้อสแควพลาซ่า AD1865 + Cs8414 + pcb ver dac 2.1แค่นี้ ราคา 5000 บาทคับ :giveup :notworthy
-
ราคาขนาดนั้นผมก็ถอยเหมือนกันล่ะครับ (ยกเว้นถูกหวย) ซื้อมาก็เอามาก็อปปี้ไม่ได้ เล่นสกรีนซะสีดำทั้งแผ่น มองไม่เห็นเลยว่าลายทองแดงไปทางไหนบ้าง ขาก็อปปี้อย่างเรา แกร่วเลย ไม่ทราบว่าหลังจากตกลงปลงใจกรุ๊ปบายกันแล้ว พวกเราจะสามารถดาวน์โหลดไฟล์ PCB ในรูปแบบ PROTEL PCB ไฟล์เหมือนกับคุณวศินมั้ยครับ ถ้าทำได้ก็น่าชื่นชมยินดีครับ ในความมีน้ำใจของพวกเราชาว DIY ด้วยกัน ผมคำนวณดูแล้วหากขนาด PCB เล็กกว่ากระดาษ A4 ถ้าทำ 25 คนขึ้นไปก็ตกแผ่นละ 675 บาทเองครับ รวมสกรีนทุกด้านเลย ยกเว้นว่าจะบวกค่าดีไซน์ และ กำไรเข้าไป
-
ผมมีมุมมองในการเรกกูเลชั่นที่ต่างมุมออกไปนิดนึงนะครับ ก็คือการใช้ การใช้ TL431 อีกหนึ่งซีรี่ย์มาแทนที่ TL431 แบบเดิมๆ ก็คือ LM431ACM อันนี้เอาของนอกมา รูปอาจจะไม่ชัดนะครับ แต่พอจะดูรู้เรื่อง และ เรื่องการไอโซเลตกราวนด์ความถี่สูงด้วย ตัวต้านทาน 10 โอห์ม ขนานกับ Inductor ก็เป็นเรื่องการแยกกราวนด์แทนที่การเฟอไรท์บีดด้วยครับ
ใน PCB จุดเชื่อมต่อ Gruond ทั้ง 2 ตำแหน่ง ผมใส่ L ไว้แล้วแต่ไม่มี R ตอนแรกผมก็มอง LM431ACM เหมือนกันแต่ ตัวถังแบบ Soic _ ตัวมันเล็กบักรียากครับ
-
ต้องไม่ลืมเรื่องลวดจัมเปอร์ด้วยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นภาคดิจิตอล หรือ อนาล็อก ไม่สมควรที่จะมีด้วยเหตุทั้งปวง เพราะเมื่อเราออกแบบวงจรให้เป็น plate through hole ได้แล้ว เรื่องจัมเปอร์ที่จะเพิ่มความต่างศักย์ของแรงดันไฟ และ เป็นตัวการทำให้เสียงไม่บริสุทธิ์เราต้องพยายามออกแบบให้ complete ที่สุดเท่าที่จะทำได้ การเลือกไลน์เดินไฟ หรือ สัญญาณก็ต้องเลือกด้วยว่าไม่ซ้อนกันบนคู่ขนานเลเยอร์ บน-ล่าง เลือกด้านใดด้านหนึ่งเป็นสัญญาณ และ เลือกอีกด้านเป็นไฟเลี้ยง กับ กราวนด์ เว้นเสียแต่ว่าเราออกแบบให้ด้านบนสุดเป็นดิจิตอลกราวนด์ชีลด์ เคยอ่านตำราไว้ช่วงหนึ่งที่ฝรั่งเขาเขียนไว้ใน dac pcm 1704
-
อยากให้ลองอ่านเรื่องความต่างศักย์ของดิจิตอลกราวนด์ และ อนาล็อกกรานด์ครับ อยู่ในแอพพลิเคชั่นโน้ตของ protel เองเลยครับ มันมีวิธีวางเลย์เอาต์อยู่
รบกวนคุณ AD1865 ช่วยแนะนำว่าจะหามาอ่านได้ที่ไหนครับ ผมใช้ Protel 99 SE อยู่และหา application note ที่ว่าไม่เจอ รวมทั้งใน Google ด้วยครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ :)
-
ผมมีมุมมองในการเรกกูเลชั่นที่ต่างมุมออกไปนิดนึงนะครับ ก็คือการใช้ การใช้ TL431 อีกหนึ่งซีรี่ย์มาแทนที่ TL431 แบบเดิมๆ ก็คือ LM431ACM อันนี้เอาของนอกมา รูปอาจจะไม่ชัดนะครับ แต่พอจะดูรู้เรื่อง และ
LM431ACM มีคุณสมบัติที่ดีกว่า TL431 อย่างไรครับ รบกวนช่วยชี้แนะด้วยครับ ทำไมคุณ AD1865 จึงมีมุมมองที่จะใช้ LM แทน TL ครับ :)
-
เรื่องการไอโซเลตกราวนด์ความถี่สูงด้วย ตัวต้านทาน 10 โอห์ม ขนานกับ Inductor ก็เป็นเรื่องการแยกกราวนด์แทนที่การเฟอไรท์บีดด้วยครับ
มีเรื่องสอบถามเยอะหน่อยนะครับ ผมคิดว่าจะเป็นประโยชน์กับส่วนรวมมากเลย อย่าเพิ่งรำคาญนะครับ ขอสอบถามเพิ่มเติมดังนี้ครับ
1. การ Isolate Ground ลักษณะนี้ได้ประโยชน์อย่างไรครับ?
2. การเอา Inductor ขนานกับ R 10 Ohm และเชื่อม Ground ทั้ง 2 เข้าด้วยกัน ปกติ XL จะมีค่าสูงขึ้นเมื่อความถี่สูงขึ้น (XL = 2(pi) x f x L) และ L มักจะมี DCR ต่ำมาก เพราะฉะนั้นที่ความถี่ต่ำ Ground ทั้ง 2 จะเห็นมี R ค่าน้อยๆ (DCR ของ L) ขวางอยู่ และที่ความถี่สูงก็จะเห็นแต่ 10 Ohm เพราะ XL จะสูงมาก ผมเลยไม่เข้าใจว่า L มีส่วนร่วมในการ Isolate Ground ความถี่สูงอย่างไรครับ?
3. การ Isolate Ground ลักษณะนี้มีผลต่อการรับฟังอย่างไรครับ ใส่กับไม่ใส่ได้ผลการรับฟังต่างกันอย่างไรครับ?
รบกวนแค่นี้ก่อนครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ :)
-
อยากให้ลองอ่านเรื่องความต่างศักย์ของดิจิตอลกราวนด์ และ อนาล็อกกรานด์ครับ อยู่ในแอพพลิเคชั่นโน้ตของ protel เองเลยครับ มันมีวิธีวางเลย์เอาต์อยู่
รบกวนคุณ AD1865 ช่วยแนะนำว่าจะหามาอ่านได้ที่ไหนครับ ผมใช้ Protel 99 SE อยู่และหา application note ที่ว่าไม่เจอ รวมทั้งใน Google ด้วยครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ :)
ชื่อ protel99setraining เดี๋ยวผมส่งให้ทาง Mail ครับ
-
เรื่องดิจิตอลกราวนด์ และ อนาล็อกกราวนด์ก็สามารถหาอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ด้วยครับ
http://www.analog.com/zh/content/0,2886,762%255F%255F97529%255F0,00.html
การไอโซเลตกราวนด์แบบนั้นมีข้อดีก็คือ ในขณะที่ความถี่สูงวิ่งผ่านมันจะเป็นตัวต้านทานยิ่งยวดด้วยลักษณะการทำงานแบบเรฌวแนนซ์นะครับ ไม่ได้ทำงานเพียงแต่ลวดอย่าวเดียว แต่ในขณะเดียวกันจะยอมให้การไหลของกระแสผ่านตัวต้านทานไปได้ ส่วนค่าของตัวต้านทานนั้น ป้องกันกราวนด์ลูปครับ มักจะเจอในเครื่องเสียงสตูดิโอ ยุโรป และ อเมริกา ผลลัพธ์ของเสียงที่ได้ บอกได้เลยว่าไม่มีครับ ถ้าบอกว่ามีเดี๋ยวจะร่ายกันไม่จบ แต่ที่รู้ๆ ก็คือ มันทำให้นักแกะอย่างผมออกแบบอะไรๆ ได้ง่ายขึ้น ที่จริงแล้วเป็นการป้องกันเสียมากกว่า และ เป็นมาตรฐานในปัจจุบันไปเสียแล้ว
LM431ACM มีข้อดีก็คือ มีสปิดที่สูงกว่า และ ทนความร้อนกว่าจึงนิยมนำมาใช้ในสวิทชิ่งเพาเวอร์ซัพพลายภายในของเมนบอร์ดครับ สังเกตได้ว่าเราจะไม่เจอ tl431 ในวงจรภาคจ่ายไฟในปัจจุบันเลยครับ
-
เรื่องดิจิตอลกราวนด์ และ อนาล็อกกราวนด์ก็สามารถหาอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ด้วยครับ
http://www.analog.com/zh/content/0,2886,762%255F%255F97529%255F0,00.html
ตรงนี้ผมเข้าใจดีครับและคิดว่าทุกคนที่ออกแบบ PCB ก็เข้าใจเหมือนกัน แต่ที่ไม่เข้าใจตรงเรื่องการกำหนดให้โปรเทล ให้เท polygon plane ทีเดียวทั้ง 2 net ในที่นี้คือ Digital Ground กับ Analog Ground ได้อย่างไง ผมเองใช้แบบ manual ตลอด แบ่งเอาตามลักษณะที่เรา(คนออกแบบ)วาง Layout ไว้ Design Rules ผมว่ามันก็จำเป็น แต่ไม่ทั้งหมดถ้าหากเราออกแบบ Auto & Manual ผมเองก็ใช้ไม่ทุกอย่างจะใช้เฉพราะในสิ่งที่ผมต้องการบังคับให้เป็นไปตามต้องการเท่านั้น คุณ AD1865 ช่วยอธิบายตรงนี้หน่อยครับ ผมทำไม่เป็น
อยากให้ลองอ่านเรื่องความต่างศักย์ของดิจิตอลกราวนด์ และ อนาล็อกกรานด์ครับ อยู่ในแอพพลิเคชั่นโน้ตของ protel เองเลยครับ มันมีวิธีวางเลย์เอาต์อยู่ ไม่ใช่ว่าเราขีดเส้นกั้นแยกดิจิตอล อนาล็อก แล้วเท (โพลีกอน) กราวนด์เพลนครับ แบบนั้นมันก็จะเหมือนเจ้าหนึ่งในหนังสือ CEW ทำอยู่ครับ ซึ่งผมเคยโทรไปแนะนำเรื่องการเทโพลีกอนเพลนแบบผิดๆ ในภาคหลอด และ ซัพพลาย แล้วโดนด่ากลับมา ว่า "อย่ามาสอน ผมทำมาแบบนี้ใครๆ ก็ชอบ ผมมีจุดยืนของผม" ดีนะที่เขาไม่ทำเกี่ยวกับระบบดิจิตอล ไม่งั้นคงโดนหนักกว่านี้ ตั้งแต่นั้นมาเวลาจะแนะนำอะไรใครสักที ต้องดูทิศทางลมก่อนเลย :-X
ช่วยอธิบายหน่อยว่าขั้นตอนทำไงครับ
-
ถามเรื่อง shunt reg ตรง tl431 ผมเห็นมี R 1K + C 22uF วิ่งจาก B+ ไปขา adj มัันมีวิธีคิดยังไงครับ ผมเคยเล่น tl431 มาพักนึก ผมว่า C bypass ตัวนี้ก็สำคัญ แต่ไม่เคยใช้ RC แบบตำแหน่งนี้มาก่อน
อ้อ ตรงไฟลบ tl431 น่าจะเขียนวงจรผิดนะครับ กลับหัวกลับหางกัน
-
ชื่อ protel99setraining เดี๋ยวผมส่งให้ทาง Mail ครับ
ได้รับแล้วขอบคุณมากๆ ครับ ขอศึกษาดูก่อนนะครับ :) :)
-
การเขียน PCB ให้มีการแยกดิจิตอลกราวนด์ และ อนาล็อกกราวนด์ ต้องเขียนมาจาก SCHEMATIC ไฟล์เสียก่อน หลังจากนั้น EXPORT ไฟล์มาเป็น NETLIST ไฟล์ ในตัวของPROTEL เองก็จะมีฟังก์ชั่นกราวนด์ตรงนี้อยู่แล้ว เมื่อเราเขียน SCHEMATIC ไฟล์ขึ้นมา เลือกกราวนด์ที่เราต้องการจากนั้นดับเบิ้ลคลิกก็จะเจอฟังก์ชั่นใช้งานตามรูปครับ เวลา EXPORT ไฟล์ NETLIST มันก็จะแยกกันอัตโนมัติหลังจากที่เรา MANAUL PLACE ครับ ขั้นตอนการทำ NETLIST ขออนุญาตไม่สอนนะครับ อ่านจากหนังสือ หรือ HOW TO ของ PROTEL ได้เลยครับ ที่ทำงานผม (องค์การโทรศัพท์) ใช้งานเป็นกันแทบทั้งหมดแล้ว วุฒิขั้นต่ำ ปวช ผมก็สอนให้หมดเลยครับ เผื่อวันหลัง ออกไปจะได้มีจ๊อบเล็กๆ ทำกัน
-
what is the difference between anolog ground and digital ground
: can any one tell me the difference between analog ground and digital ground,why it should be seperate line and finally it has shorted at one point???
Separating analogue and digital ground generally has to do with return currents and ground noise. Even though we think of GROUND as having zero impendence, it is a wire like anything else. Even ground planes have some impendence, and so currents flowing through these grounds cause voltage drops in the planes.
Separate grounds does not always mean totally separated. Most analog ground and power splits are done by either just isolating the plane and not allowing the digital signals to flow over it. There is generally a single point connetion between the DIGITAL and ANALOG grounds.
This single point keeps the ground potentials of those different ground planes same but keeps the transfer of digital noise to analogue side minimum.
Your digital circuit noise can get to your analogue signal path if you don't use separate grounding systems for digital and alalogue parts (those are interconnected only in one place). Digital grounds are invariably noisier than analog grounds because of the switching noise generated in digital chips when they change state. For large current transients, PCB trace inductances causes voltage drops between various ground points on the board (aka "ground bounce"). Ground bounce translates into varying voltage level bounce on signal lines. For digital lines this isn't a problem unless you cross a logic threshold. For analog it's just plain noise to be added to your signals.
How to eliminate this problem ? why the suggestion of keeping analog and digital grounds separate is made by having them separate on the IC, so use separate grounds. Two completely separate supplies allows switching currents to be speced and optimized for at the regulator, and to have analog supply optimized to be nice and quiet. Filtering and bypassing can help to short out some ground bounce currents. And if you connect the analogue and digital grounds together do it only in one single well-designed place.
If you are building an analogue to digital converter circuit, then you have to be very careful in keeping the analogue and digital grounds separare or otherwise you will not get the resolution you expect to get because of the noise. The AGND and DGND pins should connect to the analogue ground, preferably with it flooded under the whole IC package. If you don't do this, noise on the DGND pin fom the digital supply will get injected into the analogue section inside the IC.
The digital input lines should be close to each other and connect to the nearby digital IC. Underneath these lines, the analogue and digital ground planes should CONNECT. The reason for this is to keep the radiating loop area of the digital current path to a minimum. If you don't do this, every time a digital edge occurs, the pulse will either flow around rather a large path or get injected into the IC's analogue section, depending on your implementation.
และ http://www.epanorama.net/documents/groundloop/in_circuit.html
-
เทคนิคการออกแบบ PCB ในวงจรดิจิตอล จะมีเรื่องระยะห่างลายทองแดง ความหนาแน่นลายทองแดง และ ค่าประจุแฝงครับ http://www.analogzone.com/acqt0729.pdf เนื้อหน่าอ่านมากๆ พิมพ์มานานแล้วครับ แต่ยังคงใช้ได้ถึงปัจจุบัน ท่านไหนสงสัยก็ PM มาได้นะครับ ผมพอจะดูงาน การออกแบบได้บ้างว่าแบบไหนจะจเอปัญหาใด
-
การไอโซเลตกราวนด์แบบนั้นมีข้อดีก็คือ ในขณะที่ความถี่สูงวิ่งผ่านมันจะเป็นตัวต้านทานยิ่งยวดด้วยลักษณะการทำงานแบบเรฌวแนนซ์นะครับ ไม่ได้ทำงานเพียงแต่ลวดอย่าวเดียว แต่ในขณะเดียวกันจะยอมให้การไหลของกระแสผ่านตัวต้านทานไปได้ ส่วนค่าของตัวต้านทานนั้น ป้องกันกราวนด์ลูปครับ
ตัวต้านทานแบบยิ่งยวดหมายถึงมีความต้านทานเป็นอนันต์ ความหมายเหมือนกับ ตัวนำยิ่งยวด ที่มีความต้านทานเป็น 0 แบบนั้นรึเปล่าครับ ถ้าเป็นอย่างที่คุณ AD1865 ว่าไว้ ผมเข้าใจว่า กราวด์ Analog กับกราวด์ Digital จะไม่ต่อถึงกันที่ความถี่ Resonance นั้น ถูกไม๊ครับ เพราะชุด RL ทำตัวเป็นตัวต้านทานยิ่งยวด ในรูปที่อ้างอิงมาใช้ค่า R 10 Ohm และ L 10uH ตัวมันเล็กผมเลยไม่ค่อยแน่ใจน่ะครับ ที่จะถามคือจะคำนวณค่าความถี่ Resonance ได้เท่าไหร่ครับ แล้วมันมีประโยชน์ยังไงเมื่อไม่มีการเชื่อมโยงกราวด์ถึงกันเฉพาะที่ความถี่ Resonance และ Overtone ของมันครับ ความถี่อื่นๆ ก็ยังเชื่อมกันอยู่ดี ตรงนี้ไม่เข้าใจครับ รบกวนอธิบายในรายละเอียดอีกรอบนะครับ
LM431ACM มีข้อดีก็คือ มีสปิดที่สูงกว่า และ ทนความร้อนกว่าจึงนิยมนำมาใช้ในสวิทชิ่งเพาเวอร์ซัพพลายภายในของเมนบอร์ดครับ สังเกตได้ว่าเราจะไม่เจอ tl431 ในวงจรภาคจ่ายไฟในปัจจุบันเลยครับ
ผมลองเปิด Datasheet ของ TL431 กับ LM431 มาดูทั้งคู่แล้ว
1. คุณ AD1865 ดูจากค่าไหนจึงบอกว่า LM Speed สูงกว่า TL ครับ
2. เรื่องการทนความร้อน พอดีทั้งคู่ Spec ไว้ 0-70C เหมือนกัน เราคงไม่ได้ใช้ Off-spec ไป 80-100C อยู่แล้ว ผมคิดว่าไม่เป็นประเด็นสำคัญครับ ผมคิดว่าประเด็นสำคัญทางอุณหภูมิ น่าจะเป็นเรื่องสัมประสิทธิ์ทางอุณหภูมิ (temperature coefficient) มากกว่า ซึ่ง LM มีค่า 50ppm แต่ TL เพียงแค่ 30ppm เท่านั้น TL ดีกว่ากันเกือบเท่าตัวนะครับ
รบกวนหลายเรื่องหน่อยนะครับ ความรู้ใหม่ทั้งนั้นเลยครับ ขอบคุณมากๆ ครับ :clap :clap
-
เข้าใจถูกแล้วครับ เรื่องคำนวณผมเองก็ไม่ค่อยมั่นใจครับ แต่ตามค่านั้นคาดว่าตั้งไว้เรโซแนนซ์ที่ความถี่สูงกว่าความถี่เสียงครับ ติดไว้หนึ่งเรื่องครับ จะมาตอบอีกทีภายหลัง แต่ในบทความที่ผมให้มา และ ทำลอ้งค์ไว้ให้มีคำตอบในตัวแล้วนะครับ
TL431 เมื่อนำมาเทียบกับ LM431ACM ผมดูผิดไปจริงๆ ครับ ไปเห็นว่ามัน ทำงานได้ที่ -40 ถึง +85 องศา ดังนั้น ppm มันจะลดลงตามตัวหารที่เพิ่มขึ้นครับ นี่คือแนวคิดของผม และ ตามดาต้าชี้ทที่จำได้ TL431 มี ppm 50 ครับ http://www.fairchildsemi.com/ds/TL/TL431A.pdf
เปิดตำราตอบมาเหมือนกันครับ จำไม่ได้สักอย่างเลย แฮ่ะๆ
-
การเขียน PCB ให้มีการแยกดิจิตอลกราวนด์ และ อนาล็อกกราวนด์ ต้องเขียนมาจาก SCHEMATIC ไฟล์เสียก่อน หลังจากนั้น EXPORT ไฟล์มาเป็น NETLIST ไฟล์ ในตัวของPROTEL เองก็จะมีฟังก์ชั่นกราวนด์ตรงนี้อยู่แล้ว เมื่อเราเขียน SCHEMATIC ไฟล์ขึ้นมา เลือกกราวนด์ที่เราต้องการจากนั้นดับเบิ้ลคลิกก็จะเจอฟังก์ชั่นใช้งานตามรูปครับ เวลา EXPORT ไฟล์ NETLIST มันก็จะแยกกันอัตโนมัติหลังจากที่เรา MANAUL PLACE ครับ ขั้นตอนการทำ NETLIST ขออนุญาตไม่สอนนะครับ อ่านจากหนังสือ หรือ HOW TO ของ PROTEL ได้เลยครับ ที่ทำงานผม (องค์การโทรศัพท์) ใช้งานเป็นกันแทบทั้งหมดแล้ว วุฒิขั้นต่ำ ปวช ผมก็สอนให้หมดเลยครับ เผื่อวันหลัง ออกไปจะได้มีจ๊อบเล็กๆ ทำกัน
ตรงนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยครับ ปกติคนใช้โปรเทลทำเป็นทุคน เขียน Schematic แล้ว Update Program ก็สร้าง Netlist ไห้อยู่แล้ว ทีนี้การสร้าง Netlist มันก็ต้องไม่มีที่ซ้ำกันใช่ไหม และถ้าเรากำหนดสัณลักษ์แตกต่างกันแต่ใช้ชื่อซ้ำกันมันก็จะสร้าง Netlist เดียวกันใช่ไหม ในที่นี้ผมกำหนด Ground เป็น 2 ชื่อคือ AGND กับ DGND Program ก็สร้าง Netlist มา 2 Netlist คือ AGND กับ DGND แล้วในการเท Polygon Plane มันต้องทำ 2 ครั้ง คือของ AGND กับ DGND ที่ผมถามคือจะทำอย่างไงถึงเท Polygon AGND & DGND พร้อมกันแล้วให้มันแยกกันได้โดยที่ไม่ต้องมากำหนดขอบเขตด้วยตัวเอง หรือคุณ AD1865 เข้าใจอะไรผิดไป ดูจากภาพ.....
-
ตอบคุณ Mr.Q ครับ เฟอไรท์บีด ในวงจรดิจิตอลเราจะไม่ลากลายทองแดงแบบนั้นครับ และ อีกอย่างเฟอไรท์บีด ใช้สัญลักษณ์ไม่เหมือนผม ปกติผมจะใช้ เป็น Inductor Iron หรือ อื่นๆ ที่มีแกน แบบที่แนะนำมาวงจรจะไม่เข้าใจ และ ไม่สร้างคอนเน็กชั่นในเชิงของกราวนด์หลังจากที่เทโพลีกอนให้ครับ ลองสังเกตจากแบรนด์เนมดูได้ครับ การใช้กราวนด์อนาล็อกจะเป็นลายเส้น และ ไปรวมกันที่จุดเพาเวอร์ซัพพลาย โดยที่ไม่พึ่งกราวนด์ของโพลีกอนเลย ส่วนกราวนด์ดิจิตอลจะลงบนโพลีกอน เป็นชีลด์ในตัวเอง ต้องไม่ลืมว่าการเช็คออโต้คอนเน็คชั่นของไลน์แต่ละเส้นต้องทำทุกครั้งด้วยนะครับ
-
สำหรับผู้ที่ชอบคิดนอกกรอบของสินค้าท้องตลาด เร็วๆ นี้อาจจะมี PCB ของ DAC รุ่นนี้ในเวอร์ชั่นของผมมาให้ดูละกัน ที่คิดไว้ก็จะมี เฟสล็อกลูป รีคล็อก และ ไฮพรีซิสชั่น เรกกูเเตอร์ ส่วนเอาต์พุตหลอดก็จะเป็นตระกูล 5687 SRPP ครับ วงจรบางส่วนหยิบยืมมาจาก schematic และ ดาต้าชี้ท ของ DAC ตัวที่นำมาลงรูปให้ดูครับ ตัวนี้เป็น ad1865n-k ขนานกัน 2 ตัวต่อข้างทำงานเป็น Iout+ และ Iout- ชุดจ่ายไฟภายในอลังการกว่าที่ตามองเห็นครับ
-
คุณ AD1865 ครับ ขอความกรุณาให้ตอบคำถามให้ตรงประเด็นหน่อยครับ อย่าตอบแบบเอามะพร้าวมาขายสวนเลยครับ มันไม่มีผลดีกับตัวคุณเอง ถ้าคุณทำได้ดีก็อยากให้คุณทำเป็นตัวอย่างให้เพื่อนสมาชืกดูกันเพื่อเป็นวิทยาทานไงครับ
-
ถามเรื่อง shunt reg ตรง tl431 ผมเห็นมี R 1K + C 22uF วิ่งจาก B+ ไปขา adj มัันมีวิธีคิดยังไงครับ ผมเคยเล่น tl431 มาพักนึก ผมว่า C bypass ตัวนี้ก็สำคัญ แต่ไม่เคยใช้ RC แบบตำแหน่งนี้มาก่อน
อ้อ ตรงไฟลบ tl431 น่าจะเขียนวงจรผิดนะครับ กลับหัวกลับหางกัน
ผมก็ Copy Idae มาจาก คุณ Withaya ครับ วงจรที่มี R+C เรียกว่า fully-bypassed มันจะครอบคุม bandwidth noise ได้กว้าง ตรงไฟลบ tl431 กลับหัวจิรง ๆ ครับ ขอบคุณครับ
-
ผมตอบตรงตามคำถามที่ถามนะครับ จะให้แนะนำการแก้งานจากงานที่เสียก็ต้องชี้จุดด้อยให้เห็น อย่างที่ว่าล่ะครับ คุณ Mr.Q ก็เหมือนกับรายที่ผมกล่าวถึงไว้นั่นล่ะครับ ผมไม่ได้แนะนำในสิ่งที่รู้อยู่แล้ว แต่ผมให้อ่านตามที่ผมแนะนำ ถ้าอย่างนั้นอย่าถามผมเพราะกลัวว่าจะเสียหน้าเวลาผมตอบ คุณต้องลองทำงานกับคนหมู่มากดูครับ ทำงานกับคนร้อยคน กับทำงานกับคน 2-3 คนมันต่างกันนะ คำพูดที่ใช้ก็จะต่างกันด้วย คำพูดของผมไม่ทำร้ายผมหรอก ผมแนะนำแต่สิ่งดีๆ ผมบอกแล้วไงว่าผมจะรอดู ถ้าดีกว่าผม ผมก็จะไม่แนะนำของผม แต่ดูคร่าวๆ แล้ว ใกล้เคียงกันมากๆ เลยครับ บตัวอย่างที่ผมแนะนำมาให้ดู ผมดูจากงานดีไซน์ปรีแอมป์หลอดของคุณ Mr.Q แล้ว ชอบมากเลยครับ สงสัยจะออกแบบยากน่าดู งานออกมาเลยสวยจริงๆ งาน D/A ก็ออกแบบได้ไม่แพ้กัน เอาใจช่วยครับ ขอให้เสร็จไวๆ นะครับ
-
ข้อแนะนำในการทำโพลีกอนเพลนของกราวนด์ อันดับแรกหลังจากที่เรา auto place หรือ manual place ให้สังเกตการเชื่อมต่อของลายทองแดง โดยการเข้าที่คำสั่ง edit > select > connected copper ลายเส้นทองแดง ก็จะได้รูปการเชื่อมต่อของลายทองแดงซึ่งจะเป็นแบบ pad to pad ดังนั้นเมื่อเราใช้การเชื่อมต่อกราวนด์ด้วย เฟอไรท์บีด เราก็จะเห็นว่าลายเส้นทองแดงของกราวนด์ไม่เชื่อมต่อถึงกัน ทีนี้ล่ะเราก็จะรู้ว่าการเทโพลีกอนควรจะไปในทิศทางใด เพราะเหมือนมีเส้นตีกรอบไว้แล้ว การที่เราเทโพลีกอนทั้งแผ่นนั้น เป็นเรื่องดีครับ เพราะง่ายดี แต่ปัญหาที่มีก็คือ กราวนด์อนาล็อกจะไม่สามารถบ่งบอกอิมพีแดนซ์ของตัวเองได้เนื่องจากมีลักษณะเป็นแผ่นหนา เราต้องใช้เส้นลายทองแดงที่ไม่ใหญ่มาก ลากไปสตาร์กราวนด์ที่จุดภาคจ่ายไฟ ส่วนของกราวนด์ดิจิตอลนั้นต่อเข้ากับกราวนด์เพลน ซึ่งเป็นโพลีกอนได้เลย และ ที่สำคัญเทโพลีกอนด้านเดียวกัพอครับ ภาคหลอดยิ่งสำคัญมากขึ้นไปอีก ไม่จำเป็นต้องใช้โพลีกอนเพลนเลยครับ ลองคิดง่ายๆ ดูว่า เวลาเราฮาร์ดไวร์ poini to point เราเคยมีกราวนด์เพลนมั้ยครับ ไม่มีใช่มั้ย ก็ด้วยเหตุผลเดียวกัน จึงไม่เหมะที่จะมีกราวนด์เพลนที่วงจรหลอดเลย ลองหาข้อมูล PCB ของ เครื่องเสียงยี่ห้อตามนี้ได้เลยครับ AUDIO RESEARCH, MUSICAL FIDELITY, CARY, UNISON RESEARCH เราจะไม่เห็นเลยว่าเขาใช้กราวนด์เพลนในภาคหลอด หากเหตุผลที่ผมให้มานี้ ผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ผมถือว่าการติเพื่อก่อ เป็นเรื่องดีครับ
-
ผมอาจจะใหม่ในที่นี้ แต่ก็อยากเสนอความคิดเห็นหน่อย คับ ไม่มีสิ่งของใดดีที่สุดคับ เพราะสิ่งที่ดีหรือไม่ดี
เป็นเพียงความรู้สึกครับใช้กับสิ่งของไม่ได้ ถ้าไม่พอใจต่อให้ดีที่สุดในโลกก็ไม่ยังยื่น ต้องมีการ up grade
เปลี่ยนอยู่เรื่อยไป ผมเข้าใจว่าทั้ง 2 ท่านมีความเสียสละเวลาเพื่อส่วนร่วม ซึ่งมันก็ดีมากๆแล้วคับ เป็นวิทยาทาน
แก่คนไม่รู้อย่างผมไม่ให้ตกเป็นเหยื่อทางการค้าจนเกินควร การคิดนอกกรอบผมก็เห็นด้วย ไม่งั้นเราอาจ
ใด้ซื้อ chip cs8414 , tda1541 แพงจนเกินความจำเป็น ทั้งที่ยังมี chip ที่มีหน้าที่เดียวกันนี้อีกมากมายในท้องตลาด เห็นใน web kapong ก็มีหลายตัว
อาจจะดีกว่าด้อยกว่าก็ว่ากันไป งั้นเราจะ WWW. กันทำมัยละคับ ใน
ท้องตลาด PCB ยังมีหลาย VER เลยคับ โดยใช้ chip ตัวเดียวกัน รึว่าเราจะออกสอง ver เลยดีมั้ยครับ
เพื่อความหลากหลายทางพันธุกรรม เอ้ย ! ม่ายช่ายอย่างน้าน จะไปกันใหญ่แล้วครับ ขอสนับสุนนให้งานเดินต่อคับ ผิดถูกประการใดขออภัยด้วยคร้าบ :) :)
-
ข้อแนะนำในการทำโพลีกอนเพลนของกราวนด์ อันดับแรกหลังจากที่เรา auto place หรือ manual place ให้สังเกตการเชื่อมต่อของลายทองแดง โดยการเข้าที่คำสั่ง edit > select > connected copper ลายเส้นทองแดง ก็จะได้รูปการเชื่อมต่อของลายทองแดงซึ่งจะเป็นแบบ pad to pad ดังนั้นเมื่อเราใช้การเชื่อมต่อกราวนด์ด้วย เฟอไรท์บีด เราก็จะเห็นว่าลายเส้นทองแดงของกราวนด์ไม่เชื่อมต่อถึงกัน ทีนี้ล่ะเราก็จะรู้ว่าการเทโพลีกอนควรจะไปในทิศทางใด เพราะเหมือนมีเส้นตีกรอบไว้แล้ว การที่เราเทโพลีกอนทั้งแผ่นนั้น เป็นเรื่องดีครับ เพราะง่ายดี แต่ปัญหาที่มีก็คือ กราวนด์อนาล็อกจะไม่สามารถบ่งบอกอิมพีแดนซ์ของตัวเองได้เนื่องจากมีลักษณะเป็นแผ่นหนา เราต้องใช้เส้นลายทองแดงที่ไม่ใหญ่มาก ลากไปสตาร์กราวนด์ที่จุดภาคจ่ายไฟ ส่วนของกราวนด์ดิจิตอลนั้นต่อเข้ากับกราวนด์เพลน ซึ่งเป็นโพลีกอนได้เลย และ ที่สำคัญเทโพลีกอนด้านเดียวกัพอครับ ภาคหลอดยิ่งสำคัญมากขึ้นไปอีก ไม่จำเป็นต้องใช้โพลีกอนเพลนเลยครับ ลองคิดง่ายๆ ดูว่า เวลาเราฮาร์ดไวร์ poini to point เราเคยมีกราวนด์เพลนมั้ยครับ ไม่มีใช่มั้ย ก็ด้วยเหตุผลเดียวกัน จึงไม่เหมะที่จะมีกราวนด์เพลนที่วงจรหลอดเลย ลองหาข้อมูล PCB ของ เครื่องเสียงยี่ห้อตามนี้ได้เลยครับ AUDIO RESEARCH, MUSICAL FIDELITY, CARY, UNISON RESEARCH เราจะไม่เห็นเลยว่าเขาใช้กราวนด์เพลนในภาคหลอด หากเหตุผลที่ผมให้มานี้ ผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ผมถือว่าการติเพื่อก่อ เป็นเรื่องดีครับ
ผมไม่อยากตอบเลย คุณ AD1865 ลองกลับไปอ่านหน้า 4 ที่ผมโพสท์อธิบายไว้ว่าผมทำ Gruond Plane ไว้ด้านบนแล้วเชื่อมจุด Ground Plane กับ Ground หลักที่อยู่ด้านล่างเพียงจุดเดียว ฉะนั้น Ground Plane ก็เป็นเสมือนการชิลด์เท่านั้นไม่ได้เป็น Ground หลักแบบทั้งแผ่น ส่วนด้านล่างผมทำ Ground แบบ Starburst ที่คุณอธิบายมาทราบมานานแล้วครับ
-
อธิบายเพิ่มเติมจากรูปนี้อีกครั้งหนึ่งครับ โพลีกอนเพลนของกราวนด์ดิจิตอล และ อนาล็อกวิ่งอยู่เต็มหน้า PCB นี่ก็ถือว่าผิดถนัด เราต้องการชีลด์เพียงระบบดิจิตอล อนาล็อกเราไม่ต้องการ เพราะการสตาร์กราวนด์ของอนาล็อกด้านล่างดีเพียงพอแล้ว ทำมากเกินกว่านี้ กลับยิ่งจะส่งผลเสียให้กราวนด์ลูปในวงจรเสียอีก อีกอย่างครับ พัลส์ทรานวฟอร์มเมอร์ ต้องเขียนกราวนด์ให้ไอโซเลต ใต้ตัวมันด้วยครับ อย่าเขียนให้เต็มพื้นที่ด้านล่างยิ่งภาคหลอดแนะนำได้เลยว่าหากเป็นงาน DIY ก็ถือว่าหยวนๆ กันไป แต่ถ้าเป็นงาน commercial การเทโพลีกอนเพลนแบบนี้ สอบไม่ผ่านครับ ไม่ผ่านมาตรฐานการดีไวน์ ไฮโวลเตจครับ
หากคุณ Mr.Q ว่างสักหน่อย ให้ไปดูสินค้า commercial บ้างนะครับ จะเจอทุกคำแนะนำดีๆ ที่ผมบอกไว้ รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม
-
อธิบายเพิ่มเติมจากรูปนี้อีกครั้งหนึ่งครับ โพลีกอนเพลนของกราวนด์ดิจิตอล และ อนาล็อกวิ่งอยู่เต็มหน้า PCB นี่ก็ถือว่าผิดถนัด เราต้องการชีลด์เพียงระบบดิจิตอล อนาล็อกเราไม่ต้องการ เพราะการสตาร์กราวนด์ของอนาล็อกด้านล่างดีเพียงพอแล้ว ทำมากเกินกว่านี้ กลับยิ่งจะส่งผลเสียให้กราวนด์ลูปในวงจรเสียอีก อีกอย่างครับ พัลส์ทรานวฟอร์มเมอร์ ต้องเขียนกราวนด์ให้ไอโซเลต ใต้ตัวมันด้วยครับ อย่าเขียนให้เต็มพื้นที่ด้านล่างยิ่งภาคหลอดแนะนำได้เลยว่าหากเป็นงาน DIY ก็ถือว่าหยวนๆ กันไป แต่ถ้าเป็นงาน commercial การเทโพลีกอนเพลนแบบนี้ สอบไม่ผ่านครับ ไม่ผ่านมาตรฐานการดีไวน์ ไฮโวลเตจครับ
หากคุณ Mr.Q ว่างสักหน่อย ให้ไปดูสินค้า commercial บ้างนะครับ จะเจอทุกคำแนะนำดีๆ ที่ผมบอกไว้ รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม
คุณ AD1865 คงไม่เข้าใจคำว่าลูป จริง ๆ ผมจะไม่ทำ Ground Plane ก็ได้หรือจะเฉพราะบางจุดก็ได้แต่จากประสบการที่เห็นจากแผ่น PCB ของงานทุกระดับ AF RF Power มันอยู่ที่สไตล์การออกแบของแต่ละคนหรือผู้ผลิตมากกว่า การที่ผมจะเท Ground Plane ไว้ด้านบนเพราะว่าผมเคยทำมาแล้วให้ผลดีด้วยช่วงใหนที่มีแรงดันสูงผมก็จะเว้นระยะห่างไว้มาก ๆ 60 มิลขึ้นไป อีกอย่างวงจรนี้ใช้ไฟแค่ 160 โวลด์เอง อย่าว่าแต่เครื่องเสียง Commercial เลยครับคุณ AD1865 ผมเจอ PCB ทุกงาน ปีหนึ่ง ๆ ไม่ต่ำกว่า 300แผ่น ผ่านสายตาผมทุกวัน ผมว่าคุณ AD1865 ควรจะออกแบบ AD1865 DAC แล้วเอามาลองเทียบกับของคนอื่นดู หรือไม่ก็ออกแบบตามที่คุณ AD1865 ตามที่คุณสาธยายไว้แล้วเอามาทำ Gruop buy ก็ได้นะครับ
-
เป็นคำตอบสุดท้าย...ถูกต้องนะครับ c)
ทิฐิเป็นสิ่งที่แก้ยากที่สุด รอชมที่ผมไกด์ไลน์ละกันว่าที่ถูกต้อง ถูกใจจะต้องเป็นแนวไหน ถ้าผมทำออกมาไม่ดี นั่นก็คือสิ่งที่จะฆ่าตัวผมเอง
-
เป็นคำตอบสุดท้าย...ถูกต้องนะครับ c)
ทิฐิเป็นสิ่งที่แก้ยากที่สุด รอชมที่ผมไกด์ไลน์ละกันว่าที่ถูกต้อง ถูกใจจะต้องเป็นแนวไหน ถ้าผมทำออกมาไม่ดี นั่นก็คือสิ่งที่จะฆ่าตัวผมเอง
การโต้แย้งทางด้านความคิดเป็นเรื่องธรรมดาครับ ขออย่างเดียว อย่าเพิ่ง Guard against คือต้องเปิดใจให้กว้างเข้าไว้ครับ ไม่อย่างนั้นทุกวันนี้มนุษเราคงไม่บินไปได้ถึงในอวกาศหรอกครับ เอาอย่างนี้มั้ยละครับ ให้ทั้งสองท่านทำ pcb มาลงอุปกรณ์ให้เรียบร้อยแล้วนัด mini meeting กันที่มุมสบาย ลองมาฟังเสียงกันดูแล้ว discuss แลกเปลี่ยนความรู้กัน อย่างนี้น่าจะเป็นทางเลือกหนึ่งนะครับผมว่า เป็นความคิดเห็นส่วนตัวผิดถูกก็ขออภัยทั้งสองท่านด้วยครับ Y] Y] Y] ยังไงก็ยังรอ group buy อยู่นะค้าบบบบ ;D
-
ผมขอร้องทั้ง 2 ท่าน ครับ บอร์ดนี้ เป็นบอร์ดที่มีวัตถุปะสงค์ที่จะแบ่งปันความรู้ และประสบการณ์ ให้กับสมาชิกทั่ว ๆ ไป การที่ทุกท่านเข้ามาร่วมแบ่งปันความรู้เป็นสิ่งที่ดี การแสดงออกทางความรู้ความสามารถ น่าจะเป็นการใช้เหตุ ใช้ผล ใช้หลักการ ที่อ้างอิงได้มาแนะนำ จะเป็นประโยชน์มากกว่าการใช้คำพูดประเภท กระแนะกระแหน ยกตนข่มท่าน ซึ่งไม่เห็นจะเกิดประโยชน์อันใดแก่สมาชิก โครงการนี้หากสำเร็จลงได้ สมาชิกจำนวนมาก หรือแม้กระทั่งผู้ที่มีโอกาสได้ทำ ก็จะได้รับประโยชน์ทั้งสิ้น ผมเองก็ขอขอบคุณผู้ที่แสดงความคิดเห็นอย่างจริงใจ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาด้วยเช่นกัน
-
คุณ AD1865 ครับ รบกวนอีกรอบครับ ที่ถามไปวันก่อน ยังมีคำถามที่รอคำตอบอยู่ครับ
ผม quote ประเด็นมาจากในคำถามอันยืดยาวให้เห็นเป็นคำถามนะครับ
1. ผมเข้าใจว่า กราวด์ Analog กับกราวด์ Digital จะไม่ต่อถึงกันที่ความถี่ Resonance นั้น ถูกไม๊ครับ?
2. ที่จะถามคือจะคำนวณค่าความถี่ Resonance ได้เท่าไหร่ครับ?
3. แล้วมันมีประโยชน์ยังไงเมื่อไม่มีการเชื่อมโยงกราวด์ถึงกันเฉพาะที่ความถี่ Resonance และ Overtone ของมันครับ ความถี่อื่นๆ ก็ยังเชื่อมกันอยู่ดี ตรงนี้ไม่เข้าใจครับ รบกวนอธิบายในรายละเอียดอีกรอบนะครับ
จาก Post เดียวกันแต่เป็นเรื่อง TL431 กับ LM431 นะครับ
1. คุณ AD1865 ดูจากค่าไหนจึงบอกว่า LM Speed สูงกว่า TL ครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
-
หนู (รอลองยา) ตามเชียร์ทุกท่านเลย
-
ว่ากันด้วยเรื่อง ทฤษฎี ทางวิทยาศาสตร์ หักล้างกันที่เหตุผลครับ แต่บางที ทฤษฎี ที่เชื่อๆกันมานาน ก็เปลี่ยนได้นะครับ จริงๆผมว่า กระทู้นี้ได้ความรู้ครับ อ่านทุกวัน ผมไม่มี ความรู้มา Comment หรอกนะครับ แต่ถ้าเพื่อนสมาชิกทั้งสองท่าน พอมีเวลาลองออก แบบ PCB ตาม ทฤษฎี ของแต่ละท่าน แล้วใช้ Socket ให้เปลี่ยน Chip ได้ แล้วลองให้สมาชิก ไปลองทำฟังกัน ก็น่าจะมีประโยชน์ นะครับ หลายๆท่าน ก็คงรออยู เนื่องจาก ออก แบบ Protel กันไม่เป็นครับ เพราะมันไม่แน่ว่าออกแบบตามทฤษฎี เป๊ะๆ แล้ว หูเราจะชอบครับ ผมว่าบางที ฝรั่งมันก็บอกเราไม่หมดครับ หลายๆอย่างยังต้องอาศัย ประสพการณ์ส่วนตัวอยู่ดีครับ
ขอบคุณ Mr.Q และ คุณ AD1865 ล่วงหน้าครับ
แฮะ ๆๆๆ รอ Group Buy เหมือนกัน ;D ;D ;D
-
ตอบพี่ Mr.Tube นะครับ
1.ถูกต้องครับ แต่ที่ไม่ต่อถึงกันคือความถี่สูงที่รบกวนมากับกราวนด์ครับ ทางด้านดีซี ถึงกันอยู่ตลอดครับ เทคนิคนี้ใช้กับเพาเวอร์ซัพพลายสวิทชิ่งด้วยครับ
2.ยังหาสูตรไม่ได้เลย ติดค้างอีกที ขออภัยด้วยครับ
3.ตอบให้แล้วนะครับ ในข้อ 1ที่จริงแล้ว ใน article ที่ผมลงลิ้งค์ไว้ให้มีคำตอบอยู่แล้วนะครับ ต้องพิมพ์ออกมาอ่านครับ อย่าเปิดผ่านคอม มันจะไม่เจอจุดสนใจที่เราต้องการ
lm กับ tl ผมตอบไว้แล้วนะครับ ต้องย้อนกลับไปอ่านดูครับ เรียนถาม Mr.Tube ครับ ไม่ทราบว่าบอร์ด AD1865 ยังคงเก็บไว้หรือเปล่าครับ รู้สึกจะทำไว้นานแล้ว
หลายๆ ความเห็นที่แนะนำมา ผมว่าเป็นเรื่องที่ดีครับ การถกหาประโยชน์สูงสุดนั้นเป็นเรื่องดี แต่การเอาชนะ คะคาน นั้นผมเห็นว่าเป็นเรื่องไร้สาระครับ
-
3.ตอบให้แล้วนะครับ ในข้อ 1ที่จริงแล้ว ใน article ที่ผมลงลิ้งค์ไว้ให้มีคำตอบอยู่แล้วนะครับ ต้องพิมพ์ออกมาอ่านครับ อย่าเปิดผ่านคอม มันจะไม่เจอจุดสนใจที่เราต้องการ
บทความที่แนะนำมา ผม Print ไปอ่านที่บ้านเมื่อวานนี้ทั้งหมดแล้วครับ ในบทความเป็นข้อแนะนำในการออกแบบ แต่ที่ผมถามคือ --แล้วมันมีประโยชน์ยังไงเมื่อไม่มีการเชื่อมโยงกราวด์ถึงกันเฉพาะที่ความถี่ Resonance และ Overtone ของมันครับ ความถี่อื่นๆ ก็ยังเชื่อมกันอยู่ดี-- ผมอยากทราบคำอธิบายของคุณ AD1865 ครับ
lm กับ tl ผมตอบไว้แล้วนะครับ ต้องย้อนกลับไปอ่านดูครับ เรียนถาม Mr.Tube ครับ
ผมอ่านแล้วก่อนถามซ้ำครับ คุณ AD1865 ตอบในประเด็นความร้อนแล้ว ว่าเป็นการเข้าใจผิด แต่เรื่อง Speed ที่กล่าวอ้างมา ยังไม่ได้พูดถึงกันเลยครับ
ไม่ทราบว่าบอร์ด AD1865 ยังคงเก็บไว้หรือเปล่าครับ รู้สึกจะทำไว้นานแล้ว
ตัวที่ถ่ายรูปลง YB2002 ยังเก็บไว้เป็นที่ระลึกอยู่ครับ เอ.. แบบนี้แสดงว่าผมเคยรู้จักกับคุณ AD1865 เป็นการส่วนตัวมาก่อนหรือครับ DAC ตัวนั้นผมไม่ได้เอาออกจากบ้านตั้งแต่ SOD#2 ก็ 8-9 ปีแล้วนะครับ :)
-
-การเชื่อมโยงของกราวนด์ ยังคงมีอยู่ตลอดเวลาครับ ไม่สามารถยกเลิกได้ การอธิบายเรื่อง digital noise คงต้องตามลิ้งค์นี้นะครับ http://ccrma.stanford.edu/courses/192a/Digital_Recorders.pdf มีผลต่อเรื่องของเสียงด้วย
-PPM อ้างอิงถึงอุณหภูมิ 85 องศาครับ แค่นั้นก็คำนวณได้แล้วจากตัวหารที่เพิ่มขึ้น ค่าสปีดก็จะเพิ่มขึ้นด้วย แต่หน่วยลดลง
-อ่านใน YB นั่นล่ะครับ ถ้าเดินบ้านหม้อแถวๆ ร้าน first ก็น่าจะเจอผมบ้างครับ ผมเข้าเดือนละครั้ง ผมไม่แน่ใจครับว่าใครคือ Mr.Tube
-
ผมมีมุมมองในการเรกกูเลชั่นที่ต่างมุมออกไปนิดนึงนะครับ ก็คือการใช้ การใช้ TL431 อีกหนึ่งซีรี่ย์มาแทนที่ TL431 แบบเดิมๆ ก็คือ LM431ACM อันนี้เอาของนอกมา รูปอาจจะไม่ชัดนะครับ แต่พอจะดูรู้เรื่อง และ เรื่องการไอโซเลตน้อยส์กราวนด์ที่ความถี่สูงด้วย ตัวต้านทาน 10 โอห์ม ขนานกับ Inductor ก็เป็นเรื่องการแยกน้อยส์ออกจากกราวนด์แทนที่การเฟอไรท์บีดด้วยครับ
ผมพิมพ์ตรงนี้ผิดไปอย่างมหันต์ ต้องขออภัยผู้อ่านทุกท่านด้วยครับ ตกคำว่า "น้อยส์" ไปทุกกระเบียดเลย
มิน่า Mr.Tube ถึงบอกว่าผมยังไม่ตอบสักที :P
-
วงจรนี้ก็เป็นต้นแบบแต่ผมไม่ได้ใส่ R 10 Ohm เท่านั้นเอง ผมไม่ได้คิดจะทะเลาะกับคุณ AD1856 เลยครับ เพียงแต่ว่าผมไม่ยังมองไม่เห็นแนวความคิดที่มีความหมายชัดเจนเท่าไร วงจรนี้คนเขียนเขาเขียนมาหลายแบบผมว่าเพื่อนสมาชิกหลายท่านคงเห็นแล้ว แล้วเขายังแจกลาย PCB ด้วยครับ
-
ยังมีอีกครับ
-
การถกประเด็นกันไม่ถือว่าเป็นการทะเลาะหรอกครับ ว่าแต่ว่า ไปเจอกันข้างนอกสภาดีกว่ามั้ยครับ :black_eye
PCB ตัวนั้นเห็นแล้วบอกได้เลยว่า ใช้พื้นที่ได้เปลืองดีจริงๆ เขาถึงให้ดาวน์โหลดน่ะครับ ตัวเขาที่คิดจะทำออกมาจำหน่ายคงไม่กล้าออกแบบ แบบนั้นแน่ๆ ฟันธง...แต่ตัวที่ผมลงนี้ ออกแบบมาน่ารักจริงๆ ครับ
-
ใจเย็นๆกันซักนิดนะครับพี่ๆครับ :headphone d_d :drunk
-
เป็นคำตอบสุดท้าย...ถูกต้องนะครับ c)
ทิฐิเป็นสิ่งที่แก้ยากที่สุด รอชมที่ผมไกด์ไลน์ละกันว่าที่ถูกต้อง ถูกใจจะต้องเป็นแนวไหน ถ้าผมทำออกมาไม่ดี นั่นก็คือสิ่งที่จะฆ่าตัวผมเอง
การโต้แย้งทางด้านความคิดเป็นเรื่องธรรมดาครับ ขออย่างเดียว อย่าเพิ่ง Guard against คือต้องเปิดใจให้กว้างเข้าไว้ครับ ไม่อย่างนั้นทุกวันนี้มนุษเราคงไม่บินไปได้ถึงในอวกาศหรอกครับ เอาอย่างนี้มั้ยละครับ ให้ทั้งสองท่านทำ pcb มาลงอุปกรณ์ให้เรียบร้อยแล้วนัด mini meeting กันที่มุมสบาย ลองมาฟังเสียงกันดูแล้ว discuss แลกเปลี่ยนความรู้กัน อย่างนี้น่าจะเป็นทางเลือกหนึ่งนะครับผมว่า เป็นความคิดเห็นส่วนตัวผิดถูกก็ขออภัยทั้งสองท่านด้วยครับ Y] Y] Y] ยังไงก็ยังรอ group buy อยู่นะค้าบบบบ ;D
หยุดฟังเพลง(ด้วยแด็คฯ หรือซีดีตัวเดิม)แล้วคลายอารมย์ พักเบรคกันนึดนึงไหมครับ
ท่านใดก็ได้ ขอเชิญเป็นโต้โผในการกรุ๊ปบายด้วยครับ
หัวใจของโปรเจ็คนี้ คือชิบ เคเกรด ก็เท่านั้นเอง ขอให้มีชิบอยู่ในมือ อะไรมันก็เกิดได้ไม่ยากครับ
....ข้าพเจ้าขอร่วมด้วย ๒ ตัวครับสำหรับ AD1865 N-K
ขอบคุณครับ
-
การไอโซเลตกราวนด์แบบนั้นมีข้อดีก็คือ ในขณะที่ความถี่สูงวิ่งผ่านมันจะเป็นตัวต้านทานยิ่งยวดด้วยลักษณะการทำงานแบบเรฌวแนนซ์นะครับ ไม่ได้ทำงานเพียงแต่ลวดอย่าวเดียว แต่ในขณะเดียวกันจะยอมให้การไหลของกระแสผ่านตัวต้านทานไปได้ ส่วนค่าของตัวต้านทานนั้น ป้องกันกราวนด์ลูปครับ
ตัวต้านทานแบบยิ่งยวดหมายถึงมีความต้านทานเป็นอนันต์ ความหมายเหมือนกับ ตัวนำยิ่งยวด ที่มีความต้านทานเป็น 0 แบบนั้นรึเปล่าครับ ถ้าเป็นอย่างที่คุณ AD1865 ว่าไว้ ผมเข้าใจว่า กราวด์ Analog กับกราวด์ Digital จะไม่ต่อถึงกันที่ความถี่ Resonance นั้น ถูกไม๊ครับ เพราะชุด RL ทำตัวเป็นตัวต้านทานยิ่งยวด ในรูปที่อ้างอิงมาใช้ค่า R 10 Ohm และ L 10uH ตัวมันเล็กผมเลยไม่ค่อยแน่ใจน่ะครับ ที่จะถามคือจะคำนวณค่าความถี่ Resonance ได้เท่าไหร่ครับ แล้วมันมีประโยชน์ยังไงเมื่อไม่มีการเชื่อมโยงกราวด์ถึงกันเฉพาะที่ความถี่ Resonance และ Overtone ของมันครับ ความถี่อื่นๆ ก็ยังเชื่อมกันอยู่ดี ตรงนี้ไม่เข้าใจครับ รบกวนอธิบายในรายละเอียดอีกรอบนะครับ
เข้าใจถูกแล้วครับ เรื่องคำนวณผมเองก็ไม่ค่อยมั่นใจครับ แต่ตามค่านั้นคาดว่าตั้งไว้เรโซแนนซ์ที่ความถี่สูงกว่าความถี่เสียงครับ ติดไว้หนึ่งเรื่องครับ จะมาตอบอีกทีภายหลัง แต่ในบทความที่ผมให้มา และ ทำลอ้งค์ไว้ให้มีคำตอบในตัวแล้วนะครับ
แหม.. ผมพาลงเหวคุณ AD1865 ก็โดดตามลงมาด้วยเลยนะครับ นึกว่าจะช่วยฉุดผมขึ้นไปหน่อย ;D ที่ผม Post ไปข้างต้นเรื่องตัวต้านทานยิ่งยวดนี่ ผมมั่วน่ะครับ เอาทฤษฎีไหนมารองรับครับ ตัวต้านทานยิ่งยวด (Super Resistor) เนี่ย วงจรลักษณะนี้เป็น Resonator ไม่ได้หรอกครับ OK ครับมันมีคาบของมัน แต่ไม่ใช่ Resonator แน่นอนครับ
อย่างไรก็ตาม ถึงจะเปลี่ยนเป็นวงจร Resonator จริงๆ มันก็เป็นการสร้าง Impedance ระหว่างกราวด์ขึ้นโดยไม่จำเป็นครับ ไม่ว่าจะเป็นช่วงๆ ความถี่อย่างที่ผมมั่วไว้หรือ Isolate ที่ความถี่สูงอย่างที่คุณ AD1865 อธิบายไว้ก็ตาม ผมก็เห็นว่าเป็นโทษมากกว่าเป็นประโยชน์ครับ อ้างอิงกับวงจรที่คุณ AD1865 ยกตัวอย่างมา โดยแยก AGND กับ DGND ตามรูป ดูแล้วตรงกับแนวทางการออกแบบที่บทความของ Analog Devices และหลายๆ บทความแนะนำไว้ แต่ผมเห็นว่าเป็นวงจรที่บกพร่องครับ
CS8412/8414 ระบุ AGND กับ DGND เอาไว้ก็จริง แต่ 8412/14 ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ Analog Output จาก DAC เลยครับ และไม่ได้ทำงานในย่าน Audio ด้วย Analog Circuit ของ 8412/14 คือวงจร Phase Lock Loop (PLL) ครับ ซึ่งใช้สำหรับการ Lock สัญญาณ Input ที่เข้ามาและ Detect ว่า Sampling Rate เป็นเท่าไหร่ วงจร PLL นี้จึงทำงานที่ความถี่หลัก MHz ไม่ได้ทำงานที่ความถี่ Audio ครับ จุดประสงค์หลักที่มี AGND อยู่ตรงขา 21 นั้น เพื่อการต่อ PLL Filter และการ Decoupling เฉพาะวงจร PLL ครับ ทำให้ Return Path ของ Filter กับ Decoupling มี Imp น้อยที่สุด จะได้กระทบกับความถูกต้องของ PLL น้อยที่สุดครับ
ประเด็นต่อมาคือ Clock ที่ Recover มาจาก PLL ถูกนำไปเป็น Base Clock ของ IC ด้วย เพราะฉะนั้นระหว่าง AGND กับ DGND ควรจะมี Imp ต่ำที่สุดที่เป็นไปได้ครับ ถ้าระหว่าง AGND กับ DGND มีค่า Imp สูง จะมีผลกระทบกับการรับรู้การเปลี่ยน Logic 0-1 ของ Clock ที่ Supply จาก PLL ไปฝั่ง Digital ผลก็คือ Jitter ครับ ในวงจรตัวอย่างของคุณ AD1865 เชื่อม AGND กับ DGND ด้วย Network เป็นการสร้าง Imp ระหว่าง AGND กับ DGND ของ 8412/14 โดยไม่จำเป็นครับ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงกรณีที่คุณ AD1865 อ้างว่า Isolate High Freq ของ 2 Gnd ครับ เพราะถ้า Isolate จริง แล้ว Clock ที่ส่งจาก PLL ไป Digital จะ Return กลับฝั่งของตัวเองยังไงครับ ถ้าไม่มี Clock 8412/14 ยังจะทำงานได้หรือครับ
-PPM อ้างอิงถึงอุณหภูมิ 85 องศาครับ แค่นั้นก็คำนวณได้แล้วจากตัวหารที่เพิ่มขึ้น ค่าสปีดก็จะเพิ่มขึ้นด้วย แต่หน่วยลดลง
เรื่อง TL431 กับ LM431 ผมนึกว่าผมดูอะไรๆ ใน Datasheet พลาดไป พอถามๆ ไปกลายเป็นว่าคุณ AD1865 เข้าใจผิดทั้งเรื่อง Speed และ Temperature นะครับ ค่า Temperature Coefficient บ้านเราเรียกสัมประสิทธิ์ทางอุณหภูมิ บอกถึงเสถียรภาพการทำงานของ IC ต่ออุณหภูมิครับ TL/LM431 เป็น Voltage Reference IC เพราะฉะนั้นเสถียรภาพที่ว่านี้ย่อมต้องหมายถึงแรงดันครับไม่ใช่ Speed และค่า Temp Coef นี้มักจะบอกเป็น Temperature Range (กรณี TL431 บอกเป็น Full Range เลย) หมายความว่าตลอดช่วงที่ใช้งานได้ของ IC 0-70C จะมีค่า Coef 30 PPM () ครับ ไม่ได้จำเพาะเจาะจงที่อุณหภูมิใดๆ ที่คุณ AD1865 เอา 30 ตั้งแล้วหาร ด้วย 85 แล้วก็บอกว่าตัวหารเยอะก็คือ Speed ดีกว่านั่นไม่ถูกต้องนะครับ คนละเรื่องกันเลย ถ้าจะคุยเรื่อง Speed ก็ต้องไปดูเรื่อง Freq Response หรือ Slew Rate หรืออะไรที่เกี่ยวข้องกับหน่วยเวลานะครับ นึกขึ้นได้เผื่อคุณ AD1865 เข้าใจ PPM ผิด ค่า PPM = Part Per Million หรือ 1 ส่วนในล้านส่วน ครับ
เรื่อง AGND/DGND นี่ ผมคิดว่าเราต้องมองวัตถุประสงค์ก่อนว่า ทำไมต้องแยก? และทำไมต้องร่วม? กรณีวงจร DAC ผมคิดว่าจุดประสงค์ของการแยกคือป้องกัน Digital Noise ที่เกิดจากเปลี่ยน Logic ในชุด Digital เข้ามารบกวนระดับแรงดัน Gnd ในวงจร Analog และจุดประสงค์ที่ต้องร่วมคือ Return Path ต้องมี Imp ต่ำที่สุด ผมจึงมองว่า AGND กับ DGND ของ 8412 และ DGND ของ AD1865 ควรจะอยู่ร่วม Plane เดียวกันครับ เพราะเป็น Digital Domain ทั้งหมดเลย การที่ Return Path ระหว่าง IC มี Imp โดยไม่จำเป็น จะส่งผลกระทบต่อการรับรู้ Logic ครับ ส่วน AGND ของ AD1865 สามารถแยกออกไปอีก Plane หนึ่งได้ แล้วค่อยเชื่อมกันที่จุดเดียวครับ
ก็อธิบายวิธีคิดของผมเพื่อแชร์ความรู้กันนะครับ เห็นด้วย-ไม่เห็นด้วยอย่างไร ผมยินดีรับความเห็นจากทุกๆ คนครับ ประเด็นวิชาการแบบนี้ยิ่งคุยยิ่งได้ประโยชน์ครับ คิดไม่เหมือนกันนี่เป็นเรื่องปกติครับ เอาเหตุเอาผลมาแบดูกันเพื่อเรียนรู้ดีกว่า อย่าเป็นยิ่งคุยยิ่งแตกแยกเลยครับ :)
-
c) c) c) c) c) c) c) c) :clap :clap :clap :clap :clap :clap O0 O0 O0 O0
-
ท่านอื่นๆ มีใครมีข้อคิดเห็นต่างจากผม และ คุณ Mr.Tube บ้างครับ แสดงความเห็นได้เลยครับ
-
ส่วนตัวผมมือใหม่เพิ่งประกอบเสร็จไปตัวนึงครับได้วงจรมาจากหนังสือในท้องตลาด
ไปกัดปริ้นมาซะดิบดี สุดท้ายใช้ไม่ได้ครับ ทั้งๆที่ทำตามในหนังสือทุกอย่าง :black_eye :black_eye
แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีมีคนเห็นใจตัดต่อวงจรจนมันใช้งานได้ เสียงออกมาไม่ประทับใจครับ
ยังงัยใครเคยเห็นปริ้นวงจรตัวนี้ช่วยแนะนำด้วยนะครับลงทุนไปก็อยากให้เสียงดีอย่างที่เค้าว่ากันครับ :'( :'(
-
ต้องถามไปที่คุณ nutty แล้วล่ะครับ เพราะรู้สึกว่าจะใช้ตัวนี้อยู่ ไม่แน่ใจว่าเป็นเวอร์ชั่นดัดแปลงรึเปล่า รู้สึกว่าจะต้องเปลี่ยนทรานซิสเตอร์เป็นมอสเฟ็ตครับ กับแก้ค่าความต้านทานให้ตรงกับของเมืองนอกครับ รายละเอียดลึกๆ ผมไม่ทราบ ดูแค่วงจรเขาเทียบกับเมืองนอกรู้สึกว่าต่างกันครับ
-
ต้องถามไปที่คุณ nutty แล้วล่ะครับ เพราะรู้สึกว่าจะใช้ตัวนี้อยู่ ไม่แน่ใจว่าเป็นเวอร์ชั่นดัดแปลงรึเปล่า รู้สึกว่าจะต้องเปลี่ยนทรานซิสเตอร์เป็นมอสเฟ็ตครับ กับแก้ค่าความต้านทานให้ตรงกับของเมืองนอกครับ รายละเอียดลึกๆ ผมไม่ทราบ ดูแค่วงจรเขาเทียบกับเมืองนอกรู้สึกว่าต่างกันครับ
ขอบคุณ คุณAD1865มากครับ
มิน่าผมว่าทรานซิตเตอมันร้อนแทบไหม้ ตอนนี้ผมถอดทิ้งไปแล้วครับ ปัจจุบันใช้งานได้ปรกติ ทำเสร็จฟังได้ก็เกือบเดือน ผมว่าติดที่น้ำเสียงมันอย่างเดียวครับ
-
ท่านอื่นๆ มีใครมีข้อคิดเห็นต่างจากผม และ คุณ Mr.Tube บ้างครับ แสดงความเห็นได้เลยครับ
ผมว่าแก้ไม่ยากนะครับ ก็ทำลวดจั้มไว้ ทีนี้ใครจะต่อตรงนี้เป็น ลวดจั้ม / R / L / FB ก็ทดลองกันได้ตามสะดวกครับ :headphone
ส่วนตัวผมมือใหม่เพิ่งประกอบเสร็จไปตัวนึงครับได้วงจรมาจากหนังสือในท้องตลาด
ไปกัดปริ้นมาซะดิบดี สุดท้ายใช้ไม่ได้ครับ ทั้งๆที่ทำตามในหนังสือทุกอย่าง :black_eye :black_eye
แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีมีคนเห็นใจตัดต่อวงจรจนมันใช้งานได้ เสียงออกมาไม่ประทับใจครับ
ยังงัยใครเคยเห็นปริ้นวงจรตัวนี้ช่วยแนะนำด้วยนะครับลงทุนไปก็อยากให้เสียงดีอย่างที่เค้าว่ากันครับ :'( :'(
ใช้วงจรไหน เสียงไม่น่าประทับใจตรงไหน อย่างไร นำมาเล่าสู่กันฟังบ้างก็ดีครับ Y]
-
ท่านอื่นๆ มีใครมีข้อคิดเห็นต่างจากผม และ คุณ Mr.Tube บ้างครับ แสดงความเห็นได้เลยครับ
ผมว่าแก้ไม่ยากนะครับ ก็ทำลวดจั้มไว้ ทีนี้ใครจะต่อตรงนี้เป็น ลวดจั้ม / R / L / FB ก็ทดลองกันได้ตามสะดวกครับ :headphone
ส่วนตัวผมมือใหม่เพิ่งประกอบเสร็จไปตัวนึงครับได้วงจรมาจากหนังสือในท้องตลาด
ไปกัดปริ้นมาซะดิบดี สุดท้ายใช้ไม่ได้ครับ ทั้งๆที่ทำตามในหนังสือทุกอย่าง :black_eye :black_eye
แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีมีคนเห็นใจตัดต่อวงจรจนมันใช้งานได้ เสียงออกมาไม่ประทับใจครับ
ยังงัยใครเคยเห็นปริ้นวงจรตัวนี้ช่วยแนะนำด้วยนะครับลงทุนไปก็อยากให้เสียงดีอย่างที่เค้าว่ากันครับ :'( :'(
ใช้วงจรไหน เสียงไม่น่าประทับใจตรงไหน อย่างไร นำมาเล่าสู่กันฟังบ้างก็ดีครับ Y]
ตามที่บอกไว้ครับใช้วงจรตามหนังสือที่มีวางขายอยู่ในตลาด(ไม่รู้ว่าเอ่ยซื่อแล้วจะมีปัญหาหรือปาว)
ส่วนเสียงตัวที่ผมทำนะครับผมว่าเสียงมันแห้ง ไม่มีบอดี้ ฟังนานๆแล้วหนวกหูครับ AB TEST กับ1541รูปด้านล่างครับ
-
ท่านอื่นๆ มีใครมีข้อคิดเห็นต่างจากผม และ คุณ Mr.Tube บ้างครับ แสดงความเห็นได้เลยครับ
ผมว่าแก้ไม่ยากนะครับ ก็ทำลวดจั้มไว้ ทีนี้ใครจะต่อตรงนี้เป็น ลวดจั้ม / R / L / FB ก็ทดลองกันได้ตามสะดวกครับ :headphone
ส่วนตัวผมมือใหม่เพิ่งประกอบเสร็จไปตัวนึงครับได้วงจรมาจากหนังสือในท้องตลาด
ไปกัดปริ้นมาซะดิบดี สุดท้ายใช้ไม่ได้ครับ ทั้งๆที่ทำตามในหนังสือทุกอย่าง :black_eye :black_eye
แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีมีคนเห็นใจตัดต่อวงจรจนมันใช้งานได้ เสียงออกมาไม่ประทับใจครับ
ยังงัยใครเคยเห็นปริ้นวงจรตัวนี้ช่วยแนะนำด้วยนะครับลงทุนไปก็อยากให้เสียงดีอย่างที่เค้าว่ากันครับ :'( :'(
ใช้วงจรไหน เสียงไม่น่าประทับใจตรงไหน อย่างไร นำมาเล่าสู่กันฟังบ้างก็ดีครับ Y]
ผมตั้งใจไว้แบบนั้นแหละครับว่าสามารถให้เพื่อนสมาชิกเลือกเอาเองตามใจชอบPCB ถูกวางยาโดยเจตนาตรงภาคจ่ายไฟครับ (ใจร้ายจัง) และผมอยากจะบอกอีกเรื่องหนึ่งสำหรับสมาชิกใหม่ว่า ข้อมูลจาก Mr.Tube เป็นข้อมูลที่ผ่านการ Process แล้วทั้งสิ้นครับ เชื่อถือได้เต็มร้อย ขอโทษครับผมก็คนตรง ๆ แบบนี้แหละครับ
-
ตามที่บอกไว้ครับใช้วงจรตามหนังสือที่มีวางขายอยู่ในตลาด(ไม่รู้ว่าเอ่ยซื่อแล้วจะมีปัญหาหรือปาว)
ส่วนเสียงตัวที่ผมทำนะครับผมว่าเสียงมันแห้ง ไม่มีบอดี้ ฟังนานๆแล้วหนวกหูครับ AB TEST กับ1541รูปด้านล่างครับ
ถ้าคุณ Hunting_test ซื้อหนังสือมาอ่านและหนังสือผิด มันจะมีปัญหาอะไรหรือครับถ้าจะบอกทุกคนว่าหนังสือผิด โดยสำนึกแล้วผู้เขียนควรจะแก้ไขให้ถูกต้องสิครับไม่ใช่มาหาเรื่องผู้อ่าน สำนักพิมพ์ก็มีส่วนเพราะตรวจสอบยังไงให้ที่ผิดหลุดมา แล้วนี่เป็นโครงงานด้วย ผู้อ่านลงทุนไปแล้วมันไม่ทำงานต่างหากที่เป็นปัญหาครับ เรื่องเจตนาวางยาหรือผิดจริงๆ คงมีผู้เขียนคนเดียวที่รู้ครับ ผมว่าประเด็นสำคัญคือผู้เขียนและสำนักพิมพ์ต้องตรวจสอบและแก้ไขที่ผิดครับ ดูอย่างเซมิฯ เมื่อก่อนผิดประจำครับ อีก 1-2 เล่มต่อมาก็ลง -แก้ที่ผิด- ให้ครับ
นิตยสารที่ว่าย่อมเป็น CEW ครับ เล่มที่มีบทความ DAC AD1865N ครับ เปิดอ่านแว๊บๆ มาเหมือนกัน :)
-
และผมอยากจะบอกอีกเรื่องหนึ่งสำหรับสมาชิกใหม่ว่า ข้อมูลจาก Mr.Tube เป็นข้อมูลที่ผ่านการ Process แล้วทั้งสิ้นครับ เชื่อถือได้เต็มร้อย ขอโทษครับผมก็คนตรง ๆ แบบนี้แหละครับ
อย่าถึงขนาดเต็มร้อยเลยครับ เอาเป็นว่าใครคิดอย่างไรก็เอาความคิดมาแลกดูกันครับ คนที่รู้ลึกซึ้งกว่าจะได้ช่วยชี้แนะได้ครับ :) :)
-
ผมว่าแก้ไม่ยากนะครับ ก็ทำลวดจั้มไว้ ทีนี้ใครจะต่อตรงนี้เป็น ลวดจั้ม / R / L / FB ก็ทดลองกันได้ตามสะดวกครับ :headphone
เห็นด้วยครับ เพราะโครงงานก่อนๆ คุณ Mr.Q ก็ออกแบบในลักษณะ ที่ปรับเปลี่ยนได้มาก ทำให้ สมาชิกที่ Group Buy เอาไปเล่นได้อย่างหลากหลายครับ O0
-
ท่านอื่นๆ มีใครมีข้อคิดเห็นต่างจากผม และ คุณ Mr.Tube บ้างครับ แสดงความเห็นได้เลยครับ
ผมว่าแก้ไม่ยากนะครับ ก็ทำลวดจั้มไว้ ทีนี้ใครจะต่อตรงนี้เป็น ลวดจั้ม / R / L / FB ก็ทดลองกันได้ตามสะดวกครับ :headphone
ส่วนตัวผมมือใหม่เพิ่งประกอบเสร็จไปตัวนึงครับได้วงจรมาจากหนังสือในท้องตลาด
ไปกัดปริ้นมาซะดิบดี สุดท้ายใช้ไม่ได้ครับ ทั้งๆที่ทำตามในหนังสือทุกอย่าง :black_eye :black_eye
แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีมีคนเห็นใจตัดต่อวงจรจนมันใช้งานได้ เสียงออกมาไม่ประทับใจครับ
ยังงัยใครเคยเห็นปริ้นวงจรตัวนี้ช่วยแนะนำด้วยนะครับลงทุนไปก็อยากให้เสียงดีอย่างที่เค้าว่ากันครับ :'( :'(
ใช้วงจรไหน เสียงไม่น่าประทับใจตรงไหน อย่างไร นำมาเล่าสู่กันฟังบ้างก็ดีครับ Y]
ตามที่บอกไว้ครับใช้วงจรตามหนังสือที่มีวางขายอยู่ในตลาด(ไม่รู้ว่าเอ่ยซื่อแล้วจะมีปัญหาหรือปาว)
ส่วนเสียงตัวที่ผมทำนะครับผมว่าเสียงมันแห้ง ไม่มีบอดี้ ฟังนานๆแล้วหนวกหูครับ AB TEST กับ1541รูปด้านล่างครับ
ลงอุปกรณ์ ครบทุกตำแหน่งเลยนะครับ ตอนแรกของผมก็ลงครบครับ แต่ตอนนี้ถอดออกบางส่วนครับ ส่วนเสียงดีไม่ดีลองถามพี่ pongsakorn 50 ครับแกเคยฟังตอนยังไม่ได้จูนเสียง ยังงัยดีไม่ดีผมว่าต้องจูนเอาครับ
-
ตามที่บอกไว้ครับใช้วงจรตามหนังสือที่มีวางขายอยู่ในตลาด(ไม่รู้ว่าเอ่ยซื่อแล้วจะมีปัญหาหรือปาว)
ส่วนเสียงตัวที่ผมทำนะครับผมว่าเสียงมันแห้ง ไม่มีบอดี้ ฟังนานๆแล้วหนวกหูครับ AB TEST กับ1541รูปด้านล่างครับ
ถ้าคุณ Hunting_test ซื้อหนังสือมาอ่านและหนังสือผิด มันจะมีปัญหาอะไรหรือครับถ้าจะบอกทุกคนว่าหนังสือผิด โดยสำนึกแล้วผู้เขียนควรจะแก้ไขให้ถูกต้องสิครับไม่ใช่มาหาเรื่องผู้อ่าน สำนักพิมพ์ก็มีส่วนเพราะตรวจสอบยังไงให้ที่ผิดหลุดมา แล้วนี่เป็นโครงงานด้วย ผู้อ่านลงทุนไปแล้วมันไม่ทำงานต่างหากที่เป็นปัญหาครับ เรื่องเจตนาวางยาหรือผิดจริงๆ คงมีผู้เขียนคนเดียวที่รู้ครับ ผมว่าประเด็นสำคัญคือผู้เขียนและสำนักพิมพ์ต้องตรวจสอบและแก้ไขที่ผิดครับ ดูอย่างเซมิฯ เมื่อก่อนผิดประจำครับ อีก 1-2 เล่มต่อมาก็ลง -แก้ที่ผิด- ให้ครับ
นิตยสารที่ว่าย่อมเป็น CEW ครับ เล่มที่มีบทความ DAC AD1865N ครับ เปิดอ่านแว๊บๆ มาเหมือนกัน :)
;Dผมเห็นด้วยครับกับคำพูดที่ว่า ซื้อหนังสือมาอ่านและหนังสือผิด มันจะมีปัญหาอะไรหรือครับถ้าจะบอกทุกคนว่าหนังสือผิด
-
DAC AD1865 ไม่ได้ลง CEW นะครับ ผมติดตาม CEW มานาน CEW มักจะไม่มีโครงงานที่ไม่วางยาครับ แต่เรื่อวงจรงอื่น ๆ เช่นออกแบบแล็ว Ground Loop ผมก็ว่าเป็นเรื่องของคนออกแบบครับ
-
จริงๆ ผู้เขียนบทความน่าจะมี หรือ เขามี เครื่องต้นแบบทุกครั้งอยู่แล้ว เพียงแต่ PCB Version ที่ลงในหนังสืออาจไม่ใช่ Last Update ที่ใช้แล้ว Work ที่สุดก็ได้ นานมาแล้วผมเคยคุยกับเจ้าของบทความ จำหนังสือไม่ได้แล้วครับ เรื่อง PCB ของเขา เขากลับแนะนำมาว่าเขามี Version Update ที่ดีกว่าที่ลงในหนังสือ สั่งซื้อจากเขาได้ แต่ผมไม่ได้สั่งซื้อนะครับ มาคิดๆว่า แล้วที่ลงไปก่อนหน้านั้นมันจะ Work ใหมนี่ เวลาของไม่ Work ก็อาจโดนต่อว่า ว่ามือไม่ถึงอีก ผมเลยไม่เล่นเครื่องที่คนไทยออกแบบแล้วเขียนหนังสือ บอกตรงๆว่าเชื่อถือเพี่อนใน Broad นี้มากกว่านักเขียนแม้ไม่รู้จักชื่อจริงก็ตาม โครงงานของเพื่อนเรา หลายๆท่าน อย่างคุณ Mr.Q,คุณ MasterAT ก็ Work จนเพื่อนๆ Positive Feedback กันมากครับ O0
อย่าง ท่าน Mr.Tube เคย Post ไว้นะครับว่า "บางทีเราก็ติดกับดัก PCB" ทำให้การคิดไม่กว้างขวางต่อไปอีกครับ
อ้อมีนักเขียนอีกท่านที่ไม่เคยวางยา ก็คุณ มด กับ คุณ Analoglism ของเรานั่นเอง :clap
-
จริงๆ ผู้เขียนบทความน่าจะมี หรือ เขามี เครื่องต้นแบบทุกครั้งอยู่แล้ว เพียงแต่ PCB Version ที่ลงในหนังสืออาจไม่ใช่ Last Update ที่ใช้แล้ว Work ที่สุดก็ได้ นานมาแล้วผมเคยคุยกับเจ้าของบทความ จำหนังสือไม่ได้แล้วครับ เรื่อง PCB ของเขา เขากลับแนะนำมาว่าเขามี Version Update ที่ดีกว่าที่ลงในหนังสือ สั่งซื้อจากเขาได้ แต่ผมไม่ได้สั่งซื้อนะครับ มาคิดๆว่า แล้วที่ลงไปก่อนหน้านั้นมันจะ Work ใหมนี่ เวลาของไม่ Work ก็อาจโดนต่อว่า ว่ามือไม่ถึงอีก ผมเลยไม่เล่นเครื่องที่คนไทยออกแบบแล้วเขียนหนังสือ บอกตรงๆว่าเชื่อถือเพี่อนใน Broad นี้มากกว่านักเขียนแม้ไม่รู้จักชื่อจริงก็ตาม โครงงานของเพื่อนเรา หลายๆท่าน อย่างคุณ Mr.Q,คุณ MasterAT ก็ Work จนเพื่อนๆ Positive Feedback กันมากครับ O0
อย่าง ท่าน Mr.Tube เคย Post ไว้นะครับว่า "บางทีเราก็ติดกับดัก PCB" ทำให้การคิดไม่กว้างขวางต่อไปอีกครับ
อ้อมีนักเขียนอีกท่านที่ไม่เคยวางยา ก็คุณ มด กับ คุณ Analoglism ของเรานั่นเอง :clap
เห็นด้วย 100% ครับ จะทำ amp hybrid หรือ DAC ใน semi con เล่มพิเศษ ยังแหยง ๆ
ค่าความมั่นใจแค่ 30% เท่านั้น ขอท่านที่ Mr. Q กล่าวมาเป็นที่พึ่งสำหรับผู้รู้น้อยแต่ใจรักด้วย
-
DAC AD1865 ไม่ได้ลง CEW นะครับ ผมติดตาม CEW มานาน CEW มักจะไม่มีโครงงานที่ไม่วางยาครับ แต่เรื่อวงจรงอื่น ๆ เช่นออกแบบแล็ว Ground Loop ผมก็ว่าเป็นเรื่องของคนออกแบบครับ
ขอบคุณ Mr.Q ที่ช่วยท้วงครับ ผมจำผิดครับ K] K] เป็นหนังสือ Electronic Handbook เล่มเดือนมีนาคม บทความเกี่ยวกับ DAC AD1865 เขียนโดยคุณวัชระครับ ขอโทษหนังสือ CEW ด้วยครับ
-
เสียงคงดีจริงๆ..ผมดูจากเวปนี้ http://www.cndiyclub.com/shop/goods.php?id=8
อ่านไม่ออก..
-
เสียงคงดีจริงๆ..ผมดูจากเวปนี้ http://www.cndiyclub.com/shop/goods.php?id=8
อ่านไม่ออก..
วงจรจากhttp://www.cndiyclub.com/c_read.php?tid=4723 ครับ
-
รบกวนถาม Mr.Tube ครับ ใน SOD ตอนที่ทำ AD1865 นั่นเซ็ตเป็น 16 บิทอยู่ใช่มั้ยครับ ผมเองยังไม่เคยต่อ 16 บิทเลย ไม่รู้ว่ามันต่างกันมากมั้ย
Set 8412 เป็น 18 Bit LSB-Justified ครับ แต่สัญญาณจาก CD มาแค่ 16 Bit ครับ เพราะฉะนั้นมันทำงานที่ Resolution 16 Bit เท่านั้นครับ ผมไม่เคยลองป้อน Format 16 Bit LSB-Justified ให้ AD1865 ครับ แต่เคยลองกับ PCM61P ใช่ไม่ได้ครับ เสียงแตกไปเลย คุณ AD1865 ลองแล้วได้ผลอย่างไร รบกวนแจ้งให้ทราบบ้างนะครับ ขอบคุณมากครับ :)
-
เป็นคำตอบสุดท้าย...ถูกต้องนะครับ c)
ทิฐิเป็นสิ่งที่แก้ยากที่สุด รอชมที่ผมไกด์ไลน์ละกันว่าที่ถูกต้อง ถูกใจจะต้องเป็นแนวไหน ถ้าผมทำออกมาไม่ดี นั่นก็คือสิ่งที่จะฆ่าตัวผมเอง
การโต้แย้งทางด้านความคิดเป็นเรื่องธรรมดาครับ ขออย่างเดียว อย่าเพิ่ง Guard against คือต้องเปิดใจให้กว้างเข้าไว้ครับ ไม่อย่างนั้นทุกวันนี้มนุษเราคงไม่บินไปได้ถึงในอวกาศหรอกครับ เอาอย่างนี้มั้ยละครับ ให้ทั้งสองท่านทำ pcb มาลงอุปกรณ์ให้เรียบร้อยแล้วนัด mini meeting กันที่มุมสบาย ลองมาฟังเสียงกันดูแล้ว discuss แลกเปลี่ยนความรู้กัน อย่างนี้น่าจะเป็นทางเลือกหนึ่งนะครับผมว่า เป็นความคิดเห็นส่วนตัวผิดถูกก็ขออภัยทั้งสองท่านด้วยครับ Y] Y] Y] ยังไงก็ยังรอ group buy อยู่นะค้าบบบบ ;D
หยุดฟังเพลง(ด้วยแด็คฯ หรือซีดีตัวเดิม)แล้วคลายอารมย์ พักเบรคกันนึดนึงไหมครับ
ท่านใดก็ได้ ขอเชิญเป็นโต้โผในการกรุ๊ปบายด้วยครับ
หัวใจของโปรเจ็คนี้ คือชิบ เคเกรด ก็เท่านั้นเอง ขอให้มีชิบอยู่ในมือ อะไรมันก็เกิดได้ไม่ยากครับ
....ข้าพเจ้าขอร่วมด้วย ๒ ตัวครับสำหรับ AD1865 N-K
ขอบคุณครับ
รอต่อไปครับ
-
ผ่านไปปีนึงเพิ่งได้อ่าน หรอยมาก กระทู้นี้ :D
แล้วตกลง DAC ของคุณ AD1865 เสร็จรึยังครับ อยู่กระทู้ไหน อยากชมทั้ง schematic และ Layout ไว้เป็นแนว (ปีนึงแล้วอะ)
-
ไม่เอาอะ จะดูของคุณ AD1865 ผมไม่สนเรื่องความสวยงามอะ อยากดูของเซียนมากกว่า สนดู layout เรื่อง ground เรื่อง trace ของสัญญาณ เรื่อง return path แล้วก็ circuit ที่ทำ reclock ด้วย เอาไว้เป็นแนว
ไอ้ link ที่ลงไว้แผ่นปรินท์ดำปิ๊ดปี๋ มองไม่เห็นลายอะไรเลย ถ่ายมาไกลๆดูให้ตายก็ไม่รู้เรื่องลาย PCB ก็ไม่มี
-
ขอยกมือในฐานะผู้ถูกพาดพิงนะครับ ไปขอลายวงจรเขามาแล้วครับ ตามนี้เลยนะ ลองถ่ายเอกสารแล้วเอามาเทียบหน้า-หลังดูได้ครับ ดูแล้วก็น่าศึกษาอยู่พอตัว ถ้าออกแบบเป็นน่ะครับ
-
ตะกี้ด้านบน ตอนนี้เป็นด้านล่างครับ กราวนด์เพลนจะมีแค่ส่วนดิจิตอล กับ เร็กติฟายไฟสูงอีกนิดหน่อย
-
ผมป่าวนะ N]
-
อันสุดท้ายด้านบนครับ ต้องถ่ายบนแผ่นใสแล้วมาวางทับ ส่งให้ซีเกทก็อปปี้ แป๊บเดียวก็ได้ใช้แล้วครับ เสียดายที่มันเป็นแบบเพลต ทรู โฮลด์ ซีเกททำได้แค่ 2 หน้า
-
ผมป่าวนะ N]
ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ครับ :) รีเควสต์มาก็จัดให้ตามนั้นน่ะครับ 8)
-
อะ มันไม่ได้ reclock นิ๊ รอดูของคุณ AD1865 ดีกว่าอะครับ ไม่เหมือนกันชัว ตอนนี้สนใจเรื่อง reclock อย่างแรง
-
แรงบันดาลใจมันหมดไปนานแล้วครับ เสร็จก็คือเสร็จ เพราะอะไรรู้มั้ย นี่ไง... http://www.audiokit.ro/dac_rd3.html เล่นมีขายทุกอย่าง เอาชื่อผมไปสร้างอีกต่างหาก มีทั้งบาลานซ์เอาต์ มีทั้งรีคล็อกให้เลือกซื้อ DIY ก็จนแต้มกับพวกวิศวะกรมือถึงนี่แหละ
ไปเยื่อนมาแล้วครับ ไปดูตัว top รุ่น RD-3 มา ใช้ clock ตัวเดียวกับที่ผมดองเอาไว้เลย แต่ผมไม่ใช้ (เป็นตัวแบ่งให้พี่ Mr.TUBE ไปลองแต่แกยังไม่ว่างทำ)
ไม่ได้เข้าเวปนี้นานแล้ว แต่ก่อนเห็นทำ clock ขาย ตอนนี้สงสัยเลิกทำไปแล้ว ผมว่า DIY เก่งๆที่เป็นวิศวกรก็มีเยอะไม่จนแต้มหรอกครับ ผมก็เห็นบริษัทคนไทยมีวิศวกรเก่งๆมหาลัยที่มีอาจารย์เก่งๆทำชุดทดลองพวกนี้ขายกันออกจะให้รึ่ม
ของเวปเมืองนอกเวปนี้เขาแค่เอาชิบ CPLD มาไส่กันคนนิสัยเสียอย่างผมจะเอาก็อปปี้ 2f 5555 ซึ่งถ้าเก๋าจริงเนี่ยเขาสามารถเอา FPGA มาทำเป็น spdif receiver ได้เลย ไม่จำเป็นต้องใช้ cs8416 มา decode ซึ่งผมเองก็ทำไม่เป็น :D แล้วผมมองว่าไม่คุ้มที่จะทำด้วยเนื่องจาก chip สำเร็จทำงานได้ดีกว่าแน่นอน
ผมเองก็ไม่เคยใช้ CPLD เคยใช้แต่ FPGA ซึ่งมันก็ไม่ได้ต่างอะไรกันมากเอามาทำอะไรเล่นก๊อกๆแก๊กๆก็ไม่ได้เชี่ยวชาญอะไร ผมเองก็ยังไม่เคยคิดอยากอยากเอามาใช้ในงาน กับ clock ของ DAC ในงาน audio ซักเท่าไหร่เลย เพราะคิดไปเองว่ากลัวปัญหาเรื่องการ routing ตามใจฉันของตัว complier
เพราะผมก็มีความเข้าใจว่า clock ที่มันออกมาจาก clock osillator มันดีที่สุดที่ได้แล้วแล้ว ถ้าดันทะลึ่งยิ่งเอาไปผ่านวงจร logic ประหลาดอะไรทั้งหลายแหล่ก็ตามก็มีแต่จะโดน degrade เนื่องจากตัวแปรหลายอย่าง อย่างแรกที่เห็นได้ชัดสุดคือ aperture jitter (ดูรูปแนบ) เต็มๆ แล้วทางที่ดีเนี่ยมันควรจะอยู่ไกล้วงจร DAC มากที่สุดด้วย
แล้วจาก block diagram ที่เขาทำ ผมก็เดาสุ่มสี่สุ่มห้าว่า เขาก็เขียนโปรแกรมให้ได้ตามเงื่อนไข เผลอๆรู้วงจรอยู่แล้วก็ลาก block สำเร็จมาต่อๆๆเป็นวงจรขึ้นมาแล้วจับคอมไพรซะเลย ซึ่งหลักๆก็เป็น D-flipflop อะมั้งครับ เอามาทำวงจรหาร ทำ Phase detector ในส่วนของรูปด้านบนแล้วก็เอามาทำ block วงจร reclock&data seperation ซึ่งข้างในผมก็เดาว่าคงใช้มุกแบบมาตรฐานทั่วไป ซึ่งแน่ๆก็มี D-flipflop อีกละครับ (ขอ break นึดนึง ไอ้วงจร phase detector เนี่ยถ้าใช้วงจร flipflop ธรรมดามาทำเหมือนจะง่ายผมก็ไม่แน่ใจว่าเขาได้คิดถึงเรื่องปัญหาของ dead zone มั่งรึเปล่า ไอ้ตรงนี้แต่ก่อนผมก็ไม่รู้หรอกครับเคยถามอาจารย์ แกก็บอกให้ใช้ PLLสำเร็จรูปไปเพราะแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้แล้วง่ายกว่า) ต่อไปใช้ clock ที่ออกมาจาก MAX9485 ไปยัดเข้าขา clock ของ D-flipflop ??? คำถามมีอยู่ว่าความถี่ของ LRCLK กับ clock จาก MAX9485 มันไม่เท่ากัน (ความถี่ของ MAX9485 ที่ออกมาต้องสูงกว่า LRCLK อยู่แล้ว) ผมก็แค่มองว่าโอกาศที่ clock มันจะไป trig ช่วง logic ของ LRCLK เปลี่ยนสถานะ มันมีออกจะถมถืดไปก็น่าจะได้ jitter ออกมาเป็นของแถม
แล้วที่สำคัญ วงจรในรูปนี้ทั้งวงจรไม่รู้จะมีไว้ทำซากอะไรเนื่องจาก สมมุติว่าผมอารมณ์เปลี่ยวๆขึ้นมา ผมไปเปลี่ยนความถี่ LRCLK ซะ สัญญาณ LRCLK ส่วนนึงแบ่งไปวิ่งเข้าขา D-flipflip ของวงจร reclock เปลี่ยน แล้วสัญญาณ LRCLK อีกส่วนนึงที่ทำหน้าที่เป็น clock recference ของวงจร PLL ที่ไปป้อนเข้าวงจร phase detector ก็เปลี่ยน แล้วไงต่อดีละ?? มีอะไรไปบอกวงจร clock recovery มั๊ยว่า "เฮ้ย !!! LRCK เปลี่ยนแล้วนะแก้กลับไปให้กลับไปที่ความถี่เดิมด้วย" ถ้าตาม่ฝาดดูตามวงจรแล้วไม่เห็นมีอะครับ ดังนั้นเนี่ย LRCK ความถี่มันเปลี่ยนไปยังไง ทาง output ของวงจรก็เปลี่ยนไปตามนั้นแถม jitter ให้ด้วย
ก็สรุป ผมไม่รู้ครับผมมั่ว ผมอาจจะเข้าใจผิดทั้งหมดก็ได้ ฟังหูไว้หูลอง
ก็ราคา 169 ยูโรไม่ลงกล่อง ลงกล่องก็ราคา 269 ยูโร ลองซื้อมาลองเล่นดูก็ได้ครับ
-
อย่าหวง เลยครับ ความรู้มันของสาธารณะ แต่ถ้าหากคุณ AD1865 ทำขายผมไม่ว่ากันครับ แต่ถ้าทำแล้วไม่ได้ทำขายเก็บไว้คนเดียวนี่น่าเสียดาย กลัวมันจะบูด ก็เอามาแชร์กันเผื่อผมเข้าใจอะไรผิดหรือคุณ AD1865 เข้าใจอะไรผิดก็จะเข้าใจกันผิดๆไปตลอดชาติ
ทุกวันนี้ของที่มันขายได้แพงส่วนนึงก็ขายกับความไม่รู้ของคน ไปตามกระแส ตามความเชื่อ ซึ่งถ้าผมทำขายผมก็เอาด้วย c) Y]
เพราะว่าอย่างนึงอย่าลืมของที่มันดีจริงๆเนี่ยกว่าเขาจะทำออกมาได้เขาต้องนั่งเสียเวลาศึกษาอ่านทำตั้งเท่าไหร่(ไม่นับกรณีที่ทำมั่วแล้วออกมาดี) cost ทาง engineering มันสูง มันก็ไม่แฟร์เนอะ
ผมมีวงจร reclock อีกวงจรนึงมาแจก สุดยอด ลองเอาไส่ pspice ไป sim ดู เอาแค่ prove concept ถ้ามัน re ได้เนี่ยส่ง file ให้ผมด้วยอยากดู
-
แล้วจาก block diagram ที่เขาทำ ผมก็เดาสุ่มสี่สุ่มห้าว่า เขาก็เขียนโปรแกรมให้ได้ตามเงื่อนไข เผลอๆรู้วงจรอยู่แล้วก็ลาก block สำเร็จมาต่อๆๆเป็นวงจรขึ้นมาแล้วจับคอมไพรซะเลย ซึ่งหลักๆก็เป็น D-flipflop อะมั้งครับ เอามาทำวงจรหาร ทำ Phase detector ในส่วนของรูปด้านบนแล้วก็เอามาทำ block วงจร reclock&data seperation ซึ่งข้างในผมก็เดาว่าคงใช้มุกแบบมาตรฐานทั่วไป ซึ่งแน่ๆก็มี D-flipflop อีกละครับ (ขอ break นึดนึง ไอ้วงจร phase detector เนี่ยถ้าใช้วงจร flipflop ธรรมดามาทำเหมือนจะง่ายผมก็ไม่แน่ใจว่าเขาได้คิดถึงเรื่องปัญหาของ dead zone มั่งรึเปล่า ไอ้ตรงนี้แต่ก่อนผมก็ไม่รู้หรอกครับเคยถามอาจารย์ แกก็บอกให้ใช้ PLLสำเร็จรูปไปเพราะแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้แล้วง่ายกว่า) ต่อไปใช้ clock ที่ออกมาจาก MAX9485 ไปยัดเข้าขา clock ของ D-flipflop ??? คำถามมีอยู่ว่าความถี่ของ LRCLK กับ clock จาก MAX9485 มันไม่เท่ากัน (ความถี่ของ MAX9485 ที่ออกมาต้องสูงกว่า LRCLK อยู่แล้ว) ผมก็แค่มองว่าโอกาศที่ clock มันจะไป trig ช่วง logic ของ LRCLK เปลี่ยนสถานะ มันมีออกจะถมถืดไปก็น่าจะได้ jitter ออกมาเป็นของแถม
หลักการของมันคือ มันเอา Sampling Clock มาหาร 8 แล้วไปรอ Compare กับ Clock ที่มาจาก MAX9485 ซึ่งจริงๆ แล้ว Clock จาก MAX มันจะเป็นจำนวนเท่าของ Sampling Rate เช่น ถ้า Sampling Rate = 44.1kHz, Clock จาก MAX ก็จะเป็น 11.2896MHz เท่ากับว่ามันต้องหาร 256x8 = 2048 เท่า เพื่อจะ Compare กับ LRCK ได้ สัญญาณที่ได้จาก Comparator ก็เอาไปเข้า Low Pass Filter เพื่อเอาไปคุม MAX อีกที หลักการเหมือน PLL ปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือมันทำที่ความถี่ต่ำมาก คือ 44.1kHz / 8 = 5.5kHz ซึ่งผมเดาเอาเหมือนกันว่าเค้าทำแบบนี้เพื่อจะออกแบบช่วง Lock ของ PLL ให้มันกว้างๆ จะได้รองรับ Sampling Rate ได้หลายๆ ค่า
(http://www.audiokit.ro/img/schematics/art.gif)
ผมคิดต่างไปครับ เพราะว่าผมก็ Design PLL แบบนี้และใช้ MAX9485 เหมือนกัน แต่ผมเลือกที่จะทำช่วง Lock ให้มันแคบ และใช้ Sampling Freq Detection ดูว่า Sampling Rate เป็นเท่าไหร่ แล้วค่อยเอาไปสั่ง MAX9485 ให้มันส่ง Clock ที่เหมาะสมกับ Sampling Rate ออกมาครับ จริงๆ วงจรตรงส่วน PLL ทำงานได้แล้วนะ เหลือแต่ Detection กับตัวสั่ง MAX9485 นี่แหล่ะที่ยังไม่ว่างทำต่อ แขวนไว้ก่อน ;D
แล้วที่สำคัญ วงจรในรูปนี้ทั้งวงจรไม่รู้จะมีไว้ทำซากอะไรเนื่องจาก สมมุติว่าผมอารมณ์เปลี่ยวๆขึ้นมา ผมไปเปลี่ยนความถี่ LRCLK ซะ สัญญาณ LRCLK ส่วนนึงแบ่งไปวิ่งเข้าขา D-flipflip ของวงจร reclock เปลี่ยน แล้วสัญญาณ LRCLK อีกส่วนนึงที่ทำหน้าที่เป็น clock recference ของวงจร PLL ที่ไปป้อนเข้าวงจร phase detector ก็เปลี่ยน แล้วไงต่อดีละ?? มีอะไรไปบอกวงจร clock recovery มั๊ยว่า "เฮ้ย !!! LRCK เปลี่ยนแล้วนะแก้กลับไปให้กลับไปที่ความถี่เดิมด้วย" ถ้าตาม่ฝาดดูตามวงจรแล้วไม่เห็นมีอะครับ ดังนั้นเนี่ย LRCK ความถี่มันเปลี่ยนไปยังไง ทาง output ของวงจรก็เปลี่ยนไปตามนั้นแถม jitter ให้ด้วย
นั่นแหล่ะ ถึงต้องทำ Sampling Detection ไปสั่ง MAX มัน แต่อีตานี่ดูเหมือนจะทำ Lock Loop กว้างๆ เอาแทน ซึ่งน่าจะทำให้ครอบคลุม 32, 44.1, 48kHz ได้ไม่ยาก แต่คงไม่ครอบคลุม 96kHz เพราะมัน Diff กันเป็นเท่าตัวเลย :)
-
ลองดูคร่าวๆ ละกัน ได้แค่นี้ก็พอประมาณแล้ว อาจจะสู้เขาไมได้ แต่ก็เรียบง่ายดี ไม่มีรีคล็อกนะจ๊ะ (หวง) อยากได้ไฟล์ใหญ่ก็เมล์มาละกัน
ขอน๊ะ 0)] file ใหญ่ไม่เอา ขอแค่ schematic โปะลงมาบนนี้เลย
-
ขอยกมือในฐานะผู้ถูกพาดพิงนะครับ ไปขอลายวงจรเขามาแล้วครับ ตามนี้เลยนะ ลองถ่ายเอกสารแล้วเอามาเทียบหน้า-หลังดูได้ครับ ดูแล้วก็น่าศึกษาอยู่พอตัว ถ้าออกแบบเป็นน่ะครับ
อันนี้ถ้าใครจะเอาไปทำจริงๆคงต้องรบกวนถามคนออกแบบอีกรอบนะครับ รู้สึกจะมี bug อยู่บางจุด แต่ก็แก้ได้ครับ ต้องบอกไว้ก่อนทำแล้วพังหรือไม่ดังเดี๋ยวหาว่าพี่ท่านวางยาอีก ;)
-
กำลังหนุกครับ ต่อครับต่อๆๆ :drummer
-
มาแอบอ่านคับ กำลังหาข้อมูล DAC อยู่พอดี
-
ตามเก็บข้อมูลเหมือนกันครับ
-
พอดีเพื่อนผมส่งอะไรสนุกๆมาให้อ่านก็น่าสนใจดี
http://www.lessloss.com/faq.html?q=asynchronous-reclocking
ก็ด่า DIY แบบสุภาพซะเสียหมาเลยผมก็ไม่รู้ว่าของเขาดีจริงรึเปล่าแต่ฟังๆมันอธิบายแล้วก็เข้าท่า
ลองอ่านดู FAQ ตัวอื่นดูด้วยก็ดีนะครับแต่ผมยังไม่ได้อ่านหมดซะทีเดียว(ขี้เกียจ)
ผมว่าถ้าคิดจะโม clock แล้วฟังออกมาชอบเสียงดี ก็ทำเถอะครับ แต่ถ้าคิดจะโม clock เพื่อจะลด jitter ผมว่าไปซื้อของแพงๆเอาดีกว่า อย่าคิดไปเองว่ามันจะลดถ้าไม่เคยวัด
-
แล้วเจ้านี้เขาทำอย่างไรหรือครับ ...เห็นเขาบอกกันว่าเสียงดี
http://www.weiss-highend.ch/minerva/MinervaTechnicalBackground.html
-
แล้วเจ้านี้เขาทำอย่างไรหรือครับ ...เห็นเขาบอกกันว่าเสียงดี
http://www.weiss-highend.ch/minerva/MinervaTechnicalBackground.html
อ่านดูคร่าวๆ ก็หลักการ PLL ทั่วไปครับ ทีนี้ต้องดูที่วงจรแล้วว่ามี Technic อะไรพิเศษครับ
-
แล้วพวก CS2000 series หละครับ เข้าทางหรือเปล่าครับ
-
http://www.tcelectronic.com/Media/frandsen_travis_2006_clean_clocks_tc(1).pdf ตามเนี้ย
-
แล้วพวก CS2000 series หละครับ เข้าทางหรือเปล่าครับ
ถามผมรึเปล่าครับ? ถ้าใช่ ผมไม่รู้จักครับ