HTG2.club

Home Theater Guide webboard => มุม Thai DIY Audio => ข้อความที่เริ่มโดย: พริกไทย ที่ 04 ธันวาคม, 2007, 05:41:00 pm

หัวข้อ: เส้นใหญ่ ดีกว่า เส้นเล็ก จริงหรือ
เริ่มหัวข้อโดย: พริกไทย ที่ 04 ธันวาคม, 2007, 05:41:00 pm
การใช้ สายกราวน์ทองแดง เส้นใหญ่มาก ตัวอย่าง 4 mm. กับ เส้นทองแดงธรรมดา 1.5mm. เดินในวงจร แอมป์ หลอด มีผลกับ เสียงที่ได้ มากน้อยแค่ไหน ครับ ขอผู้รู้ช่วยแชร์ประสพการณืให้ฟังหน่อย
หัวข้อ: Re: เส้นใหญ่ ดีกว่า เส้นเล็ก จริงหรือ
เริ่มหัวข้อโดย: PANGPOND ที่ 04 ธันวาคม, 2007, 06:08:10 pm
4ม.ม.ไม่เคยใช้ครับ บัคกรียากครับ สำหรับผมขนาดไม่สำคัญครับ
หัวข้อ: Re: เส้นใหญ่ ดีกว่า เส้นเล็ก จริงหรือ
เริ่มหัวข้อโดย: Mc ที่ 04 ธันวาคม, 2007, 06:25:29 pm
ใช้ไม่เคยเกิน 2.5 ครับ  ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: เส้นใหญ่ ดีกว่า เส้นเล็ก จริงหรือ
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวเหนือ ที่ 04 ธันวาคม, 2007, 07:26:27 pm
การใช้ สายกราวน์ทองแดง เส้นใหญ่มาก ตัวอย่าง 4 mm. กับ เส้นทองแดงธรรมดา 1.5mm. เดินในวงจร แอมป์ หลอด มีผลกับ เสียงที่ได้ มากน้อยแค่ไหน ครับ ขอผู้รู้ช่วยแชร์ประสพการณืให้ฟังหน่อย

เคยใช้ 6 mm. บัคกรียากมากครับ K]
หัวข้อ: Re: เส้นใหญ่ ดีกว่า เส้นเล็ก จริงหรือ
เริ่มหัวข้อโดย: Davit ที่ 04 ธันวาคม, 2007, 10:17:54 pm
การใช้ สายกราวน์ทองแดง เส้นใหญ่มาก ตัวอย่าง 4 mm. กับ เส้นทองแดงธรรมดา 1.5mm. เดินในวงจร แอมป์ หลอด มีผลกับ เสียงที่ได้ มากน้อยแค่ไหน ครับ ขอผู้รู้ช่วยแชร์ประสพการณืให้ฟังหน่อย

ผมเอาเส้นเล็กตีเกลียวจะได้พื้นที่ผิวมากขึ้น...   
หัวข้อ: Re: เส้นใหญ่ ดีกว่า เส้นเล็ก จริงหรือ
เริ่มหัวข้อโดย: TEP-DIY ที่ 04 ธันวาคม, 2007, 10:48:54 pm
แนะนำให้ใช้เส้นเล็กๆ หลายๆเส้นแล้วนำมาถักเป็นเส้นเดียวกันครับ ในส่วนของ GND สัญญาณ เพราะพวก noise จะเป็นพวก High frequency ได้แก่ พวกสัญญาณ radio,oscillate ต่างๆ

ส่วน GND ไฟเลี้ยงวงจรควรใช้เส้นใหญ่ต่อตรง capacitor filter ครับ  เพราะกระแสไฟที่ตีกลับมา มีกระแสสูงตรงจุดนี้ครับ


เคยสังเกตุหม้อแปลงแกนเฟอร์ไรท์ใน switching มาครับ ที่กำลังวัตต์สูง  ว่าทำไมเค้าถึงไม่ใช้เส้นลวดเส้นใหญ่ ๆ แค่เส้นเดียว มาพันหม้อแปลง switching หล่ะ เพราะที่ความถี่ high frequency กระแสไฟฟ้าจะวิ่งที่ผิวของตัวนำครับ เราจึงจำเป็นต้องสายไฟหลายเส้นมาถักเป็นเส้นเดียวกัน ยิ่งพื้นที่ผิวมากยิ่งดีครับ


ที่ย่านความถี่เสียง (0-20kHz)
สายลำโพงก็เช่นกันเส้นฝอย จะให้ผลการตอบสนองที่ความถี่สูงดีกว่า
สายลำโพงทองแดงเส้นใหญ่ จะให้ผลการตอบสนองที่ความถี่ต่ำที่ดีกว่า
หัวข้อ: Re: เส้นใหญ่ ดีกว่า เส้นเล็ก จริงหรือ
เริ่มหัวข้อโดย: Davit ที่ 04 ธันวาคม, 2007, 11:02:29 pm
ก็เราเชื่อว่ากระแสมันวิ่งที่ผิวของตัวนำไงล่ะ...ที่นี้ถ้าเราต้องการให้กระแสไหลมากๆเราก็ต้องเพิ่มพิ้นที่ผิวมากๆๆ  ครั้นจะทำใช้แกนเดี่ยวมันก็ต้องใหญ่มากสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ

ก็เลยต้องใช้เส้นเล็กๆมาตีเกลียวเพื่อแก้ปัญหา
หัวข้อ: Re: เส้นใหญ่ ดีกว่า เส้นเล็ก จริงหรือ
เริ่มหัวข้อโดย: Dash ที่ 05 ธันวาคม, 2007, 11:27:41 am
การใช้ สายกราวน์ทองแดง เส้นใหญ่มาก ตัวอย่าง 4 mm. กับ เส้นทองแดงธรรมดา 1.5mm. เดินในวงจร แอมป์ หลอด มีผลกับ เสียงที่ได้ มากน้อยแค่ไหน ครับ ขอผู้รู้ช่วยแชร์ประสพการณืให้ฟังหน่อย

ผมเอาเส้นเล็กตีเกลียวจะได้พื้นที่ผิวมากขึ้น...   


เห้นด้วยครับ
หัวข้อ: Re: เส้นใหญ่ ดีกว่า เส้นเล็ก จริงหรือ
เริ่มหัวข้อโดย: พริกไทย ที่ 08 ธันวาคม, 2007, 06:31:42 pm
แนะนำให้ใช้เส้นเล็กๆ หลายๆเส้นแล้วนำมาถักเป็นเส้นเดียวกันครับ ในส่วนของ GND สัญญาณ เพราะพวก noise จะเป็นพวก High frequency ได้แก่ พวกสัญญาณ radio,oscillate ต่างๆ

ส่วน GND ไฟเลี้ยงวงจรควรใช้เส้นใหญ่ต่อตรง capacitor filter ครับ  เพราะกระแสไฟที่ตีกลับมา มีกระแสสูงตรงจุดนี้ครับ


เคยสังเกตุหม้อแปลงแกนเฟอร์ไรท์ใน switching มาครับ ที่กำลังวัตต์สูง  ว่าทำไมเค้าถึงไม่ใช้เส้นลวดเส้นใหญ่ ๆ แค่เส้นเดียว มาพันหม้อแปลง switching หล่ะ เพราะที่ความถี่ high frequency กระแสไฟฟ้าจะวิ่งที่ผิวของตัวนำครับ เราจึงจำเป็นต้องสายไฟหลายเส้นมาถักเป็นเส้นเดียวกัน ยิ่งพื้นที่ผิวมากยิ่งดีครับ


ที่ย่านความถี่เสียง (0-20kHz)
สายลำโพงก็เช่นกันเส้นฝอย จะให้ผลการตอบสนองที่ความถี่สูงดีกว่า
สายลำโพงทองแดงเส้นใหญ่ จะให้ผลการตอบสนองที่ความถี่ต่ำที่ดีกว่า
อย่างนี้ต้อง เอาสองเส้นขนานกัน จะได้ตอบสนองความถี่ได้ ดีทั้งสองย่าน
หัวข้อ: Re: เส้นใหญ่ ดีกว่า เส้นเล็ก จริงหรือ
เริ่มหัวข้อโดย: มุมคนรักหลอด ที่ 08 ธันวาคม, 2007, 08:30:18 pm
อย่างนี้ต้อง เอาสองเส้นขนานกัน จะได้ตอบสนองความถี่ได้ ดีทั้งสองย่าน
[/quote]

  เกือบถูกครับ
หัวข้อ: Re: เส้นใหญ่ ดีกว่า เส้นเล็ก จริงหรือ
เริ่มหัวข้อโดย: Tube Collector ที่ 09 ธันวาคม, 2007, 12:13:27 am
ไม่ค่อยเห็นด้วยกับความเห็นบางอัน
ผลของความถี่มีความเกี่ยวพันกับ ค่า C และค่า L   การลดลงที่ - 3dB ทั้งความที่ตำและความที่สูงขึ้นอยู่กับความถี่ Resonance  ของ R C
การพันลวดเล็กๆเป็นกลุ่มเป็นการเพิ่มค่า C  ขนาดลวดที่เปลี่ยนไปจาก 5mm เป็น 1.5mm  ไม่มีผลโดยนัยยะ สำคัญต่อความถี่ตำได้มากนัก
หัวข้อ: Re: เส้นใหญ่ ดีกว่า เส้นเล็ก จริงหรือ
เริ่มหัวข้อโดย: Tube Collector ที่ 09 ธันวาคม, 2007, 12:22:49 am
ค่า C ที่จะมีผลโดยนัยยะสำคัญต่อความถี่สูงหรือความถี่วิทยุ  ตั้งแต่ความถี่ 10MHz ( 10,000,000 Hz)เป็นค่าค่อนข้างสูง อย่างน้อย  0.01 uF  to 0.001uF  จะสังเกตได้ว่า ผู้ออกแบบวงจรชอบใช่ 0.1uF ที่ภาคจ่ายไฟ  เพื่อ Bypass ความถี่สูงที่ไฟกระแสตรง  ถ้วใช้เครื่องวัด L อย่างถูกมาวัด ค่า L ในเส้นลวดสองเส้นต่างขนาดกันที่ความยาวเท่ากัน L ต่างกันไม่มากนัก
หัวข้อ: Re: เส้นใหญ่ ดีกว่า เส้นเล็ก จริงหรือ
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.Q ที่ 09 ธันวาคม, 2007, 01:07:54 am
แนะนำให้ใช้เส้นเล็กๆ หลายๆเส้นแล้วนำมาถักเป็นเส้นเดียวกันครับ ในส่วนของ GND สัญญาณ เพราะพวก noise จะเป็นพวก High frequency ได้แก่ พวกสัญญาณ radio,oscillate ต่างๆ

ส่วน GND ไฟเลี้ยงวงจรควรใช้เส้นใหญ่ต่อตรง capacitor filter ครับ  เพราะกระแสไฟที่ตีกลับมา มีกระแสสูงตรงจุดนี้ครับ


เคยสังเกตุหม้อแปลงแกนเฟอร์ไรท์ใน switching มาครับ ที่กำลังวัตต์สูง  ว่าทำไมเค้าถึงไม่ใช้เส้นลวดเส้นใหญ่ ๆ แค่เส้นเดียว มาพันหม้อแปลง switching หล่ะ เพราะที่ความถี่ high frequency กระแสไฟฟ้าจะวิ่งที่ผิวของตัวนำครับ เราจึงจำเป็นต้องสายไฟหลายเส้นมาถักเป็นเส้นเดียวกัน ยิ่งพื้นที่ผิวมากยิ่งดีครับ


ที่ย่านความถี่เสียง (0-20kHz)
สายลำโพงก็เช่นกันเส้นฝอย จะให้ผลการตอบสนองที่ความถี่สูงดีกว่า
สายลำโพงทองแดงเส้นใหญ่ จะให้ผลการตอบสนองที่ความถี่ต่ำที่ดีกว่า
เห็นด้วยครับ นี่คือหลักการที่ถูกต้องครับ ไม่เชื่อทดลองดูได้ครับ
หัวข้อ: Re: เส้นใหญ่ ดีกว่า เส้นเล็ก จริงหรือ
เริ่มหัวข้อโดย: WIM ที่ 09 ธันวาคม, 2007, 01:31:24 am
ยังไม่ได้เปิดตำราดู เท่าที่เข้าใจ(ไปเอง) ตัวนำใหญ่ๆถ้ากระแสไหลเยอะๆมันก็เกิดสนามแม่เหล็กวนรอบตัวนำสนามแม่เหล็กก็จะไปเหนี่ยวนำอิเล็กตรอนเกิดเเรงผลักไปที่ผิว เป็นที่มาของ skin dept effect ในตัวนำโลหะตัวที่เป็นพาหะคืออิเล็กตรอนดังนั้น จึงเหมือนกับว่ามันนำไฟฟ้าที่ผิวได้ดีกว่าตรงกลาง ทางเเก้ก็ทำเป็นฝอยหรือแผ่นบาง(เช่นสายลำโพงบางยี่ห้อ) พูดถึงการนำมาเป็นสายกราวนด์ที่เป็นทางที่กระแสวิ่งมารวมกันจึงเป็นทางออกที่ดีหากใช้ star ground