HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม Thai DIY Audio => ข้อความที่เริ่มโดย: AMP150 ที่ 12 มีนาคม, 2008, 02:08:35 pm
-
ใช้เบอร์เอาท์พุท 5200/1943 แล้วฟิวส์ขาด ขนาน 2คู่ก็ยังเป็น แต่ใช้ของโมโตก็ปกติดีครับ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร หรือเป็นเพราะถอดซีฟิดแบค(เครื่องเดิมถอดออกก็ไม่เป็นไร)
-
มันออสซิลเลตรึเปล่าครับ c ที่ว่าต่ออนุกรมหรือขนานกับ R อ่ะคับ :black_eye
-
ลองเข้าไปดูlinkข้างล่างผมpostไว้ใช้ทรานซีสเตอร์ของtoshiba ข้างละ8คู่ยังไม่เป็นอะไรเลยครับ ที่ขาบีมีอาร์ค่า10โอมห์ต่อไหมแล้วก็ขาอีมีอาร์5วัตต์ต่อไหม เวลาลองควรยังไม่ต้องป้อนสูงเลยที่เดียวควรป้อนซัก24โวลท์ดีซี
http://www.htg2.net/index.php?topic=23570.0
-
เอ็มเอ200 มันไม่มีอาร์อีมิเตอร์ที่เอาท์พุทครับ คือผมใช้แบบจานบินวงจรมันก็เสถียรดีมาก ใช้หลายชั่วโมงก็ไม่เสีย แต่พอเปลี่ยนเป็น5200 มันก็ใช้ได้5 นาที ฟิวส์ภาคจ่ายไฟก็ขาดครับ ไม่รู้ว่ามันเป็นอะไร ซีที่ถอดออกคือซีกันออซิเลทครับ เพราะวงจรเดิมใส่เป็นตับเลยเสียงอืดมากๆ ไม่ทันใจขาร๊อคเลย ถอดออกแล้วใช้กับจานบินไม่เห็นมันจะเป็นอะไรเลย
-
คิดว่าพวกตัวถังจานบิน hfe มันอาจจะไม่สูงครับ พอเปลี่ยนเป็นตัวที่ใหม่กว่า hfe สูงขึ้นมันเลย oscillate มั้งครับ :headphone
-
เอ็มเอ200 มันไม่มีอาร์อีมิเตอร์ที่เอาท์พุทครับ คือผมใช้แบบจานบินวงจรมันก็เสถียรดีมาก ใช้หลายชั่วโมงก็ไม่เสีย แต่พอเปลี่ยนเป็น5200 มันก็ใช้ได้5 นาที ฟิวส์ภาคจ่ายไฟก็ขาดครับ ไม่รู้ว่ามันเป็นอะไร ซีที่ถอดออกคือซีกันออซิเลทครับ เพราะวงจรเดิมใส่เป็นตับเลยเสียงอืดมากๆ ไม่ทันใจขาร๊อคเลย ถอดออกแล้วใช้กับจานบินไม่เห็นมันจะเป็นอะไรเลย
แล้วลองป้อนไฟต่ำก่อนไหมที่ลอง.. ฟิวส์ขาดทรานซีสเตอร์ตัวใหญ่(5200)ช็อทไหมครับ.
-
ได้วงจรการต่อทรานซีสเตอร์เอาท์พุท
-
วงจรเดิมของma200 นั้นใช้ทรานซิสเตอร์คู่เดียว และไม่มีตัวต้านทานที่ขาอิมิเตอร์จริงครับ
แต่ผมว่าวงจรลักษณะนี้ควรใช้กับทรานซิสเตอร์แค่คู่เดียว ที่ใช้จานบินมันไม่เป็นไร เพราะจานบินแค่คู่เดียวก็เอาอยู่(250วัตต์)
ขนานไปดื้อๆแบบนั้น ผมว่ามีแค่คู่เดียวที่ทำงานจริงๆ
แต่5200/1943 บอบบางกว่าจานบินเดิมมาก(150วัตต์) ขนานแบบนั้น แล้วมีแค่คู่เดียวที่ทำงานจริงๆ มันก็ขาดใจตายแน่ครับ
ถ้าอยากขนานทรานซิสเตอร์หลายๆคู่ จำเป็นครับที่ต้องใส่ตัวต้านทานที่ขาอิมิเตอร์ เพื่อให้ทรานซิสเตอร์ทุกคู่ได้ทำงานจริงๆ
ต่อตามวงจรบ้างบนเถอะครับ ถ้ารักจะขนานทรานซิสเตอร์
-
อ้อ ลืมไปครับ ถ้าต่อตัวต้านทานที่ขาอิมิเตอร์แล้ว ต้องปรับไบแอสใหม่ด้วยนะครับ
ไบแอสเท่าใหร่ก็วัดโวลท์ที่ตกคร่อมตัวต้านทานอิมิเตอร์นั่นละครับ I=V/R
I-กระแสไบแอส
V-โวลท์ที่ตกคร่อมตัวต้านทานอิมิเตอร์
R-ค่าของตัวต้านทานอิมิเตอร์ที่ใช้
ลองค่อยๆปรับดูทีละนิดว่าชอบกระแสไบแอสขนาดไหน
-
ไปซื้ออาร์มาแล้ว มันมี2แบบคือ แบบกระเบื้องขาวๆแบบธรรมดา กับแบบไวน์วาวตัวสีเขียว(แพงกว่า) ไม่รู้ว่าแบบไหนเสียงดีกว่ากันครับ
-
ไม่รู้ครับว่าตัวไหนดีกว่า......แป่ว ถ้าเอาแบบที่krelใช้ รู้สึกจะใช้ยี่ห้อ dale นะครับ แต่มันแพงอะ
ไหนๆก็ซื้อมาแล้ว ก็ลองทั้ง 2 แบบเลยดิครับ ดูว่าอันไหนดีกว่าก็เอาอันนั้น แต่โดยทั่วไปใช้แบบกระเบื้องครับ นัยว่าทนความร้อนได้ดีกว่า
อีกแบบที่น่าสนใจก็ใช้ R คาร์บอน 2 W ขนานกัน หรือไม่ก็ R เมทัลฟิลม์ 3 Wขนานกัน
มีอะไรให้เล่นตั้งเยอะแน่ะครับ
-
ต่อเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ ใส่อาร์อีมิตเตอร์ 0.22 5วัตต์ และซีฟีดแบคของสไตโรเฟลค ค่า 5 พิโก เสียงออกมากใสดีมาก แต่เสียที่เสียงทุ้มไม่ค่อยมีพลังเท่าไรเหมือนคู่ของโมโต (ขนาน 2 คู่เหมือนกัน) :showoff :showoff
-
เท่าที่เคยอ่านการtest แอมป์รุ่นที่ใช้5200/1943 ก็ไม่ค่อยเด่นด้านเบสนะครับ
ถ้าเอาแบบเบสดี เห็นเขาว่าของsanken ก็ไม่เลวนะครับ
อีกวิธีที่ผมเคยลองเองเลยคือ หาCยี่ห้อ nippon chemicon มาใช้ในภาคจ่ายไฟครับ ถ้าได้ audio grade ตัวหนังสือสีทองยิ่งดี
อาจจะหาค่าสูงๆยากครับ ก็ลองขนานกับของเดิมดูครับ
C ยี่ห้อนี้ให้เบสที่ผมยังยกให้เป็นที่หนึ่งเลยเท่าที่เคยใช้มา และหาไม่ยากในบ้านเรา
และ krell ก็ใช้ C ยี่ห้อนี้อีกเช่นกันครับ
-
แล้วของซันโยเบอร์ 817/1047 คู่ 100 วัตต์(ขนาน 2คู่เอา) จะดีกว่าหรือไม่ครับ
-
เอ่อ คือ ถ้าเบสยังไม่ถูกใจ ผมว่าถ้าจะเปลี่ยน น่าจะลองดูตัวที่มันปึ้กขึ้นน่าจะชัวร์กว่านะครับ
แต่ เอ..ผมเองก็ไม่เคยได้ยิน ซันโยเบอร์ 817/1047 เลยนะครับ
รบกวนขอรหัสแต่ละตัวแบบเต็มๆได้ป่าวครับ ผมเองก็อยากดู datasheet มันเหมือนกัน