HTG2.club

Home Theater Guide webboard => มุม โฮมเธียเตอร์ (HT) => ข้อความที่เริ่มโดย: Help !!! ที่ 29 พฤษภาคม, 2005, 05:42:19 am

หัวข้อ: DSP Yamaha เจ๋งจริงหรือ
เริ่มหัวข้อโดย: Help !!! ที่ 29 พฤษภาคม, 2005, 05:42:19 am
 เวลาเปิด ไปที่ DSP แล้ว เสียง Surround ด้านหลังมันก้องๆ ยังไงไม่รู้ฟังไม่เป็นธรรมชาติเลยครับ เลือกแบบ Theater 1 หรือ Adventure เลือกหลายรูปแบบ เสียงสู้แบบ Normal ไม่ได้เลยครับ  เพื่อน สมาชิกว่าไงครับ

PP
หัวข้อ: Re: DSP Yamaha เจ๋งจริงหรือ
เริ่มหัวข้อโดย: Hidden RH1N0 ที่ 29 พฤษภาคม, 2005, 08:25:55 am
อุ อุ .... อันนี้คงแล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล มั๊งครับ ..... ยี่ห้ออื่นๆ เค๊าก้อมี DSP เหมือนกัน.... เผื่อไว้สำหรับผู้ใช้ ที่ชอบแบบนี้..... หรือไม่ก้อเป็นจุดขาย ว่า ของฉันมีตั้ง xx แบบ ...


ผมใช้ decoder รุ่นเก่า ก้อเลยไม่มี DSP ใช้ครับ .... แหะ แหะ  :-[

.....แต่ถึงมีก้อคงไม่ใช้เหมือนกัน (ยกเว้นเป็นพวก Lexicon  :-[ )  ....  เพราะ เคยลองเอา AVR Yamaha มาลองใช้เป็น decoder อยู่พักนึง ไม่ค่อยถูกใจสักเท่าไร ทั้งใน mode normal หรือ DSP ทั้งหลาย  ยกเว้น แต่ตอนที่ใข้กะ source พวก UBC เนี่ย ออกมาดีพอสมควร เลยโยกย้ายออกไปครับ  .....  :)

หัวข้อ: Re: DSP Yamaha เจ๋งจริงหรือ
เริ่มหัวข้อโดย: Golf ที่ 29 พฤษภาคม, 2005, 10:02:58 am
การใช้ DSP ต้องมีการ setup ให้เข้ากับห้องของเราก่อนด้วยนะคับ ... แล้วน่าจะออกมาได้ค่อนข้างดี  ::)

และการใช้ DSP มันมีให้เลือกนับสิบ ... ผู้ผลิตคงหวังว่าีมีถูกใจเราสักตัวแหละน่า  :P

ของผมเคยเอา Yamaha มาเล่นก็รู้สึกคล้ายกันคับ ว่าหลอกๆ แต่มันก็เป็นสีสรรค์ีดี สร้างความตื่นเต้นในการดูหนังได้ดีพอควรเลย

แต่ตอนนี้ก็ยังคงรัก Harman และใช้งานโดยไม่ใช้ DSP อยู๋คับ (จะมีก็ดู UBC ด้วย Logic7 M อันนี้ไม่น่าจะเรียก DSP) ... ผมรู้สึกว่าใช้ Harman แล้วฟังได้เรื่อยๆ ไ่ม่ตื่นเต้น ไม่หวือหวา แต่เปิดได้ทั้งวันไม่ค่อยเบื่อ เหมาะกับที่ผมจะเอามาใช้ัทั้งฟัง FM, ดู UBC และก็ DVD (ใช้แทบจะทั้งวัน อุๆๆ)

อีกยี่ห้อที่ DSP ใช้ได้ดีเหมือนกันคือ Sony ครับ ... Cinema A, Cinema B, Cinema C ... ของ Sony ก็เจ๋งจิง คร้าบบบบบ  ;D
หัวข้อ: Re: DSP Yamaha เจ๋งจริงหรือ
เริ่มหัวข้อโดย: JBC ที่ 29 พฤษภาคม, 2005, 10:29:34 am
YAMAHA เค้ามีชื่อเสียงมาตั้งแต่สมัยยังไม่มี Pro Logic น่ะครับ (ตอนนั้นผมยังชอบวิทยุติดรถบนต์ของเค้าเลย) คือเค้าทำมานานมาก และทำโดยไปวัดค่าเสียงสะท้อนต่าง ๆ ตามสถานที่จริง แล้วเอามาใส่ในเครื่อง ถ้าเอา sterro 2 ch มาฟัง ก็จะได้บรรยากาศเหมือนไปฟังตามสถานที่เหล่านั้น ต่อมา ก็มีการเสริมแต่งเข้าไปกับระบบเสียงของภาพยนต์ด้วย
ส่วนผมใช้ marant กับ hk ใช้ DSPแล้วไม่ถูกใจ ไม่ว่าดูหน้งหรือฟังเพลง เพราะไม่ว่า mode ไหน ก็คล้าย ๆ กันไปหมด แต่สมัยใช้ pioneer รู้สึกว่า DSP เค้าก็ดีเหมือนกัน ได้บรรยากาศไปอีกแบบเวลาเอาเพลงมาเปิด

สุดท้ายแล้ว ก็ไม่ใช้เลย เพราะค่าเสียงสะท้อนในห้องของเรา ก็ได้บรรยากาศพอเิพียงแล้วครับ

ขึ้นอยู่กับรสนิยมส่วนบุคคลนะครับ
หัวข้อ: Re: DSP Yamaha เจ๋งจริงหรือ
เริ่มหัวข้อโดย: Help !!! ที่ 30 พฤษภาคม, 2005, 06:50:51 am
ผมเลือกใช้ dsp เฉพาะด้านหลังครับ   ไม่ใช้รู้สึกเสียงมันแห้งไป   คงเกี่ยวกับสภาพห้องแต่ละคนด้วย  ของคุณเจ้าของกระทู้ ห้องด้านหลังอาจจะสท้อนเสียงดีมากๆอยู่แล้ว  อันนี้ก็ไม่ต้องใช้ dsp ครับ

ปรัศนีย์
หัวข้อ: Re: DSP Yamaha เจ๋งจริงหรือ
เริ่มหัวข้อโดย: โต้ง ช.ม. ที่ 30 พฤษภาคม, 2005, 11:08:51 am
DSP เคยใช้หลายตัวเหมือนกันครับ ส่วนใหญ่ผมว่าอยู่ที่แหล่งโปรแกรมว่าดีขนาดไหน ถ้าดูหนังจากดีวีดีหรือฟังเพลงจากซีดี ผมไม่ใช่เด็ดขาดครับ เพราะว่าทำให้เสียงฟุ้ง มั่ว แต่ถ้าเล่นเกมส์จากเพลย 2 ต่อเข้าเอวี แล้วใช้ดีเอสพีบางตัว กลับออกมาดีครับ มันส์ดี ได้อารมณ์ไปอีกแบบ
หัวข้อ: Re: DSP Yamaha เจ๋งจริงหรือ
เริ่มหัวข้อโดย: RP7 ที่ 30 พฤษภาคม, 2005, 06:12:50 pm
เมื่อก่อนผมก็ไม่ชอบใช้ DSP เหมือนกันครับ มันก้องๆแปลกๆไม่เป็นธรรมชาติแบบที่เจ้าของกระทู้ว่า

แต่หลังจากมาคบกับ Cinema A ของ Sony แล้ว เวลาดูหนังต้องเปิดทุกครั้งครับ ไม่งั้นรุสึกเหมือนไม่ได้เข้าโรงหนังครับผม  ::)
หัวข้อ: Re: DSP Yamaha เจ๋งจริงหรือ
เริ่มหัวข้อโดย: Help !!! ที่ 30 พฤษภาคม, 2005, 08:06:41 pm
 ใช้ยามาฮ่า รู้สึกประทับใจกับโปรแกรม DSP มันช่วยทำให้บรรยากาศในการรับชมดูสมจริงขึ้น สำหรับผม.. :-)

guest
หัวข้อ: Re: DSP Yamaha เจ๋งจริงหรือ
เริ่มหัวข้อโดย: นายป่วน ที่ 31 พฤษภาคม, 2005, 03:10:01 pm
ที่รู้สึกก้องมากเพราะมีการตั้งค่า delay time หน่วงเวลาไว้เยอะ ให้ปรับโดยค่อยๆลดลงมาทีละน้อย.จนรู้สึกไม่มากไม่น้อยพอเหมาะ....ทุกๆ mode ในdsp จะมีการตั้งค่า delay time ไว้ต่างกันเพื่อสร้างสนามเสียงเลียนแบบสถานะการณ์ให้ใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด..เครื่องที่ราคาแพงๆ ก็ยังมีdelay time ให้เลือกใช้ การที่เครื่องมีมาให้ไม่ได้หมายความว่าไม่ดี..แต่ต้องรู้จักใช้ให้เหมาะสมกับสภาพห้องนั้นๆด้วยการปรับตั้งค่าเสียใหม่ ซึ่งค่าเหล่านี้จึงไม่ได้ล็อคไว้ตายตัว เพราะเขารู้ว่าสภาพห้องคนฟังแต่ละคนไม่เหมือนกัน..ที่เขาเซ็ทมาให้ในเครื่องนั้นเป็น sample เท่านั้นเอง..แต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยเข้าไปยุ่งกับมัน...จริงๆควรปรับใช้ให้เหมาะสมจึงจะถูกวัตถุประสงค์ที่เขาสร้างมา...