HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม Thai DIY Audio => ข้อความที่เริ่มโดย: Diy Project Seeker © ที่ 20 เมษายน, 2008, 08:43:33 pm
-
พอดีผมอยากลองพัน OPT ใช้ครับ ขนาดแกนที่ผมชื้อมาดองไว้นานแล้วคือ 25 x 25 ครับ ผมกะจะทำ 2.85K : 8 ตามตำราผมคำนวณด้าน Primary ได้ 1750 รอบ และ secondary ได้ 93 รอบ ลวดที่ผมจะใช้คือเบอร์ 34 สำหรับ primary และ 27 สำหรับ secondary และผมอยากจะพันแบบ interleaving ผมอยากทราบว่า การพันแต่ละชั้นนั้นการเรียงเส้นจำเป็นแค่ใหนที่แต่ละเส้นจะต้องเรียงกันชิดมากๆและต้องให้เต็มหน้ากว้างของ bobbin ก่อนที่จะพันต่อชั้นต่อไป
ผมกำลังจะพัน 1750 รอบซึ่งลวดเบอร์ 34 มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.228 หน้ากว้างของ bobbin ที่ผมวัดได้คือ 33 มม. เท่ากับว่าผมจะต้องพัน 144 รอบต่อชั้นและพัน 13 ชั้น หรือว่าผมควรพันให้มันหลวมหน่อยโดยใช้ 125 รอบต่อชั้นแล้วพัน 14 ชั้นครับ สำหรับขด secondary ลวดเบอร์ 27 มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.406 ซึ่งถ้าพันแบบแน่นๆ แต่ละชั้นจะพันได้ 81 รอบครับ ถ้าผมจะทำ interleaving 3 ชั้น ผมสามารถพัน 30-30-33 ได้ใหมครับ แต่นั่นหมายถึงแต่ละชั้นของ secondary ลวดจะมีช่องไฟห่างกันมากเลยครับ มันจะเป็นอะไรใหมครับ
ผมกำลังจะลองพันด้วยเครื่องนี้ครับ ;)
-
การเลียงเส้นที่ชิดกันจะไม่ทำไห้หม้อแลงสั่นครับ..บางคนเคลือบน้ำยาในแต่ละชั้นเลย...ผมพันตัวแลกไม่เรียงเส้นทดสอบด้วย sine wave ดังสนั่น...การอินเตอร์รีบจะช่วยให้หม้อแปรงตอบสนองความถีได้ดีขึ้น..มากไปก็ทำอยากต่อสายลำบากครับ ผมให้ความสำคัญอย่างมากคืออย่าให้มีช่องว่างบน bobbin ครับ :)
-
ในกรณีที่ผมยกตัวอย่างเป็นคุณ Jay จะพันอย่างไรครับ คือถ้าไม่ให้มีช่องว่างบน bobbin เลยขด primary คงทำได้ครับ แต่ถ้าต้องทำ interleaving ส่วนของขด secondary จะพันอย่างไรครับ :help
-
ก็ปรับเป็น 31- 31-31 ครับ
-
ก็ปรับเป็น 31- 31-31 ครับ
ขอบคุณมากครับคุณ Jay แต่มันจะมีช่องไฟระหว่างเส้นลวดมากสิครับ หรือว่าพันให้มันชิดๆกันแล้วปล่อยพื้นที่เหลือทิ้งไว้ครับ :help
-
ลองเปลี่ยนเป็นขนานขด sec เช่นทำ 3 ชั้น ก็ 93//93//93 ถ้าลวดเบอร์ 27 มันไม่ลงหมดก็ลองลดเบอร์ลวดสักเบอร์ครับ รอบต่อชั้นที่ได้มาจากการลองพันจริงใช่มั้ยครับ เพราะคำนวณกับพันจริงมันจะต่างกันบ้าง :)
-
ใช้ครับผมจะลองพันจริงก่อนโดยเริ่มจาก sec เต็มได้กี่รอบ และตามด้วย pri เต็มได้กีรอบแล้วค่อยมาคำนวลครับ..ถ้ามันเหลือจริงๆให้อยู่นอกสุดครับ อาจเป็น 28 28 35 เป็นต้อน
-
ลองเปลี่ยนเป็นขนานขด sec เช่นทำ 3 ชั้น ก็ 93//93//93 ถ้าลวดเบอร์ 27 มันไม่ลงหมดก็ลองลดเบอร์ลวดสักเบอร์ครับ รอบต่อชั้นที่ได้มาจากการลองพันจริงใช่มั้ยครับ เพราะคำนวณกับพันจริงมันจะต่างกันบ้าง :)
หมายถึงเอา 93 มาขนานกัน 3 เส้นเลยเหรอครับ
คือผมทำเครื่องพัน แบบ CNC ครับ ตอนนี้ทดลองพันได้แล้วผมใช้การคำนวณแล้วป้อนจำนวณรอบและหน้ากว้างของ bobbin เข้าไปแล้วให้มันทำงานเองครับ จากที่ทดลองผมพัน 130 รอบจึงทำให้มีช่องไฟระหว่างขดลวดบ้างครับ
-
Pri ทั้งหมด อนุกรม sec ทั้งหมดขนาน แต่ทั้งนี้ไม่มีกฏเกณฑ์ตายตัวครับ เช่น sec อาจจะผสมระหว่าง ขนาน กับ อนุกรม
แต่ยึดหลักให้อัตราส่วนรอบระหว่าง Primary กับ secondary ได้ตามที่เราต้องการ
เอาเป็นว่าทำงัยให้ใช้พื้นที่ใน BB ให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด
ส่วนการที่พันเรียงเส้นเป็นระเบียบ ก็จะทำให้ OPt ที่ได้มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับค่าที่เราคำนวณจากสูตรไว้ครับ :)
แต่ถ้ามีเครื่องหยั่งนี้ O0
ลองไปเลยครับ ได้หลายรูปแบบ แล้วเอามาลองฟังดู บางที่อาจจะได้เสียงที่เราชอบก็ได้นะครับ
-
หรือไม่ก็ลองสร้าง bobbin ให้ match กับรอบที่เราคำนวณเองสิครับ จะได้ไม่ต้องไปปรับที่ลวด
-
ขอบคุณคุณเด็กๆและอาจารย์มดมากๆครับสำหรับคำแนะนำ ช่วงนี้ผมคงลองผิดลองถูกไปก่อนครับ
เมื่อวานรื้อพันใหม่ครับ ใช้ 125 รอบต่อชั้น ทดลองที่ความเร็ว 80 รอบต่อนาที เรียงเส้นได้สวยดีแล้วครับ ตอนนี้กลัวอย่างเดียวคือมันจะล้น bobbin ครับ K] K]
-
ใช้โปรมแกรมอะไรครับ
-
ลองพันจริงก่อนโดยเริ่มจาก sec เต็มได้กี่รอบ
O0 O0 แล้วก็พัน prim ว่าได้กี่รอบต่อชั้น เอาข้อมูลการพันนี้แหละไปคำนวณจำนวนรอบใหม่แต่เอาแบบพันเต็มๆ อย่างนี้แหละครับทั้ง prim และ sec ไม่ต้องเป็นห่วงมากนักว่าจะไม่ได้อัตราส่วนเป๊ะๆ ตามที่อยากจะได้เพราะอัตราส่วนอิมพีแดนซ์ที่แตกต่างไปเล็กน้อยผมคิดว่าจะไม่มีผลต่อการทำงานของหลอดมากนักหรอกครับ เมื่อได้อย่างนี้จะทำให้ดีต่อการวางเส้นลวดโดยเฉพาะที่อยู่ขอบๆ ลวดจะไม่ตกขอบ การทำพันลวดแบบห่างเพื่อให้เต็มหน้ากว้างของบ๊อบบิ้นข้อเสียอีกอย่างคือ ลวดจะลงไปในร่องถ้าเราดึงลวดให้ตึงๆ แม้ว่าเราจะรองด้วยฉนวนแล้วก็ตามครับ
การพันลวดให้เต็มทั้ง prim และ sec ผมมองว่าจะทำให้ค่า leakage inductance ต่ำกว่าพันลวดไม่เต็มครับ ยกตัวอย่างเหมือนมีคนยืนอยู่ 3 แถว แถวที่ 1 และ 3 เป็น prim แถวที่ 2 ยืนอยู่ตรงกลางแต่ยืนไม่เต็มแถวเป็น sec ทีนี้ให้คนที่ 1 และ 3 ยื่นของให้คนแถวกลาง คนในถวที่ 1 และ 3 ที่อยู่เกินจากคนที่อยู่ในแถวที่ 2 ไม่รู้จะยื่นของให้ใคร ? เปรียบเหมือนเส้นแรงแม่เหล็กที่ออกจาก pri แล้วไม่สามารถ link ไปหาขด sec ได้ทั้งหมดนั่นแหละครับ :)
-
คุณprasanเข้าใจอธิบายนะครับ :secret ทำให้ผมซึ่งไม่เคยเรียนไฟฟ้ามายังเข้าใจเลย O0
-
ขอบคุณคุณ Prasan มากๆครับ ผมจะลองไปพันดูนะครับ
มีวิธีอะไรที่จะตรวจสอบว่าจำนวนขดลวดของเราจะล้น bobbin ใหมครับ
กระดาษรองชั้นใช้แบบใหนครับ ผมไปขอกระดาษรองขนมปังที่ Yamazaki มาใช้ เห็นมันบางดีครับ ไม่ทราบจะเหมาะใหมครับ แต่ที่รู้ๆใช้ๆไปอาจหอมชวนกินก็ได้ :D :D ;D ;D
-
ขอบคุณคุณ Prasan มากๆครับ ผมจะลองไปพันดูนะครับ
มีวิธีอะไรที่จะตรวจสอบว่าจำนวนขดลวดของเราจะล้น bobbin ใหมครับ
กระดาษรองชั้นใช้แบบใหนครับ ผมไปขอกระดาษรองขนมปังที่ Yamazaki มาใช้ เห็นมันบางดีครับ ไม่ทราบจะเหมาะใหมครับ แต่ที่รู้ๆใช้ๆไปอาจหอมชวนกินก็ได้ :D :D ;D ;D
ให้นำความหนาของแต่ละชั้นมารวมกันและนำความหนาของกระดาษหรือฉนวนที่รองระหว่างลวดแต่ละชั้นมารวมด้วยครับ แล้วเอาตัวเลขความหนาทั้งหมดที่รวมได้มาเปรียบเทียบกับความกว้างของช่องแกนเหล็กที่จะสวมบ๊อบบิ้นเข้าไปหรือก็คือความสูงของปีกบ๊อบบิ้นนั่นแหละครับ จากประสบการณ์ให้เผื่อความหนาไว้สัก 4 mm. หมายถึงรวมความหนาทั้งหมดแล้วให้ได้น้อยกว่าความสูงของปีกบ๊อบบิ้นสัก 4 mm. ครับจะได้ไม่ล้นแกนครับ ความหนาก่อนการพันที่ได้จากการคำนวณกับความหนาจากการพันจริงมันไม่เท่ากันหรอกครับ
-
ผู้เชี่ยวชาญมาตอบแล้วครับ :clap :clap :clap
ส่วนเรื่องล้นแกนเอาความโตลวดแต่ละชั้นคูณจำนวนชั้นที่จะพัน+ความหนาฉนวนที่ใช้รองระหว่างชั้นคูณจำนวนชั้นที่จะใช้ จะได้ความลึกของบ็อบบิ้นที่ต้องใช้
แต่หากในการพันจริง ไม่ควรใช้ความลึก BB เกิน 90 %ของที่วัดได้ จริงสัก 80-85% ก็ชัวร์ดี
เช่น วัด BB ที่ใช้ได้ลึก 10 มิล เวลาคำนวนลวด+ฉนวน รวมควรไม่เกิน 9 มิลครับ
แต่หาจำเป็น ลองเอาแกนเสียบใน BB แล้ววัดที่ว่างดูครับ อาจมาอีก สัก 1-2 มิล
แล้วถ้าพันไปแล้วมันเสียบแกนแล้วเบียดจริง ก็เอามาบีบค่อย ๆ ด้วยปากกาจับเหล็ก (แต่ไม่บีบดีกว่าครับ เอาไว้มันยัดไม่ลงจริง ๆ ไม่งั้นต้องพันใหม่ ) :)
แต่ผมก็ไม่เคยบีบนะ อาศัยเบียด ๆ เอา ;D
-
ตอบช้าไปหน่อย อีกอย่างรบกวนคุณ DIY Project Seeker ช่วยวัดความหนาของกระดาษ yamazaki ให้หน่อยนะครับ อยากรู้
-
ขอบคุณคุณ Prasan และคุณ Dekdek อีกครั้งครับ ผมจะลองเอาไปทำตามนะครับ
เมื่อกี้ผมไปลองพันขด primary ต่อจะขด secondary ปรากฎว่ากระดาษ Yamazaki มันบางมากเกินไปครับทำให้ลวด primary ซึ่งเส้นเล็กกว่า secondary เยอะตกลงไปในช่องระหว่างเส้นของขด secondary ทำให้การเรียงเส้นไม่สวยครับ ผมคิดว่าระหว่างชั้น primary กับ secondary ควรใช้กระดาษที่หนามากหน่อย ถูกต้องใหมครับ หรือมีเทคนิกอะไรใหมครับ
คุณ Dekdek ครับ ผมไม่มีเครื่องมือวัดความหนากระดาษครับ ไม่รู้จะวัดให้อย่างไร
-
ผมใช้กระดาษบางสำหรับชั้น Primary ด้วยกัน และกระดาษหนาสำหรับ Pri/Sec ;)
ขอแนะนำเพิ่มเติมนะครับ ลูกต่อไปอยากให้ลองแกนใหญ่กว่านี้ครับ แกนใหญ่ + หนา ได้ผลดีกว่าแต่ทั้งนี้อยู่ที่การวางชั้น Pri/sec และการคำนวณจำนวนรอบด้วยนะครับ :secret
เมื่อกี้ผมไปลองพันขด primary ต่อจะขด secondary ปรากฎว่ากระดาษ Yamazaki มันบางมากเกินไปครับทำให้ลวด primary ซึ่งเส้นเล็กกว่า secondary เยอะตกลงไปในช่องระหว่างเส้นของขด secondary ทำให้การเรียงเส้นไม่สวยครับ ผมคิดว่าระหว่างชั้น primary กับ secondary ควรใช้กระดาษที่หนามากหน่อย ถูกต้องใหมครับ หรือมีเทคนิกอะไรใหมครับ
-
ขอบคุณคุณ Darkman มากครับ สำหรับลูกนี้ผมคงไม่ซีเรียสกับมันมากครับ เอาเป็นว่าพันเพื่อทดลองเครื่องครับ จะพันใช้จริงเมื่อใหร่จะหา bobbin ใหญ่กว่านี้มาใช้ดีกว่าครับ :)
-
รบกวนถามต่ออีกนิดนะครับ
คือว่ายังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องการคำนวนกระแส (I) เพื่อหาขนาดหรือเบอร์ของเส้นลวดทองแดงที่จะใช้พันด้าน Pri. และด้าน Sec. ครับ ขอรบกวนช่วยอธิบายหน่อยครับ :)
ขอบคุณครับ