HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม Thai DIY Audio => ข้อความที่เริ่มโดย: AD1865 ที่ 16 พฤษภาคม, 2008, 01:51:56 pm
-
เพาเวอร์แอมป์ตัวนี้ไม่มีภาคดิฟเฟอเรนเชี่ยล แต่จะใช้หลักการโลคอลเคอเร้นท์ฟี้ดแบ็ค ซึ่งจะไม่นำสัญญาณที่มาจากเอาต์พุตมาควบคุมการขยาย เรียกว่าเหมือนแอมป์หลอด นอนโกลบอลโวลเตจ เนกาทีฝฟี้ดแบ็คเลยก็ว่าได้ เพียงแต่ว่าเป็นวงจรพุชพูลเท่านั้นเอง วงจรแบบนี้ด้านหน้าจะเหมือนแอคคิวเฟส ส่วนด้านหลังจะไม่เหมือนใครเพราะไม่มีการป้อนกลับแบบลบ การป้อนกลับแบบลบถ้าดีก็ดีไป แต่ถ้าเสียก็มีผลมารจากในขณะที่สนามแม่เหล็กในดอกลำโพงยุบตัวลงก็จะส่งสัญญาณย่อนกลับเข้ามาด้วยหรือที่เรียกว่า back emf (กระมัง) ส่งผลให้วงจรทำงานได้ไม่เต็มที่ตามทฤษฎีที่ออกแบบไว้ แต่วงจรที่นำมาแสดงนี้จะไม่มีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น ลองดูนะครับ ค่าภายในวงจรฝรั่งยังไม่ส่งมา วงจรแกะมาจากยี่ห้อ ดาร์ตซีลล์
-
จริงๆ แล้วแอมป์ที่ไม่มีการป้อนกลับนะ ไม่มีในโลกนี้หรอกครับ เพราะการไบแอสพื้นฐาน ต้องมีอาร์อย่างน้อยสุด ก็ 2 ตัว คืออาร์อีมิเตอร์ และอาร์คอลเลคเตอร์ ถ้าเป็นหลอดคืออาร์ที่ขาเพลท และคาโถดนั่นเอง อาร์ทั้งสองตัวจะควบคุมอัตราขยายและป้อนกลับในตัวครับ ต่อให้ไม่ต่ออาร์ที่ขาอิมิตเตอร์ ตัวทรานซิสเตอร์ก็มีสมบัติเป็นอาร์เองในตัวด้วย
ส่วนแอมป์ที่ว่ามานั้นเห็นทางบริษัทตุลาทำออกมาขายนะ ถ้าสะดวกก็ซื้อมาเล่นได้เลย ไม่ต้องมานั่งทำเอง ส่วนตัวเท่าที่เคยสัมผัส ผมว่ามันเป็นแค่การตลาดเท่านั้น เพราะเคยมีคนโฆษณาแอมป์แบบนี้เมื่อ 20 ปีก่อนครับ แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีใครเล่นแล้ว ตัวที่เห็นล่าสุดก็แม็กเน็ต เอ็มเอ400 แต่เห็นว่าเสียงแย่กว่ารุ่นเล็กอย่าง เอ็มเอ300เอฟซึ่งมีการป้อนกลับแบบธรรมดาซะอีก
-
สอบถามเพิ่มเติมครับ ตุลาใช้วงจรนี้เลยหรือครับ ข้างหน้าของตุลาไม่ได้เป็นดิฟเฟอเรนเชี่ยลใช่มั้ยครับ เพราะวงจรนี้ไม่มีดิฟแอมป์
-
น่าจะหลักการเดียวกับ JLH ครับ วงจรคล้ายๆกันด้วย :headphone
-
สอบถามเพิ่มเติมครับ ตุลาใช้วงจรนี้เลยหรือครับ ข้างหน้าของตุลาไม่ได้เป็นดิฟเฟอเรนเชี่ยลใช่มั้ยครับ เพราะวงจรนี้ไม่มีดิฟแอมป์
http://www.tulacom.com/Product/manulaB260.pdf (http://www.tulacom.com/Product/manulaB260.pdf)
-
ดูวงจรของตุลาแล้วคนละแบบเลยครับ วงจรของตุลาดูเหมือน LC AUDIO THE END MILENNIUM แต่ประหยัดวงจร optical bias ไว้เยอะ เรื่องเสียงมันก็เลยไม่นิ่งเพราะไม่มีโวลเตจ ฟี้ดแบ็ค แต่กำหนดอัตราขยายด้วยการควบคุมภาคหน้าแทน และ ข้อที่ต้องแก้ไขอีกหนึ่งอย่างของวงจรนี้คือ จำเป็นต้องใช้บาลานซ์อินพุตเท่านั้น เนื่องจากอินพุตในส่วนกลับเฟสจะเป็นตัวฟี้ดแบ็คควบคุมอัตราขยายของตัวเอง ดังนั้นเมื่อเรานำมาใช้แบบอันบาลานซ์ หรือ rca ก็จะมีการทำงานที่มีคุณภาพต่างกับบาลานซ์อินพุตโดยสิ้นเชิง เพราะไม่มีการฟี้ดแบ็คใดๆ ทั้งสิ้น สังเกตง่ายๆ ได้ครับว่าวงจรลักษณะนี้จะมีอินพุตเป็นบาลานซ์ทั้งนั้นเลย โ ดยมานำไปใช้กับสตูดิโอในส่วนเพลย์แบ็คสัญญาณครับ แต่วงจรนี้สามารถดัดแปลงให้เป็น lc audio ได้ โดยตัดต่อวงจรนิดเดียวครับ เห็นแล้วก็น่าสนเหมือนกัน รู้สึกว่าจะขายไม่แพงด้วยนะเนี่ย