HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม Thai DIY Audio => ข้อความที่เริ่มโดย: tong+ ที่ 16 กันยายน, 2008, 01:10:44 pm
-
อยากทราบว่าหม้อแปลงที่เราเอามาชนกันเพื่อทำไฟสูง
จะได้กระแสประมาณเท่าไหร่ครับ สมมติ ลูกที่ 1 กระแส 2 แอมป์
เข้าลูกที่ 2 กระแส 1 แอมป์...แล้วกระแสของหม้อแปลงชนกันกับหม้อแปลงที่สั่งพัน
สมมติว่ากระแสได้ 100 มิลแอมป์เท่ากัน มันมีข้อแตกต่างกันอย่างไรบ้างครับ...
-
วิธีการใช้หม้อแปลงชนกัน จากประสพการณ์การทำแอมป์ของผมนะครับ
1. หม้อแปลงลูกแรกควรสามารถจ่ายกระแสได้มากพอสมควร ผมเลือก2A ขึ้นไปมาใช้งานครับ ไม่งั้นหม้อแปลงจะร้อนมาก
2. หม้อแปลงลูกที่ 2 ควรเลือกเอาลูกที่สามารถจ่ายกระแสได้มากเป็น5-10เท่าของกระแสที่ต้องการ เช่นต้องการกระแส 100mA ผมเลือกใช้หม้อแปล 500mA-1A ครับ ไม่เช่นนั้นหม้อแปลงจะร้อนมากครับ
3. ถ้าใช้ทำแอมป์หลอด ในกรณีที่กินกระแสไม่เกิน 100mA สามารถใช้หม้อแปลงชนกันได้ครับ
4. ถ้าใช้ทำแอมป์หลอด ในกรณีที่กินกระแสมากกว่า 100mA ควรใช้วิธีอื่นครับเช่น Double Voltage หรือ สั่งพันตามสเป็คครับ เพราะจะสามารถจ่ายกระแสได้คงที่กว่าแบบหม้อแปลงชนกัน และหม้อแปลงไม่ร้อนด้วยครับ
สรุปง่ายๆคือ หม้อแปลงชนกันใช้ทำปรีแอมป์เหมาะที่สุดครับ โดยใช้ลูกแรก 1-2A ลูกที่2 500mA จะสามารถจ่ายกระแสได้ไม่เกิน 100mAครับ
-
ตัวอย่างแอมป์ที่ผมใช้หม้อแปลงชนกันครับ
http://www.htg2.net/index.php?topic=16226.0
(http://www.htg2.net/index.php?action=dlattach;topic=16226.0;attach=27228;image)
http://www.htg2.net/index.php?topic=20047.0
(http://www.htg2.net/index.php?action=dlattach;topic=20047.0;attach=37156;image)
-
ได้ idea ในการ diy เพิ่มมากเลย ขอบคุณมากครับทั้ง 2 ท่าน
-
project นี้....ได้แนวความคิด.....หม้อแปลงชนกัน......มาจากพี่เขียวหวานครับ ;D
http://www.htg2.net/index.php?topic=29417.0
-
เป็นไอเดียที่ยอดเยี่ยมมากครับ :clap :clap
-
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของทุก ๆ ท่านครับ ปัญหานี้สะสมมานานพอควร
กระจ่างแล้ววันนี้ ขอความคิดเห็นท่านอื่นด้วยนะครับ
-
สรุปง่ายๆคือ หม้อแปลงชนกันใช้ทำปรีแอมป์เหมาะที่สุดครับ โดยใช้ลูกแรก 1-2A ลูกที่2 500mA จะสามารถจ่ายกระแสได้ไม่เกิน 100mAครับ
ถามนิดครับ ถ้าใช้หม้อแปลง ลูก 2 น้อยกว่าลูกแรกกระแสจะได้ 100 mA หรือไม่ครับ
จากหม้อแปลงลูกแรก ขาออก ได้ = 12Vx1A = 12VA ไปเข้าลูกที่ 2
เข้า 12VA ออก 220V ,Amp ??? = 12/220 = 0.054 Amp = 50 mA หรือเปล่าครับหรือผมคิดแบบนี้ไม่ถูก ???
ถ้าคิดแบบผมจะให้ได้ 100 mA ต้องใช้ 220:12VAC@2Amp 2 ตัวชนกัน ???
-
สรุปง่ายๆคือ หม้อแปลงชนกันใช้ทำปรีแอมป์เหมาะที่สุดครับ โดยใช้ลูกแรก 1-2A ลูกที่2 500mA จะสามารถจ่ายกระแสได้ไม่เกิน 100mAครับ
ถามนิดครับ ถ้าใช้หม้อแปลง ลูก 2 น้อยกว่าลูกแรกกระแสจะได้ 100 mA หรือไม่ครับ
จากหม้อแปลงลูกแรก ขาออก ได้ = 12Vx1A = 12VA ไปเข้าลูกที่ 2
เข้า 12VA ออก 220V ,Amp ??? = 12/220 = 0.054 Amp = 50 mA หรือเปล่าครับหรือผมคิดแบบนี้ไม่ถูก ???
ถ้าคิดแบบผมจะให้ได้ 100 mA ต้องใช้ 220:12VAC@2Amp 2 ตัวชนกัน ???
คิดแบบคุณMr. One ถูกต้องชัดเจนมากครับ O0 O0
>> หม้อแปลงชนกันใช้ทำปรีแอมป์เหมาะที่สุดครับ โดยใช้ลูกแรก 1-2A ลูกที่2 500mA จะสามารถจ่ายกระแสได้ไม่เกิน 100mAครับ
>> จากประสพการณ์ทำปรีหลอดโดยใช้หม้อแปลงชนกัน ผมทำปรี 12AT7, pre 15CW5, Pre 5965 SPRR มาไม่น้อยกว่า 5 เครื่อง ยังไม่มีเครื่องไหนกินกระแสเกิน 50mAซักเครื่อง
ผมเลยอนุมานว่า หม้อแปลงชนกันใช้ทำปรีแอมป์เหมาะที่สุดครับ โดยใช้ลูกแรก 1-2A ลูกที่2 500mA จะสามารถจ่ายกระแสได้ไม่เกิน 100mAครับ
ผมเองเคยทำแอมป์แบบหม้อแปลงชนกัน แล้วจ่ายกระแสสูงสุด 70 mA โดยใช้หม้อแปลงลูกแรก 2A ลูกที่2 ใช้ 1A จ่ายกระแสให้ 6DE7ได้สบายๆเลยครับ
http://www.htg2.net/index.php?topic=20047.0
ถ้าจะให้ได้เต็ม100mA ก็ใช้แบบที่Mr. One ว่าไว้ดีกว่าครับ จะได้ไม่มีปัญหาจ่ายกระแสให้แอมป์ไม่พอ
-
ผมอ่านมาน้อยครับ แต่ขอแสดงความคิดเห็นหน่อย :D
ผมว่าทำแบบนี้มันสะดวกที่ไม่ต้องไปจ้างพัน แต่จะมีการสูญเสียค่อนข้างสูง การส่งผ่านกำลังก็คงจะด้อยกว่าการใช้หม้อแปลงโดยตรง ถ้าไปใช้ในแอมป์ที่ใช้กำลังสูงก็คงจะมีผลทำให้เสียงด้อยลงไป และจะต้องใช้หม้อแปลงที่มีกระแสสูงมากๆ มาชดเชยการสูญเสียครับ
-
:D ขอถามเพิ่มเติมอีกข้อ คือผมมีหม้อแปลง 35-0-35V 3 amp แต่ผมต้องการไฟ 70V จึงนำขด 35-35V ไปต่อบริดจ์ โดยปล่อยแท็ป 0V ลอยทิ้งไว้ เพื่อต้องการไฟ 100VDC แบบนี้ทำให้กระแสลดลงจาก 3 amp รึปล่าว ขอรับ :kicking ถ้าลดลงจะเหลือเท่าไหร่
-
:D ขอถามเพิ่มเติมอีกข้อ คือผมมีหม้อแปลง 35-0-35V 3 amp แต่ผมต้องการไฟ 70V จึงนำขด 35-35V ไปต่อบริดจ์ โดยปล่อยแท็ป 0V ลอยทิ้งไว้ เพื่อต้องการไฟ 100VDC แบบนี้ทำให้กระแสลดลงจาก 3 amp รึปล่าว ขอรับ :kicking ถ้าลดลงจะเหลือเท่าไหร่
ไม่ลดลงครับ ได้ 3 A
-
:D ขอถามเพิ่มเติมอีกข้อ คือผมมีหม้อแปลง 35-0-35V 3 amp แต่ผมต้องการไฟ 70V จึงนำขด 35-35V ไปต่อบริดจ์ โดยปล่อยแท็ป 0V ลอยทิ้งไว้ เพื่อต้องการไฟ 100VDC แบบนี้ทำให้กระแสลดลงจาก 3 amp รึปล่าว ขอรับ :kicking ถ้าลดลงจะเหลือเท่าไหร่
ไม่ลดลงครับ ได้ 3 A
ถ้าจากกรณีนี้ กระแสจะลดลงนะครับ เพราะ Load ที่ใช้จะไม่ใช่ 35V แล้ว แต่เป็นที่ 100V แทน ฉะนั้น เมื่อคิดที่ VA เท่ากันแล้ว กระแสจะลดลงครับ
และในทางปฏิบัติ การพัน 35-0-35 3A นั้น จะแบ่งลวดออกเป็นสองชุด ชุดละ 1.5A เนื่องจากหม้อแปลงที่ใช้ในแบบ full wave จะผลัดการทำงานทีละครึ่งซีกนั่นเอง พอเราเอามาใช้เป็น 0-70 ลวดที่ใช้ก็ยังเป็นลวดที่ทนได้ 1.5A เช่นเดิม งานนี้หม้อแปลงร้อนแน่ๆครับ
-
ถ้าจากกรณีนี้ กระแสจะลดลงนะครับ เพราะ Load ที่ใช้จะไม่ใช่ 35V แล้ว แต่เป็นที่ 100V แทน ฉะนั้น เมื่อคิดที่ VA เท่ากันแล้ว กระแสจะลดลงครับ
และ ในทางปฏิบัติ การพัน 35-0-35 3A นั้น จะแบ่งลวดออกเป็นสองชุด ชุดละ 1.5A เนื่องจากหม้อแปลงที่ใช้ในแบบ full wave จะผลัดการทำงานทีละครึ่งซีกนั่นเอง พอเราเอามาใช้เป็น 0-70 ลวดที่ใช้ก็ยังเป็นลวดที่ทนได้ 1.5A เช่นเดิม งานนี้หม้อแปลงร้อนแน่ๆครับ
เรื่องนี้ผมค่อนข้างจะสับสนมากครับ เมื่อก่อนทำแอมป์ SS spec ของหม้อแปลงส่วนใหญ่จะเป็น 24-0-24 5A หรือ 35-0-35 5A
ซึ่งถ้าเราเอา 24-0-24 มาเข้าบริจ และเอา 0 ลง Gnd ก็จะได้ภาคจ่ายไฟ +35V Gnd -35V ตรงนี้ผมก็เข้าใจว่ามันต้องได้ 5A ทั้ง ซีกบวก และ ซีกลบ อะครับ แต่ถ้าผมไม่ใช้ 0 ลงกราวด์แต่เอา -35V เป็น กราวด์ ก็จะได้ภาคจ่ายไฟ 70VDC 5A แบบนี้หรือไม่ครับ
-
ถ้าจากกรณีนี้ กระแสจะลดลงนะครับ เพราะ Load ที่ใช้จะไม่ใช่ 35V แล้ว แต่เป็นที่ 100V แทน ฉะนั้น เมื่อคิดที่ VA เท่ากันแล้ว กระแสจะลดลงครับ
และ ในทางปฏิบัติ การพัน 35-0-35 3A นั้น จะแบ่งลวดออกเป็นสองชุด ชุดละ 1.5A เนื่องจากหม้อแปลงที่ใช้ในแบบ full wave จะผลัดการทำงานทีละครึ่งซีกนั่นเอง พอเราเอามาใช้เป็น 0-70 ลวดที่ใช้ก็ยังเป็นลวดที่ทนได้ 1.5A เช่นเดิม งานนี้หม้อแปลงร้อนแน่ๆครับ
เรื่องนี้ผมค่อนข้างจะสับสนมากครับ เมื่อก่อนทำแอมป์ SS spec ของหม้อแปลงส่วนใหญ่จะเป็น 24-0-24 5A หรือ 35-0-35 5A
ซึ่งถ้าเราเอา 24-0-24 มาเข้าบริจ และเอา 0 ลง Gnd ก็จะได้ภาคจ่ายไฟ +35V Gnd -35V ตรงนี้ผมก็เข้าใจว่ามันต้องได้ 5A ทั้ง ซีกบวก และ ซีกลบ อะครับ แต่ถ้าผมไม่ใช้ 0 ลงกราวด์แต่เอา -35V เป็น กราวด์ ก็จะได้ภาคจ่ายไฟ 70VDC 5A แบบนี้หรือไม่ครับ
ไม่ใช่ครับ เวลาไปสั่งพันหม้อแปลง ร้านเขาจะคิด VA จาก V ทั้งหมด คูณด้วยกระแสครับ อย่างหม้อแปลงลูกที่ว่า จะเท่ากับ 48x5 = 240 VA และจะเอา VA นี้ไปคำนวณขนาดแกนเหล็กที่จะต้องใช้อีกที
ทีนี้ถ้าโหลดต้องการกระแสที่ 5A ทั้งบวก และลบ นั่นหมายถึงตัววงจรเองก็ต้องการกระแสรวมที่ 10A นะครับ ไม่ใช่แค่ 5A ครับ ดังนั้นหม้อแปลงที่พันต้องเป็น 24-0-24 ที่ 10A ถึงจะถูกต้องครับ ซึ่งก็จะไปเกี่ยวเนื่องกับลวดที่ต้องใช้ด้วย เพื่อให้ทนกับกระแสได้เพียงพอกับความต้องการด้วยครับ
-
ไม่ใช่ครับ เวลาไปสั่งพันหม้อแปลง ร้านเขาจะคิด VA จาก V ทั้งหมด คูณด้วยกระแสครับ อย่างหม้อแปลงลูกที่ว่า จะเท่ากับ 48x5 = 240 VA และจะเอา VA นี้ไปคำนวณขนาดแกนเหล็กที่จะต้องใช้อีกที
ทีนี้ถ้าโหลด ต้องการกระแสที่ 5A ทั้งบวก และลบ นั่นหมายถึงตัววงจรเองก็ต้องการกระแสรวมที่ 10A นะครับ ไม่ใช่แค่ 5A ครับ ดังนั้นหม้อแปลงที่พันต้องเป็น 24-0-24 ที่ 10A ถึงจะถูกต้องครับ ซึ่งก็จะไปเกี่ยวเนื่องกับลวดที่ต้องใช้ด้วย เพื่อให้ทนกับกระแสได้เพียงพอกับความต้องการด้วยครับ
ขอบคุณมากครับ พอจะเข้าใจแล้วครับ
-
เอาแบบง่าย ๆ ครับ บวก - ลบ - คูณ - หาร - กระแสทั้งวงจรแล้ว บวกอีก 20 เปอร์เซ็น ที่วงจรต้องการ บวกมาตราฐานประเทศไทยสัก 10 เปอร์เซ็น ก็พอจะเอามาใช้งานได้ตามปกติครับ ถ้าเราเปรียบเทียบหม้อแปลงต่างประเทศ ที่กระแส และแรงดันเท่ากัน ของต่างประเทศจะเล็กกว่า ไม่ว่าจะเป็นโช๊ค หร่อ หม้อแปลงไฟครับ :)
-
:secret ถ้างั้นในแอมป์หลอดพันผสม 80 w ของ อ.มดก็ต้องใช้ 35-0-35V 5Am (version el34) ไช่รึปล่าวขอรับ :kicking
-
:secret ถ้างั้นในแอมป์หลอดพันผสม 80 w ของ อ.มดก็ต้องใช้ 35-0-35V 5Am (version el34) ไช่รึปล่าวขอรับ :kicking
ใช้ได้แค่ข้างเดียวครับ เพราะวงจรต้องการกระแสประมาณ 4A ในแบบ stereo ครับ
-
ก่อนอื่นต้องขออภัยทุกท่านที่ทำให้เข้าใจผิดมาตลอด พอดีมีผู้รู้เมล์มาแนะนำเรื่องของหม้อแปลงมาให้ผม ขออนุญาติคัดลอกข้อความมาให้อ่านกันนะครับ
กรณีจ่ายไฟบวก-ลบ ถ้าวงจรระบุว่าต้องการกระแส 5A ก็คือ 5A จริงๆ ครับ คือว่า Center-tap ของหม้อแปลงทำหน้าที่แค่เป็น Reference ของวงจรเท่านั้นครับ ปกติหม้อแปลงจะต้องออกแบบที่ 100% Duty Cycle ครับ ถ้าหม้อแปลงระบุไว้ 10-0-10 5A ไม่ว่าจะใช้เป็น 10-0-10 หรือ 20-0 ก็จะจ่ายได้ 5A เท่ากันครับ แต่ Duty Cycle ของหม้อแปลงจะต่างกันไปตามชนิดของ Rectifier ครับ กรณีที่ใช้ 10-0-10 เข้า Full wave ให้ได้ 10V นี่ Duty Cycle จะเป็น 50% คือเราใช้ VA แค่ครึ่งหนึ่งของหม้อแปลงครับ แต่ถ้า Bridge นี่ ไม่ว่าจะได้ 10-0-(-10) หรือ 20-0 ก็ตาม Duty Cycle จะเป็น 100% ครับ ก็คือเต็ม VA ครับ
ส่วนเรื่องวงจรที่ต้องการไฟบวก-ลบ ผมยกตัวอย่าง R 1 ohm 2 ตัวอนุกรมกัน แล้วเอาไปต่อกับแหล่งจ่าย 2V กระแสก็จะไหล 1A และเกิดแรงดันตกคร่อม R ตัวละ 1V แต่ถ้าผมเอา จุดระหว่าง R เป็น Reference เช่นต่อลง Earth เป็นต้น แหล่งจ่ายก็จะกลายสภาพเป็น 1-0-(-1) ครับ แต่วงจรยังคงกินกระแส 1A อยู่เหมือนเดิมครับ
อันนี้เทียบได้กับวงจร SS PP Amp แบบ OTL และ OCL ครับ สมมุติวงจร OTL ใช้แหล่งจ่าย 50-0 และใช้ 0 เป็น Reference เทียบกับวงจร OCL ที่ใช้แหล่งจ่าย 25-0-(-25) จะได้กำลังขับเท่ากันและกินกระแสเท่ากันครับ
ต้องขอขอบคุณที่ช่วยชี้ทางสว่าง และขอน้อมรับในความผิดพลาดของตัวเองครับ K]
-
ขอถามบ้างครับ
ในกรณีที่มี หม้อแปลง 18-0 (AC18V) 500mA 2ลูกชนกัน (220V :18V-----18V:220V)
กระแสจะเป็นเท่าไหร่ครับ หรือไม่เกิน 100mA
**ใช้กับ วงจรปรีหลอดเดียว **
***จุดไส้หลอดใช้อีกลูก(อาจใช้ 12V 500mAจุดไส้)***
เป็นสามลูกเล็กๆ เพราะมีของอยู่แล้ว
-
ขออีกทีครับ อ.มด ยังงงอยู่ 35-0-35V/5A ต่อเป็น full wave ก็จะได้ประมาณ 50-0V5A DC ถ้านำ 35-35 ต่อบริดจ์ จะได้ไฟดีซีประมาณ 100-0V 5A ผมเข้าใจถูกต้องรึปล่าวครับ
-
ขออีกทีครับ อ.มด ยังงงอยู่ 35-0-35V/5A ต่อเป็น full wave ก็จะได้ประมาณ 50-0V5A DC ถ้านำ 35-35 ต่อบริดจ์ จะได้ไฟดีซีประมาณ 100-0V 5A ผมเข้าใจถูกต้องรึปล่าวครับ
ขออนุญาต อ.มด นะครับ
อ่านจากข้อความใน mail ยังไม่เข้าใจทั้งหมดดีนักแต่พอเห็นภาพคร่าวๆ
ถ้าตามนั้น (ใน mail ) แสดงว่า หม้อแปลงที่มี CT ต่อเป็น full wave จะได้ใช้กำลังครึ่งเดียว
ไม่ทราบผมเข้าใจถูกเปล่า ?????
-
ขอถามบ้างครับ
ในกรณีที่มี หม้อแปลง 18-0 (AC18V) 500mA 2ลูกชนกัน (220V :18V-----18V:220V)
กระแสจะเป็นเท่าไหร่ครับ หรือไม่เกิน 100mA
**ใช้กับ วงจรปรีหลอดเดียว **
***จุดไส้หลอดใช้อีกลูก(อาจใช้ 12V 500mAจุดไส้)***
เป็นสามลูกเล็กๆ เพราะมีของอยู่แล้ว
ผมใช้คิดแบบนี้ไม่แน่ใจว่าถูกหรือไม่ครับ
P=E*I
18-0 500mA ก็เท่ากับ 18*.5 = 9W หรีือ 9VA ดังนั้นหม้อแปลงลูกนี้ไม่ควรจ่ายพลังงานได้เกิน 9VA หรือ 9W
ดังนั้นถ้าเราอยากรู้ว่าจ่ายกระแสได้กี่ mA ในด้าน 220V ก็กลับสูตร I=P/E >>> 9/220 = 0.0409 หรือประมาณ 40mA
แต่ถ้าเรานำ 18-0 500mA ชนกับ 18-0 500mA เท่ากับว่า หม้อแปลงลูกแรกต้อง load ประมาณ 100% เลยนะครับ เพื่อให้ได้กระแส 40mA ในลูกที่สอง
ขอแนะนำว่าหม้อแปลงลูกแรกควรมีกระแสมากว่า 2 เท่าเพื่อไม่ให้มัน load เกินไป ซึ่งจะทำให้ร้อนมากครับ
ผิดถูกอย่างไรต้องขออภัยด้วยนะครับ
-
ขอถามบ้างครับ
ในกรณีที่มี หม้อแปลง 18-0 (AC18V) 500mA 2ลูกชนกัน (220V :18V-----18V:220V)
กระแสจะเป็นเท่าไหร่ครับ หรือไม่เกิน 100mA
**ใช้กับ วงจรปรีหลอดเดียว **
***จุดไส้หลอดใช้อีกลูก(อาจใช้ 12V 500mAจุดไส้)***
เป็นสามลูกเล็กๆ เพราะมีของอยู่แล้ว
ผมใช้คิดแบบนี้ไม่แน่ใจว่าถูกหรือไม่ครับ
P=E*I
18-0 500mA ก็เท่ากับ 18*.5 = 9W หรีือ 9VA ดังนั้นหม้อแปลงลูกนี้ไม่ควรจ่ายพลังงานได้เกิน 9VA หรือ 9W
ดังนั้นถ้าเราอยากรู้ว่าจ่ายกระแสได้กี่ mA ในด้าน 220V ก็กลับสูตร I=P/E >>> 9/220 = 0.0409 หรือประมาณ 40mA
แต่ถ้าเรานำ 18-0 500mA ชนกับ 18-0 500mA เท่ากับว่า หม้อแปลงลูกแรกต้อง load ประมาณ 100% เลยนะครับ เพื่อให้ได้กระแส 40mA ในลูกที่สอง
ขอแนะนำว่าหม้อแปลงลูกแรกควรมีกระแสมากว่า 2 เท่าเพื่อไม่ให้มัน load เกินไป ซึ่งจะทำให้ร้อนมากครับ
ผิดถูกอย่างไรต้องขออภัยด้วยนะครับ
น่าจะถูกแล้วครับ หม้อแปลงลูกแรก จะรับ load 2 ตัวคือ จุดใส้หลอด กับ โหลดของหม้อแปลงลูกที่ 2 ครับ
ลองคำนวณกลับ ถ้าลูกที่ 2 (220V) กินกระแส 20mA = (220V * 0.02A) = 4.4 VA เพราะฉะนั้นจะเหลือให้กับสุดไส้หลอด = 9VA - 4.4VA = 4.6 VA ครับ หรือประมาณ
380 mA
อย่าลืมเผื่อ ค่าการสูญเสียของหม้อแปลงอีกสัก 10%
-
ขอถามบ้างครับ
ในกรณีที่มี หม้อแปลง 18-0 (AC18V) 500mA 2ลูกชนกัน (220V :18V-----18V:220V)
กระแสจะเป็นเท่าไหร่ครับ หรือไม่เกิน 100mA
**ใช้กับ วงจรปรีหลอดเดียว **
***จุดไส้หลอดใช้อีกลูก(อาจใช้ 12V 500mAจุดไส้)***
เป็นสามลูกเล็กๆ เพราะมีของอยู่แล้ว
ผมใช้คิดแบบนี้ไม่แน่ใจว่าถูกหรือไม่ครับ
P=E*I
18-0 500mA ก็เท่ากับ 18*.5 = 9W หรีือ 9VA ดังนั้นหม้อแปลงลูกนี้ไม่ควรจ่ายพลังงานได้เกิน 9VA หรือ 9W
ดังนั้นถ้าเราอยากรู้ว่าจ่ายกระแสได้กี่ mA ในด้าน 220V ก็กลับสูตร I=P/E >>> 9/220 = 0.0409 หรือประมาณ 40mA
แต่ถ้าเรานำ 18-0 500mA ชนกับ 18-0 500mA เท่ากับว่า หม้อแปลงลูกแรกต้อง load ประมาณ 100% เลยนะครับ เพื่อให้ได้กระแส 40mA ในลูกที่สอง
ขอแนะนำว่าหม้อแปลงลูกแรกควรมีกระแสมากว่า 2 เท่าเพื่อไม่ให้มัน load เกินไป ซึ่งจะทำให้ร้อนมากครับ
ผิดถูกอย่างไรต้องขออภัยด้วยนะครับ
น่าจะถูกแล้วครับ หม้อแปลงลูกแรก จะรับ load 2 ตัวคือ จุดใส้หลอด กับ โหลดของหม้อแปลงลูกที่ 2 ครับ
ลองคำนวณกลับ ถ้าลูกที่ 2 (220V) กินกระแส 20mA = (220V * 0.02A) = 4.4 VA เพราะฉะนั้นจะเหลือให้กับสุดไส้หลอด = 9VA - 4.4VA = 4.6 VA ครับ หรือประมาณ
380 mA
อย่าลืมเผื่อ ค่าการสูญเสียของหม้อแปลงอีกสัก 10%
หม้อแปลง 18-0 (AC18V) 500mA 2ลูกชนกัน (220V :18V-----18V:220V) ใช้ไฟสูงอย่างเดียวครับ
อีกคำถามครับ มีขด12.6V 2A สองขด เอาปลายสายมาขนานกัน จะได้ 12.6V 4A รึเปล่า หรือว่า บึ้มครับ:blowup
-
ขอถามบ้างครับ
ในกรณีที่มี หม้อแปลง 18-0 (AC18V) 500mA 2ลูกชนกัน (220V :18V-----18V:220V)
กระแสจะเป็นเท่าไหร่ครับ หรือไม่เกิน 100mA
**ใช้กับ วงจรปรีหลอดเดียว **
***จุดไส้หลอดใช้อีกลูก(อาจใช้ 12V 500mAจุดไส้)***
เป็นสามลูกเล็กๆ เพราะมีของอยู่แล้ว
ผมใช้คิดแบบนี้ไม่แน่ใจว่าถูกหรือไม่ครับ
P=E*I
18-0 500mA ก็เท่ากับ 18*.5 = 9W หรีือ 9VA ดังนั้นหม้อแปลงลูกนี้ไม่ควรจ่ายพลังงานได้เกิน 9VA หรือ 9W
ดังนั้นถ้าเราอยากรู้ว่าจ่ายกระแสได้กี่ mA ในด้าน 220V ก็กลับสูตร I=P/E >>> 9/220 = 0.0409 หรือประมาณ 40mA
แต่ถ้าเรานำ 18-0 500mA ชนกับ 18-0 500mA เท่ากับว่า หม้อแปลงลูกแรกต้อง load ประมาณ 100% เลยนะครับ เพื่อให้ได้กระแส 40mA ในลูกที่สอง
ขอแนะนำว่าหม้อแปลงลูกแรกควรมีกระแสมากว่า 2 เท่าเพื่อไม่ให้มัน load เกินไป ซึ่งจะทำให้ร้อนมากครับ
ผิดถูกอย่างไรต้องขออภัยด้วยนะครับ
น่าจะถูกแล้วครับ หม้อแปลงลูกแรก จะรับ load 2 ตัวคือ จุดใส้หลอด กับ โหลดของหม้อแปลงลูกที่ 2 ครับ
ลองคำนวณกลับ ถ้าลูกที่ 2 (220V) กินกระแส 20mA = (220V * 0.02A) = 4.4 VA เพราะฉะนั้นจะเหลือให้กับสุดไส้หลอด = 9VA - 4.4VA = 4.6 VA ครับ หรือประมาณ
380 mA
อย่าลืมเผื่อ ค่าการสูญเสียของหม้อแปลงอีกสัก 10%
หม้อแปลง 18-0 (AC18V) 500mA 2ลูกชนกัน (220V :18V-----18V:220V) ใช้ไฟสูงอย่างเดียวครับ
อีกคำถามครับ มีขด12.6V 2A สองขด เอาปลายสายมาขนานกัน จะได้ 12.6V 4A รึเปล่า หรือว่า บึ้มครับ:blowup
ต้องดูเฟสด้วยครับ ถ้าเฟสตรงกันก็จะได้ 12.6VAC 4A ครับ แต่ถ้าไม่ตรงจะวัดได้ 0VAC ครับ :whistling
-
ขออีกทีครับ อ.มด ยังงงอยู่ 35-0-35V/5A ต่อเป็น full wave ก็จะได้ประมาณ 50-0V5A DC ถ้านำ 35-35 ต่อบริดจ์ จะได้ไฟดีซีประมาณ 100-0V 5A ผมเข้าใจถูกต้องรึปล่าวครับ
ขอตอบแทน อ. มดนะครับ
ผมเข้าใจว่าถูกต้องทั้ง 2 กรณีครับ ;)
-
ขออนุญาต อ.มด นะครับ
อ่านจากข้อความใน mail ยังไม่เข้าใจทั้งหมดดีนักแต่พอเห็นภาพคร่าวๆ
ถ้าตามนั้น (ใน mail ) แสดงว่า หม้อแปลงที่มี CT ต่อเป็น full wave จะได้ใช้กำลังครึ่งเดียว
ไม่ทราบผมเข้าใจถูกเปล่า ?????
ขอตอบแทน อ. มดอีกทีนะครับ
ใช่ครับ กรณีใช้ Diode 2 ตัวต่อ Full wave นะครับ Diode มันผลัดกันทำงาน หม้อแปลงจึงจ่ายกระแสและหยุดจ่ายกระแสสลับกันในทุกรูปคลึ่นครับ เท่ากับหม้อแปลงทำงานแค่ครึ่งเดียวของระดับกำลังที่มันทำได้ครับ :)
-
อ่า....ไม่ได้เข้ามาดูเลย
ขอขอบคุณ Mr.Tube มากครับ ที่ช่วยชี้แนะครับ Y]
-
พอดีมีเอกสารเรื่องนี้ครับ. ;)
ศราวุธ
-
สรุปว่าหม้อแปลงที่เราๆสั่งพันกันนี่ ก็เพราะเหตุผลที่ต้องการกระแสที่สูงใช่ไหมครับ
หม้อแปลงชนกันได้แค่ไฟสูง แต่ถ้าสั่งพันสามารถจะกำหนดได้่ว่าต้องการไฟสูงเท่าไหร่
และกระแสเท่าไหร่....เข้าใจอย่างนี้นะครับ ผิดถูกอย่างไร??
-
สรุปว่าหม้อแปลงที่เราๆสั่งพันกันนี่ ก็เพราะเหตุผลที่ต้องการกระแสที่สูงใช่ไหมครับ
หม้อแปลงชนกันได้แค่ไฟสูง แต่ถ้าสั่งพันสามารถจะกำหนดได้่ว่าต้องการไฟสูงเท่าไหร่
และกระแสเท่าไหร่....เข้าใจอย่างนี้นะครับ ผิดถูกอย่างไร??
น่าจะเป็นว่า หม้อแปลงชนกันเหมาะสำหรับทำปรีแอมป์ที่ต้องการ V สูง แต่กระแสต่ำๆ มากกว่าเอาไปทำแอมป์ ที่ต้องการทั้ง V สูง และกระแสสูง
และน่าจะเหมาะสำหรับการทดลองหรือ DIY ที่ไม่ต้องสั่งพันหม้อแปลง แค่เดินไปซื้อ แล้วลองได้เลย เช่นต้องการ ไฟสูงซัก 300 VAC ก็ใช้ (220VAC --> 12VAC) (9VAC --> 220VAC) หรือต้องการไฟต่ำซัก 160 VAC ก็ต่อสลับข้างกัน
-
ต้องดูเฟสด้วยครับ ถ้าเฟสตรงกันก็จะได้ 12.6VAC 4A ครับ แต่ถ้าไม่ตรงจะวัดได้ 0VAC ครับ :whistling
ตรงนี้เช็คเฟสยังไงครับ ใช้มิเตอร์รรมดาได้เปล่าครับ
-
ต้องดูเฟสด้วยครับ ถ้าเฟสตรงกันก็จะได้ 12.6VAC 4A ครับ แต่ถ้าไม่ตรงจะวัดได้ 0VAC ครับ :whistling
ตรงนี้เช็คเฟสยังไงครับ ใช้มิเตอร์รรมดาได้เปล่าครับ
ยังไม่มีใครช่วยตอบผมเลย :help
-
ต้องดูเฟสด้วยครับ ถ้าเฟสตรงกันก็จะได้ 12.6VAC 4A ครับ แต่ถ้าไม่ตรงจะวัดได้ 0VAC ครับ :whistling
ตรงนี้เช็คเฟสยังไงครับ ใช้มิเตอร์รรมดาได้เปล่าครับ
ยังไม่มีใครช่วยตอบผมเลย :help
ครับใช้มิเตอร์ธรรมดาวัดได้เลยครับ ย่าน AC นะครับ
ปกติแล้ว ถ้าเป็นหม้อแปลงรุ่นเดียวกัน มันน่าจะพันมาทางเดียวกัน ถ้าต่อไฟเข้าทาง primary เหมือนกัน ไฟทาง secondary ก็น่าจะ in phase เหมือนกันครับ
-
ตรงนี้เช็คเฟสยังไงครับ ใช้มิเตอร์รรมดาได้เปล่าครับ
อธิบายได้แต่การตรวจสอบความสอดคล้องของ Phase นะครับ ดูรูปประกอบนะครับ ให้เอาขาใดก็ได้ของ Pri และ Sec มาเชื่อมต่อกัน และไม่ต้องต่อ Load ใดๆ นะครับ
จากนั้นป้อนแรงดัน 220V เข้า Pri ตามปกติ สมมุติว่าเป็นขั้ว A-B ละกัน แล้วตั้ง Meter VAC วัดแรงดันระหว่าง B กับ D ครับ ถ้าวัดได้มากกว่า 220V แสดงว่า A กับ D เป็น Phase เดียวกัน ถ้าได้น้อยกว่า 220V ก็แสดงว่า A กับ C เป็น Phase เดียวกันครับ
**ข้อควรระวัง การป้อนแรงดัน 220V ผิดขด คือไปป้อนเข้า Sec (C-D) จะทำให้เกิดแรงดันมหาศาลที่ Pri (A-B) และอาจสร้างความเสียหายได้มากครับ**
ที่เตือนนี่ก็เพราะผมเคย Meter ระเบิดไปทีนึงแล้ว เพราะมัน Step-up ไป 8000V โน่นเลยครับ คุณจะใช้หม้อแปลงอีกลูก Step down ลงมาเหลือซัก 24V แล้วค่อยทดสอบก็ได้เพื่อความปลอดภัย แต่ถ้าหม้อแปลงที่ถูกทดสอบมีอัตรา Step-down มากๆ บางที Meter คุณอาจจะบอกความแตกต่างของตรง Phase กับกลับ Phase ไม่ได้ครับ :bye1
-
ของป๋ม ใช้ จ่ายกระแสวงจร อย่างเดียว 9โวลท์ 800มิลลิแอมป์ 2 ลูก ชนกัน
จ่ายให้ปรี 2 หลอด 8 ขา +9 ขา ก้อ แค่อุ่นๆ อ่ะ คับ
แล้ว ถ้า ใช้ ปรี 3 หลอด 6sn7 ใช้ หม้อแปลงขนาดใด ชนกันดีคับ ช่วนแนะนำที
ส่วน จุดไส้หลอด ป๋ม แยก ต่างหากคับ เพราะ ป๋ม ใช้ 6-0-6 คับ
เอาสวิทย์ ตัด สามารถ ใช้ หลอดได้ทั้ง 6 และ 12 โวลท์ คับ
-
เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณ Mr.Tube กับคุณ Fender มากครับ กระจ่างแล้ว วันนี้ต้องลุยซะหน่อย