HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม โฮมเธียเตอร์ (HT) => ข้อความที่เริ่มโดย: IAV ที่ 06 พฤศจิกายน, 2008, 01:58:56 pm
-
เรียนท่านสมาชิก
ขออนุญาติคุณ Too Ninja แนะนำรายละเอียด Accuris Subwoofer รุ่น Muses-12S และ Muses-12T กับรายละเอียดต่างเกี่ยวกับ DSP for Accuris Subwoofer
ขอเริ่มที่ spec Muses-12S และ Muses-12T ครับ
Muses-12S Specification
Cabinet Type: Sealed Box Speaker
Driver: 12" Ultra Low Distortion, Aramid Fiber Spider, and Black Anodized Aluminum Cone
14 mm Long Stroke, Triple Shorting Ring Motor
Group Delay: Less than 8 ms
Nominal Impedance: 4 Ohm
Power Handling: 400 W RMS/750 W Peak @ 4 Ohm
Sensitivity: 89 dB/2.83V @ 1 m
Peak SPL: 112 dB@ 60 Hz, 106 dB@ 30 Hz
Power Requirement: Min 300 w RMS/Ch @ 4 Ohm
Dimension: W x H x D - 43 x 43 x 58 cm
Muses-12T Specification
Cabinet Type: Dual Separate Sealed Box Speaker (DSS)
Driver: Two-12" Ultra Low Distortion, Aramid Fiber Spider, and Black Anodized Aluminum Cone
14 mm Long Stroke, Triple Shorting Ring Motor
Group Delay: Less than 8 ms
Nominal Impedance: 4 Ohm Per Speaker (8 Ohm Series Connection)
Power Handling: 800 W RMS/1500 W Peak @ 8 Ohm (Series Connection)
Sensitivity: 92 dB/2.83V @ 1 m
Peak SPL: 118 dB@ 60 Hz, 112 dB@ 30 Hz
Power Requirement: Min 500 w RMS/Ch @ 8 Ohm
Dimension: W x H x D - 43 x 82 x 58 cm
-
Side View - Muses-12S and Muses-12T
-
Rear View - Muses-12S and Muses-12T
-
Iso View - Muses-12S and Muses-12T
-
Explorer View - Muses-12S and Muses-12T
จากรูป จะเห็นว่าหัวใจของโครงสร้างของ Muses-12S และ Muses-12T ประกอบไปด้วย
1. โครงสร้าง Matrix Rigid Bracing System (MRB)
เป็นระบบโครงสร้างแบบเมทริกที่ยึดโครงสร้างผนังตู้ทุกด้านให้ทำงานประสานเป็นเนื้อเดียวกัน และเป็นอุปกรณ์ที่เสริมความแข็งแรงของตู้ให้นิ่งที่สุด อีกทั้งยังกระจายแรงสะเทือนของตู้ให้กระจายออกไปทุกด้านของผนังตู้
2. ระบบการทำผนังตู้แบบ Dual Layer Damp Mode (DLDM)
เป็นระบบที่ใช้การทำผนังตู้แบบ 2 ชั้นโดยใช้ไม้ MDM หนาขนาด 1 นิ้ว 2 แผ่น โดยรอบเพื่อ Shift Mode ในการสั่นของตู้ ให้สูงกว่า ช่วงเสียงที่ดอกลำโพงทำงาน ซึ่งมีผลทำให้เสียงออกมาสะอาด และได้เบสต้นที่เร็วปราศจากการสั่นค้าง
3. การ Seal ตู้แบบ Triple Sealed Air Lock (TSA)
เนื่องจากการออกแบบให้มีพื้นที่สัมผัสระหว่างแนวตู้แต่ละด้านให้มีพื้นที่มากชึ้นเป็น 3 เท่าจากพื้นที่ของตู้ลำโพงทั่วไป ทำให้โครงสร้างมีความแข็งแรงสูงที่สุด และโอกาศที่อากาศจะหลุดรอดออกไปเป็นศูนย์
4. Triple Plate Front Panel
ผนังด้านหน้าใช้ไม้ MDM หนา 3 นิ้ว เพื่อให้ดอกลำโพงทำงานได้นิ่งที่สุด และมีแรงสะเทือนส่งผ่านไปส่วนอื่นๆ ของตู้น้อยที่สุด
การยึดโครงสร้างตู้ทั้งหมดไม่มีการใช้ตะปู แต่ใช้กาวเป็นตัวประสานทั้งหมด เพื่อให้ตู้ทำงานประสานเป็นเนื้อเดียวกัน
-
[size=1ภpt]Accuris Arakne[/size] - อุปกรณ์ Option เสริม สำหรับ Muses-12S และ Muses-12T
Arakne เป็นอุปกรณ์ Aluminium Plate ขนาด ความหนา 16 mm ใช้ร่วมกับ ชุด Tiptoe พิเศษที่เป็นหัว Bullet เพื่อลด Distortion ให้ต่ำลง มีเบสที่สะอาดขึ้น โปร่งขึ้น และเป็นตัวช่วย Coupling ระหว่างพื้นกับตัวตู้ของ Muses ซึ่งให้เสียงที่เหนือกว่า Tiptoe Standard มาก
นอกจากนี้ Arakne ยังสามารถใช้เป็นฐานรอง Power Amp, CD Player, Preamp, Turntable หรือแม้กระทั่ง Subwoofer ยี่ห้ออื่นได้ด้วย อีกทั้งยังจูนเสียงเพิ่มเติมได้โดยการเปลี่ยนชั้นที่หนุนบนฐาน Aluminium ได้อีก ซึ่งจะมีเป็น ไม้, Acrylic และ Material TG
(ขณะนี้ยังไม่ทราบราคา แต่จะมีราคาพิเศษให้กับผู้ที่สั่งจอง Accuris Muses-12S 10 ตู้แรก)
-
Muses-12S and Muses-12T with Arakne Option
Front View
-
Muses-12S and Muses-12T with Arakne Option
Top View
-
Muses-12S and Muses-12T with Arakne Option
Direct View
-
Muses-12S and Muses-12T
Internal View
-
Accuris DSP Loudspeaker Management
Accuris DSP จะใช้ Engine ของเครื่อง DSP ของ Behringer เป็นเครื่อง Base ในการใช้งาน ซึ่งให้ประสิทธิภาพดีพอในราคาที่จับต้องกันได้ จะมีจำหน่ายให้ใช้กัน 2 รุ่น
รุ่นพื้นฐาน จะเป็นตัว Standard เดิมๆ ของ Behringer
รุ่นสอง จะเป็นตัวที่มีการปรับปรุงระบบ Power Supply, Opamp, และ Capacitor ต่างๆ ให้ดีขึ้น
-
Spec ของ Accuris DSP by Behringer
-
Accuris DSP by Behringer
จากรูปแรก จะเห็นว่า เครื่องสามารถที่จะตั้งรับ Input เข้ามาได้ถึง 3 input และมีช่องขาออกให้เลือกใช้ได้ถึง 6 output ซึ่งในแต่ละ Input เราสามารถตั้ง Delay, EQ และ Dyn EQ (Autowarm) ได้แยกในแต่ละ Input ในส่วนของ Output เราสามารถที่จะตั้ง Crossover, EQ, Dyn EQ, Limiter, และ Delay ได้แยกแต่ละ Output เลยทีเดียว
นอกจากเรายังสามารถที่จะโยนสัญญาณ ข้ามไปมา สำหรับแต่ละ Input และ Output ได้โดยอิสระ เช่น ใช้ Input 1 แต่ เลือกให้ออกที่ Output 1, 2, 4 เป็นต้น
ในรูปสอง จะเห็นว่ามีส่วนของ Memory ให้เราสามารถเลือกตั้ง Preset ได้ทั้งหมดถึง 36 Presets นอกจากนี้เรายังสามารถ Copy ข้ามแต่ละ Preset ได้ด้วย เช่น เราสามารถเลือกตั้ง EQ ให้เป็นแบบ Movie, Music, Action, Concert หรือ อื่นๆ ได้อีก
-
สวยงามมาก คุณ โก้ โชว์ฝีมือคนไทยไม่ด้อยกว่าของนอก อย่างไรเสียของจริงมาขอให้เนี๊ยบ ๆ เหมือนในรูปเลยน่ะ ขอจอง รุ่น jl audio หนึ่งตู้ครับ ไว้จะโอนเงินให้ อยากไปฟังบรรยายด้วย แต่ไม่แน่ใจว่าเวลานั้นจะอยู่กทม หรือ ป่าว อย่างไรเสียถ้าอยู่จะแวะไป ถ้าไม่มีที่นั่ง ขอยืนฟังน่ะ ไม่กล้าจองที่ กลัวไปแย่งที่คนอื่นเขาครับ
-
Accuris DSP by Behringer
ต่อกับ Function ของ Accuris DSP ในส่วนของ EQ จะเห็นได้ว่าเราสามารถปรับ EQ แยกได้แต่ละ Input และ Output โดยอิสระ ซึ่งเราสามารถ ใช้รูปแบบ EQ ได้ 3 แบบ Parametric EQ, Hi Shelf EQ และ Low Shelf EQ นอกจากนี้เรายังสามารถเลือกความกว้าง Q ของช่วงเสียงที่ทำงานได้ด้วย ซึ่ง EQ สามารถนำมาใช้ร่วมกันได้ถึง 9 แบนต่อ Channel ทีเดียว เรียกว่า เกินพอสำหรับการใช้งาน ปกติใช้เต็มที่ ก้อ 5 band เหลือๆ แล้ว
เรียน พี่อูฐ
ขอบคุณครับพี่อูฐ ที่ให้กำลังใจน้องๆ ทำให้มีแรงบันดาลใจที่จะพัฒนาสิ่งดีๆ ออกมาอีกครับ ส่วน JL Audio W7 12" จะรีบจัดการให้ครับ ถ้าโครงตู้ ออกแบบเสร็จ จะส่ง Sketch ไปให้ดูครับ
-
ในส่วนระบบ Autowarm หรือ Dynamic EQ เราสามารถตั้งเพิ่มเสียงเบสที่ช่วงความถี่ที่กำหนดไว้ โดยเมื่อเสียงเริ่มเบาลง ถึงระดับที่ตั้งไว้ เครื่องจะทำการเพิ่มความดังเบส ชดเชยให้โดยอัตโนมัติ และเมื่อเราเร่งเสียงดังเลยระดับที่ตั้งไว้ เครื่องจะปิดระบบให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยให้เสียงอิ่ม อบอวน ตลอดเวลา
โดยระบบ Dyn EQ สามารถเลือกได้ 3 แบบ เช่นโดยเป็น Parametic, Hi Shelf, และ Low Shelf
-
ในเรื่องของการปรับ Delay จะถูกแบ่งออกเป็นการปรับ Delay แบบหยาบ คือ Long Delay และ แบบละเอียด คือ Short Delay
Long Delay จะปรับได้ในระดับ 0.05 m หรือ 0.15 millisec
Short Delay จะปรับได้ในระดับ 2 mm. หรือ 0.01 millisec
เทียบกับที่ปรับได้ใน Surround Processor ที่ดีที่สุดนั้น Surround Processor เพิ่งจะทำได้ในระดับ 0.15 m หรือ 0.5 ft. เท่านั้นเองครับ
นอกจากนี้ ในส่วนของ Short Delay เราสามารถ ตั้ง Polarity, และ Phase (ปรับได้ทีละ 5 องศา) ได้อีก
-
ในส่วนของ Crossover เป็น Function ที่ให้มาเผื่อใช้กับระบบ 2 channel ที่ต้องการเสริม Subwoofer เข้าไปช่วยทำงาน ซึ่งเราสามารถเลือกปรับจุดตัด, ชนิดของ Crossover, Slope ต่างๆ ได้ด้วย
สำหรับ Home Theater เราคงไม่ค่อยได้ยุ่งกับมันมากนักครับ
นำมาลงให้ดู Function เฉยๆ
-
สุดท้ายคือ Function ระบบ Limiter ที่มีไว้ให้ใช้เพื่อป้องกันไม่ให้ลำโพงถูก Drive ถึงขีดสุด ซึ่งจะทำให้ลำโพงพังได้ นอกจากนี้ Limiter ยังช่วยให้ Block เสียงก่อนจุดที่จะเกิดความเพี้ยนได้ด้วย เช่นเสียงลำโพงป๊อกๆ ที่เรารำคาญกัน แต่ระบบนี้ต้องมีความชำนาญ ในการตั้งพอสมควร ไม่เช่นนั้น ลำโพงจะถูกกดเสียงเร็วเกินไป เช่นลำโพงที่ใช้ระบบ Servo Control ที่ออกแบบไม่ดี
นอกจากนี้ Function ทั้งหมดที่กล่าวมานี้สามารถถูกบันทึกไว้ในแต่ละ Preset ได้ด้วย ซึ่งทำให้เราประหยัดเวลาในการที่จะปรับเลือกเสียงแต่ละแบบ - ไม่ต้องมาปรับทีละ Function และเรายังสามารถบันทึก Preset เหล่านี้ไว้ใน Computer ได้ด้วย
อย่างที่ผมได้เรียน เกี่ยวกับการทำงาน ต่างๆ เหล่านี้ จะเห็นได้ว่า แม้กระทั่ง Active Subwoofer ที่แพงเป็นแสน ที่มีระบบปรับเสียง Built-in อยู่ก้อยังไม่สามารถเทียบระบบการปรับของ DSP แยกได้เลย
ผมหวังว่าคงได้รับความเข้าใจเกี่ยวกับ Accuris Subwoofer และ DSP ได้ดีขึ้นนะครับ
สำหรับท่านที่จองเข้า Course Training ไว้ เตรียมไว้ได้เลยครับ นี่คือสิ่งที่จะต้องเรียนครับ c)
-
แจ่มจริงๆ คุณโก้
ผมยังจำเสียง accuris รุ่นแรกๆ ที่พี่กัมเคยใช้ได้เลยว่าเสียงดีเกินค่าตัวมากๆ เพราะ ได้ทั้งหัวโน๊ต และการกระแทกกระทั้น ทำให้ดูหนังมันส์ขึ้นมากจริงๆ แถมดูคอนเสิร์ตก็ดีด้วยเพราะเบสไม่หน่วง จำได้เลยว่าเสียงดีกว่า velodyne hgs15 ตัวแพงๆ ที่มีคนเอาให้พี่กัมลองซะอีก แม้จะลงไม่ลึกสุดๆ เข้าใจว่าดอก 12" อาจจะเล็กไปสำหรับซิสเต็มและห้องที่โหดแบบของพี่กัม แต่ที่ทำเอาผมเซ็งคือเสียงดันดีกว่า sunfire true sub และ sunfire signature sub ที่ผมใช้ตอนนั้นซะอีกทั้งๆที่ sunfire ผมแพงกว่าตั้งเยอะ (หรือเป็นเพราะผมเซ็ทซับไม่เป็นเองหว่า??) ทำให้รู้เลยว่าซับแบบพาสซีพนี่ดีจริงๆ แต่จนทุกวันนี้ก็ยังงงอยู่ว่าทำไมฝรั่งไม่ค่อยเล่นแบบพาสซีพกันเลย เห็นทำกันแต่แอ๊คทีฟทั้งนั้น
รุ่นใหม่นี้หน้าตาดูดีกว่าเยอะเลย ส่วนสเป็คนี่ผมไม่รู้ว่าพวกซับนี่มีวัดเรื่อง rise time & decay ของเสียงเบสด้วยหรือป่าว หรือวัด waterfall มาดูจะบอกอะไรได้มั้ยอ่ะ?
ยังไงก็ตาม ขอให้ได้เสียงที่ดียิ่งขึ้นไปอีกจริงๆเถอะ จะสั่งมาเล่นด้วยคน
ป.ล. ผมยังรอตัวดูดมิดเบสของท่านอยู่นะ เสร็จหรือยัง อยากเอามาลองหน่อยว่าจะช่วยแก้ที่ 80-100 hz ได้รึป่าว ตอนนี้อยากให้เสียงมิดเบสแน่นและทิ้งตัวขึ้นอีกหน่อยน่ะ
-
เรียนคุณชัยยศ
ขอบคุณครับ คุณชัยยศ สำหรับเรื่องการวัดค่าจะนำมาให้ดูหลังจากที่ทำตู้จริงและ Burn เสร็จแล้วนะครับ
สำหรับเรื่อง Rise time และ Decay time เป็นสิ่งที่ผมคิดถึงแรกๆ ในการออกแบบ Accuris - Muses ผมจริงยอม Trade off ฐานเบสต่ำๆ ไป เพื่อให้ได้ เบสที่กระชับ เร็ว มี Rise Time/Delay time ที่สั้น แต่ยังไงคงไม่สั้นเท่ากับพวก ขอบผ้า ที่ช่วงชักสั้น ไม่ได้นะครับ ผู้ใช้แรกๆ อาจจะไม่ชินกับเสียง Sub แบบนี้ แต่หลังจากฟังไปสักพัก จะเริ่มปรับตัวได้ และจะกลับไปหาเบสแบบเก่าไม่ได้
ส่วนใหญ่ Sub ยี่ห้อดังจะไม่ค่อยได้วัด หรอกครับ เรื่อง Rise Time/Decay Time เนื่องจากเค้าเน้นให้ใช้กับ Home Theater เป็นหลัก ผู้ผลิตส่วนใหญ่มองว่า รายละเอียดในช่วงความถี่ต่ำ ไม่จำเป็นมากนัก ขอให้มีน้ำหนัก กับปริมาณเยอะ ก้อพอ
สำหรับสาเหตุที่ฝรั่งเค้านิยมเล่น Sub Active ก้อคงเป็นเพราะความซับซ้อนใกรปรับนี่แหละครับ เนื่องจากถ้าปรับไม่เป็น และออกแบบตู้ไม่ดี และหาแอมป์ขับที่แมทไม่ดี เสียงก้อจะไม่ดี แบบเดียวกับที่เราเล่นลำโพง Hi-End 2 Channel ซึ่งยิ่งลำโพงดี ก้อจะยิ่งเล่นยากเนื่องจาก Resolution และ Bandwidth กว้างกว่า คุณชัยยศว่างๆ ลองมาฟังชุด 2 Ch Hi-End ที่ห้องผมดูรับรอง ไม่เหมือนที่ไหน ยิ่งถ้าชอบเสียงที่เป็น 3D ละก้อไม่ผิดหวัง แต่ตอนนี้ชุดไม่ครบ เดี๋ยวกลับมารวมร่างครบจะโทรไปตาม จะได้มาลองฟัง Tone ของห้องฟัง ที่ผม Calibrate ไว้ด้วยว่าเป็นยังไง ห้องผมใช้ค่า RT ประมาณ 400 mSec
สำหรับ Sub ที่คุณชัยยศสนใจ ผมว่าเดี๋ยว พอตู้ที่ใส่ดอก JL W7 เสร็จ คุณชัยยศมาลองฟังดูว่าชอบแบบไหน ระหว่างใช้ JL W7 12 นิ้วดอกเดียวกับ Sub Muses-12T รุ่น 2 ดอก ราคาเคาะออกมาไล่เลี่ยกัน
อ้อ สำหรับ ตัวเบส Trap ผมออกแบบไว้ หลายความถี่ ตอนนี้ที่มีอยู่ มี 46, 72, 109, 145 ถ้าสนใจ เดี๋ยวเอาไปลองให้ดู เพราะผมต้องใช้เครื่องมือวัดที่ห้องคุณชัยยศด้วย ราคาอยู่ประมาณกล่องละ 8,500 บาท ผมว่าใช้ 2 กล่องน่าจะอยู่ครับ
-
เข้าใจถึงความแตกต่างของ active และ passive แล้วครับ
O0
ว่าแต่ที่คุณโก้จะทำ Passive Sub ดอก JL นี่น่ารอคอยครับ ถูกกว่า fathom แถมดุดันกว่า แต่ราคารวม amp นี่จะเกิน 50k ไหมครับ :secret
-
2 channel 3 dimension ได้ยินกิตติศัพท์มาจากเพื่อนที่ไปลองฟังชุดของคุณโก้มาแล้ว น่าสนใจมากแต่ท่าทางจะกระอักตอนเห็นราคา ไม่เป็นไรครับรู้กันอยู่แล้วครับว่าของดีไม่มีถูก อย่าลืมส่งข่าวละกันครับ
ส่วน bass trap เอามาลองเลยครับ มาลองวัดดูด้วยก็ดี
-
เรียนคุณ taee
สำหรับ Accuris ดอก JL W7 12" ตอนนี้มีผู้สนใจสั่งเข้ามา 2 ตู้แล้วครับ สนนราคาคร่าวๆ ในกรณีที่ใช้ตู้เดียวรวม Amp แล้วน่าจะอยู่ทีกว่า 5 หมื่น กว่าๆ ไม่เยอะ เนื่องจากเราซื้อแอมป์ ที่เป็น 2 ch มาใช้ แต่ถ้าใช้ 2 ตู้ราคาจะอยู่ต่ำกว่า 100K แน่นอนครับ เนื่องจากเราไม่ต้องเสียงค่า Amp แล้ว สำหรับตู้ที่ 2
จริงๆ ผมมี Plan อยากจะทำตัวรุ่นที่เป็นตู้ Twin JL W7 13.5" ด้วยกำลังคิดอยู่ว่าจะควักกระเป๋าทำดีไหม แต่อยากลองมากๆ
เรียนคุณ Chaiyos
เดี๋ยวจะโทรไปนัด นะครับ
-
ถ้าใช้ดอก JLW7 ซึ่งเป็นแบบโดนัท ผมคาดว่าเสียงน่าจะช้ากว่าดอก muses อยู่หน่อยนะครับ เพราะเท่าที่เล่นเองและฟังของเพื่อนหลายๆคนที่ใช้ดอกโดนัทไม่ว่าจะเป็น sunfire velodyne earthquake paradigm หรือแม้กระทั่ง svs ที่ตอนนี้ผมมีอยู่ ทุกตัวจะให้เบสที่ไม่เร็วมาก แต่จะเน้นไปทางลึกที่ช่วง 20-40hz มากกว่ามิด/อัพเพอร์เบสที่ช่วง 40-120hz คราวนี้ก็แล้วแต่ความชอบส่วนตัวแล้วล่ะ
อ่านเจอใน TAS ว่าซับนี่ทำยาก ถ้าเป็นตู้ปิดแบบ JL Fathom หรือ Gotham ซึ่งออกแบบให้ bass transient ดีมากๆ ก็ต้องแดมป์เยอะมาก ได้ความเร็วของเบสแต่เสียงจะ airlessness คือขาดมวลอากาศของเสียงเบส มีได้อย่างเสียอย่างจริงๆ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงแปลว่าเราต้องเลือกเอา และถ้าต้องเลือกจริงๆ ผมชอบแบบเบสไม่ต้องลึกมากสุดๆก็ได้ แต่ขอให้กระชับหนักแน่น เพราะถ้าเบสเร็วทันเสียงกลางผมว่ามันจะทำให้เสียงโดยรวม coherent มากกว่าเบสลึกแต่ช้า
-
เรียนคุณ Chaiyos
ในการออกแบบ Sub ให้ได้ดี ต้องมีการคำนึงถึง 3 องค์ประกอบใหญ่ครับ
1) ดอกลำโพงต้องมีประสิทธิภาพที่ดี
2) ตัวตู้ต้องมีโครงสร้างที่แข็งแรง และมี Coloration ต่ำ
3) ต้องมีการคำนวนค่า Parameter ต่างๆ อย่างแม่นยำ เพื่อให้ Sub ที่ออกแบบมาเป็นไปตามที่ Designer ต้องการ
ในการออกแบบ Accuris ทุกรุ่นผมได้คำนึงถึงเรื่องความสะอาด ความเร็ว Impact เป็นเรื่องสำคัญ โดยผมไม่เน้นให้เบสต้องมีเบสที่ครางในที่ต่ำๆ ออกมา ผมเลือกที่จะใช้ DSP เป็นตัวจัดการเรื่องเกี่ยวกับโทนต่างๆ ของเสียงแทน ซึ่งทำได้ละเอียดและครอบคุมได้มากกว่า ต้องเข้าใจว่าเบสสะอาด ชัด เร็ว มีรายละเอียด ทำให้เบลอง่ายกว่าที่จะทำให้เบสเบลอ ไม่มีรายละเอียด กลับมามีรายละเอียด และเร็ว คมได้ซึ่งเป็นปัญหาที่เจอใน Active Sub ทั่วๆไป เนื่องจากผู้ผลิตเลือกที่จะเอาใจตลาดที่ชอบเบสบึมๆ โดยการยก bass boost ที่ 25 Hz +6dB ฝังอยู่บอร์ดแอมป์เลย ซึ่งไม่สามารถปิดได้ ทำให้ถึงแม้เราจะใช้ DSP เข้าไปช่วย Active Sub เหล่านี้ก้อจะได้ผลได้ไม่ดีมาก เนื่องจาก แอมป์ที่ใช้ใน Active Sub เป็นแบบ Class D หรือ G ที่ไม่มีรายละเอียด และ Damping ไม่สูงพอ ไม่เหมือนกับการที่เราใช้ Passive Sub ที่เราเลือกใช้ Amp Class AB ที่มีรายละเอียดสูงกว่า กำลังมากกว่า และไม่มีวงจร Bass Boost ฝังอยู่ ทำให้เราสามารถใช้ DSP ควบคุมเสียงให้เป็นไปตามที่เราสั่งได้ เช่นต้องการเบสเร็ว ช้า และมีหางเสียงนิดๆ ที่ความถี่ต่ำๆ รวมทั้งรายละเอียดได้
บางท่านอาจจะงงว่าในเบสมีรายละเอียดด้วยหรือ ต้องบอกตามตรงว่ามีเยอะมากๆ ครับ ยิ่งถ้าปรับได้ดีเท่าไหร่ จะส่งผลให้ลำโพงหลัก มีเสียงรายละเอียด ไปด้วย เป็นที่มาว่าทำไป DSP จึงสำคัญมากในระบบ Passive Sub เอาไว้เสร็จเมื่อไหร่ มาลองฟังดูจะรู้ว่า Sub สั่งได้เป็นยังไง O0
ผมว่า Sub ที่ผมออกแบบรุ่นใหม่นี้น่าจะถูกใจคุณ Chaiyos มากๆ ครับ
-
จากที่มึผู้เรียกร้องกันมามากเรื่อง DSP ที่อยากได้ราคาถูก (ต่ำกว่า 10,000 บาท) และใช้กับ Subwoofer 1 ตู้หรือ 2 ตู้ พอแล้ว ผมจึงตัดสินใจแนะนำ DSP ที่เป็น Parametic EQ 12 Band รุ่น DSP1124P ราคาโดยประมาณอยู่ที่ไม่เกิน 9,000 บาท (ถึงมือลูกค้าแล้ว)
Function หลักๆ ของ DSP1124P เป็นดังนี้
- Parametic 12 Band EQ, เลือกปรับได้ตั้งแต่ 20Hz-20KHz
- สามารถปรับได้ +16dB/-48dB
- สามารถปรับค่า Q ได้
- สามารถเก็บค่า Preset ได้ 10 ค่า
ถึงแม้ว่าการตัวเลือกในการปรับอาจจะได้ไม่เท่ากับ DSP รุ่นใหญ่ แต่บอกได้เลยว่าแค่นี้ก้อเกินคุ้มแล้วครับ เทียบง่ายๆ ใน Sub JL Audio รุ่น Fathom ยังมี EQ ให้ปรับเพียง 1 band เองครับ และระบบ Auto EQ ก้อทำงานได้โดยการแก้ที่ความถี่เดียวเช่นเดียวกัน ครับ ในขณะที่ DSP1124P สามารถเลือกปรับและสร้าง Preset ได้ถึง 10 Memory เลยครับ
สุดท้ายมีคนสงสัยเรื่องการต่อระบบ Sub passive กับ DSP ผมจึงแนบรูปการต่อมาให้ชมครับ
-
นี่ครับ หน้าตาของ DSP1124P ที่ผู้ถึงครับ
-
ขอทราบราคาด้วยคนครับ ขอทั้งดอก Muses และดอก JL ครับ และราคาแอมป์ 2 แชนแนลด้วย หากซื้อเป็นคู่ มีส่วนลดพิเศษมั้ยครับ
ทาง IAV มีบริการเซ็ทอัพให้มั้ยครับ pm มาที่ iwamac.ltd@gmail.com ได้เลยครับ
-
เรียนคุณ iwamac
เดี๋ยวคืนนี้ผมส่ง e-mail ไปให้ครับ
Ko - IAV
081-819-7440
-
ขออนุญาติแนะนำ Product Line ของ Accuris Subwoofer ครับ
โดยเรียงลำดับจากรุ่นเล็กไปหารุ่นใหญ่นะครับ
Accuris Subwoofer Heirarchy
Fates Series
Fates-12 - (launch 1st quater next year)
- Vented Box Design (ตู้เปิดแบบใช้ Port เหลี่ยม)
- Wooden Flare Port
- Rigid Internal Cross Bracing System (RIC)
- 2" Thick Front Panel
- 1" Thick Side Panel
- 275 watts RMS @ 8 Ohm power handling
Muses Series
Muses-12S
- Sealed Box Design (ตู้ปิด)
- Matrix Rigid Bracing System (MRB)
- Dual Layer Damp Mode (DLDM)
- Triple Sealed Air Lock (TSA)
- Triple Plate Front Panel (TPF)
- Single 12" Ultra Low Distortion Driver
- 400 Watts RMS @ 4 Ohm power handling
Muses-12T
ฟีเจอร์ต่างๆ เหมือนกับ Muses-12S แต่เพิ่มเป็น 2 ดอก
- Two 12" Ultra Low Distortion Driver
- 800 Watts RMS @ 8 Ohm power handling
Muses-15S
ฟีเจอร์ต่างๆ เหมือนกับ Muses-12S แต่เปลี่ยนเป็นดอก 15 นิ้ว
- Single 15" Ultra Low Distortion Driver
- 500 Watts RMS @ 4 Ohm power handling
Ares Series (launch 1st quater next year)
Ares-12S
- Sealed Box Design (ตู้ปิด)
- JL Audio W7 series driver
- Matrix Rigid Bracing System (MRB)
- Dual Layer Damp Mode (DLDM)
- Triple Sealed Air Lock (TSA)
- Triple Plate Front Panel (TPF)
- Single 12" 12W7 driver
- 750 Watts RMS @ 4 Ohm power handling
Ares-12T
ฟีเจอร์ต่างๆ เหมือนกับ Ares-12S แต่เพิ่มเป็น 2 ดอก
- Two 12" 12W7 driver
- 1500 Watts RMS @ 8 Ohm power handling
Ares-13S
ฟีเจอร์ต่างๆ เหมือนกับ Ares-12S แต่เปลี่ยนเป็นดอก 13.5 นิ้ว
- Single 13.5" 13W7 driver
- 1000 Watts RMS @ 4 Ohm power handling
Ares-13T
ฟีเจอร์ต่างๆ เหมือนกับ Ares-13S แต่เพิ่มเป็น 2 ดอก
- Two 13.5" 13W7 driver
- 2000 Watts RMS @ 8 Ohm power handling
Ares Signature Series (launch 1st quater next year)
Ares-12S Sig
Ares-12T Sig
Ares-13S Sig
Ares-13T Sig
ฟีเจอร์ต่างๆ เหมือนกับ Series Ares-12S แต่ upgrade เพิ่มรายการดังนี้
- Super Ridge Cut (SRC) เป็นระบบการเสริมโครงสร้างลำโพง ให้แข็งแรงขึ้นอีก 30% ซึ่งจะพบได้ในลำโพงที่ราคาหลายแสนบาทเท่านั้น
- Upgrade สายลำโพงในตู้และขั้วต่อลำโพง
*หมายเหตุ: ชุดขา Option รุ่น Arakne สามารถสั่งได้เฉพาะรุ่น Muses, Ares และ Ares Signature เท่านั้น
สำหรับสนนราคายังไม่สรุปครับ คงต้องรอให้กำหนดโครงสร้างทั้งหมดได้แน่นอนกว่านี้ก่อนครับ แล้วคงจะแจ้งให้ทราบภายหลังครับ
ถ้าอยากทราบรายละเอียดอะไร โทรมาสอบถามได้ก่อนนะครับ
-
เนื่องจากมีผู้สนใจอยากทราบรายละเอียดเกี่ยวกับที่จะเอามาขับ Accuris Sub จึงเอาราคาทั่วไปกับรายละเอียดความเหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละรุ่นมาให้ดูครับ
แอมป์ที่ใช้เป็นยี่ห้อ ACM Audio แอมป์ 2 CH ทั้งหมดครับ ราคาที่ลงเป็นราคาตั้งนะครับ ราคาจริงมีส่วนลดจากนี้ครับ โดยประมาณ 10-15% สำหรับเรตติ้งในตาราง OK, Good, และ Excellent คือเรตของประสิทธิภาพเสียงและคุณภาพเสียงที่ได้ครับ NE หมายถึงไม่เพียงพอ NN หมายถึงไม่จำเป็น แต่ถ้าอยากใช้ ก้อใช้ได้ครับ
1. Q2150 ราคา 7,500 บาท
(150W/CH @ 8 Ohm, 225W/CH @ 4 Ohm, Bridge Mono 450 W/CH @ 8 Ohm, Damping Factor >500)
2. Q2200 ราคา 11,000 บาท
(200W/CH @ 8 Ohm, 300W/CH @ 4 Ohm, Bridge Mono 600 W/CH @ 8 Ohm, Damping Factor >500)
3. M2300 และ H900 ทั้งคู่ราคา 16,500 บาทเท่ากัน Spec เท่ากัน ต่างกันที่ หน้าตา
(300W/CH @ 8 Ohm, 450W/CH @ 4 Ohm, Bridge Mono 900 W/CH @ 8 Ohm, Damping Factor >500)
4. M2500 และ H1500 ทั้งคู่ราคา 19,500 บาทเท่ากัน Spec เท่ากัน ต่างกันที่ หน้าตา
(500W/CH @ 8 Ohm, 750W/CH @ 4 Ohm, Bridge Mono 1,500 W/CH @ 8 Ohm, Damping Factor >700)
5. M2800 และ A2400 ทั้งคู่ราคา 25,500 บาทเท่ากัน Spec เท่ากัน ต่างกันที่ หน้าตา
(800W/CH @ 8 Ohm, 1,800W/CH @ 4 Ohm, Bridge Mono 2,400 W/CH @ 8 Ohm, Damping Factor >800)
6. M2800.2 ราคา 27,000 บาท เป็น 800W รุ่นพิเศษเพื่อรองรับโหลด 2 Ohm ได้ดี โดยมี Power Supply ใหญ่พอๆ กับรุ่น M21200
(800W/CH @ 8 Ohm, 1200W/CH @ 4 Ohm, 1,800W/Ch @ 2 Ohm, Bridge Mono 3,600 W/CH @ 4 Ohm, Damping Factor >800)
7. A3000 ราคา 29,000 บาท
(1,000W/CH @ 8 Ohm, 1,600W/CH @ 4 Ohm, Bridge Mono 3,000 W/CH @ 8 Ohm, Damping Factor >800)
8. M21200 ราคา 28,000 บาท
(1,200W/CH @ 8 Ohm, 1,800W/CH @ 4 Ohm, Bridge Mono 3,600 W/CH @ 8 Ohm, Damping Factor >800)
-
หน้าตา ACM Amp เป็นแบบนี้ครับ
รูป 1 เป็น รุ่น A series
รูป 2 เป็น รุ่น H series
รูป 3 เป็น รุ่น M series
รูป 4 เป็น รุ่น Q series
-
Cont.
-
เอารูปภายในของ ACM H1500 มาให้ดูกันครับ
จากรูปจะเห็นว่ามีการใช้ Terroid Transformer ขนาดใหญ่ 1.5 KVA และใช้ Output Transistor ข้างละ 18 คู่ ทีเดียว ซึ่งแอมป์แค่นี้ ก้อดีกว่าแอมป์ที่ใช้ใน Active Sub ระดับแสนแล้วครับ เอาไว้มีโอกาศจะแกะ Amp ใน Active Sub ตัวละ70,000 - 100,000 บาท ที่เคลมว่า 1000 watts ให้ดู แล้วจะงง! ดูแล้วจะตกใจ
-
Cont.
-
Update ความคืบหน้า Accuris - Muses-12S
วันนี้ไปตรวจสอบความคืบหน้า ตู้ Sub มาครับ เลยนำรูปมาให้ชมครับ
ตอนนี้ทำอะไรต่อยังไม่ได้ครับ ดอกและส่วนประกอบอื่นกำลังเดินทางจากอมริกามาอยู่ครับ ช่วงนี้เลยสั่งให้เริ่มประกบไม้เพื่อทำระบบ DLDM เสริมความแข็งแรงโครงสร้าง
ถ้าใครสงสัยว่าผมจะสั่งมาจากจีนเพื่อลดต้นทุนหรือเปล่า มาตรวจใบ P/O และใบ Airway Bill กับผมวันที่มา Training ได้เลยครับ ยินดีให้ครวจสอบครับ
-
Cont.
-
Update ความคืบหน้า Accuris - Muses-12S
สดๆ ร้อนๆ เพิ่งได้รับดอกและอุปกรณ์ที่จะใช้ รวมทั้ง DSP ทั้ง 2 รุ่นมาเมื่อวานนี้เองครับ เลยนำรูปมาให้ชมกัน
รูปดอกลำโพง 12 นิ้ว ของ Muses-12S
จากรูปจะเห็นว่า ตัวโครงเป็น Aluminium หล่อขนาดใหญ่ รวมทั้งแม่เหล็กแบบ 2 ชั้นขนาดใหญ่มาก ตัวกรวยเป็น Aluminium ขอบเป็นโฟมยาง ขนาดใหญ่ ถ้าเห็นของจริง จะรู้ว่าสวยงามมากครับ :)
-
Cont.
รูปแรกเป็นรูปด้านข้างของดอก 12 นิ้ว ส่วนรูปที่ 2 เป็นรูปของดอก 15 นิ้วที่จะใช้ในรุ่น Muses-15S ครับ
-
Cont.
รูปของดอก 15 นิ้ว ด้านหลัง กับรูปของ ขั้วลำโพงที่จะใช้ในรุ่น Muses ครับ
-
Cont.
รูปของ Tiptoe ที่ให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน สำหรับรุ่น Muses ครับ
-
ไม่ได้เข้าเวบมานาน คุณโก้มีproductใหม่เยอะเชียว น่าสนครับ :D
-
Update! Muses-12S ล่าสุด ตู้เสร็จแล้วครับ พร้อมพ่นสี High Gross
นำรูปที่ประกอบตู้เสร็จ พร้อมใส่ดอกแล้ว มาให้ชมครับ ตอนนี้กำลังเปิด Burn อยู่ครับ คงจะได้วัด Test เสียง จริงๆ วันเสาร์นี้ครับ
ตัวจริง สวยมากครับ จนคนทำตู้ให้ผม ขอสั่งซื้อด้วย 1 คู่ :clap
ที่เห็นมี 2 ตู้ ตอนนี้ใส่ส่วนผสมไม่เหมือนกัน กำลังจูนส่วนผสมในตู้อยู่ครับ แต่จากที่ได้ฟังวันนี้ Confirm ได้เลยว่าได้ตรงตามที่คำนวนไว้ครับ รับรองผู้ที่สั่งจองไว้ ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ เบสสะอาด มีรายละเอียด เร็วและไม่มีอาการครางให้เห็นเลยครับ ใช้ 2 ตู้ ก้อสามารถรองรับห้องผมขนาด 5 m x 8 m x 2.9 m ได้เลยครับ O0
-
Cont.
จากรูป 1 จะเห็นถึงโครงสร้างด้านหน้าที่ใช้ไม้หนาถึง 3 นิ้ว น้ำหนักตู้ Net Weight อยู่ที่ 50 Kgs เป๊ะๆ ครับ ต้อง 2 คนยกครับ ผนังตัวตู้นิ่งสนิทมาก แม้จะอัดเบสเข้าไปดังมากก้อตาม
ส่วนรูป 2 เป็นรูป ที่เตรียมอุปกรณ์ Measurement ไว้รอวันเสาร์นี้ครับ ที่เห็นข้างๆ นั่น ลำโพง Rockport Altair หนัก 250 Kgs ราคาเกือบ 3 ล้านครับ เสียงดีมากๆ ครับมีโอกาศลองมาฟังครับเพื่อพัฒนาทักษะในการฟังของเราครับ ที่ด้านซ้ายมือ ก้อเป็น DSP 2496 กับ Poweramp M2500 ทีนำมาใช้ขับ Muses-12S ครับ
เดี๋ยวหลังวันเสาร์ คงมีผลการวัดมาให้ดูกันครับ
-
Update! Accuris Muses-12S
วันนี้ได้ลองวัดการตอบสนองความถี่และ Phase กับ Impedance ของ Accuris - Muses-12S ให้ได้ดูกันครับ
จากกราฟการตอบสนองความถี่จะเห็นได้ว่า มีความราบเรียบมากๆ โดยให้การตอบสนองความถี่ตั้งแต่ 35-300 Hz อยู่ในระดับ+/- 1.5 dB ซึ่งเป็นไปตามแนวทางการออกแบบ จัดได้ว่าอยู่ในมาตรฐานระดับเดียวกับลำโพงระดับ Hi-End เป็นแสนเลยทีเดียว ถ้ามีโอกาศลองวัด Subwoofer ที่ใช้กันอยู่จะรู้เลยว่าไม่สามารถตอบสนองได้ราบเรียบขณะนี้ อาจจะมีบ้างที่พอได้ แต่การันตีได้เลยว่า 80% ของที่อยู่ในตลาดไม่ได้แน่นอนครับ Confirm
ส่วนความถี่ต่ำที่ต่ำกว่า 35 Hz จะเห็นได้ว่ามีการ Roll Off ลงมาที่ 12 dB/Octave ซึ่งเป็นตามทฤษฎีเลยครับ ไม่ต้องตกใจว่า ทำไมที่ความถี่ 20 Hz ตอบสนองลงไปตั้ง -10 dB สาเหตุมาจากที่เราวัดนี่เป็นการวัดเป็นแบบ Free Space แบบในรูปก่อนหน้าคือไม่มีห้องช่วยเสริม เสียงที่ได้มาจากดอกกับตู้จริงๆ แต่เมื่อเรานำ Sub ไปใส่ในห้องตรงมุม จะมีการช่วยเสริมเสียงเบสที่ออกมาให้ราบเรียบได้ถึง 20 Hz เลยครับ
ส่วนในกราฟ Phase และ Impedance จะเห็นว่า Impedance เฉลี่ยอยู่ในระดับ 4 Ohm จริง โดยมี Phase เปลี่ยนแปลงอยู่ใน Range ที่แคบมาก ซึ่งมีผลทำให้เป็นลำโพงที่ไม่โหดร้ายกับ Poweramp
-
Cont.
จากรูป 1 จะเห็นถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการวัดต่างๆ
จากรูป 2 จะเห็นว่าจากสัญญาณเสียงที่ 80 Hz จาก Poweramp ป้อนเข้าที่ลำโพง 2.75 VAC จะได้เสียงออกมาถึง 90.6 dB จึงใกล้เคียงกับค่าที่แจ้งที่ 89 dB@2.83V - 1 mไว้มาก เนื่องจากผมใช้การวัดที่ 0.25 m ซึ่งเสียงจะ Drop ลงอีกเมื่อเราถอยมาที่ 1 เมตร ก้อจะทำให้ได้เท่ากับที่ คำนวนไว้
นอกจากนี้เมื่อดูในรูป 3 และ 4 จะเห็นว่า 2nd และ 3rd Harmonic Distortion ของลำโพงต่ำมาก (น้อยกว่า 40 dB เลยทีเดียว)
-
Cont.
รูปภาพ ต่อครับ
-
น่าสนใจมากๆครับ O0
-
ผมรอฟังอยู่เลยครับคงใกล้จะได้ฟังแล้ว
-
ไปดูตัวจริงมาแล้วฟังแล้วด้วย บอกได้เลยว่าดีกว่า active sub มั่กๆ แต่หาความรู้เพิ่มเรื่อง dsp และการ set up ระบบเสียง ในhometheater หน่อยก็ดีนะครับ ไปเข้าwork shopกับคุณโก้มา ได้ความรู้ อีกเยอะเลยครับ
-
ตอนนี้นำรูป Update Accuris Muses-12S ที่ทำสีล่าสุด ให้ได้ดูกันครับ
ขอเรียนตรงๆ ว่า ปวดหัวกับการทำสี High Gloss มากๆ เลยครับ แก้ไป 3 รอบ กว่าจะเสร็จ มึน เลยครับ
แต่หลังจากนี้ Process ในการผลิตทุกรุ่น จะอยู่ที่ 6 สัปดาห์โดยแบ่งเป็น
ตัดไม้โดยเครื่อง CNC 1 อาทิตย์
ประกอบตู้ 1 อาทิตย์
ทำสี High Gloss 3 อาทิตย์
ประกอบดอกและ Test อีก 1 อาทิตย์
ศิริรวม 6 อาทิตย์ พอดีๆ ครับ
สำหรับสี High Gloss ตอนนี้มีให้เลือกได้หลายสี ตามชอบ ราคาเท่ากัน ยกเว้น Steinway Black Piano High Gloss จะมีค่าทำสีพิเศษ เนื่องจากทำยากมากครับ แต่สวยมากๆ ว่างๆ ลองแวะมาชมสี Black Piano High Gloss ได้ครับ
สำหรับคนที่สั่งจองไว้ ได้ทะยอยส่งมอบไปหมดแล้วครับ ตอนนี้กำลังเริ่มรุ่น Ares อยู่ครับ อีกสักพัก จะนำรูปมาให้ชมกันครับ
-
สีที่เห็นเป็นสี High Gloss Black Metallic ครับ ยังไม่ใช่สี Premium High Gloss Black Piano นะครับ
-
สวย :clap
-
ทำสีสวยมากเลยครับ O0
-
ขอบคุณครับ แหม อยากให้เห็นตัวจริง สี Black Piano จัง ใสเป็นกระจก เลยครับ เนื่องจากผมให้โรงงานพ่นสี High Gloss ส่งนอกเป็นคนทำให้ครับ ที่เห็นในรูปให้ช่าง Furniture ทำให้ครับ
จากนี้ไป สีของทุกตู้ จะถูกส่งไปทำที่โรงงานพ่นสี นี้ตลอดแล้วครับ รับรองแจ่มครับ
มีคนแวะมาดูที่ Office ทุกคนถามว่า ตู้นี้ถึง 5 หมื่น ไหม พอบอก 2 หมื่นกว่าบาทตกใจกันใหญ่เลยครับ ทุกคนถามว่าทำได้ไงเนี่ย ;D
เลยแอบปลื้ม อยู่เหมือน ก่อนหน้านี้ กลุ้มเรื่องสีอยู่ตั้งนาน ไม่ได้ดีสักที ต้องแก้ไป 3 รอบ แทบหมดลมเลยครับ :yucky
-
โห...สวยกว่าที่คิดเอาไว้เยอะเลยครับ... :clap
เยี่ยมไปเลยครับ...
-
หล่อเหลาเอาการเลยคร๊าบ d_d
-
ใครสนใจมาลองฟังกันได้ครับที่บ้านผมนัดคุณโก้ไว้วันอาทิตย์ ที่ 7 มีค.นี้ครับ เพื่อเป็นการเปิด โลกทรรศน์ ในการเล่น passive sub ใน hometheater ครับ
-
:secretผมขอไปฟังด้วยครับ ไม่ทราบว่าเวลาไหนครับ :headphone
-
สงสัยงานนี้มีมีทติ้งย่อยๆบ้านพี่หมออีกแหงมๆ :showoff :showoff
ถ้าว่างอาจขอติดรถคุณโก้ไปด้วยคน
-
Update รูป Accuris Muses-12S ที่ใส่ Option ขา Arakne รุ่น Steel Plate
*หมายเหตุ: Arakne ที่สเก็ตในรูป Draft จะเป็นรุ่นที่ใช้ Plate Aluminium ครับ ราคาของรุ่น Steel จะเหมาะสมที่จะใช้กับ Muses-12S
หลังจากใส่ Spider Plate Arakne แล้ว น้ำหนักรวมของ Muses-12S กับ Arakne จะกลายเป็น 75 Kilogram ครับ เนื่องจาก Arakne Plate กับ Tiptoe มีน้ำหนักถึง 25 กก. ครับ สำหรับสนนราคายังไม่ได้สรุปครับ
สีที่ใช้พ่นบน Arakne Plate จะเป็นสี High Gloss Black เหมื่อนกันครับ
นอกจากนี้ Arake Plate สามารถนำไปใช้รองเครื่อง CD, Power Amp, Preamp, หรือ Turntable ได้อีกด้วย จากที่ได้ลองกับ Esoteric X-03SE CD Player ให้ผลดีขึ้นมาก ในด้านความสงัด นิ่ง โฟกัสและเบสดีขึ้น โดยไม่ทำให้เสียงเร็วและ แหลมขึ้นครับ เร็วๆนี้จะนำไปส่งให้ทาง Reviewer ได้ทดสอบดูครับ
อีกไม่นานรุ่น Aluminium จะออกตามมาครับ รับรองสวยกว่านี้อีกครับ เสร็จแล้วจะนำมาให้ดูครับ
-
Cont. picture
-
d_dสวยงามมากครับ คุณภาพระดับงานเฟอร์.เลยครับ ไม่ทราบได้ราคาสุดท้ายรึยังครับ :yahoo
-
ไปเห็นแล้วก็ลองยกดูแล้วครับ หนักมากจริงๆ งานนี้ถือได้เลยว่าคุณภาพเกินราคาไปเยอะมาก
ต้องยอมรับอย่างนึงเลยว่าพี่โก้แกเป็นคนละเอียดมาก งานเลยออกมาเนี๊ยบอย่างที่เห็นนี่แหละครับ
คุ้มกับการรอคอย
d_d d_d d_d d_d d_d d_d d_d d_d
-
ว้าว ๆ อยากลองฟังซะแล้วสิครับ... :yahoo
-
ตัว Arakne Plate สามารถมาประยุกต์ใช้กับ sub ยี่ห้ออื่นๆได้มั้ยครับ สนใจ Y]
แต่จากรูปเห็นมีการไขยึดติดกับ sub ด้านล่างด้วย ถ้าเป็นของยี่ห้ออื่น จะวางไปบน plate เฉยๆได้รึเปล่าอ่ะ ???
-
เรียนคุณ Santa
Arakne Plate สามารถนำไปใช้กับ Sub อื่นๆ ก้อได้ครับ โดยที่นำไปวางเฉยๆ ได้เลยครับ เพราะจริงๆ Arakne Plate จะมีขนาด Size อื่นๆ ตามออกมาอีก เพราะตอนนี้ มี Order มาหลายคน ที่จะนำ Plate อันนี้ ไปวางพวก Poweramp และ Sub Active ทั่วๆ ไปด้วยครับ ถ้ามีโอกาศได้เห็นของจริง จะรู้ว่าสวยกว่าในรูปเยอะครับ ;)
อีกสักวัน 2 วัน ผมจะสรุปขนาด Arakne Plate ที่มีทั้งหมดให้ครับ มีทั้งรุ่นที่เป็น Solid Steel และรุ่นที่เป็น Solid Aluminum ครับ ส่วนรุ่นที่เป็น Solid Aluminum จะทยอยตามออกมารวมทั้ง ชั้นวาง เครื่องเสียง แบบ Hi-End สุดๆ ทำจาก Aluminum ทั้งตัวออกมาด้วยครับ คร่าวๆ 3 ชั้น หนักประมาณ 100 กก. ครับ เป็นชั้นวางที่ทางลูกค้าผม Order ไว้ เพื่อวางเครื่อง Hi-End โดยเฉพาะครับ คงผลิตต้นแบบมา 2 ชิ้นครับ
Ko
-
เรียนคุณ Santa
Arakne Plate สามารถนำไปใช้กับ Sub อื่นๆ ก้อได้ครับ โดยที่นำไปวางเฉยๆ ได้เลยครับ เพราะจริงๆ Arakne Plate จะมีขนาด Size อื่นๆ ตามออกมาอีก เพราะตอนนี้ มี Order มาหลายคน ที่จะนำ Plate อันนี้ ไปวางพวก Poweramp และ Sub Active ทั่วๆ ไปด้วยครับ ถ้ามีโอกาศได้เห็นของจริง จะรู้ว่าสวยกว่าในรูปเยอะครับ ;)
อีกสักวัน 2 วัน ผมจะสรุปขนาด Arakne Plate ที่มีทั้งหมดให้ครับ มีทั้งรุ่นที่เป็น Solid Steel และรุ่นที่เป็น Solid Aluminum ครับ ส่วนรุ่นที่เป็น Solid Aluminum จะทยอยตามออกมารวมทั้ง ชั้นวาง เครื่องเสียง แบบ Hi-End สุดๆ ทำจาก Aluminum ทั้งตัวออกมาด้วยครับ คร่าวๆ 3 ชั้น หนักประมาณ 100 กก. ครับ เป็นชั้นวางที่ทางลูกค้าผม Order ไว้ เพื่อวางเครื่อง Hi-End โดยเฉพาะครับ คงผลิตต้นแบบมา 2 ชิ้นครับ
Ko
OK ขอบคุณครับ
ยังไงได้ขนาด และราคามาแล้ว ถ้าโพสบอกในกระทู้ไม่สะดวก รบกวน PM มาแจ้งหน่อยนะครับ Y]
-
อยากได้จัง เก็บตังค์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :cry2
-
โอ้โห...งานสวยมาก ๆ ครับ เสียงน่าจะดีมากเช่นกันครับ
-
นำรูปสวยๆ ของ Arakne Steel Plate เมื่อใช้เป็นแท่นรอง Esoteric P-03 มาให้ชมกันครับ
สำหรับ Size ที่จะผลิตออกมา จะ Update รายละเอียดให้เร็วๆ นี้ครับ
Ko
-
Cont.
-
;)สวยมากครับ ขอบคุณ ^-^
-
;) สวยมากมายเลย
-
ขอขอบคุณทุกท่านครับ ที่เข้ามาชมผลงาน
และรู้สึกดีใจ ที่ทุกท่านชื่นชอบกับผลิตภัณฑ์ Accuris ด้วยครับ
ใจจริง ผมอยากจะพัฒนาศักยภาพการผลิตของคนไทยเราให้มีมาตรฐานทัดเทียมหรือเหนือกว่า Brand ดังๆ บางยื่ห้อ ที่หลังๆ ขายชื่อ โดยลดต้นทุนการผลิตลง
สำหรับ Product Accuris หลักๆ ปัจจัยเรื่องราคา มาจากต้นทุนการผลิตล้วนๆ เลยครับ เช่นเมื่อใช้วัสดุคุณภาพสูงขึ้น ราคาต้นทุนก้อจะสูงขึ้นตาม แต่ทุกอย่างต้องไปสอดคล้องกับคุณภาพเสียงด้วยครับ ไม่ใช่ใช้วัสดุแพง แต่เสียงไม่ได้เรื่อง
จากนี้ จะมีผลงาน ใหม่ๆ ทยอยออกมา เรื่อยๆ ครับ รับรองทุกชึ้น ทำมาจากใจรักล้วนๆ ครับ โดยคำนึงถึงความคุ้มค่าและคุณภาพเสียงเป็นหลัก
จริงๆ มีแผนที่จะทำส่งนอกด้วยครับ ซึ่งราคาที่ขายเมืองนอก จะสูงกว่าที่อยู่ใน Web นี้เยอะครับ 8)
ขอบคุณทุกท่านมั่กๆ ครับ
Ko
IAV
-
งามมากคุณโก้ ทั้งซับฯ ทั้งแท่นรอง
ชอบตรงความเนี๊ยบ ประณีต พิถีพิถัน
เรื่องแท่นรอง อยากให้เน้น form follows function นะครับ รับรองทำไม่ทันขาย
เพราะชั้นวาง ชั้นรองพวกนี้ หาสวย เสียงดี ราคาไม่โหดร้าย ไม่ง่าย
ขนาดผมไม่มีซับฯ เห็นแล้วยังอยากได้เรย แท่นรองออกแบบได้สวยดี
-
ซับสวย ดูดีมากๆๆ
อยากได้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่ตังค์ไม่ถึง :cry2 :cry2 :cry2 :cry2
-
สวยมากครับ ดูจากภาพแล้ว เสียงคงจะสุดๆจริงๆครับ :o
-
อยากรู้ราคาแท่นรองครับ รบกวนส่งขนาด ก*ย ที่จะผลิตมาด้วยนะครับ เพราะจะเอาไปเป็นขาตั้งเครื่องที่มือที่ผมคิดจะทำอ่ะครับ มีแบบวัสดุธรรมดาหรือไม่ครับคุณ IAV มี Power Amp ซัพพอร์ตแล้วใช่มั้ยครับหรือกำลังหาอยู่ ถ้าผมมีทุนพอจะฝากพี่ลองแอมของผมหน่อยนะครับ ไววยังไงก็จะติดต่อพี่ไปนะครับ แต่ก็อีกเป็นเดือนๆอยู่ครับ K]
-
เรียนคุณ นีโน่
ขนาดพร้อมทั้งราคาแนะนำ ได้แจ้งไว้ในอีกกระทู้แล้วครับ Click ตามนี้ได้เลยครับ
http://www.htg2.net/index.php?topic=45889.msg509317#msg509317
มีปัญหาเพิ่มเติมสอบถามมาได้นะครับ
Ko
-
สวยมากเลยครับ
-
น่าสนใจมากกก
-
Update ล่าสุดครับ :yahoo
ตอนนี้ Muses-12S Lot ใหม่กำลังอยู่ใน Line ผลิตครับ อีกทั้งจะมีการเสริม Line รุ่น Muses-12S Sig ขึ้นมาด้วยครับ ซึ่่งรายละเอียดรุ่น Muses-12S Sig จะนำมาแจ้งให้ทราบภายหลังครับ สำหรับ Line อื่นๆ จะทะยอยตามออกมาเรื่อยๆ ซึ่งตอนนี้ ก้อได้เปิดตัวรุ่น Ares-12S Sig ไปแล้ว
Road Map ของ Accuris ที่จะเปิดตัวตามมาเป็นดังนี้ครับ
June - Ares-12S Sig และ Ares-13S Sig / Muses-12S Sig
July - Muses-15S / Fates-12
August - Grates-12 / Fates-15
September - Grates-15
October - Ares-12S
November - Ares-13S
Update ราคา Muses-12S ตอนนี้ราคาตั้งอยู่ที่ 28,900 บาท สำหรับส่วนลดลองสอบถามไปทางตัวแทนได้ครับ
สำหรับท่านสมาชิกที่สนใจ Muses-12S สามารถติดต่อสั่งจองล่วงหน้าได้เลยครับ ตอนนี้นอกจากสั่งทาง IAV โดยตรงสามารถสั่งทางตัวแทนดังต่อไปนี้ได้ครับ
1) Sansuek HiFi - คุณ Dr Nop
2) Save Audio
3) Clef Audio
สำหรับท่านที่สนใจอยากทราบประสิทธิภาพของ Accuris Muses-12S ในการใช้งานในห้อง HT จริงลอง PM ไปสอบถามจากคุณ ko2521, คุณพี่เอ, และ Dr Nop ได้คร้บ คิดว่าทุกท่านคงยินดีให้คำตอบกับทุกท่านครับ
IAV
-
มีเพิ่มอีก 2 ซีรี่ย์
ซีรี่ใหม่คอนเซ็บคร่าวๆ ประมาณไหนครับ วางตำแหน่งไว้ยังงัยครับ
สูงกว่า Ares
หรือว่าอยู่ระหว่าง Ares กับ Muses :victory
-
เรียน คุณ B&K
เอาแบบคร่าวๆ นะครับ เพราะ Spec จะนำมาลงละเอียดแยกปลีกย่อยในแต่ละรุ่นอีกทีครับ
รุ่น Fates จะเป็นรุ่นที่ต่ำกว่ารุ่น Muses ครับ เป็นรุ่น Entry Level สำหรับการเล่น Passive Sub โดยตู้จะเป็นตู้เปิดทั้งหมด โดยที่ใช้แอมป์มาขับ 300 w ก้อเพียงพอแล้วครับ โดยที่คร่าวๆ ตู้ 12" จะมีราคาถึงมือลูกค้าไม่เกิน 18,000 บาทครับ
ส่วนรุ่น Grates จะเป็นรุ่นที่เน้นสำหรับ HT โดยเฉพาะ เป็น Active Sub รุ่นแรกใน Accuris Sub คือมีแอมป์ในตัวตู้เลย เหมือนกับยื่ห้ออื่นๆ โดยจะมีความพิเศษอยู่ที่จะเป็น Active Sub แบบ Servo Control ด้วยเช่นเดียวกับพวก Velodyne DD Series คือที่ Voice Coil จะมี Sensor วัดการขยับของกรวย พร้อมส่งข้อมูลไปให้ Processor ที่ Amp ทำการประมวลผล เพื่อให้การขยับของกรวยมีความเพี้ยนน้อยที่สุด โดยในรุ่นนี้จะมี Parametric EQ ในตัว พร้อมสามารถเลือกการปรับตั้ง Sub ได้ถึง 9 แบบเลยทีเดียว สำหรับราคาถึงมือลูกค้าจะอยู่ที่แถวๆ 30,000 บาท +/- นิดหน่อยครับ
คงพอเห็นภาพแล้วนะครับ
Ko
-
K.โก้
ขอถามนิดครับ ตอนนี้ลุงมี Anthem power amp MCA-5 อยู่ตัวนึงที่มี 5 output แต่ใช้ไปแค่ 2 ch
เลยอยากเอาที่เหลืออยูมาใช้ประโยชน์กับเจ้า Muses 12S sub ครับ
คร่าวๆ spec ของ amp คือ 250W ที่ 4 ohms ค่า damping 130 @ 8 ohms ครับ
เลยไม่แน่ใจว่าสามารถเอา sub อยู่รึเปล่า กะเอามาเป็น sub ตัวที่สามไว้หลังห้องครับ
ถ้าได้ ยังต้องใช้ DSP อีกรึเปล่า หรือสามารถใช้ pre คุมทีเดียวไปเลยครับ เพราะคิดกะเอามามันๆไม่อยากลงทุนสูงครับ
ถามเป็นข้อมูลไว้ก่อนการตัดสินใจครับ :)
-
เรียน คุณ Santa
สำหรับ amp Anthem ที่เหลืออยู่พอเอามาขับได้ครับ แต่อาจจะไม่ได้สุดกำลังของตู้ Muses ครับ ซึ่งจะดีแค่ไหน ต้องลองดูครับ เพราะตรงนี้เรื่องกำลังไม่ได้ดูที่ Watt อย่างเดียว ต้องดูที่ความสามารถในการจ่ายกระแสด้วยครับ เดี๋ยวถ้าเสร็จแล้ว จะโทรไปบอกคุณ Santa ครับ เพราะประทับใจกับคุณภาพภาพ และเสียงห้องคุณ Santa ครับ อยากไปชมอีกครับ เพราะที่มีอยู่ก้อดีมากแล้วครับ ไม่รู้ว่าถ้าเพิ่ม Sub หลังเข้าไปจะเป็นยังไง อืม น่าคิด ???
สำหรับ DSP นี่เป็นเรื่องจำเป็นครับ เพื่อทำให้เสียงของ sub ทั้ง หน้าและหลัง ทำงานกลืนเป็นตัวเดียวกันครับ ไม่อย่างงั้นจะมีปัฐหาในการตั้ง Delay ในเครื่อง Amthem Pre Surround ครับ อีกทั้งยังสามารถนำมาช่วยปรับ Response ของ sub แต่ละตัวให้ทำงานได้ความถี่ราบเรียบที่สุดด้วยครับ รับลองเล่นสนุกครับ สนนราคาก้อประมาณ 18,500 บาท เองครับเทียบกับความสามารถในตัวเครื่องแล้ว เกินคุ้มครับ
-
เรียน คุณ B&K
เอาแบบคร่าวๆ นะครับ เพราะ Spec จะนำมาลงละเอียดแยกปลีกย่อยในแต่ละรุ่นอีกทีครับ
รุ่น Fates จะเป็นรุ่นที่ต่ำกว่ารุ่น Muses ครับ เป็นรุ่น Entry Level สำหรับการเล่น Passive Sub โดยตู้จะเป็นตู้เปิดทั้งหมด โดยที่ใช้แอมป์มาขับ 300 w ก้อเพียงพอแล้วครับ โดยที่คร่าวๆ ตู้ 12" จะมีราคาถึงมือลูกค้าไม่เกิน 18,000 บาทครับ
ส่วนรุ่น Grates จะเป็นรุ่นที่เน้นสำหรับ HT โดยเฉพาะ เป็น Active Sub รุ่นแรกใน Accuris Sub คือมีแอมป์ในตัวตู้เลย เหมือนกับยื่ห้ออื่นๆ โดยจะมีความพิเศษอยู่ที่จะเป็น Active Sub แบบ Servo Control ด้วยเช่นเดียวกับพวก Velodyne DD Series คือที่ Voice Coil จะมี Sensor วัดการขยับของกรวย พร้อมส่งข้อมูลไปให้ Processor ที่ Amp ทำการประมวลผล เพื่อให้การขยับของกรวยมีความเพี้ยนน้อยที่สุด โดยในรุ่นนี้จะมี Parametric EQ ในตัว พร้อมสามารถเลือกการปรับตั้ง Sub ได้ถึง 9 แบบเลยทีเดียว สำหรับราคาถึงมือลูกค้าจะอยู่ที่แถวๆ 30,000 บาท +/- นิดหน่อยครับ
คงพอเห็นภาพแล้วนะครับ
Ko
ขอบคุณ คุณโก้ครับ สำหรับรายละเอียด
ออกไลน์มาครอบคลุมแบบนี้ น่าจะเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นนะครับ (โดยเฉพาะลูกค้าจนกรอบเกรียบอย่างผม) 0)]
แบบนี้หยอดกระปุกรออย่างเดียวครับ c)
เลิกซื้อไฟฉายบ้าพลัง เลิกซื้อมีด ไปซักครึ่งปี :giveup
-
ครึ่งปีเอง :)
ไฟฉายกับมีดคงอลังน่าดูครับ เอามาโชว์กันบ้างสิครับ :)
เรียน คุณ B&K
เอาแบบคร่าวๆ นะครับ เพราะ Spec จะนำมาลงละเอียดแยกปลีกย่อยในแต่ละรุ่นอีกทีครับ
รุ่น Fates จะเป็นรุ่นที่ต่ำกว่ารุ่น Muses ครับ เป็นรุ่น Entry Level สำหรับการเล่น Passive Sub โดยตู้จะเป็นตู้เปิดทั้งหมด โดยที่ใช้แอมป์มาขับ 300 w ก้อเพียงพอแล้วครับ โดยที่คร่าวๆ ตู้ 12" จะมีราคาถึงมือลูกค้าไม่เกิน 18,000 บาทครับ
ส่วนรุ่น Grates จะเป็นรุ่นที่เน้นสำหรับ HT โดยเฉพาะ เป็น Active Sub รุ่นแรกใน Accuris Sub คือมีแอมป์ในตัวตู้เลย เหมือนกับยื่ห้ออื่นๆ โดยจะมีความพิเศษอยู่ที่จะเป็น Active Sub แบบ Servo Control ด้วยเช่นเดียวกับพวก Velodyne DD Series คือที่ Voice Coil จะมี Sensor วัดการขยับของกรวย พร้อมส่งข้อมูลไปให้ Processor ที่ Amp ทำการประมวลผล เพื่อให้การขยับของกรวยมีความเพี้ยนน้อยที่สุด โดยในรุ่นนี้จะมี Parametric EQ ในตัว พร้อมสามารถเลือกการปรับตั้ง Sub ได้ถึง 9 แบบเลยทีเดียว สำหรับราคาถึงมือลูกค้าจะอยู่ที่แถวๆ 30,000 บาท +/- นิดหน่อยครับ
คงพอเห็นภาพแล้วนะครับ
Ko
ขอบคุณ คุณโก้ครับ สำหรับรายละเอียด
ออกไลน์มาครอบคลุมแบบนี้ น่าจะเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นนะครับ (โดยเฉพาะลูกค้าจนกรอบเกรียบอย่างผม) 0)]
แบบนี้หยอดกระปุกรออย่างเดียวครับ c)
เลิกซื้อไฟฉายบ้าพลัง เลิกซื้อมีด ไปซักครึ่งปี :giveup
-
เรียนทุกท่าน
ตอนนี้นำ Guideline ในการใช้จำนวน Sub กับขนาดห้องที่เหมาะสม ไปลงไว้ให้ศึกษาดูที่กระทู้ แนะนำ Accuris Ares Sig ครับ ลองไปอ่านดูน่าจะได้ประโยชน์บ้างครับ
-
หากระทู้ไม่เจอ :showoff
-
เรียน คุณ sharkV6
ลอง Click ตาม link นี้ได้เลยครับ
http://www.htg2.net/index.php?topic=49140.msg565594#msg565594
อาทิตย์หน้า เจอกันนะครับ ตอนไปส่ง Sub ตัวใหม่
-
เนื่องจากมีผู้สนใจอยากทราบรายละเอียดเกี่ยวกับที่จะเอามาขับ Accuris Sub จึงเอาราคาทั่วไปกับรายละเอียดความเหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละรุ่นมาให้ดูครับ
แอมป์ที่ใช้เป็นยี่ห้อ ACM Audio แอมป์ 2 CH ทั้งหมดครับ ราคาที่ลงเป็นราคาตั้งนะครับ ราคาจริงมีส่วนลดจากนี้ครับ โดยประมาณ 10-15% สำหรับเรตติ้งในตาราง OK, Good, และ Excellent คือเรตของประสิทธิภาพเสียงและคุณภาพเสียงที่ได้ครับ NE หมายถึงไม่เพียงพอ NN หมายถึงไม่จำเป็น แต่ถ้าอยากใช้ ก้อใช้ได้ครับ
1. Q2150 ราคา 7,500 บาท
(150W/CH @ 8 Ohm, 225W/CH @ 4 Ohm, Bridge Mono 450 W/CH @ 8 Ohm, Damping Factor >500)
2. Q2200 ราคา 11,000 บาท
(200W/CH @ 8 Ohm, 300W/CH @ 4 Ohm, Bridge Mono 600 W/CH @ 8 Ohm, Damping Factor >500)
3. M2300 และ H900 ทั้งคู่ราคา 16,500 บาทเท่ากัน Spec เท่ากัน ต่างกันที่ หน้าตา
(300W/CH @ 8 Ohm, 450W/CH @ 4 Ohm, Bridge Mono 900 W/CH @ 8 Ohm, Damping Factor >500)
4. M2500 และ H1500 ทั้งคู่ราคา 19,500 บาทเท่ากัน Spec เท่ากัน ต่างกันที่ หน้าตา
(500W/CH @ 8 Ohm, 750W/CH @ 4 Ohm, Bridge Mono 1,500 W/CH @ 8 Ohm, Damping Factor >700)
5. M2800 และ A2400 ทั้งคู่ราคา 25,500 บาทเท่ากัน Spec เท่ากัน ต่างกันที่ หน้าตา
(800W/CH @ 8 Ohm, 1,800W/CH @ 4 Ohm, Bridge Mono 2,400 W/CH @ 8 Ohm, Damping Factor >800)
6. M2800.2 ราคา 27,000 บาท เป็น 800W รุ่นพิเศษเพื่อรองรับโหลด 2 Ohm ได้ดี โดยมี Power Supply ใหญ่พอๆ กับรุ่น M21200
(800W/CH @ 8 Ohm, 1200W/CH @ 4 Ohm, 1,800W/Ch @ 2 Ohm, Bridge Mono 3,600 W/CH @ 4 Ohm, Damping Factor >800)
7. A3000 ราคา 29,000 บาท
(1,000W/CH @ 8 Ohm, 1,600W/CH @ 4 Ohm, Bridge Mono 3,000 W/CH @ 8 Ohm, Damping Factor >800)
8. M21200 ราคา 28,000 บาท
(1,200W/CH @ 8 Ohm, 1,800W/CH @ 4 Ohm, Bridge Mono 3,600 W/CH @ 8 Ohm, Damping Factor >800)
M21200 เสียงพัดลมมันดังมากมีวิธีแก้ไขใหมครับ
-
ผมใช้วิธีเปลีียนพัดลมข้างในครับ (ใช้อยู่เป็นรุ่น H1500) ข้างในเครื่องเป็นพัดลม ขนาด 8 x 8 ซม. สองตัว
หาพัดลมตามร้านคอมแถวพันทิพย์มาเปลี่ยนได้ไม่ยากครับ ลมจะค่อยลงหน่อยแต่ผมว่าไม่น่ามีปัญหา เครื่องไม่ค่อยร้อนเลยครับ
-
ตามที่คุณ พี่เอ ว่าเลยครับ แต่ต้องหาพัดลมดีๆ หน่อยนะครับ ไม่งั้นเปลี่ยนมาเสียงเงินฟรีครับ