HTG2.club

Home Theater Guide webboard => มุม Thai DIY Audio => ข้อความที่เริ่มโดย: k.ken ที่ 11 ธันวาคม, 2008, 05:37:08 pm

หัวข้อ: แอมป์ มี nfb กับ ไม่มี nfb
เริ่มหัวข้อโดย: k.ken ที่ 11 ธันวาคม, 2008, 05:37:08 pm
 :)  มีใคร ฟังแอมป์ที่ต่อ nfb กับ กับไม่ต่อ nfb  บ้างครับ
หัวข้อ: Re: แอมป์ มี nfb กับ ไม่มี nfb
เริ่มหัวข้อโดย: สุดเหนือ ที่ 12 ธันวาคม, 2008, 09:51:13 am
ผมเคยฟังครับ ตอนแรกก็ มี พอตัดออกไปแล้ว ไม่มีดีกว่า..
หัวข้อ: Re: แอมป์ มี nfb กับ ไม่มี nfb
เริ่มหัวข้อโดย: SOUNDTUBE ที่ 12 ธันวาคม, 2008, 10:03:57 am
พอตัด nfb ออกแล้ว ได้อะไรเพิ่ม หรือเสียอะไรไปบ้างครับ
ขอถามท่านผู้เยี่ยมยุทธว่า การมี nfb หรือ ไม่มี มีข้อจำกัดในแอมป์ที่เป็นแบบ pp หรือ se หรือไม่อย่างไรครับ ขอรบกวนด้วยนะครับ ถ้าได้แบบละเอียดก็ดีนะครับ :help ขอบคุณล่วงหน้าครับ
หัวข้อ: Re: แอมป์ มี nfb กับ ไม่มี nfb
เริ่มหัวข้อโดย: PORN ที่ 12 ธันวาคม, 2008, 10:33:01 am
พอตัด nfb ออกแล้ว ได้อะไรเพิ่ม หรือเสียอะไรไปบ้างครับ
ขอถามท่านผู้เยี่ยมยุทธว่า การมี nfb หรือ ไม่มี มีข้อจำกัดในแอมป์ที่เป็นแบบ pp หรือ se หรือไม่อย่างไรครับ ขอรบกวนด้วยนะครับ ถ้าได้แบบละเอียดก็ดีนะครับ :help ขอบคุณล่วงหน้าครับ

nagative  feed back  มีเพื่ออะไร   

  1  ลด distortion
  2  เพิ่ม  band width  ทำให้ความถี่สูงดีขึ้น

เทียบกับ zero nagative  feed back  คือไม่มีnagative  feed back  เลย
หัวข้อ: Re: แอมป์ มี nfb กับ ไม่มี nfb
เริ่มหัวข้อโดย: คนไกลบ้าน ที่ 12 ธันวาคม, 2008, 01:29:27 pm
ผมคุ้นเคยกับเครื่องโซลิดสเตท เท่าที่ฟังเครื่องที่ไม่มี NFB (Tula รุ่น 260B กับ Hybrid ที่ลงในหนังสืออีเลคทรอนิคส์เวิลด์) สิ่งนึงที่ฟังออกคือเสียงมันเป็นดนตรีมากกว่า ไม่เครียด ประมาณว่าเสียงที่ปลดปล่อยออกมามันอิสระ ไม่ถูกบีบบังคับ แต่เสียงเบสจะไม่กระชับแน่นเท่าไร แต่ทั้งนี้มันขึ้นกับ Power supply ด้วย ผมเคยลองโมเครื่องที่ไม่มี NFB พบว่าถ้าอยากให้เบสดีๆ ลงได้ลึกๆ (แต่เรื่องความกระชับแน่น ต้องทำใจหน่อย) ต้องใช้ C-filter ชนิดดีๆ ค่าเยอะๆ (แต่ถ้าเยอะไป ระวังเจอเสียงช้า) พอสรุปได้ว่าตัว NFB มันต้องมีบ้างเพื่อให้ได้ฐานเสียงที่ดี แต่ถ้ามากไปเสียงมันจะแน่นจนเครียด..อันนี้เป็นความเห็นเบื้องต้นนะครับ เพราะจริงๆ มันมีตัวแปรอีกเพียบ
..ส่วนเครื่องหลอดคงต้องรอท่านอื่นมาออกความเห็นอ่ะครับ..
หัวข้อ: Re: แอมป์ มี nfb กับ ไม่มี nfb
เริ่มหัวข้อโดย: k.ken ที่ 12 ธันวาคม, 2008, 01:32:22 pm
 :shutup  คือเมื่อวานผมได้ลอง ตัดมันออก ( se kt88 ) สิ่งที่ผมได้ยินเพิ่ม คือ ปลายแหลมมีมากขึ้น เสียงของดนตรีได้ยินชัดขึ้นกว่าเดิม เสียงกระซิบ จ๊อกแจ๊กจอแจมีมากขึ้ม ผมเลยมีความคิดที่จะป้อนกลับเฉพาะภาคแรก จะดีไหม  ใครพอมีตัวอย่างวงจรให้ดูบ้างครับ
หัวข้อ: Re: แอมป์ มี nfb กับ ไม่มี nfb
เริ่มหัวข้อโดย: PORN ที่ 12 ธันวาคม, 2008, 02:16:05 pm
ผมคุ้นเคยกับเครื่องโซลิดสเตท เท่าที่ฟังเครื่องที่ไม่มี NFB (Tula รุ่น 260B กับ Hybrid ที่ลงในหนังสืออีเลคทรอนิคส์เวิลด์) สิ่งนึงที่ฟังออกคือเสียงมันเป็นดนตรีมากกว่า ไม่เครียด ประมาณว่าเสียงที่ปลดปล่อยออกมามันอิสระ ไม่ถูกบีบบังคับ แต่เสียงเบสจะไม่กระชับแน่นเท่าไร แต่ทั้งนี้มันขึ้นกับ Poewr supply ด้วย ผมเคยลองโมเครื่องที่ไม่มี NFB พบว่าถ้าอยากให้เบสดีๆ ลงได้ลึกๆ (แต่เรื่องความกระชับแน่น ต้องทำใจหน่อย) ต้องใช้ C-filter ชนิดดีๆ ค่าเยอะๆ (แต่ถ้าเยอะไป ระวังเจอเสียงช้า) พอสรุปได้ว่าตัว NFB มันต้องมีบ้างเพื่อให้ได้ฐานเสียงที่ดี แต่ถ้ามากไปเสียงมันจะแน่นจนเครียด..อันนี้เป็นความเห็นเบื้องต้นนะครับ เพราะจริงๆ มันมีตัวแปรอีกเพียบ
..ส่วนเครื่องหลอดคงต้องรอท่านอื่นมาออกความเห็นอ่ะครับ..

" ผมคุ้นเคยกับเครื่องโซลิดสเตท เท่าที่ฟังเครื่องที่ไม่มี NFB สิ่งนึงที่ฟังออกคือเสียงมันเป็นดนตรีมากกว่า ไม่เครียด ประมาณว่าเสียงที่ปลดปล่อยออกมามันอิสระ ไม่ถูกบีบบังคับ "   ----->>>  :yahoo  เข้าถึงจริงๆ นับถือ  นับถือ
ถูกต้องแล้ว   zero nagative  feed back  คือไม่มีการป้อนกลับมาบังคับอะไรเลย  เสียงจึงปล่อยออกมาอิสระ ไม่ถูกบีบบังคับ ต้องนึกถึงสภาพเป็นจริงที่ Amp ขยายเสียงทีมีที่ทุกความถี่เสียงเปล่งพลังงานออกมาอย่างอิสระ  เช่น เสียงกลองกำลังอัดอย่างแรงคือความถี่ต่ำต้องการพลังมาก   นักร้องเริ่มเบาเสียงร้องคือความถี่กลางลดกำลังลง   ไวโอรินกำลังสีอย่างเมามันส์นั่นคือพลังงานความถี่สูงต้องการเพิ่มอย่างฉับพลัน   นี่คือสิ่งที่เกิดจริงๆ  คือชิ้นดนตรีแต่ชิ้นเป็นอิสระแก่กัน  ดังนั้น  zero nagative  feed back  ก็ให้นึกถืง   freq domain

แต่หากมี  nagative  feed back  ลองนึกถึงวงจรที่มีการเอาsingnalจากoutput ป้อนกลับมาควบคุมinput  นี่เป็นการเอาสัญญาณขณะใดขณะหนึ่ง ( time domain ) มาควบคุม ความถี่ต่ำก็เร่งไม่สุดเพราะเสียงกลางต้องการลดพลังงาน ไวโอรินก็สีได้พลังไม่สุดเพราะเสียงกลางบอกว่าต้องการลดพลังงานอีก   เพราะชิ้นดนตรีสามชิ้นนี้ไม่เป็นอิสระแก่กัน ถูกควบคุมจาก Feed back จากจุดเดียวกัน    แต่ในความจริงแล้วดนตรีทุกชิ้น ความถี่ทุกย่านความถี่ เป็นอิสระแก่กัน     
หัวข้อ: Re: แอมป์ มี nfb กับ ไม่มี nfb
เริ่มหัวข้อโดย: k.ken ที่ 12 ธันวาคม, 2008, 05:31:30 pm
 d_d  น่านเห็นไหม...ผมต้องทำสวิทต์ใส่น่าจะดีกว่า
หัวข้อ: Re: แอมป์ มี nfb กับ ไม่มี nfb
เริ่มหัวข้อโดย: PIRAT_ACHA ที่ 12 ธันวาคม, 2008, 05:40:05 pm
 :victory  ผมว่าความพอใจ ของแต่ละคนเปลี่ยนแปลงได้เสมอนะครับ  :victory 
 8) ใส่สวิสต์ไว้แล้วแต่ อารมณ์การฟัง ก็เป็นไอเดียที่ดีมากเลยครับ  d_d
หัวข้อ: Re: แอมป์ มี nfb กับ ไม่มี nfb
เริ่มหัวข้อโดย: แซม ที่ 12 ธันวาคม, 2008, 11:03:53 pm
เอ ผมยังเข้าใจว่า ถ้าแอมป์มี การขยายเท่ากับ 10 โดยคำนวณจาก ค่า Rf/Rg +1 การขยายสัญญาณจะออกมาเท่าๆกันทุกความถี่ ที่เบาก็ถูกดึงขึ้นมา 10 เท่า ที่แรงกว่าก็ขยายไปอีก 10 เท่า ในช่วงที่ไม่คลิป นะครับ แบบนี้มันอิสระไหมน้อ งงจริงๆ และถ้าไม่มี NFB นี่มันจะขยายที่เท่าๆกันหรือเปล่าครับ กี่เท่าครับ (เที่ยวนี้ถามเยอะไปหน่อย) ในแง่ solid หรือ หลอด ด้วยละ ต่างกันไหมน้อ  :)
หัวข้อ: Re: แอมป์ มี nfb กับ ไม่มี nfb
เริ่มหัวข้อโดย: -=(หวาก)=- ที่ 12 ธันวาคม, 2008, 11:14:04 pm
จากที่พี่หลายๆท่านตอบข้างบน อาจคิดว่า Negative  feed back ไม่มีข้อดีเลย
แต่จริงๆแล้ว ผมว่ามันได้เสียงที่ไปคนละแนวกันมากกว่า

และที่สำคัญที่สุด มันเป็นตัวที่ป้องกันไม่ให้ เครื่องออสซิลเลท ซึ่ง
จะทำให้แอมป์และลำโพงไปบ้านเก่าได้ก่อนเวลาอันควรครับ
หัวข้อ: Re: แอมป์ มี nfb กับ ไม่มี nfb
เริ่มหัวข้อโดย: kantang ที่ 12 ธันวาคม, 2008, 11:26:15 pm
ผมชอบ positive feedback มากกว่า  K]  K]  N]  N]
หัวข้อ: Re: แอมป์ มี nfb กับ ไม่มี nfb
เริ่มหัวข้อโดย: แซม ที่ 12 ธันวาคม, 2008, 11:31:17 pm
ผมชอบ positive feedback มากกว่า  K]  K]  N]  N]
ผมก็ชอบครับเสียงมันหวาดเสียวดี ลำโพงกระเพื่อม กระดอน อิอิ
จริงๆแล้วผมชอบ NFB แบบ Multi NFB เสียงมันนุ่มดีนะผมว่า  :)
หัวข้อ: Re: แอมป์ มี nfb กับ ไม่มี nfb
เริ่มหัวข้อโดย: PORN ที่ 12 ธันวาคม, 2008, 11:41:40 pm
เอ ผมยังเข้าใจว่า ถ้าแอมป์มี การขยายเท่ากับ 10 โดยคำนวณจาก ค่า Rf/Rg +1 การขยายสัญญาณจะออกมาเท่าๆกันทุกความถี่ ที่เบาก็ถูกดึงขึ้นมา 10 เท่า ที่แรงกว่าก็ขยายไปอีก 10 เท่า ในช่วงที่ไม่คลิป นะครับ แบบนี้มันอิสระไหมน้อ งงจริงๆ และถ้าไม่มี NFB นี่มันจะขยายที่เท่าๆกันหรือเปล่าครับ กี่เท่าครับ (เที่ยวนี้ถามเยอะไปหน่อย) ในแง่ solid หรือ หลอด ด้วยละ ต่างกันไหมน้อ  :)

5 5 5 5  บางอย่างตำราไม่ได้พูดถึงในแง่ปฎิบัติ  
ถูกต้อง  "   การขยายสัญญาณจะออกมาเท่าๆกันทุกความถี่ ที่เบาก็ถูกดึงขึ้นมา 10 เท่า ที่แรงกว่าก็ขยายไปอีก 10 เท่า ในช่วงที่ไม่คลิป นะครับ "---->>  ถ้าป้อนสัญญาณทีละความถี่ อย่างที่เรียนมา หรือทดสอบในLAB  ขอย้ำว่า ทีละความถี่

แต่จริงๆเวลาฟังเพลงคุณฟังเสียงทีละความถี่หรือเปล่า  
เราฟังเพลงเป็นแถบความถี่ หลายๆความถี่ออกมาพร้อมๆใช่ไหม

ถ้าผมป้อนความถี่ 1 Khz เข้า Amp ราคา 10,000บาท  กับ  Amp ราคา 100,000บาท  ด้วย power เท่ากัน  ลำโพงเดียวกัน ใครฟังออกว่าเสียงต่างกันอย่างไร
หัวข้อ: Re: แอมป์ มี nfb กับ ไม่มี nfb
เริ่มหัวข้อโดย: AD1865 ที่ 13 ธันวาคม, 2008, 08:34:39 pm
ผมอยากจะตอบแบบหลักการชาวบ้านนิดนึงนะ ในคนๆ หนึ่งสามารถทำให้ปรีแอมป์ หรือ แอมป์ที่ไม่มีฟี้ดแบ็คเสียงดีได้ทุกเมื่อที่เขาคิดว่าสูงดีกว่า กลางฉับไว เบสต้นดี แต่เขากลับคิดว่าเขาไม่มีทางที่จะทำให้วงจรที่มีฟี้ดแบ็คเสียงดีแบบนั้นได้เลย เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของคนนะ เพราะคนๆ นั้นทำไม่ได้ต่างหาก ในขณะที่คนที่ทำได้เขาจะไม่พูด ให้เป็นเรื่องเสวนาของเด็กๆ กันซะมากกว่า (ฟังผู้ใหญ่เขาพูดมา)
หัวข้อ: Re: แอมป์ มี nfb กับ ไม่มี nfb
เริ่มหัวข้อโดย: SOUNDTUBE ที่ 13 ธันวาคม, 2008, 08:36:31 pm
วันนี้ลองตัด nfb ออกจาก TS 34.2 เสียงออกแตกๆครับ ต้องใส่เข้าที่เดิมครับ
หัวข้อ: Re: แอมป์ มี nfb กับ ไม่มี nfb
เริ่มหัวข้อโดย: คนไกลบ้าน ที่ 13 ธันวาคม, 2008, 08:39:57 pm
เอ ผมยังเข้าใจว่า ถ้าแอมป์มี การขยายเท่ากับ 10 โดยคำนวณจาก ค่า Rf/Rg +1 การขยายสัญญาณจะออกมาเท่าๆกันทุกความถี่ ที่เบาก็ถูกดึงขึ้นมา 10 เท่า ที่แรงกว่าก็ขยายไปอีก 10 เท่า ในช่วงที่ไม่คลิป นะครับ แบบนี้มันอิสระไหมน้อ งงจริงๆ และถ้าไม่มี NFB นี่มันจะขยายที่เท่าๆกันหรือเปล่าครับ กี่เท่าครับ (เที่ยวนี้ถามเยอะไปหน่อย) ในแง่ solid หรือ หลอด ด้วยละ ต่างกันไหมน้อ  :)
คืออย่างนี้ครับพี่แซม ที่พี่กล่าวมามันคืออัตราการขยายของวงจร ถ้าวงจรของพี่มีเกนฑ์ 10 เท่า และมีแบนวิดท์ 20Hz-20kHz สัญญาณความถี่ที่เข้ามาตั้งแต่ 20Hz-20kHz มันจะถูกขยายขึ้น 10 เท่า เท่ากันทุกความถี่
แต่คำว่าอิสระที่พูดถึงกันหมายถึงอิสระทางเสียง ถ้าจะอธิบายทางสัญญาณก็พอจะได้ว่า ...วงจรที่ไม่มี NFB เวลามันขยายสัญญาณไปแล้ว มันปล่อยออกไปเลย ผิดเพี้ยนยังไงวงจรมันไม่รับรู้ ไม่มีการกลับมาคิด เท่ากับว่าเสียงที่หลุดออกไป มันปราศจากการควบคุม...อิสระเสรี ครับ
ส่วนวงจรที่มี NFB สัญญาณที่ขยายออกไป มันจะถูกนำเอาบางส่วนป้อนกลับมาเปรียบเทียบกับสัญญาณที่อินพุต เพื่อคุมอัตราการขยายและเพิ่มแบนด์วิดของวงจร ...(เริ่มมีการบังคับสัญญาณ..ความอิสระในการขยายสัญญาณเริ่มหายไปแล้ว) และสัญญาณที่ป้อนกลับมานี่แหละตัวปัญหา พอมันมาเทียบกับสัญญาณทางอินพุตแล้วมันจะทำให้เกิดปัญหาเฟสของสัญญาณมันเลื่อน (Phase shift) ซึ่งแต่ละความถี่ก็จะเลื่อนไม่เท่ากัน (ขึ้นอยู่กับค่า C ที่แฝงตามตัวอุปกรณ์) ผลที่ตามมาคือ ค่าความเพี้ยนของสัญญาณที่เกิดขึ้นมันจะกระจายตัว เป็นผลให้ความเพี้ยน Harmonic อันดับต้นๆ ลดลง แต่มันจะไปปรากฎเป็นความเพี้ยนในรูปของเฟสและการผสมผสานของสัญญาณ (TIM) แทน เสียงที่ออกมามันเลยผิดเพี้ยนจากที่ควรจะเป็นเพราะผลจาก Harmonic พวกนี้แหละ (ซึงแต่เดิมที่ไม่มีการป้อนกลับความเพี้ยนที่เป็น Harmonic อันดับต้นๆ เช่น Harmonic ที่ 2 มันจะสูง พอวัด THD มันเลยได้สูง) ... d_d
หัวข้อ: Re: แอมป์ มี nfb กับ ไม่มี nfb
เริ่มหัวข้อโดย: PORN ที่ 13 ธันวาคม, 2008, 09:21:36 pm
วันนี้ลองตัด nfb ออกจาก TS 34.2 เสียงออกแตกๆครับ ต้องใส่เข้าที่เดิมครับ

ถูกแล้ว  เพราะถ้าวงจรออกแบบมาต้องการมีNFB  วงจรจะถูกออกแบบให้มี gain สูงก่อน(open loop gain)     แล้วใช้NFB ในปริมาณที่เหมาะกดgainรวมลงไป  เป็น closed loop gain
"วันนี้ลองตัด nfb ออกจาก TS 34.2 เสียงออกแตกๆครับ  "  ------>เป็น open loop gain       gainสูงมาก ขยายนิดเดียวเสียงแตกเลย
หัวข้อ: Re: แอมป์ มี nfb กับ ไม่มี nfb
เริ่มหัวข้อโดย: SOUNDTUBE ที่ 13 ธันวาคม, 2008, 09:25:20 pm
ขอบคุณครับ ชอบลองครับ
หัวข้อ: Re: แอมป์ มี nfb กับ ไม่มี nfb
เริ่มหัวข้อโดย: phakung ที่ 13 ธันวาคม, 2008, 09:59:26 pm
ผมว่า การป้อนกลับ วงจรจะทำงานเสถึยรกว่า ไม่มีการป้อนกลับ
แต่วงจรที่ไม่มีการป้อนกลับค่อนค้างที่จะได้เปรียบในเรื่องความสมจริงและการเป็นดนตรีของเสียง
การนำไปใช้งานในส่วนตัวผมคิดว่า ขึ้นอยู่กับสถานการ
เช่น แอมป์โซลิดสเตจควรมีการป้อนกลับ เพื่อรักษาเสถียรภาพและป้องกันการออสซิเลต ของ ทรานซิสเตอร์ ภาคO/p(power transister)
ส่วนแอมป์หลอดนั้นจะมีหรือไม่มีก็ต้องขึ้นอยู่กับวงจร ถ้าวงจรไหนมีการทำ ULTRA PARTH  ไม่จำเป็นต้องมีเพราะมีการ แมทซ์อิมพีแดนซ์ทางด้านหลอด O/Pแล้วครับ แล้วซึ่งตรงจุดนี้จะทำให้เกิดออสซิเลต ได้ยากมากเพราะวงจรจะทำการชดเชยการทำงานทางด้าน I/P กับ O/P ไว้แล้ว แล้วสำหรับแอมป์หลอดไม่มีการป้อนกลับเสียงน่าจะดีกว่าครับ
หัวข้อ: Re: แอมป์ มี nfb กับ ไม่มี nfb
เริ่มหัวข้อโดย: PORN ที่ 13 ธันวาคม, 2008, 10:14:54 pm
ผมว่า การป้อนกลับ วงจรจะทำงานเสถึยรกว่า ไม่มีการป้อนกลับ
แต่วงจรที่ไม่มีการป้อนกลับค่อนค้างที่จะได้เปรียบในเรื่องความสมจริงและการเป็นดนตรีของเสียง
การนำไปใช้งานในส่วนตัวผมคิดว่า ขึ้นอยู่กับสถานการ
เช่น แอมป์โซลิดสเตจควรมีการป้อนกลับ เพื่อรักษาเสถียรภาพและป้องกันการออสซิเลต ของ ทรานซิสเตอร์ ภาคO/p(power transister)
ส่วนแอมป์หลอดนั้นจะมีหรือไม่มีก็ต้องขึ้นอยู่กับวงจร ถ้าวงจรไหนมีการทำ ULTRA PARTH  ไม่จำเป็นต้องมีเพราะมีการ แมทซ์อิมพีแดนซ์ทางด้านหลอด O/Pแล้วครับ แล้วซึ่งตรงจุดนี้จะทำให้เกิดออสซิเลต ได้ยากมากเพราะวงจรจะทำการชดเชยการทำงานทางด้าน I/P กับ O/P ไว้แล้ว แล้วสำหรับแอมป์หลอดไม่มีการป้อนกลับเสียงน่าจะดีกว่าครับ

 c) c) c) c) c) c) c) c) c) c)
 :victory :victory :victory :victory
 O0 O0 O0 O0 O0 O0 O0 O0 O0

เห็นด้วย :showoff   
เพราะ โซลิดสเตจ เป็นอุปกรณ์ NON linear  ต้องการ   NFB อย่างแรง
เพราะ  หลอด  เป็นอุปกรณ์ เกือบ linear    NFBไม่ค่อยจำเป็น      distortion 5-6%  หูคนจับไม่ได้   แต่เอาเข้าเครื่องทดสอบวัดได้
หัวข้อ: Re: แอมป์ มี nfb กับ ไม่มี nfb
เริ่มหัวข้อโดย: k.ken ที่ 16 ธันวาคม, 2008, 07:31:11 pm
 :cold  เมื่อเช้าได้ลองเปลี่ยน หลอดปรี จาก 12ax7 volvo  เป็น ecc81 siemen   ปรากฎว่า ecc81 เสียงดีกว่า..เออ  ใครมีก็ลองเอามาใช้งานดูน่ะครับ