HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม โฮมเธียเตอร์ (HT) => ข้อความที่เริ่มโดย: One Man ที่ 27 กรกฎาคม, 2005, 04:43:29 pm
-
อย่างที่ถามครับ ช่วงนี้น้ำมันแพง ผมเลยคิดว่าถ้าเติม 95+91 จะประหยัดได้นิดนึง เพื่อนๆ พี่ๆ มีความเห็นอย่างไรกันบ้าง ;)
-
[b]เติมแก็สโซฮอล 91 (มีที่ปั๊มบางจากแห่งเดียว) หรือ 95 ทั้ง เชลล์,ปตท, และบางจาก.....ไม่มีผลเสียหายกับเครื่องยนต์ ถูกตังค์กว่าเยอะครับ!!!![/b]
-
ผมเซ็งเลยเดี๋ยวนี้น้ำมันหลวงที่เค้าเอามาให้ใช้ฟรีดันเป็นแก็สโซฮอลหมดเรย >:(
ผมมองว่าเป็นเรื่องสมควรนะครับ :)
ผมก็อยากใช้ โซฮอล ... ผมมองว่าโดยรวมแล้วประเทศชาติได้ประโยชน์โดยที่เราไม่ได้เสียอะไร
แต่หน้าที่ทำงานผม Shell ไม่มีโซฮอลให้เติม ... แล้วบริษัทผมให้รูดแต่การ์ดของ Shell .. เลยเติมไม่ได้
แย่ๆๆๆ :(
-
ลองอ่านดูครับ พอดีไปเจอมาครับ
รถยนต์ในบ้านเราปัจจุบันนี้สามารถใช้แก๊สโซฮอล์ได้หรือเปล่า ตอบไปเลยว่าได้
แต่ถ้าถามว่าแล้วมันจะมีผลกระทบอะไรตามมาหรือเปล่าจากการใช้แก๊สโซฮอล์ ตอบไปเลยสิว่า มีดังต่อไปนี้
1. รถยนต์ในประเทศไทยที่ผลิตตั้งแต่ปี 1995 เป็นต้นมา ถังน้ำมันในรถยนต์ตลอดจนท่อทางเดินน้ำมันจากถังน้ำมันเข้าสู่เครื่องยนต์จะทำจากวัสดุที่ทำจากยาง หรือพลาสติกชนิดพิเศษ เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำมันไร้สารตะกั่วทำปฏิกริยากับถังน้ำมันเหล็กของรถยนต์รุ่นก่อนหน้านี้ (รถยนต์รุ่นเก่ากว่าปี 1994 ลงไป) ซึ่งไม่สามารถจะใช้น้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่วได้เนื่องจากถังน้ำมันและท่อทางเดินจากเป็นสนิมอย่างรวดเร็วหากใช้น้ำมันไร้สารตะกั่ว ทำให้ถังน้ำมันและท่อทางเดินน้ำมันรั่วซึมก่อนเวลาอันควรแต่เมื่อรัฐบาลมารณรงค์ให้ใช้แก๊สโซฮอล์ ซึ่งมีส่วนผสมของเอธานอล 10 % และน้ำมันเบนซิน 91 90% หรือ E10 ที่คุยนักหนาว่าเติมได้ ปรากฏว่าเจ้าเอธานอล 10% ที่ว่านี้มันไปทำปฏิกริยากับถังน้ำมันรถยนต์และท่อทางเดินน้ำมันรถยนต์ที่ผลิตจากวัสดุที่ทำจากยาง หรือพลาสติกชนิดพิเศษทำให้เกิดการกัดกร่อนยาง หรือพลาสติกชนิดพิเศษ กลายเป็นตะกอนสะสมในถังน้ำมันไปเรื่อยๆ ทีละน้อยเมื่อปริมาณตะกอนมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะเกิดผลกระทบดังต่อไปนี้
1. ปั๊มน้ำมันไฟฟ้าจะต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อดูดเอาน้ำมันเข้าไปเผาไหม้ในห้องเครื่องยนต์ทำให้อายุการใช้งานของปั๊มน้ำมันไฟฟ้าสั้นลงอย่างรวดเร็ว
2. ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงหรือกรองเบนซินจะอุดตันเร็วกว่าปกติ ทำให้อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของรถยนต์เพิ่มสูงขึ้น และทำให้เครื่องยนต์กำลังตกลงเนื่องจากปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงไม่ได้สัดส่วนกับปริมาณของอากาศ เมื่อ ECU สั่งจุดระเบิดจะทำให้กำลังของเครื่องยนต์ต่ำกว่ามาตรฐานของมันส่งผลให้เกิดอาการที่เรียกว่าเร่งไม่ขึ้น
3. ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์จะมีตะกอนของยางและพลาสติกชนิดพิเศษไปเกาะตามบ่าวาล์ว ลูกสูบ แหวนลูกสูบ หากมีปริมาณไม่มากก็จะทำให้แหวนลูกสูบสึกหรอไปทีละน้อย แต่หากมีปริมาณมากๆ แล้ว แหวนลูกสูบจะบิ่น ทำให้เครื่องยนต์เริ่มมีปัญหาเนื่องจากแหวนลูกสูบไม่สามารถกวาดน้ำมันเครื่องลงก้นอ่างได้หมด ทำให้รถยนต์คันนั้นมีปัญหาการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์สะสมทีละน้อยๆ เครื่องก็จะค่อยๆ หลวมไปทีละนิด ทีละนิด
4. คาตาไลติกคอนเวอร์เตอร์ หรือตัวกรองไอเสียของรถยนต์ในปัจจุบันไม่ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานกับเชื้อเพลิงชนิดเอธานอลเบลนด์ การใช้งานเชื้อเพลิงชนิดอื่นนอกจาก RON (น้ำมันไร้สารตะกั่ว) ย่อมทำให้อายุการใช้งานของอุปกรณ์ชนิดนี้ลดลงกว่าที่ควรจะเป็น (คาตาไลติกคอนเวอร์เตอร์อายุใช้งานเฉลี่ยประมาณ 10 ปี)
5. น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E10 ที่ใช้กันในปัจจุบัน บริษัทผู้ผลิตเอธานอลในประเทศไทยแต่ละรายยังไม่สามารถส่งมอบเอธานอลได้มาตรฐานตามข้อกำหนด ทำให้คุณภาพของน้ำมันแก๊สโซฮอล์ในปัจจุบันยังไม่นิ่ง และแปรเปลี่ยนไปตามวัตถุดิบของแต่ละโรงงานผลิต ส่งผลให้การผสมน้ำมันเบนซินไม่ได้สัดส่วนที่แน่นอนอย่างที่ควรจะเป็น เนื่องจากมีบางโรงงานลดคุณภาพเอธานอลลงเนื่องจากไม่สามารถปรับราคาจำหน่ายขึ้นจาก 12.75 บาท มาเป็น 14.90 บาทได้ จนกระทั่งปัจจุบันรัฐบาลต้องให้ราคาสูงถึงลิตรละ 15.00 บาทในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาเพื่อจูงใจให้โรงงานผลิตเอธานอลเหล่านี้ไม่เกเร
6. น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E10 ไม่สามารถให้พลังงานได้เทียบเท่าน้ำมันเบนซิน 95 เดิม ทำให้ต้องเติมจำนวนมากกว่า เพื่อให้ได้ระยะทางการขับขี่ที่เท่าๆ กัน
-
แกสโซฮอลไม่มาตรฐาน เซ็ง
อันนี้จริงคับ แต่ละเจ้าไม่เหมือนกัน ถ้าเติมเจ้าหนแล้วรู้สึกว่าเครื่องเดินนุ่มสุด ก็เอาเจ้านั้นแหล่ะคับ (ของผมมันชอบเชลล์อ่ะคับ :))
-
ตอนแรกก็ว่าไม่เป็นอะไรหรอกครับ ว่าจะเติม แต่เห็นเหมือนที่พี่ตู่ บอกเลยไม่แน่ใจ ยิ่งร๔คันนี้หาอะไหล่ยากจะตาย ;D
-
เคยได้อ่านของพี่ตู่มาเหมือนกัน ผมตั้งข้อสงสัยดังนี้ครับ
1. รถยนต์ในประเทศไทยที่ผลิตตั้งแต่ปี 1995 เป็นต้นมา ถังน้ำมันในรถยนต์ตลอดจนท่อทางเดินน้ำมันจากถังน้ำมันเข้าสู่เครื่องยนต์จะทำจากวัสดุที่ทำจากยาง หรือพลาสติกชนิดพิเศษ เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำมันไร้สารตะกั่วทำปฏิกริยากับถังน้ำมันเหล็กของรถยนต์รุ่นก่อนหน้านี้ (รถยนต์รุ่นเก่ากว่าปี 1994 ลงไป) ซึ่งไม่สามารถจะใช้น้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่วได้เนื่องจากถังน้ำมันและท่อทางเดินจากเป็นสนิมอย่างรวดเร็วหากใช้น้ำมันไร้สารตะกั่ว ทำให้ถังน้ำมันและท่อทางเดินน้ำมันรั่วซึมก่อนเวลาอันควรแต่เมื่อรัฐบาลมารณรงค์ให้ใช้แก๊สโซฮอล์ ซึ่งมีส่วนผสมของเอธานอล 10 % และน้ำมันเบนซิน 91 90% หรือ E10 ที่คุยนักหนาว่าเติมได้ ปรากฏว่าเจ้าเอธานอล 10% ที่ว่านี้มันไปทำปฏิกริยากับถังน้ำมันรถยนต์และท่อทางเดินน้ำมันรถยนต์ที่ผลิตจากวัสดุที่ทำจากยาง หรือพลาสติกชนิดพิเศษทำให้เกิดการกัดกร่อนยาง หรือพลาสติกชนิดพิเศษ กลายเป็นตะกอนสะสมในถังน้ำมันไปเรื่อยๆ ทีละน้อยเมื่อปริมาณตะกอนมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะเกิดผลกระทบดังต่อไปนี้
รถผม Benz190E ปี 90 ก็ใช้ไร้สารได้นี่ครับ
1. ปั๊มน้ำมันไฟฟ้าจะต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อดูดเอาน้ำมันเข้าไปเผาไหม้ในห้องเครื่องยนต์ทำให้อายุการใช้งานของปั๊มน้ำมันไฟฟ้าสั้นลงอย่างรวดเร็ว
2. ไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงหรือกรองเบนซินจะอุดตันเร็วกว่าปกติ ทำให้อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของรถยนต์เพิ่มสูงขึ้น และทำให้เครื่องยนต์กำลังตกลงเนื่องจากปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงไม่ได้สัดส่วนกับปริมาณของอากาศ เมื่อ ECU สั่งจุดระเบิดจะทำให้กำลังของเครื่องยนต์ต่ำกว่ามาตรฐานของมันส่งผลให้เกิดอาการที่เรียกว่าเร่งไม่ขึ้น
แรกๆผมเติมสลับกันผมก็ว่า gasohol เร่งไม่ค่อยขึ้น แต่ตอนหลังใช้ gasohol ตลอดแล้วกลับไปใช้ 95 ก็เร่งได้เท่าเดิมละครับ
3. ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์จะมีตะกอนของยางและพลาสติกชนิดพิเศษไปเกาะตามบ่าวาล์ว ลูกสูบ แหวนลูกสูบ หากมีปริมาณไม่มากก็จะทำให้แหวนลูกสูบสึกหรอไปทีละน้อย แต่หากมีปริมาณมากๆ แล้ว แหวนลูกสูบจะบิ่น ทำให้เครื่องยนต์เริ่มมีปัญหาเนื่องจากแหวนลูกสูบไม่สามารถกวาดน้ำมันเครื่องลงก้นอ่างได้หมด ทำให้รถยนต์คันนั้นมีปัญหาการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์สะสมทีละน้อยๆ เครื่องก็จะค่อยๆ หลวมไปทีละนิด ทีละนิด
ช่างบางคนก็ว่าเบนซิน 95 มันก็กัดยางเหมือนกันล่ะครับ
4. คาตาไลติกคอนเวอร์เตอร์ หรือตัวกรองไอเสียของรถยนต์ในปัจจุบันไม่ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานกับเชื้อเพลิงชนิดเอธานอลเบลนด์ การใช้งานเชื้อเพลิงชนิดอื่นนอกจาก RON (น้ำมันไร้สารตะกั่ว) ย่อมทำให้อายุการใช้งานของอุปกรณ์ชนิดนี้ลดลงกว่าที่ควรจะเป็น (คาตาไลติกคอนเวอร์เตอร์อายุใช้งานเฉลี่ยประมาณ 10 ปี)
รถผมต่อตรงไปแล้วครับ เพราะเปลี่ยนไม่ไหวแพง
5. น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E10 ที่ใช้กันในปัจจุบัน บริษัทผู้ผลิตเอธานอลในประเทศไทยแต่ละรายยังไม่สามารถส่งมอบเอธานอลได้มาตรฐานตามข้อกำหนด ทำให้คุณภาพของน้ำมันแก๊สโซฮอล์ในปัจจุบันยังไม่นิ่ง และแปรเปลี่ยนไปตามวัตถุดิบของแต่ละโรงงานผลิต ส่งผลให้การผสมน้ำมันเบนซินไม่ได้สัดส่วนที่แน่นอนอย่างที่ควรจะเป็น เนื่องจากมีบางโรงงานลดคุณภาพเอธานอลลงเนื่องจากไม่สามารถปรับราคาจำหน่ายขึ้นจาก 12.75 บาท มาเป็น 14.90 บาทได้ จนกระทั่งปัจจุบันรัฐบาลต้องให้ราคาสูงถึงลิตรละ 15.00 บาทในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาเพื่อจูงใจให้โรงงานผลิตเอธานอลเหล่านี้ไม่เกเร
อันนี้ล่ะครับที่น่าห่วงสำหรับประเทศไทยที่รักของเรา
6. น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E10 ไม่สามารถให้พลังงานได้เทียบเท่าน้ำมันเบนซิน 95 เดิม ทำให้ต้องเติมจำนวนมากกว่า เพื่อให้ได้ระยะทางการขับขี่ที่เท่าๆ กัน
ตอนแรกๆก็รู้สึกครับ แต่ตอนนี้พยายามไม่ขับเร็วมาก 90-110 ผมว่าไม่แตกต่าง
อันนี้ความเห็นส่วนตัวล้วนๆครับ ใจจริงก็ไม่ 100% เท่าไหร่แต่ด้วยราคาที่ถูกกว่าลิตรละ 1.50 นี่ก็ต้องช่วยชาตกันไปครับ :D
-
ของผม accord VTEC 98 เติมโซฮอลแล้วจับระยะดู ปรากฎว่าแพงกว่าเติม 91 เพราะว่าวิ่งได้ระยะทางน้อยลงครับ ไม่เห็นประหยัดเลย รู้สึกถูกกว่าแค่ตอนเติม เลยกลับไปเติม 91 แทน :'(
คิดว่าโซฮอลจะถูกกว่าซะอีก
-
นึกว่าผมรู้สึกคนเดียวซะอีก� กินน้ำมันมากว่าเดิมชัดเจน และความเร็วลดลงด้วย
แต่เค้าทดสอบกันว่าไม่แตกต่าง :-\ แต่ผมขับแล้วรู้สึกอัตราเร่งมันช้าลง ???
แต่ผมก็ยังเติมโซฮอล เพราะ
1. ลดการนำเข้าน้ำมัน
2. ลดไอเสีย� โซฮอลไอเสียที่ออกมาจะต่ำกว่า
3. ช่วยเกษตรกร
ผมว่าเค้ารณรงค์กันแบบผิดๆ ไปเน้นที่ประหยัดแต่เพียงอย่างเดียว น่าจะเอาจุดเด่นด้านอื่นๆ มาโปรโมตด้วย
-
ที่รู้สึกว่าเติมแกสโซฮลล์แล้วเปลืองกว่าคงเพราะมันระเหยได้เร็วและเผาไหม้ได้ดีกว่าน่ะครับ มีเพื่อนผมคนนึงเค้าทำงานอยู่ไทยออยล์เค้าแนะนำผมมาว่าถ้าจะเติมให้เติมจากปั้ม PTT ;D
-
.....เรื่องละลายอะไรต่างๆผมไม่มั่นใจครับ �แต่สิ่งที่ผมเห็นผมว่าการทำละลายของเบนซินไม่ใช่ย่อยเหมือนกันดังนั้นการใช้แอลกอฮอล์ผสมเข้าไปสิบเปอร์เซนต์ �ไม่น่าจะเกิดกรณีที่ว่า �แต่หากใช้ไม่ได้จริงผมเชื่อว่าบริษัทรถต่างๆรับรองไม่ออกมารับรองว่ารถของตนใช้ได้หรอกครับ �ทั้งนี้รถที่ซื้อใหม่พวกญี่ปุ่นมีประกันสามปี �แสนกิโล �แบบนี้บริษัทรถรับรองอ่วมและอาจถูกฟ้องได้ �และหากถูกฟ้องรับรองได้ว่าหากเป็นเช่นที่ว่าจริงโดนอ่วมมีเงินไม่พอจ่ายหรอกครับ �รวมทั้งเรื่องตัวแคทตาไลติกด้วยเพราะสมัยก่อนยังห้ามใช้กับน้ำมันมีสารตะกั่ว �หากจะทำให้เสียจริงก็ต้องมีการบอกกล่าวเล่าสิบบ้าง
.....การจุดระเบิด รถที่ใช้หัวฉีดมีระบบปรับไฟอัตโนมัติอยู่แล้วโดยมีอ็อกซิเย่นเซ็นเซอร์ตรวจจับ �ดังนั้นไม่น่าเป็นปัญหา
......ในส่วนเรื่องความประหยัดแน่นอนครับหากเทียบกับ95 �แก๊สโซฮอล์ �หลายคนบอกว่าวิ่งได้ระยะทางน้อยลง �แต่ราคาที่ถูกกว่าณ.ปัจจุบัน โอเคครับเฉลี่ยแล้วไม่ขาดทุนแน่นอน
......ผมใช้ฮอนด้า �วี 6 �โฉมปัจจุบัน �วิ่งไปนครสวรรค์ประจำ �รถผมเติม 91ได้ �ลองใช้95โซฮอล์แทน �วิ่งดีกว่าเดิม � ประหยัดกว่าเดิม �เดิม91ตจว �วิ่งประมาณ �110-140 กิน �11.71/ลิตร �ปัจจุบัน95 โซฮอล์ 12.7-13.1/ลิตร �ที่แน่ๆคือเดิมของเครื่องหากเร่งแบบฉับพลันมีอาการน็อคเล็กน้อย � ใช้95 �ไม่หาย �แต่ใช้โซฮออล์หายสนิท
.......สำหรับผมณ.ปัจจุบัน �พลังงานที่ประหยัดเงิน �สะอาดกว่าน่าใช้กว่าครับ � 8)
-
ของผมพอดีหน้าหมู่บ้านมันมีแต่ jet เลยเติมแต่ jet ซะงั้น ;D
-
ต่อไปก็คงจะเหลือแต่ 91 เบนซิน กับ โซฮอล แล้วล่ะครับ
ยังไงก็ต้องฝึกใช้ไปก่อนล่ะ
แต่ถ้ามันดีต่อสภาพแวดล้อม ก็น่าใช้นะครับ
เรื่องของความสิ้นเปลือง ผมดู TV เค้าบอกว่า
มันใช้เปลืองกว่าก็จริง แต่ราคาถูกกว่า จึงทำให้ มาสมดุลกัน
แต่ว่า ได้ประโยชน์ ในด้านอื่น ๆ เป็นผลพวงครับ
รักชาติ รักสภาพแวดล้อม ก็ต้องช่วยกันครับ
ผมเอง จะลองหันมาเติมบ้าง แต่ยังหาปั๊มลำบากครับ
-
ของผมใช้ Honda cevic ปี 2005 กับ โตโยต้า โคโลล่า 3 ห่วงปี 95 เดิมใช้ 91 ปัจจุบันเปลี่ยนมาใช้แก็ชโซฮอล 95 วิ่งดีกว่าเดิม แถมประหยัดเงินอีกต่างหาก ผมใช้มาตั้งแต่ต้นปีนี้ ปัจจุบันก็ยังใช้อยู่ ยังไม่พบปัญหาอะไรครับ