HTG2.club

Home Theater Guide webboard => มุม โฮมเธียเตอร์ (HT) => ข้อความที่เริ่มโดย: klao ที่ 23 มกราคม, 2009, 01:51:10 pm

หัวข้อ: Voltage Regulator
เริ่มหัวข้อโดย: klao ที่ 23 มกราคม, 2009, 01:51:10 pm
พอดีเห็นเครื่องกรองไฟบางรุ่นมีระบบ voltage regulator มาด้วย แต่ไม่ทราบการปรับกระแสไฟให้คงที่หรือเสถียรตลอดเวลา เช่น 220V หรือ 230V มีความจำเป็นมากน้อยขนาดไหนครับ

1. ในแง่ซุ่มเสียงที่ออกมาจากระบบ
2. ในด้านยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์

บางคนบอกว่าอาจจะไม่จำเป็น หากการออกแบบภาค power supply ของอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เราใช้ ยังสามารถทำงานได้ดี/ปลอดภัยในกระแสไฟที่แกว่งไปมาได้พอสมควร เช่น +/- 5% - 10%

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: Voltage Regulator
เริ่มหัวข้อโดย: jojo ST171 ที่ 23 มกราคม, 2009, 02:05:38 pm
ต้องแบ่งแยกก่อน มีทั้งเครื่องคุมไฟ (รักษาเสถียรภาพของกระแสไฟฟ้า) และเครื่องกรองไฟฟ้า

สำหรับผมถ้าเราใช้ไฟฟ้าตามบ้านและอุปกรณ์ที่เราต่อไม่ได้พ่วงสายไฟจากมอเตอร์ หรือคอมเพรสเซอร์ เช่น แอร์ พัดลม ตู้เย็น คอมพิวเตอร์

และงบประมาณด้านเครื่องเสียงยังไม่มาก ยังแยกภาพหรือเสียงไม่ออกมากนัก ตัวกรองไฟฟ้ายังไม่สำคัญมาก

แต่ที่ผมว่าถ้ามีงบประมาณสักห้าพันบาท ซื้อตัวคุมไฟฟ้าของ Silicon VR100i มาใช้กลับสำคัญมากกว่า มีต่อปลั๊กแค่ 2 ปลั๊ก

เพราะบ้านเรา กระแสไฟฟ้าเกิน ตก และดับบ่อย มีปัญหากับวงจรไฟฟ้าพวกนี้มาก เช่น เมื่อ 7 ปีที่แล้ว ไฟฟ้าตก ที่บ้านทีวี Sony Wega 29 นิ้ว .

ตอนนั้นซื้อมาใหม่ ๆ เปิดอยู่ดับไปเฉย ๆ ดมดูเกิดกลิ่นเหม็นไหม้ เอาไปให้ศูนย์ซ่อมหมดประกันแล้ว ค่าเปิดเครื่อง 900 บาท ค่าฟิวส์ 10 บาท

เลยซื้อเครื่องคุมไฟมาใช้ หลังจากนั้นก็ไม่มีปัญหาอีก
หัวข้อ: Re: Voltage Regulator
เริ่มหัวข้อโดย: Fuse ที่ 23 มกราคม, 2009, 11:16:32 pm
สำหรับผมเรื่องเสียงผมฟังไม่ออกเลยหมดปัญหา แต่เรื่องไฟตก ไฟเกิน ไฟกระชาก อันนี้ซีเรียสกว่า บ้านผมส่วนใหญ่ไฟจะมาเกินครับ ทั้งวันอยู่ 225-235 หลัง 5 ทุ่ม 235-245 เลยกลัว มีเครื่องค่อยอุ่นใจ ไฟตก ไฟเกิน ตัดไว้ก่อน แต่ถ้าเครื่องตัดบ่อยๆเครื่องเสียงเราจะพังไหม อันนี้มีใครให้คำตอบได้บ้างครับ  :nonono
หัวข้อ: Re: Voltage Regulator
เริ่มหัวข้อโดย: กัมปนาท KK ที่ 30 มกราคม, 2009, 01:43:06 pm
สำหรับผมเรื่องเสียงผมฟังไม่ออกเลยหมดปัญหา แต่เรื่องไฟตก ไฟเกิน ไฟกระชาก อันนี้ซีเรียสกว่า บ้านผมส่วนใหญ่ไฟจะมาเกินครับ ทั้งวันอยู่ 225-235 หลัง 5 ทุ่ม 235-245 เลยกลัว มีเครื่องค่อยอุ่นใจ ไฟตก ไฟเกิน ตัดไว้ก่อน แต่ถ้าเครื่องตัดบ่อยๆเครื่องเสียงเราจะพังไหม อันนี้มีใครให้คำตอบได้บ้างครับ  :nonono
ไฟระดับ  245 v   ผมว่าเครื่องมีความเสี่ยงสูงที่จะเสียหายครับ
-ขอแนะนำ  pure sine  1000  สั่งพิเศษให้เล่นกับ 225-235 และไฟสูง หลัง 5 ทุ่ม 235-245  ได้สบายครับ
หัวข้อ: Re: Voltage Regulator
เริ่มหัวข้อโดย: klao ที่ 31 มกราคม, 2009, 03:28:24 am
หวัดดีครับพี่กัมปนาท ขอบคุณที่วันก่อนให้การต้อนรับและคำแนะนำผมเป็นอย่างดีครับเกี่ยวกับการเปลี่ยน IEC inlet ฟิวส์ และสายไฟ สำหรับ power amps ของผม

ผมไปดู spec หลังเครื่อง/ในคู่มือของอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ผมใช้ เห็นบอกว่าทำงานได้ใน voltage range ค่อนข้างกว้าง แต่หากเป็น TV หรือ DVD ก็ไม่เกินไปกว่า 240V หากเครื่องกรองไฟที่ไม่มีระบบ voltage regulator มีแต่พวก surge กับ spike protection อย่างนี้จะเอาอยู่ไหมครับ หากไฟขึ้นไปถึง 245V จริง? ไม่รู้ที่บ้านผมแรงดันกระแสไฟวิ่งไปถึงเท่านไหร่ (อยู่ใกล้ ๆ office พี่ล่ะครับ) ไม่เคยวัด ส่วนมากเจอแต่ไฟตก แล้วกระชากกลับมาติดใหม่

Preamp & Power Amps: ~190-265V
CD player: 200-250V
DVD player: ~100-240V
TV: 220-240V
หัวข้อ: Re: Voltage Regulator
เริ่มหัวข้อโดย: กัมปนาท KK ที่ 02 กุมภาพันธ์, 2009, 11:01:54 am
หวัดดีครับพี่กัมปนาท ขอบคุณที่วันก่อนให้การต้อนรับและคำแนะนำผมเป็นอย่างดีครับเกี่ยวกับการเปลี่ยน IEC inlet ฟิวส์ และสายไฟ สำหรับ power amps ของผม

ผมไปดู spec หลังเครื่อง/ในคู่มือของอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ผมใช้ เห็นบอกว่าทำงานได้ใน voltage range ค่อนข้างกว้าง แต่หากเป็น TV หรือ DVD ก็ไม่เกินไปกว่า 240V หากเครื่องกรองไฟที่ไม่มีระบบ voltage regulator มีแต่พวก surge กับ spike protection อย่างนี้จะเอาอยู่ไหมครับ หากไฟขึ้นไปถึง 245V จริง? ไม่รู้ที่บ้านผมแรงดันกระแสไฟวิ่งไปถึงเท่านไหร่ (อยู่ใกล้ ๆ office พี่ล่ะครับ) ไม่เคยวัด ส่วนมากเจอแต่ไฟตก แล้วกระชากกลับมาติดใหม่

Preamp & Power Amps: ~190-265V
CD player: 200-250V
DVD player: ~100-240V
TV: 220-240V

ช่วยกรณี Transient การกระชากสูงมากแบบ ที่มันเกิดแบบช่วงเวลา สั้นๆ ระดับ  1/100  Sec  ช่วยได้ครับ

กรณีที่ ไฟขึ้นลงแบบไม่สูงมาก  เกิดไม่เกินกว่า 2  วินาที ช่วยได้

แต่ เครื่องกรองไฟ power bridge  ไม่สามารถช่วย  หากไฟขึ้นไปถึง 245V แบบนานๆ  
ก็ต้องใช้   Pure sine1000    จึงจะแก้ปัญหาทั้งหมดได้ อย่างแน่นอน