HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม Thai DIY Audio => ข้อความที่เริ่มโดย: Aonamp ที่ 19 พฤษภาคม, 2009, 10:26:10 am
-
เรียน พี่ๆเพื่อนๆน้องๆ ทุกๆท่าน นะครับ ผมมีความสนใจในเรื่องนึงนะครับ จากรูปวงจรนะครับ โดยผมตัดซีคับปลิ้งออกนะครับ แล้วต่อเป็นไดเร็กคับปลิ้งนะครับ สมมติตรงนั้นได้ไฟ 90โวลต์นะครับผมจึงต้องมายกไฟที่เพาเวอร์เพิ่มนะครับ จาก380ก็กลายเป้น470(แต่ถ้าทำแบบที่ผมตั้งคำถามไฟตรงนี้อาจสูงกว่านะครับ) ส่วนตรงคาโทด110นะครับ กระแสวิ่งที่ภาคเพาเวอร์63มิลเหมือนเดิม ทีนี้ล่ะครับ ปัญหาของผมคือ ที่คาโทดของหลอดเพาเวอร์ผมต้องการเอาหลอดเพาเวอร์มาใช้แทนRคาโทดนะครับเพื่อเป็นโหลดที่จะได้จ่ายกระแสตรงส่วนนี้นะครับ(110V63ma) อย่าถามนะครับว่าเพราะเหตุใด เพราะว่าผมเองต้องการอะไรที่แปลกใหม่น่ะครับ จริงๆคิดว่าน่าจะมีคนทำแล้วนะครับ ผมขอความรู้ตรงส่วนนี้ด้วยครับ เพราะว่าอยากทดลองสร้างดูครับแต่ไม่มีข้อมูลเลยครั้นจะทำเลยเดี๋ยวจะเสียของครับยิ่งเศรฐกิจแบบนี้ด้วย แม้ว่าอาจาย์mcเคยบอกว่าแอมป์อย่าคิดมากง่ายๆแหละดี แต่ผมก็อยากลองครับ ช่วยผมด้วยนะครับ
-
รูปแบบคล้าย.... อ้าวไม่ใช่ซิ แบบนี้มันเป็น คาโถดฟอลโลเวอร์ ซะนี่...
-
เคยลอง current sink กับ EL156 ซึ่งใกล้เคียง 6550
ถ้าเป็น 6550 แล้วใช้ 6550 เป็น current sink ก็ทำนองนี้ครับ
-
ขอขอบคุณท่านพี่ทั้งสองครับ เรียนถามพี่alexdiy ค่าที่ด้าน 6550ตัวล่าง เรามีการคำณวน อย่างไรครับ แล้วทำไมค่าRที่กริดต่อลงกราวดน์ ครับ
-
อ้าวไอเดียผม คล้าย ๆ ของพี่ alex เลย
แต่ผมรูปสวยกว่านะ ;D ;D ;D
ลองดูหลอดพวก 6080 หรือ 6AS7 ดูครับ ผมลองเหล่ ๆ ดูแล้วพอไหวนะ แต่ต้องไปคำนวณค่า R ดูครับ
-
ของคุณ dekdek สร้างสรรค์กว่าของผมครับ รูปประกอบก็ได้อารมณืกว่า แถมแนะนำหลอดได้เหมาะสมกว่า เพราะของผมมันดูจะเวอร์ไปหน่อยดันเอา 6550 มาเป็น current sink แฮะ แฮะ
-
ขอขอบคุณท่านพี่ทั้งสองครับ เรียนถามพี่alexdiy ค่าที่ด้าน 6550ตัวล่าง เรามีการคำณวน อย่างไรครับ แล้วทำไมค่าRที่กริดต่อลงกราวดน์ ครับ
PM ไปแล้วจ้า
-
ของคุณ dekdek สร้างสรรค์กว่าของผมครับ รูปประกอบก็ได้อารมณืกว่า แถมแนะนำหลอดได้เหมาะสมกว่า เพราะของผมมันดูจะเวอร์ไปหน่อยดันเอา 6550 มาเป็น current sink แฮะ แฮะ
ขอบคุณครับพี่ กระแสมาก ๆ ก็นึกถึงพวกหลอด Reg ก่อนหลอดอื่น ๆ ครับ
แต่ผมไม่แน่ใจว่ามันจะเป็น CCS หรือเปล่านะครับ ต้องรอผู้รู้มาอธิบายอีกทีครับ
อ้าวไอเดียผม คล้าย ๆ ของพี่ alex เลย
แต่ผมรูปสวยกว่านะ ;D ;D ;D
ลองดูหลอดพวก 6080 หรือ 6AS7 ดูครับ ผมลองเหล่ ๆ ดูแล้วพอไหวนะ แต่ต้องไปคำนวณค่า R ดูครับ
รับ PM แล้วครับ
เอาตามที่ผมเข้าใจละกันนะ ว่าคุณ aon-amp อยากได้หลอดมาเป็นโหลดที่ 110V 63mA ก็นึกถึงหลอดที่คุ้น หาไม่ยาก มาลงที่ 2 เบอร์ที่ว่ามานั่นแหละ แต่ท่านอื่นอาจจะคิดต่างออกไปได้แล้วแต่คุ้นเคย หรือมีหลอดอะไรอยู่
แต่ต้องออกตัวก่อนว่าไม่เคยทำนะ มีแต่ไอเดีย เอาเรื่องการคำนวณบ้างนะ
ดูกราฟของหลอดที่เลือก การกำหนดจุดทำงานก็ ลากเส้นขนาน กับ แกน X (แกนที่เป็นค่าแรงดัน Plate นะครับ) โดยลากออกจากแกน y ที่กระแสที่เราต้องการ
แล้วก็เลือกจิ้มจุดทำงานบนเส้น นั้นดูครับ ให้เลือกเอาจุดที่ แรงดันไบอัส+แรงดันเพลท = แรงดันที่เราต้องการให้ทำงาน ในที่นี้ คือ 110 โวลต์
สมมติ ว่าได้ แรงดันไบอัส 30 โวลต์ ที่แรงดันเพลท 80 โวลต์ ก็หา R โดย เอา แรงดันไบอัสหารด้วยค่ากระแสที่เราลากเส้น จะได้ค่า r ที่ต้องใช้ เราก็หา r ที่ตรงหรือใกล้เคียง อย่าลืมดูกำลังวัตต์ที่มันต้องทนได้ด้วยนาครับ
ส่วนการที่เอากริดลงกราวด์ หรือต่อผ่าน R ( ผมเข้าใจว่า R ตัวนี้หน้าที่เหมือนกริดสต็อปเปอร์) ก็คือให้กริดมีแรงดันเป็นลบเมื่อเทียบกับคาโธดของมันจะได้ควบคุมการไหลของกระแสผ่านหลอดได้ครับ
สุดท้ายดูค่ากำลังสูญเสียที่หลอดล่างด้วยนะครับ ว่ามันไหวอะเปล่า :)
-
ความคิด เจ๋ง ไปเลย ได้เลย ... น่าเล่น
เย็นๆ จะพยายามคำนวณให้นะครับ น่าเล่นๆ ไม่มี C Coupling ไม่มี Rcathode ร้อนๆ (ไปร้อนที่หลอดแทน แต่หน้าที่ของหลอดอยู่แล้ว)
คาดว่า เสียงน่าจะได้เสียง ดูมีกำลังดี
-
:secret :secret :secret
O0 O0 O0
แต่ละ คำตอบ และ คำถาม สุดยอด จริงๆๆ เลยครับ พี่น้อง
O0 O0 O0 O0 O0 O0
ผมก็ จะเอา หลอดมาปรับ กระแส เหมือนกัน แต่เป็น ปรีฯ และทีสำคัญ มะมีตังค์ ทำ 2f 2f
-
ความคิด เจ๋ง ไปเลย ได้เลย ... น่าเล่น
เย็นๆ จะพยายามคำนวณให้นะครับ น่าเล่นๆ ไม่มี C Coupling ไม่มี Rcathode ร้อนๆ (ไปร้อนที่หลอดแทน แต่หน้าที่ของหลอดอยู่แล้ว)
คาดว่า เสียงน่าจะได้เสียง ดูมีกำลังดี
ไม่เจ๋งหรอกน้า มีคนทำแล้ว ลองหาอ่านที่yearbook ดูครับ แต่ผมไม่รู้ที่มาที่ไปครับ จุด ประสงค์ของผมก็อย่างที่น้าพูดมานั่นแหละครับ ตัดออกให้หมดไอ้พวกซี แพงๆเนี่ย ใช้แล้วเสียงดีขึ้นหน่อยเดียวเอง แต่ราคากระโดดซะ
:secret :secret :secret
O0 O0 O0
แต่ละ คำตอบ และ คำถาม สุดยอด จริงๆๆ เลยครับ พี่น้อง
O0 O0 O0 O0 O0 O0
ผมก็ จะเอา หลอดมาปรับ กระแส เหมือนกัน แต่เป็น ปรีฯ และทีสำคัญ มะมีตังค์ ทำ 2f 2f
ต้องการแบบ นอกกรอบครับ
ของคุณ dekdek สร้างสรรค์กว่าของผมครับ รูปประกอบก็ได้อารมณืกว่า แถมแนะนำหลอดได้เหมาะสมกว่า เพราะของผมมันดูจะเวอร์ไปหน่อยดันเอา 6550 มาเป็น current sink แฮะ แฮะ
ขอบคุณครับพี่ กระแสมาก ๆ ก็นึกถึงพวกหลอด Reg ก่อนหลอดอื่น ๆ ครับ
แต่ผมไม่แน่ใจว่ามันจะเป็น CCS หรือเปล่านะครับ ต้องรอผู้รู้มาอธิบายอีกทีครับ
อ้าวไอเดียผม คล้าย ๆ ของพี่ alex เลย
แต่ผมรูปสวยกว่านะ ;D ;D ;D
ลองดูหลอดพวก 6080 หรือ 6AS7 ดูครับ ผมลองเหล่ ๆ ดูแล้วพอไหวนะ แต่ต้องไปคำนวณค่า R ดูครับ
รับ PM แล้วครับ
เอาตามที่ผมเข้าใจละกันนะ ว่าคุณ aon-amp อยากได้หลอดมาเป็นโหลดที่ 110V 63mA ก็นึกถึงหลอดที่คุ้น หาไม่ยาก มาลงที่ 2 เบอร์ที่ว่ามานั่นแหละ แต่ท่านอื่นอาจจะคิดต่างออกไปได้แล้วแต่คุ้นเคย หรือมีหลอดอะไรอยู่
แต่ต้องออกตัวก่อนว่าไม่เคยทำนะ มีแต่ไอเดีย เอาเรื่องการคำนวณบ้างนะ
ดูกราฟของหลอดที่เลือก การกำหนดจุดทำงานก็ ลากเส้นขนาน กับ แกน X (แกนที่เป็นค่าแรงดัน Plate นะครับ) โดยลากออกจากแกน y ที่กระแสที่เราต้องการ
แล้วก็เลือกจิ้มจุดทำงานบนเส้น นั้นดูครับ ให้เลือกเอาจุดที่ แรงดันไบอัส+แรงดันเพลท = แรงดันที่เราต้องการให้ทำงาน ในที่นี้ คือ 110 โวลต์
สมมติ ว่าได้ แรงดันไบอัส 30 โวลต์ ที่แรงดันเพลท 80 โวลต์ ก็หา R โดย เอา แรงดันไบอัสหารด้วยค่ากระแสที่เราลากเส้น จะได้ค่า r ที่ต้องใช้ เราก็หา r ที่ตรงหรือใกล้เคียง อย่าลืมดูกำลังวัตต์ที่มันต้องทนได้ด้วยนาครับ
ส่วนการที่เอากริดลงกราวด์ หรือต่อผ่าน R ( ผมเข้าใจว่า R ตัวนี้หน้าที่เหมือนกริดสต็อปเปอร์) ก็คือให้กริดมีแรงดันเป็นลบเมื่อเทียบกับคาโธดของมันจะได้ควบคุมการไหลของกระแสผ่านหลอดได้ครับ
สุดท้ายดูค่ากำลังสูญเสียที่หลอดล่างด้วยนะครับ ว่ามันไหวอะเปล่า :)
ขอขอบคุณมากครับ พี่ dekdek แล้วทีนี้ ขอถามเพิ่มอีกครับ กับการที่เราต่อภาคเพาเวอร์เป้นแบบsrppไปเลยล่ะครับ เราจะได้อะไรเพิ่มมาบ้างครับ ผมเข้าใจว่า กำลังน่าจะยังเท่าเดิม แต่ ค่าRLน่าจะลดลงถูกต้องไหมครับ พี่ๆช่วยตอบต่อด้วยนะครับ
-
ความคิด เจ๋ง ไปเลย ได้เลย ... น่าเล่น
เย็นๆ จะพยายามคำนวณให้นะครับ น่าเล่นๆ ไม่มี C Coupling ไม่มี Rcathode ร้อนๆ (ไปร้อนที่หลอดแทน แต่หน้าที่ของหลอดอยู่แล้ว)
คาดว่า เสียงน่าจะได้เสียง ดูมีกำลังดี
ขอเพิ่มอีกนิดนะครับ ให้ปรับกระแสได้ด้วยครับ
-
Year book ยังไม่ขอดูครับ (ดูแล้วจะไม่พัฒนาความคิด -- เราไม่ดูเฉลยก่อน)
T H I N K...O U T...O F...B O X
คำถาม เราต้องมี C cathode หรือเปล่าครับ (ที่แต่ก่อน คร่อม Rcathode ขจัด NFB แต่ตอนนี้ คร่อมหลอด ---- ความคิด C คร่อมหลอดก็ เฮ แล้ว)
-
ผมเคยคิดที่จะใช้(แต่ยังไม่ได้ทำ) C Coupling สัญญาณจากขา คาโธด ของหลอดเอ้าท์พุทวงจรDirect Coupling ออกไปใช้งานนะครับ เป็นปรีเอ้าท์ (แบบแรงๆ)
หรือไม่ก็เอาไปขับภาคขาออกชุดโซลิดสเตท ที่เป็นวงจรขยายกระแส เช่น
...F4(เปลืองอุปกรณ์ไปหน่อย)
...ESP Cool Follower
หรือล่าสุดที่ลองแล้วชอบก็ Current Dumping
http://www.richardbrice.net/curdump.htm
http://audiohi-fi.narod.ru/workshop/quad405.html
http://www.diyaudio.com/forums/showthread.php?threadid=58086
มีถกกันที่นี่ มีซิมูเลท แต่ไม่ผลลอง Actual
http://www.diyaudio.com/forums/showthread.php?threadid=128113
อันนี้มีแยะเลย
http://www.diyaudio.com/forums/showthread.php?s=&threadid=15742&perpage=50&highlight=&pagenumber=2
http://www.diyaudio.com/forums/showthread.php?s=&threadid=15742&highlight=
http://www.edn.com/article/CA45890.html
-
วงจรหลอดไม่มีอะไรใหม่อีกแล้ว มันเป็นอิเลคทรอนิคส์ยุคโบราณกาล ซึ่งเค้าทำมาหมดทุกรูปแบบ ทะลุปรุโปร่งหมดแล้ว จนเค้าเลิกใช้เลิกผลิตกันหมดแล้ว.......
แต่แบบที่ยุคนั้นไม่เคยทำกัน น่าจะเป็นแบบไฮบริดจ์กับอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำ เพราะยุคนั้นมันยังไม่มี การทำแบบไฮบริดจ์น่าจะมีอะไรแปลกใหม่กว่า และน่าจะเป็นการนอกกรอบกว่าแบบหลอดล้วนๆ.......
-
วงจรหลอดไม่มีอะไรใหม่อีกแล้ว มันเป็นอิเลคทรอนิคส์ยุคโบราณกาล ซึ่งเค้าทำมาหมดทุกรูปแบบ ทะลุปรุโปร่งหมดแล้ว จนเค้าเลิกใช้เลิกผลิตกันหมดแล้ว.......
แต่แบบที่ยุคนั้นไม่เคยทำกัน น่าจะเป็นแบบไฮบริดจ์กับอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำ เพราะยุคนั้นมันยังไม่มี การทำแบบไฮบริดจ์น่าจะมีอะไรแปลกใหม่กว่า และน่าจะเป็นการนอกกรอบกว่าแบบหลอดล้วนๆ.......
ผมเองก็คิดเช่นเดียวกันครับ ว่าคงคิดและทำกันมาหมดแล้ว แต่ที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันมักไม่ค่อยได้เห็นครับ แม้ในเครื่องคอมเมอรเชี่ยล ก็ไม่ค่อยมีใครทำ อาจเป้นเพราะว่ามันทำให้ต้นทุนแพงกว่าครับ ผมเองก็ไม่ได้เรียนเรื่องหลอดครับครูสอนทรานซิสเตอร์แล้ว พอมาติดใจหลอดก็อยากลองอะไรที่ไม่ค่อยมีใครทำกัน (คือมีแต่น้อยครับ) พออยากทำก็ต้องมานั่งคิดและหาข้อมูลว่ามันมีที่มาอย่างไรครับทีนี้มันก็นอกกรอบเรื่องหลอดแน่ๆแม้แต่ตอนที่คนออกแบบครั้งแรกคิดน่ะครับ เพราะว่าซีก็มี resisterก็มี ดันไม่ใช้กับเอาหลอดมาทำนี่ไงครับพี่ มันอาจจะเก่าไปแต่สำหรับผมมันใหม่มากครับพี่ อีกอย่างผมอยากรู้ว่าวงจรแบบนี้มันดีไหมครับ ถ้าดีทำไมถึงไม่ค่อยมีใครใช้กัน แล้วถ้าแย่หรือไม่ดีเพราะข้อจำกัดด้านใดครับ เราก็จะหาวิธีการปรับปรุงได้ไหมเพราะว่าสมัยนี้อุปกรณ์เกรดดีๆเราหาได้ง่ายกว่าเมื่อก่อนครับ ส่วนตัวผมที่อยากรู้คือว่า ซ๊คับปลิ้งน่ะดีๆแพงครับ ใช้ R ก็มีข้อจำกัดด้านอุณหภูมิ การทนกำลังมักเป้นแบบกระเบื้องครับ(แถวบ้านหาได้แบบนี้) ประกอบกับ อ่าน yearbook)มีพี่ท่านเสนอไว้เลยอยากรู้ที่มาที่ไปครับ
-
ใช้ IC ก็ง่ายดีครับอย่าง TL783 ปรับแรงดันได้ 1.25-125V กระแสได้ตั้ง 700mA เหลือเฟือครับ :)
-
TIP50 ก็น่าสน แต่ IC TL783 น่าสนกว่า ...
-
เห็นด้วยกับแนวทางไฮบริดจ์ด้วยครับ
สำหรับแนวคิดผม เช่นเพาเวอร์แอ็มป์แบบหลอดเสียงดีก็จริงครับ แต่มันมีข้อจำกัดเรื่องการขับลำโพงบางชุด
และบางครั้งชีวิตก็ต้องการแบบง่ายๆใช้สะดวกๆบ้าง...จึงลองทำแบบโซลิดสเตทเข้าเสริม
ในปรีหลอด หากต้องการโหลดที่มีอิมพีแด้นซ์สูง กระแสสูง ขาออกอิมพีแด้นซ์ต่ำ ก็ต้องมองหาพวกซีซีเอสโหลด (ซิง้ค์ / ซอร์ส หรือทั้งสองแบบพร้อมกัน)
ใช้หลอดล้วนก็จบแล้วงบสูง ยุ่งยาก เปลืองทรัพยากร ก็ต้องพึ่งโซลิดสเตทบ้าง(ชอบตรงที่สามารถกำหนดกระแสหรือแรงดันได้เป๊ะๆ)
อย่างปรีตัวที่ผมทำล่าสุดเมื่อปีที่แล้ว (E88CC) มีทั้ง ไดโอด หลอด มอสเฟ็ท ทรานซิสเตอร์ ไอซี แอลอีดี ในวงจร
เรียกได้ว่าเป็นปรี วงจรโบราณ+ใช้ชิ้นส่วนร่วมสมัย
-
ถ้าเป็นหลอดปรี ไดร์ว ผมใช้ CCS (Source) ครับ ง่ายดี เสียงดี :)
แต่ถ้าส่วนเพาเวอร์ CCS (Sink) ยังไม่เคยลอง แต่น่าลองแฮะ :)
ลองดูเกาหลีทำเป็นแนวครับ หนอยมันเอา 300B ไดร์ว 300B ;)
(http://www.triode.co.kr/zbxe/files/attach/images/16872/18106/KR300.jpg)
อ้างอิง: http://www.triode.co.kr/zbxe/18106 (http://www.triode.co.kr/zbxe/18106)
-
วงจรนี้ ออกแบบมันดีจัง
-
ถ้าเป็นหลอดปรี ไดร์ว ผมใช้ CCS (Source) ครับ ง่ายดี เสียงดี :)
แต่ถ้าส่วนเพาเวอร์ CCS (Sink) ยังไม่เคยลอง แต่น่าลองแฮะ :)
ลองดูเกาหลีทำเป็นแนวครับ หนอยมันเอา 300B ไดร์ว 300B ;)
(http://www.triode.co.kr/zbxe/files/attach/images/16872/18106/KR300.jpg)
อ้างอิง: http://www.triode.co.kr/zbxe/18106 (http://www.triode.co.kr/zbxe/18106)
วงจรสุดยอกเลย300ขับ300แต่ผมชอบหลอดมากกว่าครับ มันอึดกว่าแม่จะไม่ลิเนียร์เท่าss
วงจรนี้ ออกแบบมันดีจัง
อยากมันส์ไหมน้า ลองดิ
หนาวแน่
-
ผมเคยเปิดเครื่องAUDIO RESEARCH model D-150...เพื่อเปลี่ยนอุปกรณ์บางตัว เครื่องนี้ใช้ 6FQ7 ทำหน้าที่ constant current source ให้กับหลอดไดรว์เวอร์.... และใช้เบอร์ 6550 อีก 2หลอด ทำหน้าที่ regulater แรงดันที่จ่ายให้กับภาคไดรว์+สปลิทเฟส+ภาคหน้า.... ..ส่วนภาคเพาเวอร์แบบfixed biasใช้เบอร์6550 4หลอด/ข้าง(แบบพุช-พูลขนานหลอด) ซึ่งต้องมีการปรับตั้งกันเป็นระยะอยู่ตลอด เพราะหลอดมันเป็นอะไรที่ไม่เสถียรเลย (ความเห็นผม*หลอดไม่เหมาะกับจุดที่ต้องการความเสถียร/เที่ยงตรงแม่นยำ)
-
วงจรนี้ ออกแบบมันดีจัง
มันกะอัด KR 300BXLS เต็มที่ 25W เลยมั้งครับ
Specifications Value
Pure Class-A Power (watts) 15-24
Plate Voltage Average (Volts) 450
Plate Voltage Maximum (Volts) 600
Plate Current Average (mA) 100
Plate Current Maximum (mA) 160
(http://www.triode.co.kr/zbxe/files/attach/images/16872/18106/kr300_2.jpg)
-
K) :o :o :o...ซี.โพลี่ ตัวบักเบิ้มเยอะเลยครับ Y] อย่างนี้เสียงแนวhi-fi สมัยใหม่แน่ๆ O0
-
วงจรหลอดไม่มีอะไรใหม่อีกแล้ว มันเป็นอิเลคทรอนิคส์ยุคโบราณกาล ซึ่งเค้าทำมาหมดทุกรูปแบบ ทะลุปรุโปร่งหมดแล้ว จนเค้าเลิกใช้เลิกผลิตกันหมดแล้ว.......
แต่แบบที่ยุคนั้นไม่เคยทำกัน น่าจะเป็นแบบไฮบริดจ์กับอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำ เพราะยุคนั้นมันยังไม่มี การทำแบบไฮบริดจ์น่าจะมีอะไรแปลกใหม่กว่า และน่าจะเป็นการนอกกรอบกว่าแบบหลอดล้วนๆ.......
ผมเองก็คิดเช่นเดียวกันครับ ว่าคงคิดและทำกันมาหมดแล้ว แต่ที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันมักไม่ค่อยได้เห็นครับ แม้ในเครื่องคอมเมอรเชี่ยล ก็ไม่ค่อยมีใครทำ อาจเป้นเพราะว่ามันทำให้ต้นทุนแพงกว่าครับ ผมเองก็ไม่ได้เรียนเรื่องหลอดครับครูสอนทรานซิสเตอร์แล้ว พอมาติดใจหลอดก็อยากลองอะไรที่ไม่ค่อยมีใครทำกัน (คือมีแต่น้อยครับ) พออยากทำก็ต้องมานั่งคิดและหาข้อมูลว่ามันมีที่มาอย่างไรครับทีนี้มันก็นอกกรอบเรื่องหลอดแน่ๆแม้แต่ตอนที่คนออกแบบครั้งแรกคิดน่ะครับ เพราะว่าซีก็มี resisterก็มี ดันไม่ใช้กับเอาหลอดมาทำนี่ไงครับพี่ มันอาจจะเก่าไปแต่สำหรับผมมันใหม่มากครับพี่ อีกอย่างผมอยากรู้ว่าวงจรแบบนี้มันดีไหมครับ ถ้าดีทำไมถึงไม่ค่อยมีใครใช้กัน แล้วถ้าแย่หรือไม่ดีเพราะข้อจำกัดด้านใดครับ เราก็จะหาวิธีการปรับปรุงได้ไหมเพราะว่าสมัยนี้อุปกรณ์เกรดดีๆเราหาได้ง่ายกว่าเมื่อก่อนครับ ส่วนตัวผมที่อยากรู้คือว่า ซ๊คับปลิ้งน่ะดีๆแพงครับ ใช้ R ก็มีข้อจำกัดด้านอุณหภูมิ การทนกำลังมักเป้นแบบกระเบื้องครับ(แถวบ้านหาได้แบบนี้) ประกอบกับ อ่าน yearbook)มีพี่ท่านเสนอไว้เลยอยากรู้ที่มาที่ไปครับ
เรื่อง current sink ตอนที่ทำเล่นตอนนั้นก็ด้วยจุดประสงค์ที่จะใช้แทน r cathode ที่มันร้อนมากของวงจร direct coupling เหมือนกันนี่แหละครับ แต่ที่จริงข้อดีของมันตามที่เคยอ่านจาก tubecad คือมันจะทำให้หลอด output จ่ายกระแสตรงตามที่เรากำหนดด้วยการ bias หลอด current sink ซึ่งตามปกคิการใช้วงจร auto bias แล้วใช้ r cathode ธรรมดา จะได้กระแสไม่ค่อยตรงตามที่คำนวนกระแสที่กำหนดจากค่า r ไว้ อย่างในกรณี 300B PP จาก yearbook เมื่อใช้ current sink จะสามาร bias หลอดทั้งซีกบนและล่างได้เท่ากันพอดี แต่หากใช้ r ธรรมดา หลอดสองซีกอาจมีกระแสไหลไม่เท่ากัน
ในเรื่องเสียงนั้น ตอนที่ผมลองบอกตรงๆผมฟังความแตกต่างไม่ออกครับ แต่ถ้ามีอุปกรณ์อยู่แล้วก็ทดลองต่อฟังดูอาจฟังความแตกต่างได้ออกมากกว่าของผมและอาจชอบมันก็ได้นะครับเพราะในทางทฤษฏีมันมีข้อดีกว่าการใช้ r ธรรมดาอยู่แล้ว
ส่วนเหตุผลว่าทำไมไม่ค่อยมีคนเล่นกันก็น่าจะมาจากสาเหตุที่มันยุ่งยากในการออกแบบและสิ้นเปลืองกว่าการใช้ r cathode ธรรมดาน่ะครับ
-
ซีที่คาโทดนั้นละครับ ตัวแปรสำคัญเลย ลองเล่น push pull ดีกว่าครับ จะได้ไม่ต้องมีครับ
http://www.thaidiyaudio.net/index.php?action=dlattach;topic=1929.0;attach=8717;image
ถ้าใช้ชิบก็แนะนำ 10M45นั้นละครับ ปรับค่าได้ง่าย สะดวก
ผมก็เรียนทรานซิสเตอร์ครับ แต่คิดแต่หลอด จนโดนอาจารย์ว่าไปทำ โปรเจคสุดท้ายเป็น Digital ampนี่..นั่งโมหลอดแก้เครียดเยอะครับ ;D
TL783 น่าสนใจมากๆครับ
-
ขอขอบคุณพี่ๆทุกๆท่านครับ ไม่ว่า พี่ deep Era alexdiy AnalogLism คุ้ม dekdek น้าลำ พี่ สุวรรณ นะครับ ที่นำความรู้มาเผนแพร่ วงจร รูปเครื่องที่อืม สุดๆเลยครับ ผมจะเริ่มวาดแผนงานแล้วครับ เดี๋ยวขาดเหลือ ตรงไหนจะ pmไปถามพี่ๆนะครับ
-
วงจรหลอดไม่มีอะไรใหม่อีกแล้ว มันเป็นอิเลคทรอนิคส์ยุคโบราณกาล ซึ่งเค้าทำมาหมดทุกรูปแบบ ทะลุปรุโปร่งหมดแล้ว จนเค้าเลิกใช้เลิกผลิตกันหมดแล้ว.......
แต่แบบที่ยุคนั้นไม่เคยทำกัน น่าจะเป็นแบบไฮบริดจ์กับอุปกรณ์สารกึ่งตัวนำ เพราะยุคนั้นมันยังไม่มี การทำแบบไฮบริดจ์น่าจะมีอะไรแปลกใหม่กว่า และน่าจะเป็นการนอกกรอบกว่าแบบหลอดล้วนๆ.......
ผมเองก็คิดเช่นเดียวกันครับ ว่าคงคิดและทำกันมาหมดแล้ว แต่ที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันมักไม่ค่อยได้เห็นครับ แม้ในเครื่องคอมเมอรเชี่ยล ก็ไม่ค่อยมีใครทำ อาจเป้นเพราะว่ามันทำให้ต้นทุนแพงกว่าครับ ผมเองก็ไม่ได้เรียนเรื่องหลอดครับครูสอนทรานซิสเตอร์แล้ว พอมาติดใจหลอดก็อยากลองอะไรที่ไม่ค่อยมีใครทำกัน (คือมีแต่น้อยครับ) พออยากทำก็ต้องมานั่งคิดและหาข้อมูลว่ามันมีที่มาอย่างไรครับทีนี้มันก็นอกกรอบเรื่องหลอดแน่ๆแม้แต่ตอนที่คนออกแบบครั้งแรกคิดน่ะครับ เพราะว่าซีก็มี resisterก็มี ดันไม่ใช้กับเอาหลอดมาทำนี่ไงครับพี่ มันอาจจะเก่าไปแต่สำหรับผมมันใหม่มากครับพี่ อีกอย่างผมอยากรู้ว่าวงจรแบบนี้มันดีไหมครับ ถ้าดีทำไมถึงไม่ค่อยมีใครใช้กัน แล้วถ้าแย่หรือไม่ดีเพราะข้อจำกัดด้านใดครับ เราก็จะหาวิธีการปรับปรุงได้ไหมเพราะว่าสมัยนี้อุปกรณ์เกรดดีๆเราหาได้ง่ายกว่าเมื่อก่อนครับ ส่วนตัวผมที่อยากรู้คือว่า ซ๊คับปลิ้งน่ะดีๆแพงครับ ใช้ R ก็มีข้อจำกัดด้านอุณหภูมิ การทนกำลังมักเป้นแบบกระเบื้องครับ(แถวบ้านหาได้แบบนี้) ประกอบกับ อ่าน yearbook)มีพี่ท่านเสนอไว้เลยอยากรู้ที่มาที่ไปครับ
เรื่อง current sink ตอนที่ทำเล่นตอนนั้นก็ด้วยจุดประสงค์ที่จะใช้แทน r cathode ที่มันร้อนมากของวงจร direct coupling เหมือนกันนี่แหละครับ แต่ที่จริงข้อดีของมันตามที่เคยอ่านจาก tubecad คือมันจะทำให้หลอด output จ่ายกระแสตรงตามที่เรากำหนดด้วยการ bias หลอด current sink ซึ่งตามปกคิการใช้วงจร auto bias แล้วใช้ r cathode ธรรมดา จะได้กระแสไม่ค่อยตรงตามที่คำนวนกระแสที่กำหนดจากค่า r ไว้ อย่างในกรณี 300B PP จาก yearbook เมื่อใช้ current sink จะสามาร bias หลอดทั้งซีกบนและล่างได้เท่ากันพอดี แต่หากใช้ r ธรรมดา หลอดสองซีกอาจมีกระแสไหลไม่เท่ากัน
ในเรื่องเสียงนั้น ตอนที่ผมลองบอกตรงๆผมฟังความแตกต่างไม่ออกครับ แต่ถ้ามีอุปกรณ์อยู่แล้วก็ทดลองต่อฟังดูอาจฟังความแตกต่างได้ออกมากกว่าของผมและอาจชอบมันก็ได้นะครับเพราะในทางทฤษฏีมันมีข้อดีกว่าการใช้ r ธรรมดาอยู่แล้ว
ส่วนเหตุผลว่าทำไมไม่ค่อยมีคนเล่นกันก็น่าจะมาจากสาเหตุที่มันยุ่งยากในการออกแบบและสิ้นเปลืองกว่าการใช้ r cathode ธรรมดาน่ะครับ
300B PP อยู่ในเล่มไหนครับพี่ อยากอ่านครับ ตอนนี้ง่วนกับ pp หลอดเล็ก ๆ ทดลองนั่น ทดลองนี่ไปเรื่อย ๆ
ในความคิดผม ทำ PP ให้มันเสียงดี ยากกว่า se อีก :cry2
ใช้ IC ก็ง่ายดีครับอย่าง TL783 ปรับแรงดันได้ 1.25-125V กระแสได้ตั้ง 700mA เหลือเฟือครับ :)
ต้องสั่งของเข้ามาหรือเปล่า หรือบ้านเรามีขายครับ
ต้องนี้ผมลอง iC ราคาเบา ๆ อย่าง 317 อยู่ + R ตั้งค่ากระแสแล้วก็ไม่เกิน 10 บาท
-
อยู่ใน yearbook ปี 2005 เรื่อง balance ยกระดับ ของพี่วิทยา ครับ