HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม โฮมเธียเตอร์ (HT) => ข้อความที่เริ่มโดย: toom93 ที่ 29 มิถุนายน, 2009, 07:16:19 pm
-
ผมได้ซื้อหนังสือมาเล่มหนึ่ง ชื่อ "อะไร เครื่องเสียง-วีดีโอ" เนี่ยแหละครับ เห็นบทความนึงวิจารณ์ว่า ภาพจาก blue-ray ที่ผ่านทาง hdmi มันให้สีแห้ง มิติไม่มี ชัดก็ชัดเหมือนกันหมด แผ่นอะไรก็ออกมาชัด ไม่เห็นว่ามีข้อแตกต่าง ภาพก็ออกมาแบน สู้ DVD ที่ต่อออกทาง analog ไม่ได้ แถมเอาไปเทียบกับว่าภาพที่ 480 i ยังดูสวยเป็นธรรมชาติ มิติดีมาก บางแผ่นให้ความรู้สึกว่าสีอิ่ม แล้วยังมีการพูดถึงข้อดีที่ทางผู้ผลิตโม้เอาไว้มาก แต่ข้อเสียก็มีเยอะ ซึ่งทางนักวิจารณ์ท่านนี้บอกมา
พอพลิกไปดูหน้าอื่น ซึ่งเป็นบทวิจารณ์แผ่นหนัง ผมล่ะงงจริงๆ ทำไมถึงวิจารณ์แผ่น blue-ray เป็นอันดับแรก แถมชมว่ามิติดีอย่างโน้น ดีอย่างนี้ มาการให้คะแนนด้วย ผมเข้าใจว่าคนวิจารณ์คนละคนกัน แต่ถ้าเทียบกับหนังสือเล่มนึง ทำไมถึงไม่มีมาตรฐานไปจริงๆ เลยล่ะ ว่า blue-ray ที่มันผ่านสาย hdmi มันไม่ดีจริงๆ เค้าบอกว่าปล้ำดีวีดีจนได้ภาพดีกว่า blue-ray แล้วเค้าปล้ำ blue-ray ไปไม่ให้ดีกว่า dvd เหรอ ผมว่าเป็นไปไม่ได้หรอก อ่านแล้วก็มีข้อแย้งเยอะแยะไปหมด
ใครช่วยตอบผมทีเถิดว่าไอ้ blue-ray หรือ hi-def ที่ผมหลงไหลเรื่องมิติหรือสีสวยสดอิ่มอยู่เนี่ย มันไม่ดีจริงๆ ไม่ผมหรือเค้าก็ต้องตาเสียตาเพี้ยนแหละทีนี้ :shutup
-
พอดียังไม่ได้อ่านแต่เดาว่าน่าจะเป็นคุณไมค์ ภิรมย์พรเป็นคนเขียนแน่เลย ฮิฮุอ
-
พอดียังไม่ได้อ่านแต่เดาว่าน่าจะเป็นคุณไมค์ ภิรมย์พรเป็นคนเขียนแน่เลย ฮิฮุอ
2f K] :cry2 :black_eye :bye1
-
ก็ HDMI มันใช้สายสัญญาณแค่ 2 เส้นเอง
มันจะไปดีเท่า 6 Component + 1 Digital Coax ได้ยังงัย
กำไรหายไปตั้ง 5 เส้น :shutup
อิอิ
-
ถ้าบทความนี้เขียนเมื่อหนึ่งปีก่อนหน้านี้ผมอาจจะเห็นด้วยบางส่วน แต่ตอนนี้กับเครื่องบลูเรย์รุ่นใหม่ ๆ ใช้บทความนี้เป็นมาตรฐานไม่ได้แล้วครับ เพราะวันนี้บลูเรย์มีมิติด้านลึกแล้วแน่นอนเห็นได้ด้วยตาเปล่าไม่ต้องจี้ให้ดู ตอนใหม่ ๆ แรก ๆ ยอมรับว่าแบนมากและ noise เยอะมาก แต่เรารู้คนผลิตเขาก็รู้และปรับปรุงไปเรื่อย ๆ วันนี้ฟันธงว่าภาพจากบลูเรย์กินดีวีดีแล้วทุกด้านยกเว้น movement บางครั้งอาจดูดีวีดีว่าลื่นกว่าหน่อย แต่ถ้าท่านมี scaler ชั้นดีก็อีกเรื่องนึงแล้ว
-
ลองอ่านดูอุปกรณ์ที่ท่านนี้ใช้อ้างอิงดูก็พอรู้แล้วแหละครับ (เป็นแค่ระบบพื้นๆ เท่านั้นครับ) โดยเฉพาะเนื้อหาย่อหน้าที่ 6 (หน้า 75) ดังนั้น เวลาอ่านต้องใช้วิจารณญาณกันเอาเองครับ อย่าลืมว่าท่านนี้เป็น บกบห.ระบบออดิโอ นะครับไม่ใช่ บกบห.วีดีโอ
ดังนั้น การวิจารณ์จึงเคยชินแต่ระบบอะนาล็อค ไม่ยอมเปลี่ยนทัศนคติ และไม่เปิดใจยอมรับเทคโนโลยีใหม่ ผมติดตามอ่านหนังสือฉบับนี้มาทุกเดือนครับ อ่านแล้วก็ได้แต่สงสารบริษัทฯ ครับ
เล่มเดียวมีนักวิจารณ์ลักษณะเดียวกันอยู่ถึง 5 คน เนื้อหาบางส่วนก็เอาจากหนังสือต่างประเทศมาแปล สีสรรในหน้าทดสอบหรือวิจารณ์ก็เป็นเคราะห์(Black & White)
ทั้งหมดนี้เรียนมาด้วยความเคารพนะครับ ผมไม่ได้มีเจตนาประสงค์ร้ายต่อท่าน(นักวิจารณ์ & บกบห.) นะครับ
-
นั่นแน่ใช่คุณไมค์ ภิรมย์พร จริงๆด้วย เคยอ่านผลงานของท่านท่านว่าเสียง dolby prologic เนี่ย เสียงดีกว่า dolby digital อีกน๊ะ ไม่ได้โม้
-
พลาดได้อย่างไร เสาร์นี้ต้องไปอ่าน ;D
-
ทุกวันนี้แทบจะไม่ได้ซื้อหนังสือเครื่องเสียงมาอ่านเลย อาศัยหาความรู้ในเเวปบอร์ด (อย่าง htg2 ดีกว่า) :clap จะซื้อ the wave เฉพาะเล่มที่มีทดสอบเครื่องรุ่นที่สนใจ เพื่อดูวิธีการ set up เท่านั้น ^-^ ประหยัดไปเยอะเลย จากที่เมื่อก่อนซื้อแทบทุกเดือน บางเดือนซื้อหลายเล่มด้วย หุ หุ :secret
-
ผมได้ซื้อหนังสือมาเล่มหนึ่ง ชื่อ "อะไร เครื่องเสียง-วีดีโอ" เนี่ยแหละครับ เห็นบทความนึงวิจารณ์ว่า ภาพจาก blue-ray ที่ผ่านทาง hdmi มันให้สีแห้ง มิติไม่มี ชัดก็ชัดเหมือนกันหมด แผ่นอะไรก็ออกมาชัด ไม่เห็นว่ามีข้อแตกต่าง ภาพก็ออกมาแบน สู้ DVD ที่ต่อออกทาง analog ไม่ได้ แถมเอาไปเทียบกับว่าภาพที่ 480 i ยังดูสวยเป็นธรรมชาติ มิติดีมาก บางแผ่นให้ความรู้สึกว่าสีอิ่ม แล้วยังมีการพูดถึงข้อดีที่ทางผู้ผลิตโม้เอาไว้มาก แต่ข้อเสียก็มีเยอะ ซึ่งทางนักวิจารณ์ท่านนี้บอกมา
พอพลิกไปดูหน้าอื่น ซึ่งเป็นบทวิจารณ์แผ่นหนัง ผมล่ะงงจริงๆ ทำไมถึงวิจารณ์แผ่น blue-ray เป็นอันดับแรก แถมชมว่ามิติดีอย่างโน้น ดีอย่างนี้ มาการให้คะแนนด้วย ผมเข้าใจว่าคนวิจารณ์คนละคนกัน แต่ถ้าเทียบกับหนังสือเล่มนึง ทำไมถึงไม่มีมาตรฐานไปจริงๆ เลยล่ะ ว่า blue-ray ที่มันผ่านสาย hdmi มันไม่ดีจริงๆ เค้าบอกว่าปล้ำดีวีดีจนได้ภาพดีกว่า blue-ray แล้วเค้าปล้ำ blue-ray ไปไม่ให้ดีกว่า dvd เหรอ ผมว่าเป็นไปไม่ได้หรอก อ่านแล้วก็มีข้อแย้งเยอะแยะไปหมด
ใครช่วยตอบผมทีเถิดว่าไอ้ blue-ray หรือ hi-def ที่ผมหลงไหลเรื่องมิติหรือสีสวยสดอิ่มอยู่เนี่ย มันไม่ดีจริงๆ ไม่ผมหรือเค้าก็ต้องตาเสียตาเพี้ยนแหละทีนี้ :shutup
คนเขียนบทความเรื่อง Blu-ray แต่นั่งดู VCD อยู่มั้ง...!!!
นี่ดีนะไม่บอกยี่ห้อด้วย จะได้ครบทั้ง ตาบอดไก่ หูน้ำหนวก ปากกาคอแร้ง
:shutup :( :cry2 :-X
:giveup
-
ภาพจาก blue-ray ที่ผ่านทาง hdmi มันให้สีแห้ง มิติไม่มี ชัดก็ชัดเหมือนกันหมด แผ่นอะไรก็ออกมาชัด ไม่เห็นว่ามีข้อแตกต่าง ภาพก็ออกมาแบน สู้ DVD ที่ต่อออกทาง analog ไม่ได้ แถมเอาไปเทียบกับว่าภาพที่ 480 i ยังดูสวยเป็นธรรมชาติ มิติดีมาก บางแผ่นให้ความรู้สึกว่าสีอิ่ม แล้วยังมีการพูดถึงข้อดีที่ทางผู้ผลิตโม้เอาไว้มาก แต่ข้อเสียก็มีเยอะ ซึ่งทางนักวิจารณ์ท่านนี้บอกมา
ถ้าบทความนี้เขียนเมื่อหนึ่งปีก่อนหน้านี้ผมอาจจะเห็นด้วยบางส่วน แต่ตอนนี้กับเครื่องบลูเรย์รุ่นใหม่ ๆ ใช้บทความนี้เป็นมาตรฐานไม่ได้แล้วครับ เพราะวันนี้บลูเรย์มีมิติด้านลึกแล้วแน่นอนเห็นได้ด้วยตาเปล่าไม่ต้องจี้ให้ดู ตอนใหม่ ๆ แรก ๆ ยอมรับว่าแบนมากและ noise เยอะมาก แต่เรารู้คนผลิตเขาก็รู้และปรับปรุงไปเรื่อย ๆ วันนี้ฟันธงว่าภาพจากบลูเรย์กินดีวีดีแล้วทุกด้านยกเว้น movement บางครั้งอาจดูดีวีดีว่าลื่นกว่าหน่อย แต่ถ้าท่านมี scaler ชั้นดีก็อีกเรื่องนึงแล้ว
ผมได้อ่านแล้ว 2 รอบ ผมว่า.. เขาเตือนสติ ว่าอย่าเพิ่งหลงไหลได้ปลื้มกับเทคโนโลยีที่ออกมาใหม่ๆ แต่เมื่อทดลองใช้จริงพบว่าไม่ได้ดีกว่าเทคโนโลยีเก่าที่ปราบเป็น เมื่อเทียบราคาต่อราคาของความคุ้มค่าและคุณภาพที่ได้รับกลับมา
เขายกตัวอย่างคุณภาพที่ได้ของการใช้ช่องต่อ หรือสาย HDMI (ซึ่งไม่ใช่มีแต่เครื่องเล่นบลูเรย์เท่านั้น ) ทุกวันนี้ บริษัทต่างๆจะใช้ช่องต่อ HDMI เป็นตัวเพิ่มมูลค่าสินค้า ของ เครื่องเล่นดีวีดี ทีวีแอลซีดี พลาสม่า โน๊ตบุ๊ค โปรเจคเตอร์ ฯลฯ พอเครื่องของพวกเราไม่มีช่องต่อพวกนี้ หรือเขาขยันอัฟเกรดช่องต่อเป็นเวอร์ชั่นสูงขึ้นๆ พวกเราก็อยากเปลี่ยนเครื่องใหม่ๆตามกันไป เพราะคิดว่าเทคโนโลยีออกใหม่น่าจะดีกว่าเก่า โดยลืมไปว่าเทคโนโลยี่เดิมที่รู้วิธีปราบแล้ว ก็สามารถทำให้ภาพออกมาได้ดีหรือใกล้เคียงของใหม่ แล้วจะเสียเงินไปทำไมในยุคเศรษฐกิจพอเพียงเช่นนี้ บทความนี้น่าจะเหมาะกับพวกที่เรียกว่า อนาถาไฮเอ็นด์
ลองอ่านดูอุปกรณ์ที่ท่านนี้ใช้อ้างอิงดูก็พอรู้แล้วแหละครับ (เป็นแค่ระบบพื้นๆ เท่านั้นครับ) โดยเฉพาะเนื้อหาย่อหน้าที่ 6 (หน้า 75)
ในทัศนะของผม ผมกลับมองว่า ถ้าเราใช้ของถูกมากๆ แล้วสามารถเซ็ทให้ได้คุณภาพถล่มทลายแบบนั้น ผมของเลือกเส้นทางแบบนั้นมากกว่า ผมขอเป็นพวกอนาถาไฮเอ็นด์ดีกว่าครับ
-
อิอิ รับรู้ครับ เพราะความจริงเป็นสิ่งที่เราต้องพิสูจน์ได้อยู่แล้วครับ คนเขียนหนังสือผมว่าเขาไม่ใช้คนเก่งเสมอไปครับ คนเล่นจริง ๆ อย่างพี่ๆ ๆ ในเว็บนี้ผมว่าน่าจะมีความเข้าใจในเทคโนโลยีต่าง ๆ ๆ มากกว่าคนเขียนหนังสือที่ไม่ค่อยได้ศึกษาหาความรู้ให้กับตัวเองเท่าไรครับ อันไหนถ้าดีผมว่าก็รับฟังครับ อันไหนถ้ามันดูไม่เข้าท่า ก็ให้มันผ่าน ๆๆ ไปเถอะครับ แล้วมาสนุกกับสิ่งที่เรามีดีกว่าครับ ถึงมันจะถูกหรือแพงก็สร้างความสุขให้เราและครอบครัวก็แค่นี้ ละครับ พอเพียงและเพียงพอ กันนะครับช่วงนี้ อิอิ d_d d_d
-
ทุกวันนี้เปิดดูดีวีดีก็แฮปปี้ดีครับ แต่ต้องดูห่างจากจอออกมาจากการดู fullrip เท่านึง มันถึงจะพอๆ กัน คือถ้าดู fullrip 3 เมตร ต้องขยับไปข้างหลังสัก 6 เมตรนะ DVD ถึงจะสูสี :-\
หรือถ้าจะดูสัก 3 เมตร ต้องเปิดจอคอม 22 น้วดู คมชัดดี K]
-
ภาพจาก blue-ray ที่ผ่านทาง hdmi มันให้สีแห้ง มิติไม่มี ชัดก็ชัดเหมือนกันหมด แผ่นอะไรก็ออกมาชัด ไม่เห็นว่ามีข้อแตกต่าง ภาพก็ออกมาแบน สู้ DVD ที่ต่อออกทาง analog ไม่ได้ แถมเอาไปเทียบกับว่าภาพที่ 480 i ยังดูสวยเป็นธรรมชาติ มิติดีมาก บางแผ่นให้ความรู้สึกว่าสีอิ่ม แล้วยังมีการพูดถึงข้อดีที่ทางผู้ผลิตโม้เอาไว้มาก แต่ข้อเสียก็มีเยอะ ซึ่งทางนักวิจารณ์ท่านนี้บอกมา
ถ้าบทความนี้เขียนเมื่อหนึ่งปีก่อนหน้านี้ผมอาจจะเห็นด้วยบางส่วน แต่ตอนนี้กับเครื่องบลูเรย์รุ่นใหม่ ๆ ใช้บทความนี้เป็นมาตรฐานไม่ได้แล้วครับ เพราะวันนี้บลูเรย์มีมิติด้านลึกแล้วแน่นอนเห็นได้ด้วยตาเปล่าไม่ต้องจี้ให้ดู ตอนใหม่ ๆ แรก ๆ ยอมรับว่าแบนมากและ noise เยอะมาก แต่เรารู้คนผลิตเขาก็รู้และปรับปรุงไปเรื่อย ๆ วันนี้ฟันธงว่าภาพจากบลูเรย์กินดีวีดีแล้วทุกด้านยกเว้น movement บางครั้งอาจดูดีวีดีว่าลื่นกว่าหน่อย แต่ถ้าท่านมี scaler ชั้นดีก็อีกเรื่องนึงแล้ว
ผมได้อ่านแล้ว 2 รอบ ผมว่า.. เขาเตือนสติ ว่าอย่าเพิ่งหลงไหลได้ปลื้มกับเทคโนโลยีที่ออกมาใหม่ๆ แต่เมื่อทดลองใช้จริงพบว่าไม่ได้ดีกว่าเทคโนโลยีเก่าที่ปราบเป็น เมื่อเทียบราคาต่อราคาของความคุ้มค่าและคุณภาพที่ได้รับกลับมา
เขายกตัวอย่างคุณภาพที่ได้ของการใช้ช่องต่อ หรือสาย HDMI (ซึ่งไม่ใช่มีแต่เครื่องเล่นบลูเรย์เท่านั้น ) ทุกวันนี้ บริษัทต่างๆจะใช้ช่องต่อ HDMI เป็นตัวเพิ่มมูลค่าสินค้า ของ เครื่องเล่นดีวีดี ทีวีแอลซีดี พลาสม่า โน๊ตบุ๊ค โปรเจคเตอร์ ฯลฯ พอเครื่องของพวกเราไม่มีช่องต่อพวกนี้ หรือเขาขยันอัฟเกรดช่องต่อเป็นเวอร์ชั่นสูงขึ้นๆ พวกก็เราอยากเปลี่ยนเครื่องใหม่ๆตามกันไป เพราะคิดว่าเทคโนโลยีออกใหม่น่าจะดีกว่าเก่า โดยลืมไปว่าเทคโนโลยี่เดิมที่รู้วิธีปราบแล้ว ก็สามารถทำให้ภาพออกมาได้ดีหรือใกล้เคียงของใหม่ แล้วจะเสียเงินไปทำไมในยุคเศรษฐกิจพอเพียงเช่นนี้ บทความนี้น่าจะเหมาะกับพวกที่เรียกว่า อนาถาไฮเอ็นด์
ลองอ่านดูอุปกรณ์ที่ท่านนี้ใช้อ้างอิงดูก็พอรู้แล้วแหละครับ (เป็นแค่ระบบพื้นๆ เท่านั้นครับ) โดยเฉพาะเนื้อหาย่อหน้าที่ 6 (หน้า 75)
ในทัศนะของผม ผมกลับมองว่า ถ้าเราใช้ของถูกมากๆ แล้วสามารถเซ็ทให้ได้คุณภาพถล่มทลายแบบนั้น ผมของเลือกเส้นทางแบบนั้นมากกว่า ผมขอเป็นพวกอนาถาไฮเอ็นด์ดีกว่าครับ
ผมเห็นด้วยครับ :clap :clap :clap :clap :clap
-
ว่าแต่ .. ทำไมไม่มาปราบ bluray ซะที ???
-
ทุกวันนี้แทบจะไม่ได้ซื้อหนังสือเครื่องเสียงมาอ่านเลย อาศัยหาความรู้ในเเวปบอร์ด (อย่าง htg2 ดีกว่า) :clap จะซื้อ the wave เฉพาะเล่มที่มีทดสอบเครื่องรุ่นที่สนใจ เพื่อดูวิธีการ set up เท่านั้น ^-^ ประหยัดไปเยอะเลย จากที่เมื่อก่อนซื้อแทบทุกเดือน บางเดือนซื้อหลายเล่มด้วย หุ หุ :secret
เห็นด้วยครับ ความเห็นจากผู้ใช้งานและมีใจรัก ตรงไปตรงมาที่สุด ไม่มีการตลาดเกี่ยวข้อง
-
ว่าแต่ .. ทำไมไม่มาปราบ bluray ซะที ???
ปราบแล้วจะให้ไปดีกว่าอะไรล่ะ :D
เออ...ว่าแต่ว่าพออ่านบททดสอบเสร็จแล้ว มันมีโฆษณา DVD รุ่นนั้นอยู่หน้าถัดไปเลยป่ะ ;D
-
หากจะมองอีกมุมหนึ่งของเขา ผมว่าถ้าไม่มีคนแบบนี้ ทำอะไรเพี้ยนๆ ทำอะไรไม่(ค่อย)เหมือนไคร มันก็มีอะไรดีๆให้เราได้เห็นเหมือนกัน
ใครไม่ชมผมขอชมก็แล้วกันนะครับ ชื่นชมกันบ้างก็ดีเหมือนกันนะ
มองลบเราก็ควรมองบวกบ้างก็ได้ สังคม(เครื่องเสียง)จะได้มีความสุขกันมากขึ้น สิ่งที่เราเล่นเราใช้อยู่นี้มันก็คือกิเรสทั้งนั้น
ติได้แต่อย่าทำรายล้างกันนะครับ มีลบก็ต้องมีบวก
-
ว่าแต่ .. ทำไมไม่มาปราบ bluray ซะที ???
เท่าที่สังเกตุเห็น เขามักจะพูดเน้นเฉพาะของในระดับราคาที่ชาวบ้าน(ชนชั้นกลาง)พอหาซื้อกันได้ และเทคโนโลยีนั้นให้คุณภาพได้ดีจริงเมื่อเทียบ คุ้มกับเงินที่จ่ายออกไป (ยกเว้นสิ่งนั้นดีมากพอ แม้จะราคาสูง แต่คิดแล้วคุ้มค่า จึงจะแนะนำ) และเห็นบอกว่า เขาเลือกการเอาเครื่องที่มีพื้นฐานดีราคา 4,500 บาท โมฯแล้วขึ้นไปเป็น 15,000 บาท ดีกว่า เอาเครื่อง 30,000 บาท แม้พื้นฐานดีกว่ามาโมฯ แล้วราคาขึ้นไปมาก ครับ :wiggle อีกอย่าง เห็นเขาว่า เทคโนโลยีของ BlueRay ชนะ HD DVD ด้วยระบบการตลาด ไม่ใช่ด้วยคุณภาพของมัน อีกทั้งแผ่นที่ใช้เล่น ก็ยังมีราคาสูงมาก จึงยังไม่ถึงเวลาที่ระบบนี้จะเหมาะกับชาวบ้านทั่วไปกระมังครับ คงรอให้ระบบนี้ได้พัฒนาจนดีจริงๆ และราคาแผ่นถูกลงก่อน ดังนั้นจึงไปเน้นของถูกแต่ทำให้ดีขึ้นได้ แบบอนาถาไฮเอนด์ไงครับ และเคยพูดประมาณว่า คนที่ฉลาดเล่นเครื่องเสียง คือ เสียสลึงให้ได้บาท แต่คนเล่นไม่เป็นมักเสียบาทแล้วได้เพียงสลึง
เท่าที่ผมติดตามอ่าน ฟัง มาเป็นเวลา 10ๆปี ผมว่า เขายึดถือผลประโยชน์ของผู้บริโภคเป็นใหญ่ครับ Y]
-
ผมตั้งกระทู้ก็แค่สงสัยในการวิจารณ์และเปรียบเทียบนั่นแหละครับ มีข้อสงสัยในตัวเองว่าสรุปแล้วเราดูภาพและฟังเสียงไม่เหมือนชาวบ้านเค้าเหรอไง แต่เนื้อหาที่เค้าวิจารณ์มาก็หนักไปหน่อย เหมือนกับยังไม่ยอมรับในสิ่งใหม่ๆ ที่กำลังพัฒนาดีขึ้นไปเรื่อยๆ การเล่น hi-def มันคงจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะถ้าจะให้ภาพออกมาดีมากๆ คงจะต้องหันไปดูและพวกระบบไฟให้มากกว่านี้ ไม่เหมือน crt ที่ไม่ต้องดูแลอะไรเหมือนพวกจอทุกวันนี้
-
ผมไม่ได้โจมตีคุณไม..นะครับ เป็นเพียงความคิดเห็นของผู้เล่น งบน้อยเช่นกัน :sweatdrop
ผมเห็นด้วยครับ ว่าเล่นของที่คุ้มค่าดีที่สุด (สำหรับผู้บริโภค) :secret คุ้มสุดๆ ลงทุนคอมแล้วโหลดมันอย่างเดียวเลย ;D
แต่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องที่ DVD เหนือกว่า bluray คนเล่นไม่โง่นะครับ ที่เล่นของแพงแล้วกลับห่วยกว่าของถูก ไม่ต้อง bluray แค่ MKV คนส่วนใหญ่เค้าก็ว่าเหนือกว่า DVD แล้วง่ะครับ
ความคุ้มค่าของ dvd มันก็มีอยู่ในตัวของมัน แต่ความคุ้มค่าของ bluray มันก็มีของมันเองเช่นกัน คนจ่ายแพงขึ้นเพราะต้องการคุณภาพที่มากกว่า ขึ้นอยู่กับบุคคลนั้น ความคุ้มค่ามันวัดกันยากมากๆ
อย่าง oppo983 ผมว่าคุ้มสุดๆ แล้ว เมื่อเทียบกับ dvd ด้วยกัน ยิ่งโม ฯลฯ (ทำมากกว่าการกลับฟิวส์ คลี่สาย คลายน๊อต เปิดฝาเครื่องผมก็เคยทำอันนี้ผมไม่ชอบ ทำแล้วเสียงบางเบสหาย แต่ใสเคลียร์สุดติ่งเลย ) เข้าไปอีกยิ่งโคตรคุ้ม แต่เมื่อไปเทียบกับ MKV ก็ยังแพ้ครับ 983 มันได้แค่เข้าใกล้ MKV 720P เท่านั้นเอง แล้วมันจะไปนับประสาอะไรกับ bluray
อันนี้ไม่รู้คนอื่นเป็นเหมือนผมไหม เรื่องสาย HDMI ถ้าใช้งานแค่ DD และ DTS ผมยังว่า coax ดีๆ เสียงยังเหนือกว่า hdmi แต่เมื่อเจอขนาดไฟล์ใหญ่ๆ อย่าง trueHD coax นี้จบเลยครับไม่ต้องเทียบให้เสียเวลา :black_eye
สรุปของผมคือ DVD ถ้าเนื้อเรื่อง ความสนุกดูแล้วมันก็ใกล้เคียงกัน แต่ถ้ามาดูกันที่คุณภาพเนื้อๆ ด้านภาพ และเสียง กันจริงๆ DVD ยังห่างไกลเหลือเกิน ยิ่งชุดใหญ่ยิ่งไกลมากขึ้น
ฉะนั้นการที่มาบอกว่า Bluray สู้ DVD ไม่ได้ ผมว่าไม่ถูกต้อง ควรจะบอกว่างบเท่านั้นก็เล่น DVD ก็สมน้ำสมเนื้อแล้ว คุ้มค่ามากแล้วจะดูดีกว่า อย่าให้คนที่ยังไม่เคยเล่น bluray เข้าใจผิดว่า DVD มันเหนือกว่า Bluray ของใหม่มันไม่ดีกว่าของเก่า มันเป็นแผนการตลาดเลย อ่านแล้วเป็นที่ตลกของคนเล่นนะครับ
-
ต้องขอโทษทุกท่านหากผมทำให้พี่น้องต้องโกธรและไม่พอใจ ที่เขียนแรงไป ต้องขออภัยทุกท่านะครับ
หวังว่าพี่น้องคงให้อภัยผมนะครับ
ผมคนนึงแหละที่ไม่ชอบข้อเขียนเขาเลย หากอ่านกันดีๆนะครับ จะรู้ว่าเขารู้มากกว่าใครเลย ???? :(
ครั้งนึง เขียนมาได้ บอกว่าฝรั่งฟังไม่เป็น เขาคงฟังเก่งคนเดียวในโลกนะ
เขียนมาได้...
แต่มีข้อดีตรงที่ ทำอะไรที่เขาไม่ทำกัน เช่น แกะและชำแหละเครื่องแบบว่า นักreviewerเขาไม่ทำกัน เราเลยได้รู้อะไรที่อยู่ในเครื่องด้วย
เห็นไหมครับในลบยังมีบวกด้วย
แต่ก็ชอบทำเกินไปบ่อยมาก ผมชื่อแน่ว่าพวกเราก็เป็นแฟนคลับเขาเหมือนกันไม่งั้นคงไม่อ่านบทความของเขาใช้ป่าว ;D ;D ;D
มีเพี้ยนมั่งก็ดี จะได้เห็นอะไรอีแง่มุมนึง ก็อย่างพวกเราว่า Bluerayดีแต่แกบอกว่าDVDดีกว่าซะงั้น อ่าแล้วขำๆก็พอครับ c) c) c)
-
ขอขอบคุณ ท่าน W!! ที่ช่วยชี้แนะ ความเห็นต่าง ไม่ใช่การแตกแยก ถ้าเป็นการคุยด้วยเหตุด้วยผลบนพื้นฐานการเคารพในความเป็นมนุษย์ของกันและกัน แถมทำให้มีมุมมองที่หลากหลาย และประเทืองปัญญาซึ่งกันและกัน ขอบคุณมากครับ :headphone
ขอต่อในประเด็นที่ว่า สิ่งที่คุณไม..เขาทำได้ในบางเรื่อง แต่พวกเรายังไม่เห็น ก็อย่าเพิ่งปักใจว่าไม่ถูกต้อง เพราะอาจทำให้เราไม่เปิดใจรับในเรื่องๆอื่นๆต่อไปได้ ผู้ที่เสียโอกาสก็คือตัวเราเอง เพราะบางอย่างผมเคยซื้อ เคยทำตามก็ไม่เห็นได้ผลอย่างที่เขาพูดในทุกๆเรื่อง แต่พอทดลองไปเรื่อยๆ จนรู้ว่าสาเหตุมาจากอะไร ก็ค่อยๆ ได้เห็นผลตามที่เขาเคยพูดไว้ (บังเอิญผมกัดติด โดยใช้ เวลาทดลอง เป็น สิบๆ ปี กว่าจะได้ผลเหมือนอย่างที่เขาพูด แม้จะยังไม่ครบในทุกเรื่องก็ตาม คาดว่าเพราะแม้จะใช้ชุดเหมือนกันทุกอย่าง แต่อยู่ในสภาวะแวดล้อมที่ต่างกัน เสียง ภาพก็คงไม่เหมือนกัน)
เช่น เขาพูดไว้ 10 เรื่อง บางคนเห็นผลเพียง 3 เรื่อง อีกคนเห็นผลอีก 3 เรื่อง ก็น่าจะพออนุมานเอาว่า น่าจะพอเชื่อถือได้ในระดับหนึ่ง ดังนั้นเรื่องอื่นๆก็ควรเปิดใจรอการพิสูจน์ต่อไป
เขาเคยบ่นปัญหานี้ ที่คนอื่นไม่สามารถ ฟังหรือเห็น ได้เหมือนอย่างที่เขาได้ลงบทความทดสอบไป กับคนที่ไปฟังบรรยายในงาน BAV 2009 ที่ผ่านมาว่า อยากเสนอความคิดว่าน่าจะมีตัวแทนหรืออาสาสมัคร ช่วยกันหาคนที่มีความสนใจด้านเครื่องเสียงและโฮมเธียเตอร์ มาร่วมลงขันกันเพื่อ เช่าห้องหนึ่งในโรงแรงนี้เเป็นประจำไว้เลย แล้วเขาจะจัดชุดเครื่องเสียงหรือโฮมเธียเตอร์หมุนเวียนชุดสลับไปตามความสนใจ แล้วเซ็ททุกอย่างไว้ให้ดูและฟัง ให้ได้ภาพและเสียง เหมือนอย่างที่เขียนในบทความทดสอบไป ว่าเสียง หรือภาพ ที่เขาทำได้นั้นจริง หรือ โม้กันแน่ บนพื้นฐาน การจัดชุดที่ไม่เกินชาวบ้านเอิ้อมถึง และไม่ใช่การแอบใช้ตัวช่วยที่โอเวอร์เกินเหตุ เพื่อให้พวกเราได้มีตัวอ้างอิง เวลาฟัง,ดูเปรียบเทียบ และสอนหูให้ฟังเป็น ตาดูเป็น ว่า เสียง ภาพ ที่ถูกต้อง นั้นควรเป็นอย่างไร
-
ผมคนนึงแหละที่ไม่ชอบข้อเขียนเขาเลย หากอ่านกันดีๆนะครับ จะรู้ว่าเขารู้มากกว่าใครเลย ???? :(
ครั้งนึง เขียนมาได้ บอกว่าฝรั่งฟังไม่เป็น เขาคงฟังเก่งคนเดียวในโลกนะ
เขียนมาได้...
แต่มีข้อดีตรงที่ ทำอะไรที่เขาไม่ทำกัน เช่น แกะและชำแหละเครื่องแบบว่า นักreviewerเขาไม่ทำกัน เราเลยได้รู้อะไรที่อยู่ในเครื่องด้วย
เห็นไหมครับในลบยังมีบวกด้วย
แต่ก็ชอบทำเกินไปบ่อยมาก ผมชื่อแน่ว่าพวกเราก็เป็นแฟนคลับเขาเหมือนกันไม่งั้นคงไม่อ่านบทความของเขาใช้ป่าว ;D ;D ;D
มีเพี้ยนมั่งก็ดี จะได้เห็นอะไรอีแง่มุมนึง ก็อย่างพวกเราว่า Bluerayดีแต่แกบอกว่าDVDดีกว่าซะงั้น อ่าแล้วขำๆก็พอครับ c) c) c)
ผมชอบวิธีคิด แบบของคุณ M.Lex จังครับ O0
-
ด้วยความเคารพต่อท่านนักทดสอบทุกท่าน ทุกค่ายหนังสือ(เครื่องเสียงและภาพ) ขอให้ท่านตระหนักถึงหน้าที่ของท่านที่ว่า"ท่านมีหน้าที่ในการนำผลการทดสอบมาเผยแพร่แก่ท่านผู้ซื้อ(อ่าน) ตามหลักการที่ถูกต้อง"
และแนะนำเทคนิคของสินค้าที่ท่านทำการทดสอบด้วยความเป็นกลางเพื่อรักษาผลประโยชน์ของทั้งเจ้าของผลิตภัณฑ์ เจ้าของหนังสือ ตัวท่านเอง และคนอ่านด้วยนะครับ
ซึ่งข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งของนักวิจารณ์(ทดสอบ)เครื่องเสียงของบ้านเราก็คือเวลาทดสอบระบบภาพหรือเครื่องเสียงจะไม่นำรูปภาพการจัดวางอุปกรณ์ให้คนซื้อ(อ่าน)ได้เห็น ส่วนใหญ่จะอ้างว่า"เนื้อที่มีน้อย"
แล้วจะให้เราๆท่านๆผู้ซื้อ(อ่าน)รู้ได้อย่างไรว่าที่ถูกต้องในการSetUp มันควรจะเป็นอย่างไร บางท่านก็เล่นวางซ้อนทับกันเลย(ล่างสุดจะเป็นAVR ถัดขึ้นมาเป็น Player ตัวที่ 1 และ 2) สายไฟ สายสัญญาณ วางกับพื้น
บางทีมีอุปกรณ์วางกองไว้ข้างๆเครื่องดูรกรุงรัง แต่กลับมีผลการทดสอบออกมาว่าดีอย่างนั้นดีอย่างนี้
แล้วเนื้อหาการทดสอบควรสรุปเนื้อหาสำคัญที่อยากแนะนำให้คนอ่านได้นำไปทดลองด้วยตนเองด้วยนะครับ
-
เหตุผล ทาง วิทยาศาสย์ พิสูจน์ได้ครับ ถ้าพัฒนาของใหม่ขึ้นมาแล้วมันไม่ดีกว่าเดิม เขา จะพัฒนาทำไม ถ้า ชอบของ วินเทจ มันก็คนละเรื่องครับ แต่ถ้า บอกว่า DVD ชัดกว่า บลูเรย์ เป็นไปไม่ได้ครับ ลองเอา DVD มาเปิด ผ่าน จอ ซัก 46นิ้ว ขึ้นไปสิครับ ไม่ต้องคุยเรื่องมิติเอาแค่ความชัดมันก็คนล่ะเรื่องแล้ว ส่วนคำว่าไฮเอ็น อนาถา ไม่มีอยู่จริงครับ มัน ถ้า แค่พอใช้ดูหนังได้เต็มระบบ ถือว่า เป็น ชุด ที่ใช้งานได้ถูกใจเราครับ อย่าบอกว่าไฮเอ็นเลยครับ คำนี้ มันมีอะไรที่ต้องมีมากกว่าเงิน ถึงจะเติมเต็ม
-
เห็นด้วยครับ อย่างน้อยก้อทำให้พวกได้คิด ได้ลอง ว่ามันเป็นตามนั้นหรือไม่ ...
ได้เห็นมุมมองที่แตกต่างบ้างก็เป็นเรื่องดี แต่จะเชื่อหรือไม่ ต้องพิสูจน์ด้วยตัวเองครับ
-
เหตุผล ทาง วิทยาศาสย์ พิสูจน์ได้ครับ ถ้าพัฒนาของใหม่ขึ้นมาแล้วมันไม่ดีกว่าเดิม เขา จะพัฒนาทำไม ถ้า ชอบของ วินเทจ มันก็คนละเรื่องครับ แต่ถ้า บอกว่า DVD ชัดกว่า บลูเรย์ เป็นไปไม่ได้ครับ ลองเอา DVD มาเปิด ผ่าน จอ ซัก 46นิ้ว ขึ้นไปสิครับ ไม่ต้องคุยเรื่องมิติเอาแค่ความชัดมันก็คนล่ะเรื่องแล้ว ส่วนคำว่าไฮเอ็น อนาถา ไม่มีอยู่จริงครับ มัน ถ้า แค่พอใช้ดูหนังได้เต็มระบบ ถือว่า เป็น ชุด ที่ใช้งานได้ถูกใจเราครับ อย่าบอกว่าไฮเอ็นเลยครับ คำนี้ มันมีอะไรที่ต้องมีมากกว่าเงิน ถึงจะเติมเต็ม
ถ้าพัฒนาของใหม่ขึ้นมาแล้วมันไม่ดีกว่าเดิม เขา จะพัฒนาทำไม
บอกว่า DVD ชัดกว่า บลูเรย์ เป็นไปไม่ได้ครับ
อยากจะขอให้คุณ B_Rabbit ได้ไปอ่านบทวิจารณ์ในวารสารนั้นจริงๆ อย่างละเอียดอีกครั้ง ผมว่าเขาชี้ให้เห็นในบางแง่บางประเด็นของจุดที่ยังด้อยอยู่ของเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยต้องยกตัวอย่างขึ้นเพื่ออ้างอิงเปรียบเทียบ คือกับเทคโนโลยีเดิมที่พัฒนามาจนรู้วิธีแก้ไขให้ออกมาดีมากได้แล้ว ไม่ใช่พูดหลักการขึ้นมาลอยๆ กันไม่ให้เจ็บตัวอย่างนักวิจารณ์ทั่วไปที่เพลย์เซฟ ตัวเอง เขาชี้ให้เห็นว่า บางครั้งพวกฝรั่งต้องการสร้างมูลค่าของสินค้าใหม่ เพราะต้องการกินค่าลิขสิทธ์ หรือทำกำไรได้มากกว่า (เป็นเรื่องการตลาดมากกว่า ทำออกมาเพราะดีกว่า) หรือคิดแก้ปัญหาเก่าที่ยังไม่ดีพอ แต่ก็ไปสร้างปัญหาใหม่ขึ้นมา เหตุผลเพราะ การคิดไม่ครอบคลุม 360 องศา เป็นเหมือนลิงแก้แห และเป็นเหมือนพวกตาบอดคลำช้างตรงกับที่ ธรรมะที่พระพุทธเจ้าได้สอนไว้ ในทัศนะของผม ผมว่าเขาทำให้ผู้บริโภคฉลาดขึ้นมากกว่านะครับ ไม่งั้นเราจะกลายเป็นเป็นผู้จ่ายมากกว่าผลที่ได้รับไปตลอด สังเกตุได้จาก ของที่เห็นชมว่าดีมากหลายๆตัว ไม่นานก็โพสต์ขายๆกันมาตลอด เพราะอยากได้ของใหม่ เขาจึงเตือนสติให้ฉุดคิดสักนิด แน่นอนย่อมไม่เข้าหูกับบางท่าน หรือไปขัดแย้งกับความคิดของคนทั่วไปที่เชื่อๆตามกันมา แต่ก็มีผมคนหนึ่งละที่ติดตามอ่ามตามฟัง และพิสูจน์ทดลอง มาตั้งแต่ ปีพ.ศ. 2532 จนถึงขณะนี้ พบว่าเขาก็มีผิดบ้าง แต่เขาก็เสนอสิ่งแปลกใหม่ที่คุ้มค่าที่ช่วยให้เสียง,ภาพ ดีขึ้นอยู่เสมอมา บนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง :secret
"ส่วนคำว่าไฮเอ็น อนาถา ไม่มีอยู่จริงครับ" เรื่องนี้อยากให้เปิดประเด็น ขึ้นเป็นกระทู้ใหม่ทำนองว่า อนาถาไฮเอ็นด์ หรือ ไฮเอนด์อนาถา มีจริงหรือ?
ในที่นี้ขอแสดงความคิดเห็นสักเล็กน้อย คำว่าอนาถาไฮเอ็นด์ ในทัศนะของผมเห็นว่าถ้าทำให้เป็นจริงไ้ด้ ก็เป็นเรื่องดีกับผู้บริโภคที่ไม่ใช่เศรษฐี (หรือต้องมารอให้ถูกหวย,ได้เงินจากการเล่นหุ้น, รอโบนัสก้อนโต เปียแชร์ได้ ฯลฯ เพื่อซื้อของแพงๆถึงจะได้ไปสวรรค์กับเขาบ้าง ) แต่กับกับชาวบ้านหาเช้ากินค่ำขึ้นไปจนถึงชนชั้นกลางไม่สามารถมีโอกาสที่จะได้เสพอัฐฐะรสด้านดนตรีดีๆ ที่เดิมมีแต่วงสังคมชั้นสูงได้เสพกัน ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่มีโอกาสได้รับไปตลอดชั่วชีวิตนี้
และคำนี้ก็ไม่ได้ยึดหลักตายตัวว่า จะต้องเป็นของราคาถูก หรือต่ำที่สุด แม้บางครั้งแพงกว่ามาก แต่เมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้มา กลับมีความคุ้มค่าในระยะยาวมากกว่าก็สนับสนุนให้ใช้
ขอยกบางตัวอย่างเช่น เมื่อก่อนเราอยากได้ทีวีจอแก้วยักษ์ออกใหม่ล่าสุด Wide screen 36 นิ้ว เพราะ ใหญ่ดี มีลูกเล่นเยอะ เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่โฆษณาว่า มีตัวช่วยทำให้ภาพดูดีขึ้นอย่างนั้นอย่างนี้ (เช่นพวกจอแบนทั้งหลาย) หรือซื้อมาเพราะมีโปรโมชั่น หรือได้มาเพราะราคาดี ฯลฯ แต่พอได้ใช้งานจริงๆ กลับดูได้ไม่นาน จึงไม่ค่อยได้เปิดใช้ ในที่สุดก็ประกาศขายทิ้ง ยอมขาดทุน เฟื่อไปซื้อ จอ LCD PLASMA DLP ฯลฯ กันต่อไป กับเครื่องเสียง โฮมเธียเตอร์ ที่ออกระบบใหม่ๆมาทุกปี ก็เป็นเฉกเช่นเดียวกัน จนทำให้เราต้องมาตั้งตาคอยเปลี่ยนเครื่องเปลี่ยนสายใหม่ ทุกๆครั้งที่มีอะไรใหม่ๆออกมาแล้วคิดว่าดีกว่าเดิม แต่กับชาวบ้าน ใช้ทีวีจอแก้วแบบเก่า 14 นิ้วที่ภาพมีมิติดี สีสันเป็นธรรมชาติ ดูข่าวชัด ดูหนังได้เพลิน ดูได้ทุกๆวัน หรือไช้วิทยุธานินทร์ รุ่นเก่าแล้วฟังข่าวทางวิทยุ ฟังเพลงลูกทุ่งได้เพลิดเพลินดี ฟังได้นาน ฟังได้บ่อยทุกๆวัน ฟังจนเครื่องฟังหมดอายุขัยไป
นี่ชี้ให้เห็นว่า่ แม้เป็นของไฮโซที่คิดว่าไฮเอ็นด์แต่กลับใช้น้อยครั้ง (เรียกว่าได้ของที่ไฮเอนด์แต่อนาถา) สู้ของถูกแต่ดีที่ใช้เป็นประจำไม่ได้ (เรียกว่าได้ของที่เป็นไฮเอ็นด์แต่ไม่ไฮไพร์ซ หรือ เป็นของที่อนาถาแต่ไฮเอนด์) และในทางตรงข้าม คนที่ชอบซื้อเครื่อง สาย ฯลฯ โดยยึดถือราคาเป็นที่ตั้งให้ถูกๆไว้ก่อน เช่น เครื่องเล่นจากจีน ที่ขายตามคลองถม ตามห้างต่างๆ ก็อาจต้องเสียเงินซื้อเปลี่ยนใหม่ เพราะเสีย รวนบ่อย พังง่าย หรือคุณภาพยังไม่ดีพอ จึงไม่ค่อยได้เปิดใช้งาน เทียบกับซื้อที่แพงกว่าหน่อยแต่ได้รับการทดสอบพิสูจน์มาแล้วว่าดีจริง ทำให้ได้เปิดใช้บ่อยๆ ของแพงกว่าในกรณีนี้จึงน่าจะคุ้มค่ากว่าเมื่อนับในระยะยาว
ดังนั้นการจะมองประเด็นเพียงเพราะว่าเป็นของไฮโซมีราคาแพงกว่า หรือ มีความใหม่กว่าของเทคโนโลยี จึงไม่น่าจะเป็นคำตอบที่เพียงพอที่จะใช้ตัดสิน ว่าสิ่งนั้นเป็นไฮเอนด์ของแท้ :whistling
และขอเรียนว่า สิ่งที่เรายังไม่ได้พิสูจน์ให้เห็นผล ไม่สามารถสัมผัสได้ หรือแม่แต่แค่คิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ด้วยตรรกะพื้นฐานด้านเดิมๆที่มีอยู่ ก็ไม่ได้หมายความว่าสิ่งนั้นๆผิด หรือเพราะเขาห็นไม่เหมือนกับคนส่วนใหญ่ ยกตัวอย่าง เมื่อก่อนคนเราชื่อว่าโลกแบน ถ้าแล่นเรื่อออกไปจนถึงสุดขอบฟ้าจะตกไปจากโลกได้ หรือบอกว่าโลกเป็นศูนย์กลางของจักรวาล เพราะเห็นด้วยตาว่า ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดาวต่างๆ หมุนรอบโลก หรือในพระคัมภีร์บอกไว้เช่นนั้น พอมีคนมาบอกว่าโลกกลม หรือโลกไม่ใช่เป็นศูนย์กลางของจักรวาล ก็แทบตาย ตอนสมัยผมเรียนชั้นประถม ในวิชาสัมคมบอกว่าโลกกลมเหมือนส้มแป้น แต่พอ 10กว่าปีให้หลัง (ที่มนุษย์สามารถขึ้นไปในอวากาศและดวงจันทร์ จนถึง มีดาวเทียมส่งกล้องออกไปนอกโลกแล้วถ่ายรูปโลกกลับมา) ผมอ่านพบในหนังสือพิมพ์ว่า นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า ความกลมของโลกนั้น กลมเสียยิ่งกว่า เราเอาวงเวียนที่เด็กใช้เรียนเรขาคณิตกันมาวงเสียอีก :o
-
dvd มาจนสุดปลายทางแล้ว จนราคาตัวถูกของดีวีดีปัจจุบัน มันไปสู้ตัวแพงๆ ในอดีตได้
ส่วน bluray มันเพิ่งเริ่มต้นที่สามารถก้าวต่อไปได้
บางเรื่องของคุณไม ผมก็มีเห็นด้วย
แต่ประเด็นของกระทู้นี้คือ dvd เหนือกว่า bluray หรือ bluray ผ่านทาง hdmi แล้วสู้ dvd ผ่านทางอนาล็อคไม่ได้ อันนี้ผมไม่เห็นด้วย
ส่วนประหยัดกว่า ผมว่ามันขึ้นอยู่กับบุคคลแล้วครับ เพราะแม่ยายผมดู vcd เค้าก็บอกชัดพอแล้ว ดูทำไมดีวีดี :D
-
อยากให้ คุณไม.. จัดแบบสองจอ เหมือนที่เทส PJ กันจัง อีกจอ bluray อีกจอ dvd ให้มันเห็นกันไปเลย
คนจะได้กลับมาเล่น dvd กันเหมือนเดิม :D
-
อยากให้ คุณไม.. จัดแบบสองจอ เหมือนที่เทส PJ กันจัง อีกจอ bluray อีกจอ dvd ให้มันเห็นกันไปเลย
คนจะได้กลับมาเล่น dvd กันเหมือนเดิม :D
เขาเคยบ่นปัญหานี้ ที่คนอื่นไม่สามารถ ฟังหรือเห็น ได้เหมือนอย่างที่เขาได้ลงบทความทดสอบไป กับคนที่ไปฟังบรรยายในงาน BAV 2009 ที่ผ่านมาว่า อยากเสนอความคิดว่าน่าจะมีตัวแทนหรืออาสาสมัคร ช่วยกันหาคนที่มีความสนใจด้านเครื่องเสียงและโฮมเธียเตอร์ มาร่วมลงขันกันเพื่อ เช่าห้องหนึ่งในโรงแรงนี้เเป็นประจำไว้เลย แล้วเขาจะจัดชุดเครื่องเสียงหรือโฮมเธียเตอร์หมุนเวียนชุดสลับไปตามความสนใจ แล้วเซ็ททุกอย่างไว้ให้ดูและฟัง ให้ได้ภาพและเสียง เหมือนอย่างที่เขียนในบทความทดสอบไป ว่าเสียง หรือภาพ ที่เขาทำได้นั้นจริง หรือ โม้กันแน่ บนพื้นฐาน การจัดชุดที่ไม่เกินชาวบ้านเอิ้อมถึง และไม่ใช่การแอบใช้ตัวช่วยที่โอเวอร์เกินเหตุ เพื่อให้พวกเราได้มีตัวอ้างอิง เวลาฟัง,ดูเปรียบเทียบ และสอนหูให้ฟังเป็น ตาดูเป็น ว่า เสียง ภาพ ที่ถูกต้อง นั้นควรเป็นอย่างไร
-
ตอนนี้ Bluray แพ้อยู่เรื่องเดียวคือ Motion ครับ นอกนั้นเหนือกว่าหมด
ส่วนเรื่องเช่าห้องโรงแรมประจำ ไม่ต้องทำหรอกครับ เปลืองเงินเปล่า จัดที่ไหนก็ได้ เอาระบบ DVD ที่คิดว่าดีที่สุดมาเปิดเลยครับ ดูทีเดียวก็รู้ว่าดีกว่าหรือป่าว
แต่อย่างที่บอกไปครับ ขอย้ำอีกทีว่า Bluray แพ้เรื่อง motion อย่างเดียว ณ ปัจจุบัน สู้ไม่ได้จริงๆ
-
แต่ประเด็นของกระทู้นี้คือ dvd เหนือกว่า bluray หรือ bluray ผ่านทาง hdmi แล้วสู้ dvd ผ่านทางอนาล็อคไม่ได้ อันนี้ผมไม่เห็นด้วย
ตอนนี้ Bluray แพ้อยู่เรื่องเดียวคือ Motion ครับ นอกนั้นเหนือกว่าหมด
ส่วนเรื่องเช่าห้องโรงแรมประจำ ไม่ต้องทำหรอกครับ เปลืองเงินเปล่า จัดที่ไหนก็ได้ เอาระบบ DVD ที่คิดว่าดีที่สุดมาเปิดเลยครับ ดูทีเดียวก็รู้ว่าดีกว่าหรือป่าว
แต่อย่างที่บอกไปครับ ขอย้ำอีกทีว่า Bluray แพ้เรื่อง motion อย่างเดียว ณ ปัจจุบัน สู้ไม่ได้จริงๆ
จะเห็นว่า ผมไม่เคยแย้งในประเด็นเหล่านี้ ผมก็เชื่อว่าสำหรับ คนทั่วไป ย่อมเห็น เป็นอย่างนั้นแทบทุกคน แต่คนที่เห็นต่างเพราะเขาทำได้ น่าจะเปิดโอกาส หรือหาช่องทางให้เขาได้มาแสดงของจริง เพื่อพิสูจน์สิ่งที่เขาพูด ผมขอเสนอว่า ในโอกาสที่จะจัดงานนัดพบสมาชิกของคุณตู่ เนื่องในโอกาส ครบรอบ10 ปีของเว็ปไซท์นี้ ผมขอเสนอให้ เชิญคุณไม.. มาจัดชุด DVD ปะทะกับ BlueRay เพื่อพิสูจน์และเปรียบเทียบให้รู้ดำรู้แดงกันเลย น่าจะทำให้งานสนุก คึกคัก และน่าจะดึงดูดสมาชิกที่ยังลังเล ให้เข้าร่วมได้มากยิ่งขึ้น ท่าทางจะสนุกสนานดี :kicking :wiggle :yahoo แตกต่างแต่ไม่แตกแยกครับ d_d
ปล. ก็เหมือนกับที่ สมัยเมื่อ เครื่องเล่น CD ออกมาใหม่ๆ ถูกคุณไม..โจมตีว่า เสียงแ้ห้ง เสียงเป็นอิเล็คทรอนิกส์ แต่ตอนหลัง เมื่อปราบได้ ปราบเป็น เขาชมว่าเสียงดีกว่า เครื่ิงเล่นแผ่นเสียงเสียอีก และล่าสุด เขาชมว่า เครื่องเล่น DVD ที่โมฯโดย C3 เสียงดีกว่าเครื่องเล่น CD บางตัวที่ราคาเป็นแสน
-
เล่าประสบการณ์ตัวเองเล่น ๆ ดีกว่าคลายเครียด เพราะรู้สึกจะค่อนข้างเครียด ๆ กันนิดหน่อย
ปกติแต่ก่อนก็เล่น DVD Player Marantz 9500 เจาะ sdi ต่อเข้า scaler ที่ค่อนข้างดีมาตลอด ก็แฮ้ปปี้มาก เมื่อมี blu-ray player มายุคใหม่ ๆ ดูแล้วก็เฉย ๆ ก็ชัดดีแต่ยังไม่รู้สึกอยากได้เพราะดูแล้วยังแปลก ๆ
ต่อมาพอดีมีโอกาสได้จับ Integra RDV1.1 มาเล่นในราคาไม่แพงต่อ hdmi เข้า scaler ก็ยิ่งชอบมากไปอีก ภาพเทพเจง ๆ มีฟามสุขมาก พี่หมูเคยยก Panasonic BD30 รุ่นยอดฮิตในสมัยนั้นมาพร้อมกับแผ่น 8 แผ่นให้ผมต่อเล่นดู ก็โอเค ชัดดี แต่ยังไม่ค่อยรู้สึกอยากได้เหมือนเดิมเหมือนยังมีอะไรแปลก ๆ ไม่สมบูรณ์ตามความรู้สึกส่วนตัวของผม ดูอยู่ประมาณสองอาทิตย์แปดแผ่นหมดก็ยกคืนพี่หมูไป
ต่อมาเครื่องเล่น blu-ray gen ใหม่ก็มาถึงมีโอกาสได้จับ Samsung BD1500 ในราคาหมื่นเดียว อืมมราคาน่าเล่นแล้วก็เอาสักหน่อย แผ่น BD แท้มีให้เช่าเริ่มมากขึ้น อืมมยิ่งเริ่มคุ้ม แต่ก็ยังดูดีวีดีเป็นหลักอยู่ดี เริ่มเช่าแผ่น BD มาดูเรื่อย ๆ อืมม เครื่องรุ่นใหม่นี่ไม่เลว ถูก เร็ว ดี เช่าแผ่นก็ไม่แพง เริ่มเล่น accessories หน่อยสิ ใส่ DreamPower เจาะตูดเปลี่ยน IEC สายไฟเทพ ฟิวส์ฟ้า ชักดีไปใหญ่ โมภาคจ่ายไฟอีกหน่อย สาย SATAII อีกนิด ฮู้ยชักเทพหนัก เริ่มดูดีวีดีน้อยลงเรื่อย ๆ ได้ Monster M1000 M2000 hdmi มาเล่น เฮ้ยชักห่างแฮะ แทบไม่ดูดีวีดีแล้ว พอได้ Panasonic BD80 LG370 มาโมเทพ คราวนี้ลืมดีวีดีไปเลยครับ ไม่มีทางสู้อย่างแน่นอน แถมรุ่นหลัง ๆ นี่ motion ไม่แพ้แล้ว ยิ่งเอาสายไฟชั้นไฮเอนด์มาเสียบยิ่งไปกันใหญ่
สรุปอย่างที่เคยสรุปว่า ถ้าเป็นเมื่อหนึ่งปีก่อนผมคงเห็นด้วย แต่ปัจจุบันก็อย่างที่เล่าให้ฟังล่ะครับ
เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้
ป.ล. ที่ว่ามาทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตั๊ว ส่วนตัวของผมคนเดียวนะครับ นำไปใช้พิจารณาประกอบได้แต่อย่าเชื่อหรือนำไปอ้างอิง อายเขา
-
เล่าประสบการณ์ตัวเองเล่น ๆ ดีกว่าคลายเครียด เพราะรู้สึกจะค่อนข้างเครียด ๆ กันนิดหน่อย
ปกติแต่ก่อนก็เล่น DVD Player Marantz 9500 เจาะ sdi ต่อเข้า scaler ที่ค่อนข้างดีมาตลอด ก็แฮ้ปปี้มาก เมื่อมี blu-ray player มายุคใหม่ ๆ ดูแล้วก็เฉย ๆ ก็ชัดดีแต่ยังไม่รู้สึกอยากได้เพราะดูแล้วยังแปลก ๆ
ต่อมาพอดีมีโอกาสได้จับ Integra RDV1.1 มาเล่นในราคาไม่แพงต่อ hdmi เข้า scaler ก็ยิ่งชอบมากไปอีก ภาพเทพเจง ๆ มีฟามสุขมาก พี่หมูเคยยก Panasonic BD30 รุ่นยอดฮิตในสมัยนั้นมาพร้อมกับแผ่น 8 แผ่นให้ผมต่อเล่นดู ก็โอเค ชัดดี แต่ยังไม่ค่อยรู้สึกอยากได้เหมือนเดิมเหมือนยังมีอะไรแปลก ๆ ไม่สมบูรณ์ตามความรู้สึกส่วนตัวของผม ดูอยู่ประมาณสองอาทิตย์แปดแผ่นหมดก็ยกคืนพี่หมูไป
ต่อมาเครื่องเล่น blu-ray gen ใหม่ก็มาถึงมีโอกาสได้จับ Samsung BD1500 ในราคาหมื่นเดียว อืมมราคาน่าเล่นแล้วก็เอาสักหน่อย แผ่น BD แท้มีให้เช่าเริ่มมากขึ้น อืมมยิ่งเริ่มคุ้ม แต่ก็ยังดูดีวีดีเป็นหลักอยู่ดี เริ่มเช่าแผ่น BD มาดูเรื่อย ๆ อืมม เครื่องรุ่นใหม่นี่ไม่เลว ถูก เร็ว ดี เช่าแผ่นก็ไม่แพง เริ่มเล่น accessories หน่อยสิ ใส่ DreamPower เจาะตูดเปลี่ยน IEC สายไฟเทพ ฟิวส์ฟ้า ชักดีไปใหญ่ โมภาคจ่ายไฟอีกหน่อย สาย SATAII อีกนิด ฮู้ยชักเทพหนัก เริ่มดูดีวีดีน้อยลงเรื่อย ๆ ได้ Monster M1000 M2000 hdmi มาเล่น เฮ้ยชักห่างแฮะ แทบไม่ดูดีวีดีแล้ว พอได้ Panasonic BD80 LG370 มาโมเทพ คราวนี้ลืมดีวีดีไปเลยครับ ไม่มีทางสู้อย่างแน่นอน แถมรุ่นหลัง ๆ นี่ motion ไม่แพ้แล้ว ยิ่งเอาสายไฟชั้นไฮเอนด์มาเสียบยิ่งไปกันใหญ่
สรุปอย่างที่เคยสรุปว่า ถ้าเป็นเมื่อหนึ่งปีก่อนผมคงเห็นด้วย แต่ปัจจุบันก็อย่างที่เล่าให้ฟังล่ะครับ
เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้
จากที่ท่านหมอทีเจเล่ามา เราพอมองเห็นถึงจุดที่ทำให้เกิดเป็นประเด็นที่เรากำลังถกเถียงกันนี้ได้ไหมครับ ทุกตัวไม่ว่า DVD หรือ BD ยังไงก็ยังต้องโมฯเพิ่ม เพื่อให้ได้คุณภาพที่ดีกว่า และอยู่ที่หูตาใครจูนเป็นฟังเป็นได้ถูกต้องมากกว่ากัน จึงทำให้ได้ผลไม่เท่ากัน แม้จะใช้ของอย่างเดียวกันก็ตาม แล้วอีกอย่า อย่าลืมคิดถึง ส่วนต่างของเงินลงทุน ค่าเครื่อง, ค่าสาย, ค่าสารพัดที่โมฯลงไป เพื่อให้ได้ภาพ, เสียงทีดีที่สุดอย่างที่ท่านๆในเวปนี้เล่นกัน :cry2
-
แล้วผมจะบอกว่าคอมเดิมๆ โหลด fullrip มาภาพเสียง กินขาดไปหลายเท่าเมื่อเทียบกับ oppo983 โม C เกือบทั้งเครื่องเกิน 90% เปลี่ยน diode เป็น ultrafast และ schoky เปลี่ยน iec เปลี่ยนสายไฟ ใส่กระบอกฟิวส์ acme เงิน เปลี่ยนขั้ว RCA nextgen เดี๋ยวเปิดฝาแถม ;D
แค่ fullrip จากคอมอย่างที่บอก dvd ไม่มีทางทาบติดเลย คอมไม่ได้โม ^-^ แถมหนังฟรีด้วย คุ้มยิ่งกว่าดีวีดีหลายร้อยเท่า ;D
เดี๋ยวถ่ายรูปหนังมาให้เทียบดูก็ได้ ว่าดีวีดีมันห่างชั้นกันมากแค่ไหน
ส่วน fullrip ตอนนี้ของผมสมูทมากเลย หลังจากปิด movieplus ที่ทีวีไป c) ถ้าไม่จับผิดก็มองไม่ออกง่ะน้อยมั๊กมาก อิอิ
ดีวีดีมันสมูทกว่านิดๆ ก็จริง แต่อาจจะเป็นเพราะเวลาภาพเคลื่อนไหว มันไม่ชัด เลยดูว่ามันสมูทกว่า ส่วน fullrip ภาพเคลื่อนไหวมันชัดกว่าคือชัดตลอด
-
ดูเองล่ะกัน ไม่ต้องดูเรื่องสีนะ อาจจะเพราะคนละฟอร์แมตกันก็ได้ :D
ดูไม่ยากว่าอะไรเป็นอะไร ^-^
ส่วนเรื่องเสียงนี้ยิ่งห่าง ไม่ได้ดูเรื่องนี้จากดีวีดีนาน มาเปิด ทำไมเสียงมันห่วยแบบนี้หว่ะเนี้ย K] K]
ปล. ภาพจริง จะสวยกว่าในรูปประมาณ 2 เท่า :D
(http://farm3.static.flickr.com/2489/3680787657_1d1c200f47_o.jpg)
(http://farm3.static.flickr.com/2625/3681602694_35999430f2_o.jpg)
-
ดูเองล่ะกัน ไม่ต้องดูเรื่องสีนะ อาจจะเพราะคนละฟอร์แมตกันก็ได้ :D
ดูไม่ยากว่าอะไรเป็นอะไร ^-^
ส่วนเรื่องเสียงนี้ยิ่งห่าง ไม่ได้ดูเรื่องนี้จากดีวีดีนาน มาเปิด ทำไมเสียงมันห่วยแบบนี้หว่ะเนี้ย K] K]
เพราะไม่ได้ใช้ eagle eye :P
-
ดูเองล่ะกัน ไม่ต้องดูเรื่องสีนะ อาจจะเพราะคนละฟอร์แมตกันก็ได้ :D
ดูไม่ยากว่าอะไรเป็นอะไร ^-^
ส่วนเรื่องเสียงนี้ยิ่งห่าง ไม่ได้ดูเรื่องนี้จากดีวีดีนาน มาเปิด ทำไมเสียงมันห่วยแบบนี้หว่ะเนี้ย K] K]
เพราะไม่ได้ใช้ eagle eye :P
:yucky :boxing :gun2 ;D
เสียงมันเปรียบคล้ายกับ MP3 กับ Flac ประมาณนั้น :D
-
ใครบอก bluray คมชัดทั้งฉาก
ผมว่า dvd มันเบลอทั้งฉากง่ะ N]
อย่างในภาพ fullrip มันมีชัด มีเบลอ มีตื้นมีลึก เป็นสามมิติเหมือนหลุดออกจากจอ
DVD มันลึกหมดเลย หาส่วนชัดไม่เจอ อาจจะเป็นคนชอบอะไรลึกๆ หรือเปล่า ^-^
เพิ่มเติมอีกหน่อย ตรง dvd น๊อยซ์เยอะมากๆ
ลืมบอก กล้องห่างจากจอมาประมาณ 1.7 - 2.0 ม.
-
ใครบอก bluray คมชัดทั้งฉาก
ผมว่า dvd มันเบลอทั้งฉากง่ะ
**** ตรงใจ ทั้งที่ยังไม่ได้เล่น แค่ไปดูตามงานก็เห็นได้ชัดเจน ****
-
ส่วนตัวผมตอนนี้มีเครื่อง DVD อยู่ 4 เครื่องทั้งมีเจาะ sdi และไม่มี เปลี่ยนท้ายและโมสายเปลี่ยนฟิวส์มีแผ่นหนังเกือบพันแผ่น เล่นผ่านเครื่อง scaler รุ่นใหม่ ภาพที่ได้ผมว่าน่าจะเป็นที่สุดของ DVD เท่าที่มันจะทำได้ แต่ ณ เวลานี้อยากจะบอกว่ามันแพ้ MKV ที่เล่นผ่าน COM แบบเยอะพอสมควรแล้วถ้าเป็นเครื่อง Blu ray จะขนาดไหน ตอนี้เลยไม่ได้ซื้อแผ่น DVD อีกแล้วคร๊าบ :)
-
เสี่ยหมี หรือ เพื่อนๆ ผมว่าการที่มีความคิดเห็นแปลก ๆ เป็นสิ่งดี แต่ผมก็เห็นว่า เขาบอกว่าแนวคิดเขาดีเขาถูกต้อง แต่เขาก็ไม่ได้บังคับให้เราเชื่อเขานี่คับ มีการลองอะไร แปลก ๆ เรื่อย ๆ เราก็ตามอ่านตามดู เห็นผลก็ทำตาม ไม่เห็นผลก็ไม่ต้องทำ สนุก ๆ ดีออก ถ้านักวิจารณื นักเล่น ทุกฉบับ ทุกท่านเห็นเหมือนกันหมด ก็ไม่สนุกซิคับ นี่ขนาดมีคนไม่ชอบแกเยอะ ยังมีคนทำอ่านบทความแกเยอะเลย อิ อิ
-
เสี่ยหมี หรือ เพื่อนๆ ผมว่าการที่มีความคิดเห็นแปลก ๆ เป็นสิ่งดี แต่ผมก็เห็นว่า เขาบอกว่าแนวคิดเขาดีเขาถูกต้อง แต่เขาก็ไม่ได้บังคับให้เราเชื่อเขานี่คับ มีการลองอะไร แปลก ๆ เรื่อย ๆ เราก็ตามอ่านตามดู เห็นผลก็ทำตาม ไม่เห็นผลก็ไม่ต้องทำ สนุก ๆ ดีออก ถ้านักวิจารณื นักเล่น ทุกฉบับ ทุกท่านเห็นเหมือนกันหมด ก็ไม่สนุกซิคับ นี่ขนาดมีคนไม่ชอบแกเยอะ ยังมีคนทำอ่านบทความแกเยอะเลย อิ อิ
ผมคนนึงละที่ (ยืน) อ่าน ;D ;D ไม่ได้ไปเกลียดไปโกรธอะไรเค้าครับ เพียงแต่อยากสื่อจากสิ่งที่ผมเห็นแค่นั้นเอง ผมอ่านคอลั่มเค้าอันแรกเลยนะขอบอก อิอิ
ทุกวันนี้ซื้ออยู่เล่มเดียว ไม่ใช่ว่าอยากซื้อนะ คือยืนอ่านไม่ไหว ต้องกลับมาแปลความหมายจากไทยเป็นไทยของเค้าที่บ้าน แบบอ่านไปงงกับศัพท์แสงเค้าไปง่ะ :D
แต่พักหลังนี้ดีขึ้นเยอะเหมือนกัน :g มานึกอีกทีหรือเราชักชินสำนวนเค้าหว่า .... :D
-
เสี่ยหมี หรือ เพื่อนๆ ผมว่าการที่มีความคิดเห็นแปลก ๆ เป็นสิ่งดี แต่ผมก็เห็นว่า เขาบอกว่าแนวคิดเขาดีเขาถูกต้อง แต่เขาก็ไม่ได้บังคับให้เราเชื่อเขานี่คับ มีการลองอะไร แปลก ๆ เรื่อย ๆ เราก็ตามอ่านตามดู เห็นผลก็ทำตาม ไม่เห็นผลก็ไม่ต้องทำ สนุก ๆ ดีออก ถ้านักวิจารณื นักเล่น ทุกฉบับ ทุกท่านเห็นเหมือนกันหมด ก็ไม่สนุกซิคับ นี่ขนาดมีคนไม่ชอบแกเยอะ ยังมีคนทำอ่านบทความแกเยอะเลย อิ อิ
ผมคนนึงละที่ (ยืน) อ่าน ;D ;D ไม่ได้ไปเกลียดไปโกรธอะไรเค้าครับ เพียงแต่อยากสื่อจากสิ่งที่ผมเห็นแค่นั้นเอง ผมอ่านคอลั่มเค้าอันแรกเลยนะขอบอก อิอิ
ทุกวันนี้ซื้ออยู่เล่มเดียว ไม่ใช่ว่าอยากซื้อนะ คือยืนอ่านไม่ไหว ต้องกลับมาแปลความหมายจากไทยเป็นไทยของเค้าที่บ้าน แบบอ่านไปงงกับศัพท์แสงเค้าไปง่ะ :D
แต่พักหลังนี้ดีขึ้นเยอะเหมือนกัน :g มานึกอีกทีหรือเราชักชินสำนวนเค้าหว่า .... :D
ตอนนี้อยากอ่าน FHM ;D
-
เสี่ยหมี หรือ เพื่อนๆ ผมว่าการที่มีความคิดเห็นแปลก ๆ เป็นสิ่งดี แต่ผมก็เห็นว่า เขาบอกว่าแนวคิดเขาดีเขาถูกต้อง แต่เขาก็ไม่ได้บังคับให้เราเชื่อเขานี่คับ มีการลองอะไร แปลก ๆ เรื่อย ๆ เราก็ตามอ่านตามดู เห็นผลก็ทำตาม ไม่เห็นผลก็ไม่ต้องทำ สนุก ๆ ดีออก ถ้านักวิจารณื นักเล่น ทุกฉบับ ทุกท่านเห็นเหมือนกันหมด ก็ไม่สนุกซิคับ นี่ขนาดมีคนไม่ชอบแกเยอะ ยังมีคนทำอ่านบทความแกเยอะเลย อิ อิ
ผมคนนึงละที่ (ยืน) อ่าน ;D ;D ไม่ได้ไปเกลียดไปโกรธอะไรเค้าครับ เพียงแต่อยากสื่อจากสิ่งที่ผมเห็นแค่นั้นเอง ผมอ่านคอลั่มเค้าอันแรกเลยนะขอบอก อิอิ
ทุกวันนี้ซื้ออยู่เล่มเดียว ไม่ใช่ว่าอยากซื้อนะ คือยืนอ่านไม่ไหว ต้องกลับมาแปลความหมายจากไทยเป็นไทยของเค้าที่บ้าน แบบอ่านไปงงกับศัพท์แสงเค้าไปง่ะ :D
แต่พักหลังนี้ดีขึ้นเยอะเหมือนกัน :g มานึกอีกทีหรือเราชักชินสำนวนเค้าหว่า .... :D
ตอนนี้อยากอ่าน FHM ;D
อ่านนิทานให้ลูกฟังไปก่อนครับ ;D
-
เมื่อก่อนดู DVD ใหม่ๆ ผมว่ามันจะมีอะไรขัดกว่านี้อีกมั้ย ช่วงแรกๆ ก็มีแต่คนออกมาชม ผมก็ว่าดี แต่ blue-ray สีมันสวยกว่าสดกว่า แต่เรืื่องภาพแห้งภาพน้ำไม่เข้าใจความหมายอ่ะครับ ท่านพี่ๆ ช่วยอธิบายให้กระจ่างทีครับ ว่าภาพที่ดูแล้วแห้งมันเป็นแบบไหน
-
เมื่อก่อนดู DVD ใหม่ๆ ผมว่ามันจะมีอะไรขัดกว่านี้อีกมั้ย ช่วงแรกๆ ก็มีแต่คนออกมาชม ผมก็ว่าดี แต่ blue-ray สีมันสวยกว่าสดกว่า แต่เรืื่องภาพแห้งภาพน้ำไม่เข้าใจความหมายอ่ะครับ ท่านพี่ๆ ช่วยอธิบายให้กระจ่างทีครับ ว่าภาพที่ดูแล้วแห้งมันเป็นแบบไหน
คงจะเหมือนก๋วยเตี๋ยว ถ้าน้ำก็คล่องคอหน่อย
ก๋วยเตี๋ยวแห้ง ถ้าสั่งแล้วทิ้งไว้ซักพัก เส้นมันจะแข็งๆ แล้วเริ่มฟีบๆ ลงไป ทำให้ดูเหมือนภาพแบนๆ แต่ถ้าเป็นน้ำ ทิ้งไว้ซักพัก เส้นมันจะอืด ทำให้ดูมีมิติ ผมว่าคงเป็นอย่างนี้แหละ
เกี่ยวกันไม๊หว่า อิอิ ;D
-
นั่งอ่านมาตั้งนานกว่าจะหมด ผมว่ากระทู้นี้ได้สาระดีครับ มีมุมมองหลายๆ ด้าน
ทำให้นักเล่นรุ่นใหม่ๆ อย่างผมคงนึงล่ะ ได้กลับมานั่งคิด ไตร่ตรองดูว่า เราอยู่จุดไหน
แล้วเราเลือกที่จะไปแนวใด ผมคิดว่าพี่ๆ หลายๆ คนก็ลองเล่นกันมาเยอะ ประสพการณ์ตรงนี้
ก็เลยสามารถเอามาถ่ายทอดกันได้ ส่วนน้องใหม่ๆ เริ่มตั้งไข่ จะไปทางไหนดี
ก็อาศัยเรื่องที่พี่ๆ มาแชร์ กันนี้ บวกกับการค้นหาข้อมูล ศึกษาเทคโนโลยี
แล้วก็ไปทดลองดู ทดลองฟัง เพื่อให้ได้คำตอบของแต่ละคน
สุดท้าย ผมว่าไม่ว่าจะเทคโนโลยีแบบไหน หากเราดึงความสามารถมันออกมาได้เต็มที่แล้ว
ผมเชื่อว่า ทุกๆ คนก็จะมีความสุขกับ Sysyem ของตัวเองนะครับ :)
อย่างทุกวันนี้ผมก็ใช้ความรู้ต่างๆ ที่สะสมมา ปรับปรุงระบบของตัวเองให้ดีขึ้น
แล้วก็ตามเทคโนโลยีว่าเป็นยังไง เผื่อในอนาคตจะมีการเปลี่ยนแปลงเราจะได้ตัดสินใจง่ายขึ้น
และที่สำคัญเมื่อเรามีความเข้าใจที่ดีขึ้น เราก็สามารถถ่ายทอดไปให้คนอื่นๆ ได้อีกด้วยครับ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาแชร์ข้อมูลที่มีประโยชน์ครับ
-
ทุกวันนี้เปิดดูดีวีดีก็แฮปปี้ดีครับ แต่ต้องดูห่างจากจอออกมาจากการดู fullrip เท่านึง มันถึงจะพอๆ กัน คือถ้าดู fullrip 3 เมตร ต้องขยับไปข้างหลังสัก 6 เมตรนะ DVD ถึงจะสูสี :-\
หรือถ้าจะดูสัก 3 เมตร ต้องเปิดจอคอม 22 น้วดู คมชัดดี K]
แต่ถ้า บอกว่า DVD ชัดกว่า บลูเรย์ เป็นไปไม่ได้ครับ ลองเอา DVD มาเปิด ผ่าน จอ ซัก 46นิ้ว ขึ้นไปสิครับ ไม่ต้องคุยเรื่องมิติเอาแค่ความชัดมันก็คนล่ะเรื่องแล้ว
การเล่น hi-def มันคงจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะถ้าจะให้ภาพออกมาดีมากๆ คงจะต้องหันไปดูและพวกระบบไฟให้มากกว่านี้ ไม่เหมือน crt ที่ไม่ต้องดูแลอะไรเหมือนพวกจอทุกวันนี้
ขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมแชร์ประสบการณ์ c) :D :showoff
ผมพอจะเห็นปัญหาที่ทำให้มีความเห็นแตกต่างกัน อย่างนึงครับ
คือ พวกเราในนี้ ใช้จอใหญ่ๆมาเป็นตัวเปรียบเทียบ (ซึ่งส่วนใหญ่ใส่เอ็นจิ้นที่เน้นให้ความคมชัด มีตัวปรับเร่งสีให้แจ่มๆได้ และมีการใส่ตัวลดน้อยส์ช่วยอีก)
แต่ของคุณไม.. ใช้แค่ทีวีจอแก้ว JVC 14 นิ้ว (ที่ให้มิติดีมาก สีและความคมชัดใกล้เคียงระดับ Monitor แพงๆที่ใช้กันในสตูดิโอตัดต่อหนัง)
หรือบางครั้งก็ดูจาก จอLCD 42 นิ้วของเอเซอร์ (ที่ให้ภาพไร้การปรุงแต่งด้วยเอ็นจิ้นตัวช่วยภาพทั้งหลาย ซึ่งพบว่าให้มิติดีมาก และภาพเป็นธรรมชาติมาก เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เคยเห็นเปิดโชว์ที่สยามพาราก้อน)
ด้วยเงื่อนไขการปรับจูนที่ต่างกัน ใช้อุปกรณ์ที่แตกต่างกัน ดังนั้นเมื่อเราเอาเครื่องของเรา มาขยายรูปให้มีขนาดเท่ากันเพื่อเปรียบเทียบ และระยะการนั่งดูห่างจอเท่าๆกัน จึงพบว่า DVD คมชัดสู้ไม่ได้แน่นอน (เพราะขนาดภาพ ขนาดไฟล์ก็ต่างกันมากด้วย อย่างเช่น แผ่น BDผี ที่เป็น DVD 9 ภาพก็คมชัดกว่า DVD ธรรมดาเช่นกัน)
ในที่นี้พอจะมีใครที่สามารถ ทดลองเปิด BD เทียบกับ DVD บนTVจอแก้วที่ให้มิติดีๆดีๆ ขนาด14-36 นิ้ว บ้าง โดยใช่แค่สาย คอมโพสิต หรือคอมโพเน้นท์ดีๆ เช่น canare เพื่อเปรีบเทียบบ้าง :secret
ขอถามเพิ่มอีกข้อ มีใครที่ เซ็ท บลูเรย์+โฮมเธียเตอร์ แล้วสามารถให้ เสียง ในเรื่องที่หนูเป็นพ่อครัว ตอนต้นเรื่องที่หนีตกไปในท่อน้ำทิ้ง แล้วให้เสียง เหมือนมีน้ำหยดลงมาจริงๆจากบนเพดานห้องได้บ้าง และเสียงตอนที่จมน้ำ สามารถทำให้เหมือนเราจมอยู่ในน้ำด้วย :secret
-
http://www.ippinkan.com/hdmi_cable_test.htm
การทดสอบ+วิจารณ์ ของทางญี่ปุ่นเขาครับ
ผมชอบมากที่เขาสามารถสรุปจากความรู้สึกสัมผัสถ่ายทอดออกมาเป็นกราฟ ทำให้สามารถสื่อสาร ได้เข้าใจง่าย
อีกทั้งมีตัวเปรียบเทียบให้เห็นกันจะๆ
วิเคราะห์ละเอียด+แสดงภาพให้เห็น แม้กระทั่งโครงสร้างสายกลม กับสายแบน
เขาว่า สายกลมเมื่อมีการดัดงอ ช่วงกลางๆ มันจะขยับตัวได้ อาจถ่างออกมาแบบในภาพที่เขาติ๊ต่างไว้
ส่วนสายโครงสร้างแบน มันจะคงรูปได้ดี ในกรณีนี้ (กรุณาดูภาพท้ายๆ ประกอบ)
-
ขอสอบถามนิดนึงครับ ในกรณีที่ LCD เป็นแค่ HD ล่ะครับ แล้วอยากอัปเกรดมาใช้เครื่องบลูเรย์เนี้ย จำเป็นไหมที่ต้องอัปเครื่อง LCD เป็น FULL HD เพื่อความสุดยอดอ่ะ
แล้วสาย HDMI 1.2M ราคา3พัน o.k.ไหมครับ
ขอโทษน่ะครับ ที่ถามแบบโง่ๆ เพราะสับสนอยู่ครับ ยิ่งเจอกะทู้นี้เข้า :D :D :D
-
ขอสอบถามนิดนึงครับ ในกรณีที่ LCD เป็นแค่ HD ล่ะครับ แล้วอยากอัปเกรดมาใช้เครื่องบลูเรย์เนี้ย จำเป็นไหมที่ต้องอัปเครื่อง LCD เป็น FULL HD เพื่อความสุดยอดอ่ะ
ขอโทษน่ะครับ ที่ถามแบบโง่ๆ เพราะสับสนอยู่ครับ ยิ่งเจอกะทู้นี้เข้า :D :D :D
( ก่อนอื่นต้องขออภัยที่ตอบช้า เนื่องจากได้โพสต์ตอบเมื่อ 2 วันก่อน แต่เกิด error ก่อนส่งกระทู้ และช่วงนี้กำลังพยายามถ่ายรูปจากจอ LCD ให้ออกมาดี กับหาวิธีฝากรูปขึ้นเว็ปอยู่ )
ผมเห็นว่า ถ้า LCD เดิมให้ภาพที่ดูใช้ได้พอสมควร จาก DVD และ FreeTV อยู่แล้ว ก็ไม่ควรเปลี่ยน คุณไม..ได้เคยบอกไว้ทำนองนี้ว่า ถ้าเพียงแค่อัปจาก HD Ready ไปเป็น Full HD ในยี่ห้ัอเดียวกัน หลายครั้งพบว่า พลังของภาพกลับแย่ลง.. ฯลฯ (ขออภัย จำรายละเอียดที่พูดไม่ได้ เพราะพูดไว้นานแล้ว) ผมว่าควรใช้วิธีปรับจูนจนถึงที่สุดก่อน ทั้งขั้นไม่ต้องเสียเงิน จนถึงขั้นเสียเงิน อย่างที่ได้พูดคุยกันในกระทู้หัวข้อเรื่อง กล่องดำมฤตยู ( PANDORA )
ผมขอนำตัวอย่างภาพ จากหนัง ดราก้อนบอล แผ่นผี 50 บาท เปิดจาก เครื่องเล่น DVD OPPO 983H บนจอ LCD SANYO 42 นิ้ว รุ่น 42CA8Z ที่คุณไม..เคยแนะนำไว้ในรายการวิทยุ หนังเรื่องนี้ให้ภาพบนจอคมชัด เห็นรายละเอียดบนผิวหน้าคนแต่ละคน และมีมิติตื้นลึก หน้าคนมีทรวดทรงดีมากๆ แต่ว่าภาพที่ีถ่ายออกมา สีสัน ความคมชัดหายไปเยอะ ต้องใช้วิธีมองห่างๆออกจากจอแทน จึงพอจะมองออก
หมายเหตุ เส้นริ้วๆเกิดจากระบบของกล้องดิจิตอลไม่สัมพันธ์กับสัญญาณภาพบนจอ LCD บนจอ LCD มองตาเปล่าไม่มีสัญญาณกวน การตั้งค่าที่ LCD ตั้ง ความคมชัดไม่เกิน 2 ความสว่างไม่เกิน 37 คอนทราสไม่เกิน 15 สีไม่เกิน 15 ใช้สาย HDMI ที่ีแถมมากับเครื่อง DVD แต่ใช้สายไฟของ CHORD สีส้ม และตัวกรองไฟหลายๆแบบเขัาช่วย ถ่ายด้วยกล้อง3ล้านพิกเซล CASIO Exilim Z3
(http://[url=http://image.ohozaa.com/show.php?id=eca83fbf0c36a79d91006435409921f6][img]http://image.ohozaa.com/ta/cimg1035.jpg)[/url] (http://image.ohozaa.com/ti/cimg1056.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=a2d63f934498974f851bc10258ddaea6) (http://image.ohozaa.com/tw/cimg1059.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=6b42cdd44eeb6d63fdc3ca323a9de31e) [/img]
อึกรูปจากกล้อง Canon eos 10d ภาพนุ่มนวล ไม่คมและชัดลึกเท่า Casio
(http://[url=http://image.ohozaa.com/show.php?id=2dd2d04fc0ce708504c04558476690b4][img]http://image.ohozaa.com/tl/img_5327.jpg)[/url][/img]
ขออภัยรูปไม่ขึ้น ไม่รู้ว่าผิดตรงไหน
-
ถ้าใช้ crt หรือจอเล็ก ผมเชียร์ให้เล่นแค่ dvd ก็พอครับ มันไม่ต่างกันมากมาย
แต่ถ้าจอใหญ่ เล่นกับ dvd ก็ยังพอทน ถ้าไม่ไปเคยเห็นไป bluray หรือ fullrip เข้า รับรองตบะแตก ;D
-
เรียนคุณ W!! ไม่ทราบว่าได้อ่านบทความ ของคุณไม.. ในนิตยสาร อะไร ออดิโอ-วิดีโอ ? ฉบับล่าสุด (เดือนกรกฎาคม 52) หรือยัง เรื่องทำนองว่า ทำไมแผ่นบูลเลย์ถึงไม่ดีจริง อย่างที่ควรจะเป็น? อยากฟังความคิดเห็น กับประสบการณ์ตรงครับ :showoff :secret
-
ได้อ่านผ่านๆ แล้วครับ บางอย่างก็เห็นตามนั้น
เท่าที่จำได้สาย hdmi มันวางชิดกัน ไม่ชิลด์ระหว่างกัน ผมเคยคิดเล่นๆ ถ้าเอาสาย coax ทำแทนสาย hdmi ยี่สิบกว่าเส้น นี้ท่อน้ำปะปาชัดๆ เลย ;D
-
ขอแก้ไขข้อมูลนิดนึงครับ
เมื่อวันสองวันที่ผ่านมา ได้มีโอกาสลอง LG370 ต่อเข้ากับ Onkyo 875 ออกพลาสม่า SS 50A650 ภาพที่ได้ต้องบอกว่า ดีมากครับ โมชั่นลื่นไหลดีมาก ส่วนไฟล์ mkv นั้น ภาพสวย เสียงดีครับ แต่โมชั่นยังสู้ไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง ผมถึงยังสงสัยว่า ทำไมคนอื่นถึงบอกว่า โมชั่นดีแล้ว พอได้ลองเองก็ถึงบางอ้อครับ ดีจริงๆ ผมมัวเล่นแต่ mkv ไม่ได้ลองแผ่นจริงเลยไม่ทราบว่า โมชั่นมันดีขึ้นมาขนาดนี้ เดี๋ยวจะลองหนังหลายๆ ประเภทดูอีกทีครับ
ป.ล. ถ้ามีโอกาสได้ลอง อยากลอง fullrip เหมือนกัน แต่ต้องรอ Asus Xonar HDAV มีขายก่อนครับ แต่คิดว่า ภาพน่าจะลื่นไหลแบบเดียวกับแผ่นจริง
ป.ล. 2 ถ้าอยากดูแบบไม่เสียตังค์มากไปก่อน ก็ยังแนะนำ mkv อยู่ดีครับ เน้นประหยัด อิอิ
-
ได้อ่านผ่านๆ แล้วครับ บางอย่างก็เห็นตามนั้น
เท่าที่จำได้สาย hdmi มันวางชิดกัน ไม่ชิลด์ระหว่างกัน ผมเคยคิดเล่นๆ ถ้าเอาสาย coax ทำแทนสาย hdmi ยี่สิบกว่าเส้น นี้ท่อน้ำปะปาชัดๆ เลย ;D
ทำมาเมื่อไหร่ ขอไปชมด้วยคนครับ :D
-
ได้อ่านผ่านๆ แล้วครับ บางอย่างก็เห็นตามนั้น
เท่าที่จำได้สาย hdmi มันวางชิดกัน ไม่ชิลด์ระหว่างกัน ผมเคยคิดเล่นๆ ถ้าเอาสาย coax ทำแทนสาย hdmi ยี่สิบกว่าเส้น นี้ท่อน้ำปะปาชัดๆ เลย ;D
ทำมาเมื่อไหร่ ขอไปชมด้วยคนครับ :D
แค่คิด แต่คงทำไม่ไหวล่ะครับ :giveup