HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม โฮมเธียเตอร์ (HT) => ข้อความที่เริ่มโดย: jedsadap ที่ 09 กันยายน, 2009, 04:16:10 pm
-
พอดีผมมีลำโพงตั้งพื้นอยูอยากจะลองเอามาเป็นคู่หน้าในระบบ โฮมน่ะครับ
แต่ไม่ทราบว่าต้องตั้งค่าลำโพงเป็น SMALL หรือ large ดี
ี
และควรจะไปตัดความถี่ของ SUB woofer ที่ 60 หรือ 80 sหรือว่าที่เท่าไหร่ดี
พี่ๆ ช่วยชี้แนะด้วยครับ
-
ผมใช้ large ครับ ลองดูนะครับ ถ้า set large แล้วลำโพงไม่แป็ก ไม่แตก ไม่มีเสียงประหลาด ก้อใช้ large น่าจะได้ ฟังๆ ดูของผม ผมชอบแบบ large มากกว่าสะใจดี K)
-
จุดตัด sub ผมว่าปรับยากนะครับ แล้วแต่ system เรา ปรับไปเรื่อยๆ ตรงไหนโดนใจสุดก้อตรงนั้นละครับ ของผมจะอยู่ประมาณ 10-11 นาฬิกา c)
-
ฟันธงให้ครับ
speaker เป็น small แล็วก็ตัดที่ 80hz ครับ :)
ไม่ชอบค่อยเปลี่ยน :D
พอดีผมมีลำโพงตั้งพื้นอยูอยากจะลองเอามาเป็นคู่หน้าในระบบ โฮมน่ะครับ
แต่ไม่ทราบว่าต้องตั้งค่าลำโพงเป็น SMALL หรือ large ดี
ี
และควรจะไปตัดความถี่ของ SUB woofer ที่ 60 หรือ 80 sหรือว่าที่เท่าไหร่ดี
พี่ๆ ช่วยชี้แนะด้วยครับ
-
การตั้ง Small และ Large มีข้อแตกต่างกันอย่างไรครับจะได้สังเกตุได้
-
:)ลำโพงใหญตั้งพื้นควรอย่างยิ่งที่จะต้องปรับไปที่ large จุดตัด sub ที่ 80 จะต้องเกลี่ยเสียง ลำโพงทั้ง 5 ตัวให้กลืนกัน โดยหาแผ่น setup เสียงมาใช้ ไล่เสียงตั้งแต่ ลำโพงซ้าย-center center-ลำโพงขวา ลำโพงขวา- surround ขวา surround ซ้าย-ขวา และสุดท้าย surround ซ้าย- ลำโพงซ้าย นั่งในจุดที่จะดูหนัง โดยพยามยามฟังเสียง pink noise ให้อยู่ตรงกลางของแต่ละคู่ และต้องใช้ sound meter วัดความดังของลำโพงแต่ละตัวให้เท่ากันในจุดที่นั่งดู
การ set sub เหตุที่ให้ปรับเป็น large เพราะเพียงแค่ต้องการเสริม เบสให้กับลำโพงหลักเท่านั้น คือฟังแล้วเหมือนกับว่า Sub ล่องหน เหมือน เสียงความถี่ตำไปออกที่ลำโพงหลัก หรือวิ่งไปทั่วห้องตามภาพที่เห็น ลองดูนะครับอาจจะยากหน่อยแต่ถ้าทำได้ การดูหนังจะสนุกขึ้น :)
-
ลำโพงตั้งพื้น large สะใจจริงๆนะ :whistling
-
มาตราฐาน แล้ว ก็แนะนำที่ 80 HZ เป็นมาตราฐานสากล+แผ่นที่บันทึก
บางตัวจะเขียน 80 HZ THX ด้วยซ้ำ (แต่ ขึ้นอยู่กับกับห้อง+ลำโพงได้มาตรฐานแค่ไหนด้วย
และขึ้นกับ ปรีตัวนั้นด้วยว่าดีเพียงใด ถ้าดีมากการตัดก็จะ ทำให้รอยต่อน้อยที่สุด นอกจากลำโพงเล็กมาก ก็ตัดกันที่ 100HZ)
และแนะนำตัด ครอสโอเวอร์ที่ sub ให้ ตัดไป สูงสุดของ suB เช่นที่ 40-140 ให้ตัด 140 อัพ จะเซตอัพง่ายกว่า
เพื่อไม่ให้ sub ทำงานซ้ำซ้อนกับ ปรี
- แล้ว อย่างลืมเช็คเฟส ลองง่าย ถ้าเปลี่ยนเพส แล้วไม่เห็นความแตกต่าง ก็โชคดี แสดงว่าห้องไม่มีปัญหาเรื่อง เฟส
แต่ ถ้าเปลี่ยน แล้ว มีความแตกต่าง ชัดเจน ก้ให้เลือกที่มี เสียงดังมากกว่า แต่ถ้า หู+ตาท่านไว แม่น ก็ลองดูที่การขยับกรวยของ sub และคู่หน้าให้ไปทางเดียวกัน
- เช็ค ระยะทางการตั้งลำโพง SUB ก็มีผล ต่อเสียง sub เช่นกัน คนส่วนใหญ่ จะวัด ระยะให้ตรงกับ ตวามเป็นจริง ในช่างบางคนจะใช้วิธีการชดเชยค่าครับ น้อยลง มาขึ้นว่ากัน
แล้วแต่สูตร แต่ถ้าเป็นสูตรผม หาร2
ลองเล่น เล็ก เซตเป็น ฟุต เสียงดีกว่า เซตเป็นเมตรที่ ปรี ลองดูครับ เป็น ฟุตเสียงอิ่มกว่า เป็นเมตร เสียงจะ แห้งกว่า ลองเล่นๆๆอย่า ซีเรียส
ด้วยเหตุผลที่กล่าวอ้างมา
ระบบจาก ปรี จะส่งความถี่ 80ขึ้นไปที่ ลำโพง ทั้ง 5-7 ตัว ส่วนสัญญาณความถี่ที่ ต่ำกว่า 80 HZ ก็ส่งไท่ sub ให้ทำงานแทนครับ
ส่วน อีก หลายท่าน ก็มีแนวคิดที่ จะให้ ลำโพงเป็น large ด้วยเหตุผล ว่า ลำโพง ใหญ่
เพื่อนผม และหลายท่าน ผม ก็เซตเป็น small ตามสากลครับ.
แต่ถามว่าทำได้ไหม ทำได้ ถ้าลำโพงคุณแน่จริง และดีจริงครับ
เพราะการเซตค่าแบบ นี้ลำโพง จะรับค่าความถี่ เต็มแทบครบทุกย่านความถี่เลย
ทำให้ เปลืองแอมป์ +ลำโพงต้องรับความถี่ที่ตำกว่า 80 HZ ลงมามากๆๆ ทำให้มีโอกาศ ความเพี้ยนที่สูงมาก การขยับตัวของลำโพงมีภาระทีสูงมาก ลำโพงต้องเยี่ยมจริงๆๆ
สังเกตง่าย ถ้าคุณ เปิดลำโพง แบบนี้ ตอนที่ฟังทั่วไปจะ อิ่มกว่าการเซต small แต่เมื่อไร มีการโหม โรงหลายความถี่
การแยกแยะระหว่างความถี่ ของลำโพง+sub และการส่งความถี่ จะมีการ ผิดเพี้ยนมากครับ แต่ บางคนก็รับได้ เพราะเปิดเบา ก็ว่ากันไป
ตอบเลยเซตแบบนี้ ดีครับ แต่ ต้อง ลำโพงถึง แอมป์ ถึง ปรีถึง
ส่วน การเซต sub ก็ไม่ใช่ง่าน เพราะคุณจะต้องไล่ตัด คอสโอเวอร์ subไปเรื่อยๆๆ จนเจอจุดที่ ไปลงตัวกับลำโพง ทั่ง 5-7 แชลแนล ให้ได้
ถ้าไม่มีเครื่องมือ ก็จบ ยากมาก และถ้าเครื่องมือไม่แน่จริงไม่สามมารถจับความถี่ที่ต่ำมากๆๆ ก็วัดไม่ได้
ยกตัวอย่าง SUB ที่เราเทสโทนกัน โดยใช้ sound level ที่ซื้อกันตามท้องตลาด ยืนยันเลยวัดความถี่ที่ต่ำจริงไม่ได้ คุณ ต้อง ซื้อพวก sencor เป็นอย่างต่ำ ครับ
เดี้ยว ยาวครับ ฟังหูไว้หูครับ อันนี้จากที่ผม ได้มีโอกาศ เซต มาครับ ขอบคุณ
ผม ก็พ่อค้าท่านหนึ่งครับ :yahoo :yahoo
-
สุดยอด ขอบคุณมากครับ
พี่จิตมาเองเลย
-
c) ได้ความรู้มากเลยครับ ผมก็ยังเซตไม่เป็นแต่ด้วยความโชคดีหูไม่เทพเท่าไหร่ก็เลยคงพอฟังได้ก้อมแก้มไปได้ อยากถามคุณจิตอีกเรื่องครับ(จริงๆมีหลายเรื่องแต่ถามเรื่องนี้ก่อน 2f) ที่คุณจิตบอกว่าการที่เราเซตเป็น large แต่ แอมป์+ลำโพงต้องถึงนี่ อย่างของผม HK355 + Moduantshort avant 908i นี่ถือว่าได้ไหมครับ
-
:)ความจริงผมเล่นลำโพงตั้งพื้น woofer 12 นิ้ว เมื่อก่อน set เป็น small ตามสากลที่ขุนจิต มาโดยตลอด ฟังมาตั้งนานไม่เคยถูกใจ มีโอกาสไปฟังการ setup เมื่อเดือนก่อน แล้วลองนำมาใช้ ผลที่ได้น่าพอใจกว่าเดิม การใช้ Sound level เพื่อหา ความดังของเสียงแต่ละ ch. เท่านั้น ตามคำแนะนำของแผ่นทดสอบเสียงของหลายสำนัก ซึ่งแนะนำยี่ห้อนี่เสียด้วย ก็คงมีมาตราฐานสำหรับ user สำหรับการปรับเสียงเบื้องต้น และอาจไม่ดีพอสำหรับมืออาชีพแต่ถ้าเป็นเครื่องมือสำหรับมืออาชีพรับรองว่าไม่ถูกแน่ๆ ก็ลองปรับเป็น small ตามหลักสากลก่อน ถ้าไม่ได้ดีก็ set ตามคู่มือที่มักจะระบุลำโพงใหญ่เป็น large ลำโพงเล็กเป็น small ก็ไม่เสียหลายนะครับ :whistling
-
ตั้งลำโพงเป้น Large ก็ไม่เสียหายหรอกพี่ WK แต่ถ้าตั้ง Large ลำโพงมีโอกาส แตกได้ครับท่านพี่ :blowup และคู่หน้าไม่สามารถตอบสนองลงไปในระดับ 30- 25 Hz ได้หรือแช่นานๆได้ครับ มันมีความเพี้ยนสูง และ มีโอกาส tweeter ขาดได้ครับ
ผมเองก็ใช้มาตราฐานการปรับ ระบบ Hometheater สากลเช่นกันโดยจะตัดลำโพงทุกตัวเป็น Small ครับเหมือนกันทุกตัวความถี่ที่ต่ำกว่า 80 HZ ลงมาก็ส่งไปที่ Sub เห็นเหมือนท่านอื่นๆที่รับset ระบบHometheater คงใช้หลักการเดียวกันนี้แน่นอนครับ
-
ใน manual ลำโพง ไม่ได้บอกหรือครับ ของผม bose sat am 15 กำหนดให้ใช้ large และระบุ max power ไม่เกิน 200 w :)
-
ตั้งลำโพงเป้น Large ก็ไม่เสียหายหรอกพี่ WK แต่ถ้าตั้ง Large ลำโพงมีโอกาส แตกได้ครับท่านพี่ :blowup และคู่หน้าไม่สามารถตอบสนองลงไปในระดับ 30- 25 Hz ได้หรือแช่นานๆได้ครับ มันมีความเพี้ยนสูง และ มีโอกาส tweeter ขาดได้ครับ
ผมเองก็ใช้มาตราฐานการปรับ ระบบ Hometheater สากลเช่นกันโดยจะตัดลำโพงทุกตัวเป็น Small ครับเหมือนกันทุกตัวความถี่ที่ต่ำกว่า 80 HZ ลงมาก็ส่งไปที่ Sub เห็นเหมือนท่านอื่นๆที่รับset ระบบHometheater คงใช้หลักการเดียวกันนี้แน่นอนครับ
สนับสนุนอีกเสียงครับ.... :) เวลาเสียงทำงานกันหลายๆแชนแนล เซ็ตแบบ Small เสียงไม่มั่วครับ
เปิดดังก็ไม่อึดอัด
-
ใน manual ลำโพง ไม่ได้บอกหรือครับ ของผม bose sat am 15 กำหนดให้ใช้ large และระบุ max power ไม่เกิน 200 w :)
ในกรณีโบส ซับเป็นลำโพงแบบ passive ตัดความถี่ด้วยครอสโอเวอร์แบบ passive ดังนั้นถ้าตั้งแบบ smalll เสียงเบสจะหายไปแน่นอนครับ
เพราะแอมป์ไม่ได้ปล่อยสัญญาญ ความถี่ต่ำมาเข้า sub ด้วย ครอสภายในจะจัดการตัดความถี่สูงและต่ำออกจากกันให้เองครับ
ส่วนกำหนด max power ไม่เกิน 200 w เพราะถ้าอัดกันขนาดนั้นลำโพงเล็กๆอย่างโบส รับรองขาดแน่นอน ครับ
แต่แอมป์มีกำลังสูง ๆ ไว้เป็นการดีครับ แต่คงไม่ได้ใช้จนสุดขีดของแอมป์กันขนาดนั้นแน่นอน เพราะหูจะทนรำคาญจากเสียงที่เจียวจ้าวซะก่อนที่จะเล่นได้ดังจนสุดครับ
ยกเว้นเอาลำโพงเล็กในห้องใหญ่ๆ แล้วอัดดังๆ อย่างนี้ ลำโพงก็ไม่รอดเช่นกัน ...
-
ตั้งลำโพงเป้น Large ก็ไม่เสียหายหรอกพี่ WK แต่ถ้าตั้ง Large ลำโพงมีโอกาส แตกได้ครับท่านพี่ :blowup และคู่หน้าไม่สามารถตอบสนองลงไปในระดับ 30- 25 Hz ได้หรือแช่นานๆได้ครับ มันมีความเพี้ยนสูง และ มีโอกาส tweeter ขาดได้ครับ
ผมเองก็ใช้มาตราฐานการปรับ ระบบ Hometheater สากลเช่นกันโดยจะตัดลำโพงทุกตัวเป็น Small ครับเหมือนกันทุกตัวความถี่ที่ต่ำกว่า 80 HZ ลงมาก็ส่งไปที่ Sub เห็นเหมือนท่านอื่นๆที่รับset ระบบHometheater คงใช้หลักการเดียวกันนี้แน่นอนครับ
ก็จริงอย่างที่คุณกัมว่า นั่นแหละ...เพราะเครื่องมันจะตัดความถี่ต่ำทั้งหมดมาที่ ลำโพงเมน ถ้าลำโพงหน้าเอาไม่อยู่หรือมีความถี่ต่ำนานไปมีสิทธิ์ แป๊ก... :blowupที่ลองปรับเป็น large ก็รู้สึกว่าดีขึ้น แต่ก็ไม่พยายามบูทเสียงให้มันแรงเกรงว่าคู่หน้าจะไป เดี๋ยวต้องลองกลับมาที่ Small ดูอีกทีจะทำได้ดีหรืเปล่าไม่แน่ใจ....
-
ลำโพงตั่งพื้นพี่ WK มีดอก 12" คงไม่ธรรมดาครับ :)
แอมป์ขับก็คงต้องสมขนาดของลำโพงเช่นกัน สมแล้วครับที่ตั่งเป็น Large ครับ
ลำโพงทั่วๆไป ไม่ว่า PSB, Paradigm, Klipsch, Focal แบบตั่งพื้นที่นิยมใช้กันดอกใหญ่สุด ไม่เกิน 6" ทั้งนั้นครับ นานๆที่จะเห็น 8"
แล้วกำลังขับที่เราๆนิยมกันก็ AVR Receiver ธรรมดา ตั่งเป็น Small น่าจะเหมาะสมกว่าครับ :)
:)ความจริงผมเล่นลำโพงตั้งพื้น woofer 12 นิ้ว เมื่อก่อน set เป็น small ตามสากลที่ขุนจิต มาโดยตลอด ฟังมาตั้งนานไม่เคยถูกใจ มีโอกาสไปฟังการ setup เมื่อเดือนก่อน แล้วลองนำมาใช้ ผลที่ได้น่าพอใจกว่าเดิม การใช้ Sound level เพื่อหา ความดังของเสียงแต่ละ ch. เท่านั้น ตามคำแนะนำของแผ่นทดสอบเสียงของหลายสำนัก ซึ่งแนะนำยี่ห้อนี่เสียด้วย ก็คงมีมาตราฐานสำหรับ user สำหรับการปรับเสียงเบื้องต้น และอาจไม่ดีพอสำหรับมืออาชีพแต่ถ้าเป็นเครื่องมือสำหรับมืออาชีพรับรองว่าไม่ถูกแน่ๆ ก็ลองปรับเป็น small ตามหลักสากลก่อน ถ้าไม่ได้ดีก็ set ตามคู่มือที่มักจะระบุลำโพงใหญ่เป็น large ลำโพงเล็กเป็น small ก็ไม่เสียหลายนะครับ :whistling
-
ใน manual ลำโพง ไม่ได้บอกหรือครับ ของผม bose sat am 15 กำหนดให้ใช้ large และระบุ max power ไม่เกิน 200 w :)
ในกรณีโบส ซับเป็นลำโพงแบบ passive ตัดความถี่ด้วยครอสโอเวอร์แบบ passive ดังนั้นถ้าตั้งแบบ smalll เสียงเบสจะหายไปแน่นอนครับ
เพราะแอมป์ไม่ได้ปล่อยสัญญาญ ความถี่ต่ำมาเข้า sub ด้วย ครอสภายในจะจัดการตัดความถี่สูงและต่ำออกจากกันให้เองครับ
ส่วนกำหนด max power ไม่เกิน 200 w เพราะถ้าอัดกันขนาดนั้นลำโพงเล็กๆอย่างโบส รับรองขาดแน่นอน ครับ
แต่แอมป์มีกำลังสูง ๆ ไว้เป็นการดีครับ แต่คงไม่ได้ใช้จนสุดขีดของแอมป์กันขนาดนั้นแน่นอน เพราะหูจะทนรำคาญจากเสียงที่เจียวจ้าวซะก่อนที่จะเล่นได้ดังจนสุดครับ
ยกเว้นเอาลำโพงเล็กในห้องใหญ่ๆ แล้วอัดดังๆ อย่างนี้ ลำโพงก็ไม่รอดเช่นกัน ...
thanks คร้าบ
ดังนั้นหากเปลี่ยน amp เป็น onkyo 876 และ bridge amp (BTL) ของ surround front มารวมเป็น 200+ w ไว้ที่คู่หน้า ก้อคงดีกว่า แบบไม่ bridge
แต่มันจะเห็นผลในห้องเล็กๆ หรือไม่น้า
-
ใน manual ลำโพง ไม่ได้บอกหรือครับ ของผม bose sat am 15 กำหนดให้ใช้ large และระบุ max power ไม่เกิน 200 w :)
ในกรณีโบส ซับเป็นลำโพงแบบ passive ตัดความถี่ด้วยครอสโอเวอร์แบบ passive ดังนั้นถ้าตั้งแบบ smalll เสียงเบสจะหายไปแน่นอนครับ
เพราะแอมป์ไม่ได้ปล่อยสัญญาญ ความถี่ต่ำมาเข้า sub ด้วย ครอสภายในจะจัดการตัดความถี่สูงและต่ำออกจากกันให้เองครับ
ส่วนกำหนด max power ไม่เกิน 200 w เพราะถ้าอัดกันขนาดนั้นลำโพงเล็กๆอย่างโบส รับรองขาดแน่นอน ครับ
แต่แอมป์มีกำลังสูง ๆ ไว้เป็นการดีครับ แต่คงไม่ได้ใช้จนสุดขีดของแอมป์กันขนาดนั้นแน่นอน เพราะหูจะทนรำคาญจากเสียงที่เจียวจ้าวซะก่อนที่จะเล่นได้ดังจนสุดครับ
ยกเว้นเอาลำโพงเล็กในห้องใหญ่ๆ แล้วอัดดังๆ อย่างนี้ ลำโพงก็ไม่รอดเช่นกัน ...
thanks คร้าบ
ดังนั้นหากเปลี่ยน amp เป็น onkyo 876 และ bridge amp (BTL) ของ surround front มารวมเป็น 200+ w ไว้ที่คู่หน้า ก้อคงดีกว่า แบบไม่ bridge
แต่มันจะเห็นผลในห้องเล็กๆ หรือไม่น้า
ในทางปฏิบัติถ้ามีการ bridge พลังสำรองจะสูงขึ้น
แม้ห้องเล็กและใช้ลำโพงเล็กอย่างโบส เสียงที่ได้ก็จะดีขึ้นแน่นอน ครับ แต่อาจจะไม่แตกต่างมากมาย
แต่ที่แน่ๆ เสียงเบสจะดูมีน้ำหนักขึ้น จากการเพิ่มกำลังครับ จะมากหรือน้อยจะชอบหรือไม่ชอบ น่าจะได้คำตอบหลังจากลองแล้วละครับ
-
Bose ลำโพงก้อน เล็กๆ ไม่สมควร bridge นะครับ มีโอกาศขาดได้สูงมาก และผลที่ได้แบบที่คุณ pete เกริ่นไว้ครับ ไม่ค่อยมีผลเท่าไหร่
ใน manual ลำโพง ไม่ได้บอกหรือครับ ของผม bose sat am 15 กำหนดให้ใช้ large และระบุ max power ไม่เกิน 200 w :)
ในกรณีโบส ซับเป็นลำโพงแบบ passive ตัดความถี่ด้วยครอสโอเวอร์แบบ passive ดังนั้นถ้าตั้งแบบ smalll เสียงเบสจะหายไปแน่นอนครับ
เพราะแอมป์ไม่ได้ปล่อยสัญญาญ ความถี่ต่ำมาเข้า sub ด้วย ครอสภายในจะจัดการตัดความถี่สูงและต่ำออกจากกันให้เองครับ
ส่วนกำหนด max power ไม่เกิน 200 w เพราะถ้าอัดกันขนาดนั้นลำโพงเล็กๆอย่างโบส รับรองขาดแน่นอน ครับ
แต่แอมป์มีกำลังสูง ๆ ไว้เป็นการดีครับ แต่คงไม่ได้ใช้จนสุดขีดของแอมป์กันขนาดนั้นแน่นอน เพราะหูจะทนรำคาญจากเสียงที่เจียวจ้าวซะก่อนที่จะเล่นได้ดังจนสุดครับ
ยกเว้นเอาลำโพงเล็กในห้องใหญ่ๆ แล้วอัดดังๆ อย่างนี้ ลำโพงก็ไม่รอดเช่นกัน ...
thanks คร้าบ
ดังนั้นหากเปลี่ยน amp เป็น onkyo 876 และ bridge amp (BTL) ของ surround front มารวมเป็น 200+ w ไว้ที่คู่หน้า ก้อคงดีกว่า แบบไม่ bridge
แต่มันจะเห็นผลในห้องเล็กๆ หรือไม่น้า
-
" week หน้า ว่างๆครับ "
พีว่างผมจะไป Set ให้พี่ WK เลยดีไหมพี่เพราะตอนนี้ พอจะมีเวลาครับงานเริ่มน้อยแล้ว...ใกล้กันด้วย เจริญนครเอง สะดวกวันไหนโทรมาเลยครับ
-
ลำโพงตั่งพื้นพี่ WK มีดอก 12" คงไม่ธรรมดาครับ :)
แอมป์ขับก็คงต้องสมขนาดของลำโพงเช่นกัน สมแล้วครับที่ตั่งเป็น Large ครับ
Power amp parasound 3 ch. หน้า ข้างละ 200 W ยังใช้ pre sony 9000ES ตัวเก่าอยู่เลย" week หน้า ว่างๆครับ "
พีว่างผมจะไป Set ให้พี่ WK เลยดีไหมพี่เพราะตอนนี้ พอจะมีเวลาครับงานเริ่มน้อยแล้ว...ใกล้กันด้วย เจริญนครเอง สะดวกวันไหนโทรมาเลยครับ
Thankyou หลายครับคุณกัม ตอนนี้เพิ่งได้ Plasma 50 นิ้วมาเล่น พอไปวางปุ๊ป เสียงก้เปลี่ยนอีกแล้วอ่า....เอาไว้ให้ภาพลงตัวก่อนนะครับ :)