HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม โฮมเธียเตอร์ (HT) => ข้อความที่เริ่มโดย: EXOTIC-AV ที่ 09 กันยายน, 2009, 11:19:07 pm
-
ผมอยากทราบว่าเพื่อนๆ พี่ๆ ให้ความสำคัญกับ acoustic ห้องแค่ไหนครับ สำหรับผม ผมว่าเยอะเลยสำคัญพอๆกับตัวเครื่องหลักเลย ยิ่งชุดใหญ่ เครื่องดีๆนี่ ห้องฟ้องออกมาเลยว่า ดี ไม่ดีอย่างไร และที่สำคัญ ถ้าเครื่องชุดเล็กหรือกลาง ถ้าอยู่ในห้องดีๆนี่ เสียงเกินตัวมาก ชุดแพงๆใหญ่ อายไปเลย อาจสุ้ไม่ได้เลยด้วยซ้ำไป ตอนนี้ผมเลยมานั่งสนใจในacoustic ห้องมากๆ
-
สำคัญที่สุด Y]
บางคนอาจจะบอกว่าคงต้องจ่ายแพง แต่จริงๆตามงบประมาณที่มี ที่เหมาะสมมากกว่าครับ
ห้องดี มีชัยมากกว่าครึ่งเลยนะ
เริ่มตั้งแต่โครงสร้างที่แข็งแรง ไม่สั่น ไม่กระพือ เป็นหลัก
แล้วค่อยมาดูเรื่องอุปกรณ์ปรับ acoustic ซึ่งมีหลายหลายยี่ห้อ ทั้งไทย ทั้งเทศ ทั้ง DIY
คงไม่บอกว่าอะไรดีกว่าอะไร คงต้องลอง และความเหมาะสมกับงบประมาณด้วยมากกว่า
ทุกอย่างมีผลหมด แค่มากน้อยต่างกัน :)
-
สำคัญที่สุด Y]
บางคนอาจจะบอกว่าคงต้องจ่ายแพง แต่จริงๆตามงบประมาณที่มี ที่เหมาะสมมากกว่าครับ
ห้องดี มีชัยมากกว่าครึ่งเลยนะ
เริ่มตั้งแต่โครงสร้างที่แข็งแรง ไม่สั่น ไม่กระพือ เป็นหลัก
แล้วค่อยมาดูเรื่องอุปกรณ์ปรับ acoustic ซึ่งมีหลายหลายยี่ห้อ ทั้งไทย ทั้งเทศ ทั้ง DIY
คงไม่บอกว่าอะไรดีกว่าอะไร คงต้องลอง และความเหมาะสมกับงบประมาณด้วยมากกว่า
ทุกอย่างมีผลหมด แค่มากน้อยต่างกัน :)
:headphoneเห็นด้วยกับคุณลุงSantaครับ สำหรับผมก็ให้ความสำคัญมากเท่าๆกับการเซ็ทอัพ
และแมทต์ชิ่งซิสเต็ม แต่คนส่วนมากที่ไม่ให้ความสำคัญคงเป็นเพราะข้อจำกัดต่างๆของบ้านที่อยู่อาศัย
ทำให้ยากลำบากในการตกแต่งอะคูสติคของห้อง เมืองไทยจะมีสักกี่คนที่มีห้องฟังเพลงหรือห้องโฮม.
แยกเป็นสัดส่วนโดยเฉพาะ และอีกอย่างการจะทำห้องจริงๆจังเป็นเรื่องที่ยุ่งยากซับซ้อน ผู้ที่จะทำควรมี
ประสบการณ์การเล่นการฟังมาพอสมควรก่อน รู้ความต้องการของตัวเองและแนวทางการเล่นของตังเอง
ให้ชัดเจนและแน่ใจจึงค่อยลงมือทำห้องและปรับอะคูสติคของห้อง ผมเคยเห็นเพื่อนนักเล่นที่ทำห้องแล้ว
ต้องมารื้อเปลี่ยนแปลงทำใหม่ก็เยอะโดยเฉพาะยุคแรกๆมีร้านรับทำห้องและอุปกรณ์ปรับอะคูสติคออกมา
ใหม่ๆ ยังไม่รู้ว่าร้านไหนหรือใครคือของจริง ลองผิดลองถูก ลูกค้าซ้ำใจไปก็เยอะ ดังนั้นนักเล่นส่วนมากจึง
เล่นได้แค่เปลี่ยนเครื่อง เปลี่ยนแอคเซสซอรี เปลี่ยนโน่นนี่ไปเรื่อยๆตามเพื่อนบ้าง ตามกระแสบ้าง(ไม่ใช่
เรื่องผิดนะครับ) ยังไงเรื่องการปรับอะคูสติคก็เป็นเรื่องสำคัญแต่ไม่ง่ายสำหรับมือใหม่และผู้ที่ขาดประสบ-
การณ์ :headphone
-
ไม่มีห้องนี่ลำโพงดีๆออกมาแย่ได้เลยนะครับ
มันให้มิติไม่ได้เลย
บ้านหลังปัจจุบันผมเอาไว้ที่ห้องนั่งเล่น แบบบ้านสมัยใหม่จะไม่มีห้อง
ยิ่งซื้อแพงก็ยิ่งใช้ไม่คุ้มค่า
-
ชุดของผมก็ไว้ในห้องนั่งเล่นครับ เป็นห้องเปิดด้วยครับ
อยากปรับ ROOM ACOUSTIC อยู่เหมือนกันครับ
แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนก่อนดี ความรู้และประสบการณ์ก็น้อยนิด
จะใช้อะไร ติดตรงไหน เกิดประโยชน์อย่างไรก็ไม่ทราบครับ
จะปรึกษาใคร แล้วเริ่มอย่างไรดีครับ :D :D :D
-
มายืนยันเห็นด้วยอีกคน ว่า ห้องและการปรับอคุสติกมีความสำคัญมาก และก็เห็นด้วยว่ามีห้องดีๆยากกว่ามีเครื่องดีๆ
บ้านอยู่อาศัยยุคนี้มันเล็กจัง ใครซื้อบ้านเดี่ยวโอกาสจะมีห้องเครื่องเสียงแยกต่างหากแทบไม่มี หรือมีก็ค่อนข้างเล็กหรือขนาดไม่เหมาะสม เคยไปดูบ้านตัวอย่างขนาดใหญ่ที่บอกว่ามีห้องโฮมเธียร์เตอร์ด้วย ก็ปรากฏว่าขนาดห้องก็ไม่ใหญ่เท่าไรประมาณ 4 x 4.5 m เท่านั้น นี่พูดถึงบ้านขนาดใหญ่นะ ส่วนบ้านขนาดมาตรฐานไม่ต้องพูดถึง อยู่ห้องแถวยังมีโอกาสมีห้องขนาดใหญ่ง่ายกว่า แต่ห้องแถวมันก็ขาดบรรยากาศของบ้านไปหน่อย
เล่นเครื่องเสียงมาก็นานมากอยู่ เพิ่งมามีห้องแยกต่างหากเมื่อสี่ห้าปีที่ผ่านมานี่เอง ก่อนหน้านั้น ดีที่สุดก็คือห้องนอนห้องนึงที่ไม่ได้ใช้ เอามาทำเป็นห้องฟังเพลง พอลูกโตต้องใช้ห้องนอน เครื่องเสียงก็ต้องถอยไปอยู่ในห้องนั่งเล่น ใคร่ขอยืนยันว่า ฟังเพลงและดูหนังในห้องต่างหากที่ปรับอคุสติกบ้างเนี่ยมันดีกว่าในห้องนั่งเล่นอย่างเทียบไม่ติดครับ ทั้งคุณภาพเสียง บรรยากาศ และอะไรอื่นทุกอย่าง ขอยืนยันและยืนยัน.. ท่านใดที่มีกำลังและสถานที่อำนวยให้ ควรทำเป็นอย่างยิ่ง
เล่าประสพการณ์ในอดีตให้ฟังนิด ไปเยี่ยมนักเล่นท่านนึง บ้านแกเป็นบ้านไม้ พื้นไม้ไม่ค่อยหนาแน่นเท่าไร พื้นติดจะเอียงๆนิดหน่อย ฝาไม้ก็บางๆแถมมีร่องมีรอยแตกทั่วไปหมด ไม่มีการตกแต่งอคุสติกของห้องแต่อย่างใด เครื่องเสียงของแกเข้าขั้นเชียวละครับ ลำโพงคู่ละสองแสนปลายหรือสามจำได้ไม่ชัด พาวเวอร์แอมป์ ปรีแอมป์ก็ไฮเอ็นด์หลักแสนหรือค่อนแสนทั้งน้้น เครื่องเล่นซีดีก็ด้วย สายโพง สายสัญญาณ สายไฟ อย่างแพง เพียบ รวมเครื่องทั้งหมดก็หลักสิบแสนหรือเกือบไปละ แต่ห้องนี่สิ มันต่างกับเครื่องยังกะฟ้ากับเหว เจ้าของบ้านเปิดเพลงให้ฟังแล้วชี้ชวนว่า เสียงดี มิติได้ ฟังซิ..ลึกดีนะ. ผมฟังแล้วก็พยักหน้าตามแกไปแต่พูดไม่ค่อยออก ตามสภาพห้องที่ผมบรรยายให้ฟังมันจะมีลึกมีตื้นอะไรไปได้ แยกซ้ายขวานะได้อยู่ มันเป็นสเตริโอ ซ้ายขวานะของหมูๆ แต่ถ้าห้องดีและเซ็ทดี ซ้ายขวามันทะลุไปด้านข้างนอกลำโพงเลยนะ ส่วนไอ้ที่แกบรรยายว่าเสียงอยู่ลึกนี่ ผมได้แต่นึกในใจว่า ..ข้าพเจ้าไม่ได้ยินอย่างนั้น มันไม่ลึกอย่างที่ท่านว่า แล้วก็พาลสงสัยว่า ท่านฟังว่าลึกได้ยังไงครับ หูท่านเพี้ยนหรือหูผมเพี้ยน หรือท่านฟังไม่เป็น (เอาละซี เข้าข่ายใครเซียนใครเทพเหมือนอีกกระทู้หรือปล่าวนี่) ไม่ได้พูดอะไรให้แสลงหูเจ้าของบ้านหรอก ยิ้มๆและขอบคุณครับ แล้ววันหลังมาเยี่ยมอีกได้ไม๊ครับ นึกถึงเรื่องนี้แล้วก็เสียดายเครื่องของแกนิดหน่อยว่า ถ้าห้องดีๆและเซ็ทดีด้วยเนี่ย แกคงได้อะไรอีกมากมายจากเงินสิบแสนที่ลงไปกับเครื่อง
มีโครงการทำห้องใหม่ อีกซักสามสี่เดือนเสร็จ ได้โจทย์มาแล้ว ว่า 5.70 x 4.07 x 2.60 เมตร โครงคร่าวฝ้าไม้หน้าสาม หวังว่าคงเป็นจริง ถ้าออกมาดีอย่างที่เค้าบอกก็แฮปปี้ แล้วจะมาเล่าให้ฟัง
-
ถ้าเปรียบเทียบ ชุดเครื่องเสียงเป็นรถยนต์
ห้องฟัง ก็คือถนนที่จะเอารถไปวิ่ง
รถห่วย ถนนดี ยังไงก็วิ่งสบาย...บลา...บลา...บลา
-
ผมอยากทราบว่าเพื่อนๆ พี่ๆ ให้ความสำคัญกับ acoustic ห้องแค่ไหนครับ สำหรับผม ผมว่าเยอะเลยสำคัญพอๆกับตัวเครื่องหลักเลย ยิ่งชุดใหญ่ เครื่องดีๆนี่ ห้องฟ้องออกมาเลยว่า ดี ไม่ดีอย่างไร และที่สำคัญ ถ้าเครื่องชุดเล็กหรือกลาง ถ้าอยู่ในห้องดีๆนี่ เสียงเกินตัวมาก ชุดแพงๆใหญ่ อายไปเลย อาจสุ้ไม่ได้เลยด้วยซ้ำไป ตอนนี้ผมเลยมานั่งสนใจในacoustic ห้องมากๆ
เห็นด้วยครับ ห้องดี Setup ถึง เครื่อง Mid-end แต่เสียง Hi-end แน่นอนครับ c)
แต่ห้องผมมันอนาฐาจริงๆ :'(
-
ควรคำนึงถึงเป็นอันดับแรกเลยครับ ก่อนจะเล่นเครื่อง ควรทำห้องให้เป็นกลางก่อน แล้วเอาอะไรมาใส่ ก็ฟังออกครับ
-
ตอนนี้รื้อทำใหม่หมดเลย แต่ใกล้จะเสร็จแล้วครับมีทั้ง ซับเสียง กระจายเสียง ซับความถี่ต่ำ ที่สำคัญห้องสวยขึ้นเยอะ ค่า rt ก็ได้มาตราฐาน
-
ขอส่งการบ้านครับ ครู
สภาพอะคุสติก
เปลี่ยนTonal Balance, dynamic และpage
บดบัง details, ambiance
สรุปว่า สภาพอะคุสติกทำให้เสียงจากลำโพงเพี้ยน ตอนเราซื้อเครื่อง ซื้อลำโพง เราดูสเปค เลือกสเปคที่เที่ยงตรงที่สุด สุดท้ายกลับมาตกม้าตายเรื่องอะคุสติกนี่แหละ ลองง่ายๆไปยืนใกล้ๆลำโพงที่เราฟัง สังเกตุบุคคลิกโทนเสียงสูง กลาง ต่ำ แล้วถอยมาที่จุดที่เรานั่งฟังอยู่ จะได้ยินว่าเสียงเพี้ยนไปจากเดิมมาก ถ้าใครsetup แล้ว ถอยมาที่จุดนั่งฟังแล้วโทนเสียงไม่เปลี่ยน ห้องนั้นสุดยอดครับ
ผมเองก็สนใจวิธีปรับปรุงอะคุสติก โดยใช้หลักการ Reverberation time control โดยใช้วัสดุที่มีค่าการสะท้อนและซับความถี่ต่างๆ มาใช้ปรับแต่ง คิดและลองทำแบบงูๆปลาๆไปเรื่อยๆ แบบคนไม่รู้หลักวิชาการ จุดหมายปลายทางคือห้องที่มีคาแรคเตอร์น้อยที่สุด สุดท้ายขอเสนอสมการทางคณิตศาสตร์
ประสิทธิภาพของชุดเครื่องเสียง=ชุดเครื่องเสียง-สภาพอะคุสติก-การsetup
-
ขอส่งการบ้านครับ ครู
สภาพอะคุสติก
เปลี่ยนTonal Balance, dynamic และpage
บดบัง details, ambiance
สรุปว่า สภาพอะคุสติกทำให้เสียงจากลำโพงเพี้ยน ตอนเราซื้อเครื่อง ซื้อลำโพง เราดูสเปค เลือกสเปคที่เที่ยงตรงที่สุด สุดท้ายกลับมาตกม้าตายเรื่องอะคุสติกนี่แหละ ลองง่ายๆไปยืนใกล้ๆลำโพงที่เราฟัง สังเกตุบุคคลิกโทนเสียงสูง กลาง ต่ำ แล้วถอยมาที่จุดที่เรานั่งฟังอยู่ จะได้ยินว่าเสียงเพี้ยนไปจากเดิมมาก ถ้าใครsetup แล้ว ถอยมาที่จุดนั่งฟังแล้วโทนเสียงไม่เปลี่ยน ห้องนั้นสุดยอดครับ
ผมเองก็สนใจวิธีปรับปรุงอะคุสติก โดยใช้หลักการ Reverberation time control โดยใช้วัสดุที่มีค่าการสะท้อนและซับความถี่ต่างๆ มาใช้ปรับแต่ง คิดและลองทำแบบงูๆปลาๆไปเรื่อยๆ แบบคนไม่รู้หลักวิชาการ จุดหมายปลายทางคือห้องที่มีคาแรคเตอร์น้อยที่สุด สุดท้ายขอเสนอสมการทางคณิตศาสตร์
ประสิทธิภาพของชุดเครื่องเสียง=ชุดเครื่องเสียง-สภาพอะคุสติก-การsetup
เห็น ควร ด้วย ครับ
-
ส่งการบ้านเพิ่มเติม
เล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับการปรับอะคุสติก สำหรับมือใหม่ ส่วนมือโปรถ้ามีอะไรก็ช่วยเพิ่มเติมให้ด้วย
1.การวัดผลของการปรับอะคุสติก ให้ค่าคร่าวๆ 3 ค่าคือ
Reverberation time too long เวลาในการคล้อยตัวของเสียงมากเกินไป(Live)
Reverberation time too short เวลาในการคล้อยตัวของเสียงสั้นเกินไป(Dead)
Reverberation time neutral เวลาในการคลายตัวของเสียงพอดี
ฟังอย่างไร ว่ามันtoo short หรือtoo long ยกตัวอย่างเสียงกลาง เสียงพูด ถ้าtoo long เราจะได้ยินเนื้อเสียงบาง ขาดน้ำหนัก เมื่อเราabsorb ความถี่นี้ เสียงจะค่อยๆ หนาขึ้นเรื่อยๆ ตามปริมาณที่เราabsorb เมื่อผ่านจุดเหมาะสมเสียงจะหนาใหญ่กว่าต้นแบบ(จากลำโพง)และสโลปของเสียงจะสั้นลง ซึ่งเป็นอาการของtoo short
2.การปรับอะคุสติกต้องประเมินและวิเคราะห์ให้ดีว่าจะจัดการกับความถี่ไหน เพราะการแก้ปัญหาของแต่ละความถี่จะแตกต่างกัน และการแก้ปัญหาของความถี่หนึ่ง อาจไปสร้างปัญหาให้อีกความถี่หนึ่งได้ ปรับแล้วกลับมาฟังเทียบกับต้นฉบับ(ลำโพง)
3.ห้องที่ปรับอะคุสติกได้ใกล้เคียงแล้ว โดยเฉพาะห้องที่ใกล้จะtoo short เวลาเราเพิ่มของเข้าไปในห้อง เช่นลำโพงเซ็นเตอร์ เซอร์ราวด์หรือซับวูฟเฟอร์ ก็จะมีผลต่อสภาพอะคุสติกมาก พึงระวังและคอยตรวจสอบกับเสียงจากลำโพงอีกครั้ง
-
คงใหมืออาชีพทำดีที่สุด มีเครื่องมือครบมีไมค์วัดความถี่และค่าต่างๆ และอุปกรณ์การปรับตั้งอีกหลากหลายอ่ะครับ ตัวผมเองหมดปัญญาครับ จ้างเขาดีกว่า
-
ฝากให้ดู Home Theater มืออาชีพระดับโลกนะครับ
http://www.goldmund.com/goldmund-media-room/high-end-home-theater-technology.html
http://www.youtube.com/watch?v=pXZEEouAqWo
เพดานเป็น cement เพื่อเวลาเบสกระหึ่มเพดานจะไม่กระพือเหมือนหนังกลอง
:D :D :D
-
สำหรับ ผมห้องสำคัญ พอๆ กับเครื่องเสียง เช่นกัน แต่ก็ต้องทำแบบประณีประนอมกันไป ระหว่างความสวยงามกับ เสียงที่ดี ไม่ใช่เสียงดีแต่ห้องปิดมิดชิด ทึบเหมือนห้องอัดเสียงยังไงยังงั้น อันนี้ อยู่แล้วคงอึดอัด ครับ ไม่ไหวแน่ๆ ถ้าฟังนานๆ