HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม โฮมเธียเตอร์ (HT) => ข้อความที่เริ่มโดย: pong_9898 ที่ 01 ธันวาคม, 2009, 01:34:49 pm
-
อยากถามผู้รู้ว่า สายลำโพงแพง ๆ กับสายลำโพงธรรมดา มันต่างกันอย่างชัดเจนจริงรึป่าว รบกวนขอความรู้หน่อย ขอบคุณคับ
-
สายลำโพงแต่ละเส้นมีคุณสมบัติเฉพาะตัวครับ
ถึงราคาไม่แพง แต่ต่างยี่ห้อกัน ก็สามารถฟังออกได้ว่าแตกต่างกัน
สายสำโพงที่ราคาค่อนข้างแพง แนวโน้มก็น่าจะดีกว่าสายราคาถูก
แต่ก็ไม่เสมอไปครับ เนื่องจากการตั้งราคาไม่ได้ขึ้นกับเรื่องคุณภาพของสายอย่างเดียว
ทางผู้ขายได้รวมค่าโฆษณา รวมถึงกำไรจากตัวแทนจำหน่ายไปแล้ว อีกทั้งก็ขึ้นกับ
System ของเราด้วย ว่ามันมีคุณภาพแค่ไหน สายลำโพงเส้นนั้น Matching หรือเปล่า
อันนี้คงต้องลองดู และก็แล้วแต่ System ละครับ
:)
-
หากเน้นฟังเพลง เรื่องตั้งระยะของลำโพงก็สำคัญนะครับ
ถ้าได้สายยี่ห้อดีๆมา แต่ตั้งระยะลำโพงไม่ดี ประสิทธิภาพเสียงก็ไม่ดีตาม
เห็นด้วยกับคุณ pop ครับ มันแล้วแต่ System ด้วยครับ :)
-
ต่างกันครับ สายแต่ละยี่ห้อแต่ละรุ่นมีบุคคลิกเสียงที่ต่างกันครับ :)
ราคาแพงก็จะใช้วัสดุนำสัญญาณดีขึ้นครับ การ matching กับเครื่องที่เรามีอยู่สำคัญด้วยครับ :headphone
ถ้าลำโพงต่อ Bi-wire ได้ ลองเปลี่ยนสายจาก Single เป็น Bi-wire เสียงก็ดีขึ้นอีกเยอะเลยครับ :headphone :headphone
-
เท่าที่ได้ลองเล่นสาย ลำโพงราคาที่แพงสำหรับผมก็คือVAN DEN HUL MC MAGNUMซื้อของใหม่เลยครับ คิดว่าถ้าลำโพงของคุณพี่ทำไบแอมป์ได้ก็ลองทำดูครับ เห็นผลมาก
-
เห็นผลในระดับนึงเลยครับ
-
หลักๆก็เป็นพวกชนิดของตัวนำ ความบริสุทธิ์ การ shield อื่นๆ --> ส่งผลให้เสียงต่างกัน
การตลาดและการสร้างแบรนด์ก็มีผลต่อราคา แต่ส่วนใหญ่คุณภาพของสายมักแปรตามราคาที่สูงขึ้น
สายที่ระดับราคาเดียวกันแต่คนละยี่ห้อเสียงก็ไม่เหมือนกันครับ
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการ matching ของ system ครับ :D
-
ผมว่า มันอยู่ที่อุปกรณืต่อพ่วงหลายอย่างครับ เอาเป็นว่า อย่าไปใช้เงินกับมันให้เกิน 20-30 % ของลำโพงครับ กลัวว่าถ้ามากกว่านี้ ก็น่าที่จะเปลี่ยนลำโพงที่ดีขึ้นไปดีกว่า สมมุตินะครับ ว่า ลำโพงที่จะซื้อราคา คู่ละ 30000 บาท สายก้น่าจะมีราคาไม่เกิน 6-9 พันบาท ซึ่งมันก็มากอยู่นะครับ ในอีกแง่คิดนะครับ สมมุติว่า มีลำโพงอยู่ 2 ยี่ห้อที่อยากได้และไม่เกินงบที่จ่ายได้ คู่แรก ราคา 50000 บาท ใช้สายราคา 5000 บาท กับอีกคู่ ราคา 35000 บาท กับสาย ราคา 20000 บาท ( ความเห็นส่วนตัวผมเลือก ซื้อลำโพงคู่ละ 50000 กับสาย 5000 ครับ) ส่วนเจ้าของกระทู้ต้ดสินใจเองครับ d_d
-
อยู่ที่หูคนฟังครับ ถ้าฟังแค่ว่าเสียงเพราะๆ เบสแน่น เสียงใสๆ อะไรประมาณนี้สายไม่ได้ช่วยมาก แต่ถ้าเป็นเรื่องความมีมิติ ความนุ่ม ความลึก หลับตาจินตาการว่าเครื่องดนตรีชิ้นไหนอยู่ไหนบ้าง การเล่นสายเป็นอะไรที่เปิดมิติใหม่ให้กับการฟังเพลงได้อีกมาก จริงๆแล้วสำคัญมากครับสำหรับสายลำโพงแต่ไม่ใช่ทั้งหมด ทั้งหมดอยู่ที่ความพอใจของเราครับ เสียเงินเพิ่ม 5,000.- อาจรู้สึกว่าเสียงดีขึ้นแค่ 500 เองสำหรับบางคนก็อาจไม่คุ้มเลยก็ได้ครับ
-
มีส่วนครับผมลองเปลียนจากสายแถมมาเป็น้มตรละ3 บาทก่อนงั้นๆพอเปลี่ยนเป็น 200 กว่าๆยิ่งพ้นระยะเบิร์นสายแล้วยิ่งชัดครับ ^-^
-
สมัยเริ่มเล่นเครื่องเสียงใหม่ๆ ผมไม่เชื่อเรื่องพวกนี้เลยครับ
ว่าเสียงมันจะต่างอะไรกันนักกันหนา มีอยู่วันหนึ่ง ย้ายห้อง
แต่บังเอิญสายลำโพงมันไม่พอ เลยตัดสินใช้มันข้างคนละยี่ห้อเลย
ผลออกมาเลยเห็นความจริงเลยครับ ต่างชัดเจนครับ
-
ขออนุญาตแจมครับ ในความเห็นของผม จากประสบการณ์ที่ได้เล่นมา เกือบ18 ปี ผมพบว่า ถ้าจัดชุดที่มีความเป็นกลางที่ดีพอ เมื่อสามารรถขจัดมลภาวะทางเสียงต่างๆออกไปได้มากที่สุด จนทำให้เป็นชุดทึ่ขี้ฟ้องได้ระดับหนึ่งแล้ว ก็จะสามารถฟังออกได้เองว่า ของทุกอย่างที่นำเข้ามาใช้กับเครื่องเสียง จะส่งผลกระทบต่อเสียง ที่จะทำให้เสียงดีหรือแย่ได้เท่าๆกันทั้งหมดทั้งสิ้น แม้ว่าท่านจะทุ่มเทไปที่ แอมป์ ที่เครื่องเล่นซีดี สายสัญญาณ สายลำโพง สายไฟ อย่างดีมากเท่าไรก็ตาม หากไม่ได้คำนึงถึงรายละเอียดปลีกย่อยต่างๆในการจูนเสียงให้ถูกต้อง และครบทุกจุดแล้ว ก็ไม่สามารถทำให้ เครื่องเสียงชุดนั้นเปล่งประสิทธิภาพของมันออกมาให้สูงสุดได้ และเคยพบว่าเพียงแค่ปรับเซ็ทได้ถูกต้องในจุดที่เห็นว่าเล็กน้อย แต่ถึงกับมันส่งผลอย่างน่าแปลกใจว่า ที่ผ่านๆมาฟังเข้าไปว่าไพเราะได้ยังไงเลยทีเดียว ซึ่งจำเป็นต้องยกตัวอย่างให้ดู แต่มีรายละเอียดปลีกย่อยในแต่ละจุดมาก ขอให้ค้นที่ผมโพสต์ไว้ในกระทู้ต่างๆ โดยใช้ SEARCH ดู หากมีข้อสงสัยตรงไหน จะได้ตอบเป็นประเด็นๆไปครับ
หมายเหตุ เป็นการมาร่วมแชร์ประสบการณ์กันนะครับ ไม่ได้เก่งอะไร เพียงแต่มีเวลาลองถูกลองผิดมาเยอะ กอปรได้พบและติดตามอาจารย์แห่งเครื่องเสียงที่ถูกต้องมาตลอดหลายปีที่ผ่านมาครับ
-
ผมว่าแล้วแต่หูเราครับ บางทีสายราคาแพง อาจให้เสียงที่ไม่ตอบสนองความต้องการเราได้
ตัวราคาก็เป็นตัวหนึ่งที่บอกได้คร่าว ๆ ถึงความปราณึตของวัสดุและเทคนิคการออกแบบ
ทุกส่วนในระบบอ่อนไหวกับการเปลี่ยนแปลงและสำคัญทุกจุด แม้กระทั่งสภาพแวดล้อมห้องและการจัดวาง ตำแหน่งนั่งฟัง ก็ทำให้เสียงเปลี่ยนได้
ส่วนคุ้มหรือไม่ ก็คงอยู่ที่ระดับความพอใจ ความคาดหวังความเปลี่ยนแปลงของเรา กับจำนวนเงินที่เสียไปครับ :headphone
-
ผมว่าแล้วแต่หูเราครับ บางทีสายราคาแพง อาจให้เสียงที่ไม่ตอบสนองความต้องการเราได้
ตัวราคาก็เป็นตัวหนึ่งที่บอกได้คร่าว ๆ ถึงความปราณึตของวัสดุและเทคนิคการออกแบบ
ทุกส่วนในระบบอ่อนไหวกับการเปลี่ยนแปลงและสำคัญทุกจุด แม้กระทั่งสภาพแวดล้อมห้องและการจัดวาง ตำแหน่งนั่งฟัง ก็ทำให้เสียงเปลี่ยนได้
ส่วนคุ้มหรือไม่ ก็คงอยู่ที่ระดับความพอใจ ความคาดหวังความเปลี่ยนแปลงของเรา กับจำนวนเงินที่เสียไปครับ :headphone
ตรงนี้แหละครับที่ต้องการชี้ให้เห็นถีง ความสำคัญของทุกจุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าใช้ ลำโพง เครื่อง สายสัณญาณ สายลำโพงที่มีความเป็นกลางสูง หากยังเซ็ทไม่ได้ที่ จะดูเสียงจืดๆ ไม่คุ้มราคาเลยทีเดียว
-
สายลำโพงแต่ละยี่ห้อ ล้วนมีแนวทางการทำตลาดต่างกันจึงมีความจำเป็นต้องให้มีเสียงที่แตกต่างกัน
ผู้บริโภคที่ดีมักตัดสินใจซื้อจากความต้องการของความแตกต่าง จากสิ่งที่ตนเองมีอยู่
-
แต่หลายคนตกอยู่ในวังวนของความตื่นเต้น อย่างไร้สติยั้งคิดและไตร่ตรองให้รอบคอบ ถึงความต้องการที่แท้จริงของตนเอง
จนเต้นตามไปเรื่อย เสียเงินไปเรื่อย :nono :nono
-
สวัสดีครับ
ลำโพง เป็นหัวใจของชุดเครื่องเสียง อุปกรณ์เครื่องเคียงที่ดี จะทำให้ลำโพงเปร่งประกายความสามารถออกมา ตรงกันข้าม ลำโพงราคาหลายหมื่น หลายแสน แต่เครื่องเคียง ราคาเรือนร้อย ก็ไม่สามารถทำให้ลำโพงเปร่งประกายความสามารถออกมาได้
-
ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งครับ เพราะเป้นอุปกรณ์หลัก ( อย่าลืมขั่วต่อ Banana ดีๆด้วยนะครับ ) :)
-
ชัดครับ ถ้า Systems โคตะระใหญ่ ทุกอย่างฟังออกหมด
ไม่ชัดครับ ถ้าขนาด Systems เล็กโคตะระ ดันไปใช้สายลำโพง Nordost Odin หรือ MIT Oracle Ma X
-
จริงๆแล้วความสำคัญมันค่อนข้างแล้วแต่เจ้าของครับ
ถ้าเจ้าของมีระะบบที่ set ลงตัวแล้ว และได้ฝึกฝนการฟังมาอย่างดี
ถ้าใส่แล้วฟังออกว่าดีขึ้นก็สำคัญมากๆครับ
-
ไม่ถนัดอ่ะครับ แต่ถ้ามีเงินเลือกได้จะเอาของแพงใว้ก่อน เข้าใจว่าราคากับคุณภาพน่าจะแปรผันตรงกันเป็ยส่วนใหญ่
แต่ตอนนี้เมตรละห้าร้อยแพงสุดที่เคยใช้มา แถมทำbi wire ได้อีกด้วย c)
-
สายราคาสูงโดยส่วนใหญ่มักจะดีกว่าสายราคาต่ำ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ในข้อแม้ว่า ระบบที่ใช้อยู่เหมาะสมกันหรือไม่ เพราะบุคคลิกของสายแต่ละตัวไม่เหมือนกัน รวมไปถึงตัวเราเอง หูชอบเสียงไม่เหมือนกัน มีบ่อยครั้งที่สายลำโพงราคาเมตรละ 100 - 200 บาท ให้เสียงโดยรวมดีกว่า เมตรละ 1000 บาท อันนี้ไม่ขอออกยี่ห้อเพราะไม่ต้องการให้เกิดการขัดแย้ง สรุปว่า
1. อยู่กับหูของเราเอง
2. ชุดที่ใช้ ซึ่งควรจัดสัดส่วนของสายลำโพงไว้ประมาณ 25% ของราคาโดยรวมทั้งชุดครับ
3. ถ้า งบไม่จำกัด ก้ลุยของแพงไว้ก่อนครับ ทีเดียวจบเลย
ปล. แต่หากสมารถเล่นแบบ Bi-wire หรือ Bi-amp ได้ ก็ซื้อสายราคาปานกลาง 2 ชุด อาจให้เสียงที่ครบถ้วนกว่าใช้สายแพงๆ เพียงชุดเดียว แบบ Single Wire ครับ :headphone
-
ผมว่าสำคัญนะ เปลี่ยนสาย เสียงมันก้อเปลี่ยนตามเลย แต่ตอนนี้ลงตัวแล้วได้สายที่ชอบแล้ว ใช่เลย :clap :clap