HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม โฮมเธียเตอร์ (HT) => ข้อความที่เริ่มโดย: sharkV6 ที่ 04 ธันวาคม, 2009, 11:13:23 am
-
เวลาเราอยู่ใน web นี้ หรือ web เครื่องเสียงอื่นๆ เรารู้สึกว่า
เรามีเพื่อนมากมายที่ชอบเหมือนๆ กับเรา เหมือนโลกนี้มีแต่คนเล่น
โฮมเธียเตอร์และฟังเพลง 2 channel
แต่ความจริงแล้ว เราเป็นแค่สังคมเล็กๆ เท่านั้นเอง
สืบเพราะเวลาผมไปพบเพื่อนเก่าๆ หรือเพื่อนใหม่ๆ
หรือแม้กระทั่งคนรู้จักใหม่ๆ ผมมักจะถามว่าเขาเล่น
โฮมเธียเตอร์หรือฟังเพลง 2 channel หรือเปล่า
เกือบร้อย % จะตอบว่าไม่ได้เล่น จะดูหนังฟังเพลงกันแบบธรรมดา
เท่านั้น
ทำไมวงการนี้มันขยายตัวช้าจังเลย บางทีอยากจะคุยเรื่องที่เราชอบบ้าง
ก็ไม่ได้ :(
ระบายเฉยๆ ครับ
-
รอบๆตัวผมก็ไม่มีคนเล่นกันมากครับ เพราะส่วนใหญ่จะบอกว่า ชุดละหมื่นกว่าบาทก็เสียงดีแล้วจะซื้อแพงๆไปทำไม
หรือไม่ถ้าเป็น โฮมเธียเตอร์ ก็บอกว่า ดูในโรงสบายใจกว่า บัตรร้อยกว่าๆ ซื้อชุดโฮม ถูกๆก็หลายหมื่นแล้วไม่ค่อยมีเวลาดู
เพื่อนมาบ้านบอกว่าลำโพงตัวเท่าไหร่เสียงดี นะ บอกไปว่า 3 แสน มันบอกว่า มึง แม่.. บร้า ไปแล้ว เป็นกุ กุ ไปซื้อรถขับดีกว่า :shutup N] เหอ..นาๆจิตตัง hobby ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
บางคนอยู่วงการอื่นๆ อย่างวงการพระเครื่องก็มีให้เช่ากันเป็นล้านใส่แล้วสบายใจ แต่งรถหรูคันนึงใช้เงินเป็นล้านก็มี กลุ่มคนเหล่านี้เล่นกันเยอะเพราะจะไปซิ่งที่ไหนก็ได้แถมไปเทียวก็เฮฮาสนุกดี
ส่วนพวกคนเล่นเครื่องเสียงสายไฟเส้นละ 4-5หมื่น ก็ยังซื้อหามาเล่นได้เพราะเสียงมันฟังดีขึ้น
แต่ถ้าคนไม่ชอบเล่นเครื่องเสียงก็บอกว่าแพงนั่งฟังเพลงมิติเสียงอะไรเสียงอะไรกันวุ่นวายเอามินิคอมโปมาเปิดก็พอแล้ว...
ผมว่าอย่างพวกเรามันอยู่ในพวกของใช้ฟุ้มเฟือยมั๊งครับ...คนไม่มีเงินเหลือจริงๆ คงไม่ค่อยมีคนสนใจเล่นกันจริงๆจังๆ
สังคมแบบเรามันก็คล้ายๆ พออัพระบบแล้วมีเพื่อนๆมาเชียร์พูดคุยเปลี่ยนนู้นนี้ ลอง setup เล่นกันไปเรื่อย มันก็เลยสนุก
คนเข้ามาเล่นกันยังน้อยเพราะเล่นพวกนี้ใช้เงินเยอะครับ เขาเอาเวลาไปทำงานหาเงินดีกว่า แค่ชุดเล็กๆก็ฟังเพลงเพราะได้แล้วเหมือนกัน
อย่างมีเพื่อนที่ทำร้านเครื่องเสียงก็บอกว่าเบื่อแล้วแค่ไป setup ฟังบ้านลูกค้าก็พอแระไม่ค่อยลงทุนชุดของตัวเองเท่าไหร่เพราะมันอื่มตัวแล้ว
-
จากที่ผมมองๆ ที่ขยายตัวช้า ที่สำคัญที่สุด คือ เรื่องของงบประมาณ มากกว่าครับ....
หากไปถามว่า ถ้าให้เลือก ดูหนัง-ฟังเพลง ใครไม่ชอบบ้าง ชอบเกือบทุกคนแหละครับ เพียงแต่ว่า ผู้บริโภคส่วนมาก จะมีเครื่องเสียงแบบ ธรรมดาทั่วไปๆ ไม่ได้เล่นจริงจังแบบ พวกเราๆท่านๆ ( โดยคิดง่ายๆว่า ใครเล่นเครื่องเสียงแบบ แยกชิ้น ก็แสดงว่า เริ่มจริงจัง หรือเข้าสู้วงการแล้ว ก็ได้ครับ คิดแบบนี้ง่ายดี ถูกแพงว่ากันอีกที ยังไม่เอามาคิด )
หากผู้บริโภคส่วนมากมีทุกอย่างที่ใครๆก็มีแล้ว เช่น บ้านก็มี รถก็มี คราวนี้แหละ เริ่มจะหา ความสุขให้กับตัวเองแล้ว ทีนี้ก็แล้วแต่ละคนจะชอบแบบไหน บางคนก็ชอบพระเครื่อง บางคนก็ชอบเลี้ยงปลา บางคนก็ชอบกล้องถ่ายรุป บางคนก็ชอบไปเที่ยว ตจว.-เมืองนอก บางคนก็ชอบเครื่องเสียง บางคนก็ชอบแต่งรถ ทีนี้แหละ ก็จะอยู่ที่งบประมาณของแต่ละท่านแล้วครับ ว่าจะจัดหนักกันแค่ไหน
หากถามผมว่า มากแค่ไหน ก็ตอบไม่ได้ แต่หากคิดเป็นตัวเลขประชากร 65 ล้าน ผมตีง่ายๆ ครอบครัวละ 4 คน ก็เท่ากับ 16.25 ล้านครอบครัว ผมคิดแค่ 1% ซึ่งก็เท่ากับจะมี 162,500 ครอบครัวที่มีเครื่องเสียงแบบแยกชิ้นที่บ้าน
ที่นี้ก็ช่วยกันคิดต่อแล้วครับ ว่าบ้านข้างๆเรา มีเครื่องเสียงแบบแยกชิ้น หรือเปล่า :)
-
เมื่อ ซักประมาณ 10 ปีก่อน ในยุคที่ อินเตอร์เน๊ต ยังแพร่หลายไม่มาก
คนเล่นเครื่องเสียงส่วนใหญ่ มักจะต้องพึ่งการ การหาและใช้ข้อมูล
จาก นิตยสารเครื่องเสียง ที่มีอยู่หลายฉบับ
ความรู้ความเข้าใจ ก็จะได้จาก นิตยสารเหล่านี้ และเพื่อนๆคอเดียวกัน
ฉะนั้น ยอดการจำหน่ายนิตยสารเครื่องเสียงจึงเป็นตัววัดปริมาณ
ของกลุ่มคนเล่นได้ระดับหนึ่ง ซึ่งในตอนนั้น บางฉบับบอกว่า
หนังสือของตัวเอง ยอดพิมพ์ อยู่ประมาณ 1-2 หมื่นต่อเล่ม เพื่อ
เอามาใช้เคลมกับสปอนเซอร์ที่มาลงโฆษณา ว่า สินค้าคุณจะผ่านตา
ผู้ติดตามนิตยสารนั้น อย่างน้อย 1 -2 หมื่นคน
แต่โดยยอดขายจริง น่าจะอยู่ 4-6 พันเล่มเป็นอย่างมาก (รู้จักเจ้าของนิตยสาร
แกบอก ยอดพิมพ์ของแก ไม่เกิน 8 พันเล่มครับ) รวม หลายฉบับ ไม่น่าเกิน 2หมื่น
ลองคิดค่าเฉลี่ยดู ปริมาณคนเล่นเครื่องเสียงแบบ ตัวจริง จะมีอยู่ซักกี่คน ผมว่าทั่วประเทศ
คนเล่นเครื่องเสียงแนว mid-end ถึง hi-end แบบเราๆ น่าจะไม่เกิน 5-7 หมื่นคนหรอก
การเปรียบเทียบแค่ 1 เปอร์เซนต์ จากค่าเฉลี่ย ครัวเรือนของ คุณ wanchana_ton
ที่ แสนกว่าคน อาจจะเยอะไป ผมให้ 0.5 เปอร์เซนต์ ก็เยอะแล้วครับ เฉพาะแนว
mid - hi นะครับ
-
ถ้ามองจากคนรอบๆตัวผม
ผมว่าคงเล่น 2.0 เยอะกว่าครับ
แต่เป็น 2.0 ตระกูล compo นะครับ เครื่องเดียวทำได้ทุกอย่าง ดูหนัง ฟัง cd วิทยุ คาราโอเกะ เบสหนักๆ บวมๆ แปลว่าเสียงดี (ซึ่งผมก็เกือบจะไปทางนั้นเหมือนกัน แต่ได้เพื่อนมาช่วยดึงไว้)
ผมเองก็เพิ่งจะเริ่มครับ ตามเก็บๆมาได้แค่ marantz 5003 กับ klipsh cinema6 sat.
ขนาด sub ยังไม่มีนะครับ พอพ่อผมมารู้ราคาเข้า
โห ทำไมมันแพงจัง K]
-
นั่นสิครับ เท่าที่สังเกตุรอบๆบ้านผมก็ไม่เห็นมีใครเล่นพวกนี้เลย อย่างมากก็ชุดเล็กๆ
-
แถวบ้านผม ก็มีบ้างครับ เป็นชุดเล็ก ๆ เท่านั้น แบบซื้อมาพร้อม DVD ชุดฟังเพลงก็เป็นปกติ ไม่ได้มีการจัดชุดอะไร
คนฟังเพลงก็เน้น PMPO 1500 W. ทำนองนั้น เบสตูม ๆ ดังเข้าไว้
ดูหนังก็ดู DVD เป็นหลัก ไม่เน้น Full HD ดูรายการTV เป็นหลัก Blue ray เป็นอะไร ก็ไม่รู้
ดังนั้น สังคมที่เน้นฟังเพลง มีความไพเราะ สามารถแยกแยะชิ้นดนตรี นักร้องขยันร้อง จึงมีไม่มากเท่าไหร่ ? บางคนมีเงินซื้อลำโพงแพง ๆ แต่ก็ไม่ได้จัดวาง Set up อย่างถูกต้องเท่าที่ควร แค่ฟังว่า เพราะว่า Minicompo ก็ดีแล้ว บางบ้านเล่นเฉพาะตัวพ่อบ้าน ลูก ๆ ไม่เล่น พอพ่อบ้านไม่อยู่ ลูก ๆ ก็ทิ้งหมด
ยิ่งชุดดูหนัง ที่ต้องมีการ Set up ทั้งลำโพง ทั้งจอ ทั้งเครื่องฉาย ยิ่งยุ่งยากเข้าไปใหญ่ คนเล่นจึงยิ่งน้อยลง
สังคมอย่างพวกเราจึงมีอยู่กันไม่มาก รวม ๆ แล้ว ผมว่า ที่เล่นอย่างจริงจัง ไม่น่าจะเกินสักหมื่นคน ส่วนที่เล่นไปเล่นมา แบบเล่น ๆ ก็น่าจะมีอีกไม่เกินสักหมื่นคน ยิ่งคนอ่านหนังสือด้วยแล้ว สักหมื่นเล่มต่อเดือน ถือว่ามากแล้ว
สมัยก่อน ต่างคนต่างอยู่ ไม่มี WEB เป็นจุดศูนย์รวม เจอกันทีก็งานเครื่องเสียง ซึ่งก็ไม่ได้เดินกันอย่างงานอื่น ๆ พวกที่เดินก็ส่วนมากหน้าเดิม ๆ กันทั้งนั้น เจอกันทุกงาน
แต่ใน WEB นี้ มีพื่อน ๆ ของพวกเราอยู่ครับ แม้เป็นสังคมเล็ก ๆ แต่อบอุ่น เพราะพูดจาประสาเดียวกัน ประเภทแบบคอเดียวกัน แบ่งปันกันไป สนุกดีครับ ดีกว่าอยู่สังคมใหญ่ ๆ แต่ ไม่รู้จักกันเลย
-
แต่ก่อนก็ชอบฟังเพลง 2 channel นะ :secret
แต่เดี๋ยวนี้ชอบดูคอนเสริ์ตมากกว่าครับ ได้บรรยากาศคนละแบบ Y]
-
ขึ้นอยู่กับปัจจัย(เิงิน)ของแต่ละท่าน ครับ
หากถามว่า ใครอยากมี 2.0 ch. หรือ HomeTheatre หรือปล่าว 0)]
ตอบ : อยากมีครับ !!! K)
แต่.....งบจำกัดต้องเก็บไว้ใช้จ่ายอย่างอื่นก่อน :giveup
ในชีวิตคนเราจะมีช่วงๆ นึงล่ะครับ ที่จะต้องรักชอบของสิ่งหนึ่ง
และการดูหนัง ฟังเพลง ก็เป็นช่วงหนึ่งที่คนอย่างเราๆ ต้องมี :whistling
คิดกันเล่นๆนะ ครับ....
ถ้าชุดโฮมฯ 5.1, 7.1 เสียงดีๆขนาดโรงหนังยังอาย ราคาไม่เกินหลักหมื่น
ชุดเครื่องเสียง 2.0 ระดับเสียงที่ฟังแล้วไม่อยากลุกไปไหน ราคาแค่หลักพัน
แล้ว..........คนจะเล่น 2.0 หรือ โฮมฯ มากขึ้นมั๊ยครับ?
^-^
-
สวัสดีครับ
ผมก็เป็นคนนึงที่เพิ่งเข้ามาเล่นเครื่องเสียง มาได้ 2 ปี แต่ก่อนหน้านั้น ก็ดูจากคอมนี่หละ ก็แฮปปี้ดีครับ
วันนึงเพื่อนมันจะขายชุดลำโพงของ 5.1 ของเชอร์วูดหรือเชอร์แมน จำไมได้ครับ เป็นชุดลำโพง ขนาดเล็ก พร้อม ซับ
ขายต่อมาราคา 3000 บาท ตั้งแต่นั้นมา ผมก็เลยสนใจเครื่องเสียงขึ้นมา และ up มาจนถึงวันนี้ ถึงมันจะไม่ใช่ชุดใหญ่
แต่ก็พอใจครับผม
ผมว่าเดี๋ยวนี้ถ้าวัดกันแล้ว ส่วนมากคนจะหันไปเล่น home theater in the box ซะมากกว่า อาจจะหาซื้อง่าย จัดชุดไว้เสร็จสับ เสียงเป็นที่พอใจในระดับนึง ซึ่งถ้าลองได้เข้ามาแล้ว อาจจะ up เป็นแยกชิ้นต่อไป
ส่วนการฟังพลง 2 chanal แบบแยกชิ้น น้อยคนครับที่จะเข้ามาถึงจุดนี้โดยที่ไม่มีข้อมูล หรือ ไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน มาก่อน
นอกเสียจากเป็นคนรักการฟังเพลงเป็นชีวิตจิตใจ
แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น มันก็ต้องขึ้นอยู่กับ งบประมาณด้วยครับผม แต่ถ้ารักกันจริงๆแล้ว ไม่ยากหรอกครับ ที่จะมีชุด home ดีๆ
และชุดฟังเพลงเพราะๆ ซักชุด สวัสดีครับ
-
เล่นมันทั้งคู่เลยครับ แต่ก่อนแยกกัน ลำโพงเต็มห้อง ช่วงหลังเริ่มมองหาลำโพงที่ดูหนังฟังเพลงในตัวเดียวจบ แค่เปลี่ยนอินพุทที่สวิตซ์ของ passive volume control เอาเท่านั้น
อีกอย่างเดียวนี้ทั้งหนังและเพลงแบบ Hidef หรือ sampling สูงๆสามารถหาง่ายในเนต หรือจะลองทำเองก็ได้ไม่ยาก ที่บ้านจึงมี HDD ปาไปสิบกว่าลูกแล้วครับ
-
2CH ยังไงๆ ก็ชอบและจะเล่นตลอดไป
ส่วน 5.2(subคู่) เล่นแน่นอน กำลังอยู่ในช่วงจัดการกับแอ็มป์และลำโพง
เพราะทรูเอชดีคอนเสิร์ทมันให้เสียงที่น่าฟังเช่นกัน(ฟังดีกว่าดีวีดีแยะเลย)
สรุปคือเล่นทั้งสองอย่างครับ
-
ถ้าหันซ้ายขวา 2 chanel ไม่มีเลยอะ นอกจากแฟน
มีก็แบบ "ประดับบ้าน" บ้างพอมี
โฮม มี น้องชายแฟน
นอกนั้น คุยกับใครไม่รู้เรื่องเลย
ยิ่ง diy เนี่ย ...จะบอกว่า ไม่มีคนรู้จักเลยอะ นอกจากแฟน ที่เคยอธิบาย
แรกๆ ว่า diy ย่อมาจากอะไร แล้วเราก็หาอ่านเอง :black_eye
เพิ่งเจอะเพื่อนรุ่นเดียวกัน มันบอกว่าเล่น เวปอะไรวะ (เวปตู่นินจา) ...เดี่ยวนี้เขาเล่น Face book กัน
มันว่า เราว่า โค---เชย ไม่ทันโลก
Face book คืออะไรอะ ส่งมาเต็ม อีเมล์ทิ้งไปหมดเลย ;D
-
ผมดูโปรเจ๊คเตอร์ภาพชัดๆเสียงรอบทิศทาง พี่ชายมาดูด้วยก็รู้สึกว่าเขาเฉยๆบอกว่าเค้าดู VCD ก็ชัดแล้ว :D คนที่เล่นจริงๆผมว่าน้อยมาก วงมันแคบเช่นไปงานเครื่องเสียงจะเจอแต่คนที่หน้าตาคุ้นๆไปงานไหนก็จะเจอ ผมถึงคิดว่าสำหรับคนที่ชอบภาพและเสียงต้องรักกันมากๆคร๊าบ ;) d_d
-
ผมดูโปรเจ๊คเตอร์ภาพชัดๆเสียงรอบทิศทาง พี่ชายมาดูด้วยก็รู้สึกว่าเขาเฉยๆบอกว่าเค้าดู VCD ก็ชัดแล้ว :D คนที่เล่นจริงๆผมว่าน้อยมาก วงมันแคบเช่นไปงานเครื่องเสียงจะเจอแต่คนที่หน้าตาคุ้นๆไปงานไหนก็จะเจอ ผมถึงคิดว่าสำหรับคนที่ชอบภาพและเสียงต้องรักกันมากๆคร๊าบ ;) d_d
จริงๆแล้วคนส่วนใหญ่ก็คงชอบกันอยู่หรอก
แต่จะมี(หา เจียด)เวลาฟัง หรือดู แบบเราๆหรือเปล่าเท่านั้นเอง
เค้าคงให้ความสำคัญกับเรื่องอื่นมากกว่า ไม่ว่างานอดิเรกหรืองานหาตังค์เลี้ยงชีพ
ว่าไปแล้วบางครั้งนึกอิจฉาคนทำงานร้านขายหนังสือ ขายแผ่น อะไรอย่างเนี๊ย เสพภาพและเสียงได้ทั้งวันเลยอะ
-
เคยไปบ้านเพื่อนพ่ออยู่บ้าง แบบนักธุรกิจพอมีจะกิน :shutup
บางคนก็มีชุดใหญ่ แต่ก็ดูว่าซื้อแบบว่ามันคือเครื่องเสียง....ดูหนัง ฟังเพลงต้องดี ตามที่เค้าเข้าใจ
แต่ไม่ได้เซ็ทอัพ แมทชิ่ง หรือดูเรื่องอคูสติคแม้แต่น้อย
แขกไปใครมาก็คอยบอกว่าดีนะดี....
ผมฟังแล้วปวดกะโหลก....คิดดูสิครับ วางชุดอยู่ชั้นล่าง เป็นห้องโล่งไม่ได้กั้นแยกกับส่วนอื่น
ด้านบนเป็นชั้นลอย แต่ส่วนของซิสเต็มเปิดโล่งไปถึงเพดานสูงกว่าห้าเมตร
ผมหล่ะงงจริงๆ ว่าดูหนังฟังเพลงกันยังไง....
แต่บ้านเค้าสวยมากกกกกกก เป็นสามหลังติดกันในรััวเดียว มีสระว่ายน้ำคั่นระหว่างกลาง อิจฉาจริงๆ ;D
ผมว่าคนเล่นคือคนที่มีงบน้อย ต้องมาลงบอร์ดศึกษา
หาของมือสองมาลองแล้วลองอีก ไปลองฟัง ไปเดินงาน
กว่าจะได้ของที่ถูกใจ อย่างนี้ถึงเรียกว่าเล่น :D
คนไม่เล่นคือมีตังค์ จริงจัง จะใช้ละ ซื้อเลย จบ ;D
-
ถ้าวงการนี้ ขยายวงขึ้นทุกๆ ปี อีกหน่อยเราคงได้ซื้อเครื่องเสียง
กันราคาพอๆ กันกับสิงคโปร์ หรือฮ่องกง หรือประเทศของผู้ผลิต
พ่อค้าและผู้ทำธุรกิจทางด้านนี้จะได้อยู่รอด และขายได้โดยไม่มี
เสียงบ่นว่าราคาโหด........
ผมเห็นด้วยกับคุณ RAK ที่ว่าคนที่ชอบภาพและเสียงควรรักกันมากๆ
ไม่ฝักไฝ่ฝ่ายใด ให้ความรู้ซืงกันและกัน รวมไปถึงคนรอบข้างด้วย
ถ้ามีโอกาส
-
เคยไปบ้านเพื่อนพ่ออยู่บ้าง แบบนักธุรกิจพอมีจะกิน :shutup
บางคนก็มีชุดใหญ่ แต่ก็ดูว่าซื้อแบบว่ามันคือเครื่องเสียง....ดูหนัง ฟังเพลงต้องดี ตามที่เค้าเข้าใจ
แต่ไม่ได้เซ็ทอัพ แมทชิ่ง หรือดูเรื่องอคูสติคแม้แต่น้อย
แขกไปใครมาก็คอยบอกว่าดีนะดี....
ผมฟังแล้วปวดกะโหลก....คิดดูสิครับ วางชุดอยู่ชั้นล่าง เป็นห้องโล่งไม่ได้กั้นแยกกับส่วนอื่น
ด้านบนเป็นชั้นลอย แต่ส่วนของซิสเต็มเปิดโล่งไปถึงเพดานสูงกว่าห้าเมตร
ผมหล่ะงงจริงๆ ว่าดูหนังฟังเพลงกันยังไง....
แต่บ้านเค้าสวยมากกกกกกก เป็นสามหลังติดกันในรััวเดียว มีสระว่ายน้ำคั่นระหว่างกลาง อิจฉาจริงๆ ;D
ผมว่าคนเล่นคือคนที่มีงบน้อย ต้องมาลงบอร์ดศึกษา
หาของมือสองมาลองแล้วลองอีก ไปลองฟัง ไปเดินงาน
กว่าจะได้ของที่ถูกใจ อย่างนี้ถึงเรียกว่าเล่น :D
คนไม่เล่นคือมีตังค์ จริงจัง จะใช้ละ ซื้อเลย จบ ;D
แหมถูกใจข้อความข้างบนจัง
แต่ผมทำเองหมดฟังแบบพอประมาณตัว งบน้อยใช้สอยให้เยอะๆๆ 2f 2f
-
ส่วนผม..กำลังแพร่พันธุ์อยู่ โดนไปหลายคนแล้ว.... ;D
-
เคยไปบ้านเพื่อนพ่ออยู่บ้าง แบบนักธุรกิจพอมีจะกิน :shutup
บางคนก็มีชุดใหญ่ แต่ก็ดูว่าซื้อแบบว่ามันคือเครื่องเสียง....ดูหนัง ฟังเพลงต้องดี ตามที่เค้าเข้าใจ
แต่ไม่ได้เซ็ทอัพ แมทชิ่ง หรือดูเรื่องอคูสติคแม้แต่น้อย
แขกไปใครมาก็คอยบอกว่าดีนะดี....
ผมฟังแล้วปวดกะโหลก....คิดดูสิครับ วางชุดอยู่ชั้นล่าง เป็นห้องโล่งไม่ได้กั้นแยกกับส่วนอื่น
ด้านบนเป็นชั้นลอย แต่ส่วนของซิสเต็มเปิดโล่งไปถึงเพดานสูงกว่าห้าเมตร
ผมหล่ะงงจริงๆ ว่าดูหนังฟังเพลงกันยังไง....
แต่บ้านเค้าสวยมากกกกกกก เป็นสามหลังติดกันในรััวเดียว มีสระว่ายน้ำคั่นระหว่างกลาง อิจฉาจริงๆ ;D
ผมว่าคนเล่นคือคนที่มีงบน้อย ต้องมาลงบอร์ดศึกษา
หาของมือสองมาลองแล้วลองอีก ไปลองฟัง ไปเดินงาน
กว่าจะได้ของที่ถูกใจ อย่างนี้ถึงเรียกว่าเล่น :D
คนไม่เล่นคือมีตังค์ จริงจัง จะใช้ละ ซื้อเลย จบ ;D
อันนี้คือข้อแตกต่างระหว่าง "นักเล่น" กับ "user" ครับ ... บางท่านจ่ายเงินแล้วให้ได้มา ก็ถือว่าพอใจแล้ว ... อย่างคุณพ่อผมก็ถือเป็นกลุ่มนี้เช่นกัน เพียงแต่ท่านไม่ได้จ่ายเยอะขนาดนั้น จ่ายเพียงเล็กๆ น้อยๆ ได้มาแล้วก็สุขใจ ไม่ได้สนใจจะไปทำอะไรกับมันให้มันออกมาเต็มความสามารถของอุปกรณ์ ทำให้เราต้องแอบๆ ไปทำให้เสมอๆ หุหุ
บางท่านมีกลุ่มอื่นอีก ... เช่น เป็นนักดูหนัง นักฟังเพลง ... กลุ่มนี้บางครั้งแทบไม่สนใจในอุปกรณ์ หรือ คุณภาพของภาพ คุณภาพของเสียงกันเลย ... แต่หันไปสนใจเนื้อหาสาระของหนัง เนื้อหาสาระของเพลง ศึกษากันเข้าไปถึงรายละเอียดของหนัง ศึกษาไปถึงประวัติของนักแต่งเพลง คนเล่น เพื่อต้องการความซาบซึ้งอย่างถึงที่สุดของหนังหรือเพลงนั้นๆ มากกว่า ... เวลาเค้ามองคนเล่นเครื่องเสียง ก็อาจจะมีอีกมุมก็ได้ เช่น พวกนี้จ่ายเงินไปมากมาย แต่กลับได้รับเพียงความบันเทิง ไม่ได้รับรู้ถึงรายละเอียดของการสร้าง รายละเอียดของเนื้อหา ในแบบที่พวกเค้าได้รับกัน (แล้วมันผิดเรอะ ที่จะดูหนัง ฟังเพลง เพียงแค่เพราะบันเทิงน่ะ)
ในความเห็นผม ... ถ้าเค้าทำแล้วสุขใจ ... จ่ายเงินแล้วมีความสุข ทำแล้วตัวเองใช้งานแล้วมีความสุข ... ผมว่ามันคุ้มแล้วครับ แม้ว่าจะไม่ได้เต็มความสามารถของเงินที่จ่ายไปก็ตามครับ
:)