HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม โฮมเธียเตอร์ (HT) => ข้อความที่เริ่มโดย: iwamac ที่ 16 ธันวาคม, 2009, 09:58:34 pm
-
ไม่ทราบเพื่อนๆที่เล่น 2 แชนแนลทั้งหลายเซ็ทอัพลำโพงโดยมีมุม Toe in อย่างไรกันบ้าง แต่เดิมแล้วผมโทอินน้อยมากประมาณว่าแค่ 10 องศา แต่พอได้อ่าน
Get Better Sound แล้วเค้าแนะนำให้ เมื่อ Toe In ลำโพงแล้วเส้นตั้งฉากจากกึ่งกลางลำโพงทั้งสองข้าง ยิงมาตัดกันหลังหัวเราที่จุดนั่งฟังประมาณ 1-2 ฟุต
เลยทดลองทำตามดูปรากฎว่า ให้ Stereo Image ดีกว่าเดิมมาก วง Orchestra ออกมาเป็นชั้นๆ เลยอยากให้ท่านทั้งหลายลองทดลองกันดู หากได้ผลอย่าง
ไรกรุณาแชร์ข้อมูลบ้างครับ
-
ขอบคุณครับ เป็นข้อมุลที่มีประโยชน์ จะนำไปลองใช้ครับ
-
ความรู้ๆ ขอบพระคุณมากครับผม แล้วจะไปลองทำดู
-
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ ครับ....
-
เมื่อก่อนเคยใช้กะๆเอาครับ นั่งตรงที่กะไว้ว่าเป็น sweet spot
มองไปหาลำโพงทีละตัวแล้วกะว่าให้ลำโพงหันตรงหน้าพอดีทั้งสองตัว
แล้วค่อยหมุนให้ออกไปข้างละนิด มิติมันดีขึ้นครับ ดีกว่าตัดตรงๆมาที่หัวเรา
แต่อันนี้เพิ่งรู้จริงๆ ครับ ว่าต้องให้ตัดหลังหัวเราไปประมาณ 1 -2 ฟุต
ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ
-
สมัยก่อนชอบเหมือนกัน toe in เนี่ย เดี๋ยวนี้ชอบฟังแบบหน้าตรงมากกว่าครับ
-
I like to toe in my speaker too, it's give me more image in my small room.
-
ไม่ทราบเพื่อนๆที่เล่น 2 แชนแนลทั้งหลายเซ็ทอัพลำโพงโดยมีมุม Toe in อย่างไรกันบ้าง แต่เดิมแล้วผมโทอินน้อยมากประมาณว่าแค่ 10 องศา แต่พอได้อ่าน
Get Better Sound แล้วเค้าแนะนำให้ เมื่อ Toe In ลำโพงแล้วเส้นตั้งฉากจากกึ่งกลางลำโพงทั้งสองข้าง ยิงมาตัดกันหลังหัวเราที่จุดนั่งฟังประมาณ 1-2 ฟุต
เลยทดลองทำตามดูปรากฎว่า ให้ Stereo Image ดีกว่าเดิมมาก วง Orchestra ออกมาเป็นชั้นๆ เลยอยากให้ท่านทั้งหลายลองทดลองกันดู หากได้ผลอย่าง
ไรกรุณาแชร์ข้อมูลบ้างครับ
ดีครับ เดี๋ยวจะลองไปทำดูบ้าง
:headphone
-
การตั้งลำโพงฟังในแบบ sterio ไม่มีสูตรสำเร็จนะครับ ว่า
จะต้อง ตั้งหน้าตรงหรือ toe-in ไม่ว่าจะกี่องศา มันแล้วแต่
ลำโพงนั้นๆเลย การที่จะหาโฟกัสที่สุด ต้องฟังให้เข้าใจและได้ค่าเฉลี่ย
ของทุกแนวเพลง
ประเภท นักทดสอบวิจารณ์เครื่องเสียง แล้วลำโพงทุกคู่ จับ toe-in เหมื่อนกันหมด
แล้วบอกโฟกัสดี เวทีกว้าง ยังไงก็ไม่เชื่อ และไม่มีทางเป็นไปได้ กับลำโพงทุกคู่
การขยับลำโพง ไม่ว่า จะเป็นทิศไหน ทุกๆ มิลลิเมตร มีความหมายทั้งหมด
เข้าใจว่า ข้อแนะนำในหนังสือ จะเป็นแบบกว้างๆ สำหรับคนที่เริ่มต้นใหม่
ถ้ายังไม่เป็น ก็เริ่มประมาณนี้ก่อน พอฝึกฝนไปเรื่อยๆ ก็คงจะมีวิธีคิดเพิ่มเติมไปเอง
-
คิดเหมือนกันครับว่าสูตรนี้ใช้ไม่ได้กับลำโพงทุกคู่
แต่เดี๋ยวจะลองทำดูเหมือนกัน
ผมได้หนังสือมาเมื่อวาน
รีบพลิกไปดูบทความเกี่ยวกับ controversy ก่อน
โดยเฉพาะความคิดเห็นของคุณ Jim ที่ว่าสายไฟที่เราชอบเล่นมีผลต่อเสียงหรือเปล่า
ถ้าคุณ Jim บอกว่าไม่มี จะเลิกอ่านแล้วเอาไปคืน 2f
-
ในการตั้ง setup ลำโพง ไม่ค่อยมีคนพูดถึง การตั้งระดับความสูงของลำโพงเลย
ก็แปลกดีนะครับ อย่างขาตั้ง มาตรฐาน 60 ซม. กับลำโพงวางหิ้ง
จริงๆควรจะมีการ adjust ระดับความสูงแบบละเอียดได้ด้วย
จึงจะทำให้การตั้งลำโพง ออกมาสมบรูณ์ที่สุด โดยเราจะสามารถ จูนน้ำหนัก balance
ของเสียงแหลมกับทุ้มได้ด้วย
ส่วนเรื่องสายไฟ จะมีผลต่อเสียงไหม / จริงๆทุกสิ่งทุกอย่างมีผลต่อเสียงทั้งหมด
ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ ที่ต่ออยู่ในซิสเต็ม และ อุปกรณ์ที่อยู่ในห้องทั้งหมด คือ
การสะท้อน ฉะนั้น การ setup คือการ จัดการทุกอย่าง ในระบบและสิ่งที่อยู่นอกระบบ
-
การตั้งลำโพงฟังในแบบ sterio ไม่มีสูตรสำเร็จนะครับ ว่า
จะต้อง ตั้งหน้าตรงหรือ toe-in ไม่ว่าจะกี่องศา มันแล้วแต่
ลำโพงนั้นๆเลย การที่จะหาโฟกัสที่สุด ต้องฟังให้เข้าใจและได้ค่าเฉลี่ย
ของทุกแนวเพลง
ประเภท นักทดสอบวิจารณ์เครื่องเสียง แล้วลำโพงทุกคู่ จับ toe-in เหมื่อนกันหมด
แล้วบอกโฟกัสดี เวทีกว้าง ยังไงก็ไม่เชื่อ และไม่มีทางเป็นไปได้ กับลำโพงทุกคู่
การขยับลำโพง ไม่ว่า จะเป็นทิศไหน ทุกๆ มิลลิเมตร มีความหมายทั้งหมด
เข้าใจว่า ข้อแนะนำในหนังสือ จะเป็นแบบกว้างๆ สำหรับคนที่เริ่มต้นใหม่
ถ้ายังไม่เป็น ก็เริ่มประมาณนี้ก่อน พอฝึกฝนไปเรื่อยๆ ก็คงจะมีวิธีคิดเพิ่มเติมไปเอง
เห็นด้วยที่สุดครับ c)
-
การตั้งลำโพงฟังในแบบ sterio ไม่มีสูตรสำเร็จนะครับ ว่า
จะต้อง ตั้งหน้าตรงหรือ toe-in ไม่ว่าจะกี่องศา มันแล้วแต่
ลำโพงนั้นๆเลย การที่จะหาโฟกัสที่สุด ต้องฟังให้เข้าใจและได้ค่าเฉลี่ย
ของทุกแนวเพลง
ประเภท นักทดสอบวิจารณ์เครื่องเสียง แล้วลำโพงทุกคู่ จับ toe-in เหมื่อนกันหมด
แล้วบอกโฟกัสดี เวทีกว้าง ยังไงก็ไม่เชื่อ และไม่มีทางเป็นไปได้ กับลำโพงทุกคู่
การขยับลำโพง ไม่ว่า จะเป็นทิศไหน ทุกๆ มิลลิเมตร มีความหมายทั้งหมด
เข้าใจว่า ข้อแนะนำในหนังสือ จะเป็นแบบกว้างๆ สำหรับคนที่เริ่มต้นใหม่
ถ้ายังไม่เป็น ก็เริ่มประมาณนี้ก่อน พอฝึกฝนไปเรื่อยๆ ก็คงจะมีวิธีคิดเพิ่มเติมไปเอง
อื่ม.... ถูกต้องนะครับ :clap
-
อ่านเจอเหมือนกันครับ ได้ลองแล้ว เสียงชัดขึ้น แต่พอไปเจอแผ่นเพลงจีน กลายเป็นจัดไปเลย ขนาด System ผมอยู่ในโทนนุ่มๆ เนื้อหนานิดๆ เลยกลับทิศสายลำโพง ช่วยเพิ่มเนื้อเบส เลยค่อยยังชั่ว...
แต่ลองแล้ว ตื่นเต้นดีครับ และหากท่านใดยังไม่ได้ลอง Toe-in ลองค่อยปรับทีละ 5-10 องศาก็ได้ครับ บอกอยากว่าแต่ละคู่จะต้องกี่องศา เพราะเสียงแต่ละคู่ไม่เหมือนกัน ลองเองดีที่สุด ไม่เสียสตางค์ อิอิ :victory
-
ในการตั้ง setup ลำโพง ไม่ค่อยมีคนพูดถึง การตั้งระดับความสูงของลำโพงเลย
ก็แปลกดีนะครับ อย่างขาตั้ง มาตรฐาน 60 ซม. กับลำโพงวางหิ้ง
จริงๆควรจะมีการ adjust ระดับความสูงแบบละเอียดได้ด้วย
จึงจะทำให้การตั้งลำโพง ออกมาสมบรูณ์ที่สุด โดยเราจะสามารถ จูนน้ำหนัก balance
ของเสียงแหลมกับทุ้มได้ด้วย
ส่วนเรื่องสายไฟ จะมีผลต่อเสียงไหม / จริงๆทุกสิ่งทุกอย่างมีผลต่อเสียงทั้งหมด
ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ ที่ต่ออยู่ในซิสเต็ม และ อุปกรณ์ที่อยู่ในห้องทั้งหมด คือ
การสะท้อน ฉะนั้น การ setup คือการ จัดการทุกอย่าง ในระบบและสิ่งที่อยู่นอกระบบ
ขออนุญาต เพิ่มเติม ... ถึงระดับทรายที่กรอกใส่ขาตั้งด้วยครับ
มีผลพอสมควรเลยครับ โดยเฉพาะความหนักแน่นของเนื้อเสียง
-
:) มันเป็นไปได้ทั้งนั้น การ toe in การขยับเขยื้อนลำโพง ซ้ายนิดขวาหน่อยมีผลทั้งนั้นแต่ เมื่อขยับแล้วจะได้ในสิ่งที่เรายอมรับหรือไม่เท่านั้นเอง...เมื่อก่อนฟังเพลงในห้อง คนเดียวว่าเสียงเพราะแล้ว มีเพื่อนเข้ามาร่วมแจม 4-5 คนนั่งมั่งยืนมั่ง เหมือนที่งานโชว์เครื่องเสียง แล้วเสียงมันจะเปลี่ยนไปไหม มันนุ่มกว่าเดิมไหม หรือมีอยู่ยุคหนึ่งชอบใช้เหรียญบาทไปแปะฝนังด้านหลัง หรือด้านข้าง ของลำโพงหรือม่าน แล้วรูดขึ้นรูดลง เสียงมันเปลี่ยนไปไหม เพราะเหรียญบาทมันเล้กนิดเดียวเอง ใยมีอิทธิพลต่อเสียงขนาดนั้น อย่างเมื่อก่อนใช้ลำโพงเล็กก็นิยม nearfield โทนอิน กันสุดสุด ก็เปลี่ยนบุคลิกการฟังได้ชั่วยามแล้วก็กลับมาฟังแบบปกติอีก แต่ก็ไม่มีอะไรเสียหายนี่ครับถ้าการขยับสิ่งของต่างๆในห้องฟังมันไม่เสียเงินอยู่แล้ว ถ้าขยับแล้วชอบก้อจบครับ....
-
คุณ satang มาพูดถึงทรายกรอกขาลำโพง ก็ยิ่งซับซ้อนขึ้นไปอีก
เล่นเครื่องเสียงนี่ไม่ง่ายเลย ยิ่งรู้ลึก ยิ่งเล่นยาก
เฮีย WK พูดถึงสิ่งที่ชอบ มันก็มีเรื่องอีก สิ่งที่ "ชอบ" กับสิ่งที่ " ใช่ "
เรื่องเหรียญ ที่ไปแปะที่ผนัง เลื่อนไปเลื่อนมา มีผลต่อเสียง อันนี้คนเล่นมา
ระดับหนึ่ง คงพอจะเชื่อ แต่คนนอกวงการ คงเห็นเป็นเรื่องตลก
สิ่งที่ชอบ อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ใช่ แต่สิ่งที่ใช่ ควรจะต้องชอบ........
ซึ่งควรจะจบลงกับสิ่งที่ชอบ ชอบใครชอบมัน
เพราะสิ่งที่ใช่อาจจะต้องเสียเงินอีกเยอะ
ชอบวันนี้ ไม่ได้หมายความว่าต้องชอบตลอดไป เปลี่ยนแปลงได้ตลอด
-
Setup ลำโพงหาอะไรกันตอบที...
-
ความเสมือนจริง และความชัดเจน อิอิ :giveup
-
Setup ลำโพงหาอะไรกันตอบที...
ถามแบบนี้ ตอบยาก จริงๆ....
หาจินตนาการครับ....
เพื่อเราจะได้จินตนาการได้ง่าย หรือถูกต้องมากขึ้น ครับ .... สิ่งสมมุติ ทั้งน๊านๆๆๆๆๆๆๆๆ :headphone
-
เห็นด้วยกับหลายๆท่านครับ ว่าอันนี้มันขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตีวของแต่ละคน แต่สิ่งที่ผู้เขียน Jim ให้ไว้ก็เป็นแนวทางคร่าวๆให้ทดลองดู สูตรนี้ก็น่าจะเป็นอะไรที่เค้าชอบอะครับ ฉะนั้นให้เราลองดูหากไม่ชอบก็ขยับกลับไปได้ อันที่จริงเค้าก็บอกให้ Follow Instruction ของผู้ผลิตลำโพงที่ออกแบบมาเป็นหลักก่อน เพราะลำโพงแต่ละชนิดไม่เหมือนกัน รู้สึกว่ามันจะใช้กับลำโพง Dynamic เท่านั้น ไม่รวมถึงแบบ Planar ครับ
นอกเหนือจากมุม Toe In แล้ว ผมว่าที่สำคัญไม่แพ้กันคือ จุดนั่งพัง ระยะลำโพงมาถึงหูฟัง และ ความห่างระหว่างลำโพงซ้ายขวา ที่ต้องสัมพันธ์กันด้วยครับ
-
นอกเหนือจากมุม Toe In แล้ว ผมว่าที่สำคัญไม่แพ้กันคือ จุดนั่งพัง ระยะลำโพงมาถึงหูฟัง และ ความห่างระหว่างลำโพงซ้ายขวา ที่ต้องสัมพันธ์กันด้วยครับ
+ เห็นด้วยเลยครับ O0
-
ไม่ทราบเพื่อนๆที่เล่น 2 แชนแนลทั้งหลายเซ็ทอัพลำโพงโดยมีมุม Toe in อย่างไรกันบ้าง แต่เดิมแล้วผมโทอินน้อยมากประมาณว่าแค่ 10 องศา แต่พอได้อ่าน
Get Better Sound แล้วเค้าแนะนำให้ เมื่อ Toe In ลำโพงแล้วเส้นตั้งฉากจากกึ่งกลางลำโพงทั้งสองข้าง ยิงมาตัดกันหลังหัวเราที่จุดนั่งฟังประมาณ 1-2 ฟุต
เลยทดลองทำตามดูปรากฎว่า ให้ Stereo Image ดีกว่าเดิมมาก วง Orchestra ออกมาเป็นชั้นๆ เลยอยากให้ท่านทั้งหลายลองทดลองกันดู หากได้ผลอย่าง
ไรกรุณาแชร์ข้อมูลบ้างครับ
ตามนั้นเลยครับ ควรจะ toe เลยตำแหน่งนั่งฟังไปด้านหลังเล็กน้อยจะได้มิติและความลึกของวงมากขึ้นตามที่เขาแนะนำล่ะครับ :headphone
-
Setup ลำโพงหาอะไรกันตอบที...
:headphoneหามิติสเตริโอและเวทีเสียง ที่ไม่น่าเชื่อว่าลำโพงแค่๒ตัวจะทำ
ได้ขนาดนี้ :headphone
-
Y]
ขออนุญาต ตอบตามความเห็นส่วนตัวนะคะ
ในฐานะที่ขายขาตั้งลำโพง และช่วยขายหนังสือ GET BETTER SOUND ในงาน BAV ;) ว่าการ toe in
มากขนาดนั้น จะใช้ได้ดี ในระดับนึง เพราะ
1.เซ็ทง่าย เป็นสูตรสำเร็จ (ในไทยเรียก ทฤษฎีเส้นด้าย)
2.ลดการก้องสะท้องจากฝาด้านข้างได้ดี
3.มิติด้านลึกจะชัดเจนมาก
4.ลดความกร้าวและการพุ่งตรงของเสียง(จึงสามารถเปิดได้ดังเพิ่มขึ้น)
5.ถ้าลำโพงหรือชุด เครื่องเสียง ที่มีเสียงจะแจ้งจนถึงจัด จะนุ่มลง
6.ใช้ได้ดีในห้องฟังที่มีปัญหา หรือเซ็ท แบบลำลองในห้องที่เปิดโล่ง
7.ลดอาการฟุ้งของเสียงได้ดี มีช่องไฟที่ดี และฟังได้ง่ายขึ้น
8.ใช้วิธีนี้ เซ็ทเป็นแนวทางของเสียงได้ดี และพัฒนาต่อไป จนได้สิ่งที่ดีกว่า
แต่ข้อเสีย ก็พอจะมีบ้าง
1.เวทีเตี้ยลง ซึ่งเกิดจากการหักล้าง ของ เฟส
2.มิติด้านลึก หลุดตู้ออกไปมากก็จริง แต่ทางด้านข้าง ลำโพงจะไม่ค่อยหลุดไป ด้านข้างเท่าไหร่ เท่าที่ควรจะเป็น(คือ เวทีแคบนั่นเอง)
เวทีเป้นรูปลักษณะ สี่เหลี่ยมคางหมู แทนที่จะเป็นครึ่งวงกลม ลักษณะโอบล้อมนิดหน่อย
3.รายละเอียดเสียงกลางแหลม และแหลม หายไปพอสมควร เนื่องจากโดนหักล้าง ซี่งกันและกัน จากทวีตเตอร์(ทำให้ฟังแล้วรู้สึกนุ่ม)
4.นักร้องคล้ายคุกเข่าร้องเพลง เสียงร้องลอยต่ำ แต่ถ้าฟังเพลงบรรเลง จะไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่
ส่วนวิธีการเซต ก็อย่างที่เพื่อนสมาชิกหลายท่านบอกว่า ว่าจริงๆแล้ว แล้วแต่เราชอบไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว
อย่างคุณหมอ ทีเจ ชอบวางตรงๆ เน้นความกว้าง และความยิ่งใหญ่ของเสียง
คุณกุ้งสยาม ชอบแบบ FINE TUNE คือละเอียด และได้ทุกอย่างครบ
อย่างคุณ IWAMAC ขอบฟังซิมโฟนี ก้เลยเน้นมิติด้านลึก เป็น ชั้นๆ
หรือบางท่านเน้นฟังเพลงจริงๆ ก็เน้นโทนไม่เน้นมิติ มากนัก แต่สามารถเปิดเพลงได้หลากหลายกว่า
:secret คุณหมอทีเจ...รับสมัครสาวใช้ใหม่หรือยังคะ
ถ้ายัง post-girl ขอสมัครค่ะ จะดูแลห้อง เครื่องเสียง และ HT อย่างดีเลยค่ะ ^-^ ^-^ ^-^
-
อุ๊ยโหยว มิกล้าครับ
คุณ post-girl ท่าทางเล่นมานานเหมือนกันนะ เบสิคแน่นเชียว เยี่ยมครับ
-
แนวทางและวิธีคิดของผม คือ เน้นไปถึงการสะท้อน เป็นหลัก
เรื่องการ โทหรือไม่โท ก็มีประสบการณ์อยู่บ้าง เพราะลำโพงบางคู่
โทแล้วโฟกัสเบลอ ลำโพงบางคู่ตั้งหน้าตรงแล้วหาโฟกัสไม่เจอ
การ set ก้ต้องใช้แผ่นที่ บันทึกมาดี หลายหลากแนวเพลง
ถ้าการ set จูนจนลงตัว ไอ้ที่นักเล่นทั้งหลายชอบพูดถึง เวที มิติ
ตื้นลึก กว้างแคบ สูงต่ำ ความพริ้วปลายเสียง เห็นปากนักร้องขยับ มันมาเอง
มันจะรู้สึกได้เอง โดยไม่ต้องเพ่ง จินตนาการได้ง่ายขึ้น
จะเข้าใจคำว่ารายละเอียดอย่างลึกซึ้งเลย
แล้วเวลาเปลี่ยน/อัพ อุปกรณ์ สายสัญญาณต่างๆ เราจะจับได้ง่ายขึ้นมาก
แล้วก็จะมาจบที่ความรู้สึก อินไปกับเพลง
-
Setup ลำโพงไม่ต้องใช้จินตนาการครับ ความถูกต้องครับ ความถูกต้อง และก็ไม่เอาความชอบของแต่ละคน มาเป็นบันทัดฐานในการ Setup ลำโพง
ความชอบของแต่ละคนได้เลือกสรรค์มาแล้ว ก็คือชุดเครื่องของเรานี่แหละ ที่เหลือก็ดึงเอาความสามารถ และประสิทธิภาพออกมาให้หมดเปลือกมากที่สุด
หลายครั้งที่ผมเห็นมา ซื้อลำใหญ่มา เสียงเบสเขาว่ากันว่าลงต่ำมาก พอฟังเข้าจริง เบสหายไปใหนว่....ะ จากลำโพงใหญ่กายเป็นลำโพงเล็กซะฉิบ และเคยถามท่านที่เล่น ลำโพงใหญ่เหล่านั้น
ว่า ซื้อลำโพงใหญ่แล้วมาฟังแบบลำโพงเล็กวางขาตั้ง ทำไมไม่ไปเล่นลำโพงเล็กล่ะ อ๋อห้องเบสบวมนะ จบข่าว...(มีท่านนึงตอบ ผมรวยว่...ะ มึน...)
ที่ผมถามว่า Setup ลำโพงหาอะไร คำตอบก็ง่ายๆ คือหากจุดวางของลำโพงในห้องนั้นๆ ให้เสียงดีที่สุด จะ Toe In Toe Out หน้าตรงหน้าเชิด หันลีหันขวาง ยังไงก็ได้
สำคัญที่สุด คือหาตำแหน่งวางของลำโพงให้ได้ ขยายความอีกนิด ที่ว่าหาตำแหน่งลำโพงนั้น หมายความว่า เรา Setup ลำโพงจนไม่มีเสียงใดในห้องมากวนเสียงที่ออกมาจากลำโพง
หากทำได้เช่นนี้ เรา!ก็จะยินเสียงทุกอย่างที่ออกมาจากลำโพงนั่นแล เวที มิติ ความชัดเจน รายละเอียด ความเสมือนจริง Setup เข้าไปครับ เดี๋ยวก็เก่งเอง
ตำรามีไว้ให้อ่าน แต่เขาก็ไม่ได้บอกว่า สิ่งที่เขียนบอกไว้นั้น
เอ้ย! ห้ามไปทำแบบอื่นนะอย่างนี้ถูกต้องที่สุด
ทุกอย่าง ต้องทำ แล้วจะรู้ว่า ตำราคือ แนวทางการปฎิบัติ เท่านั้น
ผมก็อ่านตำราเหมือนกัน แต่ไม่ได้เชื่อเสียทุกอย่างที่ท่านเหล่านั้นเขียนไว้ ต่อยอดนะครับ ต่อยอด
-
เมื่อคืนลองแล้วครับ กับแผ่นตลาดๆ
นักร้องมายืนกลางขึ้น
มีตัวตนมากขึ้น
เดี๋ยวต้องลองหาแผ่นดีๆ มาฟังอีกที :headphone
ขอบคุณข้อมูลดีๆ ครับ O0
-
เค้าแนะนำให้ เมื่อ Toe In ลำโพงแล้วเส้นตั้งฉากจากกึ่งกลางลำโพงทั้งสองข้าง ยิงมาตัดกันหลังหัวเราที่จุดนั่งฟังประมาณ 1-2 ฟุต
เลยทดลองทำตามดูปรากฎว่า ให้ Stereo Image ดีกว่าเดิมมาก วง Orchestra ออกมาเป็นชั้นๆ เลยอยากให้ท่านทั้งหลายลองทดลองกันดู หากได้ผลอย่าง
ไรกรุณาแชร์ข้อมูลบ้างครับ
ไม่ทราบว่า ถ้าเรา toe in ให้จุดตัดอยู่ที่ตัวเราไว้อยู๋แล้ว แต่อยากจะลองวิธีใหม่นี้ตามหนังสือ โดยการเขยิบตัวเราไปด้านหน้า ให้จุดตัดมาอยู่ด้านหลังเรา แทนการ toe in ใหม่ จะได้ผลแบบเดียวกันไหม
-
การ toe in ลำโพง ผมเข้าไปอ่านในวะระเสริมที่พี่ตู่เอามาลงให้ครับ เขาบอกว่าเราๆส่วนใหญ่ วางตำแหน่งลำโพวห่างเกินไป และออกมาจากกำแพงน้อยไปนะครับ เพระฉะนั้น ถ้าพี่ๆบางท่านวางลำโพงห่างมากๆ จะต้อง toe in เข้ามาเยอะมากๆ อาจทำให้เสียงขาดความหนักแน่นไปด้วยนะครับ :)
-
ไม่ทราบเพื่อนๆที่เล่น 2 แชนแนลทั้งหลายเซ็ทอัพลำโพงโดยมีมุม Toe in อย่างไรกันบ้าง แต่เดิมแล้วผมโทอินน้อยมากประมาณว่าแค่ 10 องศา แต่พอได้อ่าน
Get Better Sound แล้วเค้าแนะนำให้ เมื่อ Toe In ลำโพงแล้วเส้นตั้งฉากจากกึ่งกลางลำโพงทั้งสองข้าง ยิงมาตัดกันหลังหัวเราที่จุดนั่งฟังประมาณ 1-2 ฟุต
เลยทดลองทำตามดูปรากฎว่า ให้ Stereo Image ดีกว่าเดิมมาก วง Orchestra ออกมาเป็นชั้นๆ เลยอยากให้ท่านทั้งหลายลองทดลองกันดู หากได้ผลอย่าง
ไรกรุณาแชร์ข้อมูลบ้างครับ
สำหรับผม ในการปรับลำโพงแต่ละคู่ แต่ละห้อง ไม่เหมือนกันครับ
- ในห้องทำงานของผม ลำโพงที่มีพอร์ต ออกด้านหลัง การโทอิน สำหรับผม
ไม่มีผลดีเลย ต้องปรับอะคูสติกใหม่ที่เดียว ถึงจะคุมให้เสียงต่ำได้น่าพอใจ
แค่โพกัสชัดขั้น เลื่อนเก้าอี้ไปซักฟุต สองฟุต ก็ไม่ดีเท่าอยู่ตำแหน่งเซ็นเตอร์
มันเครียด >:( เลยฟังหน้าตรง ดีกว่า ให้สเตริโอ มันลอยๆ ไปทั่วบริเวณ ทำงาน
ติดต่อกัน 5-6 ชั่วโมง ฟังเพลงตลอดมันมีความสุขกว่า :headphone
- ในห้องฟังของผม ที่ใช้เป็นห้องโฮมด้วย เอ็นเตอร์เทนด้วย ลำโพงตั้งพื้น
พอร์ตหน้า (ตามคู่มือของลำโพง รุ่นนี้เค้าบอกว่า ไม่ต้องการโทอินด้วยซ้ำ)
ถ้าโทอิน และนั่งฟังในตำแหน่งเซ็นเตอร์ ยอมรับในเรื่องมิติจริงๆ ได้ทุก
เรื่องตามแบบออดิโอไฟล์ แต่พอเพื่อนมาหลายๆ คน ผมไปนั่งตำแหน่งอื่น
กลับฟังไม่เพราะ มันเอียงแบบน่าเกลียดด้วยซ้ำ ก็เลยต้องกลับมาหน้าตรง
รวมทั้งต้องปรับอะคูสติกห้องใหม่อีก คราวนี้ไปนั่งหลังห้อง เล่นไพ่กัน 4
คนฟังเพลงได้ถึงเกือบเช้า d_d เพราะกว่า
ผมว่าการโทอิน มันเหมาะกับคนเอาจริงเอาจัง นั่งเฝ้าเพลงในตำแหน่งจำกัด
หรือห้องนี้ ฉันนั่งคนเดียว ประมาณนี้มากกว่า
ประสบการณ์สำหรับผม โทอินทุกครั้ง ต้องกลับมาหน้าตรงทุกครั้ง เพราะ
ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม มันให้มิติที่ผิดพลาด เลยขอแค่สเตริโอ
ฟังในแบบมิวสิคเลิฟเวอร์ นั่งได้นานกว่า อย่างน้อยมีความสุขกว่า เวลา
เพื่อนๆ ที่ไม่ได้คลุกคลีเรื่องเครื่องเสียง บอกว่า เพราะจังเลย :whistling
-
Setup ลำโพงไม่ต้องใช้จินตนาการครับ ความถูกต้องครับ ความถูกต้อง และก็ไม่เอาความชอบของแต่ละคน มาเป็นบันทัดฐานในการ Setup ลำโพง
ความชอบของแต่ละคนได้เลือกสรรค์มาแล้ว ก็คือชุดเครื่องของเรานี่แหละ ที่เหลือก็ดึงเอาความสามารถ และประสิทธิภาพออกมาให้หมดเปลือกมากที่สุด
หลายครั้งที่ผมเห็นมา ซื้อลำใหญ่มา เสียงเบสเขาว่ากันว่าลงต่ำมาก พอฟังเข้าจริง เบสหายไปใหนว่....ะ จากลำโพงใหญ่กายเป็นลำโพงเล็กซะฉิบ และเคยถามท่านที่เล่น ลำโพงใหญ่เหล่านั้น
ว่า ซื้อลำโพงใหญ่แล้วมาฟังแบบลำโพงเล็กวางขาตั้ง ทำไมไม่ไปเล่นลำโพงเล็กล่ะ อ๋อห้องเบสบวมนะ จบข่าว...(มีท่านนึงตอบ ผมรวยว่...ะ มึน...)
ที่ผมถามว่า Setup ลำโพงหาอะไร คำตอบก็ง่ายๆ คือหากจุดวางของลำโพงในห้องนั้นๆ ให้เสียงดีที่สุด จะ Toe In Toe Out หน้าตรงหน้าเชิด หันลีหันขวาง ยังไงก็ได้
สำคัญที่สุด คือหาตำแหน่งวางของลำโพงให้ได้ ขยายความอีกนิด ที่ว่าหาตำแหน่งลำโพงนั้น หมายความว่า เรา Setup ลำโพงจนไม่มีเสียงใดในห้องมากวนเสียงที่ออกมาจากลำโพง
หากทำได้เช่นนี้ เรา!ก็จะยินเสียงทุกอย่างที่ออกมาจากลำโพงนั่นแล เวที มิติ ความชัดเจน รายละเอียด ความเสมือนจริง Setup เข้าไปครับ เดี๋ยวก็เก่งเอง
ตำรามีไว้ให้อ่าน แต่เขาก็ไม่ได้บอกว่า สิ่งที่เขียนบอกไว้นั้น
เอ้ย! ห้ามไปทำแบบอื่นนะอย่างนี้ถูกต้องที่สุด
ทุกอย่าง ต้องทำ แล้วจะรู้ว่า ตำราคือ แนวทางการปฎิบัติ เท่านั้น
ผมก็อ่านตำราเหมือนกัน แต่ไม่ได้เชื่อเสียทุกอย่างที่ท่านเหล่านั้นเขียนไว้ ต่อยอดนะครับ ต่อยอด
+200 O0
-
กติกาการSetup Stereo หรือ Multi Channel คือไม่มีกติกา และ ไม่มีกฏเกณอะไรตายตัว
Martin Logan Toe In แทบไม่ได้ มุมฟังแคบมาก
Magnepan บางห้องต้อง Toe Out
Wilson Audio ลองไม่ทำ Toe In ดูซิครับ ว่าจะเป็นอย่างไร
MBL ยัง Toe In แนะ จะทำ ทำไม มุมกระจายเสียง รอบตัวอยู่แล้ว
Revel Ultima Series จะ Toe In หรือไม่ Toe In ก็ได้ อยู่ที่หอ้งว่า วางขวาง หรือวางตามแนวยาว
Avantgarde Acoustics ควรต้อง Toe In อะเปล่า
Usher Audio บางห้อง Toe In มาก บางห้องน้อยมาก
เห็นหรือยังว่า มันไม่มีกติกา ทำไปเถอะ เปิดดังๆแล้ว ไม่มั่ว ไม่บวม ไม่เบลอ ไม่แสบหู ยิงเปิดดังยิ่งมัน
เพลงพวก Orchestra วงใหญ่ๆ เปิดเบามันจะอินกับเพลงอย่างไร เปิดเสียงอ่อยๆ มันไม่หนุก ยิ่งดนตรีแสดงสดด้วยแล้ว เปิดเบาเสียมูดหมด
-
ไม่ทราบว่า ถ้าเรา toe in ให้จุดตัดอยู่ที่ตัวเราไว้อยู๋แล้ว แต่อยากจะลองวิธีใหม่นี้ตามหนังสือ โดยการเขยิบตัวเราไปด้านหน้า ให้จุดตัดมาอยู่ด้านหลังเรา แทนการ toe in ใหม่ จะได้ผลแบบเดียวกันไหม
ผมว่าถ้าทำอย่างนั้น ไม่น่าจะดีเท่าไรเนื่องจากระยะนั่งเราจะใกล้กับลำโพงมากขึ้นไปอีก
มีทิปอีกข้อที่ผู้เขียนให้ไว้ และ มันบังเอิญใกล้เคียงกับ Setup เดิมที่ผมทำไว้ คือ เค้าบอกว่าระยะความกว้างของลำโพงซ้ายขวา (จากเซ้นเตอร์ถึงเซ็นเตอร์)
ควรจะเป็น 80-83% ของ ระยะห่างจากทวีตเตอร์ถึงหูเราที่จุดนั่งฟัง ซึ่งของผมวัดดูแล้วได้ประมาณ 82% โดยเค้าบอกให้หาจุดนั่งฟังให้ได้ก่อนในจุดที่ให้เสียง
เบสสมูธที่สุด ในเคสของผมจุดนั่งฟังห่างผนังหลัง 4 ฟุต ผมว่าทิปนี้ก็ดีมีประโยชน์ ลองเอาไปใช้ดูกันครับ
นอกเหนือจากมุม Toe In แล้ว ผมว่าที่สำคัญไม่แพ้กันคือ จุดนั่งพัง ระยะลำโพงมาถึงหูฟัง และ ความห่างระหว่างลำโพงซ้ายขวา ที่ต้องสัมพันธ์กันด้วยครับ
-
ผมชบอบกระทู้นี้คับ ความรู้เยอะดีคับ
ความเห็นส่วนตัวผมว่าแล้วแต่ล่ะคนว่าชอบอย่างไร แต่การโทอินผมว่าเหมาะสำหรับห้องที่เล้กและจัด อคูสติดลำยาก เหมือนคุณ post girl ว่าล่ะว่า เอาง่ายเข้าว่าไว้ก่อน แต่อย่างที่คุณ m lex และ คุณ กุ้งสยาม ว่า ไม่แน่แล้วแต่ ปัจจัยมันเยอะ แต่ถ้าสัดส่วนห้องดีตำแหน่งดี อคุสติคในห้องลงตัว เห็นหลายท่านก็วางลำโพงหน้าตรงน่ะคับ สุดท้ายอยู่ที่การลองของแต่ล่ะท่าน และการชอบของแต่ล่ะบุคคลคล มันไม่มีสุตรสำเร็จอ่ะคับ
-
ผมชบอบกระทู้นี้คับ ความรู้เยอะดีคับ
ความเห็นส่วนตัวผมว่าแล้วแต่ล่ะคนว่าชอบอย่างไร แต่การโทอินผมว่าเหมาะสำหรับห้องที่เล้กและจัด อคูสติดลำยาก เหมือนคุณ post girl ว่าล่ะว่า เอาง่ายเข้าว่าไว้ก่อน แต่อย่างที่คุณ m lex และ คุณ กุ้งสยาม ว่า ไม่แน่แล้วแต่ ปัจจัยมันเยอะ แต่ถ้าสัดส่วนห้องดีตำแหน่งดี อคุสติคในห้องลงตัว เห็นหลายท่านก็วางลำโพงหน้าตรงน่ะคับ สุดท้ายอยู่ที่การลองของแต่ล่ะท่าน และการชอบของแต่ล่ะบุคคลคล มันไม่มีสุตรสำเร็จอ่ะคับ
Y] O0
เสี่ยอูฐออนทัวร์อยู่ที่ไหนครับ เที่ยวให้สนุกนะครับ :headphone
-
ผมเพิ่งลองเมื่อคืน
ผลที่ได้ส่วนใหญ่ ตามที่คุณ post-girl ว่ามาครับ
ชอบแบบไม่โทอิน...ตามที่ผู้ผลิตลำโพงแนะนำมากกว่าครับ
-
มาถึงตรงนี้ คิดว่าการที่หลายๆคนพูดถึงการ setup ลำโพง ในหลายๆแบบ
เช่น โทแบบไหน นั่งฟังตรงไหน จะมีมุมตัดกันในจุดไหน ตรงตำแหน่งนั่งพอดี
หรือให้ตัดกันเลยจุดนั่งไป
ก็เลยนึกว่า มันคงต้องแบ่งเป็น 2 ลักษณะ ในการวางตำแหน่งลำโพง
1. คือ ใช้สูตรสำเร็จ อย่างที่ว่ามา จุดนี้ การฟังเพลง จะอยู่ในแนว music lover คือเอา
ความพอใจเป็นตัววัด แต่ค่าเฉลี่ยในเพลงหลายๆแบบ อาจจะเจอ บางชุดดีบ้างไม่ดีบ้าง
ถ้าไม่ได้ใส่ใจ หรือ ค้นหาความเป็นดนตรี สุดๆ ก็จะได้ประมาณหนึ่ง
2. คือ การหาตำแหน่งที่ ลำโพงคู่นั้นๆ ทำงานได้ ดีที่สุด ก็คือการ finetune
ก็จะเข้าทางของนักเล่นเครื่องเสียงแบบจริงจัง ค้นหาความเป็นดนตรี ที่ เสมือนจริง
ที่อุตสาห์ เฟ้นหาอุปกรณ์ สายสัญญาณ ทำระบบไฟ ทำห้อง เล่นอุปกรณ์เสริม
คราวนี้ที่เราพยายามหา โฟกัสที่สุด ก็เพื่อหาเวทีเสียง หาตัวตน หารายละเอียดระดับลึกซึ้ง
ลำโพง 2 ข้าง จะทำอย่างไรให้ เสียงดังออกมาผสมกลมกลืนกันอย่างลงตัว ในทุกแนวเพลง
จนกลายเป็น 1 เวทีเสียงสมบรูณ์ มันก็ต้องค่อยๆขยับนิด ขยับหน่อย จนถึงจุด bingo
จะมีจุดเดียวในห้องนั้นๆ คุณค่าใน การรับรู้ในรายละเอียด จะต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงเลยกับ ข้อ 1.
-
เห็นด้วยกับพี่อูฐครับ ชอบกระทู้นี้ ความรู้ทั้งนั้น :clap
-
ผมชบอบกระทู้นี้คับ ความรู้เยอะดีคับ
ความเห็นส่วนตัวผมว่าแล้วแต่ล่ะคนว่าชอบอย่างไร แต่การโทอินผมว่าเหมาะสำหรับห้องที่เล้กและจัด อคูสติดลำยาก เหมือนคุณ post girl ว่าล่ะว่า เอาง่ายเข้าว่าไว้ก่อน แต่อย่างที่คุณ m lex และ คุณ กุ้งสยาม ว่า ไม่แน่แล้วแต่ ปัจจัยมันเยอะ แต่ถ้าสัดส่วนห้องดีตำแหน่งดี อคุสติคในห้องลงตัว เห็นหลายท่านก็วางลำโพงหน้าตรงน่ะคับ สุดท้ายอยู่ที่การลองของแต่ล่ะท่าน และการชอบของแต่ล่ะบุคคลคล มันไม่มีสุตรสำเร็จอ่ะคับ
Y] O0
เสี่ยอูฐออนทัวร์อยู่ที่ไหนครับ เที่ยวให้สนุกนะครับ :headphone
ตอนนี้ผมอยู่ภาค อีสาน คับ มาทำงาน เสียดายไม่ได้ไปบ้านเยี่ยมบ้านพี่ เลย
-
หนังสือของคุณ Jim Smite เป็นลักษณะหนังสือที่อ่านง่าย
มีภาพประกอบ บอกทริค ทุกอย่างที่จำเป็นในการจัดวางเครื่องเสียง
ซึ่งทุกคนสามารถทำตามได้โดยง่าย และเห็นผลอย่างชัดเจน
ซึ่งสามารถ นำมาปรับใช้กับชุดของเราได้เป็นอย่างดี (ซึ่ง พัฒนาไปสู่การจัดวางในแบบอุดมคติ)
ทุกๆ ท่าน อยากมีเครื่องเสียง ที่เที่ยงตรง มีห้องที่จัดระเบียบเสียงได้ดี
ไม่เก็บเสียงหมดจน Dead sound หรือ ก้อง เบลอ บวม
แต่เนื่องจากความสามารถในการเฟ้นหาเครื่อง แบบนั้น มันยาก
หรือแม้แต่การบันทึกเสียงก็ไม่ได้ถูกต้อง เที่ยงตรงเสมอไป
เราเลยต้องชดเชยด้วยการ set up ในส่วนต่างๆ ให้ใกล้เคียงของจริง
รวมถึงตำแหน่งในการวางลำโพงด้วย
ซึ่งการวางลำโพงแต่ละแบบจะวางแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับกำลังขับของแอมป์ด้วย
และยังหมายถึงการตีความในการจินตภาพของเสียงอีก
อย่างแอมป์ single end และ ลำโพงวางหิ้ง ไม่ควรวางลำโพงห่างกันมากนัก
เพราะกำลังของแอมป์ต่ำ เสียงอาจจะฉีดเฟสไม่ถึง
เน้นเพลงร้อง,เครื่องดนตรีธรรมชาติ ขนาดของเสียง จะเล็กเท่าของจริง ที่ไม่มีการขยายด้วยแอมป์
ส่วนแอมป์ push pull ดึงลำโพงห่างออกได้มากกว่า แต่อย่าให้โฟกัสหลุดออกจากกัน
ซี่งให้เวทีเสียงที่ใหญ่กว่า แต่ไม่ใช่แบบ ลำโพง PA แต่ใหญ่แบบเต็มห้องฟังคะ
คล้ายดั่งยกห้องอัดมาไว้ในห้องฟังเลย (Studio Live)
คือ ถ้าเปิด SHEFFIELD LAB แล้วจะเข้าใจการเซ็ทเสียงในลักษณะนี้ได้ง่าย
จะได้ สเกลเสียงหรือขนาดของเสียงใกล้ของจริง อย่าง กลองชุด
การวางลำโพง 2 channel จะว่าไปแล้ว เป็นสิ่งที่ยากที่สุดในระบบ
รวมถึงบ่งบอกความเป็นตัวตนของเจ้าของได้เป็นอย่างดี
และถ้าเซ็ทได้ถึงระดับคุณ กุ้งสยาม รับรอง กำแพง ก็ไม่เหลือ..ค่ะ
-
:clap :clap :clap ขอปรบมือให้คุณ post-girl ครับ นับเป็นผู้หญิงเก่งที่มีประสบการณ์ด้านเครื่องเสียง ที่หาได้ยากในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมาทีเดียว
ช่วยเล่าประวัติ ที่มาที่ไปการเล่นเครื่องเสียงของตัวเอง ในกระทู้นี้บ้างนะครับ http://www.htg2.net/index.php?topic=59626.0 (http://www.htg2.net/index.php?topic=59626.0)
-
การหาตำแหน่งที่ ลำโพงคู่นั้นๆ ทำงานได้ ดีที่สุด ก็คือการ finetune
ก็จะเข้าทางของนักเล่นเครื่องเสียงแบบจริงจัง ค้นหาความเป็นดนตรี ที่ เสมือนจริง
ที่อุตสาห์ เฟ้นหาอุปกรณ์ สายสัญญาณ ทำระบบไฟ ทำห้อง เล่นอุปกรณ์เสริม
คราวนี้ที่เราพยายาม หาโฟกัสที่สุด ก็เพื่อหาเวทีเสียง หาตัวตน หารายละเอียดระดับลึกซึ้ง
ลำโพง 2 ข้าง จะทำอย่างไรให้ เสียงดังออกมาผสมกลมกลืนกันอย่างลงตัว ในทุกแนวเพลง
จนกลายเป็น 1 เวทีเสียงสมบรูณ์ มันก็ต้องค่อยๆขยับนิด ขยับหน่อย จนถึงจุด bingo
จะมีจุดเดียวในห้องนั้นๆ คุณค่าใน การรับรู้ในรายละเอียด จะต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงเลยกับ ข้อ 1.
ตามนี้เลยครับ ที่คุณกุ้งสยามบอก O0
ชุดผมก็เคยจูนจนได้แบบนั้นในห้องนอน แต่ไม่คงทน เพราะไม่มีห้องฟังเพลงโดยเฉพาะ จึงได้มีการเปลี่ยนอุปกรณ์และตัวช่วยแบบต่างๆ เพิ่มเข้าหรือเอาออก โดยคาดหวังว่าจะให้เสียงที่ดีกว่าเดิม ทำให้ต้องปรับจูนหากันใหม่มาตลอด พบว่าบางทีก็ได้อะไรเพิ่มมาบางอย่างที่ดีกว่าเดิม แต่บางอย่างก็หายไปเช่นกัน เช่น ตอนนี้ได้ความสด ตัวตนชัดขึ้น รายละเอียดระดับลึกซึ้งที่มากขึ้น แต่การเป็น 1 เวทีเสียงยังไม่สมบรูณ์แบบนัก ในขณะที่ก่อนหน้านั้น ได้การเป็น 1 เวทีเสียงที่สมบรูณ์ใช้ได้มากๆเลย แต่ความสด กับรายละเอียดระดับลึกซึ้งกลับน้อยไป เป็นต้น
-
การ toe in มากขนาดนั้น จะใช้ได้ดี ในระดับนึง เพราะ
1.เซ็ทง่าย เป็นสูตรสำเร็จ (ในไทยเรียก ทฤษฎีเส้นด้าย)
2.ลดการก้องสะท้องจากฝาด้านข้างได้ดี
3.มิติด้านลึกจะชัดเจนมาก
4.ลดความกร้าวและการพุ่งตรงของเสียง(จึงสามารถเปิดได้ดังเพิ่มขึ้น)
5.ถ้าลำโพงหรือชุด เครื่องเสียง ที่มีเสียงจะแจ้งจนถึงจัด จะนุ่มลง
6.ใช้ได้ดีในห้องฟังที่มีปัญหา หรือเซ็ท แบบลำลองในห้องที่เปิดโล่ง
7.ลดอาการฟุ้งของเสียงได้ดี มีช่องไฟที่ดี และฟังได้ง่ายขึ้น
8.ใช้วิธีนี้ เซ็ทเป็นแนวทางของเสียงได้ดี และพัฒนาต่อไป จนได้สิ่งที่ดีกว่า
แต่ข้อเสีย ก็พอจะมีบ้าง
1.เวทีเตี้ยลง ซึ่งเกิดจากการหักล้าง ของ เฟส
2.มิติด้านลึก หลุดตู้ออกไปมากก็จริง แต่ทางด้านข้าง ลำโพงจะไม่ค่อยหลุดไป ด้านข้างเท่าไหร่ เท่าที่ควรจะเป็น(คือ เวทีแคบนั่นเอง)
เวทีเป้นรูปลักษณะ สี่เหลี่ยมคางหมู แทนที่จะเป็นครึ่งวงกลม ลักษณะโอบล้อมนิดหน่อย
3.รายละเอียดเสียงกลางแหลม และแหลม หายไปพอสมควร เนื่องจากโดนหักล้าง ซี่งกันและกัน จากทวีตเตอร์(ทำให้ฟังแล้วรู้สึกนุ่ม)
4.นักร้องคล้ายคุกเข่าร้องเพลง เสียงร้องลอยต่ำ แต่ถ้าฟังเพลงบรรเลง จะไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่
ขอแสดงความเห็นในกรณีเช่นนี้ ตามที่อาจารย์ไมตรีเคยย้ำไว้หลายครั้งว่า ลำโพงทุกตัวต้องทำ toe-in และจากที่ผมได้ทดลองเอง ผมเห็นว่าควรยึดการ toe-in เป็นหลักไว้แล้วไปแก้ที่จุดอื่นแทนดีกว่าครับ เพราะนั่นอาจเป็นการไปทำให้ฟ้องว่า การ fine tune ในจุดอื่นๆยังไม่สมบูรณ์ถูกต้องมากกว่านะครับ
1.และ 4. เวทีเตี้ยลง นักร้องคล้ายคุกเข่าร้องเพลง เสียงร้องลอยต่ำ ชุดผมก็ผมก็เป็น แต่พอ fine tune ทุกจุดได้ที่ พบว่านักร้องสามารถยืนร้อง สูงกว่าลำโพงได้ครับ และจากการตามอ่านผลการทดสอบของอาจารย์ไมตรี ก็พบว่า มีแอมป์ ซีดี(ทั้งเครื่องเล่น และ การบันทึกแผ่น) ลำโพง น้อยตัวนัก ที่จะสามารถให้มิติเสียงด้านความสูง ที่สูงกว่าลำโพงขณะนั่งฟังขึ้นไปเป็นเมตรจนถึงเพดานห้องได้ จึงน่าจะเป็นผลจากคุณภาพตัวเครื่อง หรือลำโพงเองด้วย ดังนั้นพอไปทำให้ทุกอย่างโพกัสชัด มันจึงไปฟ้องจุดบกพร่องดังกล่าว น่าจะถูกทางกว่าการไปแก้ให้เสียงฟุ้งๆ ลอยๆ ไม่มีโฟกัส
2.มิติทางด้านข้าง ลำโพงจะไม่ค่อยหลุดไป ด้านข้างเท่าไหร่ เท่าที่ควรจะเป็น(คือ เวทีแคบนั่นเอง) นี่ก็เช่นกัน หาก fine tune ทุกจุดได้ที่ จะทำให้ " เสียงที่ดังออกมาผสมกลมกลืนกันอย่างลงตัว ในทุกแนวเพลง จนกลายเป็น 1 เวทีเสียงสมบรูณ์ " เสียงเครื่องดนตรีและนักร้องจะสด สมจริง ความรู้สึกเกี่ยวกับห้องจะหายไป ก็จะไม่เกิดความรู้สึกเรื่องที่ว่า กว้าง หรือลึกน้อยไปได้ครับ รวมไปถึงก็จะไม่รู้สึกว่า รูปเวทีมีลักษณะเป็น สี่เหลี่ยมคางหมู หรือเป็นครึ่งวงกลม ลักษณะโอบล้อมนิดหน่อย ใดๆด้วย จิตใต้สำนึกจะลืมเรื่องห้องไปเลย อารมณ์จะไปสนใจแต่บทเพลงที่กำลังเล่นอยู่ ล่าสุดฟังจากรายการวิทยุของอาจารย์ไมตรี ก็ได้พูดถึง ความไม่เข้าท่าของการออกแบบอะไร ที่ไปตีให้เสียงกลายเป็นฝุ่นเสียง กระจายไปทั่วห้อง หรือทำอะไรที่ไปกระตุ้นความก้องของห้องให้ก้องมากยิ่งขึ้น เป็นเหตุให้ค่า s/n ของห้องลดน้อยลงไป ทำให้ฟังมิติเสียงแบบหลอกๆ
3.รายละเอียดเสียงกลางแหลม และแหลม หายไปพอสมควร (ทำให้ฟังแล้วรู้สึกนุ่ม) นอกจาก การ fine tune ให้ได้ที่ครบทุกจุดแล้ว ผมพบว่าสามารถแก้ไขได้ด้วยการลดการสั่นของอุปกรณ์ทุกตัว ทุกชิ้นให้ได้มากที่สุด ดูกระทู้นี้ครับ http://www.htg2.net/index.php?topic=58600.0 (http://www.htg2.net/index.php?topic=58600.0)
-
การ toe in มากขนาดนั้น จะใช้ได้ดี ในระดับนึง เพราะ
1.เซ็ทง่าย เป็นสูตรสำเร็จ (ในไทยเรียก ทฤษฎีเส้นด้าย)
2.ลดการก้องสะท้องจากฝาด้านข้างได้ดี
3.มิติด้านลึกจะชัดเจนมาก
4.ลดความกร้าวและการพุ่งตรงของเสียง(จึงสามารถเปิดได้ดังเพิ่มขึ้น)
5.ถ้าลำโพงหรือชุด เครื่องเสียง ที่มีเสียงจะแจ้งจนถึงจัด จะนุ่มลง
6.ใช้ได้ดีในห้องฟังที่มีปัญหา หรือเซ็ท แบบลำลองในห้องที่เปิดโล่ง
7.ลดอาการฟุ้งของเสียงได้ดี มีช่องไฟที่ดี และฟังได้ง่ายขึ้น
8.ใช้วิธีนี้ เซ็ทเป็นแนวทางของเสียงได้ดี และพัฒนาต่อไป จนได้สิ่งที่ดีกว่า
แต่ข้อเสีย ก็พอจะมีบ้าง
1.เวทีเตี้ยลง ซึ่งเกิดจากการหักล้าง ของ เฟส
2.มิติด้านลึก หลุดตู้ออกไปมากก็จริง แต่ทางด้านข้าง ลำโพงจะไม่ค่อยหลุดไป ด้านข้างเท่าไหร่ เท่าที่ควรจะเป็น(คือ เวทีแคบนั่นเอง)
เวทีเป้นรูปลักษณะ สี่เหลี่ยมคางหมู แทนที่จะเป็นครึ่งวงกลม ลักษณะโอบล้อมนิดหน่อย
3.รายละเอียดเสียงกลางแหลม และแหลม หายไปพอสมควร เนื่องจากโดนหักล้าง ซี่งกันและกัน จากทวีตเตอร์(ทำให้ฟังแล้วรู้สึกนุ่ม)
4.นักร้องคล้ายคุกเข่าร้องเพลง เสียงร้องลอยต่ำ แต่ถ้าฟังเพลงบรรเลง จะไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่
ขอแสดงความเห็นในกรณีเช่นนี้ ตามที่อาจารย์ไมตรีเคยย้ำไว้หลายครั้งว่า ลำโพงทุกตัวต้องทำ toe-in และจากที่ผมได้ทดลองเอง ผมเห็นว่าควรยึดการ toe-in เป็นหลักไว้แล้วไปแก้ที่จุดอื่นแทนดีกว่าครับ เพราะนั่นอาจเป็นการไปทำให้ฟ้องว่า การ fine tune ในจุดอื่นๆยังไม่สมบูรณ์ถูกต้องมากกว่านะครับ
1.และ 4. เวทีเตี้ยลง นักร้องคล้ายคุกเข่าร้องเพลง เสียงร้องลอยต่ำ ชุดผมก็ผมก็เป็น แต่พอ fine tune ทุกจุดได้ที่ พบว่านักร้องสามารถยืนร้อง สูงกว่าลำโพงได้ครับ และจากการตามอ่านผลการทดสอบของอาจารย์ไมตรี ก็พบว่า มีแอมป์ ซีดี(ทั้งเครื่องเล่น และ การบันทึกแผ่น) ลำโพง น้อยตัวนัก ที่จะสามารถให้มิติเสียงด้านความสูง ที่สูงกว่าลำโพงขณะนั่งฟังขึ้นไปเป็นเมตรจนถึงเพดานห้องได้ จึงน่าจะเป็นผลจากคุณภาพตัวเครื่อง หรือลำโพงเองด้วย ดังนั้นพอไปทำให้ทุกอย่างโพกัสชัด มันจึงไปฟ้องจุดบกพร่องดังกล่าว น่าจะถูกทางกว่าการไปแก้ให้เสียงฟุ้งๆ ลอยๆ ไม่มีโฟกัส
2.มิติทางด้านข้าง ลำโพงจะไม่ค่อยหลุดไป ด้านข้างเท่าไหร่ เท่าที่ควรจะเป็น(คือ เวทีแคบนั่นเอง) นี่ก็เช่นกัน หาก fine tune ทุกจุดได้ที่ จะทำให้ " เสียงที่ดังออกมาผสมกลมกลืนกันอย่างลงตัว ในทุกแนวเพลง จนกลายเป็น 1 เวทีเสียงสมบรูณ์ " เสียงเครื่องดนตรีและนักร้องจะสด สมจริง ความรู้สึกเกี่ยวกับห้องจะหายไป ก็จะไม่เกิดความรู้สึกเรื่องที่ว่า กว้าง หรือลึกน้อยไปได้ครับ รวมไปถึงก็จะไม่รู้สึกว่า รูปเวทีมีลักษณะเป็น สี่เหลี่ยมคางหมู หรือเป็นครึ่งวงกลม ลักษณะโอบล้อมนิดหน่อย ใดๆด้วย จิตใต้สำนึกจะลืมเรื่องห้องไปเลย อารมณ์จะไปสนใจแต่บทเพลงที่กำลังเล่นอยู่ ล่าสุดฟังจากรายการวิทยุของอาจารย์ไมตรี ก็ได้พูดถึง ความไม่เข้าท่าของการออกแบบอะไร ที่ไปตีให้เสียงกลายเป็นฝุ่นเสียง กระจายไปทั่วห้อง หรือทำอะไรที่ไปกระตุ้นความก้องของห้องให้ก้องมากยิ่งขึ้น เป็นเหตุให้ค่า s/n ของห้องลดน้อยลงไป ทำให้ฟังมิติเสียงแบบหลอกๆ
3.รายละเอียดเสียงกลางแหลม และแหลม หายไปพอสมควร (ทำให้ฟังแล้วรู้สึกนุ่ม) นอกจาก การ fine tune ให้ได้ที่ครบทุกจุดแล้ว ผมพบว่าสามารถแก้ไขได้ด้วยการลดการสั่นของอุปกรณ์ทุกตัว ทุกชิ้นให้ได้มากที่สุด ดูกระทู้นี้ครับ http://www.htg2.net/index.php?topic=58600.0 (http://www.htg2.net/index.php?topic=58600.0)
เรียนคุณ ZAX ค่ะ
ต้องขออภัยด้วยค่ะ จากข้อความข้างด้น
:secret Post-girl หมายถึงการ toe in มากจนเกินไป นั่นหมายถึงที่หนังสือ Get Better Sound แล้วเค้าแนะนำให้
เมื่อ Toe In ลำโพงแล้วเส้นตั้งฉากจากกึ่งกลางลำโพงทั้งสองข้าง ยิงมาตัดกันหลังหัวเราที่จุดนั่งฟังประมาณ 1-2 ฟุต
ไม่ได้หมายถึง toe in ที่ใช้ในลักษณะทั่วๆไป
ส่วนประวัติ ไม่ต้องลิ้งค่ะ
เริ่มมาจาก ชอบฟังเพลง แล้วก็เล่นดนตรี แล้วเป็นครูสอน(แต่สอนได้แค่เด็กๆ) มารู้ตัวเอาตอนเรียนจบหลักสูตรแล้วว่า
ไม่ชอบเครื่องดนตรี ที่เสียงผ่าน แอมป์ ชอบ เครื่องดนตรีธรรมชาติมากกว่า ก็เลยต้องหาเครื่องที่ให้เสียงเครื่องดนตรีแบบนั้น
หาไปหามา ก็เลยไปเจอะ แอมป์หลอดเข้า และๆๆๆๆๆ c) ตอนนี้ diy แอมป์ เสร็จไปแล้วตัวนึง c)
ส่วนแฟน ก็เป็นนักดนตรีเหมือนกัน ขอบเครื่องเสียงเหมือนกัน แต่ชอบทุกแนว
แต่ไอ้เรามันประเภท หูเปราะ ฟังไม่ได้ K] ฟังได้เฉพาะ เครื่องดนตรีธรรมชาติ กับเพลงร้อง เลยต้องหัดเซตเพื่อให้โฟกัสของเสียงร้องมัน
ขึ้นสูงเท่าปากเปล่า
body ของเครื่องดนตรี ยิ่งสำคัญ เพราะต้องสัมพันธ์กับ โฟกัส ทั้งขนาด และโทน และไดนามิค ฮาร์โมนิค ก็ตามมาเมื่อ ฟังเป็นขึ้น
แต่ทุกวันนี้ ก็ยังถือว่าเป็นเด็กใหม่อ่อนหัดอยู่ ??? ต้องศึกษาให้มากกว่านี้ (ถึงชอบเข้ามาอ่านหาความรู้ในนี้ค่ะ)
-
:secret Post-girl หมายถึงการ toe in มากจนเกินไป ไม่ได้หมายถึง toe in ที่ใช้ในลักษณะทั่วๆไป
อ๋อ เป็นความเข้าใจผิดของผมเองที่อ่านไม่รอบคอบ จึงตีความผิดไป ต้องขออภัยเป็นอย่างสูง :black_eye
มิน่า.. มีเพียงเรื่องนี้ที่ผมสงสัย แต่เรื่องอื่นๆที่คุณ post-girl โพสต์มา ทำให้ผมนับถือครับ :clap :clap
ต้องถือว่าเป็นความได้เปรียบ ที่ได้ฟัง-เล่นของจริงมา แถมเป็นผู้หญิงที่สร้างเครื่อง DIY ได้เองด้วย นับถือ นับถือ
กอปรกับ สามารถ ใช้คำพูด อธิบายเกี่ยวกับ เรื่องของเสียงได้อย่างคนรู้จริง ยอดเยี่ยมครับ
ผมจึงยกให้เป็นผู้หญิงเก่งด้านเครื่องเสียงที่หาได้ยากในรอบหลายสิบปีนี้ เพราะไม่เคยได้พบได้ยินว่ามีอยู่ที่ไหนมาก่อน O0 O0 O0
ไว้ช่วยมาโพสต์ มาร่วมวิจารณ์ใน ห้องโฮมเธียเตอร์นี้เยอะๆบ้างนะครับ เพราะมักไปเห็นแต่ใน ห้องสบายๆ..มุม พักผ่อน (relax) ฮิ ฮิ :bye1
-
:) ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ คุณ ZAX :)
:secret Post-girl อาจจะชอบแฝงตัวใน มุม relax มากไปหน่อย เพราะที่นั่น ตลกดี คุยสบายๆ :whistling
เพื่อนผู้หญิง ที่รู้จักกันจากมุมนั้น ก็มีมากกว่า มุมอื่น
เวปเครื่องเสียงเวปแรก ที่สมัครคือ เวป อ.ศานิต แต่ก็ไม่ได้เล่น K]
พอดี เจอะเวปนี้เข้ามีมุมตลก เลย ได้ครบเลย ทั้ง ฟังเพลง diy มุมตลก :yahoo :yahoo :yahoo
ส่วนภาษาเขียน นั้น....หันไปถามแฟนอีกทีค่ะ... :giveup
แต่ว่า ถ้าเป็นเรื่องของ ดูหนังแล้ว ขอบอกว่า N] ไม่มีความรู้ซักกะนิดเดียว จริงๆนะ N]
-
เข้ามาชื่นชมคุณ post-girl อีกคน
เป็นผู้หญิงแต่ DIY เครื่องหลอดและสำเร็จด้วย แสดงว่าต้องใจรักมากๆเลยครับ
ผมขอถามความคิดเห็นนิดนึงครับ
ทำไมผู้หญิงถึงหาผู้ที่สนใจเครื่องเสียงได้น้อยเต็มทีครับ
ทั้งๆที่ก็รักการฟังเพลงก็เหมือนๆกับผู้ชาย
คุณ post-girl น่าจะอธิบายเรื่องนี้ได้ดี
-
:sorry ถ้าขอตอบตามความเห็นส่วนตัวนะคะ(ผิดพลาดขออภัยค่ะ)
1.ผู้หญิงที่อาจจะสนใจมากๆ แต่ไม่เจอะคนที่ คุย/ปรึกษาได้ เคยถามตัวเองหมือนกันว่า ทำไมเวปเครื่องเสียงมีแต่ผุ้ชาย
(ตอนสมัครแรกๆ ไม่รู้จริงๆนะคะ) ทั้งๆที่ผู้หญิงก็ชอบฟังเพลงเหมือนกัน แต่อาจจะชอบต่างแบบกันไปของแต่ละคน
การบันทึกแผ่นเพลงของไทย ขออนุญาตบอกว่า ไม่ค่อยประทับใจนอกจากเพลงโบราณที่อัดสด เลยทำให้
ไม่มีโอกาสได้ฟังอย่างจริงจัง (หรือแม้แต่ บางคนอาจจะไม่ได้มีโอกาสเล่น เลยไม่รู้ว่า เครื่องดนตรี unplug และอัดสด น่ะ เพราะแค่ไหน)
และอาจจะขออนุญาตบอกตรงนี้ว่า เมืองไทย น่ะ ส่งเสริมการเล่นดนตรีน้อยมากๆ
ต้อง เสียเงินเรียน เสียเงินซื้อเครื่องดนตรีเอง(ในราคาแพง) นักเรียนเอาเวลาวันเสาร์เรียนพิเศษแทนที่จะไปเรียนดนตรี
ที่เขากำหนดไว้ในหลักสูตร แข่งกันเรียนมากกว่า ที่จะเอาเวลาไป หาสิ่งที่ตัวเองชอบ
(อันนี้เป็นข้อแรก ที่ post-girl อาจจะต่างจาก เพื่อนนักเรียนผุ้หญิงคนอื่น)
2. ส่วนเรื่อง diy น่ะ อาจจะเป็นเพราะว่า อินเตอร์เนตกว้างขึ้น มีหลากหลายให้เราเลือกที่จะอ่าน เคยอ่านบอร์ดทั่วๆไป
แล้วรู้สึกว่า มีแต่สิ่ง เศร้า บรรยาย ความทุกข์ ด่าทอกันบ้าง พลอยเศร้าไปกับเขาด้วย เลยเลือกที่เล่นบอร์ดเครื่องเสียงแทนดีกว่า
ใกล้ตัว เพราะตัวเองยังต้องหาความรู้เพิ่ม
แต่ต้องอ่านด้วยใจจริงๆ แอมป์ตัวแรกที่ต่อ เรียกว่า จับต้นชนปลายไม่ถูก วงจรคืออะไร หัวแร้งหน้าตาเป็นยังไง ตะกั่วคืออะไร ฯลฯ
ต้องตื่นแต่เช้า(วันหยุด) มานั่งอ่าน pm คุยกับคนนั้นคนนี้ เพราะลุกยังไม่ตื่น ร้านยังไม่เปิด
:headphone :headphone
สรุปสั้นๆ post-girl ได้เปรียบกว่า ผู้หญิงอีกมากมาย มี ผู้หญิงอีกหลายคนที่ชอบ แต่ไม่สามารถทำได้
อาจจะเพราะ ติดด้วยเหตุผลส่วนตัว(ที่สำคัญกว่า) งานอดิเรก
ขอยืนยันว่า ถ้ามีผุ้หญิงที่ ได้จับเครื่องดนตรี unplug หรือชนิดไหนก็ได้ ด้วยใจรัก
จะมีผู้หญิงอีกมากมายที่อยู่ตามบอร์ดเครื่องเสียง
....... Y] Y] Y] Y] Y] ........
-
ว้นนี้ไปเปิดเจอที่เว็ปเพื่อนบ้านมาครับ http://www.audio-teams.com/webboard/?ca1=16&id=92150 (http://www.audio-teams.com/webboard/?ca1=16&id=92150)
ขออนุญาตินำบางส่วนมาลง คุณยุทธพงศ์ ลิ้ม ตอบไว้ดังนี้
- ผู้ผลิตลำโพง ทดสอบลำโพงโดยวัดผลในห้องไร้เสียงสะท้อน ไมโครโฟนจะวางอยู่ในแนวแกน (หน้าลำโพงยิงตรงเข้าหาไมค์ ทำมุม 90 องศา)
- ป้อนสัญญาณเสียงความถี่ 1,000 เฮิรตซ์ ด้วยกำลังไฟ 1 วัตต์ (2.83 โวลต์) วัดผลเป็นความความไวลำโพงกี่ดีบีก็ว่ากันไป
- ในรูปแบบเดียวกัน ก็จะวัดช่วงความถี่ทั้งย่านออดิโอ 20 - 20,000 เฮิรตซ์ แล้วดูกราฟความถี่เสียงว่าราบเรียบขนาดไหน มีความเพี้ยนเท่าไหร่
- ในแนวแกน ความเพี้ยนของลำโพงจะต่ำมาก ไม่เกิน 0.1% แต่นอกแกนออกไปสัก 30 องศา ลำโพงส่วนใหญ่ (เน้นว่าส่วนใหญ่ ไม่ใช่ลำโพงทุกรุ่น) จะมีความเพี้ยนของเสียงสูงกว่า 5% เมื่อเทียบกับในแนวแกน
- ความเพี้ยนโดยรวม (Total Hamonics Distrotion หรือ THD) 0.1% กับ 5% ต่างกัน ... 50 เท่า!!!
- ดูตามรูปประกอบ แนวแกนคือลูกศรสีแดง (ความเพี้ยนต่ำ) นอกแกนคือลูกศรสีเขียว (ความเพี้ยนสูง)
- การจัดวางลำโพงแบบแรกใน *** ห้องฟังที่ไม่ได้ออกแบบมาเฉพาะเพื่อการวางลำโพงหน้าตรง *** จึงเป็นการฟังเสียงที่มีความเพี้ยนของสัญญาณมากกว่าการโทอิน เพื่อยิงเสียงตรงเข้ามาหาตำแหน่งนั่งฟังในแบบที่สอง
- ในการจัดวางจริง ในสภาพห้องจริง ลำโพงยุคใหม่ออกแบบให้มีมุมกระจายเสียงที่กว้าง องศาการโทอินจึงไม่ไดอิงตามหลักการข้างต้นเสมอไป จึงให้พิจารณาสัดส่วนมิติด้านลึกประกอบกัน เพราะเสียงกว้างแต่ด้านลึกปรากฏเพียงบางเบา เรียกว่า "เสียงแบน"
- เวทีกว้าง รุ่มรวยบรรยากาศ กับ เสียงฟุ้ง ฟังเผินๆอาจตีความคล้ายกัน พิจารณาได้จากการรักษาช่องไฟระหว่างบทเพลง (น้ำเสียง) ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับการสร้างมิติเสียงคือ ช่องว่างระหว่างชิ้นดนตรีต่างๆ มีความนิ่งมั่นคงในการครองตำแหน่งหรือไม่
- เสียงเพี้ยน ฟังดังไม่ได้ ฟังเบาไม่ดี ฟังได้ระดับความดังแคบๆอยู่ช่วงเดียว
- เสียงไม่เพี้ยน ฟังได้ดีในทุกช่วงความดัง
-
Setup Level
Beginner Setup เริ่มต้น
Basic Setup เล่นมาพักนึง
Advance Setup รู้เรื่อง มากน้อยอยู่ที่ความเข้าใจ
professional Setup ไม่มีอะไที่ทำไม่ได้
-
ขอประชาสัมพันธ์หน่อยนะครับ ตอนนี้มีวางจุดจำหน่ายเพิ่มรวมเป็น 4 ร้านที่สามารถหาซื้อ Get Better Sound ได้นะครับ
ร้านDiscovery HiFi Tel: 085-517-8292
ร้าน Bom Bom Fortune ชั้น 3 Tel: 081-459-8676
ร้านตาล Hifi Center ชั้น 1 Tel: 081-801-4224
ร้าน INT Central World ชั้น 4 ฝั่ง Zen Tel: 02-613-1737
ขอบคุณครับ
วิเชียร