HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม โฮมเธียเตอร์ (HT) => ข้อความที่เริ่มโดย: ช้าง ที่ 06 กุมภาพันธ์, 2010, 11:25:40 am
-
ปัญหาเรื่องสายไฟนี้ เป็นปัญหาที่เกินขึ้นบ่อยในบ้านครับ
ใน CES SHOW 2009 ที่ผ่านมา มีการแสดงจอ LCD ขนาด 32" เปิดโชว์ได้โดยไม่มีสายไฟครับ
เป็นเรื่องที่กำลังจะมีมาขายทั่วไปในอนาคตอันใกล้นี้ แต่ราคาก็คงว่ากันอีกทีครีบ :)
ผมเป็นคนนึงที่กลัวๆกล้าเรื่องนี้ครับ การส่งสัญญานไร้สาย แรงสูงขนาดสามารถเปิดใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านเราได้นี่ คงยอมรับได้ยากจริงๆครับ
คงเป็นคนท้ายๆที่ยอมเอาเข้ามาใช้ในบ้านแน่ๆเลย :D
Wireless Power and Electricity Coming Soon!
http://www.audioholics.com/news/industry-news/wireless-power-electricity-1
Chinese manufacturer Haier decided to steal the show at CES this week by showing off a 32-inch TV set at CES that is running completely wirelessly. And when we say completely... we mean COMPLETELY. In addition to wireless HDMI transmission the 32-inch TV is also receiving wireless POWER. Look, Ma, no wires. No, seriously.
Haier is working with WiTricity's wireless electricity technology and is setting themselves up to be the first to deploy an actualTV set with true embeeded wireless power within the next couple of years. While the shipping products may take a while to shrink down in cost and size to marketable levels, the technology was on display for anyone in the press to see.
WiTricity uses specially designed magnetic resonators in both the device and the power source to efficiently transfer power through what it refers to as a "magnetic near-field". Once you tune the two power resonators together they can transmit electricity - and do it without burning down the house or causing brain tumors (bonus!)
Beta News even has some video of the wireless power system.
This approaches allows for safe power transfer as well as extended reach many times the size of the device. It can also move around objects in the way, and Haier demoed the model with obstructions so as to ensure the system doesn't require a pristine setting in order to work.
Last year, WiTricity showed a proof of concept, but this year;'s CES Exhibit was the first time they demoed a working model in public.
This will truly redeine the concept of what a "wireless" product means. If the system can power more efficient televisions and other media devices wirelessly, then interior design has just taken a whole new step forward.
-
แรกๆ ก็คงกลัวกันบ้าง แต่ผมว่าใช้เวลาสักพักเครื่องใช้ไฟฟ้าเกือบทั้งหมดคงเป็นแบบไร้สาย
พูดไปก็คล้ายๆ สัก 20 ปีที่แล้วที่โทรศัพท์มือถือยังไม่นิยมมากนัก ราคาก็แพงหายห่วง บวกคนจะใช้ก็กลัวว่าความแรงของสัญญาณจะมีผลกระทบกับผู้ใช้ ดูเดี๋ยวนี้สิพกกันทั้งเมือง
หรืออีกตัวอย่างก็พวก Net ไร้สาย หรือ wi-fi ตอนนี้ใช้กันเยอะแยะไม่เห็นคนบ่นว่ากลัวกันมั่ง
-
จำได้ สมัยก่อน ป๊ะป๋า พก โทรศัพท์ รุ่น กระดูกหมา ไม่รู้แบตมันเป็นยังไง แต่ถือไปไหนมาไหน โมโหใคร ทุบกระโหลกได้เลย แบบในหนังฮ่องกง ;D
เดี๋ยวนี้ คลื่นมันเยอะไปหมด ใครชอบเอา มือถือใส่ในกางเกง ระวังคลื่นมาจะไป อ่ะจื๊ด อ่ะจิ๊ด ก่อกวน น่ะคร๊าบบบบ ( ยิ่งเผลอเปิด บูลทูช ด้วย ยิ่งไปกันใหญ่ ห่างกันไม่ถึง คืบ ดีนะมองไม่เห็นคลื่นสัญญาณ :cold )
-
ดู ๆ แล้ว ระบบ ไร้สายนี่ คงมาแทนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้า ซึ่งคงจะมาในอนาคตอันใกล้นี้ เชื่อว่า ไม่นานนัก สายสำโพง สายสัญญานก็จะตามกันมา
-
(http://images.betanews.com/media/4316.jpg)
ใช้การแปลงไฟฟ้า -> คลื่นแม่เหล็ก -> ไฟฟ้า อืม!.... :think1
-
เคยอ่านมานานแล้วครับ การจ่ายไฟฟ้าแบบไร้สาย
ในเมืองไทยก็เหมือนมีคนวิจัยเรื่องนี้อยู่
โลกอนาคตอันใกล้น่าสนใจมากๆ ครับ
:)
-
สุดยอดเลย
-
ดีครับ จะได้เลิกรกรุงรัง(สาย)ซะที :clap
-
ดีครับ จะได้เลิกรกรุงรัง(สาย)ซะที :clap
ระวัง ต้องแลกมาด้วยมะเร็งนะครับ และต้องมาเสียเงินแก้ Noise กันบาน
-
มันคงแรงน่าดูนิ จะจั๊กจี้ไหมหว่า
-
ก็คงได้เฉพาะอุปกรณ์บางอย่างอ่ะครับ ที่กินกำลังไฟไม่มาก
ถ้าเป็นประเภทหม้อหุงข้าว แอร์ เครื่องทำน้ำร้อน ยังไงผมก็ว่ามันต้องพึ่งสายไฟอยู่
ไม่งั้นช่างไฟแย่แน่ๆ :'(
-
ถ้าเกิดใส่สร้อยคอเส้นโตๆ แล้วบังเอิญไปเดินตัดเส้นแรงแม่เหล็ก :o
สร้อยมันไม่ถูกเหนี่ยวนำไปด้วยหรือครับ :cold
-
ถ้าได้อย่างนี้ก็ดีเลยครับ
ในที่สุดก็มีคนคิดออกมาจนได้
ลองคิดถึงรถยนต์พลังไฟฟ้าไร้สายดูสิครับ
work เลยอะไม่ต้องเติมน้ำมัน
เออ แล้วถ้าบ้านติดๆ กันมันจะคิดค่าไฟยังไงหว่า
-
บทความข่าวสารที่เป็นภาษาไทย เรื่องไฟฟ้าไร้สาย ก็มีครับ อยู่ในหนังสือ Chip เมื่อซัก 2 เดือนก่อนแล้วครับ :secret ก็เป็นนวัตกรรมอย่างหนึ่ง ยังเป็นเหมือนเครื่องต้นแบบอยู่ (เหมือนรถต้นแบบ เพื่อการต่อยอด) แต่ไอ้ที่เราพะวงและสงสัยในประเด็นต่างๆ นั้น ไม่ต้องไปคิดหรอกครับ คนที่พัฒนาเค้ามีพิมพ์เขียวในการพัฒนาอยู่แล้ว ใครที่อยู่ฝ่ายวิจัยและพัฒนาน่าจะรู้ดี เรื่องความปลอดภัยกับเรื่องคุณภาพ ผมว่ามันเป็นพื้นฐานที่อยู่ในพิมพ์เขียวอยู่แล้ว สิ่งที่จะใช้ประโยชน์ในโลกมนุษย์ต่อไปนั้น โดยส่วนใหญ่ "ต้อง" เทียบเท่ากับปัจจุบันเสมอในทุกๆ ด้านครับ ไม่มีแย่กว่าหรอก :secret