HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม Thai DIY Audio => ข้อความที่เริ่มโดย: Mr. Tube ที่ 01 มีนาคม, 2010, 04:04:43 pm
-
ผมได้มีโอกาสดูเค้าแกะ OPT Jadis Orchestra Reference เมื่อไม่นานมานี้ ก็เลยจดเอาโครงสร้างขดลวดมาแบ่งให้ศึกษากันครับ
รูปนี้เอามาจากกระทู้เก่า http://www.htg2.net/webboard2/view.php?No=15794
(http://www.htg2.net/webboard2/data/imagefiles/R15794-7.jpg)
ส่วนอันนี้รูปโครงสร้างขดลวดครับ แสดงจำนวนรอบ, ขนาดลวด, การเรียงชั้นของขดลวดและขาต่อใช้งานต่างๆ ครับ ขนาดแกนไม่ได้วัดมาด้วยครับ :bye1
-
ขอบคุณท่าน Mr.Tube ครับ
ถอดรหัสได้เล็ก ๆ ว่า หม้อแปลงนี้ อิมพิแดนซ์ประมาณ 6K อัลตราลิเนียร์ 50% ของจำนวนรอบ แบบนี้ มือพันทั้งหลายในเวบเราบอก ไม่ยาก
-
ขอบคุณท่าน Mr.Tube ครับ
ถอดรหัสได้เล็ก ๆ ว่า หม้อแปลงนี้ อิมพิแดนซ์ประมาณ 6K อัลตราลิเนียร์ 50% ของจำนวนรอบ แบบนี้ มือพันทั้งหลายในเวบเราบอก ไม่ยาก
ขนาดของแกนน่าจะเป็นเท่าไรครับ
-
ใครกล้าแกะเนี่ย นายแน่มาก ที่ยอมทิ้งของราคาแสน หรือว่ามันขาดแล้วเอ่ย
ยังงงๆ กับหัวลูกศรทิศทาง B+ กับ P2 นะครับ
-
:help ทำไมมันธรรมดามากๆเลย ของ ซันซุย ซับซ้อนกว่านี้เยอะเลย
-
อาจารย์อาร์ต น่าจะพันแจกคนละ2คู่นะครับ ;D 2f 2f 2f
-
ดู แล้ว ไม่ซับซ้อนอะไร แต่มันต้องมีอะไรสักอย่าง ไม่อย่างนั้นราคาคงไม่...
แต่ยังงงๆ กับการต่อนิดหน่อย
-
:help 4.2k หรือเปล่า pri=swg30,,,,,sec=swg23
-
ขอบคุณครับ Mr.Tube ดูเค้าใช้ลวดเบอร์ใหญ่นะครับ แล้วเค้าใช้กระดาษรองแต่ละชั้นเป็นอย่างไรบ้างครับ พอจะจับลักษณะพิเศษของ PP OPT นี้ได้หรือเปล่าครับ ผมดูจาก Diagram แล้วก็ไม่เห็น :) แต่ตอนที่ดูจากของจริงไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรบ้างครับ
-
O0 O0
ผมว่าไอ้เรื่อนแสนมันคงจะเจอค่าแรงพันหม้อแปลง กับhardwireของฝรั่งเข้าให้นะซิครับ ชั่วโมงล่ะ 1000บาท :whistling
-
ขอบคุณครับ คุณอาร์ต
แกนเหล็กเป็นแบบไหน ขนาดเท่าใดครับ
-
วันนี้ Mr.tube ลงมือเองเลย .... ;D ;D ;D สมใจนักปั่น(หม้อ) ว่าง ๆ เอาเคล็ดลับของหม้อคู่ที่เคยยกมาลองที่บ้านผม มาเปิดเผยมั่งนะครับ
-
ขนาดของแกนน่าจะเป็นเท่าไรครับ
ผมไม่ได้วัดขนาดจริงมาครับ ประเมินด้วยสายตาประมาณเบอร์ 32 ของบ้านเราครับ
-
ใครกล้าแกะเนี่ย นายแน่มาก ที่ยอมทิ้งของราคาแสน หรือว่ามันขาดแล้วเอ่ย
ใช่ครับ แกะของเสียน่ะครับพี่
ยังงงๆ กับหัวลูกศรทิศทาง B+ กับ P2 นะครับ
หัวลูกศรผมเขียนไล่ลำดับการต่อขดลวดจาก P2 ไป P1 ครับ ตรง B+ จึงออกมาจากขดนึงและวิ่งไปเข้าอีกขดนึงครับ :)
-
อาจารย์อาร์ต น่าจะพันแจกคนละ2คู่นะครับ ;D 2f 2f 2f
ไว้ถูก Lottery เลขชุด แล้วจะพันแจกซัก 10 คู่นะครับ 2f 2f
-
ดู แล้ว ไม่ซับซ้อนอะไร แต่มันต้องมีอะไรสักอย่าง ไม่อย่างนั้นราคาคงไม่...
ที่คิดว่า -ต้องมีอะไรซักอย่าง- นี่ดีแล้วครับ ก็ตั้งข้อสังเกตเพื่อคิดและศึกษากันต่อไป แต่แนะนำว่าอย่าเอาไปเชื่อมกับราคาเลยครับ มันจะหลงทางเปล่าๆ ครับ ให้ดูที่คุณค่าของมันครับ ระวังอย่าไปหลงกับมูลค่าของมันครับ ผมว่ามันคนละเรื่องกันครับ (GT200 ไง ;D ;D)
:help 4.2k หรือเปล่า pri=swg30,,,,,sec=swg23
ตามที่คุณ krupohn คำนวณเอาไว้ครับ 6k plate to plate 50% SG tab ครับ
-
ขอบคุณครับ Mr.Tube ดูเค้าใช้ลวดเบอร์ใหญ่นะครับ แล้วเค้าใช้กระดาษรองแต่ละชั้นเป็นอย่างไรบ้างครับ พอจะจับลักษณะพิเศษของ PP OPT นี้ได้หรือเปล่าครับ ผมดูจาก Diagram แล้วก็ไม่เห็น :) แต่ตอนที่ดูจากของจริงไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรบ้างครับ
ในขดไม่มีการรองฉนวนครับ ฉนวนระหว่างขดเป็น Craft Paper ครับ Primary มีการเรียงเส้นขึ้นมาเป็น Layer แต่ก็ไม่ได้เป็นระเบียบเป๊ะๆ มากนักครับ เท่าที่ผมเห็นไม่มีอะไรพิเศษหรือแปลกครับ ที่พวกเราพันเอามาอวดกันบน Web ยังสวยกว่าครับ แต่ก็ว่าไม่ได้หรอกครับ ของเค้ามันอาชีพ เรามันงานอดิเรก :)
จริงๆ เค้าบอกหลายเดือนก่อนมีของ McIntosh มาให้แกะลูกนึง ที่เป็น Cathode Feedback น่ะครับ ไม่แน่ใจว่า 240 หรือ 275 แต่หาที่จดไว้ไม่เจอก็เลยอดเอามาให้ดูกันครับ เสียดายอันนี้กว่า :'(
-
ขอบคุณครับ คุณอาร์ต
แกนเหล็กเป็นแบบไหน ขนาดเท่าใดครับ
สีเทา ผิวเรียบ คล้ายเหล็กของคุณ Mcgyver ครับ (เข้าใจว่าคุณสมชาย ที่รับพัน OPT ใช้อยู่ครับ) คะเนความหนา น่าจะ 0.35mm ครับ :)
-
ขอบคุณครับ ที่ชี้แนะ ศาสตร์ แขนงนี้มันน่าสนใจตรงนี้แหล่ะ มันให้เราคิด ให้เราคาดคเนแล้ว เราก็ลองปฏิบัติจากสมมติฐาน เหล่านั้น.......
พี่ประสานหาให้เจอนะ.....พยายามเข้า :showoff
-
วันนี้ Mr.tube ลงมือเองเลย .... ;D ;D ;D สมใจนักปั่น(หม้อ) ว่าง ๆ เอาเคล็ดลับของหม้อคู่ที่เคยยกมาลองที่บ้านผม มาเปิดเผยมั่งนะครับ
คู่ไหนครับ ผมจำไม่ได้แล้ว ยกไปบ้าน อ.Mc วาระไหนหรือครับ จริงๆ ไม่มีความลับอะไรหรอกครับ พวกเทคนิคหลักๆ ที่ใช้ ก็อยู่ในบทความการออกแบบฯ และใน DIY Journal ทั้งหมดแล้วครับ แต่ที่ถามโครงสร้างแล้วไม่ค่อยบอกทันทีก็เพราะจำไม่ได้ครับ แต่หลายๆ ลูกผมจะจดโครงสร้างเอาไว้ครับ
คืออันที่จริงผมก็เอาเทคนิคพวกนั้นผสมผสาน แล้วก็ทดสอบสิ่งที่คิดไว้ในการออกแบบ OPT แต่ละครั้งน่ะแหล่ะครับ ผมจึงไม่เคยทำหม้อแปลงที่เหมือนกันลูกที่ 3 ครับ ตอนนี้น่าจะกว่าครึ่งร้อยแบบเข้าไปแล้วครับ บางทีก็ทดสอบโครงสร้าง บางทีก็ทดลองวัสดุ บางทีก็มั่วมันรวมกันเลย ;D จำไม่ได้จริงๆ หรอกว่าลูกไหนเป็นยังไงครับ แต่ถ้าค้นเจอที่บันทึกไว้ก็จะอธิบายให้ทราบได้ครับ ;)
-
อย่าง Mr.tube ยังมีมั่วอีกเหรอครับ ส่วนใหญ่ เท่าผมติดตามอ่านที่ Mr.tube ตอบกระทู้ ก็จะเป็นไปในทางวิชาการมากกว่า....
-
วันนี้ Mr.tube ลงมือเองเลย .... ;D ;D ;D สมใจนักปั่น(หม้อ) ว่าง ๆ เอาเคล็ดลับของหม้อคู่ที่เคยยกมาลองที่บ้านผม มาเปิดเผยมั่งนะครับ
คู่ไหนครับ ผมจำไม่ได้แล้ว ยกไปบ้าน อ.Mc วาระไหนหรือครับ จริงๆ ไม่มีความลับอะไรหรอกครับ พวกเทคนิคหลักๆ ที่ใช้ ก็อยู่ในบทความการออกแบบฯ และใน DIY Journal ทั้งหมดแล้วครับ แต่ที่ถามโครงสร้างแล้วไม่ค่อยบอกทันทีก็เพราะจำไม่ได้ครับ แต่หลายๆ ลูกผมจะจดโครงสร้างเอาไว้ครับ
คืออันที่จริงผมก็เอาเทคนิคพวกนั้นผสมผสาน แล้วก็ทดสอบสิ่งที่คิดไว้ในการออกแบบ OPT แต่ละครั้งน่ะแหล่ะครับ ผมจึงไม่เคยทำหม้อแปลงที่เหมือนกันลูกที่ 3 ครับ ตอนนี้น่าจะกว่าครึ่งร้อยแบบเข้าไปแล้วครับ บางทีก็ทดสอบโครงสร้าง บางทีก็ทดลองวัสดุ บางทีก็มั่วมันรวมกันเลย ;D จำไม่ได้จริงๆ หรอกว่าลูกไหนเป็นยังไงครับ แต่ถ้าค้นเจอที่บันทึกไว้ก็จะอธิบายให้ทราบได้ครับ ;)
คู่ เอามาฟัด ซีคอ ที่ยกมาเทียบกับทามูระในงานที่บ้านผมไงครับ
-
วันนี้ Mr.tube ลงมือเองเลย .... ;D ;D ;D สมใจนักปั่น(หม้อ) ว่าง ๆ เอาเคล็ดลับของหม้อคู่ที่เคยยกมาลองที่บ้านผม มาเปิดเผยมั่งนะครับ
คู่ไหนครับ ผมจำไม่ได้แล้ว ยกไปบ้าน อ.Mc วาระไหนหรือครับ จริงๆ ไม่มีความลับอะไรหรอกครับ พวกเทคนิคหลักๆ ที่ใช้ ก็อยู่ในบทความการออกแบบฯ และใน DIY Journal ทั้งหมดแล้วครับ แต่ที่ถามโครงสร้างแล้วไม่ค่อยบอกทันทีก็เพราะจำไม่ได้ครับ แต่หลายๆ ลูกผมจะจดโครงสร้างเอาไว้ครับ
คืออันที่จริงผมก็เอาเทคนิคพวกนั้นผสมผสาน แล้วก็ทดสอบสิ่งที่คิดไว้ในการออกแบบ OPT แต่ละครั้งน่ะแหล่ะครับ ผมจึงไม่เคยทำหม้อแปลงที่เหมือนกันลูกที่ 3 ครับ ตอนนี้น่าจะกว่าครึ่งร้อยแบบเข้าไปแล้วครับ บางทีก็ทดสอบโครงสร้าง บางทีก็ทดลองวัสดุ บางทีก็มั่วมันรวมกันเลย ;D จำไม่ได้จริงๆ หรอกว่าลูกไหนเป็นยังไงครับ แต่ถ้าค้นเจอที่บันทึกไว้ก็จะอธิบายให้ทราบได้ครับ ;)
แหม อันนี้ ถ้ารวบรวมได้อย่างไรแล้ว ทำเป็น DIY Journal ฉบับหม้อแปลงเอาต์พุต จะนับว่าเป็นสุดยอดของเคล็ดวิชาเอาต์พุตเลยนะครับ
-
ขอบคุณมากครับ :clap :clap :clap
-
ขอบคุณครับ ได้เปิดหู เปิดตา :)
-
คู่ เอามาฟัด ซีคอ ที่ยกมาเทียบกับทามูระในงานที่บ้านผมไงครับ
คิดว่าน่าจะเป็นอันนี้ครับ จำไม่ได้ว่างานทดสอบหม้อแปลงนี่ปีไหน แต่ลูกตามแบบนี้ ทำตอนต้นปี 50 ครับ ก่อนงานทดสอบหม้อแปลงรึเปล่าครับ ถ้าทำหลังงาน ก็แสดงว่าเป็นแบบอื่นครับ :D :D
-
อย่าง Mr.tube ยังมีมั่วอีกเหรอครับ ส่วนใหญ่ เท่าผมติดตามอ่านที่ Mr.tube ตอบกระทู้ ก็จะเป็นไปในทางวิชาการมากกว่า....
คือว่ารูปแบบในการออกแบบหม้อแปลง Spec หนึ่งๆ มันเป็นไปได้มากครับ ยกตัวอย่าง มีโครงสร้างขดลวดที่ใช้ได้ 3 แบบ, มีฉนวนที่ใช้ได้ 3 ชนิด, มีแกนที่ใช้ได้ 3 ขนาด เอาแค่นี้ก็สลับได้ 27 แบบแล้วครับ ถ้าอยากรู้ว่าแบบไหนเสียงดีสุดก็ทำ 27 แบบมาฟังเทียบกันเอาครับ ในความเป็นจริงแล้ว หม้อแปลง Spec เดียว กำหนดได้เป็นพันๆ รูปแบบเลยครับ แต่เราจะทำแค่คู่เดียว ก็ต้องมั่วเอาครับ ไม่มีใครรู้ได้จริงๆ หรอกครับว่าหม้อแปลงที่ยังไม่ได้พัน เสียงจะเป็นยังไง ;D ;D
-
ผมหนับหนุน ความคิดของพี่ krupohn ครับ ถ้าทำได้ เยี่ยมมากๆ
มันได้เยอะขนาดนี้เลยหรือนี่ คงต้องลองพันต่อไปเรี่อยๆ เพื่อหาเสียงที่ดีที่สุด....สำหรับหูตัวเอง
-
ขอบพระคุณครับ อยากรู้มานานแล้ว :)
-
:help ทดลองกันต่อไปครับพวกเรา ผมพันให้คุณอ้วนไป1คู่ ผมพันแบบเนี่ย เป็นแบบของไพโอเนียครับ เรื่องเสียงต้องถามคุณอ้วนเอาเอง
-
อย่าง Mr.tube ยังมีมั่วอีกเหรอครับ ส่วนใหญ่ เท่าผมติดตามอ่านที่ Mr.tube ตอบกระทู้ ก็จะเป็นไปในทางวิชาการมากกว่า....
คือว่ารูปแบบในการออกแบบหม้อแปลง Spec หนึ่งๆ มันเป็นไปได้มากครับ ยกตัวอย่าง มีโครงสร้างขดลวดที่ใช้ได้ 3 แบบ, มีฉนวนที่ใช้ได้ 3 ชนิด, มีแกนที่ใช้ได้ 3 ขนาด เอาแค่นี้ก็สลับได้ 27 แบบแล้วครับ ถ้าอยากรู้ว่าแบบไหนเสียงดีสุดก็ทำ 27 แบบมาฟังเทียบกันเอาครับ ในความเป็นจริงแล้ว หม้อแปลง Spec เดียว กำหนดได้เป็นพันๆ รูปแบบเลยครับ แต่เราจะทำแค่คู่เดียว ก็ต้องมั่วเอาครับ ไม่มีใครรู้ได้จริงๆ หรอกครับว่าหม้อแปลงที่ยังไม่ได้พัน เสียงจะเป็นยังไง ;D ;D
ถ้าพวกเราจับกลุ่มกันสัก 4-5 คน พันคนละแบบ มีแกนอยู่สัก 3-4 ชนิด นัดพบกันทดสอบ อืม... น่าสนุก Y] Y]
-
แบ่งเป็น 4 ชั้น เหมือน Lundahl เลยแฮะ
ได้ลองวัดค่า RLC ด้วยไหมครับ เผื่อมันจะมีผล
-
:help ทดลองกันต่อไปครับพวกเรา ผมพันให้คุณอ้วนไป1คู่ ผมพันแบบเนี่ย เป็นแบบของไพโอเนียครับ เรื่องเสียงต้องถามคุณอ้วนเอาเอง
ขอบคุณครับ อ.ken ปรับปรุงเรื่องถ่ายภาพหน่อยนะ ไม่ค่อยชัดเลย ลอกลำบาก :cry2
-
:cold กล้องมันเจ้ง...เอามือถือถ่าย ภาพออกมาชั้ดแจ๋วจนมองแทบไม่เห็น..555
-
ไดแกรมหม้อแปลงตัว c core คุณ Mr. Tube ได้เขียนให้ผมช่วงที่คุณ Mr. Tube มาโคราช ขณะนี้ผมพัฒนาไปเป็นปฐมภูมิ 8 ชุด ทุตยภูมิ 9 ชุดแล้วครับ
-
แบ่งเป็น 4 ชั้น เหมือน Lundahl เลยแฮะ
ได้ลองวัดค่า RLC ด้วยไหมครับ เผื่อมันจะมีผล
พอจะโงหัวขึ้นมาจากงานได้แล้วเหรอครับพี่ 2f 2f c) ไม่ได้วัดค่าไว้เลยครับ ของ Lundahl แบ่ง 4 ชั้นเหมือนกัน แต่เป็น Single C นี่ครับ อันนี้เป็น EI ครับพี่ :)
-
ไดแกรมหม้อแปลงตัว c core คุณ Mr. Tube ได้เขียนให้ผมช่วงที่คุณ Mr. Tube มาโคราช ขณะนี้ผมพัฒนาไปเป็นปฐมภูมิ 8 ชุด ทุตยภูมิ 9 ชุดแล้วครับ
ทดสอบแล้วหรือยังครับ ให้ความแตกต่างอย่างไรบ้าง
-
ไดอะแกรมหม้อแปลงตัว c core คุณ Mr.Tube ได้เขียน ให้ผมช่วงที่คุณ Mr.Tube มา โคราช ขณะนี้ผมพัฒนาไปเป็นปฐมภูมิ 8 ชุด ทุตยภูมิ 9 ชุด แล้วครับ
ทดสอบแล้วหรือยังครับ ให้ความแตกต่างอย่างไรบ้าง
นั่นซิ
-
ไดอะแกรมหม้อแปลงตัว c core คุณ Mr.Tube ได้เขียน ให้ผมช่วงที่คุณ Mr.Tube มา โคราช ขณะนี้ผมพัฒนาไปเป็นปฐมภูมิ 8 ชุด ทุตยภูมิ 9 ชุด แล้วครับ
ทดสอบแล้วหรือยังครับ ให้ความแตกต่างอย่างไรบ้าง
นั่นซิ
อยากทราบมากเลยครับ การพันที่ทำให้ได้แนวโน้มค่า Leakage inductance น้อยลงแต่แนวโน้มค่า C มากขึ้น ผลการรับฟังจะเป็นอย่างไรบ้าง :)
-
ไดอะแกรมหม้อแปลงตัว c core คุณ Mr.Tube ได้เขียน ให้ผมช่วงที่คุณ Mr.Tube มา โคราช ขณะนี้ผมพัฒนาไปเป็นปฐมภูมิ 8 ชุด ทุตยภูมิ 9 ชุด แล้วครับ
ทดสอบแล้วหรือยังครับ ให้ความแตกต่างอย่างไรบ้าง
นั่นซิ
อยากทราบมากเลยครับ การพันที่ทำให้ได้แนวโน้มค่า Leakage inductance น้อยลงแต่แนวโน้มค่า C มากขึ้น ผลการรับฟังจะเป็นอย่างไรบ้าง :)
ติดตามเหมือนกัน พี่มุมแก่พัฒนาไปเป็นปฐมถูมิ 8 ทุติยภูมิ 9
ผมยังอยู่แค่ 5 ต่อ 4 เลย :)
-
ไดอะแกรมหม้อแปลงตัว c core คุณ Mr.Tube ได้เขียน ให้ผมช่วงที่คุณ Mr.Tube มา โคราช ขณะนี้ผมพัฒนาไปเป็นปฐมภูมิ 8 ชุด ทุตยภูมิ 9 ชุด แล้วครับ
ทดสอบแล้วหรือยังครับ ให้ความแตกต่างอย่างไรบ้าง
นั่นซิ
อยากทราบมากเลยครับ การพันที่ทำให้ได้แนวโน้มค่า Leakage inductance น้อยลงแต่แนวโน้มค่า C มากขึ้น ผลการรับฟังจะเป็นอย่างไรบ้าง :)
ทดสอบแล้วครับ ค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ ที่เป็นองค์ประกอบของ OPT อย่าไปใส่ใจมันมากครับ ผมหลงทางเรื่องนี้มาตั้งนาน นี้หากไม่ใช้ท่านผู้รู้แนะนำผม ผมคงหลงทางหาทองออกไม่เจอครับ ทุกอย่างมันมีข้อจำกัดทั้งนั้นครับ อยู่ที่เราจะประณีประประนอมค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ อย่างไรครับ ซึ่งช่วงหลังผมตัดปัญหาต่าง ๆ ทั้งหมดโดยการแบ่งเชคชั่นไปเลยครับ ยาก ...แต่จบครับ :) opt ตัวล่าสุดของผมครับ
-
ไดอะแกรมหม้อแปลงตัว c core คุณ Mr.Tube ได้เขียน ให้ผมช่วงที่คุณ Mr.Tube มา โคราช ขณะนี้ผมพัฒนาไปเป็นปฐมภูมิ 8 ชุด ทุตยภูมิ 9 ชุด แล้วครับ
ทดสอบแล้วหรือยังครับ ให้ความแตกต่างอย่างไรบ้าง
นั่นซิ
อยากทราบมากเลยครับ การพันที่ทำให้ได้แนวโน้มค่า Leakage inductance น้อยลงแต่แนวโน้มค่า C มากขึ้น ผลการรับฟังจะเป็นอย่างไรบ้าง :)
ทดสอบแล้วครับ ค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ ที่เป็นองค์ประกอบของ OPT อย่าไปใส่ใจมันมากครับ ผมหลงทางเรื่องนี้มาตั้งนาน นี้หากไม่ใช้ท่านผู้รู้แนะนำผม ผมคงหลงทางหาทองออกไม่เจอครับ ทุกอย่างมันมีข้อจำกัดทั้งนั้นครับ อยู่ที่เราจะประณีประประนอมค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ อย่างไรครับ ซึ่งช่วงหลังผมตัดปัญหาต่าง ๆ ทั้งหมดโดยการแบ่งเชคชั่นไปเลยครับ ยาก ...แต่จบครับ :) opt ตัวล่าสุดของผมครับ
c) c) c) ขอบคุณครับ
-
ไดอะแกรมหม้อแปลงตัว c core คุณ Mr.Tube ได้เขียน ให้ผมช่วงที่คุณ Mr.Tube มา โคราช ขณะนี้ผมพัฒนาไปเป็นปฐมภูมิ 8 ชุด ทุตยภูมิ 9 ชุด แล้วครับ
ทดสอบแล้วหรือยังครับ ให้ความแตกต่างอย่างไรบ้าง
นั่นซิ
อยากทราบมากเลยครับ การพันที่ทำให้ได้แนวโน้มค่า Leakage inductance น้อยลงแต่แนวโน้มค่า C มากขึ้น ผลการรับฟังจะเป็นอย่างไรบ้าง :)
ทดสอบแล้วครับ ค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ ที่เป็นองค์ประกอบของ OPT อย่าไปใส่ใจมันมากครับ ผมหลงทางเรื่องนี้มาตั้งนาน นี้หากไม่ใช้ท่านผู้รู้แนะนำผม ผมคงหลงทางหาทองออกไม่เจอครับ ทุกอย่างมันมีข้อจำกัดทั้งนั้นครับ อยู่ที่เราจะประณีประประนอมค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ อย่างไรครับ ซึ่งช่วงหลังผมตัดปัญหาต่าง ๆ ทั้งหมดโดยการแบ่งเชคชั่นไปเลยครับ ยาก ...แต่จบครับ :) opt ตัวล่าสุดของผมครับ
พี่มุมครับ ขอถามนิดนึง
ถ้าผมพันโดยการแบ่งเชคชั่น ผมต้องการค่า 2.5K ผมพันเชคชั่นละ 5K แล้วมาขนานกัน จะมีผลดีใหมครับ (เท่าทีคิดได้น่าจะได้ ค่าinductance ที่สูงขึ้นโดยที่ค่า DCR ลดลง)
ผมเข้าใจถูกใหมครับ ลูกใหม่กำลังจะพันเลยครับ ขอความมั่นใจสักนิดนึง ;D
-
ไดอะแกรมหม้อแปลงตัว c core คุณ Mr.Tube ได้เขียน ให้ผมช่วงที่คุณ Mr.Tube มา โคราช ขณะนี้ผมพัฒนาไปเป็นปฐมภูมิ 8 ชุด ทุตยภูมิ 9 ชุด แล้วครับ
ทดสอบแล้วหรือยังครับ ให้ความแตกต่างอย่างไรบ้าง
นั่นซิ
อยากทราบมากเลยครับ การพันที่ทำให้ได้แนวโน้มค่า Leakage inductance น้อยลงแต่แนวโน้มค่า C มากขึ้น ผลการรับฟังจะเป็นอย่างไรบ้าง :)
ทดสอบแล้วครับ ค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ ที่เป็นองค์ประกอบของ OPT อย่าไปใส่ใจมันมากครับ ผมหลงทางเรื่องนี้มาตั้งนาน นี้หากไม่ใช้ท่านผู้รู้แนะนำผม ผมคงหลงทางหาทองออกไม่เจอครับ ทุกอย่างมันมีข้อจำกัดทั้งนั้นครับ อยู่ที่เราจะประณีประประนอมค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ อย่างไรครับ ซึ่งช่วงหลังผมตัดปัญหาต่าง ๆ ทั้งหมดโดยการแบ่งเชคชั่นไปเลยครับ ยาก ...แต่จบครับ :) opt ตัวล่าสุดของผมครับ
พี่มุมครับ ขอถามนิดนึง
ถ้าผมพันโดยการแบ่งเชคชั่น ผมต้องการค่า 2.5K ผมพันเชคชั่นละ 5K แล้วมาขนานกัน จะมีผลดีใหมครับ (เท่าทีคิดได้น่าจะได้ ค่าinductance ที่สูงขึ้นโดยที่ค่า DCR ลดลง)
ผมเข้าใจถูกใหมครับ ลูกใหม่กำลังจะพันเลยครับ ขอความมั่นใจสักนิดนึง ;D
ขณะนี้ที่ทดลองคือ แบ่งอย่างละครึ่งครับ เช่น 5K. ก็แบ่ง 2.5 k./2.5 k. ครับ การดับเบิ้ล C core ทำให้ opt รองรับกระแสเพิ่มขึ้น หนีการอิมตัวของเหล็กแบบ C core ไปเลยครับ สิ่งที่ตามมาคือเสียงเบสที่ต่ำลงมาก ๆ
-
ไดอะแกรมหม้อแปลงตัว c core คุณ Mr.Tube ได้เขียน ให้ผมช่วงที่คุณ Mr.Tube มา โคราช ขณะนี้ผมพัฒนาไปเป็นปฐมภูมิ 8 ชุด ทุตยภูมิ 9 ชุด แล้วครับ
ทดสอบแล้วหรือยังครับ ให้ความแตกต่างอย่างไรบ้าง
นั่นซิ
อยากทราบมากเลยครับ การพันที่ทำให้ได้แนวโน้มค่า Leakage inductance น้อยลงแต่แนวโน้มค่า C มากขึ้น ผลการรับฟังจะเป็นอย่างไรบ้าง :)
ทดสอบแล้วครับ ค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ ที่เป็นองค์ประกอบของ OPT อย่าไปใส่ใจมันมากครับ ผมหลงทางเรื่องนี้มาตั้งนาน นี้หากไม่ใช้ท่านผู้รู้แนะนำผม ผมคงหลงทางหาทองออกไม่เจอครับ ทุกอย่างมันมีข้อจำกัดทั้งนั้นครับ อยู่ที่เราจะประณีประประนอมค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ อย่างไรครับ ซึ่งช่วงหลังผมตัดปัญหาต่าง ๆ ทั้งหมดโดยการแบ่งเชคชั่นไปเลยครับ ยาก ...แต่จบครับ :) opt ตัวล่าสุดของผมครับ
พี่มุมครับ ขอถามนิดนึง
ถ้าผมพันโดยการแบ่งเชคชั่น ผมต้องการค่า 2.5K ผมพันเชคชั่นละ 5K แล้วมาขนานกัน จะมีผลดีใหมครับ (เท่าทีคิดได้น่าจะได้ ค่าinductance ที่สูงขึ้นโดยที่ค่า DCR ลดลง)
ผมเข้าใจถูกใหมครับ ลูกใหม่กำลังจะพันเลยครับ ขอความมั่นใจสักนิดนึง ;D
ขณะนี้ที่ทดลองคือ แบ่งอย่างละครึ่งครับ เช่น 5K. ก็แบ่ง 2.5 k./2.5 k. ครับ การดับเบิ้ล C core ทำให้ opt รองรับกระแสเพิ่มขึ้น หนีการอิมตัวของเหล็กแบบ C core ไปเลยครับ สิ่งที่ตามมาคือเสียงเบสที่ต่ำลงมาก ๆ
ที่ลองนั้น เอามาอนุกรมใช่ใหมครับ แล้วให้ได้ค่า 5K ผมต้องการ 2.5K ก็พันแบบที่ผมยกตัวอย่างไปเลย c)
ขอบพระคุณครับ มีแกน double C core เหลืออยู่ 2-3ชุดเดี๋ยวจะลองดูครับ :wiggle
-
ทดสอบแล้วครับ ค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ ที่เป็นองค์ประกอบของ OPT อย่าไปใส่ใจมันมากครับ ผมหลงทางเรื่องนี้มาตั้งนาน นี้หากไม่ใช้ท่านผู้รู้แนะนำผม ผมคงหลงทางหาทองออกไม่เจอครับ ทุกอย่างมันมีข้อจำกัดทั้งนั้นครับ อยู่ที่เราจะประณีประประนอมค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ อย่างไรครับ ซึ่งช่วงหลังผมตัดปัญหาต่าง ๆ ทั้งหมดโดยการแบ่งเชคชั่นไปเลยครับ ยาก ...แต่จบครับ :) opt ตัวล่าสุดของผมครับ
ขอบคุณมากครับที่นำประสบการณ์ดีๆ มาเล่าสู่กันฟัง
ตามความเห็นของผมการที่พี่มุมคนรักหลอดทำ Interleave มากขึ้นค่า Leakage inductance จะน้อยลงแต่ค่า C จะมากขึ้นถ้าไม่แบ่ง Section แต่พอแบ่ง Section ในการพันก็จะทำให้ค่า C มันลดลงได้ครับ :)
-
พี่มุมครับ ขอถามนิดนึง
ถ้าผมพันโดยการแบ่งเชคชั่น ผมต้องการค่า 2.5K ผมพันเชคชั่นละ 5K แล้วมาขนานกัน จะมีผลดีใหมครับ (เท่าทีคิดได้น่าจะได้ ค่าinductance ที่สูงขึ้นโดยที่ค่า DCR ลดลง)
ผมเข้าใจถูกใหมครับ ลูกใหม่กำลังจะพันเลยครับ ขอความมั่นใจสักนิดนึง ;D
เข้าใจผิดครับ กรณี OPT ค่า Primary Impedance เป็นค่าที่สะท้อนมาจาก Load ครับ ซึ่งประเด็นสำคัญคืออัตราส่วนรอบครับ กรณีที่คุณเอาขดที่ออกแบบให้มี Imp 5k มาขนานกัน 2 ขด คุณก็จะได้ 5k เหมือนเดิม เพราะจำนวนรอบ Pri ต่อ Sec มันเท่าเดิมครับ ไม่ได้คิดเหมือน R ที่ Resistance เหลือครึ่งนึงครับ :)
-
ขณะนี้ที่ทดลองคือ แบ่งอย่างละครึ่งครับ เช่น 5K. ก็แบ่ง 2.5 k./2.5 k. ครับ การดับเบิ้ล C core ทำให้ opt รองรับกระแสเพิ่มขึ้น หนีการอิมตัวของเหล็กแบบ C core ไปเลยครับ สิ่งที่ตามมาคือเสียงเบสที่ต่ำลงมาก ๆ
ถ้าพี่คำนวณรอบที่ 2.5k 2 ชุด พอเอามาอนุกรมกัน จะได้ 10k นะครับ เพราะรอบเพิ่มขึ้น 2 เท่า อัตราทด Imp จะเพิ่มขึ้น 4 เท่าครับ ถ้าผลที่ต้องการคือ Pri 5k พี่ต้องคำนวณที่ 1.25k 2 ขดครับ
การอธิบายเรื่องการขนาน/อนุกรมขดลวด ผมแนะนำให้คุยกันที่จำนวนรอบจะเข้าใจกันง่ายกว่าครับ เช่น Pri 3000 รอบ แบ่ง 3 ขดเท่าๆ กัน มาต่ออนุกรมกัน ก็ขดละ 1000 รอบ ถ้าคุยเป็น Imp พอมากกว่า 2 ขด จะงงกับการแปลงตัวเลขครับ ;)
-
ทดสอบแล้วครับ ค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ ที่เป็นองค์ประกอบของ OPT อย่าไปใส่ใจมันมากครับ ผมหลงทางเรื่องนี้มาตั้งนาน นี้หากไม่ใช้ท่านผู้รู้แนะนำผม ผมคงหลงทางหาทองออกไม่เจอครับ ทุกอย่างมันมีข้อจำกัดทั้งนั้นครับ อยู่ที่เราจะประณีประประนอมค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ อย่างไรครับ ซึ่งช่วงหลังผมตัดปัญหาต่าง ๆ ทั้งหมดโดยการแบ่งเชคชั่นไปเลยครับ ยาก ...แต่จบครับ :) opt ตัวล่าสุดของผมครับ
ผมคิดว่าพี่น่าจะอธิบายให้น้องๆ เห็นความเป็นเหตุเป็นผลกันด้วยนะครับ อย่างเรื่องหลงทางนี่ ประเด็นที่หลงทางคืออะไร และจะแนะนำน้องๆ อย่างไรไม่ให้ซ้ำรอยครับ รวมถึงวิธีที่พี่ทำ Section เป็นการแก้ปัญหาอะไร และเหตุใดปัญหาจึงจบครับ ผมคิดว่าน้องๆ หลายคนที่อ่าน น่าจะกำลังงงกับข้อมูลใน Black box ครับ ขอบคุณครับ O0
-
ขณะนี้ที่ทดลองคือ แบ่งอย่างละครึ่งครับ เช่น 5K. ก็แบ่ง 2.5 k./2.5 k. ครับ การดับเบิ้ล C core ทำให้ opt รองรับกระแสเพิ่มขึ้น หนีการอิมตัวของเหล็กแบบ C core ไปเลยครับ สิ่งที่ตามมาคือเสียงเบสที่ต่ำลงมาก ๆ
ถ้าพี่คำนวณรอบที่ 2.5k 2 ชุด พอเอามาอนุกรมกัน จะได้ 10k นะครับ เพราะรอบเพิ่มขึ้น 2 เท่า อัตราทด Imp จะเพิ่มขึ้น 4 เท่าครับ ถ้าผลที่ต้องการคือ Pri 5k พี่ต้องคำนวณที่ 1.25k 2 ขดครับ
การอธิบายเรื่องการขนาน/อนุกรมขดลวด ผมแนะนำให้คุยกันที่จำนวนรอบจะเข้าใจกันง่ายกว่าครับ เช่น Pri 3000 รอบ แบ่ง 3 ขดเท่าๆ กัน มาต่ออนุกรมกัน ก็ขดละ 1000 รอบ ถ้าคุยเป็น Imp พอมากกว่า 2 ขด จะงงกับการแปลงตัวเลขครับ ;)
ผมอ่านข้อความด้านบน งงเลย
แต่ Mr.tube เข้ามาอธิบาย จนผมเข้าใจ ก่อนหน้าผมก็คิด เหมือนคิดค่า R คิดว่าขนานกัน ค่า R ลดลงครึ่งนึง
ถ้าพี่คำนวณรอบที่ 2.5k 2 ชุด พอเอามาอนุกรมกัน จะได้ 10k นะครับ เพราะรอบเพิ่มขึ้น 2 เท่า อัตราทด Imp จะเพิ่มขึ้น 4 เท่าครับ ถ้าผลที่ต้องการคือ Pri 5k พี่ต้องคำนวณที่ 1.25k 2 ขดครับ
มันคล้ายกับการหาค่า imp pp ใช่มั้ยครับ
-
ทดสอบแล้วครับ ค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ ที่เป็นองค์ประกอบของ OPT อย่าไปใส่ใจมันมากครับ ผมหลงทางเรื่องนี้มาตั้งนาน นี้หากไม่ใช้ท่านผู้รู้แนะนำผม ผมคงหลงทางหาทองออกไม่เจอครับ ทุกอย่างมันมีข้อจำกัดทั้งนั้นครับ อยู่ที่เราจะประณีประประนอมค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ อย่างไรครับ ซึ่งช่วงหลังผมตัดปัญหาต่าง ๆ ทั้งหมดโดยการแบ่งเชคชั่นไปเลยครับ ยาก ...แต่จบครับ :) opt ตัวล่าสุดของผมครับ
ผมคิดว่าพี่น่าจะอธิบายให้น้องๆ เห็นความเป็นเหตุเป็นผลกันด้วยนะครับ อย่างเรื่องหลงทางนี่ ประเด็นที่หลงทางคืออะไร และจะแนะนำน้องๆ อย่างไรไม่ให้ซ้ำรอยครับ รวมถึงวิธีที่พี่ทำ Section เป็นการแก้ปัญหาอะไร และเหตุใดปัญหาจึงจบครับ ผมคิดว่าน้องๆ หลายคนที่อ่าน น่าจะกำลังงงกับข้อมูลใน Black box ครับ ขอบคุณครับ O0
เห็นด้วยครับ อยากให้อธิบายให้ชัดเจน O0
-
มันคล้ายกับการหาค่า imp pp ใช่มั้ยครับ
ไม่คล้ายครับ มันอย่างเดียวกันเลยแหล่ะครับ OPT PP ก็คือ SE แบบอนุกรม 2 Section แล้วดึง Center Tab ออกมาน่ะแหล่ะครับ 2f 2f
-
พี่มุมครับ ขอถามนิดนึง
ถ้าผมพันโดยการแบ่งเชคชั่น ผมต้องการค่า 2.5K ผมพันเชคชั่นละ 5K แล้วมาขนานกัน จะมีผลดีใหมครับ (เท่าทีคิดได้น่าจะได้ ค่าinductance ที่สูงขึ้นโดยที่ค่า DCR ลดลง)
ผมเข้าใจถูกใหมครับ ลูกใหม่กำลังจะพันเลยครับ ขอความมั่นใจสักนิดนึง ;D
เข้าใจผิดครับ กรณี OPT ค่า Primary Impedance เป็นค่าที่สะท้อนมาจาก Load ครับ ซึ่งประเด็นสำคัญคืออัตราส่วนรอบครับ กรณีที่คุณเอาขดที่ออกแบบให้มี Imp 5k มาขนานกัน 2 ขด คุณก็จะได้ 5k เหมือนเดิม เพราะจำนวนรอบ Pri ต่อ Sec มันเท่าเดิมครับ ไม่ได้คิดเหมือน R ที่ Resistance เหลือครึ่งนึงครับ :)
ขอบพระคุณมากๆครับแสดงว่าเข้าใจผิดไป ว่าจะลองพันสักหน่อย ยังไม่เริ่มเลยผิดซะแระ K] K] K]
งั้นก็ต้องขนานที่ 2262.7//2262.7 แบบนี้สิครับ (2.5K/2.5K)
-
ทดสอบแล้วครับ ค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ ที่เป็นองค์ประกอบของ OPT อย่าไปใส่ใจมันมากครับ ผมหลงทางเรื่องนี้มาตั้งนาน นี้หากไม่ใช้ท่านผู้รู้แนะนำผม ผมคงหลงทางหาทองออกไม่เจอครับ ทุกอย่างมันมีข้อจำกัดทั้งนั้นครับ อยู่ที่เราจะประณีประประนอมค่าพารามิเตอร์ต่าง ๆ อย่างไรครับ ซึ่งช่วงหลังผมตัดปัญหาต่าง ๆ ทั้งหมดโดยการแบ่งเชคชั่นไปเลยครับ ยาก ...แต่จบครับ :) opt ตัวล่าสุดของผมครับ
ผมคิดว่าพี่น่าจะอธิบายให้น้องๆ เห็นความเป็นเหตุเป็นผลกันด้วยนะครับ อย่างเรื่องหลงทางนี่ ประเด็นที่หลงทางคืออะไร และจะแนะนำน้องๆ อย่างไรไม่ให้ซ้ำรอยครับ รวมถึงวิธีที่พี่ทำ Section เป็นการแก้ปัญหาอะไร และเหตุใดปัญหาจึงจบครับ ผมคิดว่าน้องๆ หลายคนที่อ่าน น่าจะกำลังงงกับข้อมูลใน Black box ครับ ขอบคุณครับ O0
:clap :clap เห็นด้วยกับ Mr.Tube อย่างยิ่งเลยครับ นี่แหละคือ จุดเริ่มต้นของการพัฒนา O0 O0
-
ถ้าพี่คำนวณรอบที่ 2.5k 2 ชุด พอเอามาอนุกรมกัน จะได้ 10k นะครับ เพราะรอบเพิ่มขึ้น 2 เท่า อัตราทด Imp จะเพิ่มขึ้น 4 เท่าครับ ถ้าผลที่ต้องการคือ Pri 5k พี่ต้องคำนวณที่ 1.25k 2 ขดครับ
[/quote]
ช่วยอธิบายหน่อยครับ อจ. ทำไมถึงเพิ่มเป็น 4 เท่าครับ :secret
-
:clap
-
ถ้าพี่คำนวณรอบที่ 2.5k 2 ชุด พอเอามาอนุกรมกัน จะได้ 10k นะครับ เพราะรอบเพิ่มขึ้น 2 เท่า อัตราทด Imp จะเพิ่มขึ้น 4 เท่าครับ ถ้าผลที่ต้องการคือ Pri 5k พี่ต้องคำนวณที่ 1.25k 2 ขดครับ
ช่วยอธิบายหน่อยครับ อจ. ทำไมถึงเพิ่มเป็น 4 เท่าครับ :secret
เนื่องจาก อัตราส่วน Impedance = อัตราส่วนแรงดันยกกำลังสอง ตามกฎของหม้อแปลง, Zp/Zs = [Np/Ns]^2 เมื่ออัตราส่วนรอบเพิ่มเป็น 2 เท่า (2Np/Ns) ยกกำลังสองแล้ว จึงได้อัตราส่วน Imp เป็น 4 เท่าครับ :)
-
เรื่องของเอาพุทนั้น มีเทคนิคส์มากมายครับ ผมเองคลุกอยู่กับ OPT มาร่วม ๆ 15 ปีแล้ว พันเอ้าพุทมามากกว่า 20 คู่ แต่ละแบบแทปไม่ซ้ำกันเลย ระยะหลัง ๆ ต้องวางมือไปบ้าง เพราะสายตาวัดครั้งหลังสุด 410 แล้วครับ อีกอย่างชักจะหลง ๆ ลืม ๆ แพ้สังขาลตัวเองครับ ส่วนหนึ่งของความรู้ก็ได้จากบทความของคุณ Mr. Tube หากน้อง ๆ ท่านใดยังไม่เคยอ่าน หรือเคยศึกษา ก็ให้ขอบทความจากคุณ Mr. Tube ได้เลยครับ ผมใช้ตำราของคุณ Mr. Tube เป็นครู เพราะทุกอย่างถูกบรรจุไว้ในตำรา (บทความ) เรียบร้อยแล้วครับ เทคนิคส์บางอย่างก็ได้รับการถ่ายถอดมาจากคุณ Mr. Tube เป็นส่วนใหญ่ นอกนั้นผมต้องอาศัยความพยายามในการเข้าถึงเจ้า OPT ด้วยตัวผมเองครับ ก็คือทั้งพันเอง ให้พับพวกช่วยพันให้บ้าง ซึ่งตรงนี้เทคนิคส์อย่างหนึ่งคือ เราต้องแทปชั้น (การต่อเส้นลวดแต่ละชุด) ต้องฟังไปด้วย จนกว่าตัวเองจะรู้สึกว่าเราพอใจแล้วในเอ้าพุทคู่นี้ มันสามารถให้เสียงดีได้เท่านี้ หรือว่าขาดเหลืออะไร ก็ต้องพิจารณาในการพันลูกต่อไปครับ ซึ่งตรงนี้กว่าจะได้เอาพุทแต่ละคู่ยากพอสมควรครับ เพราะต้องรื้อเข้า รื้อออก เล่นเอาเหนื่อยครับ เช่น ในครั้งแรกทดลองแท็ปชั้น ปฐมภูฒิ 1-2-3-4 ฟังแล้ว ไม่ถูกใจเพราะความถี่สูงไม่ค่อยจะดี ก็ต้องแท๊ปชั้นใหม่เป็น 1-3-2-4 แท๊ปชั้นไปเรื่อย ๆ จนกว่าเราจะพอใจทั้งเสียงแหลม และเสียงทุ้มครับ หาเอ้าพุทยากมากครับที่ผมแท๊ปชั้นแล้วเสียงถูกใจเลย (ดังนั้นตรงนี้หากเราไปสั่งร้านให้พันเอ้าพุทเข้าแท๊ปชั้นมาให้เราอย่างไร ตรงนี้เราไม่ทราบครับ และเมื่อเอามาใช้งาน เจ้าเอ้าพุทคู่นี้จะเหมาะกับหลอด หรือแรงดันที่เราใช้อยู่หรือไม่ ตรงนี้น้อง ๆ ต้องนำไปพิจารณาด้วยครับ
ในแง่คิดการทำเอ้าพุทของผมเอง สิ่งแรกที่ต้องปฏิบัติคือ เราต้องหาวัสดุ เช่น แกนเหล็ก ทองแดง ที่มีคุณภาพดีหน่อย น้อง ๆ คงเคยท่อแท้เรื่องเหล็ก (เมื่อก่อนผมได้เหล็กเครื่องส่งที่คลองถม) เป็นส่วนใหญ่ แต่ยังมีแหล่งที่พอหาเหล็กพวกนี้ได้คือ ร้านขายของเก่า หรือร้านรีไวเคิ้ล ครับ บางครั้งผมไปเจอครั้งละหลาย ๆ ลูก มีความจำเป็นต้องซื้อมาเก็บไว้ครับ เหล็กหม้อแปลงเก่าเหล่านี้ได้ใช้งานแน่นอนครับ และก็ค่อนข้างดีเสียด้วย (เหล็กที่ว่านี้คือเหล็กซึ่งเป็นหม้อแปลงแถว ๆ อเมริกา หรือยุโรป) ของไทยผมว่าเอามาใช้งานคงลำบากครับ (ก็ไม่ใช้ของประเทศเราหลอกครับ) เช่นพวก H14 ซึ่งน่าจะเอามาทำโช๊ค หรือไม่แปลงไฟสูงเสียมากกว่าครับ ส่วนเจ้าเหล็ก RG9 ที่มีขายบ้านเรา ถ้าเอามาพันหม้อแปลงเอ้าพุท พอไหวอยู่ครับ จากที่ผมเคยเอาเหล็ก H14 และ GR9 มาใช้งาน ตรงนี้ผมใช้แกน 45 ขึ้นไปครับ ยังต้องเพิ่มอัตราส่วนในการคำนวณรอบเพิ่มขึ้นประมาณ 10-20 เปอร์เซ็นต์ของรอบปกติครับ (แต่ก็ต้องฟังเสียงดูก่อนครับว่าเสียงที่ได้ขาดเหลืออะไร ส่วนมากขาดครับ)
http://www.htg2.net/index.php?topic=7504.300
ในการคำนวณหารอบ ตรงนี้น้อง ๆ แต่ละคนคงมีสูตรหลากหลายครับ เพราะแต่สูตร แต่ละสำนักก็มีเทคนิคส์ที่แตกต่างกันออกไป ผมเองใช้ของบทความของ
คูณ Mr. Tube เป็นหลักครับ เพราะง่ายดี และอีกอย่างคือผมศึกษาจนพอจะเข้าใจแล้วก็เลยใช้ตรงนี้เป็นหลักครับ จะมีบ้างครับที่เห็นสูตรแปลก ๆ น่าจะนำมาพิจารณาพันเล่นก็เคยทดลองหลายสำนักเหมือนกันครับ แต่ก็ต้องทำความเข้าใจในสูตรนั้น ๆ ด้วยครับ เพราะบางสำนักเขาให้เอาแรงดันที่เราจะใช้ในวงจรใส่เข้าไปในการคำนวณด้วย ก็ดีครับ เพราะเราจะได้รู้ว่าวงจรที่เราใช้งานนั้นเหมาะกับเอ้าพุทที่เราจะเอาไปใช้งานได้หรือไม่ จากประสบการณ์ตรงนี้ ใช้ได้ดีทีเดียวครับ ผมเคยคำนวณการใช้สูตรที่มีแรงดันด้วยแวเอาไปใช้งานปรากฏว่าใช้ได้ดีทีเดียว เช่น นำแรงดัน 350 โวล์ล ใส่เข้าไปในสูตรเข้าด้วย หลังจากได้รอบแล้ว ก็นำไปพิจารณาการแบ่งชั้น พันจนเสร็จ และก็ใช้แรงดันตามที่เราคำนวณ เสียงออกมาใช้ได้ครับ ที่แรงดัน 350 โวล์ล พอเราเอาไปใช้กับแรงดันซึ่งสูงกว่านี้ ปรากฏว่า รายละเอียดบางอย่างมชที่เราไม่ได้ยินที่แรงดัน 350 โวล์ล แต่กลับแรงดันที่สูงกลับได้ยินชัดเจน นี้ก็เป็นตัวแปรตัวหนึ่งสำหรับเจ้าเอ้าพุทเหมือนกันครับ บางอย่างที่เราคิดไม่ถึง กลับเห็นผลเมื่อเราเปลี่ยนแปลงแรงดันที่สูงขึ้น (แต่แรงดันที่ตำกว่าการคำนวณยังไม่เคยทดลอง) น้อง ๆ ก็นำไปพิจารณาดูครับ เรื่องการทำเอ้าพุทตรงจุดนี้ครับ ว่าเป็นจริงที่ผมทำมาหรือไม่
-
ในช่วงแรก ๆ ที่ศึกษาเรื่องเอ้าพุท ผมเองเริ่มท้อ เพราะเจ้าตัวแปรต่าง ๆ ซึ่งต้องเกิดขึ้นกับเอ้าพุทไม่ว่าจะเป็นเจ้า ค่าความเหนี่ยวนำ ค่าเหนี่ยงนำรั่วไหล ค่าความจุในขดลวด ค่าความจุระหว่งขดลวด และค่าความต้านทางของขดลวด เห็นแล้วก็มีความคิดว่าเราเราจะหลีกเหลี่ยง หรือเพิ่มสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร ทำไมจึงเกิดความยุ้งยากลำบากใจอย่างนี้เครื่องมือเราก็แทปไม่มี หูหนวก ตาบอดไปหมด รอสึกท่อใจครับ จนแล้วจนรอดก็กัดฟันสู้ครับ หม้อแปลงเอ้าพุทตัวแรกของชีวิตก็เกิดขึ้นจากความพยายาม ทำมาหลายวันกว่าจะเสร็จ เสร็จแล้วก็ไม่ได้ทดลองเพราะกลัวไฟดูดตายไม่แน่ใจว่ามันจะใช้งานได้หรือไม้ ปัจจุบันเอ้าพุทตัวแรกผมยังเก็บไว้อยุ๋ครับ และก็ไม่คิดจะเอามาทดลองเพราะเอ้าพุทตัวแรก ไม่ต่างอะไรกับหม้อแปลงไฟฟ้าเรานี้แหละครับ ก็คือพันแบบที่เข้าเรียกว่า "แบบแซนวิช" ซึ่งปัจจุบันนี้ก็เห็นหลาย ๆ คนพันเอ้าพุทหลายแบบผมเหมือนกัน ก็คือ "แบบแซนวิช"
จนกระทั่งได้มีโอกาสได้รู้จักคุณ Mr. Tube ช่วง ๆ ปี 51-52 นี้แหละครับ ได้รับความอนุเคราะห์จากคุณ Mr. Tube ส่ง File มาให้ อ่านไป ก็ งง.. ไป เมื่อรู้จะเริ่มต้นแบบนี้ แล้วจะพันอย่างไร ก็ได้ถามคูณ Mr. Tube จนพอจะเข้าใจถึงศาสตร์ของหม้อแปลงเอ้าพุท ว่าทำงานอย่างไร หม้อแปลงเอ้าพุทตัวแรกที่สามารถทำงานได้ครับ ผมใช้เวลาพัน 1 ลูกประมาณ 3 ชั่วโมงเท่านั้น ใจเอาจริง ๆ เลยครับ ยังจำได้ว่าวันนั้นรู้สุกทั้งดีใจ และตื่นเต้นจริง ๆ ครับ ช่วงที่หน้าสิ่ว หน้าขวานที่สุดคือ ตอนที่จะปล่อยแรงดัน 250 โวล์ล เข้าเจ้าเอ้าพุทตัวแรกนี้เป็นอะไรที่ตื่นเต้นดีครับ แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดีครับ มีเสียงครับ เสียงดีด้วยครับ เหล็กในช่วงที่ทำเอ้าพุทตัวแรก เป็นเหล็กรื้อออกจากเอ้าพุทเก่าของอเมริกา น่าจะเป็นของเหล็กเอ้าพุทของ stancore ครับ ปัจจุบันยังเก็นไว้เป็นที่ระลึกอยู่ครับ ในการพันเอ้าพุทลูกแรกที่ใช้งานได้ผมเองไม่ได้คำนึงถึงค่าที่มีในตำรา เพียงแต่คิดว่าทำให้เสร็จให้มีเสียงเสียก่อน แล้วค่อยมาศึกษาต่อว่าการจจะทำเอ้าพุทมาใช้งานได้ดีสักตัว จะต้องทำอะไรบ้าง
-
จากที่ Mr.tube ยกตัวอย่างสูตร ผมแทนค่าไม่ถูก ใครก็ได้ ช่วยสงเคราะห์ที ว่ามันหาอย่างไร มีปัญหาอะไร ผมคงต้องรบกวนพี่มุมแล้วล่ะครับ
-
จากที่ Mr.tube ยกตัวอย่างสูตร ผมแทนค่าไม่ถูก ใครก็ได้ ช่วยสงเคราะห์ที ว่ามันหาอย่างไร มีปัญหาอะไร ผมคงต้องรบกวนพี่มุมแล้วล่ะครับ
หมายถึงที่ผมอธิบายว่าทำไมอัตราส่วนรอบเป็น 2 เท่าแล้วเทียบเป็น Imp 4 เท่ารึเปล่าครับ ถ้าใช่ก็แบบนี้ครับ สมมุติหม้อแปลงลูกนึงมี 10 รอบทั้ง P และ S ก็คือ 1:1 ใช่ไม๊ครับ อัตราทด Imp ก็เป็น 1:1 ไปด้วย อัตราทด Imp = [Np/Ns]^2 = 1^2 = 1
สมมุติเพิ่มรอบ P เป็น 20 ก็คืออัตราทดแรงดัน 2 เท่าใช่ไม๊ครับ อัตราทด Imp = [Np/Ns]^2 = [20/10]^2 = 4 เท่า ถ้ารอบเพิ่มเป็น 30 ก็ = [30/10]^2 = 9 เท่า สรุปว่าเมื่อรอบเพิ่มขึ้นตามจำนวนเท่า อัตราส่วน Imp จะเพิ่มขึ้นด้วยอัตราเท่ายกกำลัง 2 ครับ ผมจึงพยายามแนะนำให้คุยกันด้วยตัวแปรที่เห็นภาพได้ง่ายกว่า ก็คืออัตราส่วนรอบ หรือคุยกันเป็นจำนวนรอบไปเลยครับ ;)
-
ไหนๆ แล้ว ต่อให้เข้าใจที่ไปที่มาไปเลยละกัน
ยกตัวอย่างหม้อแปลงในรูปละกันครับ อัตราทด 10:1 และมี Load ต่ออยู่ทาง Sec กับมีแหล่งจ่ายอยู่ทาง Pri
สมมุติ Load = 10 Ohm และแหล่งจ่ายปล่อยแรงดันออกมา 100V ละกัน ใกล้เคียงกับวงจรหลอดที่เราๆ เล่นกันหน่อย เงื่อนไขก็คือกฎทางฟิสิกส์ต่างๆ แหล่ะครับ
1. กฎหม้อแปลงทั่วๆ ไป [Np/Ns] = [Vp/Vs] หรือจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็ อัตราส่วนรอบ = อัตราทดแรงดัน
2. กฎทรงพลังงาน พลังงานไม่มีการสูญเสีย มีแต่เปลี่ยนรูป
เราจะคุยกันที่ Ideal Transformer หรือหม้อแปลงในอุดมคติกันก่อน คือไม่มีความสูญเสียในทุกความถี่ จะได้ไม่ต้องยกความถี่มาคุยร่วมให้มันซับซ้อนเกินไปนะครับ
ตามข้อสมมุติ ถ้าแรงดัน Pri = 100V ทดตามกฎข้อ 1 แรงดัน Sec ก็ต้องเป็น 10V ถูกไม๊ครับ เพราะมัน Step down ลงมา 10:1
เมื่อแรงดัน 10V ตกคร่อม Load 10 Ohm E=IxR ย่อมมีกระแสไหลผ่าน Load = 1A ไปด้วย และเกิดกำลังสูญเสีย, P = IxE = 10W
ตามกฎข้อ 2 เมื่อพลังงานไม่สูญเสียหรือเพิ่มขึ้น ในเมื่อทาง Sec ปล่อยออกมา 10W ทาง Pri ก็ต้องใส่เข้าไป 10W ด้วย ถูกไม๊ครับ และแหล่งจ่ายมีแรงดัน 100V ก็หมายความว่ากระแสจะไหล 10/100 = 0.1A
ทีนี้ให้เปลี่ยนมุมมองใหม่ ให้มองว่า Pri คือ Load ของแหล่งจ่าย ก็จะเห็นว่าเอาแหล่งจ่าย 100V ไปต่อกับ Load ไม่ทราบค่า แล้วกระแสไหล 0.1A ก็ย่อมสรุปได้ว่า Load = 100/0.1 = 1000 Ohm หรือ 1k ครับ เอากลับไปเทียบกับ Load ทางฝั่ง Sec ดูกันนะครับ 1000 Ohm กับ 10 Ohm ก็คืออัตราส่วน Imp = 100 และเท่ากับอัตราส่วนรอบ 10 ยกกำลังสอง นั่นเองครับ
บางคนจึงเรียก OPT ว่าเป็น Load Reflection หรือเป็นตัวสะท้อนค่า Load จาก Sec มาเป็นค่า Load ที่ Pri นั่นเองครับ ที่ว่ามานี้เป็นพื้นฐานสำหรับผู้ที่จะศึกษาเกี่ยวกับหม้อแปลง ต้องเข้าใจให้ดีจำให้แม่นก่อนครับ แล้วจะสามารถต่อยอดการศึกษาเพื่อความเข้าใจที่ลึกซึ้งขึ้นไปได้ครับ ;)
-
ขอบคุณ Mr. Tube มากๆครับ อ่านแล้วเข้าใจดีขึ้นมากเลยครับ O0 O0 O0
-
มันคล้ายกับการหาค่า imp pp ใช่มั้ยครับ
ไม่คล้ายครับ มันอย่าง เดียวกัน เลย แหล่ะ ครับ OPT PP ก็คือ SE แบบอนุกรม 2 Section แล้วดึง Center Tab ออกมาน่ะ แหล่ะ ครับ 2f 2f
แต่สำหรับผม คงต้องอ่านหลายๆรอบ ถึงจะเข้าใจ Mr.tube ครับ ถ้าสมมติ ผมต้องการพัน opt pp 6k แบ่ง 2 sector ผมก็จะต้อง พันที่ 1.5k/sector แล้ว เอามาอนุกรมกัน หรือคิดให้ง่ายกว่า ก็คือ คำนวณจำนวนรอบทั้งหมด/2 แล้วแท็บออกมา คิดอย่างนี้ ถูกมั้ยครับ