HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม Thai DIY Audio => ข้อความที่เริ่มโดย: nut_ty ที่ 08 มีนาคม, 2010, 05:42:20 pm
-
อยากทำแอมป์งบ 6000 เหมือนกันครับ พับสแตนเลสรอไว้แล้ว ท่านใดมีลายแทงหม้อแปลงเอาต์พุตสำหรับแอมป์หลอด EL509 ซิงเกิ้ลเอนด์บ้างครับ ผมใช้แกนเหล็ก RG10 ไซ้ส์ 32 (มั้ง) กำลังขับ 13 วัตต์ ไฟเลี้ยง 330V จะต้องพันกี่ชั้น ชั้นละกี่ขด ลวดเบอร์อะไร ฉนวนแบบใด ? รบกวนด้วยครับ (ไม่ต้องการค่า K ครับ)
ป.ล.คำนวณไม่เป็น พันไม่เป็น จ้างเขาพันเสร็จแล้วค่อยมาฟังอีกทีว่าชอบ หรือ ไม่ชอบ ;D
-
ค่า k ที่คุณ nut_ty ว่าหมายถึงค่า impedance หรือเปล่าครับ ไม่เข้าใจครับว่าทำไมถึงไม่ต้องการค่า k ของหม้อแปลง :)
-
ค่า k ที่คุณ nut_ty ว่าหมายถึงค่า impedance หรือเปล่าครับ ไม่เข้าใจครับว่าทำไมถึงไม่ต้องการค่า k ของหม้อแปลง :)
มันเป็นค่าสมมติน่ะครับ คิดง่ายๆ ว่าถ้ารอบเอาต์พุตเปลี่ยนแปลงไปในอัตราส่วนเดียวกับรอบของอินพุต มันก็ยังคงเป็นค่า K เดียวกันอยู่ดี ผมจึงอยากได้แค่รอบด้านไพรมารี่ และ เซคคันดารี่ ที่ใช้กับแกน RG10 ก็พอ ส่วนลักษณะการพัน และ การเลือกชั้นที่ต้องการผมก็ยิ่งต้องการเข้าไปใหญ่ จะได้ไม่ต้องแก้หลายที รู้สึก อ.Karin จะเคยทำเบอร์นี้นะครับ หากแวะเข้ามารบกวนช่วยแจกโพยด้วยครับ ;)
ลืมบอกไปว่าผมต่อวงจรเป็นแบบ Enhance Triode (Sgreen Grid Connected) กระแสที่ใช้ก็ประมาณ 75mA / 330V
-
ของงด้วยครับ ไม่ต้องการค่า K แล้วจะคำนวนรอบยังไงละครับ :black_eye :black_eye
-
การมองแค่อัตราส่วนรอบเพียงอย่างเดียวมันก็จะออกมาอย่างที่เราเห็นกันนะครับ อย่างพวก line transformer ซึ่งพอเอามาทำเป็น OPT มันทำการตอบสนองต่อความถี่ไม่ได้อย่างที่เราต้องการนะครับ ถ้าว่ากันแล้วในทางเครื่องเสียงเราต้องการให้อุปกรณ์หรือว่าแอมป์ของเราตอบสนองได้ตั้งแต่ 20Hz - 20kHz ครับ
สำหรับแกนขนาดนี้ถ้าได้สัก 32x40 หรือ 32x50 พันสัก 3000 รอบ ทำ interleave S:P = 5:4 หรือ 4:3 ก็ได้ครับ ลวด prim #36 หรือ #32 ก็น่าจะพอใส่ลงไปได้ ฉนวนก็ใช้กระดาษบางๆ หน่อยก็โอแล้วครับ ขด sec ก็ใช้สักเบอร์ 22 หรืออาจเป็น 27 สองเส้นพันพร้อมกัน ถ้าไม่เอาไปใช้กับวงจรที่กินกระแสมากมาย แรงดันไม่สูงมาก โอแล้วครับ อย่าลืมใส่แก็ปด้วยกระดาษสมุดด้วยนะครับ แต่ที่สำคัญถ้ามีโอกาสเอาไปทดสอบการตอบสนองความถี่เพื่อจะได้เห็นของจริงครับ :)
ลองดูครับแล้วมาเล่าให้ฟังบ้างนะครับ ;)
-
การมองแค่อัตราส่วนรอบเพียงอย่างเดียวมันก็จะออกมาอย่างที่เราเห็นกันนะครับ อย่างพวก line transformer ซึ่งพอเอามาทำเป็น OPT มันทำการตอบสนองต่อความถี่ไม่ได้อย่างที่เราต้องการนะครับ ถ้าว่ากันแล้วในทางเครื่องเสียงเราต้องการให้อุปกรณ์หรือว่าแอมป์ของเราตอบสนองได้ตั้งแต่ 20Hz - 20kHz ครับ
สำหรับแกนขนาดนี้ถ้าได้สัก 32x40 หรือ 32x50 พันสัก 3000 รอบ ทำ interleave S:P = 5:4 หรือ 4:3 ก็ได้ครับ ลวด prim #36 หรือ #32 ก็น่าจะพอใส่ลงไปได้ ฉนวนก็ใช้กระดาษบางๆ หน่อยก็โอแล้วครับ ขด sec ก็ใช้สักเบอร์ 22 หรืออาจเป็น 27 สองเส้นพันพร้อมกัน ถ้าไม่เอาไปใช้กับวงจรที่กินกระแสมากมาย แรงดันไม่สูงมาก โอแล้วครับ อย่าลืมใส่แก็ปด้วยกระดาษสมุดด้วยนะครับ แต่ที่สำคัญถ้ามีโอกาสเอาไปทดสอบการตอบสนองความถี่เพื่อจะได้เห็นของจริงครับ :)
ลองดูครับแล้วมาเล่าให้ฟังบ้างนะครับ ;)
ต้องการประมาณนี้ล่ะ อิอิ รวบรัด เร่งรีบ ร่องแร่ง ;D แต่อาจจะ รุ่งโรจน์ :D อันเนื่องมาจากหลอดเบอร์นี้ เมื่อต่อแบบ Sgreen Grid Connected ไม่มี Plate curve ให้ดู เลยไม่รู้จะเล่นสูตรไหน มันไม่เหมือน triode หรือว่า Pentrode ที่เคยทำๆ กันอยู่ searchg จากเน็ตก็ไม่มีข้อมูลบอกว่ากี่ K และ ถึงได้มาก็เท่านั้น อาจจะไปงมโข่งอยู่เป็นเข่งๆ กับกับหม้อแปลงที่ต้องพันทิ้งไปเปล่าๆ ปลี้ๆ
-
ผมนี่แย่จริง ลืมลงวงจรซะนี่ K] เดี๋ยวจะเอาไปดัดแปลงเป็นวงจรของ E.A.R อีกที จำได้เลาๆ ว่าคล้ายๆ กัน ในลิ้งค์ http://www.jogis-roehrenbude.de/Leserbriefe/Synola-509/SYNOLA_SE509.htm เขาบอกให้ใช้ RA von 3,5 KOhm ก็ไม่รู้ว่าจริงเท็จแค่ไหน
-
การมองแค่อัตราส่วนรอบเพียงอย่างเดียวมันก็จะออกมาอย่างที่เราเห็นกันนะครับ อย่างพวก line transformer ซึ่งพอเอามาทำเป็น OPT มันทำการตอบสนองต่อความถี่ไม่ได้อย่างที่เราต้องการนะครับ ถ้าว่ากันแล้วในทางเครื่องเสียงเราต้องการให้อุปกรณ์หรือว่าแอมป์ของเราตอบสนองได้ตั้งแต่ 20Hz - 20kHz ครับ
สำหรับแกนขนาดนี้ถ้าได้สัก 32x40 หรือ 32x50 พันสัก 3000 รอบ ทำ interleave S:P = 5:4 หรือ 4:3 ก็ได้ครับ ลวด prim #36 หรือ #32 ก็น่าจะพอใส่ลงไปได้ ฉนวนก็ใช้กระดาษบางๆ หน่อยก็โอแล้วครับ ขด sec ก็ใช้สักเบอร์ 22 หรืออาจเป็น 27 สองเส้นพันพร้อมกัน ถ้าไม่เอาไปใช้กับวงจรที่กินกระแสมากมาย แรงดันไม่สูงมาก โอแล้วครับ อย่าลืมใส่แก็ปด้วยกระดาษสมุดด้วยนะครับ แต่ที่สำคัญถ้ามีโอกาสเอาไปทดสอบการตอบสนองความถี่เพื่อจะได้เห็นของจริงครับ :)
ลองดูครับแล้วมาเล่าให้ฟังบ้างนะครับ ;)
ถ้าทำตามนี้ พอประมาณได้ไหมจะได้ี่กี่ k ครับ :help
-
การมองแค่อัตราส่วนรอบเพียงอย่างเดียวมันก็จะออกมาอย่างที่เราเห็นกันนะครับ อย่างพวก line transformer ซึ่งพอเอามาทำเป็น OPT มันทำการตอบสนองต่อความถี่ไม่ได้อย่างที่เราต้องการนะครับ ถ้าว่ากันแล้วในทางเครื่องเสียงเราต้องการให้อุปกรณ์หรือว่าแอมป์ของเราตอบสนองได้ตั้งแต่ 20Hz - 20kHz ครับ
สำหรับแกนขนาดนี้ถ้าได้สัก 32x40 หรือ 32x50 พันสัก 3000 รอบ ทำ interleave S:P = 5:4 หรือ 4:3 ก็ได้ครับ ลวด prim #36 หรือ #32 ก็น่าจะพอใส่ลงไปได้ ฉนวนก็ใช้กระดาษบางๆ หน่อยก็โอแล้วครับ ขด sec ก็ใช้สักเบอร์ 22 หรืออาจเป็น 27 สองเส้นพันพร้อมกัน ถ้าไม่เอาไปใช้กับวงจรที่กินกระแสมากมาย แรงดันไม่สูงมาก โอแล้วครับ อย่าลืมใส่แก็ปด้วยกระดาษสมุดด้วยนะครับ แต่ที่สำคัญถ้ามีโอกาสเอาไปทดสอบการตอบสนองความถี่เพื่อจะได้เห็นของจริงครับ :)
ลองดูครับแล้วมาเล่าให้ฟังบ้างนะครับ ;)
ถ้าทำตามนี้ พอประมาณได้ไหมจะได้ี่กี่ k ครับ :help
ถ้าพันตามนี้ผมว่าทำได้ไม่น่าจะต่ำกว่า 15 Hy ซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้เราก็มาลองคำนวณกันว่าจะได้กี่ k ที่ความถี่ 20Hz ครับ
จากนี่ครับ Z = 2 x 3.14 x Fmin x L
Z เป็นค่าความต้านทานกระแสสลับครับ มีหน่วยเป็นโอห์ม หรือถ้าค่าสูงก็จะเป็นกิโลโอห์ม หรือ k-Ohm หรือพวกเราชอบเรียกกันว่า k เฉยๆ นั่นแหละครับ
Fmin เป็นความถี่ต่ำที่สุดที่ OPT ตัวนี้จะตอบสนองได้ครับ
L เป็นค่าความเหนี่ยวนำของขดลวดครับมีหน่วยเป็นเฮนรี่ (Henry) หรือเขียนย่อเป็น Hy
แทนค่า
Z = 2 x 3.14 x 20Hz x 15Hy = 1884 Ohm = 1.884 k-Ohm ครับ
ถ้าถามว่าให้มันถูกใช้งานที่ 3k ได้มั๊ย ก็แค่ทำอัตราส่วนรอบให้ได้ก็ทำ k ได้แล้ว
ลองมาดูกันครับ
ตอนนี้ Z = 3k (จากการเลือกเปลี่ยนจำนวนรอบที่ขดเซคคันดารี่)
3k = 2 x 3.14 x Fmin x 15Hy
Fmin = 31.8 Hz ครับ
ลองมาดูความสัมพันธ์ตรงนี้กัน
จำนวนรอบที่พันที่ขดไพรมารี่ / จำนวนรอบที่พันที่ขดเซคคันดารี = รากที่สองของ (ความต้านทานกระแสสลับที่ขดไพรมารี่ / ความต้านทานกระแสสลับที่ขดเซคคันดารี)
หรือเขียนเป็น
Np/Ns = Square root(Zp/Zs)
จากรอบที่ผมยกตัวอย่างมา Np = 3000 รอบ
สมมติว่าลำโพงของเราเป็น 8 Ohm -> Zs = 8 Ohm
จะได้
3000/Ns = Square root(Zp/8)
Zp = (3000/Ns) ยกกำลังสอง x 8
ทีนีก็ลองดูครับว่าถ้าเราพันขดเซคคันดารีกีรอบแล้วจะออกมาได้กี่ k แทนค่าลงไปในสูตรเลยครับ
ถ้าพันขดเซค 120 รอบก็จะได้ Zp = (3000/120) ยกกำลังสอง x 8 = 5k-Ohm
ถ้าพันขดเซค 130 รอบก็จะได้ Zp = (3000/130) ยกกำลังสอง x 8 = 4.26k-Ohm
แต่ครับแต่ อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่แรกว่าเราได้ k ที่เปลี่ยนไปได้โดยการเปลี่ยนรอบที่ขดเซคคันดารี แต่ว่ามันจะตอบสนองความถี่ให้เราได้หรือเปล่า ;)
-
ได้ความรู้อีกแล้ว ขอบคุณมากครับ
:clap :clap
-
แจ่มครับแจ่ม งานนี้ช่างของผม พันกันมือหักแน่ๆ จะเอาให้แท็ปออกมาเต็มบ้านเต็มเมืองเลย 2f
-
แจ่มครับแจ่ม งานนี้ช่างของผม พันกันมือหักแน่ๆ จะเอาให้แท็ปออกมาเต็มบ้านเต็มเมืองเลย 2f
จำนวนแท็ปก็ดึงออกมาได้เลยครับ ถ้าทำ interleave S:P = 4:3 ก็ดึงออกมาได้ 3 แท็ป ถ้าทำ interleave S:P = 5:4 ก็ดึงออกมาได้ 4 แท็ป ดึงกันง่ายๆ อย่างนี้แหละ :)
-
Curve screen drive ของ EL/PL509 ครับ ที่ g1 -33V
http://www.tube-town.net/info/sed-technotes/docs/technoteNo33.html
(http://www.tube-town.net/info/sed-technotes/pic/no33fig2.jpg)
-
Curve screen drive ของ EL/PL509 ครับ ที่ g1 -33V
http://www.tube-town.net/info/sed-technotes/docs/technoteNo33.html
(http://www.tube-town.net/info/sed-technotes/pic/no33fig2.jpg)
รู้สึกว่าวงจรที่ผมจะใช้ G1 มันเกือบจะเท่ากับศูนย์แล้วน่ะครับ สามารถนำมาเทียบกันได้เหรอครับ :black_eye
-
Curve screen drive ของ EL/PL509 ครับ ที่ g1 -33V
http://www.tube-town.net/info/sed-technotes/docs/technoteNo33.html
(http://www.tube-town.net/info/sed-technotes/pic/no33fig2.jpg)
รู้สึกว่าวงจรที่ผมจะใช้ G1 มันเกือบจะเท่ากับศูนย์แล้วน่ะครับ สามารถนำมาเทียบกันได้เหรอครับ :black_eye
ถ้าทำตามวงจรที่ลงใว้ตอนแรกก็ g1=-30V ใกล้เคียงกันนี่ครับ มันจ่าย -30 V ให้กับ g1 เลย ผมเคยอ่านดูเขาก็มีพื้นฐานมาจากวงจรของ Bob Danielak ที่ผมลงใว้เหมือนกัน ถ้าอยากได้ 0V ลองดูของ Svetlana ครับ แต่เขา Bias g1 ให้เป็นลบเพื่อลด screen sensitivity หลอดจะทำงานได้ Linear ขึ้น กำหนดจุดทำงานได้ง่ายขึ้นครับ
Screen bias curves are given in the Svetlana EL509 data sheets. These curves are given for zero grid bias. The phenomenal input sensitivity displayed by these curves, however, is really a double-edged sword. Because the screen draws varying (signal-dependent) current from the driver, it is best to DC couple the driver. Keeping the DC bias stable with such a high screen sensitivity would be a challenge, especially using all tube circuitry. One solution is to provide some negative grid bias to reduce the screen sensitivity
http://www.mif.pg.gda.pl/homepages/frank/sheets/164/e/EL509.pdf
-
อ๋อ ผมบอกไม่เคลียร์เองครับ ผมจะใช้วงจรอีกแบบหนึ่งที่คล้ายๆ กับแบบนี้ ที่อยู่ในลิ้งค์เดียวกันกับที่ให้ไว้ เป็นของ นาย Tim de Paravicini นักออกแบบของ E.A.R http://www.jogis-roehrenbude.de/Leserbriefe/Synola-509/Paravicini.pdf แต่ต่อ G1 เข้าที่คาโธดน่ะครับ (ตะกี้บอกไปว่าเป็น G1=0 อันนั้นผมมั่วด้วยความไม่รู้จริง :black_eye) แต่ก็พอจะเดาทางได้แล้วครับ ขอบคุณมากๆ
-
วงจรเช่นนี้ผมเคยลองสร้างแล้วครับ แต่ลองด้วยหลอดเล็กกว่านี้คือ ECL84+22KM6
ผมให้ความเห็นว่า รันกระแสเพิ่มอีกหน่อยน่าจะดีกว่านะครับ อาจจะเป็น 90-100 mA แล้วลดแรงดันตกคร่อมหลอดลงมาไม่ให้เกิน Pd(maX)
หม้อแปลงเอาท์พุตใช้เป็น 3k ได้ครับ เพราะถ้า k ต่ำก็ยิ่งรับกระแสได้มากโดยไม่อิ่มตัว ปกติการขับด้วย G2 จะได้ความเป็นเชิงเส้นที่ดี
แต่หลอดจะมีความต้านทานภายในสูง เช่นเดียวกับเพนโทด จึงต้องใช้ feedback ช่วย
เพราะถ้าให้ Vplate แกว่งมาก โอกาสที่จะได้ความเพี้ยนก็มีสูงขึ้น แต่การใช้ค่า k ต่ำหลอดจะต้องรันกระแสเพิ่มครับ
พิจารณาตามสมการ
caseI----->75mA@330 ที่ หม้อแปลง 3.5k
คิดที่ idal case นะครับเพราะว่า เรายังไม่มี plate curve ที่แน่นอน
possible Iswing(maX)=75mA*2=150mA
Pout(max)=((150mA^2)/8)*3.5k=9.8W--------------->>กำลังวัตต์จากกระแส
Pout(max)=((330V^2))/(2*3.5k)=15.5W--- ---------->>กำลังวัตต์จากแรงดัน
caseII----->90mA@275 ที่ หม้อแปลง 3k
possible Iswing(maX)=90mA*2=180mA
Pout(max)=((180mA^2)/8)*3k=12.1W---------------->>กำลังวัตต์จากกระแส
Pout(max)=((275V^2))/(2*3k)=12.6W---------------->>กำลังวัตต์จากแรงดัน
2 กรณีข้างต้นคิดที่ idal case นะครับ วัตต์ที่ได้จริงน้อยกว่านี้ครับ
ตอนที่ผมทดลองก็ลองทั้งสองกรณีคล้ายๆ กันนี้ ปรากฏว่ากรณีที่สองให้ผลที่ดีกว่าครับ
เคยมีเอกสารจากผู้ผลิตหลอด กล่าวว่ากรณีหลอดเพนโทดให้ใช้ เอาท์พุต k ต่ำร่วมกับการ feedback จะให้ผลที่ดีกว่าครับ
ซึ่งแตกต่างจากหลักการออกแบบหลอดไตรโอด
-
งบประมาณที่ผมวางไว้
1.หลอด 6N1P 3 หลอด 450 บาท
2.หลอด EL509 2 หลอด 1600 บาท
3.หม้อแปลงไฟ 1 ตัว 1000 บาท
4.หม้อแปลงเอาต์พุต 2 ตัว 1900 บาท
5.ตัวถัง สแตนเลสพับ 1500 บาท
6.อะไหล่ทั้งหมด เดินบ้านหม้อ 1500 บาท
รวม 6950 บาท เอาน่ะ ถือว่าใกล้เคียง คริๆๆ :D
-
ขอรบกวนความรู้สำหรับมือใหม่อย่างผม
จากสูตรของคุณ prasan
Np/Ns = Square root(Zp/Zs)
จากรอบที่ผมยกตัวอย่างมา Np = 3000 รอบ
สมมติว่าลำโพงของเราเป็น 8 Ohm -> Zs = 8 Ohm
โดยปกติ Np ของ OPT ที่เราพันกัน นิยมกันใช้กี่รอบครับ :help
-
อยากทราบเหมือนกันว่าท่านอื่นใช้กี่รอบ สำหรับผม 3000 รอบนะครับ ;)
-
ขั้นตอนการหาหม้อแปลง และ สะสมอะไหล่ผ่านมาครึ่งทางแล้ว เหลือก็แต่กล่อง ของผมเป็นสแตนเลส แต่พับไว้นานแล้วอุตส่าห์ไปหาที่เจาะพลาสม่าได้แล้ว แต่ดันทำตัวถังเป็นรอยหมดเลย รบกวนเพื่อนช่วยชี้แนะสถามที่ ที่ปัดเงาลบรอยเสี้ยนในเขต กทม หน่อยได้มั้ยครับ :black_eye
-
ขั้นตอนการหาหม้อแปลง และ สะสมอะไหล่ผ่านมาครึ่งทางแล้ว เหลือก็แต่กล่อง ของผมเป็นสแตนเลส แต่พับไว้นานแล้วอุตส่าห์ไปหาที่เจาะพลาสม่าได้แล้ว แต่ดันทำตัวถังเป็นรอยหมดเลย รบกวนเพื่อนช่วยชี้แนะสถามที่ ที่ปัดเงาลบรอยเสี้ยนในเขต กทม หน่อยได้มั้ยครับ :black_eye
แถว ๆ จุฬา ซอย 26 จะมีร้านปัดเงา ผมละจำชื่อร้านไม่ได้ ลองสอบถามแถวนั้นดูก็ได้ครับ
-
ผมก็ลอง ๆ ฟัง ๆ มาสักพักแล้วครับ แต่ไปไหนไม่ไกล
เริ่ม แรก ๆ ด้วย Triode-strap + OPT 1.8 K
-
ภาคแรกรู้สึกว่า มันยังไม่ค่อยโดน เลยลองเล่น screen drive ดูบ้างครับ
พื้นฐานเริ่มจาก synola ก่อน แต่ก็รู้สึกว่ามันยังไม่โอเค ( ไม่มี NFB นะครับ )
-
Plate แดง.... :cold :cold
(http://www.htg2.net/index.php?action=dlattach;topic=62809.0;attach=136722;image)
-
จาก synola
หันมาหาหลอด TV ครับ ไล่มาตั้งแต่ 6CY7 -> 8CS7
จนมาถึง PCL84 ครับ ถือว่า พอได้ครับ ส่วน OPT หันมาคบกับ 2.5K อยู่
กำลังได้ราว 8W ครับ
ตัวนี้คิดว่าคงหยุดที่ วงจรประมาณนี้ เพราะต้องสร้าง แท่น + power + OPT ใหม่ อีก
แต่ OPT เน้น ค่า inductance หน่อยครับ
-
วงจรสุดท้ายประมาณไหนครับ น่าจะไกล้ๆกับของ Bob D. หรือเปล่าครับ
-
วงจรสุดท้ายประมาณไหนครับ น่าจะไกล้ๆกับของ Bob D. หรือเปล่าครับ
แนวนั้นครับ แต่ไม่ได้เล่น FB และ หลอด เพาเวอร์ ใช้ Fix bias เลยใช้ไฟต่ำลงมาหน่อยครับ ช่วง 320-340 โวลต์
เดี๋ยวผมไปเิปิดกระทู้ใหม่ ดีกว่า แต่อายเพื่อน ๆ เพราะมันเป้นแท่นทดลอง แต่ก็ฟังมาเรื่อย :)
ยิ่งเห็น เครื่องคุณ yoss ผมยิ่ง :cry2