HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม Thai DIY Audio => ข้อความที่เริ่มโดย: nut_ty ที่ 09 มีนาคม, 2010, 10:38:10 pm
-
ตั้งคำถามใหม่แบบเบาๆ ครับ รบกวนอยากทราบการทำงานของ ไดโอดที่ต่ออนุกรมกับหลอดไฟ ในเครื่องกรองไฟด้วยครับ การต่อของเขาใช่ต่ออนุกรมกัน 2 ตัว (สูตรใหม่) คร่อมฟิวส์เอาไว้ เนื่องจากปลั๊กตัวนี้จำหน่ายในยุโรปจึงใช้ฟิวส์ 120VAC เมื่อนำมาใช้ในบ้านเราหากต่อเข้ากับไฟ 220VAC ฟิวส์ก็จะขาด และ หลอดไฟจะติดทันทีด้วยการอนุกรมกับไดโอด และ ตัวต้านทาน นั่นก็หมายความว่าถ้าใช้ฟิวส์ 220VAC ไฟก็จะไหลผ่านฟิวส์ไปโดยที่ไม่สนใจ ไดโอด กับ ตัวต้านทาน และ หลอดไฟเหล่านั้นใช่มั้ยครับ
ขดลวดฟิลเตอร์ที่ใช้ลวดใหญ่ขนาดนั้น แน่นอนครับว่าทนไฟ 220VAC แน่ๆ ผมจึงอยากทราบจริงๆ ว่าในขณะที่ไฟไหลผ่านฟิวส์ไปนั้น ไดโอด และ เพื่อนๆ จะมีหน้าที่อื่นใดบ้างครับ ในการกรองไฟ หรือ จัดรูปแบบไฟใหม่ หรือ ฯลฯ
-
รบกวนขอคำตอบในเชิงวิชาการนะครับ เผื่ออนาคตจะได้เอาไว้เป็นข้อมูลในการศึกษาของเด็กรุ่นหลังๆ :)
-
ถ้าตอบตามหลักวิชาการเลย ก้ไม่มีผลใดๆขณะที่ฟิวส์ยังดีอยู่ ;)
นิดนึงนะครับถ้าจะต่อ LED เข้ากับไฟ 220 V ควรต่อสองแบบบน แบบล่างไม่ควรต่อ
คงไม่เป็นการเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนนะ :yahoo
-
ถ้าตอบตามหลักวิชาการเลย ก้ไม่มีผลใดๆขณะที่ฟิวส์ยังดีอยู่ ;)
นิดนึงนะครับถ้าจะต่อ LED เข้ากับไฟ 220 V ควรต่อสองแบบบน แบบล่างไม่ควรต่อ
คงไม่เป็นการเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนนะ :yahoo
ควร หรือไม่ควร เพราะอะไรครับ รบกวนแล็คเชอร์การทำงานของแต่ละแบบเป็นวิทยาทานด้วยครับ ...........(ข้าน้อยก็ไม่ทราบจริงๆ)
ขอบคุณครับ
-
อ่านจบ ขอพาราเซตามอลให้ผม 2 เม็ด งงตรึม ถ้าจะเอาเป็นแบบวิชาการ รบกวนคัดเป็นรูปวงจรมาดีกว่าครับ จะเข้าใจกันง่ายกว่า K]
-
วัตถุประสงค์ของการต่อแบบนี้เค้าทำไว้เพื่อมอนิเตอร์ว่าฟิวส์ขาดหรือไม่ขาด (Fuse blown monitoring) ถ้าฟิวส์ไม่ขาดหลอดไฟจะไม่ติด แต่ถ้าฟิวส์ขาดหลอดไฟจะติดครับ หลักการง่ายๆ ก็คือ ถ้าฟิวส์ไม่ขาดกระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านเส้นทางที่มีความต้านทานน้อยซึ่งก็คือฟิวส์แทนที่จะไหลผ่านวงจร Fuse blown monitoring จึงทำให้หลอดไฟไม่ติด แต่พอฟิวส์ขาดทำให้เส้นทางนี้มีความต้านทานมากๆๆๆ มันจึงวิ่งผ่านชุด Fuse blown monitoring ทำให้หลอดติดสว่างครับ :)
-
วัตถุประสงค์ของการต่อแบบนี้เค้าทำไว้เพื่อมอนิเตอร์ว่าฟิวส์ขาดหรือไม่ขาด (Fuse blown monitoring) ถ้าฟิวส์ไม่ขาดหลอดไฟจะไม่ติด แต่ถ้าฟิวส์ขาดหลอดไฟจะติดครับ หลักการง่ายๆ ก็คือ ถ้าฟิวส์ไม่ขาดกระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านเส้นทางที่มีความต้านทานน้อยซึ่งก็คือฟิวส์แทนที่จะไหลผ่านวงจร Fuse blown monitoring จึงทำให้หลอดไฟไม่ติด แต่พอฟิวส์ขาดทำให้เส้นทางนี้มีความต้านทานมากๆๆๆ มันจึงวิ่งผ่านชุด Fuse blown monitoring ทำให้หลอดติดสว่างครับ :)
อยากทราบถึงคุณสมบัติในการกรองไฟ และ การเปลี่ยนแปลงรูปคลื่นใด ๆ ด้วยครับ ในกรณ๊ที่เราใช้ขั้ว IEC ชั้นเลิศอยู่แล้ว เนื่องจากต้นแบบ (การโมดิฟาย) ตามรูปที่ผมลงไว้นั้น มีกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ใช้ (เท่าที่ทราบ) พยายามสรรหากระบวนการโมดิฟายแบบนี้มาใช้งาน (สรรหาหมายถึงจ่ายค่าจ้าง 5 หลัก) ทำให้ฉุกคิดได้ว่าหากมีผลลัพธ์ที่เป็นหลักสากล และ คุ้มค่าต่อการลงทุน ผมจะใช้สูตรเดียวกันนี้กับฟิวส์ของผมทุกๆ ตัวในบ้านครับ :victory
-
วัตถุประสงค์ของการต่อแบบนี้เค้าทำไว้เพื่อมอนิเตอร์ว่าฟิวส์ขาดหรือไม่ขาด (Fuse blown monitoring) ถ้าฟิวส์ไม่ขาดหลอดไฟจะไม่ติด แต่ถ้าฟิวส์ขาดหลอดไฟจะติดครับ หลักการง่ายๆ ก็คือ ถ้าฟิวส์ไม่ขาดกระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านเส้นทางที่มีความต้านทานน้อยซึ่งก็คือฟิวส์แทนที่จะไหลผ่านวงจร Fuse blown monitoring จึงทำให้หลอดไฟไม่ติด แต่พอฟิวส์ขาดทำให้เส้นทางนี้มีความต้านทานมากๆๆๆ มันจึงวิ่งผ่านชุด Fuse blown monitoring ทำให้หลอดติดสว่างครับ :)
อยากทราบถึงคุณสมบัติในการกรองไฟ และ การเปลี่ยนแปลงรูปคลื่นใด ๆ ด้วยครับ ในกรณ๊ที่เราใช้ขั้ว IEC ชั้นเลิศอยู่แล้ว เนื่องจากต้นแบบ (การโมดิฟาย) ตามรูปที่ผมลงไว้นั้น มีกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ใช้ (เท่าที่ทราบ) พยายามสรรหากระบวนการโมดิฟายแบบนี้มาใช้งาน (สรรหาหมายถึงจ่ายค่าจ้าง 5 หลัก) ทำให้ฉุกคิดได้ว่าหากมีผลลัพธ์ที่เป็นหลักสากล และ คุ้มค่าต่อการลงทุน ผมจะใช้สูตรเดียวกันนี้กับฟิวส์ของผมทุกๆ ตัวในบ้านครับ :victory
ถ้าเป็นตามวงจรที่ผมเข้าในตามที่คุณ nut_ty เล่ามา มันเป็นแค่วงจร Fuse blown monitoring เท่านั้นไม่น่าจะมีผลต่อเรื่องเสียงครับ
หลักการทำงานของวงจรถ้าดูก็จะเห็น D1 D2 ทำหน้าที่แปลงไฟกระแสสสลับให้เป็นไฟกระแสตรง การที่นำมาต่ออนุกรมกันเพื่อเพิ่มพิกัดการทนต่อแรงดันไฟฟ้า R1 มีหน้าที่จำกัดกระแสไม่ให้ไหลผ่าน LED มากจนเป็นอันตราย LED ก็เป็นตัวแสดงสภาวะให้เราเห็นได้ครับ
-
ในสภาวะปกติที่ฟิวส์ไม่ขาดถ้าบอกว่าชุด Fuse blown monitoring มันทำงานได้ นั่นแสดงว่า จุดต่อสายที่ต่อไปฟิวส์หลวมหรือหน้าสัมผัสที่กระบอกฟิวส์หลวมครับ ต้องแก้ไขครับ :)
-
ก็ลองถอดออกแล้วฟัง ใส่ใหม่แล้วฟัง(อีกที) ก็รู้แล้วครับแถมชัวร์ด้วย
-
ในสภาวะปกติที่ฟิวส์ไม่ขาดถ้าบอกว่าชุด Fuse blown monitoring มันทำงานได้ นั่นแสดงว่า จุดต่อสายที่ต่อไปฟิวส์หลวมหรือหน้าสัมผัสที่กระบอกฟิวส์หลวมครับ ต้องแก้ไขครับ :)
แสดงว่าท่านที่เปลี่ยนเอาวงจรนี้เข้าไปในเครื่อง แล้วสัมผัสได้ถึงมิติของเสียงที่แบ่งแยกชิ้นดนตรี หน้า-หลัง ได้ดีขึ้น รวมไปถึงภาพมีน้อยส์ลดลงสำหรับ Blueray น่าจะเป็นการเข้าใจผิดจากส่วนอื่นๆ ที่นำมาใช้ในซิสเต็มหรือเปล่าครับ เพราะชุดไดโอดตัวนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่เพิ่มเติมเข้าไปในซิสเต็มที่ผมพบมาน่ะครับ ยังมีพวกเส้น สาย อื่นๆ อีกเยอะมากๆ
จุดประสงค์ที่ผมตั้งคำถามขึ้นมาเนื่องจากผมทราบมาคร่าวๆ ว่า ราคาค่างวดของวงจรนี้ เขาคิดกัน 5 หลัก เลยนะครับ หากจ่ายไปแล้ว วงจรมันไม่ได้ทำงานในสภาวะปกติ ก็ให้อดสงสัยไม่ได้ว่าจ่ายไปเพื่ออะไร ??? เนื่องจากมันไม่เหมือนสายสัญญาณที่สามารถถอดเข้าถอดออกเพื่อ A/B test ได้ง่ายกว่า :D
-
ไม่มีคำตอบทางเทคนิคมาแชร์ครับ ;D ;D
ตั้งใจมาแซวว่า เสียงที่ดีอาจมาจากตะกั่วที่ใช้ WBT ซะด้วย 2f 2f
-
;D ;D ;D มันไม่มีคุณสมบัติกรองไฟอะไรเลยครับ มันแค่แก้ที่ความรู้สึก รูปวงจร ถ้ามองเผิน ๆ แล้ว มันเหมือนวงจรเสมือนของวงจร rectifier ตรงนี้ถ้าวงจรครบลูปจะได้ไฟเพิ่มขึ้นมาอีกนิดหน่อยจากไฟตรงเข้าไปผสม อันนี้ชัดไหมครับ เรือง มิติเสียง ที่อาจเพิ่มมาขึ้น ;D ;D ;D แต่ผมมองว่า มันเป็นการแก้ที่ความรู้สึกมากกว่า แค่นั่งมองหน้าปัทม์แอมป์เครื่องที่มี Led ดวงเล็ก ๆ โชว์ที่หน้าปัทม์ความรู้สึกยังต่างกันเลยระหว่างมีกับไม่มี ถ้ามีมันก็อาจทำให้จิตนาการไปต่าง ๆ นานา ;D ;D ;D :yahoo
-
ดูวงจรกันอีกทีครับ ในภาวะที่ฟิวส์ปกติเส้นสีแดงมันช็อตวงจรหลอด LED ทั้งหมดแล้วมันจะทำงานได้อย่างไรครับ :)
-
เห็นภาพกระจ่างเลยครับ
-
ดูวงจรกันอีกทีครับ ในภาวะที่ฟิวส์ปกติเส้นสีแดงมันช็อตวงจรหลอด LED ทั้งหมดแล้วมันจะทำงานได้อย่างไรครับ :)
ผมมั่นใจว่าท่านที่ว่านี้ อ่านกระทู้ของผมเรียบร้อยแล้ว และ กำลังลบกระทู้ของตัวเองอยู่เป็นแน่ เนื่องจากผมหาข้อความบางส่วนไม่เจอแล้ว ที่จริงไม่ได้ตั้งกระทู้มาเพื่อตินะครับ แต่อยากตั้งเพื่อเตือนว่าปลูกสิ่งใด ย่อมได้ผลเป็นสิ่งนั้น :-X
-
ดูจากวงจรแล้ว ไดโอด ตัวต้านทานและ LED น่าจะประกอบไว้เพื่อให้หลอด LED เป็นตัวแสดงผลเมื่อเกิดฟิวส์ขาดครับ เพราะในขณะที่ฟิวส์ยังปกติอยู่ จะไม่มีแรงดันตกคร่อมที่วงจร แต่ถ้าฟิวส์ขาดก็จะครบวงจร และแสดงให้ผู้ใช้เห็นครับ ;D
-
ดูวงจรกันอีกทีครับ ในภาวะที่ฟิวส์ปกติเส้นสีแดงมันช็อตวงจรหลอด LED ทั้งหมดแล้วมันจะทำงานได้อย่างไรครับ :)
ผมมั่นใจว่าท่านที่ว่านี้ อ่านกระทู้ของผมเรียบร้อยแล้ว และ กำลังลบกระทู้ของตัวเองอยู่เป็นแน่ เนื่องจากผมหาข้อความบางส่วนไม่เจอแล้ว ที่จริงไม่ได้ตั้งกระทู้มาเพื่อตินะครับ แต่อยากตั้งเพื่อเตือนว่าปลูกสิ่งใด ย่อมได้ผลเป็นสิ่งนั้น :-X
ก่อนอื่นต้องขอบอกว่า ผมเสนอข้อมูลตามที่ผมเข้าใจนะครับและผมก็คิดว่ามันเป็นความจริง ส่วนว่าจะฟังแล้วเสียงดีหรือไม่ดีนั้นผมไม่ขอออกความเห็นนะครับ ;)
-
วัตถุประสงค์ของการต่อแบบนี้เค้าทำไว้เพื่อมอนิเตอร์ว่าฟิวส์ขาดหรือไม่ขาด (Fuse blown monitoring) ถ้าฟิวส์ไม่ขาดหลอดไฟจะไม่ติด แต่ถ้าฟิวส์ขาดหลอดไฟจะติดครับ หลักการง่ายๆ ก็คือ ถ้าฟิวส์ไม่ขาดกระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านเส้นทางที่มีความต้านทานน้อยซึ่งก็คือฟิวส์แทนที่จะไหลผ่านวงจร Fuse blown monitoring จึงทำให้หลอดไฟไม่ติด แต่พอฟิวส์ขาดทำให้เส้นทางนี้มีความต้านทานมากๆๆๆ มันจึงวิ่งผ่านชุด Fuse blown monitoring ทำให้หลอดติดสว่างครับ :)
อยากทราบถึงคุณสมบัติในการกรองไฟ และ การเปลี่ยนแปลงรูปคลื่นใด ๆ ด้วยครับ ในกรณ๊ที่เราใช้ขั้ว IEC ชั้นเลิศอยู่แล้ว เนื่องจากต้นแบบ (การโมดิฟาย) ตามรูปที่ผมลงไว้นั้น มีกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ใช้ (เท่าที่ทราบ) พยายามสรรหากระบวนการโมดิฟายแบบนี้มาใช้งาน (สรรหาหมายถึงจ่ายค่าจ้าง 5 หลัก) ทำให้ฉุกคิดได้ว่าหากมีผลลัพธ์ที่เป็นหลักสากล และ คุ้มค่าต่อการลงทุน ผมจะใช้สูตรเดียวกันนี้กับฟิวส์ของผมทุกๆ ตัวในบ้านครับ :victory
ถ้าเป็นตามวงจรที่ผมเข้าในตามที่คุณ nut_ty เล่ามา มันเป็นแค่วงจร Fuse blown monitoring เท่านั้นไม่น่าจะมีผลต่อเรื่องเสียงครับ
หลักการทำงานของวงจรถ้าดูก็จะเห็น D1 D2 ทำหน้าที่แปลงไฟกระแสสสลับให้เป็นไฟกระแสตรง การที่นำมาต่ออนุกรมกันเพื่อเพิ่มพิกัดการทนต่อแรงดันไฟฟ้า R1 มีหน้าที่จำกัดกระแสไม่ให้ไหลผ่าน LED มากจนเป็นอันตราย LED ก็เป็นตัวแสดงสภาวะให้เราเห็นได้ครับ
ดูจากรูปแล้ว ผมก็เข้าใจอย่างที่พี่ประสานอธิบาย ถ้าฟิวส์ขาด หลอดไฟจะติด :) :)
-
K) มันทำให้ความต้านทานของ fuse ลดลงครับ หลักการแบ่งกระแสตามความต้านทาน แต่ลดลงเท่าไหร่นั้น คงจะน้อยมากๆๆๆๆๆ และสู้ เอา fuse ที่ความต้านทานน้อยกว่ามาขนานไม่ได้ :clap
และถึงจะลดได้ก็คงได้แค่ไฟซีกเดียว ไม่ใช่ full wave ครับเพราะมี diode มากั้นอยู่
แต่สุดๆแล้ว ไม่เกี่ยวกับระบบไฟครับ :yahoo เป็นระบบ fuse monitor ครับ
หาแหวนวิเศษ มาทำ emi filter น่าจะเห็นผลมากกว่า :victory
-
โชคดีที่หูไม่ถึง :shutup
-
วัตถุประสงค์ของการต่อแบบนี้เค้าทำไว้เพื่อมอนิเตอร์ว่าฟิวส์ขาดหรือไม่ขาด (Fuse blown monitoring) ถ้าฟิวส์ไม่ขาดหลอดไฟจะไม่ติด แต่ถ้าฟิวส์ขาดหลอดไฟจะติดครับ หลักการง่ายๆ ก็คือ ถ้าฟิวส์ไม่ขาดกระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านเส้นทางที่มีความต้านทานน้อยซึ่งก็คือฟิวส์แทนที่จะไหลผ่านวงจร Fuse blown monitoring จึงทำให้หลอดไฟไม่ติด แต่พอฟิวส์ขาดทำให้เส้นทางนี้มีความต้านทานมากๆๆๆ มันจึงวิ่งผ่านชุด Fuse blown monitoring ทำให้หลอดติดสว่างครับ :)
ผมก็เข้าใจตามพี่ๆ เหมือนกันครับ มันเหมือนกับว่า เราเอาความต้านทาน แบบค่ามากๆ ไปขนานกับ เส้นลวดนะครับ กระแสไฟฟ้ามันก็ต้องเลือกที่จะไหลไปในทางที่สะดวกที่สุดซึงก็คือเส้นลวด<Fuse>ครับ
แต่ตามความคิดของผม <ไม่รู้ว่าถูกหรือเปล่านะครับ> ผมว่าการที่บางท่านรู้สึกว่าต่อแบบนี้แล้วเสียงดีขึ้นอาจจะเป็นเพราะกระแสไฟไหลได้ดีขึ้นนะครับ เนื่องจากความต้านทานที่ตกคร่อม Fuse มันน่าจะลดลง เพราะเส้น Led เองถึงเราจะมองว่ามีความต้านทานเป็น Infinity จริงๆก็ยังคงมีความต้านทานอยู่เพียงแต่เป็นค่าที่มากกว่าของ Fuse มากๆ ดังนั้นเมื่อขนานกันแล้วความต้านทานรวมจึงลดลงไปอีกนึดหน่อยครับ Voltage Drop จึงลดลงครับ
-
โชคดีที่หูไม่ถึง :shutup
หูไม่ถึงเหมือนกัน ;D