HTG2.club

Home Theater Guide webboard => มุม โฮมเธียเตอร์ (HT) => ข้อความที่เริ่มโดย: pong_9898 ที่ 23 มีนาคม, 2010, 09:35:39 am

หัวข้อ: ทำไมต้อง Burn สายลำโพง สาย AC สายสัญญาณ สาย HDMI
เริ่มหัวข้อโดย: pong_9898 ที่ 23 มีนาคม, 2010, 09:35:39 am
ผมสงสัยมานานแล้วว่าเวลาเราซื้อพวกลำโพง หรือ Receiver TV สายสัญญาณ สายHDMI คนขายจะต้องบอกว่าให้ Burn ครบ 50 100 200 ชม.ก่อน ผมก็จะถามเค้าว่า "ทำไมต้อง Burn" และผมก็จะได้คำตอบเสมอว่า "Burn แล้วมันจะดีขึ้น ภาพสวยขึ้น เสียงดีขึ้น" ทุกครั้ง แล้วผมก็ถามต่อไปอีกว่า ถ้าคุณบอกว่าครบ 100 ชม.แล้วจะดีขึ้นกว่านี้อีก และถ้าผม Burn มา 99 ชม.กับ 101 ชม.มันจะต่างกันเยอะมั๊ย คนขายก็ตอบไม่ได้ ซึงผมก็มานั่งคิดว่าทำไมเราซื้อเครื่องไฟฟ้าอย่างอื่น เช่น พัดลม หม้อหุงข้าว เตารีด ไม่เห็นคนขายบออกว่าต้อง Burn เลย เคยคิดเล่นๆว่าถ้าเรา Burn พัดลมซัก 20 ชม.มันคงจะเย็นขึ้น หรื่อ Burn เตารีด ซัก 30 ชม.ผ้าคงจะเรียบขึ้น ที่ผมมาตั้งกระทู้ถามเรื่องนี้ไม่ได้มากวนประสาทใคร นะครับแต่ผมอยากจะถามผู้รู้ จริง ๆ ว่า การBurn มันเป็นหลักการ จริง ๆ หรือเกิดจากการที่เราต้องดู ต้องฟังทุกวัน จนเกิดความเคยชินกันแน่ เพื่อน ๆสมาชิก เคยสงสัยเหมือนผมบ้างมั๊ย
หัวข้อ: Re: ทำไมต้อง Burn สายลำโพง สาย AC สายสัญญาณ สาย HDMI
เริ่มหัวข้อโดย: boonboon ที่ 23 มีนาคม, 2010, 10:02:17 am
แหล่มเลย อยากรู้เหมือนกันครับ แต่ไม่กล้าถาม  :headphone
หัวข้อ: Re: ทำไมต้อง Burn สายลำโพง สาย AC สายสัญญาณ สาย HDMI
เริ่มหัวข้อโดย: AD1865 ที่ 23 มีนาคม, 2010, 10:13:34 am
ผมไม่สามารถตอบได้นะ แต่มีข้อคิดอย่างหนึ่งว่า กรเบิร์นอุปกรณ์ใดๆ ก็ตาม หากฟังเพลงแบบไม่ซ้ำเพลง ไม่ซ้ำแผ่นจะไม่รู้สึกถึงความแตกต่างเลยครับ เพราะสมองมนุษย์สามารถจดจำสิ่งที่กระทำซ้ำๆ กันได้ดี แต่ถ้าเปลี่ยนการทดสอบไปเรื่อยๆ มนุษย์จะไม่เจอสิ่งที่เรียกว่า "ผลจากการเบิร์นอิน" การเบิร์นอินเครื่องยนต์, มอเตอร์ หรือ อะไรก็ตามที่มีความร้อนมาเกี่ยวข้อง ในช่วงระยะเวลาเดียวกับการใช้งานจะเห็นผลกว่าการเบิร์นอิน แล้วทิ้งไว้ระยะหนึ่ง ซึ่งบางจ้าวบอกว่าการ Cryo ดีกว่าการเบิร์นอิน นั่นหมายถึงเรามองเข้าไปถึงการเรียงผลึกของผลกระทบจากอุณหภูมิ ต่างจากการเบิร์นอินโดยสิ้นเชิง

ในบางครั้งผมจะใช้คำว่า "รอการเบิร์นอิน" เป็นคำปลอบใจเวลาใช้งานแล้ว "ไม่คุ้มค่า"  ;D
หัวข้อ: Re: ทำไมต้อง Burn สายลำโพง สาย AC สายสัญญาณ สาย HDMI
เริ่มหัวข้อโดย: aouzaa ที่ 23 มีนาคม, 2010, 02:10:10 pm
ผมรู้สึกอย่างนี้นะ.....

พัดลม หลังจากเปิดไปแล้ว 100 ชม.              --> จะเย็นขึ้น (ถ้า...อาบน้ำ+ทาแป้งเย็นแล้วมาเปิดพัดลม :bath)
หม้อหุงข้าว หลังจากใช้ไปแล้ว 100 ชม.         --> ข้าวจะร้อนขึ้น (ถ้า...มีน้ำซุปหรือน้ำแกงร้อนๆ ก็ยิ่ง :blowup)
เตารีด หลังจากใช้ไปแล้ว 100 ชม.                --> จีบที่แขนเสื้อ จะเพิ่มขึ้นเป็น 2-3 จีบ :doh (จ้างซักรีดดีกว่า)
เครื่องเสียงใน HT หลังจากใช้ไปแล้ว 100 ชม. --> เสียงก็ดีขึ้นครับ  :headphone เพราะไม่ไปดูโรงอีกเลย
โปรเจคเตอร์ หลังจากใช้ไปแล้ว 100 ชม.        --> ภาพสีสดสวยขึ้น (ดูแต่ของเรา  :sleep อย่าไปดูของคนอื่นซิ)

อย่าคิดมากนะครับ  :evil2 อากาศยิ่งร้อนๆ อยู่ 

 d_d
หัวข้อ: Re: ทำไมต้อง Burn สายลำโพง สาย AC สายสัญญาณ สาย HDMI
เริ่มหัวข้อโดย: YOE ที่ 23 มีนาคม, 2010, 02:13:05 pm
ก็เหมือนนักกีฬาน่ะครับ  ต้องมีการอบอุ่นร่างกาย เพื่อให้ร่างกายปรับสภาพก่อนลงแข่งจริง
หัวข้อ: Re: ทำไมต้อง Burn สายลำโพง สาย AC สายสัญญาณ สาย HDMI
เริ่มหัวข้อโดย: Martra ที่ 23 มีนาคม, 2010, 03:54:23 pm
เรื่องทำนองนี้...ฝรั่งยังเถียงกันไม่จบเลยครับ...ฝั่งที่ไม่เชื่อ
จะบอกว่า....ไอ้ที่มันเบิร์นน่ะ คือ "หู" ไม่ใช่อุปกรณ์ไฟฟ้า.... :D
พอหูชินเสียงมันก็ตีความไปอีกแบบ....
ไม่ต้องไปซีเรียสครับ....แต่รถยังมีช่วงรันอินเลย..... :black_eye
กล้อง นาฬิกา มีช่วงเบิร์นกับเค้าไหมเนี่ย.... :(
หัวข้อ: Re: ทำไมต้อง Burn สายลำโพง สาย AC สายสัญญาณ สาย HDMI
เริ่มหัวข้อโดย: หมี ที่ 23 มีนาคม, 2010, 09:40:29 pm

กล้อง นาฬิกา มีช่วงเบิร์นกับเค้าไหมเนี่ย.... :(

เลนส์มีนะครับ  เวลาใช้นานๆ จะหมุนง่าย ลื่นขึ้น เวลาซูมบางทีไม่ต้องหมุนละ เอามือดึงเข้าออกได้เลย (อันนี้ใกล้กลับบ้านเก่าแล้ว) 5 5 5 5
หัวข้อ: Re: ทำไมต้อง Burn สายลำโพง สาย AC สายสัญญาณ สาย HDMI
เริ่มหัวข้อโดย: champ143 ที่ 23 มีนาคม, 2010, 11:53:43 pm
มาแจมด้วยครับ
ยกตัวอย่างเช่นดอกกระดังงาต้องเอาไปลนไฟกอนจึงจะหอมครับ เครื่องเสียงพวกทรานซิสเตอร์ต้องให้กระแสไฟวิ่งเข้าไปแล้วออกมาบ่อยๆ ครับจึงจะแสดงประสิทธิภาพของตัวเองได้ดียิ่งขึ้นครับ เช่นเดียวกับสายไฟ สายลำโพง กรวยลำโพง ต้องให้มันขยับบเข้าขยับออกบ่อยๆ จนของกรวยมันยืดหยุ่นได้ตามความเป็นจริง ม่ายงั้นเสียงจะแข็งกระด้าง คงพอเข้าใจนนะครับ
แต่รับรองอย่างคุณหมีครับว่า ชั่วโมงที่ 1 กับขั่วโมงที่ 100 เสียงแตกต่างฟังออกครับ  Y]
หัวข้อ: Re: ทำไมต้อง Burn สายลำโพง สาย AC สายสัญญาณ สาย HDMI
เริ่มหัวข้อโดย: bourbon ที่ 24 มีนาคม, 2010, 12:55:54 am
นั่นสิครับ น่าสงสัยเหมือนกัน
ถ้าเป็นลำโพงจะไม่มีคำถามจำพวกนี้ในหัวผมเลยนะ แต่พวกสายเนี่ย นึกภาพไม่ออกจริงๆครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมต้อง Burn สายลำโพง สาย AC สายสัญญาณ สาย HDMI
เริ่มหัวข้อโดย: MezzoBello ที่ 24 มีนาคม, 2010, 07:38:42 am
จับหนูเบาๆ แล้วห้ามย้ายหนูบ่อยด้วยนะ  :D

 Q.) Hi. I purchased one power cable and one interconnect to see what I thought of them before I spend an enourmous amount of money replacing all my cables, although the money I spent on just these was not a small amount.

First a suggestion. I think a "one size fits all" instruction sheet, i.e, Cable Break in Guide, is a bit remiss on your part. I would think that a power cable is different, and different instructions would apply. Since it doesn't mention power cables or any reference to power cables, one gets the impression that the wrong instructions are included, even though that isn't the case.Your cables aren't cheap and a bit more effort here would be appreciated.

You mention that they need to lie quiet and age. "Once your cables have stabilized, leave them alone". Then you tell us to re-apply the contact conditioner every 30 day's? I think I understand the initial break in period recommendations. It's after that I'm having trouble with.

You say, "treat them gently and let them settle before you listen". What in the world does that mean? Are you serious? I've read it numerous times, slept on it, had a freind read it, we both tried to break it down and analyze it, and it is over our Mensa heads. We came up with guesses, but guesse's aren't anything but random concoctions with no quantifiable basis. If possible, in plain english, with a real world example, could you please explain what this means? If I want to listen to a favorite CD, does this mean I put on a CD I don't particularly care for first? And for how long? And how do I do it "gently"? Do I play the CD softly? And how does this apply to the powercord? That really throws me. So everything I listen to or watch for say, the first-what-30 minutes, is going to be playing at dramatically lower quality?

I use my system a lot, so I'm trying to analyze how often I will be willing to go to such trouble to enjoy a CD or watch TV. How many people do you think are going to be willing to play a sweep tone from low to high before playing a favorite CD or watching a favorite program? And you don't mention for how long, either (not that it matters, since I'd be surprised if anyone actually did this more than once). And again, does this apply to power cables?

My apologies if this letter seems harsh. Clearly my frustration has gotten the better of me. Your guidance is appreciated. Scooter

A.) Hi Scooter. The point of treating them gently is they are not happy with being MOVED, i.e. picked up, coiled, etc. You really don't have to do anything special, so do not change your listening habits in any way. After they are initially plugged in, with power going through them for 72 hours, they will perform perfectly and you will not notice any change. If you need to unplug them and move them to another piece of equipment, it might take a small amount of time (usually minutes, not hours) for them to relax again.

One of the basics of our cables is stranded wire that is litz coated. This property (being sensitive to movement) applies to both your power cord and interconnect. It is not necessary to have different break in guides. Perhaps there is more information than necessary on the sheet. Just plug them in and enjoy. Colleen Cardas

FAQ จาก Cardas  (http://www.cardas.com/content.php?area=faqs&content_id=3&pagestring=Cable+Use)

เรื่อง Audio Myth เถียงกันไม่มีวันจบสิ้น
ขนาด Audio Engineering Society ยังไม่เชื่อเรื่องสายไฟเลยครับ
เค้ามองเป็นเรื่องตลก N]
หัวข้อ: Re: ทำไมต้อง Burn สายลำโพง สาย AC สายสัญญาณ สาย HDMI
เริ่มหัวข้อโดย: B-jung ที่ 31 มีนาคม, 2010, 12:38:51 pm
ปัญหาโลกแตกหรือป่าวครับ  ;D
ผมก็ลองเบิร์นแบบใช้ไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่รู้สึกถึงความต่างเลย
ส่วนตัวผมคิดว่า น่าจะเบิร์นหูมากกว่า แบบประมาณฟังแรกขัดๆ ฟังไปนานหูเริ่มชินกับเสียงของชุดนี้
สมองจะหลั่งสารเอ็กโดเรซิสเดอร์เรส(อย่างง พูดไปมั่วๆ) ทำให้อนุมานไปเองว่า เสียงดีขึ้นแฮะ :headphone
หัวข้อ: Re: ทำไมต้อง Burn สายลำโพง สาย AC สายสัญญาณ สาย HDMI
เริ่มหัวข้อโดย: Bohonnet ที่ 31 มีนาคม, 2010, 06:07:24 pm
เรื่องเบิร์นหูนี่  ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ครับ 
เพราะถ้าฟังจนเกิดความเคยชินจริง น่าจะจำได้ว่ามันเคยแหลมประมาณนี้
เบสเคยบวม เคยดังเท่านี้  ไม่ใช่ว่าเคยชินเบสบวมๆ แล้วรู้สึกว่ามันกระชับ หรือแหลมกัดหู ฟังไปแล้วนุ่มได้? :D

ส่วนเรื่องแผ่น  ผมว่า หลายๆท่านมีแผ่นกลาง แผ่นอ้างอิงอยู่หนะครับ 
จิงๆแล้ว ถ้าเราฟังออก ว่าดีขึ้น แฮปปี้ ก็ดีแล้วหนิครับ :clap

ทางเทคนิคนี่ต้องรอพี่ๆท่านอื่นๆมาอธิบายละครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมต้อง Burn สายลำโพง สาย AC สายสัญญาณ สาย HDMI
เริ่มหัวข้อโดย: M.lex ที่ 31 มีนาคม, 2010, 07:00:45 pm
ผมสงสัยมานานแล้วว่าเวลาเราซื้อพวกลำโพง หรือ Receiver TV สายสัญญาณ สายHDMI คนขายจะต้องบอกว่าให้ Burn ครบ 50 100 200 ชม.ก่อน ผมก็จะถามเค้าว่า "ทำไมต้อง Burn" และผมก็จะได้คำตอบเสมอว่า "Burn แล้วมันจะดีขึ้น ภาพสวยขึ้น เสียงดีขึ้น" ทุกครั้ง แล้วผมก็ถามต่อไปอีกว่า ถ้าคุณบอกว่าครบ 100 ชม.แล้วจะดีขึ้นกว่านี้อีก และถ้าผม Burn มา 99 ชม.กับ 101 ชม.มันจะต่างกันเยอะมั๊ย คนขายก็ตอบไม่ได้ ซึงผมก็มานั่งคิดว่าทำไมเราซื้อเครื่องไฟฟ้าอย่างอื่น เช่น พัดลม หม้อหุงข้าว เตารีด ไม่เห็นคนขายบออกว่าต้อง Burn เลย เคยคิดเล่นๆว่าถ้าเรา Burn พัดลมซัก 20 ชม.มันคงจะเย็นขึ้น หรื่อ Burn เตารีด ซัก 30 ชม.ผ้าคงจะเรียบขึ้น ที่ผมมาตั้งกระทู้ถามเรื่องนี้ไม่ได้มากวนประสาทใคร นะครับแต่ผมอยากจะถามผู้รู้ จริง ๆ ว่า การBurn มันเป็นหลักการ จริง ๆ หรือเกิดจากการที่เราต้องดู ต้องฟังทุกวัน จนเกิดความเคยชินกันแน่ เพื่อน ๆสมาชิก เคยสงสัยเหมือนผมบ้างมั๊ย
ถ้าหากหัดสังเกตุสังกาให้มากๆ ทุกอย่างมันเปลี่ยนครับ ผมอาจจะไม่ค่อยเหมือนใครหรืออาจจะเหมือนใคร

ตู้เย็น ผมซื้อตูเย็นให้คุณตาใหม่ คุณตาบอกว่าไอ้เล็กมึงเอาตู้เย็นอะไรมาให้กูว่ะ มันทำไมเย็นสู้ของเก่ากูไม่ได้ เอาซิครับ มันเสียเปล่าว่ะเนี่ย
ผมบอกว่าใช้ไปก่อน เดี๋ยวมันก็เย็นเอง อีกสองเดือนถัดมา ตาผมอีกนั้นแหละ โทรมาบอกว่า ทำไงดีเนี่ย ผักที่แช่ไว้มันดำหมดเลย สรุปมันเย็นมากกว่าเดิม

ข้อสังเกตุ ตู้เย็นที่ซื้อมาใหม่เอี่ยมสองสามวันแลกไม่ค่อยเย็นหลังจากนั้น เย็นถึงเย็นเจี๊ยบ
การ Burn หรือ run ก็คือ ทำให้ทุกอย่างทำงานเข้ากัน อุปกรณ์บางตัวยังทำงานไม่เต็มที่ เลยต้องจัดการ Burn เสียงให้เรียบร้อย

เคยดู F1เปล่าครับ ก่อนแข่ง ต้องมี warmup Lab ก่อน burnยาง เผาเครื่องยนต์ให้พร้อมใช้งาน

เห็นไหมครับ Burn In สำมะคัญมาก ใครสตาร์ทรถตอนเช้าที่เครื่องยังเย็นอยู่แล้วออกวิ่งเลยบ้างครับ ลอง Burn ก่อนออกรถดูนะครับ ซัก5นาที
แล้วจะพบคำตอบว่าต้อง Burn ทำไม...
หัวข้อ: Re: ทำไมต้อง Burn สายลำโพง สาย AC สายสัญญาณ สาย HDMI
เริ่มหัวข้อโดย: akaz ที่ 31 มีนาคม, 2010, 07:31:40 pm
ผมคิดว่ามันดีขึ้นจริง ๆ เหมือนเราตื่นนอนขึ้นมายังรู้สึกงงเล็กน้อย ต้องให้ร่างกายปรับสภาพซักแป๊บนึง สายตาก็มองเห็นชัดขึ้น
หูก็ได้ยินเสียงเล็ก ๆ น้อยมากขึ้น
หัวข้อ: Re: ทำไมต้อง Burn สายลำโพง สาย AC สายสัญญาณ สาย HDMI
เริ่มหัวข้อโดย: cars ที่ 31 มีนาคม, 2010, 11:00:14 pm
ขนาดกินโต๊ะจีนยังมีออเดิรฟ์เลยครับ     ( เกี่ยวมั้ยเนี่ยเราขำๆ)
หัวข้อ: Re: ทำไมต้อง Burn สายลำโพง สาย AC สายสัญญาณ สาย HDMI
เริ่มหัวข้อโดย: champ143 ที่ 31 มีนาคม, 2010, 11:46:38 pm
ขนาดกินโต๊ะจีนยังมีออเดิรฟ์เลยครับ     ( เกี่ยวมั้ยเนี่ยเราขำๆ)
แต่เอ้ บางกิจกรรมเผาหัวนานก็ไม่ไหวนะครับ เสียของ อิอิ  :headphone
หัวข้อ: Re: ทำไมต้อง Burn สายลำโพง สาย AC สายสัญญาณ สาย HDMI
เริ่มหัวข้อโดย: khun_sor ที่ 01 เมษายน, 2010, 01:03:01 am
มาแจมด้วยครับ
ยกตัวอย่างเช่นดอกกระดังงาต้องเอาไปลนไฟกอนจึงจะหอมครับ เครื่องเสียงพวกทรานซิสเตอร์ต้องให้กระแสไฟวิ่งเข้าไปแล้วออกมาบ่อยๆ ครับจึงจะแสดงประสิทธิภาพของตัวเองได้ดียิ่งขึ้นครับ เช่นเดียวกับสายไฟ สายลำโพง กรวยลำโพง ต้องให้มันขยับบเข้าขยับออกบ่อยๆ จนของกรวยมันยืดหยุ่นได้ตามความเป็นจริง ม่ายงั้นเสียงจะแข็งกระด้าง คงพอเข้าใจนนะครับ
แต่รับรองอย่างคุณหมีครับว่า ชั่วโมงที่ 1 กับขั่วโมงที่ 100 เสียงแตกต่างฟังออกครับ  Y]

เป็นเช่นนั้นจริงๆ ครับ ชม.1 กับ ชม.ที่ 100 ต่างกันอย่างรับรู้ได้ แต่ ชม.ที่ 99 กับ ชม.ที่ 101 ถ้าฟังออกเนี่ย น่าจะเป็นบุุคคลสำคัญในวงการเครื่องเสียงเลย แต่จะเป็นคนประหลาดในสังคมทั่วไป  2f 2f

แต่ ภรรยาผมเบิร์นมาหลาย ชั่วโมงแล้วไม่เห็นดีขึ้นเลย ไม่เหมือนตอนชั่วโมงแรกๆ  ;D
 
หัวข้อ: Re: ทำไมต้อง Burn สายลำโพง สาย AC สายสัญญาณ สาย HDMI
เริ่มหัวข้อโดย: wat12(คุ้ม) ที่ 01 เมษายน, 2010, 06:03:39 am
มาแจมด้วยครับ
ยกตัวอย่างเช่นดอกกระดังงาต้องเอาไปลนไฟกอนจึงจะหอมครับ เครื่องเสียงพวกทรานซิสเตอร์ต้องให้กระแสไฟวิ่งเข้าไปแล้วออกมาบ่อยๆ ครับจึงจะแสดงประสิทธิภาพของตัวเองได้ดียิ่งขึ้นครับ เช่นเดียวกับสายไฟ สายลำโพง กรวยลำโพง ต้องให้มันขยับบเข้าขยับออกบ่อยๆ จนของกรวยมันยืดหยุ่นได้ตามความเป็นจริง ม่ายงั้นเสียงจะแข็งกระด้าง คงพอเข้าใจนนะครับ
แต่รับรองอย่างคุณหมีครับว่า ชั่วโมงที่ 1 กับขั่วโมงที่ 100 เสียงแตกต่างฟังออกครับ  Y]

เป็นเช่นนั้นจริงๆ ครับ ชม.1 กับ ชม.ที่ 100 ต่างกันอย่างรับรู้ได้ แต่ ชม.ที่ 99 กับ ชม.ที่ 101 ถ้าฟังออกเนี่ย น่าจะเป็นบุุคคลสำคัญในวงการเครื่องเสียงเลย แต่จะเป็นคนประหลาดในสังคมทั่วไป  2f 2f

แต่ ภรรยาผมเบิร์นมาหลาย ชั่วโมงแล้วไม่เห็นดีขึ้นเลย ไม่เหมือนตอนชั่วโมงแรกๆ  ;D
 

ขออนุญาตแก้ไขรูปแบบประโยคที่ยังไม่ถูกต้องนะครับ  อิอิ  ที่ถูกน่าจะเป็น


ภรรยาเบิร์นผมมาหลาย ชั่วโมงแล้วไม่เห็นดีขึ้นเลย ไม่เหมือนตอนชั่วโมงแรกๆ 
หัวข้อ: Re: ทำไมต้อง Burn สายลำโพง สาย AC สายสัญญาณ สาย HDMI
เริ่มหัวข้อโดย: bourbon ที่ 01 เมษายน, 2010, 08:25:43 am
มันน่าจะมีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ เช่น
เมื่อกระแสไหลผ่านตัวนำในระยะเวลาหนึ่ง ทำให้อุณหภูมิของตัวนำสูงขึ้น ซึ่งกระแสอาจไหลผ่านตัวนำที่อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงไปได้ดีกว่า
แต่ถ้า กระแสไม่ได้ส่งผลให้โมเลกุลหรือสสารของตัวนำเปลี่ยนแปลงไป ผมก็ไม่คิดว่าจะมีความแตกต่างของคุณภาพของตัวนำระหว่างชั่วโมงแรกกับชั่วโมงที่ร้อย
น่าจะเกิดจากปัจจัยอื่นหรือเปล่าครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมต้อง Burn สายลำโพง สาย AC สายสัญญาณ สาย HDMI
เริ่มหัวข้อโดย: 1080p ที่ 01 เมษายน, 2010, 09:18:24 am
เกี่ยวกับ สัมผัสที่6 หรือเปล่าครับ อิๆ ;D
หัวข้อ: Re: ทำไมต้อง Burn สายลำโพง สาย AC สายสัญญาณ สาย HDMI
เริ่มหัวข้อโดย: nang kang-pla ที่ 01 เมษายน, 2010, 11:43:37 am
แล้วทำไมมนุษย์เกิดมายังต้องรอเบิร์นกันเป็นสิบๆปีเลย ถ้าเบิร์นถูกหลักก็ฉลาด แต่ถ้าเบิร์นไม่ถูกก็...... :nono
หัวข้อ: Re: ทำไมต้อง Burn สายลำโพง สาย AC สายสัญญาณ สาย HDMI
เริ่มหัวข้อโดย: tai4 ที่ 01 เมษายน, 2010, 10:45:17 pm
Burn เพื่อให้ทุกอย่างเลื่อนใหล หลังจากได้ใช้ไปสักระยะเวลาพอสมควร  น่าจะใช่นะ  :)  :headphone
หัวข้อ: Re: ทำไมต้อง Burn สายลำโพง สาย AC สายสัญญาณ สาย HDMI
เริ่มหัวข้อโดย: nammm ที่ 02 เมษายน, 2010, 09:28:06 am
อุปกรณ์ ไฟฟ้าทุกอย่างต้อง เบิร์นครับ  ชม ที่ 1 กับ 100 ต่างกันแน่นอน.....เหมือนสายครับ ซื้อมาใหม่ๆเสียงแข็ง โหวกเหวก  ผ่านไปสักพักถึงจะได้เห็นอะไรๆดีดี มากขึ้น...อันนี้มันรู้สึกได้ชัดเจนนะครับ สายยี่ห้อเดียวกัน ใช้มานานแล้ว กับอีกเส้นซื้อมาใหม่ เสียงมันคนละเรื่องเลยนะครับ บางครั้งผมเอาไปเสียบใช้กะคอมก่อนสัก อาทิตย์นึงถึงจะมาเสียบเข้าระบบ เพราะคอมเป็นอุปกรณ์ที่เเทบจะเปิดตลอด24 ช่วยเบิร์นไปในตัวด้วย อิอิ
หัวข้อ: Re: ทำไมต้อง Burn สายลำโพง สาย AC สายสัญญาณ สาย HDMI
เริ่มหัวข้อโดย: Godshadow ที่ 04 เมษายน, 2010, 07:23:52 am
เรื่องสายนี่ผมก็ฟังไม่ค่อยออกครับ แต่ถ้าเป็นลำโพงหรือหูฟังนี่ฟังออกครับว่า burn กับไม่ burn ต่างกันเยอะเลย
หัวข้อ: Re: ทำไมต้อง Burn สายลำโพง สาย AC สายสัญญาณ สาย HDMI
เริ่มหัวข้อโดย: meson ที่ 04 เมษายน, 2010, 10:30:18 am
ภรรยาเบิร์นผมมาหลาย  ชั่วโมงแล้วไม่เห็นดีขึ้นเลย ไม่เหมือนตอนชั่วโมงแรกๆ 
ขอบคุณครับท่าน....ได้มาหนึ่ง ฮา   2f

             ไม่รู้ผมคิดเว่อร์ไปรึปล่าวนะครับ ว่า....มันอาจจะเกี่ยวพันกันในด้านฟิสิคส์ของโครงสร้างโมเลกุลของทองแดง หรืออาจจะเป็นตัวนำอื่นๆที่มาทำสายนั้นๆ การเบิร์นเหมือนว่าไปเรียงทิศทางของโมเลกุลให้ไปในทิศทางการวิ่งของสัญญาณเสียงที่เราต่อใช้งาน พอได้ที่หรือเข้าที่เข้าทางการวิ่งไปของสัญญาณเสียงก็ไปได้สะดวกกว่ามังครับ  เหมือนกับว่ามีดงหญ้าอยู่หลังบ้าน แล้วเราต้องเดินผ่านเป็นประจำ การเดินครั้งแรกๆก็ไม่สะดวกนิดนึง พอเดินไปทุกวัน ๆ เส้นทางที่เราเดินก็จะราบรื่นขึ้นเรื่อยๆจนโล่งเตียนเพราะต้นหญ้าถูกเราเหยียบตายเป็นช่องทางเดิน ทีนี้จะวิ่งก็สะดวกจะเดินก็สบาย...ประมาณนี้อ่ะคับ หุ หุ ไม่รู้พอได้ม๊ะ
หัวข้อ: Re: ทำไมต้อง Burn สายลำโพง สาย AC สายสัญญาณ สาย HDMI
เริ่มหัวข้อโดย: -=(หวาก)=- ที่ 06 เมษายน, 2010, 10:46:48 pm
ถ้าเป็นลำโพงหรือของที่ขยับไมาได้ ผมเชื่อว่าการเบิร์นทำให้การทำงานดีคือลื่นไหลขึ้น  c)

ส่วนพวกสายไฟกับสายสัญญาน ใช้นานๆไปคุณภาพน่าจะลดลงด้วยซ้ำ เพราะมันน่าจะเกิดอ๊อคไซค์หรือสนิมเพิ่มขึ้นมาขัดขวางการไหลของกระแส  :nono

ส่วนเรื่องเบิร์นหู อันนี้เรื่องจริงครับ ฟังนานๆไปจะเริ่มชินกับเสียงที่ได้รับ เสียงที่ดังเกินไปเช่นแหลมเกินไป หูจะเริ่มตอบสนองลดลงมาเองจนรู้สึกว่าดีขึ้น ? หรือเริ่มทำใจได้ อิอิ
หัวข้อ: Re: ทำไมต้อง Burn สายลำโพง สาย AC สายสัญญาณ สาย HDMI
เริ่มหัวข้อโดย: KJ ที่ 11 เมษายน, 2010, 02:23:28 pm
เรื่องburn in  ภรรยา  ไม่ไหวนะครับ  เล่นของสูง  ผมว่าหากเทียบกันคงคล้ายตอนเริ่มจีบใหม่ จีบยาก...ชักท้อแต่ก็ยังอดทน(เหมือนเครื่องเสียงหรือ
สายสัญญาณที่เริ่มฟังใหม่ๆบางทีรู้สึกต้องทนเพราะเสียงยังไม่โอเคแต่ก็เสียเงินซื้้อมาแล้ว)  จีบไปจีบมา จนติด  ทีนี้ก็ช่วงเอาใจซึ่งกันและกันจนเขา
ใจอ่อนยอมเป็นแฟนและสุดท้ายแต่งงานกับเรา ช่วงนี้น่าจะเป็นช่วงเข้าที่  พอเราอยู่กับเขาต่อไป  สักระยะหนึ่งก็จะถึงช่วงที่เราอยากเปลี่ยนคือ
ช่วงอยู่กันนานๆบางอย่างที่ต่างฝ่ายเก็บไว้ทำแต่สิ่งดีๆก็เริ่มหลุดออกมาให้เห็น(เหมือนกับเครื่องเสียงที่เริ่มเก่าหรือสายสัญญาณที่เกิดออกไซด์
หรือเพราะไปได้ฟังอะไรที่ดีกว่าอยากลองของใหม่) น้ำต้มผักที่เราเคยหวานก็เริ่มขม อยู่ด้วยความรักและความผูกพัน บางรายก็เริ่มแอบมีกิ๊ก
แบบนี้คงรูัว่าหากจับได้รับสารภาพไม่ได้ลดโทษกึ่งนะครับเพิ่มโทษ ไม่มีอายุความ โกรธเมื่อไหร่ก็เอามาเช็คบิลอีก ;D

เท่าที่ผมทราบโลหะที่มีสัญญาณไฟฟ้าผ่านต้องใช้ระยะเวลาให้เข้าที่ระยะหนึ่ง   ที่แน่ๆก็คือเกี่ยวกับฉนวนด้วยครับ  ลำพังโลหะเปลือยๆพวกก้ามปู
 ใช้เวลา 30-50ชั่วโมงก็เข้าที่แล้ว  ส่วนของฉนวนนี่แหละครับตัวหลักเพราะฉนวนจะเก็บกักสัญญาณไว้แล้วคลายออก   เหมือนคาปาซิเตอร์ 
ดูดไว้มากก็ปล่อยออกมาก  สิ่งที่ปล่อยออกมาก็จะรบกวนกับสัญญาณที่วิ่งมาตามสายนั้นๆ  หากใช้งานไปช่วงเวลาหนึ่งฉนวนก็จะอิ่มตัว
ดูดน้อย  ปล่อยน้อยที่สุดใช้เวลานานแค่ไหนต้องแล้วแต่ชนิดของฉนวน ความหนาบางของฉนวน  ฉนวนที่ดีที่สุดก็คืออากาศจึงทำให้ผู้ผลิต
หลายรายพยายามผสมอากาศเข้าไปกับฉนวนเทฟล่อนหรือฉนวนอื่นๆบางรายใช้ฝ้ายดิบพันกับโลหะตัวนำเพราะมีอากาศอยู่ภายในมาก
เหมือนที่สายสัญญาณ Homegrown รุ่น DNA  ใช้อยู่ ส่วน99ชั่วโมง กับ 100ฟังยากครับ  แต่หากเอายังไม่ burn กับ burn สัก  30-50
ชั่วโมงมาฟังเทียบกัน  แบบนี้ฟังออกง่ายครับ  และสายไฟAC ของ Iego ตัวท๊อป  หัวเงิน  burn มา  100ชั่วโมง
กับที่เข้าที่แล้วผมฟังออกครับเพราะตอนยังไม่ถึง 160ชั่วโมงต้องลุ้นมากๆว่าอะไรที่ขาดจะมาหรือเปล่า เรื่องสายนี่
เล่นไม่ยากครับ  เอาใจสาวสวยๆน่ารักๆหรือภรรยายากกว่าเยอะครับ :headphone

  ลองเข้าไปศีกษาหาความรู้ในนี้ครับ  http://www.audioquest.com/pdfs/aq_cable_theory.pdf
ขออนุญาตตัดตอนมาให้ดู

Important Cable Facts Running-In: As with all audio components, audio cables require an adjustment
period. This is often mistakenly referred to as “break-in”. However, break-in is properly used to
describe a mechanical change-engines break-in, loudspeaker and phono cartridge suspensions breakin.
A cable’s performance takes time to optimize because of the way a dielectric behaves (the way the
insulating material absorbs and releases energy), changes in the presence of a charge. Cables will
continue to improve in sound or picture quality over a period of several weeks. This is the same reason
amplifiers, preamplifiers and CD players also require an adjustment period. The key difference between
“adjusting” and “breaking-in” is that things don’t “un-break-in”, however, electrical components do “unadjust”.
Several weeks of disuse will return a cable to nearly its original state.
หัวข้อ: Re: ทำไมต้อง Burn สายลำโพง สาย AC สายสัญญาณ สาย HDMI
เริ่มหัวข้อโดย: Otis ที่ 12 เมษายน, 2010, 03:20:26 pm
จากความรู้สึก เหมือนเสียงมันจะสากๆ ไม่ได้ที่ง่ะ พอใช้ไปสักพัก ค่อยรื่นหู แรกๆ จูนยังไงก็ไม่ลงตัว เอ หรือว่า ทนฟังจนรับได้หว่า งง เหมือนกัน
หัวข้อ: Re: ทำไมต้อง Burn สายลำโพง สาย AC สายสัญญาณ สาย HDMI
เริ่มหัวข้อโดย: allot ที่ 12 เมษายน, 2010, 09:39:26 pm
สงสัย...มีหรือเปล่าครับที่ิีburnแล้วแย่กว่าเดิม  :D