HTG2.club

Home Theater Guide webboard => มุม Thai DIY Audio => ข้อความที่เริ่มโดย: ไม้หมอน ที่ 28 มีนาคม, 2010, 09:06:00 pm

หัวข้อ: ถามความเเตกต่างระหว่างout put เเบบseกับpp
เริ่มหัวข้อโดย: ไม้หมอน ที่ 28 มีนาคม, 2010, 09:06:00 pm
-  เเละสามารถนำมาใช้เเทนกันได้มั้ย
-  การต่อวงจรเเบบppกับการต่อเเบบขนานหลอดเป็นวงจรเดียวกันหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: ถามความเเตกต่างระหว่างout put เเบบseกับpp
เริ่มหัวข้อโดย: pcherd1 ที่ 28 มีนาคม, 2010, 09:08:21 pm
น่าจะแก้ขัด  ชั่วคราวได้   เช่น   4k  0 4 k     ถ้าเป็นPP  ก็เท่ากับ 8 K    ถ้าเป็น SE    4K
หัวข้อ: Re: ถามความเเตกต่างระหว่างout put เเบบseกับpp
เริ่มหัวข้อโดย: ยุทธ ที่ 28 มีนาคม, 2010, 09:38:11 pm
-  เเละสามารถนำมาใช้เเทนกันได้มั้ย
-  การต่อวงจรเเบบppกับการต่อเเบบขนานหลอดเป็นวงจรเดียวกันหรือเปล่า

1.ถ้าจะใช้คงต้องเรียกว่าขืนใช้มากกว่า ก็คงได้ แต่ถามว่าควรใช้หรือไม่ต้องตอบว่าไม่ควร เพราะทั้งสองแบบถูออกแบบมาคนละอย่างเพื่อการใช้งานคนละอย่าง แม้แต่การเรียงเหล็กยังต้องเรียงคนละแบบ
2.การขนานหลอดกับพุชพูล อาจไม่ใช่วงรเดียวกัน ผมเข้าใจว่าเราอาจกำลังคุยคนเรื่องเดียวกันก็ได้ ในวงจร SE ก็มีการขนานหลอดเหมือนกันครับ
หัวข้อ: Re: ถามความเเตกต่างระหว่างout put เเบบseกับpp
เริ่มหัวข้อโดย: Mc ที่ 28 มีนาคม, 2010, 09:45:05 pm
-  เเละสามารถนำมาใช้เเทนกันได้มั้ย
-  การต่อวงจรเเบบppกับการต่อเเบบขนานหลอดเป็นวงจรเดียวกันหรือเปล่า

ในทางปฏิบัติ พอแทนกันได้ครับ คือมีเสียงออก แต่คุณภาพ ทั้งในแง่ทางไฟฟ้า และเสียงต่างกันครับ การเรียงเหล็กของเอ้าพุทพุชพูล เรียงแบบเดียวกับหม้อแปลง ถ้านำมาใช้กับวงจร SE จะทำให้แกนเหล็กอิ่มตัวเร็ว

วงจรพุชพูลเป็นวงจรที่ทำงานโดยแบ่งเฟสสัญญาณออกเป็นซีกลบ และบวก โดยใช้หลอดขยาย 2 หลอด ขยายคนละเฟสกัน ในขณะที่ SE หลอดจะขยายสัญาณทั้ง 2 เฟส การขนานหลอด ก็ยังเป็นหลักการเดียวกับ SE ครับ ใช้ 2 หลอด ขยายสัญาณทั้ง 2 เฟสไปพร้อม ๆ กัน
หัวข้อ: Re: ถามความเเตกต่างระหว่างout put เเบบseกับpp
เริ่มหัวข้อโดย: ไม้หมอน ที่ 28 มีนาคม, 2010, 09:58:31 pm
-tab40%  คืออะไร
-10k(plate  to  plate) คืออะไร
หัวข้อ: Re: ถามความเเตกต่างระหว่างout put เเบบseกับpp
เริ่มหัวข้อโดย: Mc ที่ 28 มีนาคม, 2010, 10:10:50 pm
 
-tab40%  คืออะไร

คือการดึงแยกสายของขด ไพรมารี่เอ้าท์พุทออกมาที่ตำแหน่ง 40% เช่น เราพัน 1000 รอบ ที่ 40% คือ จุดที่ครบ 400 รอบ ก็ต่อสายไฟออกมาครับ


-10k(plate  to  plate) คืออะไร
 
plate  to  plate  ตรงนี้ คือ PP ไงครับ 10K p-p หมายถึง นับจาก P ของหลอดเดอ้าท์พุทเฟส - ไปถึงเพลทของเอ้าท์พุท เฟส + เท่ากับ 10 K หรือ 5K-0-5K ครับ
หัวข้อ: Re: ถามความเเตกต่างระหว่างout put เเบบseกับpp
เริ่มหัวข้อโดย: ไม้หมอน ที่ 28 มีนาคม, 2010, 10:21:54 pm
-จะรู้ได้อย่างไรว่า  วงจรเเต่ละวงจรใช้กี่kกี่วัตต์
หัวข้อ: Re: ถามความเเตกต่างระหว่างout put เเบบseกับpp
เริ่มหัวข้อโดย: Mc ที่ 28 มีนาคม, 2010, 10:33:09 pm
-จะรู้ได้อย่างไรว่า  วงจรเเต่ละวงจรใช้กี่kกี่วัตต์

ตรงนี้ ต้องดู datasheet ขแงหลอดแต่ละเบอร์ครับ ว่าสามารถทำแอมป์ได้กี่วัตต์ เช่น 2A3 ทำแอมป์ได้ประมาณ 3 W เราก็ใช้ เอ้าท์พุทเผื่อ ๆ ไว้ประมาณ 5-10 วัตต์

 

ส่วนค่า K ของเอ้าท์พุทก็ดูที่ Ra บอกไว้ 800 โอมห์ ก็กำหนดค่าไพรมารี่ของเอ้าท์พุทไว้ 3 เท่า ก็ประมาณ 2500 โอห์ม หรือ 2.5 K ครับ
หัวข้อ: Re: ถามความเเตกต่างระหว่างout put เเบบseกับpp
เริ่มหัวข้อโดย: ไม้หมอน ที่ 28 มีนาคม, 2010, 10:41:53 pm
-ค่าwattเผื่อได้...เเล้วค่าkจาก2.5ไปเป็น5ได้หรือเปล่า...ผลทางเสืยงเป็นอย่างไร
หัวข้อ: Re: ถามความเเตกต่างระหว่างout put เเบบseกับpp
เริ่มหัวข้อโดย: ยุทธ ที่ 28 มีนาคม, 2010, 10:47:32 pm
ตามรูปdataมันบอกอยู่แล้วว่าที่โหลด2.5Kได้3.5W แต่ต้องอย่าลืมนะครับว่าขณะทำงานค่ามันไม่ได้คงที่ เวลาออกแบบเขาจึงออกแบบในช่วงสัญญาณสวิงที่ต้องการ
หัวข้อ: Re: ถามความเเตกต่างระหว่างout put เเบบseกับpp
เริ่มหัวข้อโดย: Mc ที่ 28 มีนาคม, 2010, 10:48:37 pm
-ค่าwattเผื่อได้...เเล้วค่าkจาก2.5ไปเป็น5ได้หรือเปล่า...ผลทางเสืยงเป็นอย่างไร

มีผลต่อกำลังขับ และเสียงครับ ค่า K ที่มากขึ้นจะทำให้กำลังวัตต์ลดลง ส่วนเรื่องเสียงที่เคยลอง ปลายเสียงทางความถี่สูงจะลดลงครับ และจากการทดลองเช่นกัน ผมชอบ + ไว้ประมาณ 0.5 K ครับ เช่น 2A3 ปกติ 2.5K ผมจะใช้ 3K ชอบเสียงที่ตรงจุดนี้มากกว่า เสียงกลางดูมีมวลมากกว่าครับ
หัวข้อ: Re: ถามความเเตกต่างระหว่างout put เเบบseกับpp
เริ่มหัวข้อโดย: ยุทธ ที่ 28 มีนาคม, 2010, 10:54:38 pm
-ค่าwattเผื่อได้...เเล้วค่าkจาก2.5ไปเป็น5ได้หรือเปล่า...ผลทางเสืยงเป็นอย่างไร

มีผลต่อกำลังขับ และเสียงครับ ค่า K ที่มากขึ้นจะทำให้กำลังวัตต์ลดลง ส่วนเรื่องเสียงที่เคยลอง ปลายเสียงทางความถี่สูงจะลดลงครับ และจากการทดลองเช่นกัน ผมชอบ + ไว้ประมาณ 0.5 K ครับ เช่น 2A3 ปกติ 2.5K ผมจะใช้ 3K ชอบเสียงที่ตรงจุดนี้มากกว่า เสียงกลางดูมีมวลมากกว่าครับ

ไฟต้องเท่าเดิมด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: ถามความเเตกต่างระหว่างout put เเบบseกับpp
เริ่มหัวข้อโดย: ไม้หมอน ที่ 28 มีนาคม, 2010, 11:04:19 pm
 -ขอออกต้วก่อนว่าเป็นมือใหม่ครับ
 -สมมติได้หม้อเเปลง1ลูก  ไม่มีname plate   มีวิธีเช็คอย่างไรว่าเป็นหม้อไฟหรือหม้อเสียง
-ขอบคุณครับ สำหรับทุกคำตอบของคืนนี้  พรุ่งนี้จะเข้ามาถามอีกครับ
หัวข้อ: Re: ถามความเเตกต่างระหว่างout put เเบบseกับpp
เริ่มหัวข้อโดย: stuart66 ที่ 28 มีนาคม, 2010, 11:21:25 pm
ผมขอเข้านั่งในชั้นเรียนนี้ด้วยครับ
หัวข้อ: text
เริ่มหัวข้อโดย: Eak-tubeamp ที่ 29 มีนาคม, 2010, 12:16:58 am
 เอา opt PP ใช้แทน SE ได้เหมือนกัน เรียงแกนเหล็กใหม่ ใส่ air gap แต่จะมองเห็น pri imp แค่ 1/4 เท่านั้น เช่น pp 10k ก็จะเห็นแค่ 2.5k
หัวข้อ: Re: ถามความเเตกต่างระหว่างout put เเบบseกับpp
เริ่มหัวข้อโดย: มายาทัศนา ที่ 29 มีนาคม, 2010, 03:52:18 am

-tab40%  คืออะไร

คือการดึงแยกสายของขด ไพรมารี่เอ้าท์พุทออกมาที่ตำแหน่ง 40% เช่น เราพัน 1000 รอบ ที่ 40% คือ จุดที่ครบ 400 รอบ ก็ต่อสายไฟออกมาครับ


รบกวนถามเพิ่มครับ
ในการสั่งพัน opt นี้  เราควรสั่งเผื่อ tab 40% นี้ไว้เลยหรือเปล่าครับ  หรือว่าคนพันเค้าจะทำ tap 40% นี้ออกมาให้เลย
รวมถึง opt ที่มี tap กับไม่มี tap  คุณลักษณะเหมือนกันไหมครับ
หัวข้อ: text
เริ่มหัวข้อโดย: Eak-tubeamp ที่ 29 มีนาคม, 2010, 06:45:15 am
UL= ultra linear ในการสั่งพัน เราต้องกำหนดให้เขาแท็บออกมาครับ สามารถแท็บออกมาได้ตั้งแต่ 40-45% ถ้ามีแท็บ รูปแบบการต่อใช้งานมันหลากหลายขึ้นครับ และการคิดแท็บ ul นี้ ที่จริงคิดจาก %  ของ primary impedance ไม่ใช่จำนวนรอบ
หัวข้อ: Re: text
เริ่มหัวข้อโดย: Puppet ที่ 29 มีนาคม, 2010, 07:09:19 am
เอา opt PP ใช้แทน SE ได้เหมือนกัน เรียงแกนเหล็กใหม่ ใส่ air gap แต่จะมองเห็น pri imp แค่ 1/4 เท่านั้น เช่น pp 10k ก็จะเห็นแค่ 2.5k
ผมรบกวนคุณ เอก-tubeamp ช่วยอธิบายในทางหลักการหน่อยครับว่า การนำ OPT แบบ PP มาใช้แทนแบบ SE เหตุใด OPT จึงมองเห็น Primary Impedance ลดลงเหลือเพียง 2.5K ครับ ขอบคุณมากครับ
หัวข้อ: Re: ถามความเเตกต่างระหว่างout put เเบบseกับpp
เริ่มหัวข้อโดย: Mr. Tube ที่ 29 มีนาคม, 2010, 10:47:39 am
plate  to  plate  ตรงนี้ คือ PP ไงครับ 10K p-p หมายถึง นับจาก P ของหลอดเดอ้าท์พุทเฟส - ไปถึงเพลทของเอ้าท์พุท เฟส + เท่ากับ 10 K หรือ 5K-0-5K ครับ

จารย์ครับ 10k p-p = 2.5k - 0 - 2.5k ขอรับ ถ้ารอบเป็น 1/2 Imp จะเป็น 1/2^2 = 1/4 ตามกฎหม้อแปลงน่ะครับ  :)
หัวข้อ: Re: ถามความเเตกต่างระหว่างout put เเบบseกับpp
เริ่มหัวข้อโดย: Mc ที่ 29 มีนาคม, 2010, 11:03:49 am
plate  to  plate  ตรงนี้ คือ PP ไงครับ 10K p-p หมายถึง นับจาก P ของหลอดเดอ้าท์พุทเฟส - ไปถึงเพลทของเอ้าท์พุท เฟส + เท่ากับ 10 K หรือ 5K-0-5K ครับ

จารย์ครับ 10k p-p = 2.5k - 0 - 2.5k ขอรับ ถ้ารอบเป็น 1/2 Imp จะเป็น 1/2^2 = 1/4 ตามกฎหม้อแปลงน่ะครับ  :)

ขอบคุณครับ ที่ช่วยแก้ใขให้ ผมไม่เคยพันเองน่ะ  :black_eye :black_eye :black_eye :black_eye อ่านแล้วก็ไม่เคยจำซะที  K] K] K] K] K]
หัวข้อ: Re: text
เริ่มหัวข้อโดย: ไม้หมอน ที่ 30 มีนาคม, 2010, 08:38:12 pm
UL= ultra linear ในการสั่งพัน เราต้องกำหนดให้เขาแท็บออกมาครับ สามารถแท็บออกมาได้ตั้งแต่ 40-45% ถ้ามีแท็บ รูปแบบการต่อใช้งานมันหลากหลายขึ้นครับ และการคิดแท็บ ul นี้ ที่จริงคิดจาก %  ของ primary impedance ไม่ใช่จำนวนรอบ
  -ค่าแทบ40-45%  มาจากไหน  มีค่าอื่นอีกหรือไม่  ช่วยยกตัวอย่างแบบหลายแทบเเละวิธีต่อใช้งานด้วยครับ
หัวข้อ: text
เริ่มหัวข้อโดย: Eak-tubeamp ที่ 30 มีนาคม, 2010, 09:09:21 pm
เป็นค่าที่ใช้กันบ่อยๆ จะอยู่ในช่วงนี้ อาจจะต่ำกว่าหรือสูงกว่านี้ก็มีครับ 
เวลาเราก็สั่งพัน ก็บอกเขาว่า ให้ดึงแท็บที่ว่านี้ออกมาด้วย
หัวข้อ: text
เริ่มหัวข้อโดย: Eak-tubeamp ที่ 30 มีนาคม, 2010, 09:12:35 pm
ในรูปบน การต่อใช้งาน ก็เพียงเอา sg2 ไปต่อกับค่าต้างๆ ที่แท็บออกมา  :bye1
หัวข้อ: Re: ถามความเเตกต่างระหว่างout put เเบบseกับpp
เริ่มหัวข้อโดย: ไม้หมอน ที่ 30 มีนาคม, 2010, 09:31:18 pm
ในรูปบน การต่อใช้งาน ก็เพียงเอา sg2 ไปต่อกับค่าต้างๆ ที่แท็บออกมา  :bye1
  - สมมุติวงจรบอกต่อทื่เเทบ40   เเต่เราจะลองที่เเทบ45  ผลเป็นอย่างไรครับ
หัวข้อ: Re: ถามความเเตกต่างระหว่างout put เเบบseกับpp
เริ่มหัวข้อโดย: Shevy ที่ 30 มีนาคม, 2010, 10:28:38 pm
เข้ามาเรียนด้วย อิอิ
หัวข้อ: Re: ถามความเเตกต่างระหว่างout put เเบบseกับpp
เริ่มหัวข้อโดย: MuhMuh ที่ 31 มีนาคม, 2010, 02:22:37 pm
มาแอบเรียนด้วยคน อิอิ  c)