HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม Thai DIY Audio => ข้อความที่เริ่มโดย: HiBeamZ ที่ 26 พฤศจิกายน, 2010, 03:46:51 am
-
ผมสงสัยครับว่า สาย USB Coaxial Optic มันส่งผลต่อเสียงจริงๆรึป่าว
เช่นที่ต่อเข้าdac และจาก external harddisk > AVR
ทั้งที่เป็นข้อมูลแบบดิจิตอล ไม่น่าจะมีความพิดเพี้ยนที่เกิดจากการส่ง เพราะ สัญญานรบกวนนั้นแทบไม่ทำให้ บิต 0 หรือ 1 เปลี่ยนแปลงค่าเลย
หรือความเร็วในการส่ง ถ้าพิดพลาดไปก็ไม่น่าจะอ่านข้อมูลได้เลยหรือมีเสียงจิด.. จิ๊ดๆ..ๆๆ เหมือนแผ่นcdกระตุก
แต่ไม่น่าจะทำให้เสียงเด่นขึ้นหรือแย่ลง ไม่ว่าด้านไหนๆ
ขอผู้มีความรู้เชิงลึกหรือพี่ๆที่มีประสบการ ช่วยอธิบายหน่อยครับ
-
คงให้ได้แต่ข้อมูลเชิงตื้นนะครับ
ผมว่ากระทบกับ clock ที่มากับข้อมูลนะครับ เพราะ clock ตัวนี้จะถูกถอดออกมาให้ D/A อันนี้หลายๆคนก็รู้กันอยู่ หาก jitter ของ clock สูงขึ้นแต่ bit error rate ยังดีอยู่ ข้อมูลยังไงก็ไม่เกิด error หรอกครับ มันจะไปกระทบเห็นได้ชัดในขึั้นตอนของการแปลง D/A เท่านั้น
ยิ่งสายสัญญาณยิ่งยาว rise/fall time ของช่วงการ transition จาก low เป็น hi หรือ hi เป็น low แย่ลง(บานออก) และเปิดโอกาศให้ สัญญาณรบกวนข้างนอกและcommon mode noise เข้ามาป่วน รวมก็ทำให้ jitter ของ clock สูงขึ้น
ที่ผมรู้คือโดยปกติแล้วหาก jitter สูง มันจะ degrade ในส่วนของ signal to noise ratio (SNR) ของ ระบบลง
ดูตัวอย่างง่ายๆ พวก สาย HDMI ยิ่งเดินยาวทำไมภาพยิ่งห่วย ซึ่งถ้ามัน ถอดรหัสออกมา error ขึ้นรุนแรงจริงๆผมอุปมาว่าภาพที่โชว์หน้าจอจะเป็น เหลี่ยมๆ และเสียงกระตุกๆ เหมือนที่คุณเป็นคนที่ 10 ที่ได้แผ่นหนังโป้มาจากเพื่อนซึ่งแผ่นมีรอยแมวข่วนมีลอยถลอกปอกเปิก ผลออกมาก็ผิดหวังไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ ผมก็พอจะมีประสบกามณ์ทางด้านนี้มาบ้าง
-
ขอบคุณรับลืมนึกถึง jitter ของ clock ไปเลย
สงสัยนิด แล้วถ้าจาก external harddisk เข้า AVR จะมีผลไปด้วยหรือป่าวการส่งข้อมูลก็เป็นคนละแบบกัน
-
อืมม์ ได้คนมีประสบกามณ์มาตอบ ;D
-
คงให้ได้แต่ข้อมูลเชิงตื้นนะครับ
ผมว่ากระทบกับ clock ที่มากับข้อมูลนะครับ เพราะ clock ตัวนี้จะถูกถอดออกมาให้ D/A อันนี้หลายๆคนก็รู้กันอยู่ หาก jitter ของ clock สูงขึ้นแต่ bit error rate ยังดีอยู่ ข้อมูลยังไงก็ไม่เกิด error หรอกครับ มันจะไปกระทบเห็นได้ชัดในขึั้นตอนของการแปลง D/A เท่านั้น
ยิ่งสายสัญญาณยิ่งยาว rise/fall time ของช่วงการ transition จาก low เป็น hi หรือ hi เป็น low แย่ลง(บานออก) และเปิดโอกาศให้ สัญญาณรบกวนข้างนอกและcommon mode noise เข้ามาป่วน รวมก็ทำให้ jitter ของ clock สูงขึ้น
ที่ผมรู้คือโดยปกติแล้วหาก jitter สูง มันจะ degrade ในส่วนของ signal to noise ratio (SNR) ของ ระบบลง
ดูตัวอย่างง่ายๆ พวก สาย HDMI ยิ่งเดินยาวทำไมภาพยิ่งห่วย ซึ่งถ้ามัน ถอดรหัสออกมา error ขึ้นรุนแรงจริงๆผมอุปมาว่าภาพที่โชว์หน้าจอจะเป็น เหลี่ยมๆ และเสียงกระตุกๆ เหมือนที่คุณเป็นคนที่ 10 ที่ได้แผ่นหนังโป้มาจากเพื่อนซึ่งแผ่นมีรอยแมวข่วนมีลอยถลอกปอกเปิก ผลออกมาก็ผิดหวังไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ ผมก็พอจะมีประสบกามณ์ทางด้านนี้มาบ้าง
นอกจากคุณภาพของสาย ความต้านทานภายในสายแล้ว ความยาวคงมีส่วนเรื่องคุณภาพด้วยแน่ๆ
พึ่งลองด้วยตัวเองมาหมาดๆ สายDigital ยาว 1m vs 6m
แหล่งสัญญาณคือเครื่องดูน (ซึ่ง spdif out จะค่อนข้างอ่อน หากเทียบกับซีดีเพลเยอร์) ต่อเข้าปรีโพรเซสเซอร์ออนเกียวDTC-7
พบว่า
..............สายยาว หกเมตร มีอาการเสียงขาดหาย เป็นบางครั้ง
.....ส่วนสายสั้น ลื่นฉลุยจร้า
อืมม์ ได้คนมีประสบกามณ์มาตอบ ;D
:secretเห็นด้วย เฮ่ๆๆ
-
เอาเป็นว่า ผมขอใช้ศัพท์ง่ายๆก็แล้วกันนะครับ
จริงอยู่ครับ ว่าสัญญาณที่ออกมาเป็นแค่สัญญาณ 1 กับ 0 แต่ ด้วยโครงสร้างสายที่ต่างกันนี้ มีผลทำให้สัญญาณภายนอก
หรือคลื่นแม่เหล้กจากภายในสาย มีค่าแตกต่างกัน ทำให้ การส่งผ่านสัญญาณมีความผิดเพี้ยนจากสัญญาณที่ได้รับมาแตกต่างกัน
ตามชนิดของสายสัญญาณนั้น
ที่สายแต่ละชนิด มีโครงสร้าง วัสดุ และอุปกรณ์ต่างๆ ที่แตกต่างกัน ทำให้คุณภาพของสัญญาณที่ส่งมาจากแหล่งกำเนิดเสียงต่างกัน
ความเร็วในการส่งสัญญาณก็แตกต่างกันครับ ก็มีผลให้สัญญาณ กับเวลามีความคลาดเคลื่อนได้
หากสัญญาณเพี้ยนมาก ก็เหมือนกับรหัส 0 หรือ 1 หายไปบางส่วน นี่เองที่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ cd แต่ละยี่ห้อ ต้องมีวงจรการชดเชยข้อมูล
ที่ผิดพลาดไงล่ะครับ
-
ความโชคร้ายของ SPDIF คือส่งข้อมูลไปทางเดียว ผิดแล้ว ผิดเลย
ตั้งแต่มีเครื่อง Dune, พี่คุ้มครับ ผมอยากดูหนังโป้ blue-ray
-
ความโชคร้ายของ SPDIF คือส่งข้อมูลไปทางเดียว ผิดแล้ว ผิดเลย
ตั้งแต่มีเครื่อง Dune, พี่คุ้มครับ ผมอยากดูหนังโป้ blue-ray
ไม่มีหนังโป๊ มีแต่หนังชมพู ฟูลริบซะด้วย 1.5tB
-
ยังไม่มีตังซื้อ harddisk