HTG2.club

Home Theater Guide webboard => มุม โฮมเธียเตอร์ (HT) => ข้อความที่เริ่มโดย: newton ที่ 22 ธันวาคม, 2010, 08:30:04 am

หัวข้อ: ภาพยนตร์ 3มิติ กับสุขภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: newton ที่ 22 ธันวาคม, 2010, 08:30:04 am
ภาพยนตร์ 3มิติ กับสุขภาพ

      แพทย์กล่าวว่าดวงตาของผู้ชม          ไม่มีความคุ้นเคยกับระบบ 3 มิติ          การรับชมในเวลานานๆทุกวัน             ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น อาการมึนงง หรือชักซึ่งเป็นไปได้น้อยมาก
      ทีวี 3 มิติ LED TV ของบริษัทซัมซุง  มีคำเตือนเกี่ยวกับสุขภาพที่สำคัญ           มีใจความว่าแสงจากทีวี 3 มิติ                ทำให้เกิดอาการของโรคชักลมบ้าหมู หรืออาการเส้นโลหิตแตกได้ และอาการมึนงงต่างๆไม่ว่าจะเป็นการมึนงงจากการเห็น                   หรือเสถียรภาพของการทรงตัว อาจเป็นผลมากจากการชมภาพ 3 มิติ
             แพทย์กล่าวว่าจำนวนผู้ชมที่จะมีอาการดังคำเตือนข้างต้นเป็นจำนวนเปอร์เซ็นต์ที่น้อยมากโดยมากแล้วผู้ชมภาพยนตร์หรือทีวี 3 มิติจะมีอาการมึนงงเท่านั้นเอง
              แพทย์หญิง ลิซ่า พาค์ก ผู้ช่วยศาสดาจารย์ของคณะจักษุวิทยาของมหาวิทยาลัยนิวยอร์กชี้ให้เห็นว่าอาการต่างๆจะเป็นอาการทั่วไป เพราะดวงตาผู้ชมมีการเคลื่อนไหวในที่ไม่เป็นธรรมชาติ
             ผู้ช่วยศาสดาจารย์คณะจักษุวิทยาของ Jules Stein Eye Institute ของมหาวิทยาลัยแคลิฟอเนีย นายสตีเวน นูซินโนวิทซ์ แนะนำวิธีการเกิดภาพ 3 มิติสำหรับสมองของมนุษย์ว่า ภาพยนตร์ 3 มิติประกอบด้วยมุมมองของภาพเดียวกันให้เป็น 2 มุมมอง       ที่มีความแตกต่างกันเล็กน้อย และแว่นที่สวมใส่เมื่อชม    เป็นเครื่องมือในการแบ่งแยกภาพที่มีมุมมองที่แตกต่างกันสำหรับดวงตาแต่ละข้างของผู้ชม การแยกมุมมองของภาพเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนทำให้ผู้ชมไม่สามารถที่จะสังเกต  เห็นความแตกต่างของมุมมองของภาพเหล่านั้นได้            การประเมินผลของสมองของภาพที่เห็นจากแต่ละดวงตานั้น ได้รับการผนวกเข้าด้วยกันก่อให้เกิดมิติของภาพทีมีความลึก
ในชีวิตประจำวัน เมื่อเราได้เห็นวัตถุหรือภาพที่วิ่งเข้ามาหา ดวงตาจะทำการวิ่งเข้าหากันเล็กน้อยโดยธรรมชาติ              และในเวลาเดียวกันเลนส์ในดวงตาจะเปลี่ยนรูปร่าง         เพื่อที่จะทำการปรับโฟกัสให้ชัดเจนในขณะที่วัตถุนั้นๆ      กำลังเคลื่อนตัวเข้าหาตัวเรา ซึ่งการทำงานของสมองและดวงตานี้เรียกว่า "accommodation"               
            แต่เมื่อเราชมภาพยนตร์หรือทีวี 3 มิติ ดาวตาของเราพยายามที่จะจับภาพเหล่านั้นให้ตรงกันแต่ไม่ใช้การทำงานดังข้างต้น เพราะวัตถุที่เห็นนั้นไม่ได้วิ่งเข้าหาเรา

              นายแพทย์ นอร์แมน แซฟฟา ผู้อำนวยการทางจักษุวิทยาของ Maimonides Medical Center กล่าวว่าภาพที่ไม่แท้จริงนี้ทำให้เกิดความตึงเครียดต่อระบบสายตา เมื่อคนที่ใส่แว่นนั้นถอดออก     ก็จะทำให้เกิดอาการมึนงงได้
บุคคลที่มีปัญหาเรื่องสายตาเอียง หรือกล้ามเนื้อตาไม่แข็งแรง หรือสายตาเห็นจุดต่างๆไม่เท่ากันนั้น  ไม่สามารถที่จะเห็นภาพเหล่านั้น  เป็น 3 มิติได้
            แต่เมื่อพูดถึงผลกระทบในระยะยาว ก็ยังไม่มีผู้เชี่ยวชาญให้ตำตอบที่แน่นอนได้                 "การชมภาพ 3 มิตินี้ จะทำให้เด็กเห็นระบบภาพที่ไม่เป็นธรรมชาติอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาว ซึ่งอันตรายนี้กำลังได้รับการศึกษาค้นคว้ากันอยู่ในขณะนี้"แพทย์หญิง ลิซ่า พาค์กกล่าว

           รศ.พญ.สุดารัตน์ ใหญ่สว่าง ประธานราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย                  กล่าวว่า การชมหนัง 3 มิติไม่มีอันตรายต่อดวงตาลูก เพียงแต่จะทำให้สายตาอ่อนล้า หรือเพลียไป ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เพราะดวงตาต้องมองภาพแบบสมบูรณ์ โดยมองภาพทั้งระยะใกล้                       และระยะไกลในเวลาเดียวกัน
       
       รศ.นพ.อัทยา อยู่สวัสดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์จักษุ                 ศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลกรุงเทพ ได้อธิบายไว้ว่า                หนัง 3 มิติทำขึ้นโดยเลียนแบบธรรมชาติการมองเห็นของมนุษย์ ไม่เป็นอันตรายต่อดวงตาชองลูก ซึ่งพ่อแม่ไม่ควรไปกังวล     แต่ขอให้สนุกกับการดู เพราะถ้าลูกดูแล้วสนุก ก็เท่ากับว่าพัฒนาการทางด้านการมองเห็นภาพ 3 มิติของลูก                      มีประสิทธิภาพที่ดี
       
       "เด็ก 3 เดือนถึง 5 ขวบ จะมีพัฒนาการ การมองภาพ 3 มิติโดยใช้ตา 2 ข้างมองร่วมกัน ถ้ามีความผิดปกติ เด็กจะมีปัญหาในเรื่องการมองในอนาคต ซึ่งพ่อแม่ต้องหมั่นพาลูกไปตรวจสายตาเป็นประจำ เพราะถ้าแก้ไขช้า  จนเกิน 8 ขวบไปแล้ว พัฒนาการทางการมองเห็นของลูกจะมีปัญหาตามมาได้"
       


       ผลการศึกษาของนักวิจัยมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กเล่ย์ ที่ระบุว่า การชมภาพยนตร์ 3 มิติ ทำให้สายตาอ่อนล้าได้จริง เพราะปกติเมื่อคนเรามองดูสิ่งของที่อยู่ใกล้ดวงตาก็จะเบนเข้าหากัน   แต่เมื่อมองดูสิ่งที่อยู่ไกลออกไปดวงตาก็จะเบนออกห่างจากกัน

 

        รศ.นพ.อัทยาให้คำแนะนำถึงพ่อแม่ว่า เมื่อเกิดอาการตาเพลีย หรือตาอ่อนล้า ให้พักสายตา  ด้วยการมองไปที่ไกลๆ แล้วการมองเห็นจะกลับมาดีขึ้น       
       
                 ถึงแม้ว่าการชมหนัง 3 มิติ จะไม่ส่งผลร้ายต่อดวงตาของลูกน้อย แต่สิ่งทีต้องระวัง คือต้องระวังการติดเชื้อจากแว่น 3 มิติ เพราะมีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางตาได้สูง                          ถ้าหากรุนแรงมาก อาจเกิดอันตรายต่อดวงตาของลูกได้

หัวข้อ: Re: ภาพยนตร์ 3มิติ กับสุขภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: newton ที่ 22 ธันวาคม, 2010, 08:56:45 am
"accommodation นั้นเป็นการปรับโฟกัสของสายตา   เป็นความหลากหลายของสภาพสายตาและระบบประสาท เกิดขึ้นกับบางคนไม่ใช่ทุกคนครับ
หัวข้อ: Re: ภาพยนตร์ 3มิติ กับสุขภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: gai ที่ 22 ธันวาคม, 2010, 09:34:41 am
ในมุมมองผม ผมว่าหมอบางท่าน เน้นไปที่ดวงตา ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมาก นอกจากอาการอ่อนเพลีย ล้า  แต่ผมเห็นด้วยกับหมอหลายท่านที่เน้นสมอง เพราะเราไม่ได้เห็นภาพที่ดวงตา แต่เราเห็นภาพในสมองครับ  ตาเป็นแค่อวัยวะที่รับภาพ แปรจากพลังงานแสงไปเป็นพลังงานไฟฟ้า ส่งไปตามเส้นประสาทไปที่สมอง สมองรับข้อมูลมาแล้ว  ถึงจะรับรู้การเห็นด้วยการสร้างภาพ  ผมเคยมีประสบการณ์ที่ตาเห็นอย่างหนึ่ง แต่สมองแปลภาพเป็นอีกอย่างหนึ่งมาแล้วครับ
หัวข้อ: Re: ภาพยนตร์ 3มิติ กับสุขภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: newton ที่ 22 ธันวาคม, 2010, 09:47:53 am

ผมมีภาพประกอบหลายภาพ ที่เป็นแผนผังการทำงานสมองและตา แต่ผมลงรูปไม่เป็นครับ
หัวข้อ: Re: ภาพยนตร์ 3มิติ กับสุขภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: หมอทีเจ ที่ 22 ธันวาคม, 2010, 10:22:22 am
ข้อมูลนี้คงเป็นคำตอบที่ดีของคำถามที่ผมโดนถามบ่อยสุดตอนนี้คือ "เมื่อไหร่หมอจะซื้อ 3D ไว้ที่บ้านซะทีล่ะ"  คำตอบของผมคือไม่ซื้อเด็ดขาดครับผม  เราดูหนังเพื่อ entertain นะครับ  จริง ๆ นั่งดูหนังเฉย ๆ หลายชั่วโมงเนี่ยมันก็ไม่ค่อยดีต่อร่างกายอยู่แล้ว  อย่าเติมอะไรที่มันจะทำลายสุขภาพอย่างอื่นลงไปอีกเลย
หัวข้อ: Re: ภาพยนตร์ 3มิติ กับสุขภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: yai-united ที่ 22 ธันวาคม, 2010, 11:14:30 am
ตามความเห็นส่วนตัวของผม ระบบภาพสามมิติเป็นแค่กระแสตลาดที่ผู้ผลิตสร้างขึ้นเพื่อขายของ
หัวข้อ: Re: ภาพยนตร์ 3มิติ กับสุขภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ramai ที่ 22 ธันวาคม, 2010, 02:17:57 pm
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับผม....เป็นเรื่องของผู้ผลิตอยากขายของมากกว่า
น่ะครับ.....
หัวข้อ: Re: ภาพยนตร์ 3มิติ กับสุขภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: Don ที่ 22 ธันวาคม, 2010, 03:02:39 pm
ผมอยากได้นะ เพราะมันสามารถเล่นได้ทั้งสองแบบอยู่แล้ว หากต้องการเปลี่ยนบรรยากาศเป็น 3D ก็เลือกเป็น 3D ปกติก็คงดูเป็น 2D ปกติอยู่แล้ว หากจะดูเป็น 3D ก็ต้องมีหนังที่เป็น 3D ด้วย  ช่วงที่มี Youth Olympic ที่ Singapore พอดีไปประชุมที่นั่น เดินอยู่บน Orchard มี Panasonic สาธิต 3D 42" หรือ 47" นี่แหละ เข้าไปในบู๊ทเขา โดยใส่แว่นดู การเปิดงาน Olypic ที่ปักกิ่ง น่าทึ่งมาก คนเดิน parade และ แสดงในสนามกีฬา เห็นชัดเจนดีจริงๆ กำหนดตำแหน่งได้ชัดดีมาก ยังทึ่งไม่หาย ไครที่ชอบดู 3D ลองหามาดู แต่ยังไม่เห็นมีขาย น่าจะเป็นของ Pana ทำมาเพื่อ Dem อย่างเดียว แต่แปลกมาก พอมาดู Dem ตามห้างต่างๆ ซึ่งเป็นหนังการ์ตูน Hollywood หรือเรื่องอื่นๆ ทำไมมันงงๆ ไม่รู้ ความรู้สึกเหมือนกับใส่แว่นกระดาษที่แถมมากับหนัง 3D (Journey to the center of...) ทั้งๆที่ระยะนั่งก็ใกล้พอๆกัน หรือว่า Pana มันเป็นPlasma... ว่าแล้วก็ดู 50" ที่มีอยู่ต่อไป เพราะว่าตามมาก หมดตูด...

แต่ไม่ชอบใส่แว่นดู 

หัวข้อ: Re: ภาพยนตร์ 3มิติ กับสุขภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: Prasert ที่ 22 ธันวาคม, 2010, 04:46:29 pm
เยี่ยมๆ เห็นด้วย

เราดูหนังเพื่อ entertain นะครับ  จริง ๆ นั่งดูหนังเฉย ๆ หลายชั่วโมงเนี่ยมันก็ไม่ค่อยดีต่อร่างกายอยู่แล้ว  อย่าเติมอะไรที่มันจะทำลายสุขภาพอย่างอื่นลงไปอีกเลย
หัวข้อ: Re: ภาพยนตร์ 3มิติ กับสุขภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: thai-ko ที่ 23 ธันวาคม, 2010, 12:52:33 am
ผมว่าแล้วแต่มุมมองครับ ไม่เถึยงเรื่องการดู3Dมีผลกับการเมื่อยหล้าทางสายตา และไม่ควรดูติดต่อกันเป็นเวลานานๆ การดู2Dทีวีเป็นเวลานานๆก็เป็นได้ เพียงแต่3Dมันเกิดขึ้นเร็วมากกว่า
ของทุกอย่างมีคุณและโทษ อยู่ที่วิธีการใช้ หากใช้ไม่เป็นหรือถูกวิธี ก็ทำให้เกิดโทษมากกว่าประโยชน์

สินค้าที่ทำมาขาย แน่นอนคนผลิตก็ต้องการขายๆ แต่หากสินค้าไม่ดีหรือทำให้เกิดโทษ สักพักก็เลิกผลิตไปไม่รอด

เรื่องนี้ผมว่าอยู่ที่เรายอมรับเทคโนโลยี่ตัวนี้หรือเปล่า หากเราไม่ยอมรับก็มีเหตุผลต่างๆนา ที่ทำให้เราไม่อยากไปสนใจมัน แต่ถ้าหากเราสนใจก็มีเหตุผลที่จะซื้อมันมา
การซื้อทีวี3Dใช่ว่าจะดูแต่3Dตลอดเวลา ส่วนใหญ่ก็ดู2Dเป็นหลัก อยากมากผมว่าอาทิตย์หนึ่งจะดูหนังสักกี่เรื่อง ยิ่งหนัง3Dไม่ค่อยมีอีก โอกาสยิ่งน้อยไปอีก
แต่สำหรับท่านที่ซื้อทีวี3D มาดูฟรีทีวี เคเบิลทีวี หรือหนัง2D แล้วแปลงเป็น3D ผมว่าอย่างนั้นผิดวัตถุประสงค์ไป     
 
หัวข้อ: Re: ภาพยนตร์ 3มิติ กับสุขภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: Pariwats ที่ 24 ธันวาคม, 2010, 07:22:27 am

เมื่อคืนไปดู Tron Legacy รอบปฐมฤกษ์เป็น 3D พูดได้คำเดียว ดูแล้วจะอ้วก  :cry2 :cry2 :cry2
หัวข้อ: Re: ภาพยนตร์ 3มิติ กับสุขภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: tsainont (FilmJunkie) ที่ 24 ธันวาคม, 2010, 08:59:27 am

เมื่อคืนไปดู Tron Legacy รอบปฐมฤกษ์เป็น 3D พูดได้คำเดียว ดูแล้วจะอ้วก  :cry2 :cry2 :cry2

ผมว่า หนังบางเรื่องมันก็ไม่เหมาะที่จะำทำเป็น 3D นะ เช่น Tron น่าจะมีฉากเคลื่อนไหวเร็วๆ อยู่มากมายหลายฉาก ทำเป็น 3D ฉากวูบวาบๆ น่าจะทำให้คนดูต้องใช้พลังจากสายตาเยอะ
หัวข้อ: Re: ภาพยนตร์ 3มิติ กับสุขภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: Prasert ที่ 24 ธันวาคม, 2010, 09:49:51 am
จริงๆผมไม่ชอบใส่แว่นดูนะ แต่เคยนั่งลองใส่แว่นสามมิติดู Panasonic ไปเกือบครึ่งชั่วโมง เท่าที่ได้ดู ก็ชอบนะ แต่หนังมีน้อยเหลือเกิน ไม่รู้อนาคตมันจะดับเร็วแค่ไหน เลยยังไม่ตัดสินใจซื้อมาเล่น กลัวจะเหมือนสมัยเล่นพวก dvd audio sacd บ้าไปเล่นช่วงแรกๆ ในที่สุดก็แป๊ก ยังไงคงรอไปซักพัก ถ้ามีหนังมากขึ้น อาจซื้อมาดูเล่นบ้าง แต่ตอนนี้อยากได้แค่ 2d Panasonic มากกว่า ตัวเก่าสีจืดแล้ว เห็น Toshiba lcd รุ่น 700 อะไรซักอย่าง ก็สีสวยดี ไม่รู้ดูฟรีทีวี พอไหวไหม และการเคลื่อนไหวของ lcl ยังมีผีตามหลอกหลอนอยู่อีกไหม ใครใช้รุ่นนี้บ้าง แนะนำนิดครับ 
หัวข้อ: Re: ภาพยนตร์ 3มิติ กับสุขภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: newton ที่ 24 ธันวาคม, 2010, 12:31:51 pm
 คิดถึงdvd audio sacd แล้วช้ำใจบ้าไปอยู่พักหนึ่ง :crybaby :crybaby

ตอนนี้หายบ้าแล้ว B) :groovy
หัวข้อ: Re: ภาพยนตร์ 3มิติ กับสุขภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: ยง101 ที่ 24 ธันวาคม, 2010, 12:32:54 pm
จริงๆผมไม่ชอบใส่แว่นดูนะ แต่เคยนั่งลองใส่แว่นสามมิติดู Panasonic ไปเกือบครึ่งชั่วโมง เท่าที่ได้ดู ก็ชอบนะ แต่หนังมีน้อยเหลือเกิน ไม่รู้อนาคตมันจะดับเร็วแค่ไหน เลยยังไม่ตัดสินใจซื้อมาเล่น กลัวจะเหมือนสมัยเล่นพวก dvd audio sacd บ้าไปเล่นช่วงแรกๆ ในที่สุดก็แป๊ก ยังไงคงรอไปซักพัก ถ้ามีหนังมากขึ้น อาจซื้อมาดูเล่นบ้าง แต่ตอนนี้อยากได้แค่ 2d Panasonic มากกว่า ตัวเก่าสีจืดแล้ว เห็น Toshiba lcd รุ่น 700 อะไรซักอย่าง ก็สีสวยดี ไม่รู้ดูฟรีทีวี พอไหวไหม และการเคลื่อนไหวของ lcl ยังมีผีตามหลอกหลอนอยู่อีกไหม ใครใช้รุ่นนี้บ้าง แนะนำนิดครับ 

ผมว่า... ถึงยังไงก็ได้ซื้อรุ่น3D อยู่ดี ;D ;D  เพราะภาพดูดีกว่าในการชมทุกรูปแบบ โดยเฉพาะสีดำและการเครื่อนไหว  O0 Y]

SONY NX810 คม สีสวย...แต่PANA VT20.ก็ถูกกว่าเยอะ(ผมซื้อตัวหลังนี่แหละ ดูบอลHDสวยถูกจายจิงจิง  O0 O0 O0)

     ผมตั้งใจเอามาดู 2D...ดูBD ภาพก็ถูกโดนใจพอแล้ว ภาพก็มีมิติดีอยู่แล้ว   3D ถือว่าเปนของแถมก็แล้วกัน  ;D ;D

ถ้าสน Toshiba รอรุ่นKIRA ZL ต้นปีหน้าไปเลยคับ คุณประเสริฐ  เค้าว่า O0 ด๊ำดำ   2f 2f 2f   
หัวข้อ: Re: ภาพยนตร์ 3มิติ กับสุขภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: RAK ที่ 24 ธันวาคม, 2010, 12:46:46 pm
เป็นแค่ช่วงเริ่มต้นของ 3 D เดี๋ยวรออีกสักพักไม่เกินปี รับรองผมว่าคงต้องหามาใช้กันมากขึ้นแน่ๆเพราะแผ่น 3 D ออกมาเรี่อยๆแล้วมันก็จะดีขึ้นไปอีกเหมือนตอนแผ่น Blu Ray ตอนมาใหม่ๆดูยังไงก็ไม่ลื่นมีกระตุกนิดๆเดี๋ยวนี้ไม่ว่าหนังใหญ่หนังเล็กลื่นปรื๊ดครับ  K)
หัวข้อ: Re: ภาพยนตร์ 3มิติ กับสุขภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: atom27 ที่ 24 ธันวาคม, 2010, 01:46:58 pm
ดูนานๆแล้วเวียนหัว คลื่นไส้ครับ
หัวข้อ: Re: ภาพยนตร์ 3มิติ กับสุขภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: gai ที่ 24 ธันวาคม, 2010, 07:13:39 pm
อาการมึนงง จะอ๊วก  เวียนหัว คลื่นใส้  ไม่ใช่อาการล้าทางสายตานะครับ  เป็นอาการเมาของสมอง  คุณหมอช่วยมาอธิบายด้วยครับ
หัวข้อ: Re: ภาพยนตร์ 3มิติ กับสุขภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: กัมปนาท KK ที่ 25 ธันวาคม, 2010, 11:45:54 am

เมื่อคืนไปดู Tron Legacy รอบปฐมฤกษ์เป็น 3D พูดได้คำเดียว ดูแล้วจะอ้วก  :cry2 :cry2 :cry2
ผมว่าอยู่ที่เครื่องครับพี่  ในโรงหนังเครื่องและระบบ 3D มันไม่ดีพอ และยิ่งระดับ แสงไม่สว่างพอจบกันครับ ที่เป็นประเด็นอีกอัน คือ แว่นก็ไม่ดีมาก  ของไม่กี่ร้อยบาทพี่
แว่นของ  พวกจอ  แบบ  Pana JVC toshiba  Samsung    ราคาต่างกัน 10 เท่า  ส่วนใหญ่จะประมาณ ครึ่งหมื่นครับ

พี่  Pariwats ต้องลองไปชม Avatan   3D แท้ๆเล่น    กับ Plasma 50"  65" Panasonic  สุดยอดความบันเทิงครับ สนุดกว่าดูโรง 10 เท่า และผมว่าดูแล้วไม่มีอาการ  เวียนหัวแต่อย่างได  O0  มีอีกเครื่องที่จะออกมาปีหน้าแต่มีมา   Show ให้ดูแล้วในงาน Electronica ที่the mallบางกะปิ เป็นเครื่องของToshiba wl700 LED  55" ก็ทำ  3D ได้ดีใสภาพลื่นไม่แพ้   Panasonic และสว่างกว่าเวลาเล่น 3D ทั้งคู่ จัดว่าอยู่ในระดับดีมากทาง Toshiba  ยังแถม แว่น 4อัน และคุณภาพดีกว่า Panasonic ด้วยหละท่าน   และที่ง 3D ของ Toshiba  3D   LED   WL700 สำคัญเล่น 2D ได้ดีมาก  ดำดีกว่า Plasma  Panasonic  อยู่พอสมควร 
 JVC มี มา Show ระบบจอ LED  polarization  แว่นไม่ต้องใช้ไฟ ภาพนิ่งที่สุดกว่าทุกระบบที่เคยเห็นมา แต่ จอแพงมาก 50."  3 แสน ระบบนี้ Work สุดครับถ้าราคาเท่า Pana ขายกระจายครับ
 Toshiba  3D ขนาด 14" แบบไม่ต้องใช้แว่นก็มีมา Show แล้วครับ เป็นต้นแบบ คาดว่าจะทำออกมาเป็นสินค้าได้อีก อย่างเร็ว 3ปีและราคาคงแพงมากครับ แถมมิติก็ตื่นมากและมีมุมมองแคบ แค่ จุดตรงกลางเท่านั้นขยับจากตรงกลางภาพก็จะกลายเป็น 2D ผมว่าไม่ work ดูได้ไม่เกิน 2คนตรงกลางเท่านั้นครับ