HTG2.club

Home Theater Guide webboard => มุม โฮมเธียเตอร์ (HT) => ข้อความที่เริ่มโดย: cinemania ที่ 17 มีนาคม, 2011, 10:58:41 pm

หัวข้อ: หิมะตกเวียดนามครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ... คาดอาจเกี่ยวสึนามิ
เริ่มหัวข้อโดย: cinemania ที่ 17 มีนาคม, 2011, 10:58:41 pm
ฮือฮา!หิมะตกเวียดนามครั้งแรกในประวัติศาสตร์ คาดอาจเกี่ยวสึนามิ
ได้อ่านข่าวจากไทยรัฐ อ่านแล้วหนาวเลยครับ  :cold
ประเทศไทยก็เหมือนกันอยู่ดี ๆ ก็เย็น ๆ ซะงั้น
น่าจะต้องมีอะไรผิดปกติแน่ ๆ เลย

http://www.thairath.co.th/content/oversea/156760
หัวข้อ: Re: หิมะตกเวียดนามครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ... คาดอาจเกี่ยวสึนามิ
เริ่มหัวข้อโดย: ice_berger77 ที่ 17 มีนาคม, 2011, 11:43:05 pm
อาจจะเริ่มจากที่หิมะตกที่พม่าก่อนรึป่าว
ช่วงนี้อากาศในโลกเราแปลกๆนะครับ

รักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ  :secret  :secret
หัวข้อ: Re: หิมะตกเวียดนามครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ... คาดอาจเกี่ยวสึนามิ
เริ่มหัวข้อโดย: nammm ที่ 18 มีนาคม, 2011, 01:30:55 am
แปลกจริงๆครับช่วงนี้ ไม่รู้อะไรจะเกิดอีก....ในอนาคตอันใกล้นี้.. :'(
หัวข้อ: Re: หิมะตกเวียดนามครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ... คาดอาจเกี่ยวสึนามิ
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนดง ที่ 18 มีนาคม, 2011, 05:56:24 am

การทำลายป่า ทำให้ธรรมชาติของโลกเสียสมดุล เกิดภาวะโลกร้อน :evil2.......เพราะฉะนั้น จงช่วยกันดูแล ป่าไม้   ให้ดีครับ  c)


หัวข้อ: Re: หิมะตกเวียดนามครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ... คาดอาจเกี่ยวสึนามิ
เริ่มหัวข้อโดย: หมูอ่อนนุช ที่ 18 มีนาคม, 2011, 07:52:17 am
อาจไม่ใช่ ป่าไม้อย่างเดียวนะครับ
ผลกระทบจากการสูบน้ำมันปริมาญมหาศาลมาใช้ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา
ทำให้ใต้เปลือกโลกเปลี่ยนไปมากมาย   การเกิดแผ่นดินไหว  ใหญ่ๆจึงเกิดขึ้นถี่กว่าเมื่อก่อนมาก

ภัยที่ทำลายล้างมนุษย์ได้มากที่สุด  มาจากน้ำ หรือคลื่นยักษ์ครับ  อันเป็นผลต่อเนื่องจากแผ่นดินไหวอีกที
ดูท่า 2012 เป็นเรื่องที่น่ากลัวขึ้นทุกทีแล้ว
อาจจะไม่เหมือนในหนัง  แต่ก็อยู่ในขั้นทำร้ายมนุษยชาติได้สาหัสทีเดียว
ถึงเวลา ธรรมชาติเอาคืน..... :(
หัวข้อ: Re: หิมะตกเวียดนามครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ... คาดอาจเกี่ยวสึนามิ
เริ่มหัวข้อโดย: champ143 ที่ 18 มีนาคม, 2011, 08:53:05 am
คืนวันเสาร์ที่ 19 นี้ ดวงจันทร์จะโคจรมาใกล้โลกมากที่สุด ในรอบ 19 ปี พอดี ถ้าเกิด tsunami ในช่วงนั้นอีกทีน้ำจะมากขึ้นกว่าที่ผ่านมาที่เซ็นไดเสียอีก ก็ภาวนาว่าแถวอินโดอย่าเพิ่งแผ่นดินไหวในช่วงนั้นเลยม่ายงั้นเดี๋ยวจะตรงกับที่โหรโสรัจจะทำนายไว้ว่าเกาะภูเก็ตจะถูกซึนามิใหญ่เร็วๆ นี้  น่ากลัวมันจะมีโอกาสมากขึ้นซะแล้ว :cry2
หัวข้อ: Re: หิมะตกเวียดนามครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ... คาดอาจเกี่ยวสึนามิ
เริ่มหัวข้อโดย: ZAQ1 ที่ 18 มีนาคม, 2011, 10:37:21 am
ผมจำได้ว่า2-3ปีก่อน หิมะก็ตกที่เวียตนามแล้วนะครับ เพราะอยู่ใกล้จีนเลยได้รับอิทธิพลครับ
หัวข้อ: Re: หิมะตกเวียดนามครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ... คาดอาจเกี่ยวสึนามิ
เริ่มหัวข้อโดย: ยศ ที่ 18 มีนาคม, 2011, 11:32:59 am
สงสัยประเทศต่อไปที่หิมะจะตกคงเป็นไทย c)
หัวข้อ: Re: หิมะตกเวียดนามครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ... คาดอาจเกี่ยวสึนามิ
เริ่มหัวข้อโดย: tuact ที่ 18 มีนาคม, 2011, 01:48:49 pm
บ้านแฟนที่เชียงรายตอนนี้หนาวมาก  :cold
หัวข้อ: Re: หิมะตกเวียดนามครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ... คาดอาจเกี่ยวสึนามิ
เริ่มหัวข้อโดย: Old Tube ที่ 18 มีนาคม, 2011, 10:25:22 pm
 :cold :cold :cold :cold :cold :cold :cold :cold น่ากลัวจิงๆ ปี 2012 อย่างในหนัง
หัวข้อ: Re: หิมะตกเวียดนามครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ... คาดอาจเกี่ยวสึนามิ
เริ่มหัวข้อโดย: B-jung ที่ 19 มีนาคม, 2011, 09:53:51 am
เพราะงั้นต้องใช้ชีวิตให้คุ้มค่าครับ เผื่อ2012จะเป็นเรื่องจริง :drive1
หัวข้อ: Re: หิมะตกเวียดนามครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ... คาดอาจเกี่ยวสึนามิ
เริ่มหัวข้อโดย: ยิ้มละไม ที่ 19 มีนาคม, 2011, 02:54:05 pm
ใน 1 สัปดาห์ มี 3 ฤดู ฝนกต หนาว และร้อน.......น่ากลัวจริง ๆ ......
หัวข้อ: Re: หิมะตกเวียดนามครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ... คาดอาจเกี่ยวสึนามิ
เริ่มหัวข้อโดย: champ143 ที่ 19 มีนาคม, 2011, 11:34:14 pm
เห็นเพื่อนที่ไปเที่ยวหลวงพระบางก็บอกว่าที่นั่นตอนเช้ามีหิมะขาวบางๆ เต็มลานโรงแรมเหมือนกัน  :headphone
หัวข้อ: Re: หิมะตกเวียดนามครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ... คาดอาจเกี่ยวสึนามิ
เริ่มหัวข้อโดย: notty2009 ที่ 20 มีนาคม, 2011, 04:39:00 pm
เห็นเขาบอกว่าแกนโลกมันเอียงครับ..ไม่น่าจะเกี่่ยวกับสึนามิ ความเอียงของแกนหมุนของโลกคือ มุมระหว่างแกนหมุนรอบตัวเองของโลก และแกนที่ผ่านขั้วทั้งสองของทรงกลมฟ้าที่มีเส้นสุริยวิถีเป็นเส้นแบ่งครึ่ง ซึ่งเท่ากับมุมระหว่างระนาบสุริยวิถีกับระนาบเส้นศูนย์สูตรของโลก ตรงกับภาษาอังกฤษว่า obliquity มีสัญลักษณ์ว่า E

ปัจจุบัน E มีค่าประมาณ 23 องศา 26 ลิปดา และกำลังอยู่ในช่วงลดลงด้วยอัตราประมาณ 0.475 ลิปดา ต่อปี มุมนี้จะลงไปต่ำสุดที่ 22.6 ลิปดา ในอีก 10,200 ปี หลังจากนั้นจะเพิ่มขึ้นทีละน้อยอีกครั้งหนึ่งจนกระทั่งถึงค่าสูงสุด 24องศา2ลิปดา ค่าสูงสุดนี้เกิดขึ้นมาแล้วก่อนหน้าปัจจุบันประมาณ 10,000 ปี
การเปลี่ยนแปลงของ E ในระยะเวลา 700,000 ปีที่ผ่านมา

..สาเหตุของการเปลี่ยนแปลงของค่า E ...
ความ เอียงของแกนหมุนของโลกคือ มุมระหว่างแกนหมุนรอบตัวเองของโลก และแกนที่ผ่านขั้วทั้งสองของทรงกลมฟ้าที่มีเส้นสุริยวิถีเป็นเส้นแบ่งครึ่ง ซึ่งเท่ากับมุมระหว่างระนาบสุริยวิถีกับระนาบเส้นศูนย์สูตรของโลก มีค่าไม่คงที่เพราะสาเหตุ 2 ประการ คือ..

- การส่ายของแกนหมุน ของโลกอันเกิดจากแรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ที่พยายามดึงแกนโลก ให้ตั้งตรง ทำให้แกนโลกส่ายรอบละ 25,800 ปี ดาวเหนือในแต่ละยุคจึงไม่ใช่ดาวดวงเดียวกัน เช่น ในปัจจุบันดาวเหนือคือ ดาวแอลฟา-หมีเล็ก เมื่อ 4,000 ปีมาแล้ว ดาวเหนือคือ ดาวทูแบน ในอนาคตอีก 10,000 ปี ดาววีกา จะเป็นดาวเหนือที่สว่างโชติช่วง
เนื่องจากโลก โป่งออกบริเวณเส้นศูนย์สูตร แรงลัพธ์ที่ดวงจันทร์หรือดวงอาทิตย์กระทำต่อโลกจึงไม่ผ่านจุดศูนย์กลางโลก แต่ผ่านใต้จุดนี้ ผลที่เกิดขึ้นคือ มีแรงที่พยายามดึงแกนโลกให้ตั้งตรงดังกล่าวแล้ว แกนโลกจึงส่ายในทิศทางตรงข้ามกับทิศทางของการหมุนแทนที่จะส่ายในทิศทางเดียว กันกับทิศทางการหมุนของลูกข่าง

- การส่ายของทางโคจรของโลก รอบดวงอาทิตย์อันเนื่องมาจากแรงรบกวนจากดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ ในระบบสุริยะ คาบของการส่ายของทางโคจรของโลกยาวนานประมาณ 71,000 ปี การส่ายของแกนหมุนและการส่ายของทางโคจรของโลก ทำให้ E มีคาบประมาณ 41,000 ปี

...แกนโลกเอียงคือ...สาเหตุของการเกิดฤดูกาลของโลก
ในปัจจุบัน ขั้วโลกเหนือหันเข้าหาดวงอาทิตย์ในเดือนมิถุนายน ทำให้ซีกโลกเหนือเป็นฤดูร้อน แต่ในเดือนธันวาคมขั้วโลกเหนือหันออกจากดวงอาทิตย์ซีกโลกเหนือได้รับความ ร้อนลดลงจึงเป็นฤดูหนาว

ในระยะยาวอีกประมาณ 12,000 ปีจากปัจจุบัน ขั้วโลกเหนือหันเข้าหาดวงอาทิตย์ในเดือนธันวาคมและหันออกในเดือนมิถุนายน ดังนั้นฤดูกาลจึงกลับกันกับในปัจจุบัน คือซีกโลกเหนือเป็นฤดูร้อนในเดือนธันวาคมและเป็นฤดูหนาวในเดือนมิถุนายน ปรากฏการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นเพราะการส่ายของแกนหมุนของโลกรอบละ 25,800 ปี

ทิศ ทางที่แสงแดดตกกระทบผิวโลกจะช่วยบอกให้ทราบว่าโลกบริเวณนั้นมีอุณหภูมิสูง หรือต่ำ หากแสงอาทิตย์ส่องมาตรง ๆ หรือตั้งฉากกับผิวโลกจะทำให้ผิวโลกบริเวณนั้นร้อนกว่า เมื่อแสงอาทิตย์ส่องมาเฉียง ๆ ทั้งนี้เพราะเมื่อแสงส่องมาเฉียงความร้อนจะแผ่กระจายเป็นบริเวณกว้าง อุณหภูมิเฉลี่ยต่อหน่วยพื้นที่จึงน้อยกว่าเมื่อแสงส่องมาตรง ๆ ซึ่งความร้อนแผ่กระจายเป็นบริเวณแคบ ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยต่อหน่วยพื้นที่มีค่าสูง

ปัจจุบันโลกมีบริเวณต่าง ๆ ที่แบ่งตามภูมิอากาศคือ เขตร้อน เขตอบอุ่น และเขตหนาว
เขตร้อน อยู่ระหว่างละติจูด 23.5องศาใต้ ถึง 23.5องศาเหนือ
เขตอบอุ่นเหนือ อยู่ระหว่างละติจูด 23.5องศาเหนือ ถึง 66.5องศาเหนือ
เขตอบอุ่นใต้ อยู่ระหว่างละติจูด 23.5องศา ใต้ ถึง 66.5องศาใต้
เขตหนาวเหนือ อยู่ระหว่างละติจูด 66.5องศาเหนือ ถึงขั้วโลกเหนือ
เขตหนาวใต้ อยู่ระหว่างละติจูด 66.5องศาใต้ ถึงขั้วโลกใต้
...
แกนโลกเอียงน้อยลงทำให้เขตร้อนเคลื่อนที่เข้าหาเส้นศูนย์สูตรโลก..
ละติจูด 23.5 องศา คือขอบของเขตร้อนที่อยู่ระหว่างละติจูด 23.5 องศาใต้กับละติจูด 23.5 องศาเหนือ มุม 23.5 องศาคือ ความเอียงของแกนหมุนของโลกจากแนวตั้งฉากกับระนาบทางโคจรรอบดวงอาทิตย์ ซึ่งแทนด้วย E ถ้า E ลดลง เขตร้อนของโลกก็ต้องลดลงด้วย ปัจจุบัน Eลดลงในอัตราประมาณ 0.475" ต่อปี หรือ 47.5" ต่อศตวรรษ หากคิดเป็นระยะทางจะได้ 14.7 เมตรต่อปี หรือ 1.47 กิโลเมตรต่อศตวรรษ นั่นคือ เส้นที่แบ่งเขตร้อนซึ่งตรงกับภาษาอังกฤษว่าเส้นทรอปิก (tropics) กำลังเคลื่อนเข้าหาเส้นศูนย์สูตรของโลกด้วยความเร็วสูงอย่างไม่น่าเชื่อ 14.7 เมตรต่อปี สูงกว่าอัตราการเลื่อนของเพลตเทกโทนิก ซึ่งเลื่อนเพียงปีละ 13 เซนติเมตรเป็นอย่างมาก
หากคิดเป็นพื้นที่เขตร้อนจะลดลงปีละประมาณ 1,080 ตารางกิโลเมตร ส่วนใหญ่จะเป็นบริเวณที่เป็นทะเลเป็นมหาสมุทร บริเวณที่เป็นพื้นดินประมาณ 330 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น และทวีปแอฟริกาเป็นผืนแผ่นดินผืนใหญ่ที่เส้นแบ่งเขตร้อนทั้งสองผ่าน
/////////////////////////////////
ระวังการเปลี่ยนแปลงฤดูกาลอย่างฉับพลันในช่วงที่แกนโลกเปลี่ยนทิศทางการเอียง
แต่ ผมงงอย่างหนึ่ง ถ้าแกนโลกเอียงน้อยลง เขตร้อนจะน้อยลง แต่เขตหนาวก็จะลดลงด้วยไม่ใช่เหรอ? ส่วนเขตอบอุ่นจะมีพื้นที่มากขึ้นไม่ใช่หรือ?
เพราะว่า เส้นทรอปิค ออฟ แคนเซอร์คือ เส้นละติจูดที่ ดวงอาทิตย์ ตั้งฉากศีรษะ ในวันโซสสตีลในฤดูร้อนไม่ใช่หรือ แต่เส้นอาร์คติก เซอร์เคิล คือ เส้นละติจูดที่ดวงอาทิตย์ตกที่ริมขอบฟ้า ในวันโซลสตีลในฤดูร้อน(จุดต่ำสุดของดวงอาทิตย์อยู่ที่เส้นขอบฟ้า) ใช่มั้ย?  ซึ่งก็คือ 90-องศาการเอียงของแกนโลก ทั้งนี้ ในปัจจุบัน คือ 90-23.5=66.5 องศาN แต่อนาคตตอนที่แกนโลกเอียงน้อยที่สุด แกนโลกจะเอียงแค่ 22.6 องศา ดังนั้น เส้นอาร์คติกเซอร์เคิลในอนาคต คือ 90-22.6=67.4 องศาN ฉะนั้น เขตหนาวจะลดลง บริเวณที่เกิดดวงอาทิตย์เที่ยงคืนก็ลดลง
หัวข้อ: Re: หิมะตกเวียดนามครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ... คาดอาจเกี่ยวสึนามิ
เริ่มหัวข้อโดย: champ143 ที่ 20 มีนาคม, 2011, 10:35:12 pm
เห็นเขาบอกว่าแกนโลกมันเอียงครับ..ไม่น่าจะเกี่่ยวกับสึนามิ ความเอียงของแกนหมุนของโลกคือ มุมระหว่างแกนหมุนรอบตัวเองของโลก และแกนที่ผ่านขั้วทั้งสองของทรงกลมฟ้าที่มีเส้นสุริยวิถีเป็นเส้นแบ่งครึ่ง ซึ่งเท่ากับมุมระหว่างระนาบสุริยวิถีกับระนาบเส้นศูนย์สูตรของโลก ตรงกับภาษาอังกฤษว่า obliquity มีสัญลักษณ์ว่า E

ปัจจุบัน E มีค่าประมาณ 23 องศา 26 ลิปดา และกำลังอยู่ในช่วงลดลงด้วยอัตราประมาณ 0.475 ลิปดา ต่อปี มุมนี้จะลงไปต่ำสุดที่ 22.6 ลิปดา ในอีก 10,200 ปี หลังจากนั้นจะเพิ่มขึ้นทีละน้อยอีกครั้งหนึ่งจนกระทั่งถึงค่าสูงสุด 24องศา2ลิปดา ค่าสูงสุดนี้เกิดขึ้นมาแล้วก่อนหน้าปัจจุบันประมาณ 10,000 ปี
การเปลี่ยนแปลงของ E ในระยะเวลา 700,000 ปีที่ผ่านมา

..สาเหตุของการเปลี่ยนแปลงของค่า E ...
ความ เอียงของแกนหมุนของโลกคือ มุมระหว่างแกนหมุนรอบตัวเองของโลก และแกนที่ผ่านขั้วทั้งสองของทรงกลมฟ้าที่มีเส้นสุริยวิถีเป็นเส้นแบ่งครึ่ง ซึ่งเท่ากับมุมระหว่างระนาบสุริยวิถีกับระนาบเส้นศูนย์สูตรของโลก มีค่าไม่คงที่เพราะสาเหตุ 2 ประการ คือ..

- การส่ายของแกนหมุน ของโลกอันเกิดจากแรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ที่พยายามดึงแกนโลก ให้ตั้งตรง ทำให้แกนโลกส่ายรอบละ 25,800 ปี ดาวเหนือในแต่ละยุคจึงไม่ใช่ดาวดวงเดียวกัน เช่น ในปัจจุบันดาวเหนือคือ ดาวแอลฟา-หมีเล็ก เมื่อ 4,000 ปีมาแล้ว ดาวเหนือคือ ดาวทูแบน ในอนาคตอีก 10,000 ปี ดาววีกา จะเป็นดาวเหนือที่สว่างโชติช่วง
เนื่องจากโลก โป่งออกบริเวณเส้นศูนย์สูตร แรงลัพธ์ที่ดวงจันทร์หรือดวงอาทิตย์กระทำต่อโลกจึงไม่ผ่านจุดศูนย์กลางโลก แต่ผ่านใต้จุดนี้ ผลที่เกิดขึ้นคือ มีแรงที่พยายามดึงแกนโลกให้ตั้งตรงดังกล่าวแล้ว แกนโลกจึงส่ายในทิศทางตรงข้ามกับทิศทางของการหมุนแทนที่จะส่ายในทิศทางเดียว กันกับทิศทางการหมุนของลูกข่าง

- การส่ายของทางโคจรของโลก รอบดวงอาทิตย์อันเนื่องมาจากแรงรบกวนจากดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ ในระบบสุริยะ คาบของการส่ายของทางโคจรของโลกยาวนานประมาณ 71,000 ปี การส่ายของแกนหมุนและการส่ายของทางโคจรของโลก ทำให้ E มีคาบประมาณ 41,000 ปี

...แกนโลกเอียงคือ...สาเหตุของการเกิดฤดูกาลของโลก
ในปัจจุบัน ขั้วโลกเหนือหันเข้าหาดวงอาทิตย์ในเดือนมิถุนายน ทำให้ซีกโลกเหนือเป็นฤดูร้อน แต่ในเดือนธันวาคมขั้วโลกเหนือหันออกจากดวงอาทิตย์ซีกโลกเหนือได้รับความ ร้อนลดลงจึงเป็นฤดูหนาว

ในระยะยาวอีกประมาณ 12,000 ปีจากปัจจุบัน ขั้วโลกเหนือหันเข้าหาดวงอาทิตย์ในเดือนธันวาคมและหันออกในเดือนมิถุนายน ดังนั้นฤดูกาลจึงกลับกันกับในปัจจุบัน คือซีกโลกเหนือเป็นฤดูร้อนในเดือนธันวาคมและเป็นฤดูหนาวในเดือนมิถุนายน ปรากฏการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นเพราะการส่ายของแกนหมุนของโลกรอบละ 25,800 ปี

ทิศ ทางที่แสงแดดตกกระทบผิวโลกจะช่วยบอกให้ทราบว่าโลกบริเวณนั้นมีอุณหภูมิสูง หรือต่ำ หากแสงอาทิตย์ส่องมาตรง ๆ หรือตั้งฉากกับผิวโลกจะทำให้ผิวโลกบริเวณนั้นร้อนกว่า เมื่อแสงอาทิตย์ส่องมาเฉียง ๆ ทั้งนี้เพราะเมื่อแสงส่องมาเฉียงความร้อนจะแผ่กระจายเป็นบริเวณกว้าง อุณหภูมิเฉลี่ยต่อหน่วยพื้นที่จึงน้อยกว่าเมื่อแสงส่องมาตรง ๆ ซึ่งความร้อนแผ่กระจายเป็นบริเวณแคบ ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยต่อหน่วยพื้นที่มีค่าสูง

ปัจจุบันโลกมีบริเวณต่าง ๆ ที่แบ่งตามภูมิอากาศคือ เขตร้อน เขตอบอุ่น และเขตหนาว
เขตร้อน อยู่ระหว่างละติจูด 23.5องศาใต้ ถึง 23.5องศาเหนือ
เขตอบอุ่นเหนือ อยู่ระหว่างละติจูด 23.5องศาเหนือ ถึง 66.5องศาเหนือ
เขตอบอุ่นใต้ อยู่ระหว่างละติจูด 23.5องศา ใต้ ถึง 66.5องศาใต้
เขตหนาวเหนือ อยู่ระหว่างละติจูด 66.5องศาเหนือ ถึงขั้วโลกเหนือ
เขตหนาวใต้ อยู่ระหว่างละติจูด 66.5องศาใต้ ถึงขั้วโลกใต้
...
แกนโลกเอียงน้อยลงทำให้เขตร้อนเคลื่อนที่เข้าหาเส้นศูนย์สูตรโลก..
ละติจูด 23.5 องศา คือขอบของเขตร้อนที่อยู่ระหว่างละติจูด 23.5 องศาใต้กับละติจูด 23.5 องศาเหนือ มุม 23.5 องศาคือ ความเอียงของแกนหมุนของโลกจากแนวตั้งฉากกับระนาบทางโคจรรอบดวงอาทิตย์ ซึ่งแทนด้วย E ถ้า E ลดลง เขตร้อนของโลกก็ต้องลดลงด้วย ปัจจุบัน Eลดลงในอัตราประมาณ 0.475" ต่อปี หรือ 47.5" ต่อศตวรรษ หากคิดเป็นระยะทางจะได้ 14.7 เมตรต่อปี หรือ 1.47 กิโลเมตรต่อศตวรรษ นั่นคือ เส้นที่แบ่งเขตร้อนซึ่งตรงกับภาษาอังกฤษว่าเส้นทรอปิก (tropics) กำลังเคลื่อนเข้าหาเส้นศูนย์สูตรของโลกด้วยความเร็วสูงอย่างไม่น่าเชื่อ 14.7 เมตรต่อปี สูงกว่าอัตราการเลื่อนของเพลตเทกโทนิก ซึ่งเลื่อนเพียงปีละ 13 เซนติเมตรเป็นอย่างมาก
หากคิดเป็นพื้นที่เขตร้อนจะลดลงปีละประมาณ 1,080 ตารางกิโลเมตร ส่วนใหญ่จะเป็นบริเวณที่เป็นทะเลเป็นมหาสมุทร บริเวณที่เป็นพื้นดินประมาณ 330 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น และทวีปแอฟริกาเป็นผืนแผ่นดินผืนใหญ่ที่เส้นแบ่งเขตร้อนทั้งสองผ่าน
/////////////////////////////////
ระวังการเปลี่ยนแปลงฤดูกาลอย่างฉับพลันในช่วงที่แกนโลกเปลี่ยนทิศทางการเอียง
แต่ ผมงงอย่างหนึ่ง ถ้าแกนโลกเอียงน้อยลง เขตร้อนจะน้อยลง แต่เขตหนาวก็จะลดลงด้วยไม่ใช่เหรอ? ส่วนเขตอบอุ่นจะมีพื้นที่มากขึ้นไม่ใช่หรือ?
เพราะว่า เส้นทรอปิค ออฟ แคนเซอร์คือ เส้นละติจูดที่ ดวงอาทิตย์ ตั้งฉากศีรษะ ในวันโซสสตีลในฤดูร้อนไม่ใช่หรือ แต่เส้นอาร์คติก เซอร์เคิล คือ เส้นละติจูดที่ดวงอาทิตย์ตกที่ริมขอบฟ้า ในวันโซลสตีลในฤดูร้อน(จุดต่ำสุดของดวงอาทิตย์อยู่ที่เส้นขอบฟ้า) ใช่มั้ย?  ซึ่งก็คือ 90-องศาการเอียงของแกนโลก ทั้งนี้ ในปัจจุบัน คือ 90-23.5=66.5 องศาN แต่อนาคตตอนที่แกนโลกเอียงน้อยที่สุด แกนโลกจะเอียงแค่ 22.6 องศา ดังนั้น เส้นอาร์คติกเซอร์เคิลในอนาคต คือ 90-22.6=67.4 องศาN ฉะนั้น เขตหนาวจะลดลง บริเวณที่เกิดดวงอาทิตย์เที่ยงคืนก็ลดลง


อ่านแล้วได้ความรู้ขึ้นอีกเยอะครับ ขอบคุณครับ  :clap


อ่านไปอ่านมานอกจากจะรู้เรื่องแกนโลกเอียงแล้ว คอผมก็เอียงตามไปด้วยเลยอ่ะ อิอิ :headphone
หัวข้อ: Re: หิมะตกเวียดนามครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ... คาดอาจเกี่ยวสึนามิ
เริ่มหัวข้อโดย: notty2009 ที่ 21 มีนาคม, 2011, 09:59:14 am
ผมอ่านเองก้อชักเอียงเหมือนกัน  แต่สรุปตามที่ผมเข้าใจก้อคือแกนโลกเอียงทำให้ประเทศที่มีอากาศร้อนแบบบ้านเรา จะเข้าใกล้บริเวนที่มีอากาศเย็น เลยทำให้บ้านเราอากาศร้อนน้อยลง สังเกตได้จากทุกวันนี้ไม่ค่อยร้อนเท่าไร ปกติกุมภาน่าจะร้อนแล้ว แต่นี่ใกล้เมษา ยังไม่ค่อยร้อนมาก   แต่ประเทศที่มีอากาศเย็นจะเข้าใกล้เขตอากาศร้อนมากขึ้นเลยทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลาย มนจะค่อย ๆ สลับกัน ..ตามที่เข้าใจนะครับ :drive1
หัวข้อ: Re: หิมะตกเวียดนามครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ... คาดอาจเกี่ยวสึนามิ
เริ่มหัวข้อโดย: cinemania ที่ 21 มีนาคม, 2011, 10:23:07 am
ผมอ่านเองก้อชักเอียงเหมือนกัน  แต่สรุปตามที่ผมเข้าใจก้อคือแกนโลกเอียงทำให้ประเทศที่มีอากาศร้อนแบบบ้านเรา จะเข้าใกล้บริเวนที่มีอากาศเย็น เลยทำให้บ้านเราอากาศร้อนน้อยลง สังเกตได้จากทุกวันนี้ไม่ค่อยร้อนเท่าไร ปกติกุมภาน่าจะร้อนแล้ว แต่นี่ใกล้เมษา ยังไม่ค่อยร้อนมาก   แต่ประเทศที่มีอากาศเย็นจะเข้าใกล้เขตอากาศร้อนมากขึ้นเลยทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลาย มนจะค่อย ๆ สลับกัน ..ตามที่เข้าใจนะครับ :drive1

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
ผมคิดเล่น ๆ ได้ 2 แบบ ถ้าอย่างนั้น  :g

- ขั้วโลกที่เริ่มร้อนขึ้นก็จะเย็นลง ทำให้น้ำแข็งละลายช้าลง

- หรือไม่ขั้วโลกก็ร้อนขึ้นอีก ทำให้น้ำแข็งละลายเร็วขึ้น

น่าคิดเหมือนกันนะครับ ... วันนี้อากาศยังสบาย ๆอยู่เลยครับ  Y]
หัวข้อ: Re: หิมะตกเวียดนามครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ... คาดอาจเกี่ยวสึนามิ
เริ่มหัวข้อโดย: PINIJ ที่ 21 มีนาคม, 2011, 12:18:08 pm
ผมอ่านเองก้อชักเอียงเหมือนกัน  แต่สรุปตามที่ผมเข้าใจก้อคือแกนโลกเอียงทำให้ประเทศที่มีอากาศร้อนแบบบ้านเรา จะเข้าใกล้บริเวนที่มีอากาศเย็น เลยทำให้บ้านเราอากาศร้อนน้อยลง สังเกตได้จากทุกวันนี้ไม่ค่อยร้อนเท่าไร ปกติกุมภาน่าจะร้อนแล้ว แต่นี่ใกล้เมษา ยังไม่ค่อยร้อนมาก   แต่ประเทศที่มีอากาศเย็นจะเข้าใกล้เขตอากาศร้อนมากขึ้นเลยทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลาย มนจะค่อย ๆ สลับกัน ..ตามที่เข้าใจนะครับ :drive1
ขอบคุณที่สรรหามาให้อ่านครับ จากข้อความที่ว่าบ้านเราจะร้อนน้อยลง

แต่ปีที่แล้วมันร้อนที่สุดเลยนะครับ ปี 2008 ปีแรกที่ผมขึ้นมาอยู่เมืองเหนือ ปีนั้นหนาวที่สุด แล้วก็ค่อยๆ ร้อนขึ้นมาจนถึงปีที่แล้ว ผมถึงขนาดอยู่ที่บ้านลำพูนไม่ได้ในช่วงเมษายน ต้องขึ้นไปอยู่บ้านที่ ภูซาง 1 เดือน สิ้นเดือนโทรกลับมาถามคนที่ลำพูนบอกว่ายังร้อนอยู่เหมือนเดิม ผมต้องขึ้นไปนอนบ้านที่เชียงรายต่ออีกหนึ่งเดือน ถึงกลับมานอนบ้านที่ลำพูนได้

พอมาปีนี้รู้สึกว่าช่วงปีใหม่หนาวกว่าปีก่อนๆ แต่ก็ยังน้อยกว่าปี 2008 ครับ แล้วอาทิตย์ที่แล้วมันหนาวกว่าช่วงปีใหม่น่ะครับ
หัวข้อ: Re: หิมะตกเวียดนามครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ... คาดอาจเกี่ยวสึนามิ
เริ่มหัวข้อโดย: Red Hot ที่ 27 มีนาคม, 2011, 08:50:21 pm
ผมว่าเดี๋ยวนี้อะไรๆก็ดูเพี้ยนๆไปหมด อากาศร้อนผิดปกติบ้าง หนาวผิดปกติบ้าง ถ้าต่อไปมีหิมะตก ก็ดูน่าจะเป็นไปได้นะครับเนี่ย