HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม Thai DIY Audio => ข้อความที่เริ่มโดย: ออดิโอแมน ที่ 01 พฤษภาคม, 2011, 05:03:32 pm
-
น้าโอมคงออมแรงไว้ทำงานวันจันทร์ ลุยใหม่เลย ตามที่น้า wchatchai ให้ลิงค์มา
http://bildarkiv.hififorum.nu/Ryssen/Pic/R%C3%B6r/diyAudio-CCS-beta2.pdf
หลอดเลือกเบอร์ 12SL7 hi mu , twin triode หลอดเดียวก็ดังได้
ส่วน CCS เลือก TR PNP MJE250 ตามที่น้าโอมให้มา
ไบอัสหลอดกันก่อนครับ
12SL7 twin triode with CCS
เลือก V cut-off 250V, RL 120K, I sat. 2.08mA
กึ่งกลางวงสวิง = 235+60/2 = 147.5V เลือก 150V
Vp 150V, Ia 0.83mA, Vg1 -1.7V
pd. = 150V*0.83mA = 0.12W
Rk = 1.7V/0.83mA = 2K/0.001W = 2K/ 1/2W
Rp = 160-138V/1-0.69mA = 22/0.31 = 71V/mA = 71K
RL/Rp = 120K/71K = 1.7 เท่า
Gm = 1.06-0.48mA/2-1.5V = 0.58/0.5 = 1.16mA/V
u = Gm*Rp = 1.16*71 = 82.4
ไม่ใช้ Ck
Rp eff. = Rp+Rk(u+1) = 71K+2K(82.4+1) = 237.8K
gain stage = u*RL/Rp eff. + RL = 82.4*120K/237.8K+120K = 9888K/357.8K = 27.6
Vp gnd. = 1.7+150 = 151.7V = 152V
-
มาไบอัส CCS, MJE 350 PNP transistor
กำหนดให้กระแสไหลผ่าน LED1, LED2 = 5mAmA
กำหนดให้แรงดันคร่อม LED แต่ละตัว 1.6V
แรงดัน Veb ของ TR แต่ละตัว 0.6V
กำหนด B+ 280V
R4 = 280V/5mA = 56K/1.4W = 56K/3W
หาค่า emitter resistors ทั้งสองตัว คือ R3 และ VR2
แรงดันคร่อม LED1 = 1.6V
Veb ของ Q1 = 0.6V
แรงดันคร่อม R3,VR2 = 1.6-0.6 = 1V
emitter resistors = 1V/0.83mA = 1.2K
เลือก R3 = 1K, VR2 = 200R (ถ้ามี)
อ้าว เสร็จแล้ว
-
เอ้าพุทอิมพีแดนซ์ของวงจร CCS
Rout = (hoe(Q2))-1 + (R2R3)hfe(Q1)hfe(Q2)
-
R4 ให้ดีเพิ่มเป็น 5W รึ 10W ไว้เลยครับ 3W เอาไม่อยู่ครับ
-
ถ้าจะย้าน VR2 มาไว้ที่ R4 เพื่อไม่ขวามทางเดินสัญญาณ ต้องมี TR อีกตัวไหมครับ
-
เอ้าพุทอิมพีแดนซ์ของวงจร CCS
Rout = (hoe(Q2))-1 + (R2R3)hfe(Q1)hfe(Q2)
ผมสงสัยสูตรครับ
hoe(Q2) คือค่าอะไรหาได้จากไหนครับ
(R2R3) คือคูณกันหรือบวกกันครับ
การกำหนดแรงดันในซีก CCS กี่โวลต์ หรือกี่เท่าของแรงดันที่เพลตของหลอดครับ
ระหว่างรอยต่อของทั้งสองภาค ไม่ต้องมี R มาคั่นใช่ไหมครับ
-
RL 120K ของหลอดจากกราฟ ไม่ได้นำมาใช้งานเลยใช่ไหมครับ
ก็มีแต่ Rp ความต้านทานที่เพลตของหลอด ณ จุดไบอัส กับ อิมพีแดนซ์ของ CCS กับความต้านทานภาคถัดไปที่มีส่วนกับเอ้าพุท
ซึ่งผมเดาว่า R out ของวงจรที่จุดที่ต้อออกไปยัง C คือ อิมพีแดนซ์ของ CCS ขนานกับ Rp ความต้านทานที่เพลตของหลอด ณ จุดไบอัส ซึ่งประมาณเท่ากับ Rp
-
ถ้าจะย้าน VR2 มาไว้ที่ R4 เพื่อไม่ขวามทางเดินสัญญาณ ต้องมี TR อีกตัวไหมครับ
เท่าที่ลองออกแบบดูนะครับ
1. ถ้าใช้แค่ VR ปรับกระแสได้ไม่มากพอครับ
2. ถ้าใช้ CCS ซ้อนเข้าไปแบบที่ผมเคยทำในกระทู้โน้น จะปรับกระแสได้ดีกว่าครับ แต่ด้วยความที่ต้องอาศัยกระแส ผ่าน LED ในช่วง 2-30 ma เพื่อให้ปรับกระแสของวงจรหลอดได้ กลายเป็นว่าจะเกิดความร้อนหลายวัตต์เกิดขึ้นที่ TR ที่ปรับกระแสป้อน LED มันสิ้นเปลืองเกินจำเป็นครับ และต้องใช้ heat ink แผ่นใหญ่ทีเดียวในการจัดการกับความร้อน
ผมว่ามันเหมือนขี่ช้างจับตั๊กแตนยังไงยังงั้นเลย
-
ถ้าตัด LED ออก เอา R ใสแทนก็ใช้ได้ใช่ไหมครับ
-
เอ้าพุทอิมพีแดนซ์ของวงจร CCS
Rout = (hoe(Q2))-1 + (R2R3)hfe(Q1)hfe(Q2)
ผมสงสัยสูตรครับ
hoe(Q2) คือค่าอะไรหาได้จากไหนครับ
(R2R3) คือคูณกันหรือบวกกันครับ
การกำหนดแรงดันในซีก CCS กี่โวลต์ หรือกี่เท่าของแรงดันที่เพลตของหลอดครับ
ระหว่างรอยต่อของทั้งสองภาค ไม่ต้องมี R มาคั่นใช่ไหมครับ
--------------------------
เทอม 1/hoe(Q2) โดยทั่วไปได้เกินหลักเมกะโอห์มครับ ในการใช้งานจริง hoe เลยเป็นค่าที่ถูกตัดทิ้งไป เพราะมันมากกว่า R โหลดมากๆอยู่แล้ว R โหลดอย่างมากอยู่แค่หลัก กิโลโอห์มเอง
มีแค่ datasheet บางเบอร์ที่ให้ค่านี้มาครับ เพราะถึงไม่ให้มา ก็ไม่เป็นไร
--------------------------
(R2R3) ดูแล้วน่าจะบวกกันมากกว่าครับ
--------------------------
แล้วแต่ที่เราอยากได้เลยครับ อาจจะซัก 20 V อย่างที่คุณ Withaya เสนอมา ไปจนถึงเหลือแรงดันแค่พอให้หลอดทำงานก็ยังได้
--------------------------
ไม่ต้องมีครับ จริงๆวงจรนี้เฉพาะ Q1 ครับที่กำหนดกระแส เขาเพิ่ม Q2 มาเพราะอยากได้ อิมพีแดนซ์ของวงจรที่สูงมากๆ
-
ถ้าตัด LED ออก เอา R ใสแทนก็ใช้ได้ใช่ไหมครับ
ได้ครับ
-
ลูกผสมเสียงดีครับ แต่ทำไมคนไม่ค่อยนิยมกันเนอะ :secret
-
เห็นด้วยครับ
ข้าน้อยมีความเห็นเล็กน้อย ในฐานะที่ตอนนี้เป็นแฟนานุแฟน ที่ชอบใช้ไบโพล่าร์ทรานซิสเตอร์ทำโหลดกระแสคงที่ (หรือเคอเร้นท์เร็คกุเลเตอร์)มั่กๆ
...เราควรเลือกเบอร์ทรานซิสเตอร์ ที่มันเจ๋งๆ/ให้สอดคล้องกับหลอดเบอร์แจ๋วๆด้วย
"""""โวลท์/แรงดัีนVCEO
"""""" กระแส ICEO
""""""ft
""""""Capacitance ที่ขา CB (นัยว่า ยิ่งน้อยยิ่งดี)
แล้วก็อัตราการทนกำลังสูงสุด ที่เผื่อไว้มากพอ
ค่า hfe"""""""""""""" อัตราขยายกระแส ไม่ค่อยจะมีนัยะสำคัญเท่าใดนัก เพราะถุกกำหนดให้ทำงานคงที่ด้วยการจัดไบอัส
ตัวต้านทานที่ใช้ผ่านกระแส ........... เป็นอีกตัวที่ควรเน้นใช้ของดี............เท่าที่ลองดู มีผลต่อเสียงค่อนข้างชัดเจนด้วยแหละ
ส่วนเทคนิคภาคจ่ายไฟ เทคนิคการกราวนด์ ก็ฟรีสไตล์ได้เลย