HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม Thai DIY Audio => ข้อความที่เริ่มโดย: Jakaman ที่ 10 สิงหาคม, 2011, 10:15:56 pm
-
เพิ่งสั่ง DAC Super pro 707 มาจาก eBay ครับตอนที่ได้มาใหม่ๆรู้สึกเสียงขาดซึ่ง Dynamic เบสหนาบวม ที่รู้สึกได้มีอย่างเดียวคือความเป็นชิ้นดนตรี ตำแหน่งค่อนข้างชีชัดดีมาก มีความเป็นเวทีสูง แต่เสียงร้องมัวทึบขาดอารมณ์ไม่เป็นอย่างที่คาดไว้อย่างยิ่ง เนื่องจากเดิมทีผมใช้ DAC ของ ADCOM GDA-600 ซึ่งเป็นชิพ PCM63 รุ่นเก่า เลยคิดว่าตัวนี้ที่เป็น CS4398 น่าจะดีกว่าโขอยู่ สุดท้ายหงุดหงิดทนไม่ไหวเลยต้องเปิดเครื่องมา Modify มันซักหน่อย ไม่งั้นเงินที่จ่ายไปสี่พันกว่าบาทคงเซ็งแย่
พอเปิดมา โห..อุปกรณ์ที่ได้มามันเกรดต่ำมากจริงๆ น่าจะ Mo ได้หลายจุด เช่น C 1000uF ในส่วน Regulator , C Output และในส่วน Input เข้า Op amp ว่าแล้วผมก็เริ่มบรรเลงเปลี่ยน C ภาค Output สองตัวก่อนเลยเพราะมี C อยู่แล้ว 1 คู่เก็บดองไว้นานแล้วพอดีครับ ส่วนที่เหลือเดี๋ยวรอสั่งมาก่อนแล้วจะค่อยๆบรรยายไปทีละส่วนครับ
เปลี่ยน C ภาค Output ด้วย C Nichicon รุ่น MUSE ค่า 10 uF 25V
ผลสรุปจากหูสังกะสีในครั้งแรก
ผลที่ได้คือเวทีเปิดกว้างออกมาทันที ลำโพงแทบหายไปเลย เบสกระชับเป็นตัวเป็นตนมากขึ้น เหมือนได้ยินเสียงหนังกลองกระเพื่อมเลยก็ว่าได้ แต่ยังรู้สึกปลายเสียงยังขาดรายละเอียดอยู่ดี
ที่เหลือรอชมต่อไปครับเมื่อของมา...
-
State 2
ล่าสุดด้วยความใจร้อนแล้วลองเอาน้องหงษ์แดงปีกทอง C Black Gate ค่า 1uF มาเปลี่ยน (กัดฟันเอาออกมาเพราะค่าตัวมัน 15 เหรียญ หรือราวๆ 450 บาทต่อตัว)
ผลคือเวทีเปิดโล่ง เสียงร้องพริ่วและหวานขึ้นมาก รายละเอียดมาระยิบระยับเลยทีเดียว ผิดกับตอนเปิดกล่องมากมาย แต่เบสบางลงไปถนัดตา มวลที่หนาแน่นของมันหายไปในบันดล ตรงนี้เป็นเพราะใช้ค่าที่ต่ำเกินไป ความถี่ต่ำจึงออกมาได้ไม่หมด
-
Stage 3
ฟังไปฟังมาหงุดหงิดอีกแล้ว เลยต้องแก้เบสโดยการเอาน้องนางฟ้าหัวเขียว MUSE กลับมาเติมแต่งความหนาให้กับน้ำเสียง เลยต่อขนานไปแบบบ้านๆ ผลคือ......
นั่งอึ่งไปพักแล้วก็........................................พูดคำว่า.................................................................สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ด ด ด ด
อะไรมันจะขนาดนี้ ADCOM GDA 600 คงถึงเวลาที่มันอาจจะต้องพักงานซะแล้ว เสียงที่ได้คือความอิ่มของดนตรี ปลายเสียงสะอาดสดใสแต่ไม่ฟุ่งการจาย มันรวบรัดเป็นตัวโน๊ตที่พริ่วไหว มวลเสียงอันมหาศาลออกมาพรั่งพรู ไม่น่าเชื่อว่าในแผ่น Bluray Devid foster and friends ช่วงเริ่ม ACT2 เสียงเปียโนที่รัวๆนั้น กลับได้ยิ่นเสียงเคาะของสายเปียโนทุกเม็ด ทั้งที่เล่นเร็วมากจนรุ่นพี่อย่าง ADCOM ตามไม่ทันแต่ไม่น่าเชื่อว่า Super Pro จะให้ออกมาได้ขนาดนี้ มีเครื่องดนตรีบางชิ้นในกว่า 50 ชิ้นที่เล่นอยู่นั้นแฝงกายเข้ามาอย่างที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน มันเป็นเสียงจากเครื่องดนตรีแค่ 1 ชิ้นจาก 50 กว่าชิ้นยังได้ยินชัดเจน ฟังไปหลายแผ่นบอกตรงๆว่าเข้าได้กับเพลงเกือบทุกแนวเลยทีเดียว
จากนั้นลองมาฟังเสียงจากภาพยนตร์บ้าง
เริ่มที่ Avatar เลย บอกตรงๆว่าหนังเรื่องนี้ทำได้ดีทั้งภาพและเสียง ตลอดที่ชมขอบอกว่ามันตอบสนองความไวในเรื่องเสียงระเบิดอย่างมาก มีมวลปะทะรุนแรง ไม่คลุมเครือ ทุกครั้งที่มีการระเบิดรับรู้ได้ถึงความแรงที่เกิดขึ้น ช่วงที่ยิงปืนนี่ แทบจะเป็นสามมิติลอยออกมาจากลำโพงวิ่งไปข้างหลังจากแค่ลำโพงสองตัวเลยทีเดียว เรื่องที่สองที่นั่งทดสอบคือ Rango แค่ช่วงนกฮูกร้องเพลง โอ้ยแทบบ้า มันสงัดและมีพลังอย่างมาก เรียกว่าดูหนังแล้วเกินบรรยายมาก
นี่แค่เปลี่ยน C ยังมีผลขนาดนี้ ถ้าเปลี่ยน Cystal หล่ะจะเป็นอย่างไร เปลี่ยน C ในส่วน Input เข้า OpAmp จะเป็นไง รอชมต่อครับ เมื่อของมา...
-
ลืมลงรูปครับ
-
ขอติดตามดูด้วยคนนะครับ :)
-
ค่าตัวเป็นไงครับ :secret
-
ค่าตัวเป็นไงครับ :secret
Super pro 707 รวมค่าส่งและภาษีราวๆ 4100 บาท
Black gate 1 uF 50V คู่ละ 900 บาท
Nichicon MUSE 10 uF 50V คู่ละ 30 บาท
เท่ากับตอนนี้โดนไป 5030 บาท แล้วครับ
แต่เสียงคุ้มครับ
-
ราคาน่าเล่นครับ O0แต่ตอนนี้ไม่มีตังค์อ่ะ :giveup
-
ยินดีด้วยครับ ทีโมแล้วได้เสียงที่ดีขึ้นและถูกใจเรา :victory การจ่ายตังอีกเพียงเล็กน้อย ก็อาจได้เสียงที่เทียบกับของที่แพงกว่าหลายเท่าตัวได้ อย่างน้อยเราแค่เปลี่ยนซีคับปลิ่งเสียงก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ มันต้องมีตัวที่ถูกใจเราซักตัวนึงจนได้แหละ :whistling
ยังไม่จบแค่นี้หรอกครับ เสียงที่ได้แค่พอใจแต่ยังไม่มากมายเท่าที่ต้องการครับผม
-
ค่าตัวเป็นไงครับ :secret
Super pro 707 รวมค่าส่งและภาษีราวๆ 4100 บาท
Black gate 1 uF 50V คู่ละ 900 บาท
Nichicon MUSE 10 uF 50V คู่ละ 30 บาท
เท่ากับตอนนี้โดนไป 5030 บาท แล้วครับ
แต่เสียงคุ้มครับ
5 พัน ทำ DAC Wasin เกือบครบเลยนะนั่น
-
ค่าตัวเป็นไงครับ :secret
Super pro 707 รวมค่าส่งและภาษีราวๆ 4100 บาท
Black gate 1 uF 50V คู่ละ 900 บาท
Nichicon MUSE 10 uF 50V คู่ละ 30 บาท
เท่ากับตอนนี้โดนไป 5030 บาท แล้วครับ
แต่เสียงคุ้มครับ
5 พัน ทำ DAC Wasin เกือบครบเลยนะนั่น
อยากลอง 24 bit บ้างครับ เพราะเอา NOS DAC เล่นกะ bluray แล้วไม่ประทับใจครับ ;D
-
ค่าตัวเป็นไงครับ :secret
Super pro 707 รวมค่าส่งและภาษีราวๆ 4100 บาท
Black gate 1 uF 50V คู่ละ 900 บาท
Nichicon MUSE 10 uF 50V คู่ละ 30 บาท
เท่ากับตอนนี้โดนไป 5030 บาท แล้วครับ
แต่เสียงคุ้มครับ
5 พัน ทำ DAC Wasin เกือบครบเลยนะนั่น
อยากลอง 24 bit บ้างครับ เพราะเอา NOS DAC เล่นกะ bluray แล้วไม่ประทับใจครับ ;D
bluray ใช้ของเจ้าไหนครับ
-
ค่าตัวเป็นไงครับ :secret
Super pro 707 รวมค่าส่งและภาษีราวๆ 4100 บาท
Black gate 1 uF 50V คู่ละ 900 บาท
Nichicon MUSE 10 uF 50V คู่ละ 30 บาท
เท่ากับตอนนี้โดนไป 5030 บาท แล้วครับ
แต่เสียงคุ้มครับ
5 พัน ทำ DAC Wasin เกือบครบเลยนะนั่น
อยากลอง 24 bit บ้างครับ เพราะเอา NOS DAC เล่นกะ bluray แล้วไม่ประทับใจครับ ;D
bluray ใช้ของเจ้าไหนครับ
Philips BDP3100 ครับ
-
ล่าสุดลองเปลี่ยน C ภาค Input ไปสี่ตัวด้วยความใจร้อนรอของไม่ไหว เลยเอา BENNIC 22uF Biporar มาลองเปลี่ยนกับ 4.7 uF 63V ที่มากับบอร์ด ผลคือเสียงกลางที่ได้หวานฉ่ำขึ้นมาก แต่เบสบางลงไปถนัดหูครับ ความรู้สึกในการกระแทกกระทั้นหายไป สุดท้ายเลยหา ELNA 4.7uF Standard มาเปลี่ยน .................. แต่ยังไม่ทันจะเปลี่ยน ลูกร้องจะหาพ่อซะก่อน เลยต้องพักไว้เป็นเย็นนี้ครับ แล้วจะมาเล่าให้ฟังต่อนะครับ
-
ค่าตัวเป็นไงครับ :secret
Super pro 707 รวมค่าส่งและภาษีราวๆ 4100 บาท
Black gate 1 uF 50V คู่ละ 900 บาท
Nichicon MUSE 10 uF 50V คู่ละ 30 บาท
เท่ากับตอนนี้โดนไป 5030 บาท แล้วครับ
แต่เสียงคุ้มครับ
5 พัน ทำ DAC Wasin เกือบครบเลยนะนั่น
อยากลอง 24 bit บ้างครับ เพราะเอา NOS DAC เล่นกะ bluray แล้วไม่ประทับใจครับ ;D
bluray ใช้ของเจ้าไหนครับ
Philips BDP3100 ครับ
เป็นสวิทชิ่งไหมครับตัวนี้
-
ล่าสุดลองเปลี่ยน C ภาค Input ไปสี่ตัวด้วยความใจร้อนรอของไม่ไหว เลยเอา BENNIC 22uF Biporar มาลองเปลี่ยนกับ 4.7 uF 63V ที่มากับบอร์ด ผลคือเสียงกลางที่ได้หวานฉ่ำขึ้นมาก แต่เบสบางลงไปถนัดหูครับ ความรู้สึกในการกระแทกกระทั้นหายไป สุดท้ายเลยหา ELNA 4.7uF Standard มาเปลี่ยน .................. แต่ยังไม่ทันจะเปลี่ยน ลูกร้องจะหาพ่อซะก่อน เลยต้องพักไว้เป็นเย็นนี้ครับ แล้วจะมาเล่าให้ฟังต่อนะครับ
:clap :clap :clap
-
เป็นสวิทชิ่งไหมครับตัวนี้
ถ้า Bluray ไม่แน่ใจครับ แต่ถ้า Super Pro 707 เป็น Switching แน่นอนครับ ตอนนี้กำลังทำภาคจ่ายไฟแยกต่างหากแล้วค่อยมาเล่าให้ฟังครับ
-
ต่อกันที่ Stage ถัดไปเลยครับ
ตอนนี้เอา C 4.7 uF 50V ยี่ห้อ ELNA ตัว Standard ราคาถูกๆมาลองเปลี่ยนดู ผลคือเป็นอย่างที่คาดไว้คือ เบสกลับมาเป็นลูกๆ แรงกระแทกดุดันกลับมา แต่ก็อย่างที่คาดไว้อีกเช่นเดียวกันคือ ไดนามิกหายไปความชุ่มฉ่ำของเสียงลดลงไปเยอะ นี่แสดงว่า C ตัวเดิมกระป๋องเหลี่ยมๆที่มาเดิมๆนั้นดีกว่า C ในระดับ Standard อย่างมากครับ (ไม่น่าเลยตู) ตอนที่เอาออกมันเปราะบางมาก บีบนิดเดียวแตกหมด เลยไม่สามารถเอามันกลับไปอยู่ในที่ๆมันควรอยู่ได้อีก K] ตอนนี้ก็เลยต้องรอของจากเพื่อนที่จะไปซื้อมาให้เท่านั้น ซึ่งคงอีกนานเป็นแน่แท้ :cry2
แต่ความอยากรู้อยากเห็นก็ยังไม่หมด อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าเอา C ออกแล้วเอา R ค่า 1 โอห์มมาใส่แทนจะเป็นอย่างไร เพราะมันเป็น C ที่ใช้สำหรับ Input Cluping นี่เนอะน่าจะต่อตรงๆได้ ว่าแล้วก็เริ่มจับหัวแร้งอีกครั้งแล้วจัดแจงเปลี่ยนมันอีกที
ผลคือ....เบสยังกระแทกกระทั้นเหมือนเดิม แต่ไดนามิกต่างกับ C Standard อยู่ไม่มาก รายละเอียดดีขึ้นเล็กน้อย แต่ที่แถมมาคือเมื่อเครื่องเริ่มร้อน จะมีเสียงอันไม่พึงประสงค์ออกมาด้วย อันนี้ก็เลยต้องหยุดฟังเพราะ DAC เริ่มมีความร้อนอย่างไม่ทราบสาเหตุ แล้วเปลี่ยนเอา C Standard มาต่อกลับไปเหมือนเดิม(เหงื่อแตกเลย นึกว่าไปซะแล้วลูกพ่อ) จากนั้นก็ใช้เวลาลองเบรินอินมันอีกหน่อย (ประมาณว่าให้โอกาสอีกนิด) จากนั้นเปิดทิ้งเอาไว้ทั้งคืน แล้วตัวเองก็ไปนอน แล้วจะมาเล่าใหม่หลังจากที่เบรินไปสัก 20 ชั่วโมงแล้วนะครับ
ลืมบอกไปว่าชุดที่ใช้ทดสอบคือ
Bluray Phillps BDP3100
Amp Gain clone LM3875
ProAc Response 1 SC Clone
แผ่น Bluray ที่ใช้ทดสอบ Devid foster and friends(Track 13,14,16,25-34), Devid foster and friends return, Avatar(ช่วงที่พระเอกแตะต้นไม้กลมๆสีส้มแล้วมันหุบๆ กับช่วงที่ทหารปล่อยมิสซายทำลายต้นไม้), Rango (ช่วง Rango เพิ่งเดินทางเข้าหมูบ้านแล้วมีคนแบกขวดเดินผ่าน)
แผ่น CD เพลง Jazz พระราชนิพนธ์ บันทึกโดย Chestky records , แผ่น Misty ของ Tree bine mite
-
น้า ได้ลองวัดค่า ความจุ และเช็คลีค(การรั่ว) ของคาปาซิเตอร์แต่ละคู่ที่ลองใช้ไว้ด้วยไหม
-
หาOPPO83 มาเล่นดูครับ ราคามือ2ไม่เกินหมื่นแต่เสียง.....ผมขายไปยังเสียดายเลย
-
น้า ได้ลองวัดค่า ความจุ และเช็คลีค(การรั่ว) ของคาปาซิเตอร์แต่ละคู่ที่ลองใช้ไว้ด้วยไหม
วัดยังไงครับอาจารย์คุ้ม รบกวนช่วยแน่ะนำด้วยครับผม
-
มายัง Stage ถัดไปเลยนะครับ
ผมลองเปลี่ยน Adaptor สำหรับจ่ายไฟดู ซึ่งของเดิมมันเป็น Switching และเมื่อลองเปลี่ยนเป็นแบบหม้อแปลงดูผลคือเสียงที่ได้นั้นสะอาดขึ้นอย่างมาก ดนตรีมีพลังขับดันสูงขึ้นอย่างเห็นๆ รายละเอียดเล็กๆเริ่มทอประกายระยิบระยับ จากนั้นซนอีกนิดเอา C Input ตัว Standard ออกไปแล้วต่อด้วย R ค่า 1 โอห์มแทนเพื่อทดสอบอีกครั้ง ผลคือออสซิเลตที่เกิดขึ้นเมื่อมีเบสปะทะหายไป กลายเป็นพลังของเบสที่มีมวลแทน ความหวานของเสียงร้องโดดเด่นชูตัวออกมากอย่างเด่นชัด แต่ก็ออกแนวเฉี่อยๆ เหมาะกับการฟังพวกเพลงแจ๊สที่มีเครื่องดนตรีไม่มากจะให้ความรู้สึกได้ดีเวลาที่คนเล่นลูกเล่นเบส ความสนุกเริ่มเกิดขึ้นเมื่อรู้ว่าการเปลี่ยนภาคจ่ายไฟมันให้ผลมากขนาดนี้ ก็เลยว่าเดี๋ยวจะหาหม้อแปลงกับวงจรจ่ายไฟดีๆสักตัวมาเสริมกำลังแล้วค่อยมาว่ากันใหม่อีกครั้งครับ
ล่าสุดได้แผ่น DVD ของ Lisa Ono มาร่วมทำการทดสอบด้วย บอกตรงๆว่าแผ่นนี้ให้ความเป็นดนตรีสูงมาก ผมเองเล่นดนตรีในทีมนมัสการที่โบสทุกอาทิตย์ บอกตรงๆว่าแผ่นนี้ฟังแล้วรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังนั่งอยู่หน้าทีมนมัสการเลยทีเดียว ใครมีโอกาสลองหามาฟังครับ
*กระทู้นี้เป็นการโมดิฟายแบบ Step by step เพื่อให้ผู้ที่อ่านได้ทราบถึงการลองโน่นลองนี้ จะไม่เหมือนกับว่าลองอะไรมาจนหมดแล้วมาสรุป เพื่อให้นัก DIY หน้าใหม่ได้มีประสบการณ์ร่วมไปกับการโมดิฟายครับ ประสบการณ์จึงดูเหมือนมันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับน้าๆทั้งหลายไป ต้องขออภัยสำหรับผู้ที่ต้องการได้ความรู้ใหม่ๆด้วยครับ
-
น้า ได้ลองวัดค่า ความจุ และเช็คลีค(การรั่ว) ของคาปาซิเตอร์แต่ละคู่ที่ลองใช้ไว้ด้วยไหม
วัดยังไงครับอาจารย์คุ้ม รบกวนช่วยแน่ะนำด้วยครับผม
มัลติมิเตอร์บางรุ่น
LCR meter ทำได้
เครื่องวัดซี ชุดสำเร็จเคยเห็น เว็ปฯเพื่อนบ้าน มีขายอยู่
ในนี้ก็มีจร้า
Oldies style = http://shop.ebay.com/i.html?_from=R40&_trksid=m570.l2736&_nkw=capacitor+checker
อันนี้ทันสมัย = http://shop.ebay.com/i.html?_nkw=capacitor+tester&_frs=1&_trksid=p3286.c0.m359
อันนี้แบบง่ายๆ = http://cgi.ebay.com/High-Precision-L-C-Digital-Meter-Inductance-Capacitance-/250873071694?pt=LH_DefaultDomain_0&hash=item3a6933484e#ht_5593wt_1163
-
น้า ได้ลองวัดค่า ความจุ และเช็คลีค(การรั่ว) ของคาปาซิเตอร์แต่ละคู่ที่ลองใช้ไว้ด้วยไหม
วัดยังไงครับอาจารย์คุ้ม รบกวนช่วยแน่ะนำด้วยครับผม
มัลติมิเตอร์บางรุ่น
LCR meter ทำได้
เครื่องวัดซี ชุดสำเร็จเคยเห็น เว็ปฯเพื่อนบ้าน มีขายอยู่
ในนี้ก็มีจร้า
Oldies style = http://shop.ebay.com/i.html?_from=R40&_trksid=m570.l2736&_nkw=capacitor+checker
อันนี้ทันสมัย = http://shop.ebay.com/i.html?_nkw=capacitor+tester&_frs=1&_trksid=p3286.c0.m359
อันนี้แบบง่ายๆ = http://cgi.ebay.com/High-Precision-L-C-Digital-Meter-Inductance-Capacitance-/250873071694?pt=LH_DefaultDomain_0&hash=item3a6933484e#ht_5593wt_1163
ขอบคุณมากครับ
-
มายัง Stage ถัดไปเลยนะครับ
ผมลองเปลี่ยน Adaptor สำหรับจ่ายไฟดู ซึ่งของเดิมมันเป็น Switching และเมื่อลองเปลี่ยนเป็นแบบหม้อแปลงดูผลคือเสียงที่ได้นั้นสะอาดขึ้นอย่างมาก ดนตรีมีพลังขับดันสูงขึ้นอย่างเห็นๆ รายละเอียดเล็กๆเริ่มทอประกายระยิบระยับ จากนั้นซนอีกนิดเอา C Input ตัว Standard ออกไปแล้วต่อด้วย R ค่า 1 โอห์มแทนเพื่อทดสอบอีกครั้ง ผลคือออสซิเลตที่เกิดขึ้นเมื่อมีเบสปะทะหายไป กลายเป็นพลังของเบสที่มีมวลแทน ความหวานของเสียงร้องโดดเด่นชูตัวออกมากอย่างเด่นชัด แต่ก็ออกแนวเฉี่อยๆ เหมาะกับการฟังพวกเพลงแจ๊สที่มีเครื่องดนตรีไม่มากจะให้ความรู้สึกได้ดีเวลาที่คนเล่นลูกเล่นเบส ความสนุกเริ่มเกิดขึ้นเมื่อรู้ว่าการเปลี่ยนภาคจ่ายไฟมันให้ผลมากขนาดนี้ ก็เลยว่าเดี๋ยวจะหาหม้อแปลงกับวงจรจ่ายไฟดีๆสักตัวมาเสริมกำลังแล้วค่อยมาว่ากันใหม่อีกครั้งครับ
ล่าสุดได้แผ่น DVD ของ Lisa Ono มาร่วมทำการทดสอบด้วย บอกตรงๆว่าแผ่นนี้ให้ความเป็นดนตรีสูงมาก ผมเองเล่นดนตรีในทีมนมัสการที่โบสทุกอาทิตย์ บอกตรงๆว่าแผ่นนี้ฟังแล้วรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังนั่งอยู่หน้าทีมนมัสการเลยทีเดียว ใครมีโอกาสลองหามาฟังครับ
*กระทู้นี้เป็นการโมดิฟายแบบ Step by step เพื่อให้ผู้ที่อ่านได้ทราบถึงการลองโน่นลองนี้ จะไม่เหมือนกับว่าลองอะไรมาจนหมดแล้วมาสรุป เพื่อให้นัก DIY หน้าใหม่ได้มีประสบการณ์ร่วมไปกับการโมดิฟายครับ ประสบการณ์จึงดูเหมือนมันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับน้าๆทั้งหลายไป ต้องขออภัยสำหรับผู้ที่ต้องการได้ความรู้ใหม่ๆด้วยครับ
ลองใช้แบตเตอรี่ 12V DC เป็นแหล่งจ่ายไฟดูครับ เสียงดียิ่งขึ้นไปอีก
-
ไม่ทราบว่าหม้อแปลงใช้แบบไหนครับ EI หรือ Terriod ผมใช้ MUSE Dac tda1543x4 อยู่ก็เลิกใช้ตัวสวิสท์ชิ่งที่แถมมา เอาหม้อแปลง EI ของ
Royal มาใช้แทนครับ ก็ได้ความสงัดขึ้น ไดนามิคดีขึ้น ล่าสุดเปลี่ยน C filter เป็น Elna สกรีน Denon ลงไปแทน เอา Rubycon yxz 2.2uf คล่อมไฟออก
ก็ทำให้หมอกในเสียงลดน้อยลง แต่เนื้องจากไม่ค่อยเวลามาทำ Diy ได้มากนัก เลยไม่ได้ซนแบบคุณแต่มีโครงการจะรื้อใหม่ เอาเปลือก powersupply คอมฯ
เก่าๆ ที่ไม่ใช้งานมาพ่นสีใหม่แล้วอยากจะลองหม้อแปลง C-core ดูเหมือนกันว่าให้ผลอย่างไร ส่วนเจ้า Muse ยังไม่ได้ถูกเปิดดูครับ
-
ไม่ทราบว่าหม้อแปลงใช้แบบไหนครับ EI หรือ Terriod ผมใช้ MUSE Dac tda1543x4 อยู่ก็เลิกใช้ตัวสวิสท์ชิ่งที่แถมมา เอาหม้อแปลง EI ของ
Royal มาใช้แทนครับ ก็ได้ความสงัดขึ้น ไดนามิคดีขึ้น ล่าสุดเปลี่ยน C filter เป็น Elna สกรีน Denon ลงไปแทน เอา Rubycon yxz 2.2uf คล่อมไฟออก
ก็ทำให้หมอกในเสียงลดน้อยลง แต่เนื้องจากไม่ค่อยเวลามาทำ Diy ได้มากนัก เลยไม่ได้ซนแบบคุณแต่มีโครงการจะรื้อใหม่ เอาเปลือก powersupply คอมฯ
เก่าๆ ที่ไม่ใช้งานมาพ่นสีใหม่แล้วอยากจะลองหม้อแปลง C-core ดูเหมือนกันว่าให้ผลอย่างไร ส่วนเจ้า Muse ยังไม่ได้ถูกเปิดดูครับ
ผมเอา Adaptor 1A ที่หาซื้อจากบ้านหม้อธรรมดามาเปลี่ยน C ของพานาโซนิค FC กับไดโอด Ultra fast แทนเข้าไปครับ ส่วนแบตเตอรี่ไม่ได้ลองเพราะราคาค่อนข้างแพงมากครับแถมยังต้องซื้อตัวชาร์จอีก เลยโมภาคจ่ายไฟแทนครับ ;D
-
ก่อนหน้านี้ผมเองก็ใช้ Super Pro 707 (รุ่นเก่า) โมฯ แบบบ้านๆ มาก็นาน วันนี้จะแกะวงจรของรุ่นใหม่พอเป็นกระษัย ;D
เมื่อวานหลังจากปราบแอมป์ยักษ์ได้สำเร็จ ก็ว่างมาดูแลเจ้าตัวนี้นิดหน่อย ว่ามันต่างจาก Super Pro 707 รุ่นเก่าแค่ไหน อยากจะดูว่า LED 24/192 ที่เพิ่มขึ้นมา เขาดึงออกมาจากจุดไหน และ จะต้องแก้ไขรุ่นแรกอย่างไรให้มันรับ SPDIF 24/192 ได้เลย จะได้สะดวกสำหรับท่านที่อยากจะอัพเกรดรุ่นเก่าที่เป็น 24/96
Super Pro 707 เป็น DAC ที่สุ้มเสียงน่าฟังมากๆ ตัวหนึ่ง ถ้าได้รับการ โมฯ แบบถึงเนื้อ ถึงกระเป๋า ผมเองใช้ Lindemann USB DDC 24/192 ต่อฟังเพลงผ่านพอร์ต USB ซึ่งมันจะปล่อย SPDIF ออกมาเป็น 24/192 แต่พอนำมาต่อกับ Super Pro 707 รุ่นเก่า ก็ดันมีเสียงประหลาดออกมา ทำให้ต้องลดแซมปลิ้งลงเหลือแค่ 24/96 พอหอมปากหอมคอ
ในรุ่นเก่า ผมทำแค่เปลี่ยนซัพพลายใหม่เป็น 15V, เปลี่ยน LM317 เป็น LT1085, เปลี่ยนคล้อกเป็น 1PPM, เอาตัวเก็บประจุซีเมนส์ออก ใส่ WIMA เข้าไปแทน, เปลี่ยน Opamp เป็น AD8066, เปลี่ยนตัวเก็บประจุคัปปลิ้งเป็น SANYO Solid ตัวถังดำ (จำชื่อไม่ได้ รู้แค่ว่ามันมี พัลลัดเดียม กับ ทอง), เปลี่ยนขั้ว RCA ให้มันทะมัดทะแมงขึ้นมาบ้าง และ ที่สำคัญ ตัดไฟเลี้ยง CM108 ออกไปเลย (เรามี Lindemann อยู่แล้ว 2f)
ประเดี๋ยวถ้าไล่วงจรเสร็จทั้งหมด (ใส่ไข่เพิ่มด้วย สังเกตให้ดี) จะมีไม้เด็ดออกมาครับ เอา CM108 ออก แล้วใส่ TE8802 USB Interface 24/192 จาก Tenor เข้าไปแทน เอาให้ผู้ผลิตเดิม มึนไปเลย :showoff