HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม Thai DIY Audio => ข้อความที่เริ่มโดย: prasan ที่ 13 สิงหาคม, 2011, 11:56:58 am
-
ต้องขอขอบคุณลุงช็อตมากๆ เลยครับ จากที่ได้คุยกันถูกคอในงานรวมพลบ้านบนเนิน เรื่อง การศึกษา OPT ที่เป็นผลงานของคนรุ่นเก่า และแล้วลุงช็อตใจดีก็ให้โอกาสแก่ผู้มีหม้อน้อยอย่างผมมา 1 ลูก :bowdown จริงๆ ถ้าวันนั้นเจ้าสำนักบ้านบนเนินไม่มาแอบดู พวกเราก็จะสำเร็จโทษ OPT ในเครื่อง Sansui ของพี่เค้าไปแล้ว เสียดาย ;D ;D
คงจะว่ากันไปเรื่อยๆ ละครับ แล้วก็จะรายงานไปเรื่อยๆ เช่นกัน :whistling :whistling
-
รอลอกการบ้านครับ
อย่าลืมปลากอปด้วยนะครับ c) c) c) c) c)
-
ผมเตรียมปลากอป น้าเขียวเตรียมน้ำล้างปลากอปติดคอด้วยนะคร้าบ ;D
-
นี่ไงละหม้ออาจารย์ใหญ่
(http://img51.imageshack.us/img51/4143/sansuippopt500a.jpg)
-
ตัวนี้แหละครับมาจากบ้านบนเนิน อุ อุ 500A O0 น่าสงสารมันนะครับ อุตส่าข้ามน้ำข้ามทะเลมา จากญี่ปุ่น
เอ..ทำไมต้องเรียก ญี่ปุ่นด้วยนะ ทั่วโลกเรียก JAPAN หมด ใหนจะเรียก China ว่าจีนอีก K] งง..
แต่ก็ช่างมันเหอะ สรุปว่า มันรักษาชีวิตอยู่มาได้เกือบ 50 ปี ไม่น่าจะมาตายคามือคุณประสานเลย :giveup
-
ขออนุญาต ปูเสื่อรอชมครับพี่ประสาน
-
ตัวนี้แหละครับมาจากบ้านบนเนิน อุ อุ 500A O0 น่าสงสารมันนะครับ อุตส่าข้ามน้ำข้ามทะเลมา จากญี่ปุ่น
เอ..ทำไมต้องเรียก ญี่ปุ่นด้วยนะ ทั่วโลกเรียก JAPAN หมด ใหนจะเรียก China ว่าจีนอีก K] งง..
แต่ก็ช่างมันเหอะ สรุปว่า มันรักษาชีวิตอยู่มาได้เกือบ 50 ปี ไม่น่าจะมาตายคามือคุณประสานเลย :giveup
คุณหมอทั้งหลายศึกษาร่างกายของอาจารย์ใหญ่ที่เสียชีวิตมาแล้ว ที่เค้าเรียกกันว่า อะนาโตมี่ (Anatomy)
เราชาว DIY ทำหม้อที่ยังเป็นๆ ให้ตายก่อนแล้วค่อยศึกษา เราเรียกกันว่า อะนาโตหม้อ ;D ;D ;D
ขอบคุณลุงช็อตอีกครั้งครับที่สนับสนุนหม้อให้มาศึกษา
-
ขออนุญาต ปูเสื่อรอชมครับพี่ประสาน
ยินดีครับ จะแจ้งให้ทราบเรื่อยๆ นะครับ ;)
-
ลงภาพแรกให้ดูก่อนครับ หลังจากเปิดฝาครอบออกแล้ว จะได้แนะนำเส้นสายต่างๆ กันก่อน
ขด Primary : เหลือง (plate) - แดง (B+) - น้ำเงิน (plate)
ขด Secondary : เหลือง (8 ohm) - เขียว (4 ohm) - ดำ (common)
-
ทดลองวัดค่า primary impedance โดยการต่อ 8 ohm เข้าที่ขด Secondary เขียว - ดำ วัดค่า reflected primary impedance ได้ 7.744k-ohm
-
วัดค่า DCR
แดง - น้ำเงิน = 235.2 ohm
แดง - เหลือง = 276.3 ohm
-> ค่า DCR สองซีกไม่เท่ากันแสดงว่าการพันไม่ได้แบ่งเป็น 2 section เป็นการพันแบบ section เดียว คือ พันทับกันไปเรื่อยๆ เดี๋ยวตอนรื้อแล้วค่อยมาดูว่าเค้าแบ่ง interleave ระหว่างขด primary-secondary อย่างไร
วัดค่า inductance ด้วย LCR meter
แดง - น้ำเงิน = 17.8 Hy/100Hz , 11.98Hy/1kHz
แดง - เหลือง = 17.9Hy/100Hz , 12.04Hy/1kHz
-> Inductance ที่ 100Hz กับ 1kHz ไม่แตกต่างกันมาก
น้ำเงิน - เหลือง = 50Hy/100Hz , 48.8Hy/1kHz
-> Inductance ที่ 100Hz กับ 1kHz ทำได้ใกล้เคียงกันมากเลย O0
วัดค่า Leakage inductance
ช็อตสายด้าน Secondary เข้าด้วยกันทั้งหมด แล้ววัดค่า inductance ระหว่างสายสีเหลือง - น้ำเงินของขด primary ได้ค่า 16mHy / 1kHz
วัดค่า Capacitance ของขด primary ระหว่างสายสีเหลือง - น้ำเงินของขด primary ได้ค่า 309.8pF / 1kHz และวัดระหว่างขด primary - secondary ได้ค่า 2.747 nF / 1kHz
-
มีท่านใดอยากให้วัดค่าอย่างอื่นอีกหรือเปล่าครับ ถ้าไม่มีผมจะรื้อแกนเหล็กแล้วครับ แกนเหล็กเท่าที่ลองดูสามารถรื้อออกได้ง่ายๆ เลยครับ :)
-
เอาภาพอีกภาพหนึ่งมาให้ดูครับ ตอนแรกที่ผมวัดค่า primary impedance โดยต่อ R 8 ohm เข้าที่ขด secondary แล้ววัดคร่อนขด primary น้ำเงิน - เหลือง ได้ค่า 7.744 k-ohm แต่เมื่อวัดระหว่าง น้ำเงิน - จะได้ค่า 2.047k-ohm ซึ่งก็คือ 1/4 ของค่า plate-to-plate impedance ไงละครับ :)
-
เข้ามาขอความรู้อีก 1คนคร้าบ... ;D
-
สรุป ช่วงที่หนึ่ง
จดกันก่อนนะครับ หม้อเอ้าพุทรุ่น500a อิมพีแดนช์ 7.7k plate to plate ขด ออก 0-4-8 โอมห์(ตรงนี้อาจจะมีการผิดพลาด รอแก้ไข)
ขด Primary : เหลือง (plate) - แดง (B+) - น้ำเงิน (plate)
ขด Secondary : เหลือง (16 ohm) - เขียว (8 ohm) - ดำ (common)
Capacitance ของขด primary ระหว่างสายสีเหลือง - น้ำเงินของขด primary ได้ค่า 309.8pF / 1kHz และวัดระหว่างขด primary - secondary ได้ค่า 2.747 nF / 1kHz
วัดค่า inductance ระหว่างสายสีเหลือง - น้ำเงินของขด primary ได้ค่า 16mHy / 1kHz
วัดค่า inductance ด้วย LCR meter
แดง - น้ำเงิน = 17.8 Hy/100Hz , 11.98Hy/1kHz
แดง - เหลือง = 17.9Hy/100Hz , 12.04Hy/1kHz
น้ำเงิน - เหลือง = 50Hy/100Hz , 48.8Hy/1kH
วัดค่า DCR
แดง - น้ำเงิน = 235.2 ohm
แดง - เหลือง = 276.3 ohm
แกนขนาด25*35 มม. อ้อ 500aนี่ ใช้กับ หลอด7189a
-
ขอติดตามชมด้วยคนนะครับ O0 O0 O0
-
อยากทราบค่าอื่นๆ เมื่ออยู่ในขณะทำงานจริงด้วยครับ ว่ายังคงเดิมรึเปล่า d_d
-
อยากทราบค่าอื่นๆ เมื่ออยู่ในขณะทำงานจริงด้วยครับ ว่ายังคงเดิมรึเปล่า d_d
ผมไม่มีตัวเคริ่องมาด้วยครับ และไม่ได้เตรียมชุดทดสอบที่ใช้หลอดครับ ก็เลยทดสอบให้ไม่ได้ครับ d_d
-
แกนเหล็กขนาด 25x35 mm ครับ ชนิดของแกนเหล็กผมไม่ทราบครับ แต่ที่สังเกตุได้มีลักษณะของแกน 2 แบบ คือ เป็นลายตุ๊กแก กับ ที่ไม่เป็นลาย สีของทั้งสองแบบเป็นสีเทาครับ จำนวนแกนเหล็กที่ใช้ส่วนใหญ่จะเป็นแบบลากตุ๊กแกครับ
-
ดูภาพการต่อขด Secondary จากภายนอกก่อนครับ
-
ดูภาพใกล้ๆ ของจุดที่ต่อออกมาเป็น 8 ohm จะเห็นว่ามีการใช้ลวด 2 ขนาด ผมจะวัดขนาดลวด แจ้งให้ทราบทีหลังครับ
ลวดเส้นเล็ก คือ เส้นที่ 1 นับจากซ้ายมือ และเส้นที่ 2 นับจากขวามือ
-
ปลายของจุดที่ต่อออกมาเป็น 4 ohm ครับ ใช้ลวดขนาดเดียวกันหมด
-
ที่ต่อออกมาเป็น 0 หรือ common ลักษณะการใช้ลวดเล็กผสมลวดใหญ่เหมือนปลาย 8 ohm
ลวดเส้นเล็ก คือ เส้นที่ 1 นับจากซ้ายมือ และเส้นที่ 2 นับจากขวามือ
-
ให้ดูอีกภาพหนึ่งครับ
-
ลึกล้ำเหลือกำหนด :whistling :whistling
-
Sansui 500A ใช้หลอด 7189 ครับ ผมดูในวงจรแล้วเขียนว่า OPT ด้าน secondary 16-8-0 ohm สงสัยผมต้องทดสอบใหม่อีกทีแล้ว ก่อนที่จะรื้อขดลวด
-
ลึกล้ำเหลือกำหนด :whistling :whistling
ลึกล้ำนี้หมายถึง ภาพที่ :o อยู่ที่ Footer ในโพสต์ของคุณเอส-วัน หรือเปล่าครับ ;D ;D
-
:showoff ผมหลับตายังนึกภาพออกเลย เทคนิคการพันไม่น่าจะต่างกับ 1000a มีการสลับขดล่างบนและคอมแพร์อินเอาท์ ไม่น่าจะมีอะไรลึกลับครับ
-
ขด Primary : เหลือง (plate) - แดง (B+) - น้ำเงิน (plate)
ขด Secondary : เหลือง (8 ohm) - เขียว (4 ohm) - ดำ (common)
ขอแก้ไขครับ
ขด Primary : เหลือง (plate) - แดง (B+) - น้ำเงิน (plate)
ขด Secondary : เหลือง (16 ohm) - เขียว (8 ohm) - ดำ (common)
-
:showoff ผมหลับตายังนึกภาพออกเลย เทคนิคการพันไม่น่าจะต่างกับ 1000a มีการสลับขดล่างบนและคอมแพร์อินเอาท์ ไม่น่าจะมีอะไรลึกลับครับ
ขอดู winding plan ของ 1000a บ้างนะครับ
-
500A ราคาอยู่ที่ประมาณ 1,3000 ต่อเครื่องหากพัน OPT มาใหม่แล้วราคาไม่น่าเกิน 7,000
แล้ว 5,000 ที่หายไปใครจะรับผิดชอบ :cry2 คุณเขียวหวาน น่าจะจ่ายมากหน่อยเพราะยืนหน้าเลย Y]
คุณXMan นี่ต้องแพงกว่าอีกเพราะปูเสื่อกินที่ ;D คุณaon-amp คุณnut_ty คุณเอส-วัน หารสามที่เหลือ :secret อุ อุ ^-^
-
500A ราคาอยู่ที่ประมาณ 1,3000 ต่อเครื่องหากพัน OPT มาใหม่แล้วราคาไม่น่าเกิน 7,000
แล้ว 5,000 ที่หายไปใครจะรับผิดชอบ :cry2 คุณเขียวหวาน น่าจะจ่ายมากหน่อยเพราะยืนหน้าเลย Y]
คุณXMan นี่ต้องแพงกว่าอีกเพราะปูเสื่อกินที่ ;D คุณaon-amp คุณnut_ty คุณเอส-วัน หารสามที่เหลือ :secret อุ อุ ^-^
แป่ววว โดนไป 1 ดอก สงสัยต้องเปลี่ยนจากเสื่อ เหลือแค่หนังสือพิมพ์ซะแล้วววว เอาแบบดูหนังกลางแปลงสมัยก่อนเลย แต่ยังไงก็รอชมต่อล่ะครับ ; :victory
-
มารอชมด้วยคนครับ
หม้อลูกนี้มีการพันแบบ bi-filar ด้วยรึเปล่าครับน้าประสาน เท่าที่ดูในภาพเหมือนยังไม่เจอ
ดู อนาโตหม้อ ของน้าประสาน บวกกับ อนาโนตม ของน้า เอส วัน มันจริงๆครับพี่น้อง 2f 2f 2f
-
มารอชมด้วยคนครับ
หม้อลูกนี้มีการพันแบบ bi-filar ด้วยรึเปล่าครับน้าประสาน เท่าที่ดูในภาพเหมือนยังไม่เจอ
ดู อนาโตหม้อ ของน้าประสาน บวกกับ อนาโนตม ของน้า เอส วัน มันจริงๆครับพี่น้อง 2f 2f 2f
ขอเวลานอกสักหน่อยครับ อ.มด ผมขอไวริ่งสายชุด electronic counter ให้เสร็จ จะได้ศึกษากันต่อนะครับ ตอนนี้ขดลวดขึ้นแท่นรอแล้วครับ
-
มารอชมด้วยคนครับ
หม้อลูกนี้มีการพันแบบ bi-filar ด้วยรึเปล่าครับน้าประสาน เท่าที่ดูในภาพเหมือนยังไม่เจอ
ดู อนาโตหม้อ ของน้าประสาน บวกกับ อนาโนตม ของน้า เอส วัน มันจริงๆครับพี่น้อง 2f 2f 2f
ขอเวลานอกสักหน่อยครับ อ.มด ผมขอไวริ่งสายชุด electronic counter ให้เสร็จ จะได้ศึกษากันต่อนะครับ ตอนนี้ขดลวดขึ้นแท่นรอแล้วครับ
อย่าลืมงานตัดหญ้า ต้องเรียบร้อยก่อนนะจารยืสาน ค่อย มานับรอบ
-
มารอชมด้วยคนครับ
หม้อลูกนี้มีการพันแบบ bi-filar ด้วยรึเปล่าครับน้าประสาน เท่าที่ดูในภาพเหมือนยังไม่เจอ
ดู อนาโตหม้อ ของน้าประสาน บวกกับ อนาโนตม ของน้า เอส วัน มันจริงๆครับพี่น้อง 2f 2f 2f
ขอเวลานอกสักหน่อยครับ อ.มด ผมขอไวริ่งสายชุด electronic counter ให้เสร็จ จะได้ศึกษากันต่อนะครับ ตอนนี้ขดลวดขึ้นแท่นรอแล้วครับ
อย่าลืมงานตัดหญ้า ต้องเรียบร้อยก่อนนะจารยืสาน ค่อย มานับรอบ
แน่นอนอยู่แล้วเฮีย อย่าลืมนะครับตามที่ผมบอก ช่วยออกแบบเครื่องตัดหญ้าอัตโนมัติให้ด้วย ผมจะได้มีเวลาอันน้อยๆ มาทำงาน DIY Y]
-
มารอชมด้วยคนครับ
หม้อลูกนี้มีการพันแบบ bi-filar ด้วยรึเปล่าครับน้าประสาน เท่าที่ดูในภาพเหมือนยังไม่เจอ
ดู อนาโตหม้อ ของน้าประสาน บวกกับ อนาโนตม ของน้า เอส วัน มันจริงๆครับพี่น้อง 2f 2f 2f
ขอเวลานอกสักหน่อยครับ อ.มด ผมขอไวริ่งสายชุด electronic counter ให้เสร็จ จะได้ศึกษากันต่อนะครับ ตอนนี้ขดลวดขึ้นแท่นรอแล้วครับ
อย่าลืมงานตัดหญ้า ต้องเรียบร้อยก่อนนะจารยืสาน ค่อย มานับรอบ
แน่นอนอยู่แล้วเฮีย อย่าลืมนะครับตามที่ผมบอก ช่วยออกแบบเครื่องตัดหญ้าอัตโนมัติให้ด้วย ผมจะได้มีเวลาอันน้อยๆ มาทำงาน DIY Y]
ซื้อแพะมาเลี้ยง :whistling
-
มารอชมด้วยคนครับ
หม้อลูกนี้มีการพันแบบ bi-filar ด้วยรึเปล่าครับน้าประสาน เท่าที่ดูในภาพเหมือนยังไม่เจอ
ดู อนาโตหม้อ ของน้าประสาน บวกกับ อนาโนตม ของน้า เอส วัน มันจริงๆครับพี่น้อง 2f 2f 2f
ขอเวลานอกสักหน่อยครับ อ.มด ผมขอไวริ่งสายชุด electronic counter ให้เสร็จ จะได้ศึกษากันต่อนะครับ ตอนนี้ขดลวดขึ้นแท่นรอแล้วครับ
อย่าลืมงานตัดหญ้า ต้องเรียบร้อยก่อนนะจารยืสาน ค่อย มานับรอบ
แน่นอนอยู่แล้วเฮีย อย่าลืมนะครับตามที่ผมบอก ช่วยออกแบบเครื่องตัดหญ้าอัตโนมัติให้ด้วย ผมจะได้มีเวลาอันน้อยๆ มาทำงาน DIY Y]
ซื้อแพะมาเลี้ยง :whistling
แพะแบบที่เค้าจับมาผิดตัวหรือเปล่าครับพี่ ;D ;D
คุยนอกเรื่องกันไปพลางๆ ก่อนนะพี่ ยังไม่มีเวลารื้อ OPT ต่อ :black_eye
-
ถึงไหนแล้วครับพี่ ตัดสายแล้ว มาณ์คสายแล้ว งงแล้ว ;D ;D ;Dตอนนี้นิสัยไม่ดีถูกส่งมาอบรมที่ กทม. :cry2 :cry2
-
500A ราคาอยู่ที่ประมาณ 1,3000 ต่อเครื่องหากพัน OPT มาใหม่แล้วราคาไม่น่าเกิน 7,000
แล้ว 5,000 ที่หายไปใครจะรับผิดชอบ :cry2 คุณเขียวหวาน น่าจะจ่ายมากหน่อยเพราะยืนหน้าเลย Y]
คุณXMan นี่ต้องแพงกว่าอีกเพราะปูเสื่อกินที่ ;D คุณaon-amp คุณnut_ty คุณเอส-วัน หารสามที่เหลือ :secret อุ อุ ^-^
เอางี้ผมช่วย สองพัน เสร็จแล้วยกมาที่บ้านผมเลยนะครับ แหม ของดีราคาถูก อิอิอิ ;D ;D ;D ;D
-
ติดตามชมครับ
-
จารย์สานช่วยวัดค่ามิวแกนเหล็กด้วยนะครับ
-
จารย์สานช่วยวัดค่ามิวแกนเหล็กด้วยนะครับ
คำนวณเองเลยเฮีย ข้อมูลมีครบแล้วนี่ครับ :showoff :showoff
-
ต่อยังครับ หายไปหลายวัน
-
ส่งการบ้านครับ
ลวดด้าน Secondary ผมไม่แน่ใจครับว่าเบอร์อะไร ผมไม่มีเวอร์เนียวัดขนาดลวดครับ
- การพันลวดของ OPT รุ่นนี้ไม่มีการพันแบบ Bifilar ครับ แต่มีการสลับขด primary เพื่อลดค่า C
- ฉนวนระหว่างชั้น ไม่ว่าจะเป็นระหว่างชั้นของ primary หรือระหว่างชั้นของ secondary ใช้กระดาษบางมากๆ ลักษณะคล้ายกระดาษแก้วที่ทำว่าว ดูๆ บางทีก็นึกถึงเยื่อไม้ไผ่ที่เห็นเวลากินข้าวหลาม
- ฉนวนระหว่างขด primary กับขด secondary ใช้กระดาษสีน้ำตาล 3 ชั้น ความหนาพอๆ กับกระดาษ A4 80 gram ครับ
-
ผมดูตอนแรกที่ยังไม่ได้รื้อขดลวด เข้าใจว่าขด primary มีการพันแบบ bifilar แต่พอรื้ออกแล้ว ร้องอ้อ.. เข้าใจแล้วว่าที่เห็นมันเป็นอะไร ลองดูภาพครับ
-
ดูภาพของกระดาษที่ใช้กับหม้อแปลงครับ
-
ดูภาพของขด sec จะเห็นซีกซ้ายซึ่งเป็นขด 32 Turns ครับ ซึ่งพันต่อจากขด 92 Turns
-
ดูลักษณะการ tap ออกมาเป็นจุดที่ต่อเป็น 8 ohm
-
ดู winding plan แล้ว ผมชอบลักษณะการวางขดลวดที่เอาขด secondary อยู่นอกสุด ตามความเข้าใจของผม ขด sec ชั้นนอกสุดนี้จะเป็นตัวรับเส้นแรงแม่เหล็กไว้ ทำให้มีการรั่วไหลของเส้นแรงแม่เหล็กน้อยกว่าการวางขด prim ไว้นอกสุด O0
แต่ที่ยังเป็นคำถามอยู่คือ สำหรับขด 16 ohm ทำไมต้องมีลดย่อยที่เป็นลวดเบอร์เล็กมาเสริมด้วย ท่านใดทราบช่วยตอบทีครับ
-
ดู winding plan แล้ว ผมชอบลักษณะการวางขดลวดที่เอาขด secondary อยู่นอกสุด ตามความเข้าใจของผม ขด sec ชั้นนอกสุดนี้จะเป็นตัวรับเส้นแรงแม่เหล็กไว้ ทำให้มีการรั่วไหลของเส้นแรงแม่เหล็กน้อยกว่าการวางขด prim ไว้นอกสุด O0
แต่ที่ยังเป็นคำถามอยู่คือ สำหรับขด 16 ohm ทำไมต้องมีลดย่อยที่เป็นลวดเบอร์เล็กมาเสริมด้วย ท่านใดทราบช่วยตอบทีครับ
เคยทดลองพันแบบนี้นานแล้ว ตอนยังมีไฟอยู่ ดูแล้วครับโครงสร้างการวางลวดเกือบเหมือนกันเป๊ะ ทำตามจินตนาการมั่ว ๆ ไปน่ะครับ การวางขอ 16 R แบบนี้มันเหมือนกับการป้อนกลับของขดน่ะครับ และ ช่วยลดปัญหาเรื่อง Phase Shift ด้วยไปในตัวครับ d_d d_d d_d ผมเจอมาอย่างงั้น น่ะครับ ;D ;D ;D
-
การวางขอ 16 R แบบนี้มันเหมือนกับการป้อนกลับของขดน่ะครับ และ ช่วยลดปัญหาเรื่อง Phase Shift ด้วยไปในตัวครับ
ไม่เข้าใจครับ ;D ขดลวดเบอร์เล็กของขด 16 ohm เอาไปขนานกับชุดอื่นที่เป็นลวดใหญ่จะเป็นการป้อนกลับได้อย่างไร ช่วยอธิบายหน่อยครับ อยากทราบมากเลยล่ะ :help
-
การวางขอ 16 R แบบนี้มันเหมือนกับการป้อนกลับของขดน่ะครับ และ ช่วยลดปัญหาเรื่อง Phase Shift ด้วยไปในตัวครับ
ไม่เข้าใจครับ ;D ขดลวดเบอร์เล็กของขด 16 ohm เอาไปขนานกับชุดอื่นที่เป็นลวดใหญ่จะเป็นการป้อนกลับได้อย่างไร ช่วยอธิบายหน่อยครับ อยากทราบมากเลยล่ะ :help
ไม่ขออธิบายดีกว่า :victory :victory :victory ไหน ๆ คุณพี่ ก็เดินทางมาในจุดที่ใกล้มองเห็นความจริงอะไรบางอย่างแล้ว ให้ของจริงช่วยอธิบายและกันครับ :yahoo :yahoo พันแล้วลองทดสอบหม้อแปลงเลยครับ แล้วลองใส่เล้นลวดทีละชุดดูครับ รับรองได้ว่า การใส่แต่ละชุดให้คุณลักษณะที่แตกต่างกันไป แต่ที่แก้ไม่หายจริง ๆ เลยคือเรื่อง Phase shift ครับ มีทุกลูก ;D ;D แม้ลูกนั้นจะพันมาจากเทพเจ้าก็ตาม ;D ;D มันเกิดขึ้นจากกฏตายตัวจากทฤษฎีของมันมั้งครับ ทางที่แก้ไขคือ ลดจะนวนให้มันเกิดได้น้อยที่สุด ครับ :showoff :showoff :showoff :showoff :showoff
-
การวางขอ 16 R แบบนี้มันเหมือนกับการป้อนกลับของขดน่ะครับ และ ช่วยลดปัญหาเรื่อง Phase Shift ด้วยไปในตัวครับ
ไม่เข้าใจครับ ;D ขดลวดเบอร์เล็กของขด 16 ohm เอาไปขนานกับชุดอื่นที่เป็นลวดใหญ่จะเป็นการป้อนกลับได้อย่างไร ช่วยอธิบายหน่อยครับ อยากทราบมากเลยล่ะ :help
ไม่ขออธิบายดีกว่า :victory :victory :victory ไหน ๆ คุณพี่ ก็เดินทางมาในจุดที่ใกล้มองเห็นความจริงอะไรบางอย่างแล้ว ให้ของจริงช่วยอธิบายและกันครับ :yahoo :yahoo พันแล้วลองทดสอบหม้อแปลงเลยครับ แล้วลองใส่เล้นลวดทีละชุดดูครับ รับรองได้ว่า การใส่แต่ละชุดให้คุณลักษณะที่แตกต่างกันไป แต่ที่แก้ไม่หายจริง ๆ เลยคือเรื่อง Phase shift ครับ มีทุกลูก ;D ;D แม้ลูกนั้นจะพันมาจากเทพเจ้าก็ตาม ;D ;D มันเกิดขึ้นจากกฏตายตัวจากทฤษฎีของมันมั้งครับ ทางที่แก้ไขคือ ลดจะนวนให้มันเกิดได้น้อยที่สุด ครับ :showoff :showoff :showoff :showoff :showoff
มันแปลกใจตรงที่ทำไมต้องเป็นขด 16 ohm
ไม่อธิบาย แต่ก็กระตุ้นต่อมอยาก (รู้) อีกแล้ว ;D ;D
-
เห็นแล้วนึกถึงเอ้าพุทของแอมป์กีต้าร์เฟนเดอร์เลย พันเหมือนกันเด๊ะ ยกเว้นแต่เฟนเดอร์ มีเซ๊กกันดารี่แค่ สองชั้นคือ ติดกับแกน และชั้นนอกสุด
-
ผมดูตอนแรกที่ยังไม่ได้รื้อขดลวด เข้าใจว่าขด primary มีการพันแบบ bifilar แต่พอรื้ออกแล้ว ร้องอ้อ.. เข้าใจแล้วว่าที่เห็นมันเป็นอะไร ลองดูภาพครับ
อันนี้เอาใว้ชดเชย DCR ของชุดในหรือเปล่าครับ
-
เห็นแล้วนึกถึงเอ้าพุทของแอมป์กีต้าร์เฟนเดอร์เลย พันเหมือนกันเด๊ะ ยกเว้นแต่เฟนเดอร์ มีเซ๊กกันดารี่แค่ สองชั้นคือ ติดกับแกน และชั้นนอกสุด
สวัสดีครับพี่ช่างโก้ สบายดีนะครับพี่ ไม่เจอพี่นานเลยครับ มีข้อมูล OPT ที่ลักษณะการพันที่น่าสนใจ เล่าให้น้องฟังบ้างนะครับ
-
ผมดูตอนแรกที่ยังไม่ได้รื้อขดลวด เข้าใจว่าขด primary มีการพันแบบ bifilar แต่พอรื้ออกแล้ว ร้องอ้อ.. เข้าใจแล้วว่าที่เห็นมันเป็นอะไร ลองดูภาพครับ
อันนี้เอาใว้ชดเชย DCR ของชุดในหรือเปล่าครับ
ผมคิดว่าน่าจะเป็นเกี่ยวกับเรื่องอื่นมากกว่า DCR นะครับ ถ้าจะเกี่ยวกับ DCR จริงๆ ทำไมไม่ใช้ลวดขนาดใหญ่เหมือนขด Sec อื่นๆ
-
เป็นไงครับคุณประสาน สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น หลังจากซื้อของญี่ปุ่นอยู่นานต่อแต่นี้ไปอย่างน้อยคนไทยหนึ่งคน
ก็จะได้รู้แล้วว่าญี่ปุ่นเขาทำกันอย่างไร ขดลวด 0-16 โอมห์ ที่คุณประสานสงสัยโดยปรกติหม้อรุ่นใหญ่ๆที่ผมเคยรื้อ
จะใช้ลวดขนาดเดียวกันหมด แต่ตัวนี้เท่าที่ผมสังเกตุดู เขาคงจะต้องการลดค่าความหนาของชั้น และลดต้นทุน
จึงใช้ลวดเส้นเล็ก ลวดชุดนี้มีผลกับการป้อนกลับหรือเปล่าครับ เพราะเท่าที่ผมสังเกตุในหนังสือวงจร
แทบทุกเครื่องจะป้อนกลับกันที่ขด 16 โอมห์
ไว้ว่างๆผมจะส่งรุ่นใหญ่ๆ 30-50 วัตต์ให้ไปศึกษาอีกครับ หรือจะเอารุ่นเล็กอย่าง 6BM8 pp EL84 pp ก็มีครับ
ของ Pioneer ทั้งคู่ แต่รู้สึกว่าจะมี 7189 pp เมกาอยู่คู่นึง ส่วน SE ตอนนี้ยังไม่มีของครับ
และมีอินเตอร์ ของเมกาลูกเล็กๆ 2-3 นิ้ว ไว้ว่างๆจะส่งไปให้เชือด :secret
-
เป็นไงครับคุณประสาน สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น หลังจากซื้อของญี่ปุ่นอยู่นานต่อแต่นี้ไปอย่างน้อยคนไทยหนึ่งคน
ก็จะได้รู้แล้วว่าญี่ปุ่นเขาทำกันอย่างไร
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้มีโอกาสรื้อศึกษา OPT ต้องขอบอกว่า O0 กับอะนาโตหม้อครั้งนี้
ขดลวด 0-16 โอมห์ ที่คุณประสานสงสัยโดยปรกติหม้อรุ่นใหญ่ๆที่ผมเคยรื้อ
จะใช้ลวดขนาดเดียวกันหมด แต่ตัวนี้เท่าที่ผมสังเกตุดู เขาคงจะต้องการลดค่าความหนาของชั้น และลดต้นทุน
จึงใช้ลวดเส้นเล็ก ลวดชุดนี้มีผลกับการป้อนกลับหรือเปล่าครับ เพราะเท่าที่ผมสังเกตุในหนังสือวงจร
แทบทุกเครื่องจะป้อนกลับกันที่ขด 16 โอมห์
O0 ช่างสังเกตจริงๆ ขด 16 ohm อยู่ใน Feedback path ของวงจร ดังนั้นประเด็นเรื่องของการแก้ phase shift จึงเป็นเหตุผลที่ Y] ความจริงที่ถูกเปิดเผย ความลับไม่มีในโลกของการเรียนรู้ ;D ;D
ไว้ว่างๆผมจะส่งรุ่นใหญ่ๆ 30-50 วัตต์ให้ไปศึกษาอีกครับ หรือจะเอารุ่นเล็กอย่าง 6BM8 pp EL84 pp ก็มีครับ
ของ Pioneer ทั้งคู่ แต่รู้สึกว่าจะมี 7189 pp เมกาอยู่คู่นึง ส่วน SE ตอนนี้ยังไม่มีของครับ
และมีอินเตอร์ ของเมกาลูกเล็กๆ 2-3 นิ้ว ไว้ว่างๆจะส่งไปให้เชือด :secret
เอาอย่างนั้นเลยหรือครับ น่าสงสารหม้อดีๆ จะต้องมาตายเพราะมือผม :cry2 :cry2
-
ผมดูตอนแรกที่ยังไม่ได้รื้อขดลวด เข้าใจว่าขด primary มีการพันแบบ bifilar แต่พอรื้ออกแล้ว ร้องอ้อ.. เข้าใจแล้วว่าที่เห็นมันเป็นอะไร ลองดูภาพครับ
อันนี้เอาใว้ชดเชย DCR ของชุดในหรือเปล่าครับ
ผมว่า primary ลวดเส้นเล็กเลยทำหลายๆ ทบตอนเริ่มพันและตอนจบ ก่อนเอาลวดต่อสายไฟ จะได้ไม่ขาดง่าย เคยรื้อของ kenwood ก็ทำอย่างนี้เหมือนกัน
-
ผมดูตอนแรกที่ยังไม่ได้รื้อขดลวด เข้าใจว่าขด primary มีการพันแบบ bifilar แต่พอรื้ออกแล้ว ร้องอ้อ.. เข้าใจแล้วว่าที่เห็นมันเป็นอะไร ลองดูภาพครับ
อันนี้เอาใว้ชดเชย DCR ของชุดในหรือเปล่าครับ
ผมว่า primary ลวดเส้นเล็กเลยทำหลายๆ ทบตอนเริ่มพันและตอนจบ ก่อนเอาลวดต่อสายไฟ จะได้ไม่ขาดง่าย เคยรื้อของ kenwood ก็ทำอย่างนี้เหมือนกัน
O0 ถูกต้องครับ ก็เป็นไปตามภาพที่ผมลงไว้ให้ดูนั่นเลยครับ ลองดูอีกทีนะครับว่าใช่หรือเปล่า Y]
-
ตามที่คุณ Spacerider ว่านั่นแหละครับการทบกันหลายๆครั้ง
ใน OPT รุ่นไม่ใหญ่ส่วนมากจะทำวิธีนี้แทบทุกยี่ห้อ
แม้แต่หม้อแปลงไฟเองก็ทำครับ แต่พอมาสมัยนี้เราทำกันมักจะละเลยข้อนี้ไป
การทบกันหลายๆครั้งนอกจากจะช่วยให้สายขาดยากแล้ว ยังช่วยให้การบัดกรีติดแน่นทนทานมากขึ้น
เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเสมือนการเอาทองแดงฝอยหลายๆเส้นมาพันแล้วบัดกรี
อีกทั้งเวลาหม้อแปลงช็อตเล็กๆน้อยๆ จุดต่อเหล่านี้ก็จะไม่ละลายง่ายๆครับ :secret
-
:cold ยัง..ยังมีอะไรให้ซ่อนอยู่อีก คงจะเหมือนกับรุ่น 1000a ละมั่ง
-
:cold ยัง..ยังมีอะไรให้ซ่อนอยู่อีก คงจะเหมือนกับรุ่น 1000a ละมั่ง
แล้ว 1000A มันเป็นไงอ่ะป๋า K) ผมว่า 1000A มันน่าจะพันเหมือนตัวนี้มากกว่าครับ Y]
-
แต่ไม่เหมือน OPT ตัวนี้แน่ครับ d_d
-
อย่างที่บอกละขอรับ
แต่ของเฟนเดอร์นั้น ขดแปดโอหม์กับสิบหกโอหม์ จะใช้ลวดสองเส้นพันไปด้วยกัน
โดยลวดเส้นแรกจะใช้เบอร์ใหญ่กว่าลวดเส้นที่สองพันเป็นแทปแปดโอหม์กับสิบหกโอหม์
ส่วนเส้นที่สองจะใช้เบอร์เล็กกว่า แล้วพันรวดเดียวสิบหกโอหม์
เหมือนกันทั้งชั้นในที่ติดแกน กับชั้นที่พันนอกสุด ละขอรับ
สัญญาญป้อนกลับ ก็ป้อนจากขดสิบหกโอหม์ กลับไปยังภาคไดรฟ์
ผมแกะซ่อมบ่อยครับ มากกว่าห้าสิบลูกเข้าไปแล้ว
เพราะบ้านเรา มือกีต้าร์มักปล่อยให้หลอดเพาเวอร์ ทำงานจนหมดสภาพ
พอหลอดเสื่อม ก็มักจะอาร์คระหว่างขาเพลทกับใส้หลอด ( ขาสามกับขาสอง )
พออารค์ปุ๊บ เอ้าพุทก็เหมือนถูกช๊อตลงกราวด์
แอมป์กีต้าร์ใช้ไฟสูงครับ เฟนเดอร์ใช้ประมาณ สี่ร้อยแปดสิบโวลท์โน่น
เอ้าพุทก็เลยช๊อตบ่อย มาถึงผมอาการแบบเอ้าพุทใหม้ไปซีกหนึ่งแทบทุกเครื่อง
เลยได้แกะพันใหม่บ่อย ยังมีมาแชล พวกตระกูลเจซีเอ็ม เมซ่าโบกี้ พวกตระกูล ดวลแรคติไฟเออร์ นั่นก็บ่อย
พวกหัวเบสขนาดยักษ์ สามสี่ร้อยวัตต์ ไฟสูงห้าหกร้อยโวลท์ หลอดเพาเวอร์แปดหลอดนั้นก็เคยครับ พี่ไทยทำพังหมด
ราคาเอ้าพุทพวกนี้ถ้าสั่งใหม่ ก็ประมาณครึ่งหนึ่งของราคาเครื่องใหม่นะครับ บางรุ่นก็สองในสาม
เลยต้องซ่อมเอา ถ้ายังไม่โดนความร้อนมากจนแกนเหล็กเสื่อม พันใหม่เสียงก็ได้ไกล้เคียงของเดิมละขอรับ
แต่ถ้าปล่อยใว้นาน แกนเหล็กเสื่อม พันแล้วเสียงก็จะเปลี่ยน ใช้ไม่ได้ ก็ขายซากเป็นอะไหลไป
ในโกดังผมมีหลายสิบเครื่องละครับ
-
:cold ยัง..ยังมีอะไรให้ซ่อนอยู่อีก คงจะเหมือนกับรุ่น 1000a ละมั่ง
แล้ว 1000A มันเป็นไงอ่ะป๋า K) ผมว่า 1000A มันน่าจะพันเหมือนตัวนี้มากกว่าครับ Y]
รื้อเลยดีมั๊ยครับ ;D ;D
-
ขอบคุณครับพี่ช่างโก้ จากที่พี่เล่าให้ฟัง การพัน OPT สำหรับแอมป์กีตาร์ดูจะไม่ซับซ้อนเท่าเครื่องแอมป์ Hi-fi
พี่พอจะมี OPT ของแอมป์ Hi-fi ที่เสียแล้วหรือเปล่าครับ จะขอยืมมารื้อเพื่อการศึกษาบ้างครับ แล้วจะส่งซากคืนให้ครับ :black_eye ขอยืมกันดื้อๆ แบบนี้แหละครับ ;D ;D
-
ดู winding plan แล้ว ผมชอบลักษณะการวางขดลวดที่เอาขด secondary อยู่นอกสุด ตามความเข้าใจของผม ขด sec ชั้นนอกสุดนี้จะเป็นตัวรับเส้นแรงแม่เหล็กไว้ ทำให้มีการรั่วไหลของเส้นแรงแม่เหล็กน้อยกว่าการวางขด prim ไว้นอกสุด O0
แต่ที่ยังเป็นคำถามอยู่คือ สำหรับขด 16 ohm ทำไมต้องมีลดย่อยที่เป็นลวดเบอร์เล็กมาเสริมด้วย ท่านใดทราบช่วยตอบทีครับ
ผมว่าไม่มีอะไรมากหรอกครับ ที่ 8 โอห์ม ต้องการกระแสมากกว่า ก็ใช้ลวดเส้นใหญ่ ส่วนที่ 16 โอห์ม ต้องการกระแสน้อยกว่า ก็ใช้ลวดเส้นเล็ก
ส่วนคำถามที่ว่า ทำไมต้องมีลวดย่อยที่เป็นลวดเบอร์เล็กมาเสริมด้วย นั้น ผมแยกเป็น 2 ประเด็นคือ
1. ที่ชั้น 8 โอห์มนั้นมีการพัน 92 รอบแท็ปสายและพันต่ออีก 38 รอบ เป็น 130 รอบ แล้วค่อยจับมาขนานกับกับขดอื่นๆ รวมเป็น 6 ชั้นพอดี แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่า
ถ้าพันลวด 38 รอบ ด้วยเส้นเล็ก แล้วไปอนุกรมกับขด 92 รอบขดใหญ่แล้ว ขด 38 รอบจะร้อนเกินหรือไม่ (อันนี้ผมไม่แน่ใจ) ถ้าคนคิดลึก ก็กระแสไหลเข้าเท่ากับ
กระแสไหลออกนี่หว่า ใหญ่แล้วลงมาเล็ก น่าจะมีอะไรนะ อย่ากระนั้นเลย เส้นเท่ากันไปเลย สิ้นเรื่อง ง่าย ประหยัดเวลา แถมประหยัดลวดไปตั้งเยอะเพราะไมต้องมา
พัน ขด 16โอห์มเพิ่มตั้ง 4 ชั้นแน่ะ
2.ที่ใช้เส้นเล็กนั้นก็เพื่อที่จะลดค่า C แฝงลงมาเพราะ ถ้าเส้นใหญ่รวมสารเคลือบแล้วพัน 130 รอบ มันจะหนา ค่า C จะเยอะ หรืออาจจะกลัวลวดล้นแกนก็เป็นไปได้
บางคนบอก อ้าว...งั้นขด 92+38 เส้นใหญ่ก็มีค่า C มากกว่า ขด 130 เส้นเล็กนะซี พอเอาสองขดมาขนานกัน เฮ้ย....มันเป็นการไบแค็ปไช่เปล่าเนี่ย......
ถ้าอย่างนั้น สัณญานที่ 16 โอห์มคงจะดีมาก จึงนำไปเป็นสัณญานป้อนกลับ (อันนี้ผมคิดไปเอง)
ปล. ผมไม่แน่ใจว่า ขดลวดที่มีพื้นที่หน้าตัดต่างกัน แต่รอบเท่ากัน ค่า LCR มันจะต่างกันหรือไม่ แต่ผมคิดว่าต่างนะ ถ้าต่างจริง ก็ต้องมีผลกับความถี่เสียงแน่นอนครับ
และผมเห็นคล้ายกับคุณ ช็อตที่ว่า
เป็นไงครับคุณประสาน สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น หลังจากซื้อของญี่ปุ่นอยู่นานต่อแต่นี้ไปอย่างน้อยคนไทยหนึ่งคน
ก็จะได้รู้แล้วว่าญี่ปุ่นเขาทำกันอย่างไร ขดลวด 0-16 โอมห์ ที่คุณประสานสงสัยโดยปรกติหม้อรุ่นใหญ่ๆที่ผมเคยรื้อ
จะใช้ลวดขนาดเดียวกันหมด แต่ตัวนี้เท่าที่ผมสังเกตุดู เขาคงจะต้องการลดค่าความหนาของชั้น และลดต้นทุน
จึงใช้ลวดเส้นเล็ก ลวดชุดนี้มีผลกับการป้อนกลับหรือเปล่าครับ เพราะเท่าที่ผมสังเกตุในหนังสือวงจร
แทบทุกเครื่องจะป้อนกลับกันที่ขด 16 โอมห์
ไว้ว่างๆผมจะส่งรุ่นใหญ่ๆ 30-50 วัตต์ให้ไปศึกษาอีกครับ หรือจะเอารุ่นเล็กอย่าง 6BM8 pp EL84 pp ก็มีครับ
ของ Pioneer ทั้งคู่ แต่รู้สึกว่าจะมี 7189 pp เมกาอยู่คู่นึง ส่วน SE ตอนนี้ยังไม่มีของครับ
และมีอินเตอร์ ของเมกาลูกเล็กๆ 2-3 นิ้ว ไว้ว่างๆจะส่งไปให้เชือด :secret
-
ดู winding plan แล้ว ผมชอบลักษณะการวางขดลวดที่เอาขด secondary อยู่นอกสุด ตามความเข้าใจของผม ขด sec ชั้นนอกสุดนี้จะเป็นตัวรับเส้นแรงแม่เหล็กไว้ ทำให้มีการรั่วไหลของเส้นแรงแม่เหล็กน้อยกว่าการวางขด prim ไว้นอกสุด O0
แต่ที่ยังเป็นคำถามอยู่คือ สำหรับขด 16 ohm ทำไมต้องมีลดย่อยที่เป็นลวดเบอร์เล็กมาเสริมด้วย ท่านใดทราบช่วยตอบทีครับ
ผมว่าไม่มีอะไรมากหรอกครับ ที่ 8 โอห์ม ต้องการกระแสมากกว่า ก็ใช้ลวดเส้นใหญ่ ส่วนที่ 16 โอห์ม ต้องการกระแสน้อยกว่า ก็ใช้ลวดเส้นเล็ก
ส่วนคำถามที่ว่า ทำไมต้องมีลวดย่อยที่เป็นลวดเบอร์เล็กมาเสริมด้วย นั้น ผมแยกเป็น 2 ประเด็นคือ
1. ที่ชั้น 8 โอห์มนั้นมีการพัน 92 รอบแท็ปสายและพันต่ออีก 38 รอบ เป็น 130 รอบ แล้วค่อยจับมาขนานกับกับขดอื่นๆ รวมเป็น 6 ชั้นพอดี แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่า
ถ้าพันลวด 38 รอบ ด้วยเส้นเล็ก แล้วไปอนุกรมกับขด 92 รอบขดใหญ่แล้ว ขด 38 รอบจะร้อนเกินหรือไม่ (อันนี้ผมไม่แน่ใจ) ถ้าคนคิดลึก ก็กระแสไหลเข้าเท่ากับ
กระแสไหลออกนี่หว่า ใหญ่แล้วลงมาเล็ก น่าจะมีอะไรนะ อย่ากระนั้นเลย เส้นเท่ากันไปเลย สิ้นเรื่อง ง่าย ประหยัดเวลา แถมประหยัดลวดไปตั้งเยอะเพราะไมต้องมา
พัน ขด 16โอห์มเพิ่มตั้ง 4 ชั้นแน่ะ
2.ที่ใช้เส้นเล็กนั้นก็เพื่อที่จะลดค่า C แฝงลงมาเพราะ ถ้าเส้นใหญ่รวมสารเคลือบแล้วพัน 130 รอบ มันจะหนา ค่า C จะเยอะ หรืออาจจะกลัวลวดล้นแกนก็เป็นไปได้
บางคนบอก อ้าว...งั้นขด 92+38 เส้นใหญ่ก็มีค่า C มากกว่า ขด 130 เส้นเล็กนะซี พอเอาสองขดมาขนานกัน เฮ้ย....มันเป็นการไบแค็ปไช่เปล่าเนี่ย......
ถ้าอย่างนั้น สัณญานที่ 16 โอห์มคงจะดีมาก จึงนำไปเป็นสัณญานป้อนกลับ (อันนี้ผมคิดไปเอง)
ปล. ผมไม่แน่ใจว่า ขดลวดที่มีพื้นที่หน้าตัดต่างกัน แต่รอบเท่ากัน ค่า LCR มันจะต่างกันหรือไม่ แต่ผมคิดว่าต่างนะ ถ้าต่างจริง ก็ต้องมีผลกับความถี่เสียงแน่นอนครับ
ก็เป็นความคิดเห็นอีกหนึ่งท่าน
ความเห็นของผมครับ
-> ที่บอกว่าขด 16 ohm กินกระแสน้อย แต่จากที่เห็นมาจากการขนานขดลวด จำนวน 6 ขด ผมจึงไม่เห็นด้วยกับประเด็นเรื่องกระแสของขดลวดครับ ต้องเป็นอะไรที่ไม่ใช่เรื่องกระแส
-> ขดที่พันไว้ 38 รอบที่จะใช้ต่ออนุกรมกับขด 92 รอบให้เป็นขด 16 ohm ไม่ได้ทำให้เพิ่มชั้นการพันอีก 4 ชั้นนะครับ ดูในภาพที่ผมแสดงไว้ให้นะครับ มันพันต่อจากปลายลวดของขด 92 รอบเลยครับ
-> คิดที่ความยาวเท่าเดิม พื้นที่หน้าตัดของเส้นลวดจะแปรผกผันกับ ความต้านทาน DCR ของเส้นลวด กล่าวคือ พื้นที่หน้าตัดมาก ค่า DCR น้อย หรือ พื้นที่หน้าตัดน้อย DCR มากครับ
-
แต่ไม่เหมือน OPT ตัวนี้แน่ครับ d_d
เห็นแล้วอยากได้ ค่าตัวแรงมั้ยครับ 0)] เข้าเรื่องดีกว่า opt ผม ด้าน sec ก็ใช้ลวดสองเบอร์ครับ เล็กกัลใหญ่ แล้วเอามาขนานกัน ตรงนี้ผมก็คิดว่ามีผลกับความถี่ที่มันตอบสนอง คือที่ทำอย่างนี้ ก็เพราะต้องการทดลองฟังเสียงดูว่า กับที่พันผ่านมาๆมันจะแตกต่างกันหรือไม่ ท่านผู้รูช่วยพิจารณาหน่อยครับว่า การทำแบบนี้มันจะดีหรือเปล่า
-
ถ้าผมจะบอกว่าทั้งสองรุ่นที่ผมโพสรูปไว้ ผมรื้อออกมาเพื่อทำการชันสูตรพลิกศพหมดแล้วล่ะครับ :'(
และอีกหลายๆรุ่น :cry2 หากจะถามผมว่าไม่เสียดายหรือ ไม่เลยครับ ผมเสียเงินไป 2-3 พันต่อคู่ แต่ทำให้คนไทย
หลายๆคน ลูกหลานเราหลายๆคนได้ความรู้ หากผมไม่ยอมเสียตรงนี้ไปบ้าง เราและลูกหลานของเราจะต้องเสียเงิน
ให้กับต่างชาติอีกเท่าไหร่ครับ อย่างน้อยที่สุดก็มากกว่า 2-3 พันบาทที่ผมเสียไปแน่นอนครับ Y]
-
แว๊บมาอีกรอบขอรับอาจารย์
คือผมไม่ค่อยได้ซ่อมแอมป์บ้านนะขอรับ เลยไม่มีเอ้าพุทแอมป์บ้านอยู่ในมือเลย มีแต่เอ้าพุทของแอมป์กีต้าร์ละขอรับ
แล้วอีกอย่าง ถ้าจะบอกว่า เอ้าพุทของแอมป์กีต้าร์ไม่ซับซ้อนเท่าแอมป์บ้านละก็ ผมคิดว่าไม่นะครับ ความซับซ้อนของมันผมว่าก็พอๆกัน
อย่าลืมว่า แอมป์กีต้าร์นั้น เป็นตัวสร้าง"คาแรคเตอร์" ของเสียงขึ้นมา มือกีต้าร์ จะเลือกใช้แอมป์กับลำโพงในแบบที่เค้าเรียกว่า "ใช่ เสียงนี้ละ "
ส่วนแอมป์บ้านนั้น จะเป็นตัว "ถ่ายทอด" เสียงที่แอมป์กีต้าร์สร้างขึ้น แล้วบันทึกใว้มาให้เราฟังอีกที เพราะเรามักจะฟังเพลงจากการบันทึกมา มากกว่าการฟังสดๆจากตู้กีต้าร์
ดังนั้น มันก็ควรต้องถ่ายทอดเสียงออกมาได้ ใกล้เคียงกับเสียงที่ถูกสร้างใว้เดิมด้วย
เรื่องของลวดเส้นใหญ่เส้นเล็กนั้น ในแอมป์กีต้าร์ มีมานานแล้วครับ ครูที่สอนผมซ่อมและสร้างตู้กีต้าร์ซึ่งเป็นฝรั่งเคยบอกผมว่า
มิสเตอร์โก้ ยูคิดเอาว่า ความถี่นั้น เหมือนคนตัวเล็กตัวใหญ่ ความถี่ต่ำเหมือนคนตัวใหญ่ ต้องการที่กว้างๆเพื่อวิ่งไป ส่วนความถี่สูง เหมือนคนตัวเล็ก ที่แคบๆก็วิ่งได้ แล้วเค้าก็
อธิบายต่อว่า การป้อนกลับในตู้กีต้าร์นั้น จะใช้ป้อนกลับจากขด 16 โอหม์เป็นหลัก ซึ่งมักเกิดปัญหาที่ความถี่สูง มากกว่าความถี่ต่ำ เจ้าความถี่สูงนี้ จะเดินทางที่ผิวของตัวนำ
ส่วนความถี่ต่ำนั้นจะเดินทางลึกเข้าไปข้างใน ถ้าพันลวดเส้นใหญเส้นเดียว ก็มักจะเกิดอาการ แย่งกันวิ่ง ซาวด์มันจะแข็งๆ ไม่ฉ่ำ ยิ้งถ้าเป็นตู้กีต้าร์กำลังต่ำๆด้วยยิ่งแล้วใหญ่
เค้าก็เลย พันลวดสองขนาดเอาใว้ เพื่อให้เจ้าลวดเบอร์ใหญ่ ความถี่ต่ำไปซะ ส่วนลวดเบอร์เล็ก ความถี่สูงก็ไปซะ ผลพลอยได้อีกอันหนึ่งก็คือ
เฟสชิปที่ความถี่สูงนั้นลดลงด้วย แกบอกว่า เพราะมันมีทางเดินสองทาง ก็เลยไม่ต้องแย่งกันวิ่ง ( ฝรั่งบอกว่า มันคือผลของสกินเอฟเฟค ผลของความถี่ เมื่อเดินทางในตัวนำ )
ในแอมป์กีต้าร์ ถ้าปลดขดลวดเส้นเล็กออกแล้ว ซาวด์จะเปลี่ยนทันทีเลยละครับ ทั้งๆที่การป้อนกลับก็ยังมีอยู่ แต่มันป้อนกลับจากลวดเบอร์ใหญ่เท่านั้น
โดยซาวด์จะออกขุ่นๆ เวลาเล่นเสียงคลีนที่โน๊ตสูงๆนั้น เสียงจะออกอับๆ พวกเพลงป๊อบใต้ดินชอบใช้เสียงแบบนี้ละ "เสียงเดอตี้"
เวลาเล่นเสียงแตก ฮาโมนิคของสายกีต้าร์มันจะกุดห้วนๆ ออกไม่ครบอะไรแบบนั้น พอต่อกลับเข้าไป เสียงก็จะมาเหมือนเดิม
ยังมีแบบที่ขดไพมารี่ ใช้ลวดสองเบอร์มาพันก็มีขอรับ แต่ไม่มากเท่ากับขดเอ้าพุท
เคยมีแอมป์กีต้าร์ของเมกา เก่านานแล้วละครับประมาณปี 70 เค้าใช้ลวดทองแดงชุบเงินที่ผิวเคลือบฉนวนสองชั้น มาพันเอ้าพุทอยู่ เสียงนะดี
แต่ต้นทุนแพงมากๆ พอทำขายแบบการค้าแล้วไม่ใหว ก็เลยเลิกไป กลับมาใช้ลวดแบบเส้นใหญ่เส้นเล็กเหมือนเดิม
ในการทำเอ้าพุทกีต้าร์นั้น มันมีวิธีคิดด้วยว่า ลวดเบอร์ใหญ่เล็กนั้น คิดจากอะไร ซึ่งผมเองก็เคยลองทำ สำหรับแกนเหล็กธรรมดาที่ขายในบ้านเรานั้น ก็พอได้
แต่ไม่ดีเท่าแกนที่เค้าใช้จริงๆนะขอรับ เพราะว่าแกนที่ขายบ้านเรา ไม่ค่อยบอกอะไรมาก เวลาจะเอาไปคิดค่าบางค่า ต้องอนุมานเอา มันก็เลยไม่ตรงเท่าไหร่
ทำแล้วต้องลุ้นว่าจะโอเคหรือปล่าว
-
ที่ผมผมบอกว่าต้องพันใหม่ 4 ชั้นนั้นเพื่อจะตัดปัญหา กระแส ออกไป ถ้ากระแสไม่เกี่ยวก็แล้วไปครับ แต่นี่เขาเล่นต่อจากขด 8 โอห์มมาเลย ถ้าลวดมันเท่ากันหมดก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก ไม่ต้องคิดมาก
จำนวณรอบเท่ากันแค่นั้น และที่ลดขนาดลวด ก็เพื่อที่จะไม่ให้ลวดล้นแกนเท่านั้นเอง
ประเด็นมันอยู่ที่ว่า ลวด 2 ขนาดที่มี DCR ไม่เท่ากัน มาขนานกันมันจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ครับ ผมความรู้น้อยแถมไม่มีเครื่องมืออีก ก็เลยจนปัญญาครับ :victory
-
แว๊บมาอีกรอบขอรับอาจารย์
คือผมไม่ค่อยได้ซ่อมแอมป์บ้านนะขอรับ เลยไม่มีเอ้าพุทแอมป์บ้านอยู่ในมือเลย มีแต่เอ้าพุทของแอมป์กีต้าร์ละขอรับ
แล้วอีกอย่าง ถ้าจะบอกว่า เอ้าพุทของแอมป์กีต้าร์ไม่ซับซ้อนเท่าแอมป์บ้านละก็ ผมคิดว่าไม่นะครับ ความซับซ้อนของมันผมว่าก็พอๆกัน
อย่าลืมว่า แอมป์กีต้าร์นั้น เป็นตัวสร้าง"คาแรคเตอร์" ของเสียงขึ้นมา มือกีต้าร์ จะเลือกใช้แอมป์กับลำโพงในแบบที่เค้าเรียกว่า "ใช่ เสียงนี้ละ "
ส่วนแอมป์บ้านนั้น จะเป็นตัว "ถ่ายทอด" เสียงที่แอมป์กีต้าร์สร้างขึ้น แล้วบันทึกใว้มาให้เราฟังอีกที เพราะเรามักจะฟังเพลงจากการบันทึกมา มากกว่าการฟังสดๆจากตู้กีต้าร์
ดังนั้น มันก็ควรต้องถ่ายทอดเสียงออกมาได้ ใกล้เคียงกับเสียงที่ถูกสร้างใว้เดิมด้วย
เรื่องของลวดเส้นใหญ่เส้นเล็กนั้น ในแอมป์กีต้าร์ มีมานานแล้วครับ ครูที่สอนผมซ่อมและสร้างตู้กีต้าร์ซึ่งเป็นฝรั่งเคยบอกผมว่า
มิสเตอร์โก้ ยูคิดเอาว่า ความถี่นั้น เหมือนคนตัวเล็กตัวใหญ่ ความถี่ต่ำเหมือนคนตัวใหญ่ ต้องการที่กว้างๆเพื่อวิ่งไป ส่วนความถี่สูง เหมือนคนตัวเล็ก ที่แคบๆก็วิ่งได้ แล้วเค้าก็
อธิบายต่อว่า การป้อนกลับในตู้กีต้าร์นั้น จะใช้ป้อนกลับจากขด 16 โอหม์เป็นหลัก ซึ่งมักเกิดปัญหาที่ความถี่สูง มากกว่าความถี่ต่ำ เจ้าความถี่สูงนี้ จะเดินทางที่ผิวของตัวนำ
ส่วนความถี่ต่ำนั้นจะเดินทางลึกเข้าไปข้างใน ถ้าพันลวดเส้นใหญเส้นเดียว ก็มักจะเกิดอาการ แย่งกันวิ่ง ซาวด์มันจะแข็งๆ ไม่ฉ่ำ ยิ้งถ้าเป็นตู้กีต้าร์กำลังต่ำๆด้วยยิ่งแล้วใหญ่
เค้าก็เลย พันลวดสองขนาดเอาใว้ เพื่อให้เจ้าลวดเบอร์ใหญ่ ความถี่ต่ำไปซะ ส่วนลวดเบอร์เล็ก ความถี่สูงก็ไปซะ ผลพลอยได้อีกอันหนึ่งก็คือ
เฟสชิปที่ความถี่สูงนั้นลดลงด้วย แกบอกว่า เพราะมันมีทางเดินสองทาง ก็เลยไม่ต้องแย่งกันวิ่ง ( ฝรั่งบอกว่า มันคือผลของสกินเอฟเฟค ผลของความถี่ เมื่อเดินทางในตัวนำ )
ในแอมป์กีต้าร์ ถ้าปลดขดลวดเส้นเล็กออกแล้ว ซาวด์จะเปลี่ยนทันทีเลยละครับ ทั้งๆที่การป้อนกลับก็ยังมีอยู่ แต่มันป้อนกลับจากลวดเบอร์ใหญ่เท่านั้น
โดยซาวด์จะออกขุ่นๆ เวลาเล่นเสียงคลีนที่โน๊ตสูงๆนั้น เสียงจะออกอับๆ พวกเพลงป๊อบใต้ดินชอบใช้เสียงแบบนี้ละ "เสียงเดอตี้"
เวลาเล่นเสียงแตก ฮาโมนิคของสายกีต้าร์มันจะกุดห้วนๆ ออกไม่ครบอะไรแบบนั้น พอต่อกลับเข้าไป เสียงก็จะมาเหมือนเดิม
ยังมีแบบที่ขดไพมารี่ ใช้ลวดสองเบอร์มาพันก็มีขอรับ แต่ไม่มากเท่ากับขดเอ้าพุท
เคยมีแอมป์กีต้าร์ของเมกา เก่านานแล้วละครับประมาณปี 70 เค้าใช้ลวดทองแดงชุบเงินที่ผิวเคลือบฉนวนสองชั้น มาพันเอ้าพุทอยู่ เสียงนะดี
แต่ต้นทุนแพงมากๆ พอทำขายแบบการค้าแล้วไม่ใหว ก็เลยเลิกไป กลับมาใช้ลวดแบบเส้นใหญ่เส้นเล็กเหมือนเดิม
ในการทำเอ้าพุทกีต้าร์นั้น มันมีวิธีคิดด้วยว่า ลวดเบอร์ใหญ่เล็กนั้น คิดจากอะไร ซึ่งผมเองก็เคยลองทำ สำหรับแกนเหล็กธรรมดาที่ขายในบ้านเรานั้น ก็พอได้
แต่ไม่ดีเท่าแกนที่เค้าใช้จริงๆนะขอรับ เพราะว่าแกนที่ขายบ้านเรา ไม่ค่อยบอกอะไรมาก เวลาจะเอาไปคิดค่าบางค่า ต้องอนุมานเอา มันก็เลยไม่ตรงเท่าไหร่
ทำแล้วต้องลุ้นว่าจะโอเคหรือปล่าว
O0 O0 O0 O0 O0 นี่แหละครับ โจทย์ และ คำตอบจากโจทย์ มันใช่และเข้าใกล้เคียงตัวนี้แหละครับ ทั้งในความเป็นจริง และ จินตนาการ และที่ไม่ใช่ไสยศาสตร์ อย่างไร ฝากพี่ประสานลองทดสอบ หลาย ๆ แบบด้วยน่ะครับ สนุกดีไปอีกแบบครับ เผื่อจะได้เห็นอะไรที่มันแตกต่างอีกเยอะ ๆ มาบอกเล่าครับ ครับ :victory :victory :victory :yahoo :yahoo
-
ขอบคุณมากครับพี่ช่างโก้ ประสบการณ์อย่างนี้แหละที่อยากฟังมานานแล้ว O0 O0 สงสัยต้องขับรถไปเที่ยวบ้านพี่ นั่งฟังพี่เล่าเรื่องหลอด เรื่อง OPT ให้ฟังอีก
ขอบคุณในน้ำใจของลุงช็อต แม้แต่ความคิดก็น่านับถือแล้วครับ :clap :clap
ขอบคุณคุณ Rabbit-Hunter ที่ช่วยกระตุ้นความอยาก (รู้) ให้อีกแล้วว่า Skin effect มันมีผลกับความถี่ย่าน Audio ด้วย ;D ;D
-
ที่ผมผมบอกว่าต้องพันใหม่ 4 ชั้นนั้นเพื่อจะตัดปัญหา กระแส ออกไป ถ้ากระแสไม่เกี่ยวก็แล้วไปครับ แต่นี่เขาเล่นต่อจากขด 8 โอห์มมาเลย ถ้าลวดมันเท่ากันหมดก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก ไม่ต้องคิดมาก
จำนวณรอบเท่ากันแค่นั้น และที่ลดขนาดลวด ก็เพื่อที่จะไม่ให้ลวดล้นแกนเท่านั้นเอง
ประเด็นมันอยู่ที่ว่า ลวด 2 ขนาดที่มี DCR ไม่เท่ากัน มาขนานกันมันจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ครับ ผมความรู้น้อยแถมไม่มีเครื่องมืออีก ก็เลยจนปัญญาครับ :victory
ตรงนี้แหล่ะที่ผมกำลังจะทำ แล้วมันจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
-
พอดีเห็นอ่านค่าที่วัดได้ของอิมพีแดนซ์ขดไฟเข้า จากความเห็น #9 ที่ไปสอดคล้องกับ #12 แต่ขัดแย้งกับภาพใน #44 อันนี้ช่วยอธิบายเพิ่มเติมทีครับ ขอบคุณครับ