HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม โฮมเธียเตอร์ (HT) => ข้อความที่เริ่มโดย: 1080p ที่ 14 ธันวาคม, 2005, 12:44:19 pm
-
แว่วๆมาว่าเครื่องเล่นHIDEF ใกล้จะออกมาแล้ว เร็วๆนี้
แล้วเครื่องที่เล่นดีวีดี ที่เล่นแผ่น HIDEF ไม่ได้
ไม่รู้จะทำยังไงดีอ่ะครับ ตอนนี้มีอยู่3ตัว :-[
-
แผ่นธรรมดาผมว่าก็น่าจะยังมีอยู่ครับ โดยเฉพาะแผ่นก๊อป ซึ่งกว่าแผ่นธรรมดาจะเลิกผลิต ผมว่าเจ้า 3 ตัวที่มีอยู่ก็คงจะหมดสภาพไปแล้วมั๊งครับ...แหะๆๆ... :whistling
-
อีกนานครับ คนส่วนใหญ่กว่าจะซื้อเครื่องเล่น DVD Hidef ได้ผมว่า 3 ตัวที่มีอยู่อาจกลับบ้านเก่าไปหมดแล้วก็ได้
-
อย่าว่าแต่ DVD เลยครับ เครื่องเล่น VCD ปัจจุบันนี้ก็ยังคงขายได้ตลอด มันอยู่ที่แผ่นเช่าครับ โดยเฉพาะในต่างจังหวัดชาวบ้านยังเล่นVCD กันอยู่ การเล่นก็ไม่ซับซ้อน ใส่แผ่น กด play อย่างเดียว ดูได้เลย คิดว่าในอนาคต DVD ก็ยังคงแบ่งเป็น 2 ตลาด คือ DVD กับ DVD-Hidef คู่กันไปครับ dd
-
ถ้ายังมีแผ่นออกมา support อยู่ มันก็คงอยู่ไปได้เรื่อยๆ นั่นแหละครับ
-
อีกสัก 8 ปีชะตาก็คงจะเหมือนเครื่องเล่น vcd ในวันนี้ครับ
แต่ถึงตอนนั้นของพวกเราคงเจ๊งกันหมดแล้วละครับบบบ :bye1
-
เมื่อวานพนักงานที่มา present อุปกรณ์ hardware และ software ในระดับ TV station เค้าบอกว่า ปี 2007 พวก HDV HDTV จะมาอยู่ในระดับ consumer
แต่ในเมืองไทย ผมคิดว่า HDTV ยังห่างอยู่ เพราะคณะกรรมการอะไรนั่นก็ยังไม่จบเรื่องซักที
-
ผมว่ายังไงแผ่น DVD ก็ยังมีต่อไป เครื่องเล่นก็ต้องเล่นให้ได้ทุกรูปแบบ :)
ส่วนเรื่องการส่งทีวีในระบบ HD ผมว่ายังไม่ได้เห็นหรอก ลูกผมโตจะได้เห็นป่าวเหอะ :nono
-
ทุกวันนี้เรายังเห็น VCD กันอยูเลย บ้านผมที่บ้านนอก (อุดร) ยังไม่ค่อยรู้จัก DVD เลยครับ ผมแบกโน้ตบุกไปดู DVD เค้ายังตาค้างปากอ้าไม่หุบเลยครับ
ถ้าเรามีหนังที่รักที่เป็น DVD และมีเครื่องเล่นที่ดีอยู่แล้วก็ไม่ต้องห่วงครับ ของเก่าๆ มันจะคงความ CLASSIC ไว้เสมอ c)
ทุกวันนี้ผมยังหยิบเกมส์ซุปเปอร์มาริโอ้ของ FAMILY COMPUTER มาเล่นอยู่เลย ความ CLASSIC มันไม่หายไปไหนเลย..ประทับใจอ่ะครับ ;)
-
เมื่อวานพนักงานที่มา present อุปกรณ์ hardware และ software ในระดับ TV station เค้าบอกว่า ปี 2007 พวก HDV HDTV จะมาอยู่ในระดับ consumer
แต่ในเมืองไทย ผมคิดว่า HDTV ยังห่างอยู่ เพราะคณะกรรมการอะไรนั่นก็ยังไม่จบเรื่องซักที
I don't think it's the technicality issue but more on the bureaucracy and censorship issues in Thailand.
I read some newspaper and it said that NOW broadband (PCCW) from Hong Kong may start broadcasting cable TV in Thailand via internet, ie IPTV like the one they are offering now in Hong Kong. For the Hong Kong market, by the year 2006, NOW broadband will send HDTV via this IPTV to all subscribers.
-
:secretอย่าไปตื่นเต้นครับ ขนาดdvd Zone1 ตอนนี้ยังแผ่นละพันกว่าบาท...แล้วคุณคิดว่าHD-dvd จะราคาเท่าไรครับ...อันนี้ยังไม่พูดถึงราคาของเครื่องเล่นที่เขาว่าเหยีบแสนนะครับ :victory
-
ผมก็ว่ากว่า Hi Def จะเป็นที่ยอมรับเท่ากับ DVD ในปัจจุบันยังคงต้องใช้เวลาอีกนานแสนนาน หรืออาจจะไม่เกิดเลยด้วยซ้ำ :P เพราะถ้าถามว่ากับเทคโนโลยีในปัจจุบันตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคส่วนใหญ่มั้ย ก็คงต้องตอบว่าน่าจะใช่ แล้วอย่างนี้ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะยอมจ่ายแพงกว่าเพื่อซื้อสิ่งที่อาจจะเรียกว่าเกินความต้องการของเขาหรือ ???
ยกเว้นแต่ว่าแผ่น HD และ เครื่องเล่น HD มีราคาเทียบเท่ากับ DVD ในปัจจุบันก็คงเป็นอีกเรื่อง เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น ราคาของ DVD คงเทียบเท่ากับ VCD ในปัจจุบันและ VCD ก็คงตายไปโดย DVD ไปจับตลาดล่างแทน และปล่อยให้ HD DVD จับตลาดกลาง สูง ต่อไป แต่อีกสักกี่ปีกันที่จะเป็นแบบนี้ นี่ไม่รวมถึงเครื่องจักรใหม่ที่คนออก software ต้องลงทุนเพิ่มนะครับ (ผมก็ไม่รู้ว่ามันจะสูงแค่ไหน แต่เดาว่าคงไม่ถูกแน่นอน) ไหนจะเรื่องฟอร์แมตอีกว่าจะเป็น HD-DVD หรือ Blu Ray เพราะฉะนั้นผมว่าเราอย่าไปนั่งรอยึดติดกับสิ่งที่ไม่แน่นอนดีกว่าครับ เล่นกับเทคโนโลยีปัจจุบันไปเรื่อยๆ จนกว่าของใหม่จะมีทิศทางที่ชัดเจนและราคาลงมาอยู่ในจุดที่คนส่วนใหญ่สามารถรับได้
ก็แค่มุมมองของคนคนหนึ่งครับ
-
อูยยย.... คุณไข่ตั้งมีสาระด้วยแฮะ
-
ขอบคุณทุกท่านที่ให้ข้อมูลนะครับ Y]
-
ผมว่าไม่น่าจะเกิน 2 ปี cable บ้านเราจะนำ hdtv มาฉายก่อนโดยเริ่มจากรายการหนังต่างประเทศ พวก hbo discovery อะไรประมาณนี้ เพราะต่อไปต้นฉบับมันจะมาเป็น hd กันหมด คงไม่เสียเวลามาแปลงแน่ และ ต่อไปก็จะมี adsl 2+ มา ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 16 mb/s เล่น hd สบายๆ
เทคโนโลยีเดี๋ยวนี้ไปไว ubc ไม่ทำ เดี๋ยว ชินคอรป์มาทำก็เสร็จพอดี c)
-
ผมเห็นด้วยกับคุณตั้งไข่ครับ ดีวีดี ธรรมดาน่าจะอยู่ไปอีกนาน สาเหตุคือมันเป็นฟอร์แมทที่ตอบโจทย์ผู้บริโภททั่วๆไปได้ค่อนข้างสมบูรณ์ คือให้ภาพชัด และเสียงดีกว่าวีซีดี อย่างเห็นได้ชัดในความรู้สึกของคนทั่วไป ในราคาที่หาซื้อได้ง่าย ดังนั้น ถ้ามีฟอร์แมทใหม่ แต่ถ้าไม่ได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจนรู้สึกว่าแตกต่างในความรู้สึกของคนส่วนใหญ่ ผู้บริโภคอาจไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทำให้ตลาดไม่เกิดได้ครับ
ถ้ายกตัวอย่างเปรียบเทียบ ก็อย่างเช่น SACD หรือ DVD-Audio ก็เป็นฟอร์แมทที่ยังไม่ได้เกิด ทั้งที่คุณภาพดีกว่าซีดี สาเหตุน่าจะเป็นที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ไม่ค่อยเห็นความแตกต่างหรือความจำเป็นที่ต้องเปลี่ยนฟอร์แมท เพราะแค่ซีดีที่มีอยู่ก็เป็นฟอร์แมทที่ให้คุณภาพดีพอแล้วครับ ;)
-
วันนี้เห็นน้องๆที่ออฟฟิศเอาแผ่นวีซีดีมา ผมยังนั่งถามเลยครับว่าทำไมไม่ดูดีวีดีกัน ไม่มีเครื่องเล่นดีวีดีเหรอ ??? เค้าบอกว่ามี (เพราะปัจจุบันผมว่าเครื่องเล่นดีวีดีราคาไม่แพงและหาได้ง่ายกว่าเครื่องเล่นวีซีดี) แต่ว่าความรู้สึกเค้าคือว่า DVD ไม่ได้ให้ความแตกต่างกับ VCD เลย :shutup แล้วเค้าจะจ่ายแพงกว่าทำไม DVD ดีกว่าอย่างเดียวตรงไม่ต้องมานั่งเปลี่ยนแผ่น K] 2f จุดนี้ผมมองว่าเพราะระบบ hardware อย่างอื่นของเค้าไม่ได้อำนวยเช่นทีวีไม่ได้เป็นรุ่นใหม่มากที่จะแสดงศักยภาพความแตกต่าง และอาจไม่มีชุดโฮม (ซึ่งผมว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศไทยก็น่าจะเป็นกรณีนี้) เค้าก็บอกกันว่าเอาตังค์ที่ไปซื้อดีวีดีไปเข้าโรงหนังดีกว่าได้ดูที่ดีกว่าบ้านเค้าแน่ๆทั้งภาพและเสียง :doh
ส่วนเรื่อง SACD กับ DVD-Audio ผมเห็นด้วยกับคุณ RP7 ว่ามันก็น่าจะเข้าข่ายเดียวกันนี้ แต่มีข้อแตกต่างเพิ่มอีกตรงที่ว่าผมคิดว่าจุดขายหลักของระบบเสียงที่ทาง SACD และ DVD-Audio ต้องการจะสร้างความแตกต่างที่ชัดเจนจากซีดีธรรมดาตรงที่ น่าจะเป็นเรื่องระบบเสียง multi-channel ซึ่งดันไม่ไปตอบโจทย์ของผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อพอที่จะซื้อแผ่น SACD หรือ DVD-Audio เพราะเหล่านักเล่น audiophile ทั้งหลายยังหลงไหลกับมิติ และความสมจริงของเสียงที่ถูก reproduce ขึ้นมาให้มีเวทีเสียงอยู่ด้านหน้ามากกว่าเสียงโอบล้อมของ multi-channel SACD และ DVD-Audio เลยสามารถจับกลุ่มผู้บริโภคได้จำกัดมากๆอย่างเช่นปัจจุบันนี้ :)
-
เห็นน้องที่ออฟฟิศคุณตั้งไข่ บอกมาแบบนี้ ก็ได้แต่อึ้งเหมือนกันครับ เพราะความจริงดีวีดีแค่ต่อผ่านช่อง composite ผมว่ามันก็น่าจะเห็นได้ชัดแล้วว่าภาพดีกว่าวีซีดี
อีกส่วนหนึ่งที่เค้าว่าดีวีดีไม่แตกต่างจากวีซีดี อาจจะเป็นเพราะได้ดูแผ่นดีวีดีที่คุณภาพไม่ค่อยดีรึป่าวครับ เพราะดีวีดีบางแผ่นก็ให้ความรู้สึกที่ไม่แตกต่างจากวีซีดีเหมือนกัน� K] K]
ส่วนเรื่อง sacd เนี่ย ผมก็เป็นคนนึงที่หาซื้อแผ่นมาเก็บไว้เหมือนกัน แต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากมันเท่าที่ควร เนื่องจากยังไม่มีเครื่องเล่น sacd เลย :-[ อีกทั้งไม่ค่อยได้สนใจเรื่องระบบเสียง multi-channel ซักเท่าไหร่
เหตุผลหลักๆที่ซื้อก็คือ อัลบั้มนั้นๆยังไม่ได้หาซื้อเวอร์ชั่นที่เป็น cd มาเก็บไว้ พอเห็นมี sacd ออกมา ก็เลยเลือกที่จะเก็บเป็น sacd แทน เพราะเสียงน่าจะดีกว่าแผ่นปกติ (ไม่รู้คิดไปเองรึป่าว :wiggle ) มี package ที่สวยงามกว่า รวมไปถึงราคาซึ่งค่ายในไทยเอามาขายนั้น ไม่แพงเกินไป (ค่าย universal ราคาปกประมาณ 800 บาท, ค่าย emi แต่ก่อนราคาปก 500 บาท แต่ปัจจุบันขึ้นไปเป็น 800-1000 บาท แล้ว (( (( ) ซึ่งราคานี้เรียกว่าถูกกว่าสั่งแผ่นปกติจากเมืองนอกซะอีก ก็เลยเริ่มหาซื้อ sacd มาเก็บไว้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาครับ
-
บางครั้งเราคงต้องเปิดใจกว้างบ้างนะครับว่าไม่ใช่ทุกคนคิดเห็นอย่างเราหมด
จริง ๆ แล้วคนธรรมดา ๆ ส่วนใหญ่นั้นเขาไม่ได้ take serious เรื่องภาพและเสียงกันเท่าไหร่นัก เขาดูหนังกันครับ หนังดีหรือไม่ สนุกหรือไม่ ตลกหรือเศร้า นักแสดงสวยหรือเปล่า ส่วนเรื่องคุณภาพของภาพและเสียงนั้นที่ต้องการคือความชัดเจน เสียงชัดเจน แค่นั้น ผมว่านั่นคือคนส่วนใหญ่ คนอย่างในเวบเรานี่ต้องยอมรับนะครับว่าเป็นคนส่วนน้อย
ระบบ high definition นั้นถ้าออกมาสองระบบคือ HD-DVD Blu-ray แล้ว software ออกมาแยกกันราคาสองพันอัพ ผมฟันธงเลยว่าเดินซ้ำรอย SACD กะ DVD-Audio แน่นอน ผมถามคนเล่นทั่วไปมาเป็นร้อย ๆ แล้วครับว่าสนใจระบบความคมชัดสูงนี่มากน้อยแค่ไหน คำตอบคือสนใจแต่เมื่อเห็นราคา software แล้วทุกคนส่ายหน้าเหมือนกันหมด
-
เทป -> ซีดี
วีซีดี -> ดีวีดี
จะเห็นว่าคุณภาพต่างกันแบบเห็นได้ในสายตาคนส่วนใหญ่ ยังใช้เวลาพอสมควรในการปรับเปลี่ยนเลยครับ
ซีดี -> เอสเอซีดี
ดีวีดี -> HIDEF
คนส่วนใหญ่อาจไม่รู้สึกแตกต่างเท่าไหร่ โดยเฉพาะผู้ที่ใช่ชุดเครื่องเสียงธรรมดา หรือทีวีจอเล็ก
ผมเลยรู้สึกว่าน่าจะใช้เวลาอีกพอสมควรครับ :headphone
อีกอย่างการลงทุนคิดฟอร์แมทขึ้นมาใหม่ ถ้าไม่สามารถจับตลาดได้กว้างพอ น่าจะไม่คุ้มการลงทุนและโอกาสที่ซอฟแวร์ออกมาป้อนอย่างสม่ำเสมอน่าจะมีน้อยครับ ;)
-
มีข้อสังเกตุนิดนึงครับ เกี่ยวกับระบบการรองรับของภาพที่มากับรุ่นทีวี ต่างๆที่วางขายอยู่ตอนนี้
มันเริ่มจะเยอะมากขึ้น
ที่ผมสังเกตุเห็นอยู่มันมี พวก HD READY
ติดมาด้วย ไม่ว่าจะเป็นพวกจอ LCD , PLASMA
กับความละเอียดของจอภาพที่เยอะมากขึ้น
1368x768
พร้อมกับพวกช่องต่อที่เป็น dvi . hdmi
และที่ผมยังสงสัยอยู่อีกอย่างคือ
ทำไมเครื่องเล่น DVD ของค่าย SONY , TOSHIBA , PANASONIC , JVC
ส่วนใหญ่เห็นมีวางขายแต่จอภาพอ่ะครับ
เท่าที่ผมสังเกตุดู ยังไม่เห็นมีเครื่องเล่นที่เป็นช่องต่อพวกdvi,hdmi ออกมาขายบ้างอ่ะครับ
ใครมีข้อมูล ช่วยชี้แนะให้ด้วยครับ ???
-
ผมว่าถึงเวลานั้นก็คงเลิกใช้แผ่นเหมือนกัน น่าจะ download ผ่าน network หรือไม่ก็เอา hard disk เล็กๆ ไปเก็บมา