HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม โฮมเธียเตอร์ (HT) => ข้อความที่เริ่มโดย: cleaning ที่ 21 มีนาคม, 2012, 09:28:22 pm
-
ที่ว่ากันว่า หรือผมหาอ่านเจอกว่า
dac ดีกว่า cd player ในราคาเท่าๆกัน จริงหรือไม่เพราะอะไรครับ
ผมตอนนี้พอจะมีงบแล้วครับ 12000 ซึ่งก็ได้ มาร้าน ซีดี5004 ของใหม่ได้ครับ ราคาของใหม่11500 ครับ
ก็ว่าจะจัดมาร้าน แต่ก็ยังติดใจตรงที่ว่า dac ดีกว่า นี่แหละครับ
ว่าอย่างไรกันบ้างครับ วันสองวันนี้จัดแน่ๆครับ เต็ง1 มาร้าน5004 ครับ
เพราะผมเองใช้ แอมป์ มาร้าน5004 อยู่ครับ ลำโพง จาโม้ 604 อินฟินิตี่ 30 ครับ เล่นสลับกันเลยเพราะแอมป์มาร้านมันต่อได้สองคู่เลย
ขอบคุณมากครับ
-
เพราะว่า CD Player = CD Transport + DAC
ในราคาเท่ากัน เปรียบเทียบระหว่างซื้อแต่ DAC กับ ซื้อทั้ง Transport ทั้ง DAC
ซื้อแต่ DAC มันก็ต้องได้ของดีกว่าอยู่แล้วสิครับ
แต่แบบไหนเสียงดีกว่า
มันก็ขึ้นกับว่า ถ้าไม่ได้เอา CD มาเป็น Transport แล้วเอาอะไรมาเป็น
ถ้า Transport มันไม่ได้ดี ซื้อ CD Player ไปเลย มันก็อาจจะเสียงดีกว่าได้ครับ :D
-
เพราะว่า CD Player = CD Transport + DAC
ในราคาเท่ากัน เปรียบเทียบระหว่างซื้อแต่ DAC กับ ซื้อทั้ง Transport ทั้ง DAC
ซื้อแต่ DAC มันก็ต้องได้ของดีกว่าอยู่แล้วสิครับ
แต่แบบไหนเสียงดีกว่า
มันก็ขึ้นกับว่า ถ้าไม่ได้เอา CD มาเป็น Transport แล้วเอาอะไรมาเป็น
ถ้า Transport มันไม่ได้ดี ซื้อ CD Player ไปเลย มันก็อาจจะเสียงดีกว่าได้ครับ :D
แบบนี้ก็ต้องอาศัยภาค Transport ด้วยนะซิครับ ก็เห็นเขาคุยให้ฟังว่าใช้ dvd ครับ หรือไม่ก็เล่นจากคอมนี่แหละครับ
ผมมีงบน้อยพอจะจัดได้แค่ cd5004 ก็เลยอยากจะได้ที่ดีที่สุดครับ ในงบที่มีครับ
-
ถ้าฟัง CD เป็นหลัก ก็จัดเครื่องเล่น CD ไปเลยครับ
แต่ถ้าฟังจากไฟล์เป็นหลัก Com+Dac ดูจะเหมาะกว่านะครับ
^_^
-
ลองไปฟัง Nad DAC1 ดูซิครับ สะดวกดี เป็นDACไร้สาย
เอาตัวลูกเสียบคอม. ตัวแม่ต่อกับAmp. แล้วเล่นจากคอม
http://www.conice.co.th/Products/NAD/NAD-DAC-1.html
-
ไม่จริงครับ
-
ถ้าที่บ้านมี เครื่องเล่นที่ปล่อย digital out ได้อยู่แล้ว เช่น computer, notebook, cdrom, media player ลอง DAC จะคุ้มกว่าครับ
เห็นด้วยว่า ไม่จำเป็นว่า DAC จะดีกว่าเสมอไป ควรไปลองฟังดูครับ
เดี๋ยวนี้ถ้าเครื่องไม่มีรูปเปิดฝาเครื่องให้ดู แบบบ้านหม้อ ผมสงสัยไว้ก่อนครับว่าอาจไม่คุ้ม ;D
-
หากรุ่นราคาสูงๆ ออกมาในช่วงเวลาเดียวกัน DAC ราคาเท่า CD player มีโอกาสให้เสียงดี
กว่าCD player เพราะคิดง่ายๆว่ามีDAC ต้องไปหา CD transport อีก สายดิจิดีๆอีก ดีไม่ดีใช้งบ
บานปลายไปอีกเยอะ แต่หาก ตัวที่เอามาเป็นCD Transport คุณภาพไม่ดีเสียงอาจสู้ CD player
ไม่ได้นะครับ หากราคาไม่สูงผมมองว่าลองพิจารณา CD player ไปเลยดีกว่า :headphone
-
555 กระทู้แบบนี้อีกแล้ว จะบอกว่าปัจจัยที่เกี่ยวกับเสียงจริง ๆ คือ ต้นแบบ (Source) เช่น mp3-flace ถ้าจะเอามาเปรียบ source ต้องตัวเดียวกัน + ตัวกลาง dac cd - ลำโพงครับ
-
ถ้าเอา dac ต่อกับคอม มาเทียบกับแผ่น write audio บน cd ก็ต้องฟังจาก flace lossless ถึงจะเปรียบกันได้ แจ่ว่าถ้า mp3 ก็อีกเรื่องครับ
นอกจากนี้ยังมีระบบไฟฟ้่ามาเกี่ยวข้องด้วยครับ จริง ๆ แล้วตัวแปรเยอะมาก ดังนั้นใครตอบอะไรย่อมไม่ผิด ขึ้นอยู่กับวิธีที่ใช้ค
รับ
-
ลองวางแผนดูก่อนครับว่าจะเล่นอะไรบ้าง ถ้ามีแผนว่าจะเล่น home และ hi-resolution sound ก็ dac + media player ซึ่งจะเล่น Flac แบบ lossless ได้
อย่างที่บอกครับ เปิดฝาดูก็พอมองได้ว่าว่า CD หรือ DAC จะให้ความคุ้มค่าเทียบกันได้อย่างไร
อย่าเพิ่งดูแคลนพวก media player ลองใช้ linear power supply ถ้าทำเองก็ประมาณพันบาท เล่นเพลงจาก sd card ก็จะไม่มี มอเตอร์ มาแชร์กราว์ดเดียวกัน ลดสํญญาณรบกวนไปได้ดีเลยครับ
ราคา 12,000 สามารถหา dac ที่มี หลอดเป็น buffer แถมยังมีเงินเหลือซื้อ media player ที่เล่น flac ได้อีกครับ
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องอุปกรณ์เท่านั้น เสียงเป็นเรื่องของความชอบ ลองหาฟังดูครับ ถ้าไม่แน่ใจก็ลอง Double blind test ดู (ถ้ามีเพื่อนๆให้ยืมเล่นนะครับ)
-
ลองเข้าไปหาที่มุม Diyครับ บอกใด้แค่นี้ครับ ผมใช้ CD6000 ose + DAC จบเลยครับ ลองค่อยๆศึกษาครับ
http://www.diyaudiovillage.net/index.php?board=20.0
-
โห จขกท ถามข้อมูลแบบนี้กี่ที่เนี้ย คำตอบของคนเล่น 10คน100คน มันก็ต่างกันออกไป ซื้อของไม่ต้องคิดมากขนาดนั้นก็ได้นะ ผมเห็นท่านซื้อมาเสร็จ....จับโม บางอย่างอายุก็ไม่ถึงเดือนขาย หาข้อมูลมากไปมันงงน่ะ
-
โห จขกท ถามข้อมูลแบบนี้กี่ที่เนี้ย คำตอบของคนเล่น 10คน100คน มันก็ต่างกันออกไป ซื้อของไม่ต้องคิดมากขนาดนั้นก็ได้นะ ผมเห็นท่านซื้อมาเสร็จ....จับโม บางอย่างอายุก็ไม่ถึงเดือนขาย หาข้อมูลมากไปมันงงน่ะ
เดือนเดียวยังไม่ทัน เบิร์น เลย........เครื่องเสียงอย่าใจร้อนครับ ค่อยๆเล่น ค่อยๆฟังไป :clap :clap :clap
-
ซื้อตามวัตถุประสงค์การใช้งานดีกว่า
ใช้กับคอม ก็ DAC
เน้นแผ่น ก็ cd player โลด
-
ผมไปฟังmarantz cd5004 มาแล้วครับ ไม่โดนครับ ฟังกับแอมป์+ลำโพงชุดทีผมใช้อยู่เพียงเติม cd เข้าไป ฟังแล้วไม่ชอบเลยครับ ที่เขาว่ากันว่า marantz เสียงจะหนานุ่ม ผมฟังแล้วเสียงออกสดเลยไม่เห็นหนานุ่มเลยครับครับ ฟังแล้วไม่ชอบ ฟังแล้วรู้สึกเครียด ก็เลยไม่ได้เอา
อีกวันผมไปฟัง dac ก็ถูกใจเลยจัด poppluse pcm1796 mark II มาครับ เอามาเล่นกับ บูลเรย์ฟิลิป ครับ รุ่น3200 ราคา2990 ทำไมมันถูกจังตอนแรกจะไปเอา pioneer dv610 4090บาท พอไปเจอบูลเรย์มั้นถูกกว่า และผมเอามาอ่านแผ่นอย่างเดียวก็เลยเอาบูลเรย์มาดีกว่าเผืออนาคตได้หน่อย เล่นไฟล์ mkv ทาง usb ได้ด้วย แต่ไม่รู้ว่าเล่นไฟล์เกิน 4 GB ได้หรือเปล่า ยังไม่ได้ลองเลยครับ
-
ถ้าCD marantz เสียงที่ลำลือมาไม่นับรุ่นใหญ่ จบอยู่ที่ รุ่น 6000ose ครับถ้ารุ่นหลังๆ เล่นใด้ถ้าเอามาเป็นทรานสปรอตครับ
-
เห็นห้อง diy เขาทำ DAC กับเอา CD ROM ของคอมมาใช้กัน ไม่รู้ว่าในงบที่เท่ากันกับ CD Player อันใหนจะดีกว่ากันนะครับ .... แต่ถ้าใช้แอมป์ 5004 จัด CD 5004 ไป เรื่องเสียงผมไม่รู้นะ แต่ได้ความสวย เข้าคู่กันดีครับ ;D
-
อยากให้ความเห็นนิดนึงครับ ในอีกมุมมองละกัน
เล่น cd player เล่นง่ายกว่า จบง่ายกว่า เปลี่ยนแปลงได้ง่ายกว่าถ้าไม่ชอบ
เล่น dac จบลำบากหน่อย ต้องหา matching ดี ๆ จนกว่าจะเจอ ราคาก็ไม่ใช่ย่อย ไหนจะตัวแปลง ตัวลด jitter ตัวสร้าง clock อีก transport ดี ๆ อีก จบลำบากนะครับ แต่ดูเหมือนว่าจะเล่นสะดวก ๕๕๕
-
อยากให้ความเห็นนิดนึงครับ ในอีกมุมมองละกัน
เล่น cd player เล่นง่ายกว่า จบง่ายกว่า เปลี่ยนแปลงได้ง่ายกว่าถ้าไม่ชอบ
เล่น dac จบลำบากหน่อย ต้องหา matching ดี ๆ จนกว่าจะเจอ ราคาก็ไม่ใช่ย่อย ไหนจะตัวแปลง ตัวลด jitter ตัวสร้าง clock อีก transport ดี ๆ อีก จบลำบากนะครับ แต่ดูเหมือนว่าจะเล่นสะดวก ๕๕๕
ก็มีส่วนจริงครับ ผมชื้อdac มา9300 ต้องมาหา Transport อีก 4090 บาท สาย coax อีก แต่สายcoax ผมไม่เน้นเท่าไรผมใช้ของถูกๆBELDEN RG179 ส่วนสายสัญญานก็ใช้ของร้านนัฐพงษ์ เมตรละ220บาท+หัวยี่ห้อเดียวกันก็ตกเส้นละ500บาท
ตอนนี้marantz 5003 ออกมาปล่อยสองตัวเลยที่ ocz
ในวงการนี้ถ้าหลงเข้ามาจบไม่ลงทุกคนครับผมว่า ถ้าคนที่ชื้อใช้จริงๆ เขาจะไม่เข้ามาอ่านมาถามเลย คนที่เข้ามาอ่านมาถามเดียวก็เปลียนครับ
-
อยากให้ความเห็นนิดนึงครับ ในอีกมุมมองละกัน
เล่น cd player เล่นง่ายกว่า จบง่ายกว่า เปลี่ยนแปลงได้ง่ายกว่าถ้าไม่ชอบ
เล่น dac จบลำบากหน่อย ต้องหา matching ดี ๆ จนกว่าจะเจอ ราคาก็ไม่ใช่ย่อย ไหนจะตัวแปลง ตัวลด jitter ตัวสร้าง clock อีก transport ดี ๆ อีก จบลำบากนะครับ แต่ดูเหมือนว่าจะเล่นสะดวก ๕๕๕
ก็มีส่วนจริงครับ ผมชื้อdac มา9300 ต้องมาหา Transport อีก 4090 บาท สาย coax อีก แต่สายcoax ผมไม่เน้นเท่าไรผมใช้ของถูกๆBELDEN RG179 ส่วนสายสัญญานก็ใช้ของร้านนัฐพงษ์ เมตรละ220บาท+หัวยี่ห้อเดียวกันก็ตกเส้นละ500บาท
ตอนนี้marantz 5003 ออกมาปล่อยสองตัวเลยที่ ocz
ในวงการนี้ถ้าหลงเข้ามาจบไม่ลงทุกคนครับผมว่า ถ้าคนที่ชื้อใช้จริงๆ เขาจะไม่เข้ามาอ่านมาถามเลย คนที่เข้ามาอ่านมาถามเดียวก็เปลียนครับ
marantz cd 5003ผมปล่อยออกไปไม่เกิน 6000- ไหงไปๆมาๆ ราคามันถีบตัวขึ้นไปได้หว่า
จริงดูจากการเล่นของท่าน ก็ดูแอบหลงทาง ไม่รู้ว่าอ่านเยอะไปหรือปล่าว...
เวลาอยากได้อะไร ก็หาซื้อตามที่ต้องการ อย่าไปซื้อเผื่อๆ อย่างจะเอามาฟังแผ่นcd อย่าไปซื้อเครื่องเล่น dvd หรือจะดูdvd อย่าไปซื้อเครื่องเล่น bluray อะไรแบบนั้น ไม่งั้นท่านไม่จบแน่
-
เรื่องเสียงอะไรดีกว่ากันผมขอไม่พูดถึงละกัน
แต่ผมขอพูดถึงเรื่องแนวโนมในคต ที่ไม่นาน Dac ก็จะมาเป็นส่วนหนึ่งในระบบแน่นอน
วันนี้ไม่เล่นในวันข้างหน้าก็อาจจะต้องซื้อหามาเล่นอยู่ดี ครับ
ลองสังเกตุดูว่าปัจจุบันค่ายเครื่องเสียง ผลิตเครื่องเล่น cd น้อยลงและเริ่มผลิต Dac ที่รองรับเทคโนโลยี
ในการฟังเพลงจาก file losslass กันมากขึ้น แล้วด้วยเทคโนโลยี่ของการบันทึกที่เก็บคุณภาพที่ได้เทียบเท่ากับ studio ซึงคุณภาพทึ้งแผ่น cd ไปอีกสเตปคล้ายๆ DVD ไป bluray
ถ้าเป็นนักเล่นที่จะย้ายข้ามไปเล่นไฟล์ HD ก็คงไม่พ้นต้องใช้ dac ละครับ ซึ่งจะเป็น เทรนด์ ในอนาคตไม่กี่ปีนี้แน่นอนครับ
-
ขอบคุณมากครับ