HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม โฮมเธียเตอร์ (HT) => ข้อความที่เริ่มโดย: อูฐ ที่ 18 มิถุนายน, 2012, 11:41:38 pm
-
บทความนี้ผมเขียนจากประสพกราณ์เท่านั่้นน่ะคับ ไม่ยืนยันว่าถูกต้อง และ ไม่มีทฤษฏี รอรับน่ะคับ
ผมขอเริ่มต้นโดยการให้เรียงความสำคัญ ในการที่จะทำให้ทีวี โชว์ประสิทธภาพ สูงสุด ดังต่อไปนี้
1 สำคัญ ที่ สุด ตำแหน่ง ในการวาง ทีวี และ ตำแหน่ง นั่ง ชม
2 การปรับภาพ
3 สายไฟ และ ระบบ ไฟ
4 สาย hdmi และ อุปกรณ์ เสริม อื่น ๆ
มาเข้าในรายละเอียด
1 ตำแหน่งในการวางทีวี ตำแหน่งในการวางทีวี ควรวางไว้ในตำแหน่ง ที่ไม่มีแสงสะท้อนหน้าจอ หรือ แสงสว่างอื่น รบกวน ในตำแหน่งแสงสว่างกวนน้อยสุด ก็จะได้ภาพที่ดีที่สุด อนุโลมให้มีแสงสว่างที่เป็นแสงสว่างเฉพาะจุดได้ในตำแหน่งหลังทีวี และ ในตำแหน่งหลังคนนั่ง ไม่ควรมีแสงสว่าง ระหว่าง ตำแหน่งนั่งชมกับจอทีวีเด็ดขาด คับ สำหรับ แสงสว่างหลังตำแหน่งคนนั่งชม จำเป็นมาก ๆ สำหรับ พวก smart interactive tv คับ เพราะตัวกล้องที่จับเราต้องโฟกัสมาที่แสงสว่างในมือเรา ดังนั้น ถ้าห้องมืด คำสั่งพวกนี้ใช้ไม่ได้น่ะคับ ดังนั้นการมีแสงสว่างหลังทีนั่งชมก็จำเป็นสำหรับทีวีพวกนี้ และ ไม่ไปทำลายคุณภาพของภาพ ทีวี มากน่ะ อ่อ ส่วนการดูทีวี 3d ย้ำเลยน่ะว่าต้องมืดอย่างเดียวเท่านั่้น ห้ามมีแสงสว่าง เล็ดลอดเด็ดขาด มิฉะนั่น จะเห็นการกระพริบของแสง และจะปวดตา มึนหัว ได้ ถ้าห้องมืดสนิท และ ตำแหน่งนั่งดูถูกต้อง จะดูได้อรรถรส และ ไม่มึนหัวคับ ส่วนแสงสว่างหลังทีวี ถ้าคุมแสงได้ดี ก็กลับจะทำให้การมองภาพทีวี เป็น สามมิติมากขึ้นได้อ่ะคับ แต่ถ้าจะเอาแบบดูจับผิดและ ดุแบบทดสอบ ก็ปิดไฟมืดหมดอ่ะคับ ดีที่สุด ตำแหน่งถ้าวางไม่ดี มีเงาสะท้อน มีแสงสะท้อน ต่อให้เซียนปรับภาพดีแค่ไหน ก็ดูไม่สวยหรอกคับ หมออูฐ ฟันธง ส่วนตำแหน่งของคนนั่งกับระยะของจอ ผมอ่านบทความของฝรั่ง หรือ ตามเวป ต่าง ๆ จะมีว่า จอเท่านี้ ต้องนั่งห่างเท่านี้ สำหรับผมจะเลือกจอใหญ่ที่สุดเท่าที่เงินจะซื้อได้ไว้ก่อน เหตุผล มันแปลกมาก ไม่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์รองรับน่ะคับ การดูจอทีวีใหญ่ ๆ แรก ๆ อาจจะรู้สึก มึนหัวบ้างสำหรับบางคน แต่เชื่อไหมว่า ถ้าเรานั่งในตำแหน่งที่ถูกต้อง และสายตาปรับตัวได้ ความรู้สึกมึนหัวจะหายไปเอง และ จะรู้สึกทีวีเล็กลงๆ เรื่อยๆ (ความเห็นส่วนตัวผมน่ะ) แต่ข้อเสียของจอใหญ่คือ ถ้ามีภาพที่ไม่ชัดมัีนก็จะยิ่งฟ้องความไม่ชัดออกมา ดังนั้น ใครคิดจะเล่นทีวีจอใหญ่มาก ๆ ต้องเน้น พวกจากดาวเทียมดีๆ กล่องดี ๆ บูรเรย์ดีๆ เพื่อให้ภาพชัดที่สุดน่ะคับ และก็มีเรื่องแปลกอีกเรื่อง ซึีงจะขัดแย้งกับบทความข้างต้นของผมเอง คือ ถ้าทีวีใหญ่ ราว 55 โดด ไป 80 เราจะมองมึนหัวในตอนแรก และ ถ้าตาปรับตัวได้มันจะรู้สึกใหญ่สะใจ แต่กับ โปรเจคเตอร์ ถ้าตำแหน่งนั่งห่างไม่เกิน 3 เมตร เพิ่มจากจอ 100 นิ้ว เป็น 150 นิ้ว จะดูแล้วอึดอัด เหมือนมันใหญ่เกิน อ่ะ อาจเป็นเพราะมันต้องปิดไฟมืดดูและมันใหญ่มาก ๆ เกินกว่าตำแหน่งที่นั่งห่าง ดังนั้น กับ โปรเจคเตอร์ที่ จอใหญ่เกิน 100 ขึ้นไป ผมว่าต้องคำนึงถึงระยะห่างของการนั่งชมอ่ะคับ และตำแหน่งนั่งชม ควรจะตรงตำแหน่ง 90 องศา ระหว่างเรากับจอทีวีน่ะคับ อย่าเอียงสูงไป ต่ำไป เพราะสมาชิกในเวปเราเป็นโรคปวดคอเพราะตั้งทีวีสูงเกินไปต้องแหงนคอดุน่ะคับ และทีวีหลายเครือง เวลาดูเอียง ๆ ภาพจะไม่ค่อยสวยอ่ะคับ
2 การปรับภาพ การปรับภาพนี่จำเป้นสุด ๆ เครืองราคาเป็นหมื่นได้ภาพเป็นแสน เครื่องเป็นแสนได้ภาพเป็นหมื่น ก็เกิดจากการปรับภาพนี่อ่ะคับ หัวข้อนี้ผมไม่กล้าเขียนเยอะเพราะผมรู้ไม่จิง และ เวปนี้เซียนเรื่องนี้เยอะมาก ให้เซียนๆ มาคุยดีกว่า ผมให้หลักการง่าย ๆ ไว้ สองหัวข้อ ปรับภาพ พื้นฐาน และ การปรับภาพเชิงลึก ปรับภาพพื้นฐาน คือการปรับภาพค่ามาตฐานทั่วไป contrast brightness sharpness color ทีวี โดยส่วนใหญ่ ค่าที่สวย จะอยู่ราว ๆ นี้ contrast 80 ถึง 95 brightnes 40 ถึง 55 sharpness 10 ถึง 35 color 48 ถึง 53 hue เกือบทุกเครื่อง ค่า ตรงกลาง หรือ บวกลบ หนึ่ง การปรับค่าเชิงลึก พวก white balace และค่า grama ต่าง ๆ การปรับค่าพวกนี้ ต้อง มี pattern ในการปรับ และ เครื่องมือในการปรับ แต่บางคนก็ใช้ตาตัวเองปรับได้สวยเหมือนกัน การปรับค่าพวกนี้ htg2 เลยจัดงานไปเรียนที่ deco แล้ว ผมไม่พูดซ้ำ ล่ะกัน ทีวีบางเครื่อง จะมีคำสั่งพวกแปลก ๆ เช่น คำสั่ง เกี่ยวกับ motion คำสั่ง เกี่ยวกับ filter จากประสพกราณ์ ได้พวกคำสั่งแปลก ๆ พวกนี้ ส่วนมากให้ได้อย่างแล่วเสียอีกอย่าง ดังนั้น โดยส่วนตัวจะ off เกือบทุกคำสั่งคับ ทีวี ต่อให้ใช้ สายเป็นแสน เครื่องกรองไฟเป็นล้าน ถ้าปรับภาพไม่ดี ก็ไม่ได้ภาพที่สวยอ่ะคับ ฝึกปรับภาพ ให้ดีเสียก่อน แล้วค่อยไปเสียเงินเรื่องอื่นอ่ะคับ
ไว้ว่าง ๆ เรามาจัด อบรมการปรับภาพกันอีกไหมคับ
3 เรื่องสายไฟ และ ระบบไฟ อันนี้ผมให้ความสำคัญ มากกว่าสาย hdmi เสียอีก (อาจจะไม่ตรงกับท่านอื่นน่ะคับ) สายไฟ แพงที่สุด ไม่ใช่ให้ภาพดีที่สุด น่ะคับ สายไฟ อะไรให้ภาพดีที่สุด คำตอบคือ " ไม่รู้ " ผมว่ามันก็คล้าย ๆ สายสัญญาณ สายลำโพงอ่ะ คือ มัน ต้อง จูน ให้ matching กับ system ของเรา สายไฟ เรื่องภาพนี่ก็ใกล้เคียงกัน บางเส้นให้ความเข้มของสี บางเส้นให้ความคมชัด บางเส้นให้เฉดสีที่เปลี่ยนไป อย่าลงทุนกับสายไฟเส้นล่ะหลายหมื่น ๆ หรือเป็นแสน กับ ทีวี แค่ 50 ถึง 60 นิ้ว ผมว่าไม่คุ้ม ให้ลงทุนระบบไฟก่อน อันนี้สำคัญ เพราะเราเปลี่ยนทีวี หรือ เครื่องเสียง ระบบไฟ ก็อยู่กับความตลอดไป เดินสายไฟเมนแยก ใช้สายไฟ เส้นใหญ่ ๆ เต้ารับ ดี ๆ ยังแนะนำ oyaide r1 furutech gtx สำหรับ ภาพ คับ สายไฟกับเครื่องกรองไฟ อันไหนสำคัญกว่ากัน ถ้าจะคุยเฉพาะเรื่องภาพตอบยาก เครื่องกรองไฟ ไม่ใช่ทุกเครื่องจะให้ภาพสวย แต่ส่วนใหญ่จะช่วยในแง่ดีได้ เกือบทั้งหมด จะช่วย เรื่อง น๊อยส น้อยลงอ่ะคับ พอภาพสะอาด มิติของภาพของจะลอยมาเอง ส่วนเรื่องความคมชัด ความเข้มของสี และ เฉดสี อันนี้ไม่แน่ ผมอันหลังนี้ สายไฟ เห็นผลกว่า แต่สิ่งที่สำคัญของเครื่องกรองไฟ คือ ส่วนใหญ่ช่วยปกป้อง ทีวีของเรา ผมเองเปลี่ยนทีวีมาเยอะ ตัวที่ผมมีเครื่องกรองไฟ คุมทุกตัว ผมไม่เคยเสียอ่ะคับ ส่วนตัวที่ไว้ตามห้องรับแขก ที่ทำงาน ที่ไม่มีเครื่องกรองไฟ เห็นมีเสีย สอง สามเครื่อง ดังนั้น ผมว่าเครืื่องกรองไฟ สมควรลงทุนอย่างมากคับ แบตหมด อยู่อุดร ไว้มาเขียนใหม่
-
เห็นด้วยครับ โดยเฉพาะข้อ 3 :clap :clap :clap
-
:clap :clap :clap
-
โอ้... Guru มาเอง
O0 O0 O0
ถ้ามีเรียนปรับภาพครั้งหน้า ไม่พลาดละครัีบ
:headphone
-
O0 O0 O0 O0 O0
ข้อ 3 ใช้ได้ผลจริง ๆ ครับ ของผม Libero Silver Tran เป็นสายไฟ มีกระเปาะกรองตรงกลาง ใช้แล้วน๊อยส์หายเกือบหมด
-
สนใจเรื่องปรับภาพอะฮะ พอมีเวลามาเขียนอีกนะทั่น
;D
-
ท่านเซียนอูฐมาเองเยย
สำหรับผมจะปรับ basic ก่อนจ้ะ เคล็ดสำหรับปรับ LED ของผมคือเล่นค่าต่ำสุดไว้ก่อน ปิดตัวช่วยทั้งหมด ค่อย ๆ ปรับจนภาพเข้าที่เข้าทาง ในสมองควรมี mem ภาพที่ควรจะเป็นอยู่ด้วยนะจ๊ะ ปรับไปเรื่อย ๆ สี่ห้าวันก็จะได้ภาพที่ต้องการ เสร็จแล้วค่อยไปปรับ color temp ปรับสีทีละสี ค่อย ๆ ไปเรื่อย ๆ ทีละน้อย ดูแผ่นที่คุ้นเคยไปเรื่อย ๆ ใช้แบบภาพเต็มจออย่างแผ่น ref ของผมก็ Avatar เป็นต้น จะได้ดูง่าย ๆ หน่อย
accessories นี่แล้วแต่กำลังเงินและความเชื่อ ฮี่ ฮี่ ส่วนใหญ่เสียตังค์ไปก็จะได้อะไรมาบ้างแหล่ะ คุ้มไม่คุ้มอีกเรื่อง ใช้ให้ชินแล้วค่อย ๆ ปรับต่อไป ทีวีเครื่องนึงก็ปรับประมาณซักเดือนนึงก็โอ ใช้เวลาหน่อย
-
- เรื่องปิดตัวช่วยนี่ ใช่เลยครับ อย่างพวกลด noise อะไรพวกนี้ ปิดไป...ผมว่าภาพดีกว่า
- เมนไฟและระบบกราวน์ ก็สำคัญมาก เสียงจะสะอาด มีบรรยากาศ มากขึ้น
- การที่จะปรับในแต่ละส่วน ทั้งภาพและเสียง ก่อนที่จะปรับอะไร ควรจะต้องรู้ว่า
มันเป็นปัญหาอย่างไร และจะปรับไปเพื่ออะไร อย่างเรื่องภาพ ควรจะต้องรู้ก่อน
ว่าที่จะต้องปรับ ปัญหาคืออะไร จะเข้าไปปรับส่วนไหน ปรับแล้วแก้ปัญหาที่ต้องการได้รึยัง
- อย่างเรื่องเสียงก็เหมื่อนกัน สมมุติ sub เสียงไม่ได้ ก็ต้องไปดูด้วยว่า
เราตั้งลำโพงคู่หลักได้ลงตัวหรือยัง เพราะ เสียงของ sub และเสียงของลำโพงคู่หลัก
จะทำงานสอดคล้องกัน ควบคู่กัน อะไรประมาณนี้
- แล้วจะรู้ได้อย่างไร ว่ามันดีแล้ว สำหรับผม เอาความพอใจส่วนตัวก่อน ตัวเองต้องชอบก่อน
เรื่องภาพก็ต้องหาค่าเฉลี่ยของหลายเรื่อง เรื่องเสียงก็ต้องหาค่าเฉลี่ย จากเพลงหลายๆประเภท
นึกอะไรออกจะมาช่วยเพิ่มเติมครับ
-
อันนี้เจอกับตัว ... ;D
สำหรับคนสายตา สั้น หรือ ยาว ตัดแว่นดูหนังโดยเฉพาะครับ
เพราะร้านที่ตัดแว่นให้เรามักจะ ตัดแว่นในค่าเฉลี่ยเสมอ เน้นไปทางมองใกล้ หรือเน้นมองไกล
หากเราสั่งตัดแว่นสำหรับ มองไกลโดยเฉพาะ จะได้ภาพที่สวย และมีมิติมากขึ้นครับครับ
ราคาก็ไม่ได้แพงมาก กรอบก็ไม่ต้องดีมาก เลนท์ ก็ไม่ต้องบางมาก เพราะใช้ที่บ้านเท่านั้น ;D
ลองดูนะครับ ^-^
-
เสริมข้อสอง ค่าwhite balance ถ้าปรับได้ดีๆ จะดูสบายตาขึ้นเยอะเลยครับ
-
เรื่องภาพผมเฉยๆ แล้วครับ เพราะคนทำภาพทุกวันนี้ ไม่ว่าจะ ทีวี หรือหนัง พอมีเท็คโนโลยีช่วยเยอะ กลับ ถ่ายภาพแบบสุกเอาเผากิน หนัง drama ภาพ คมๆก็ใส่ soft filter ทำจนเบลอ หนัง action ก็ภาพจากคอมเลนเดอร์ล้วนๆ เอาเฟรมมาซ้อนกันจนเยอะ ไปหมด ใช้ computer render แบบผ่านๆไป ถ่ายพลาดอะไรก็ไปแก้ในคอม ทำให้ดู smooth ในขณะเดียวกัน tv บ้านเราก็ไม่พัฒนาเลย สุดท้ายจะดูภาพชัดๆ ได้ไปดู hidef คอนเสริทเกาหลี กับหนังโป๊ว av กับแผ่น BD แต่จะดูได้สักกี่รอบ หนังต่อให้ดีแค่ไหน ก็ดูเบื่อ หลังๆมา ubc ส่ง hidef แต่ก็ไม่รู้ hidef ประเภทไหน ความคมยังห่าง อเมริกา ญี่ปุ่นเกาหลีเยอะ ตอนนี้ผมเลยเอาแค่พอดูสนุกรู้เรื่องพอแล้ว ภาพก็ปรับให้ตรงๆสีไม่เพี้ยน สีสดคมหน่อย อาจจะไม่ต้องถูกต้อง 100% ก็ได้ ใน 2 ล้าน pixel ถ้าจะมีสัก 2000 พิกเซลสีเพื้ยน ผมก็พอรับได้ครับ (เฉพาะ tv นะ )
ที่บอกๆมาไม่มีอะไรมาก ผมเคยหมดไปกับระบบภาพเยอะ จนสุดท้ายมันกองเป็นขยะ อย่าง projector สามเลนส์ vidikon vision 1 ซื้อมาเกือบสามล้าน ตอนนี้ปลูกสระแน่ infocus 777 720p ตัวละ 1 ล้าน มีคนมาขอซื้อต่อ ไม่กี่หมื่น ผมรีบแทบจะแบกไปส่งบ้าน ไม่รวม TV LED LCD Plasma รุ่นท๊อปอีกหลายตัว ที่ตอนนี้เอาไม่มีที่ไว้จนต้องเอาไปตั้งให้คนใช้ดูละคร อาจจะดูน่าหมั่นใส้ แต่เรื่องจริงครับ ของเท็คโนโลยี พอเก่าๆตกรุ่นมันก็ไม่มีค่าอะไรเลย plama 40 นิ้วตัวแรกผม ซื้อมา 4 แสน รับ hidef ยังไม่ได้ด้วยซ้ำ 555 ไม่รวมสายอะไรสารพัด hdmi version 1 1.1 1.2 1.3 1.4 1.4a ต่อไปคงจะมี version สองอีก ผิดกับ 2ch แผ่นเสียงเก่าๆ ราคาขึ้นเป็นหมื่นๆ งงดี เอาว่าไม่มีอะไรมากครับ แค่ฝากเป็นแง่คืิดในการลงทุนกับระบบภาพครับ อยากให้ภาพดีขึ้น มีเงินเท่าไหร่ก็ไม่พอครับ
-
พี่ท่านนี้ ตอบได้ถูกใจ กด LIKE ให้ 100 ครั้งครับ ..........
-
เรื่องภาพผมเฉยๆ แล้วครับ เพราะคนทำภาพทุกวันนี้ ไม่ว่าจะ ทีวี หรือหนัง พอมีเท็คโนโลยีช่วยเยอะ กลับ ถ่ายภาพแบบสุกเอาเผากิน หนัง drama ภาพ คมๆก็ใส่ soft filter ทำจนเบลอ หนัง action ก็ภาพจากคอมเลนเดอร์ล้วนๆ เอาเฟรมมาซ้อนกันจนเยอะ ไปหมด ใช้ computer render แบบผ่านๆไป ถ่ายพลาดอะไรก็ไปแก้ในคอม ทำให้ดู smooth ในขณะเดียวกัน tv บ้านเราก็ไม่พัฒนาเลย สุดท้ายจะดูภาพชัดๆ ได้ไปดู hidef คอนเสริทเกาหลี กับหนังโป๊ว av กับแผ่น BD แต่จะดูได้สักกี่รอบ หนังต่อให้ดีแค่ไหน ก็ดูเบื่อ หลังๆมา ubc ส่ง hidef แต่ก็ไม่รู้ hidef ประเภทไหน ความคมยังห่าง อเมริกา ญี่ปุ่นเกาหลีเยอะ ตอนนี้ผมเลยเอาแค่พอดูสนุกรู้เรื่องพอแล้ว ภาพก็ปรับให้ตรงๆสีไม่เพี้ยน สีสดคมหน่อย อาจจะไม่ต้องถูกต้อง 100% ก็ได้ ใน 2 ล้าน pixel ถ้าจะมีสัก 2000 พิกเซลสีเพื้ยน ผมก็พอรับได้ครับ (เฉพาะ tv นะ )
ที่บอกๆมาไม่มีอะไรมาก ผมเคยหมดไปกับระบบภาพเยอะ จนสุดท้ายมันกองเป็นขยะ อย่าง projector สามเลนส์ vidikon vision 1 ซื้อมาเกือบสามล้าน ตอนนี้ปลูกสระแน่ infocus 777 720p ตัวละ 1 ล้าน มีคนมาขอซื้อต่อ ไม่กี่หมื่น ผมรีบแทบจะแบกไปส่งบ้าน ไม่รวม TV LED LCD Plasma รุ่นท๊อปอีกหลายตัว ที่ตอนนี้เอาไม่มีที่ไว้จนต้องเอาไปตั้งให้คนใช้ดูละคร อาจจะดูน่าหมั่นใส้ แต่เรื่องจริงครับ ของเท็คโนโลยี พอเก่าๆตกรุ่นมันก็ไม่มีค่าอะไรเลย plama 40 นิ้วตัวแรกผม ซื้อมา 4 แสน รับ hidef ยังไม่ได้ด้วยซ้ำ 555 ไม่รวมสายอะไรสารพัด hdmi version 1 1.1 1.2 1.3 1.4 1.4a ต่อไปคงจะมี version สองอีก ผิดกับ 2ch แผ่นเสียงเก่าๆ ราคาขึ้นเป็นหมื่นๆ งงดี เอาว่าไม่มีอะไรมากครับ แค่ฝากเป็นแง่คืิดในการลงทุนกับระบบภาพครับ อยากให้ภาพดีขึ้น มีเงินเท่าไหร่ก็ไม่พอครับ
ผมว่า..ความสำคัญมันก็พอๆกัน ทั้ง ภาพและเสียง อย่างที่เฮียอูฐแกพูดถึง คือ เรื่องทำให้อุปกรณ์
มันเต็มประสิทธิภาพ ของเรามีอยู่แล้ว ก็ทำที่ให้แสดงศักยภาพมากที่สุด เท่าที่จะทำได้ ก็เป็นเรื่องดี(ที่สุด)
ส่วนคุณ b3344 บ่นเรื่องเทคโนโลยี่ มันก็จริงอย่างที่บอกออกมา อุปกรณ์ที่แพงแสนแพงในวันนั้น
ดีที่สุดของวันนั้น พอเวลาผ่านไป เทคโนโลยี่ใหม่ที่ดีกว่าเข้ามาแทนที่ ของเก่าก็จะหมดราคาและคุณค่าทันที
แต่ฟังราคาเมื่อเทียบกับปัจจุบันแล้ว...ก็น่าตกใจพอควร
เรื่องพอไม่พอมันก็แล้วแต่ กระเป๋าเงินใครผลิตเงินได้มาก กิเลสก็อาจจะมากตาม
เล่นมากก็อาจเจ็บมาก แต่มันก็แลกกับความสุขในที่ได้รัยกับมา คิดมาก...ก็เจ็บมาก
แต่เชื่อว่าคุณ b3344 กำลังสำรองคงยังมีอีกเยอะ ถ้าจะเล่นต่อไป...
-
เห็นด้วยมากๆ เรื่องปรับภาพครับ
ไม่จ้างปรับ ก็ซื้อแผ่นมาศึกษาก็ยังดี
ไม่ได้แพงมากจนเกินไปนัก เมื่อเทียบกับอุปกรณ์ต่างๆ
แถมให้ผลลัพท์ที่เกินราคาแน่นอนครับ O0
-
เรื่องภาพผมเฉยๆ แล้วครับ เพราะคนทำภาพทุกวันนี้ ไม่ว่าจะ ทีวี หรือหนัง พอมีเท็คโนโลยีช่วยเยอะ กลับ ถ่ายภาพแบบสุกเอาเผากิน หนัง drama ภาพ คมๆก็ใส่ soft filter ทำจนเบลอ หนัง action ก็ภาพจากคอมเลนเดอร์ล้วนๆ เอาเฟรมมาซ้อนกันจนเยอะ ไปหมด ใช้ computer render แบบผ่านๆไป ถ่ายพลาดอะไรก็ไปแก้ในคอม ทำให้ดู smooth ในขณะเดียวกัน tv บ้านเราก็ไม่พัฒนาเลย สุดท้ายจะดูภาพชัดๆ ได้ไปดู hidef คอนเสริทเกาหลี กับหนังโป๊ว av กับแผ่น BD แต่จะดูได้สักกี่รอบ หนังต่อให้ดีแค่ไหน ก็ดูเบื่อ หลังๆมา ubc ส่ง hidef แต่ก็ไม่รู้ hidef ประเภทไหน ความคมยังห่าง อเมริกา ญี่ปุ่นเกาหลีเยอะ ตอนนี้ผมเลยเอาแค่พอดูสนุกรู้เรื่องพอแล้ว ภาพก็ปรับให้ตรงๆสีไม่เพี้ยน สีสดคมหน่อย อาจจะไม่ต้องถูกต้อง 100% ก็ได้ ใน 2 ล้าน pixel ถ้าจะมีสัก 2000 พิกเซลสีเพื้ยน ผมก็พอรับได้ครับ (เฉพาะ tv นะ )
ที่บอกๆมาไม่มีอะไรมาก ผมเคยหมดไปกับระบบภาพเยอะ จนสุดท้ายมันกองเป็นขยะ อย่าง projector สามเลนส์ vidikon vision 1 ซื้อมาเกือบสามล้าน ตอนนี้ปลูกสระแน่ infocus 777 720p ตัวละ 1 ล้าน มีคนมาขอซื้อต่อ ไม่กี่หมื่น ผมรีบแทบจะแบกไปส่งบ้าน ไม่รวม TV LED LCD Plasma รุ่นท๊อปอีกหลายตัว ที่ตอนนี้เอาไม่มีที่ไว้จนต้องเอาไปตั้งให้คนใช้ดูละคร อาจจะดูน่าหมั่นใส้ แต่เรื่องจริงครับ ของเท็คโนโลยี พอเก่าๆตกรุ่นมันก็ไม่มีค่าอะไรเลย plama 40 นิ้วตัวแรกผม ซื้อมา 4 แสน รับ hidef ยังไม่ได้ด้วยซ้ำ 555 ไม่รวมสายอะไรสารพัด hdmi version 1 1.1 1.2 1.3 1.4 1.4a ต่อไปคงจะมี version สองอีก ผิดกับ 2ch แผ่นเสียงเก่าๆ ราคาขึ้นเป็นหมื่นๆ งงดี เอาว่าไม่มีอะไรมากครับ แค่ฝากเป็นแง่คืิดในการลงทุนกับระบบภาพครับ อยากให้ภาพดีขึ้น มีเงินเท่าไหร่ก็ไม่พอครับ
เห็นด้วยคับ
ว่างเอาประสพกราณ์ อั้นมากมายมาคุยกับเพื่อนสมาชิกหน่อยน่ะคับ
ของผมเอง สามเลนซ์ สองเครื่อง ก็เอาไปทิ้งนานแล้ว
แต่เรื่องพวกนี้ มัน นานา จิตตัง แล้วแต่คนชอบ เหมือนคนเล่นกล้องอ่ะคับ
ท่าน เบ๋นซ์ งาน meeting มาเจอกันหน่่อยซิ อยากเจออ่ะคับ
-
โทษที โรงแรมที่อุดร เน็ท มันห่วย ติด ๆ ดับ ๆ
ต่อไม่ถูกเลยแฮะ
อ่อ
ต่อหัวข้อที่สาม กล่าวโดยสรุป พวกเครื่องกรองไฟ ช่วยเรื่องมิติของภาพ และ อายุการใช้งานของเครื่อง เครื่องกรองไฟ ที่แนะนำ ของ magnet cleff สายไฟ โดยส่วนใหญ่จะช่วยเรื่องความเข้มความอิ่มของสี และ เฉดสี และความคมของภาพ บางเส้น เห็นใช้กันเยอะ wireworld furutech ส่วนตัวชอบ furutech 314ag ถูกและดี เรื่องความเขัมของสี
4 สาย hdmi คงไม่ต้องเถียงกันแล้วน่ะคับ ว่าสาย hdmi มีผลต่อภาพหรือไม่ มีผลแน่นอน แต่ผมก็ยังยืนยันว่า สายที่แพงที่สุด ไม่ใช่ให้ภาพได้ดีที่สุด อ่ะคับ มันขึ้นอยู่กับการ matching ทั้งระบบ และ ที่สำคัญทีสุดการปรับแต่งภาพนั่น ๆ ใช้สายให้สั่้นที่สุด อย่าโค้งงอสายเด็ดขาด ชั่วโมงนี้ เลือกซื้อ 1.4 อยางเดียวเท่านั้น สาย hdmi เป็นสิ่งที่สนุกสำหรับการเล่น เพราะ บางเส้น ให้ความคม บางเส้นให้ความเข้มของสี บางเส้นเปลี่ยนเฉดสีไปเลย(เหลือเชื่อ) พยายามเลือก สายที่ให้ความคมสูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง ความเข้มของสี เป็นอันดับสอง สิ่งที่สำคัญมาก ๆ คือ เวลาเปลี่ยนสาย hdmi ทุกครั้ง ควรตั้งค่า white balance ใหม่ทุกครั้ง เพราะเปลี่ยนสาย hdmi ใหม่ ค่า white banlace ส่วนใหญ่ จะเปลียนไปแน่นอน คับ แล้วไอ้พวกทีวี จอแค่ 32 นิ้ว ถึง 42 นิ้ว ไม่ต้องไปเสียเงินซื้อ สาย hdmi เป็นหมื่น เป็น แสน น่ะ มันไม่คุ้มหรอก เพราะถ้ามีปัญญาซื้อสาย hdmi แพงขนาดนั่น เปลี่ยนทีวีเครื่องใหม่ใหญ่กว่าเดิมคุ้มกว่า และได้สาย hdmi นี่ มันก็ไม่ได้ทำให้ภาพ ดีขึ้นเป็น สองเท่าน่ะคับ
แนะนำเสริม พวกน้ำยาทาขั้วต่าง ๆ ถ้าซื้อมาทาได้ก็ดีน่ะคับ ข้อดีคืออะไร ก็แล้วแต่จะทดลอง แต่ข้อเสียไม่มีแน่นอน อย่างน้อย ช่วยปกป้องขั้วต่าว ๆ ให้สะอาด และทางเดินสัญญาณ สะอาดที่สุดอ่ะคับ มีแต่ได้ไม่มีเสีย ยกเว้นเสียเงินน่ะคับ
สรุป ซื้อทีวีมาปั๊บ หาตำแหน่งวางที่ดีที่สุด และ ตำแหน่งนั่้งชม เลือกเครื่องกรองไฟ และ สายไฟ เลือก สาย hdmi จ้างคนมาปรับภาพ หรือ หา แผ่นมาฝึกปรับภาพเอง
มันมีขอละเอียดปลีกย่อยอีกเยอะ แต่ให้ผู้รู้จิง มาคุยบ้างดีกว่า ผมรู้ไม่จิงมาชวนคุย หนุก ๆ
-
สาย hdmi ที่โดยรวม ดูดี ตามราคา merrexkable 0 cable gold plated chord wireworld furutech
-
แนะนำ
...........
สายไฟ ที่ให้ภาพแจ่มมาก ๆ WW Gold Electra เมตรละ 2 หมื่น :cold เมืองนอกไม่มีขายแล้ว เพราะออกรุ่นใหญ่ Platinum
ใครสนใจ ลองติดต่อท่าน Akeshipping ... ไม่รู้ปล่อยไปหมดหรือยัง
รองลงมา WW Silver Electra ราคาลดลงบ้างแล้ว ( ผมใช้รุ่นนี้อยู่ เมื่อก่อน เมตรละหมื่น )
ท่าน RCDragon เคยแนะนำ 7N ( ผมเคยลอง 6N แล้วสีสันสวยจริง ) ... แต่ก็มีบางท่านแนะนำ JPS ผมยังไม่ได้ลอง
Furutech 314Ag ราคาย่อมเยา ของท่านกัม
...........
สาย HDMI เน้นความคมชัด - AQ Vodka
สาย HDMI เน้นความคมชัด + เสียง : AQ Coffee ( มันคือ Vodka + 72 DBS ) ... เสียงดีกว่า Vodka พอควรครับ ด้านภาพต่างกันไม่มากครับ Recommend สำหรับต่อเข้า AVR
สาย HDMI เน้น Motion ไหลลื่น : Chord Active Silver Plus ( ตัวนี้ ผมปล่อยอยู่ห้องซื้อขาย )
...........
ท่านใดสนใจทดลองน้ำยา Merlin เชิญทางนี้ครับ
http://www.magicboxaudio.com/want-to-test-merlin/
รับประกันครับ ... ทาปุ๊ป เห็นผลปั๊ป ;D
Review โดยดร.ชุมพล
http://www.magicboxaudio.com/review-merlin-by-dr-chumpol-audiophile/
Review โดยเพื่อนนักเล่นทั้งหลาย กว่า 80 ท่าน
http://www.magicboxaudio.com/mini-review-merlin/
------
หากจะเน้นเรื่องการให้ภาพสะอาดไร้ Noise ให้ความคมชัด สีอิ่มเข้ม ฉากหลังดำ *** ให้ภาพดูเป็น 3 มิติเหมือนจริง ***
ต้องลอง Enigma Mk2 ... ย้ำความมั่นใจด้วย 30 วันคืนเงินเต็มจำนวน หากท่านไม่พอใจ
Review จากพี่ ๆ เพื่อน ๆ ในนี้
http://www.htg2.net/index.php?topic=78829.0
PS : กระทู้ท้ายสุด มีเพื่อนจำใจมาปล่อยในราคาพิเศษสุดครับ
-
เรื่องภาพผมเฉยๆ แล้วครับ เพราะคนทำภาพทุกวันนี้ ไม่ว่าจะ ทีวี หรือหนัง พอมีเท็คโนโลยีช่วยเยอะ กลับ ถ่ายภาพแบบสุกเอาเผากิน หนัง drama ภาพ คมๆก็ใส่ soft filter ทำจนเบลอ หนัง action ก็ภาพจากคอมเลนเดอร์ล้วนๆ เอาเฟรมมาซ้อนกันจนเยอะ ไปหมด ใช้ computer render แบบผ่านๆไป ถ่ายพลาดอะไรก็ไปแก้ในคอม ทำให้ดู smooth ในขณะเดียวกัน tv บ้านเราก็ไม่พัฒนาเลย สุดท้ายจะดูภาพชัดๆ ได้ไปดู hidef คอนเสริทเกาหลี กับหนังโป๊ว av กับแผ่น BD แต่จะดูได้สักกี่รอบ หนังต่อให้ดีแค่ไหน ก็ดูเบื่อ หลังๆมา ubc ส่ง hidef แต่ก็ไม่รู้ hidef ประเภทไหน ความคมยังห่าง อเมริกา ญี่ปุ่นเกาหลีเยอะ ตอนนี้ผมเลยเอาแค่พอดูสนุกรู้เรื่องพอแล้ว ภาพก็ปรับให้ตรงๆสีไม่เพี้ยน สีสดคมหน่อย อาจจะไม่ต้องถูกต้อง 100% ก็ได้ ใน 2 ล้าน pixel ถ้าจะมีสัก 2000 พิกเซลสีเพื้ยน ผมก็พอรับได้ครับ (เฉพาะ tv นะ )
ที่บอกๆมาไม่มีอะไรมาก ผมเคยหมดไปกับระบบภาพเยอะ จนสุดท้ายมันกองเป็นขยะ อย่าง projector สามเลนส์ vidikon vision 1 ซื้อมาเกือบสามล้าน ตอนนี้ปลูกสระแน่ infocus 777 720p ตัวละ 1 ล้าน มีคนมาขอซื้อต่อ ไม่กี่หมื่น ผมรีบแทบจะแบกไปส่งบ้าน ไม่รวม TV LED LCD Plasma รุ่นท๊อปอีกหลายตัว ที่ตอนนี้เอาไม่มีที่ไว้จนต้องเอาไปตั้งให้คนใช้ดูละคร อาจจะดูน่าหมั่นใส้ แต่เรื่องจริงครับ ของเท็คโนโลยี พอเก่าๆตกรุ่นมันก็ไม่มีค่าอะไรเลย plama 40 นิ้วตัวแรกผม ซื้อมา 4 แสน รับ hidef ยังไม่ได้ด้วยซ้ำ 555 ไม่รวมสายอะไรสารพัด hdmi version 1 1.1 1.2 1.3 1.4 1.4a ต่อไปคงจะมี version สองอีก ผิดกับ 2ch แผ่นเสียงเก่าๆ ราคาขึ้นเป็นหมื่นๆ งงดี เอาว่าไม่มีอะไรมากครับ แค่ฝากเป็นแง่คืิดในการลงทุนกับระบบภาพครับ อยากให้ภาพดีขึ้น มีเงินเท่าไหร่ก็ไม่พอครับ
เห็นด้วยคับ
ว่างเอาประสพกราณ์ อั้นมากมายมาคุยกับเพื่อนสมาชิกหน่อยน่ะคับ
ของผมเอง สามเลนซ์ สองเครื่อง ก็เอาไปทิ้งนานแล้ว
แต่เรื่องพวกนี้ มัน นานา จิตตัง แล้วแต่คนชอบ เหมือนคนเล่นกล้องอ่ะคับ
ท่าน เบ๋นซ์ งาน meeting มาเจอกันหน่่อยซิ อยากเจออ่ะคับ
ผมเองไม่ค่อยได้เล่นเยอะหรอกครับ แต่ที่ผ่านมากับระบบภาพ เจ็บตัวมาเยอะเลยให้ความเห็นอีกมุมครับ สาย hdmi ที่ต่อ PJ มีกองอยู่สามสี่แส้น เส้นละหลายหมื่น แต่ทุกวันนั้นใช้ไม่ได้ซะแล้ว อาจจะใช้ได้แต่ ไม่ optimize
ยังไงยินดีครับ ป๋าอูฐ ถ้ามีโอกาส จะขอไปคาราวะ สักรอบครับ c) c)
-
Merrex hdmi 0 gold plated วันนี้น่าจะดีและคุ้มค่ามากสุดแล้ววันนี้ แนะนำเหมือนเสี่ยอูฐจ้ะ
เส้นละเป็นหมื่น ๆ ที่บ้านผมไม่มีแล้ว ขายกินหมดแล้วจ้ะ
สายไฟเพิ่ม Transparent อีกตัวแบบตัดขายรุ่น reference เปลือกสีน้ำเงิน ภาพสวย สีดี
-
ที่บอกๆมาไม่มีอะไรมาก ผมเคยหมดไปกับระบบภาพเยอะ จนสุดท้ายมันกองเป็นขยะ อย่าง projector สามเลนส์ vidikon vision 1 ซื้อมาเกือบสามล้าน ตอนนี้ปลูกสระแน่ infocus 777 720p ตัวละ 1 ล้าน มีคนมาขอซื้อต่อ ไม่กี่หมื่น ผมรีบแทบจะแบกไปส่งบ้าน ไม่รวม TV LED LCD Plasma รุ่นท๊อปอีกหลายตัว ที่ตอนนี้เอาไม่มีที่ไว้จนต้องเอาไปตั้งให้คนใช้ดูละคร อาจจะดูน่าหมั่นใส้ แต่เรื่องจริงครับ ของเท็คโนโลยี พอเก่าๆตกรุ่นมันก็ไม่มีค่าอะไรเลย plama 40 นิ้วตัวแรกผม ซื้อมา 4 แสน รับ hidef ยังไม่ได้ด้วยซ้ำ 555 ไม่รวมสายอะไรสารพัด hdmi version 1 1.1 1.2 1.3 1.4 1.4a ต่อไปคงจะมี version สองอีก ผิดกับ 2ch แผ่นเสียงเก่าๆ ราคาขึ้นเป็นหมื่นๆ งงดี เอาว่าไม่มีอะไรมากครับ แค่ฝากเป็นแง่คืิดในการลงทุนกับระบบภาพครับ อยากให้ภาพดีขึ้น มีเงินเท่าไหร่ก็ไม่พอครับ
อย่าไปยึดติดราคาถ้าเราพอใจกำลังทรัพมีไม่กระทบได้มาแล้วมีความสุขทำไปเถาะครับความสุขของเราไม่มีใครมาคอยป้อนให้ กลับจากทำงานมีความสุขกับตรงนี้ก็พอ
-
ขอบคุณครับ ความรู้เพียบ
-
HDMI อีกยี่ห้อที่ผมแนะนำ ราคาไม่แพงครับ :)
ผมใช้รุ่น 7HEC ยาว 10 เมตร 1 เส้น และ 9HEC 2 เมตร 1 เส้น เท่าที่ใช้อยู่ทั้งภาพและเสียงโอมากๆครับ
รองรับ 1.4 และ 3D ครับ Lifetime Warrantee
http://www.tributariescable.com/products/hdmi/hdmicable.cfm
คืนนี้ถ้าว่าง จะลองเทียบกับ Wireworld Platinum ดูครับ