HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม Thai DIY Audio => ข้อความที่เริ่มโดย: nut_ty ที่ 15 พฤศจิกายน, 2012, 10:39:26 pm
-
http://www.ebay.com/itm/252274277350 (http://www.ebay.com/itm/252274277350)
http://www.ebay.com/itm/252294948594 (http://www.ebay.com/itm/252294948594)
http://www.ebay.com/itm/252294949901 (http://www.ebay.com/itm/252294949901)
http://www.ebay.com/itm/252297247152 (http://www.ebay.com/itm/252297247152)
(http://images.tapatalk-cdn.com/16/01/25/541902f5e27309d2117b614900b689cf.jpg)
(http://images.tapatalk-cdn.com/16/01/25/ad1b942859a305058fa258ecd77a8d1c.jpg)
(http://images.tapatalk-cdn.com/16/01/25/53056ed5ef2ba725d3299127aea9adb1.jpg)
(http://images.tapatalk-cdn.com/16/01/25/145170434030cd7bc97f67f6070e821b.jpg)
(http://images.tapatalk-cdn.com/16/01/25/29ffa438ea89abbc0a7be9f0d361125b.jpg)
(http://images.tapatalk-cdn.com/16/01/25/a69a165aa5bbe97f3d6e48775e430427.jpg)
(http://images.tapatalk-cdn.com/16/01/25/5c6a512eab5f6f44aa60f6d8f63c0fb5.jpg)
(http://images.tapatalk-cdn.com/16/01/25/16e99963538ea46e95bbbe8d89c4dd2a.jpg)
FIRST WATT DIY AMPLIFIER ENCLOSURE
MINI ALEPH ALEPH3 ALEPH30 F1 F2 F3 F4 F5 F6 F7 M2 J2 SIT1 SIT2 VFET
Only 250USD for full enclosure unit and shipping cost 100USD++ or less depend on distance or country !
If you're outside USA you can directly order my 99% size matched to original designed Enclosure, PCBs and Etc. via my PayPal account : scalaraudio@hotmail.com
I have all of original designed in my listening room. Yes I'm audiophile & Suck Cloned Guys ! but I think you will be happy with my idea of cloning, too
Welcome to our product of CLASS-A AMPLIFIER ENCLOSURE.
It made from 100% Solid Aluminum suitable for your HI-END DIY schematic/board such as Aleph3, Aleph30, First Watt F1 - F6, M2, J2, SIT1, SIT2 or etc.
There're 2 colors of Face Plate > Black and White.
There're 2 type of Back Panel > Stereo and MONO.
99.99% size matched to original designed of HI-END brand.
If you need suitable boards for this case. You can tell me everything you want I shall do for the best.
Ship with high grade Stout card board with solid foam base and foam corners.
Dimensions: 430 W x 385 D x 143 H mm
Weight: 10kg
Can not ship to China, Vietnam, Hongkong and Taiwan !
FIRST WATT M2 (Transformer Coupling & Complementary Mosfet Output)
FIRST WATT J2 (Direct Coupling & Signle Ended Jfet Output)
ถ้าคุณเป็นผู้ที่เคย DIY แอมป์ Aleph 30 โดยดูจาก Service Manual ที่คุณ เนลสัน ได้แจกจ่ายออกมา หรือ สั่งซื้อ PCB มาจาก Ebay และ คิดว่านั่นถูกต้องแล้ว ให้ข้ามกระทู้นี้ไป แต่ถ้าคุณคิดว่าแอมป์ที่ผมมีอยู่ กำลังจะเฉลยอะไรบางอย่าง ที่ติดค้างในใจใครบางคน ก็ให้ติดตามให้ดี งานนี้มีเฮ...อุปปะ กังนำสไตล์
แอมป์ Aleph 30 ตัวนี้เป็นตัวที่ 2 ในชีวิตผมที่ได้มันมา ตัวแรกได้มาเมื่อปี '51 ฮี้ทซิ้งค์จะเป็นแบบเฉียงๆ แนว F5, J2 รุ่นปัจจุบัน ก็ขายมันไปแระ เพราะตอนนั้นได้ Pass X350 มาเชยชม (เกือบแกะวงจรกรุ๊ปบายซะด้วย) ตัวที่สอง ได้มาเมื่อกลางๆ ปีที่แล้ว แต่พอดีติดช่วงน้ำท่วมก็เลยเก็บมันยัดลงกล่อง จนคิดไปว่าขายมันไปแล้ว 2f ตัวนี้เสียงมนๆ อิ่มๆ พิลึก แต่ก็ชอบ ไม่ขายซะด้วย ^-^
ถามว่าเห็นอะไหล่แล้วอยากจะโมฯ มันมั้ย...แน่นอนครับ ผมไม่เปลี่ยนฟิวส์ ความสามารถผมมีมากกว่านั้น ผมอยากจะเอา POWER JFET ยัดลงไป แต่งบประมาณมันสูงลิบลิ่ว คงจะไม่ไหว
อย่างเป็นที่ทราบกันว่าผมได้เปิดจำหน่าย กล่อง + ฮี้ทซิ้งค์ ของแอมป์รุ่น First Watt J2 เอาไว้ ก็ประจวบเหมาะกับแอมป์ตัวนี้ ซึ่งน่าจะยัดกันลงได้แบบพอดี (โฆษณา ชวนเชื่อ)
(http://image.ohozaa.com/i/a1f/q16yxg.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/wstPPpFOn9FadQci)
(http://image.ohozaa.com/i/7ad/Atpw5c.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/wstQ032gSotu5lBP)
(http://image.ohozaa.com/i/a59/y7ak1U.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/wstQljLbTfsUsfOB)
(http://image.ohozaa.com/i/9c2/ib9lO9.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/wstQb2npFjA0c5db)
-
เพื่อง่ายต่อการอธิบาย ผมจะอ้างอิง Service Manual ที่ถูกแจกจ่ายออกมาจากเว็บของ Pass Labs เองเลย
อันดับแรก ขอให้ดูที่ ตัวต้านทาน R8 ที่คร่อมอยู่กับ C11 ตัวนี้ ไม่มีในบอร์ดครับ ข้ามไปเลย
อันดับสอง R1 ที่มีรูป * ตรงนั้นค่าของมันคือ 47.5K
อันดับสาม R18 ไม่ใช่ 1.5K แต่ที่จริงมันคือ 4.75K
นอกจากนี้ยังมีอีกประมาณ 3-4 จุด สำคัญๆ พรุ่งนี้ค่อยมาว่ากันต่อ
(http://image.ohozaa.com/i/78a/pBeiQR.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/wstUeniWIiXAK1Jd)
-
เทคนิคภาคจ่ายไฟของ Pass Labs ทุกรุ่น ที่มีแจกวงจรในอินเตอร์เน็ท โดนวางยาครับ ต้องซื้อมาแกะถึงจะเข้าใจ เคล็ดลับมันอยู่ที่ลาย PCB ใช่ว่าจะขีดๆ เขียนๆ แล้วให้ไฟวิ่งผ่าน มันจะต้องออกแบบให้มีความต่างศักย์ของกราวนด์เกิดขึ้น ความลับตรงนี้ ขออนุญาตเฉลยวันหลังละกัน
วันนี้ ดิจิตอลมิเตอร์ เจ๊งโดยมิได้บอกกล่าวล่วงหน้า ก็เลยไม่ได้วัดไฟ เพื่อเทียบกับ Service Manual อันนี้ต้องขออภัยอย่างยิ่ง ตอนขับรถเข้าบ้านก็ว่าจะซื้อในเซเว่น ก็ดันลืมซะ สงสัยวันนี้ตะลอนขับรถมากไปหน่อย
(http://image.ohozaa.com/i/f2d/LlljBv.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/wsudRmkebCy8Bczl)
(http://image.ohozaa.com/i/fc1/W5dJON.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/wsufxA4Jynzsl7pF)
(http://image.ohozaa.com/i/6ce/6xd8hP.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/wsufFJAq4YuXyFal)
-
ความลับเยอะนะเนี้ย :black_eye
-
ความลับเยอะนะเนี้ย :black_eye
เวลาไม่ค่อยมีน่ะครับ ต้องอธิบายด้วยองค์ประกอบจริงๆ
-
เพื่อง่ายต่อการอธิบาย ผมจะอ้างอิง Service Manual ที่ถูกแจกจ่ายออกมาจากเว็บของ Pass Labs เองเลย
อันดับแรก ขอให้ดูที่ ตัวต้านทาน R8 ที่คร่อมอยู่กับ C11 ตัวนี้ ไม่มีในบอร์ดครับ ข้ามไปเลย
อันดับสอง R1 ที่มีรูป * ตรงนั้นค่าของมันคือ 47.5K
อันดับสาม R18 ไม่ใช่ 1.5K แต่ที่จริงมันคือ 4.75K
นอกจากนี้ยังมีอีกประมาณ 3-4 จุด สำคัญๆ พรุ่งนี้ค่อยมาว่ากันต่อ
(http://image.ohozaa.com/i/78a/pBeiQR.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/wstUeniWIiXAK1Jd)
Y] Y] Y] บางจุดที่มาร์คไว้และไม่มีการใส่ค่า น่าจะเป็นจุดในการสำหรับวัดค่า และการปรับแต่งวงจรจริงซะมากกว่าน่ะครับ ซึ่งทุกเครื่องอาจจะไม่เหมิอนกัน แต่มาตราฐานที่ออกมานั้นเหมือนกันตามมาตราฐานของเนลสัน มันต้องมีคำอธิบายเรื่องการปรับแต่งด้วก็ดีเน๊อะพี่ Nut_ty จะได้เข้าใจหลักการทำงานของมันอีกเยอะ อย่าง C11 นี่หลักใหญ่ ๆ เป็นการป้องกันไฟ DC ที่อาจจะมีการรั่วไหลจากภาคอินพุท ถือว่าเป็นการป้องกันจุดออ่นตรงนั้นครับ ผมมองและเข้าเป็นอย่างนั้นครับพี่
-
ที่จริงใน DiyAudiowiki ก็พอจะอธิบายหลักการทำงานของรุ่นนี้ไว้ละเอียดพอสมควร แต่เป็นในเชิง DIY ไม่ได้อ้างอิงถึงเครื่องคอมเมอเชี่ยล ก็คงจะต้องวัดเป็นจุดๆ ไป ถ้าเราจะเก็บข้อมูลตรงนั้น แต่มีอยู่จุดหนึ่งที่ผมสังเกตได้ว่า Service Manual ทำผมเขวก็คือ AC GAIN ไม่เห็นจะตรงตามนั้นเลย เลาๆ ว่าจะเป็นยาที่วางไว้รึเปล่า
-
ตัวนี้แหละ ตรงใจ O0
-
ที่จริงใน DiyAudiowiki ก็พอจะอธิบายหลักการทำงานของรุ่นนี้ไว้ละเอียดพอสมควร แต่เป็นในเชิง DIY ไม่ได้อ้างอิงถึงเครื่องคอมเมอเชี่ยล ก็คงจะต้องวัดเป็นจุดๆ ไป ถ้าเราจะเก็บข้อมูลตรงนั้น แต่มีอยู่จุดหนึ่งที่ผมสังเกตได้ว่า Service Manual ทำผมเขวก็คือ AC GAIN ไม่เห็นจะตรงตามนั้นเลย เลาๆ ว่าจะเป็นยาที่วางไว้รึเปล่า
คงไม่วางยาหรอกมั้ง น่าจะเป็นปริศนาที่ทางเนลสันใส่ทิ้งไว้ให้เราคิดเล่น ๆ ส่วนผู้ลอกก็คงลอกทุกเม็ดจนงง :D :D มั้งผมคิดอย่างนั้น แอมป์แบบนี้ผมว่ามันทำงานได้ทั้ง 2 รูปแบบทั้งแบบ Balance และ Unbalance โดยไม่ต้องไปปรับแต่งส่วนใด ๆ ทั้งสิ้น การอ้างอิงคิดว่าต้องอ้างอิงในแบบ Unbalance ส่วนเรื่อง Balance เป็นผลพลอยได้แต่บังเอิญว่ามันดียอดเยี่ยมเสียด้วยสิ O0 O0 O0 :victory :victory
-
เทคนิคภาคจ่ายไฟของ Pass Labs ทุกรุ่น ที่มีแจกวงจรในอินเตอร์เน็ท โดนวางยาครับ ต้องซื้อมาแกะถึงจะเข้าใจ เคล็ดลับมันอยู่ที่ลาย PCB ใช่ว่าจะขีดๆ เขียนๆ แล้วให้ไฟวิ่งผ่าน มันจะต้องออกแบบให้มีความต่างศักย์ของกราวนด์เกิดขึ้น ความลับตรงนี้ ขออนุญาตเฉลยวันหลังละกัน
วันนี้ ดิจิตอลมิเตอร์ เจ๊งโดยมิได้บอกกล่าวล่วงหน้า ก็เลยไม่ได้วัดไฟ เพื่อเทียบกับ Service Manual อันนี้ต้องขออภัยอย่างยิ่ง ตอนขับรถเข้าบ้านก็ว่าจะซื้อในเซเว่น ก็ดันลืมซะ สงสัยวันนี้ตะลอนขับรถมากไปหน่อย พาเจ้าลูกชายคนใหม่ Parasound JC 2 ไปเยี่ยมเพื่อนฝูง กระดี๊ กระด๊า กันใหญ่ จะขอแกะดูข้างใน ไอ้เรื่องแกะน่ะ โดนแน่ๆ แต่ไม่ใช่วันนี้ :secret
(http://image.ohozaa.com/i/f2d/LlljBv.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/wsudRmkebCy8Bczl)
น้า Nutty O0 ว่าแต่อย่าลืมมาเฉลยด้วยน่ะครับ อยากรู้มาก ๆ ครับ
DIY ในไทยคงจะได้ความรู้จากจุดนี้ไม่น้อยเลยครับ
-
นั่งงมไปงมมา ไม่เห็นมันจะตรงตามที่คู่มือบอกสักเท่าไหร่ แต่ก็หยวนๆ ว่ามันคงจะทำงาน (ดี/ไม่ดี) หากทำตาม Service Manual สุดท้ายก็คงไม่มีอะไรมากมาย เดี๋ยวจะแกะ PCB แระ แล้วค่อยมาดูว่า IRF244 กับ IRFP244 ต่างกันมากน้อยเพียงไร
ภาคจ่ายไฟ ไว้รอช่วงว่างๆ จะแกะออกมาอธิบายอีกทีครับ แต่ไม่ตรงตามคู่มือเลยแม้แต่น้อย แน่นอนว่ามันส่งผลเรื่องอิมพีแดนซ์ของภาคจ่ายไฟเต็มๆ ขอบคุณที่มีเครื่องอยู่ในมือ c)
(http://image.ohozaa.com/i/254/w0nLse.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/wsyCBwgEJ7Q7YKxm)
(http://image.ohozaa.com/i/c18/RP8IyV.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wsyELafLDauG1pAj)
-
งานนี้ได้ความรู้อีกเพียบเลย
-
อุเหม่ๆ ท่าน nut_ty มีเรื่องมาให้ตื่นเต้นอยู่เรื่อยเล้ยไม่เป็นอันทำงานแล้วเนี่ย ไฟแรงจัง ตามต่อๆ
-
ล้มเลิกโปรเจ็ค J2 ไปแล้วเหรอ อย่่าเด็ดขาดเลยนะครับ มีคนรอเล่นกันเยอะเลย สู้ๆ :D
-
ล้มเลิกโปรเจ็ค J2 ไปแล้วเหรอ อย่่าเด็ดขาดเลยนะครับ มีคนรอเล่นกันเยอะเลย สู้ๆ :D
เปล่าครับ รอโรงงานส่งต้นแบบมาน่ะ พรุ่งนี้เช้าคงได้รับพัสดุ ส่วน Aleph 30 เป็นหนึ่งในคอลเล็คชั่น สำหรับท่านที่เคยประกอบเอาไว้ แล้วข้องใจเรื่องวงจร ผมก็เลยถือโอกาสอธิบายครับ
-
จากรูปที่ Post สรุปว่า R 8 ทั้ง 2 ตัวไม่ต้องใส่
R 1 ใช้ค่า 47.5 K
R18 ใช้ค่า 4.75 K ถูกต้องไหมครับ
-
จากรูปที่ Post สรุปว่า R 8 ทั้ง 2 ตัวไม่ต้องใส่
R 1 ใช้ค่า 47.5 K
R18 ใช้ค่า 4.75 K ถูกต้องไหมครับ
แม่นแล่ว :drive1
-
ขอบคุณครับ
-
เทคนิคภาคจ่ายไฟของ Pass Labs ทุกรุ่น ที่มีแจกวงจรในอินเตอร์เน็ท โดนวางยาครับ ต้องซื้อมาแกะถึงจะเข้าใจ เคล็ดลับมันอยู่ที่ลาย PCB ใช่ว่าจะขีดๆ เขียนๆ แล้วให้ไฟวิ่งผ่าน มันจะต้องออกแบบให้มีความต่างศักย์ของกราวนด์เกิดขึ้น ความลับตรงนี้ ขออนุญาตเฉลยวันหลังละกัน
วันนี้ ดิจิตอลมิเตอร์ เจ๊งโดยมิได้บอกกล่าวล่วงหน้า ก็เลยไม่ได้วัดไฟ เพื่อเทียบกับ Service Manual อันนี้ต้องขออภัยอย่างยิ่ง ตอนขับรถเข้าบ้านก็ว่าจะซื้อในเซเว่น ก็ดันลืมซะ สงสัยวันนี้ตะลอนขับรถมากไปหน่อย พาเจ้าลูกชายคนใหม่ Parasound JC 2 ไปเยี่ยมเพื่อนฝูง กระดี๊ กระด๊า กันใหญ่ จะขอแกะดูข้างใน ไอ้เรื่องแกะน่ะ โดนแน่ๆ แต่ไม่ใช่วันนี้ :secret
(http://image.ohozaa.com/i/f2d/LlljBv.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/wsudRmkebCy8Bczl)
น้า Nutty O0 ว่าแต่อย่าลืมมาเฉลยด้วยน่ะครับ อยากรู้มาก ๆ ครับ
DIY ในไทยคงจะได้ความรู้จากจุดนี้ไม่น้อยเลยครับ
หลักการของมันก็คือ ศักย์ของกราวนด์ DC จะต้องอยู่เหนือ (ต่าง) กับกราวนด์ของ AC เพียงเล็กน้อย ก็เพื่อว่าในขณะที่เกิดกระแสไหลผ่านหม้อแปลง จนไปถึงกระบวนการชาร์จประจุเข้า FILTER CAP จะเกิดริปเปิ้ลขึ้นเล็กน้อยจากการนำกระแสของ BRIDGE RECTIFIER ซึ่งในช่วงนี้เอง ถ้าเราเกิดใช้กราวนด์ศักย์เดียวกัน ระหว่าง AC IN กับ DC OUT มันก็จะเกิดการดึงกระแส กระชากจนสวิทช์สึกหรอ (รูปธรรม) ดังนั้นการใช้กราวนด์ DC และ กราวนด์แท่น ต้องพึงออกแบบให้ดี เราก็จะได้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้นด้วย (นามธรรม)
-
คุณ นัทตี้ อย่างงี้ F5 ที่ทำๆกันตามวงจร แล้วมันจะต่างกับตัวของจริงรึเปล่า หรือมีอะไรบางอย่างซ่อนไว้ รบกวนคุณนัทตี้ซื้อมาโคลนหน่อย 2f c) :victory :yahoo
-
คุณ นัทตี้ อย่างงี้ F5 ที่ทำๆกันตามวงจร แล้วมันจะต่างกับตัวของจริงรึเปล่า หรือมีอะไรบางอย่างซ่อนไว้ รบกวนคุณนัทตี้ซื้อมาโคลนหน่อย 2f c) :victory :yahoo
เท่าที่ทราบ ไม่ต่างครับ มือสองอยู่ที่ 75,000 แต่เป็นไฟ 110VAC ไม่กล้าสั่งมาใช้ครับ เดี๋ยวก็จะทำ PCB ลงกล่องผมให้เหมือนกัน ถ้าชอบก็รอได้เลย
-
คุณ นัทตี้ อย่างงี้ F5 ที่ทำๆกันตามวงจร แล้วมันจะต่างกับตัวของจริงรึเปล่า หรือมีอะไรบางอย่างซ่อนไว้ รบกวนคุณนัทตี้ซื้อมาโคลนหน่อย 2f c) :victory :yahoo
เท่าที่ทราบ ไม่ต่างครับ มือสองอยู่ที่ 75,000 แต่เป็นไฟ 110VAC ไม่กล้าสั่งมาใช้ครับ เดี๋ยวก็จะทำ PCB ลงกล่องผมให้เหมือนกัน ถ้าชอบก็รอได้เลย
ใจคอจะทำ Aleph J ถึง SIT-2 เลยรึ ไฟแรงจริงๆๆ c) d_d :kicking :yahoo
-
นั่งงมไปงมมา ไม่เห็นมันจะตรงตามที่คู่มือบอกสักเท่าไหร่ แต่ก็หยวนๆ ว่ามันคงจะทำงาน (ดี/ไม่ดี) หากทำตาม Service Manual สุดท้ายก็คงไม่มีอะไรมากมาย เดี๋ยวจะแกะ PCB แระ แล้วค่อยมาดูว่า IRF244 กับ IRFP244 ต่างกันมากน้อยเพียงไร
ภาคจ่ายไฟ ไว้รอช่วงว่างๆ จะแกะออกมาอธิบายอีกทีครับ แต่ไม่ตรงตามคู่มือเลยแม้แต่น้อย แน่นอนว่ามันส่งผลเรื่องอิมพีแดนซ์ของภาคจ่ายไฟเต็มๆ ขอบคุณที่มีเครื่องอยู่ในมือ c)
(http://image.ohozaa.com/i/254/w0nLse.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/wsyCBwgEJ7Q7YKxm)
(http://image.ohozaa.com/i/c18/RP8IyV.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wsyELafLDauG1pAj)
;D ;D ;D ไฟฟ้า บ้านเรามันซัดไปตั้ง 230 โวล์ทแล้วน่ะ บ้านผมอยู่ข้างโรงไฟฟ้า 228-230โวล์ท เสมอครับพี่ ;D ;D แล้วเรื่องการต่างบรรดาศักดิ์ของกราว์ เนลสันใช้ R ตัวสีฟ้า ๆ ด้านขวามือในรูปเป็นตัวจัดการหรือเปล่าครับพี่ :showoff :showoff :victory :victory
-
นั่งงมไปงมมา ไม่เห็นมันจะตรงตามที่คู่มือบอกสักเท่าไหร่ แต่ก็หยวนๆ ว่ามันคงจะทำงาน (ดี/ไม่ดี) หากทำตาม Service Manual สุดท้ายก็คงไม่มีอะไรมากมาย เดี๋ยวจะแกะ PCB แระ แล้วค่อยมาดูว่า IRF244 กับ IRFP244 ต่างกันมากน้อยเพียงไร
ภาคจ่ายไฟ ไว้รอช่วงว่างๆ จะแกะออกมาอธิบายอีกทีครับ แต่ไม่ตรงตามคู่มือเลยแม้แต่น้อย แน่นอนว่ามันส่งผลเรื่องอิมพีแดนซ์ของภาคจ่ายไฟเต็มๆ ขอบคุณที่มีเครื่องอยู่ในมือ c)
(http://image.ohozaa.com/i/254/w0nLse.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/wsyCBwgEJ7Q7YKxm)
(http://image.ohozaa.com/i/c18/RP8IyV.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wsyELafLDauG1pAj)
;D ;D ;D ไฟฟ้า บ้านเรามันซัดไปตั้ง 230 โวล์ทแล้วน่ะ บ้านผมอยู่ข้างโรงไฟฟ้า 228-230โวล์ท เสมอครับพี่ ;D ;D แล้วเรื่องการต่างบรรดาศักดิ์ของกราว์ เนลสันใช้ R ตัวสีฟ้า ๆ ด้านขวามือในรูปเป็นตัวจัดการหรือเปล่าครับพี่ :showoff :showoff :victory :victory
เม็ดสีเขียวๆ เป็น Thermistor ครับ ในวงจรจะวางคนละตำแหน่งกับตัวจริง ส่งผลให้เกิด Eddy Current ขึ้นมา ระหว่าง AC กับ DC
-
เทคนิคภาคจ่ายไฟของ Pass Labs ทุกรุ่น ที่มีแจกวงจรในอินเตอร์เน็ท โดนวางยาครับ ต้องซื้อมาแกะถึงจะเข้าใจ เคล็ดลับมันอยู่ที่ลาย PCB ใช่ว่าจะขีดๆ เขียนๆ แล้วให้ไฟวิ่งผ่าน มันจะต้องออกแบบให้มีความต่างศักย์ของกราวนด์เกิดขึ้น ความลับตรงนี้ ขออนุญาตเฉลยวันหลังละกัน
วันนี้ ดิจิตอลมิเตอร์ เจ๊งโดยมิได้บอกกล่าวล่วงหน้า ก็เลยไม่ได้วัดไฟ เพื่อเทียบกับ Service Manual อันนี้ต้องขออภัยอย่างยิ่ง ตอนขับรถเข้าบ้านก็ว่าจะซื้อในเซเว่น ก็ดันลืมซะ สงสัยวันนี้ตะลอนขับรถมากไปหน่อย พาเจ้าลูกชายคนใหม่ Parasound JC 2 ไปเยี่ยมเพื่อนฝูง กระดี๊ กระด๊า กันใหญ่ จะขอแกะดูข้างใน ไอ้เรื่องแกะน่ะ โดนแน่ๆ แต่ไม่ใช่วันนี้ :secret
(http://image.ohozaa.com/i/f2d/LlljBv.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/wsudRmkebCy8Bczl)
น้า Nutty O0 ว่าแต่อย่าลืมมาเฉลยด้วยน่ะครับ อยากรู้มาก ๆ ครับ
DIY ในไทยคงจะได้ความรู้จากจุดนี้ไม่น้อยเลยครับ
หลักการของมันก็คือ ศักย์ของกราวนด์ DC จะต้องอยู่เหนือ (ต่าง) กับกราวนด์ของ AC เพียงเล็กน้อย ก็เพื่อว่าในขณะที่เกิดกระแสไหลผ่านหม้อแปลง จนไปถึงกระบวนการชาร์จประจุเข้า FILTER CAP จะเกิดริปเปิ้ลขึ้นเล็กน้อยจากการนำกระแสของ BRIDGE RECTIFIER ซึ่งในช่วงนี้เอง ถ้าเราเกิดใช้กราวนด์ศักย์เดียวกัน ระหว่าง AC IN กับ DC OUT มันก็จะเกิดการดึงกระแส กระชากจนสวิทช์สึกหรอ (รูปธรรม) ดังนั้นการใช้กราวนด์ DC และ กราวนด์แท่น ต้องพึงออกแบบให้ดี เราก็จะได้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้นด้วย (นามธรรม)
ขอบคุณมากครับน้า Nutty ผมนึกว่าเป็นจุดอื่นซ่ะอีก จริง ๆ ข้อนี้เครื่องเสียงในไทยหลาย ๆ เจ้าเขาก็ออกเเบบตามนี้อยู่เเล้วครับ หลักการง่าย ๆ คือนำ R ค่าน้อย ๆ เช่น 10 โอห์ม ต่อ GND DC กับ GND AC เพื่อให้มี Volt เกิดขึ้นเล็กน้อย ผลก็คือทำให้เกิดความต่างศักดิ์ที่ GND DC จะมีศักดิ์ไฟฟ้าสูงกว่า GND AC ซึ้งก็ขึ้นอยู่กับค่า R ด้วย ดังนั้นเมื่อมีสัญญาณรบกวนจากภายนอกที่เหนี่ยวนำเข้ามาทาง GND DC ก็จะทำให้สัญญาณรบกวนนั้นไหลลงมาที่ GND AC ซึ่งมีค่าความต่างศักดิ์ที่ต่ำกว่า ก็จะทำให้ไม่ไปรบกวน GND DC ส่วน PCB นั้นถ้าทำเป็น Star gnd และทำ Return GND ให้มีขนาดที่ใหญ่พอก็น่าจะจบครับ :) อีกอย่างคือ Track ของ Ecap. ควรออกแบบให้บังคับให้ Ecap ทำหน้าที่ของมันด้วยครับ
ปล. ความจริงอาจมีเทคนิคอื่นอีก
ขอบคุณน้า Nutty มาก ๆ ครับ :victory
-
นั่งงมไปงมมา ไม่เห็นมันจะตรงตามที่คู่มือบอกสักเท่าไหร่ แต่ก็หยวนๆ ว่ามันคงจะทำงาน (ดี/ไม่ดี) หากทำตาม Service Manual สุดท้ายก็คงไม่มีอะไรมากมาย เดี๋ยวจะแกะ PCB แระ แล้วค่อยมาดูว่า IRF244 กับ IRFP244 ต่างกันมากน้อยเพียงไร
ภาคจ่ายไฟ ไว้รอช่วงว่างๆ จะแกะออกมาอธิบายอีกทีครับ แต่ไม่ตรงตามคู่มือเลยแม้แต่น้อย แน่นอนว่ามันส่งผลเรื่องอิมพีแดนซ์ของภาคจ่ายไฟเต็มๆ ขอบคุณที่มีเครื่องอยู่ในมือ c)
(http://image.ohozaa.com/i/254/w0nLse.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/wsyCBwgEJ7Q7YKxm)
(http://image.ohozaa.com/i/c18/RP8IyV.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wsyELafLDauG1pAj)
;D ;D ;D ไฟฟ้า บ้านเรามันซัดไปตั้ง 230 โวล์ทแล้วน่ะ บ้านผมอยู่ข้างโรงไฟฟ้า 228-230โวล์ท เสมอครับพี่ ;D ;D แล้วเรื่องการต่างบรรดาศักดิ์ของกราว์ เนลสันใช้ R ตัวสีฟ้า ๆ ด้านขวามือในรูปเป็นตัวจัดการหรือเปล่าครับพี่ :showoff :showoff :victory :victory
เม็ดสีเขียวๆ เป็น Thermistor ครับ ในวงจรจะวางคนละตำแหน่งกับตัวจริง ส่งผลให้เกิด Eddy Current ขึ้นมา ระหว่าง AC กับ DC
อุยส์...... ตาลาย :cry2 :cry2 :cry2 สงสัยมองคนละภาพ ผมหมายถึง R พานาโซนิค ขนาด 3 Watt ในบอร์ด Supply ด้านซ้ายมือ น่ะ ที่มันทำให้เกิดลูบ กราว์ด AC และ DC ไม่ให้มาชนกันอย่างจัง ๆ น่ะ .... ขอโทษทีครับมองภาพผิดไปเลยตั้งคำถามผิดไปในตอนแรกครับ ;D ;D ;D :victory :victory :victory
-
เทคนิคภาคจ่ายไฟของ Pass Labs ทุกรุ่น ที่มีแจกวงจรในอินเตอร์เน็ท โดนวางยาครับ ต้องซื้อมาแกะถึงจะเข้าใจ เคล็ดลับมันอยู่ที่ลาย PCB ใช่ว่าจะขีดๆ เขียนๆ แล้วให้ไฟวิ่งผ่าน มันจะต้องออกแบบให้มีความต่างศักย์ของกราวนด์เกิดขึ้น ความลับตรงนี้ ขออนุญาตเฉลยวันหลังละกัน
วันนี้ ดิจิตอลมิเตอร์ เจ๊งโดยมิได้บอกกล่าวล่วงหน้า ก็เลยไม่ได้วัดไฟ เพื่อเทียบกับ Service Manual อันนี้ต้องขออภัยอย่างยิ่ง ตอนขับรถเข้าบ้านก็ว่าจะซื้อในเซเว่น ก็ดันลืมซะ สงสัยวันนี้ตะลอนขับรถมากไปหน่อย พาเจ้าลูกชายคนใหม่ Parasound JC 2 ไปเยี่ยมเพื่อนฝูง กระดี๊ กระด๊า กันใหญ่ จะขอแกะดูข้างใน ไอ้เรื่องแกะน่ะ โดนแน่ๆ แต่ไม่ใช่วันนี้ :secret
(http://image.ohozaa.com/i/f2d/LlljBv.JPG) (http://image.ohozaa.com/view2/wsudRmkebCy8Bczl)
น้า Nutty O0 ว่าแต่อย่าลืมมาเฉลยด้วยน่ะครับ อยากรู้มาก ๆ ครับ
DIY ในไทยคงจะได้ความรู้จากจุดนี้ไม่น้อยเลยครับ
หลักการของมันก็คือ ศักย์ของกราวนด์ DC จะต้องอยู่เหนือ (ต่าง) กับกราวนด์ของ AC เพียงเล็กน้อย ก็เพื่อว่าในขณะที่เกิดกระแสไหลผ่านหม้อแปลง จนไปถึงกระบวนการชาร์จประจุเข้า FILTER CAP จะเกิดริปเปิ้ลขึ้นเล็กน้อยจากการนำกระแสของ BRIDGE RECTIFIER ซึ่งในช่วงนี้เอง ถ้าเราเกิดใช้กราวนด์ศักย์เดียวกัน ระหว่าง AC IN กับ DC OUT มันก็จะเกิดการดึงกระแส กระชากจนสวิทช์สึกหรอ (รูปธรรม) ดังนั้นการใช้กราวนด์ DC และ กราวนด์แท่น ต้องพึงออกแบบให้ดี เราก็จะได้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้นด้วย (นามธรรม)
ขอบคุณมากครับน้า Nutty ผมนึกว่าเป็นจุดอื่นซ่ะอีก จริง ๆ ข้อนี้เครื่องเสียงในไทยหลาย ๆ เจ้าเขาก็ออกเเบบตามนี้อยู่เเล้วครับ หลักการง่าย ๆ คือนำ R ค่าน้อย ๆ เช่น 10 โอห์ม ต่อ GND DC กับ GND AC เพื่อให้มี Volt เกิดขึ้นเล็กน้อย ผลก็คือทำให้เกิดความต่างศักดิ์ที่ GND DC จะมีศักดิ์ไฟฟ้าสูงกว่า GND AC ซึ้งก็ขึ้นอยู่กับค่า R ด้วย ดังนั้นเมื่อมีสัญญาณรบกวนจากภายนอกที่เหนี่ยวนำเข้ามาทาง GND DC ก็จะทำให้สัญญาณรบกวนนั้นไหลลงมาที่ GND AC ซึ่งมีค่าความต่างศักดิ์ที่ต่ำกว่า ก็จะทำให้ไม่ไปรบกวน GND DC ส่วน PCB นั้นถ้าทำเป็น Star gnd และทำ Return GND ให้มีขนาดที่ใหญ่พอก็น่าจะจบครับ :) อีกอย่างคือ Track ของ Ecap. ควรออกแบบให้บังคับให้ Ecap ทำหน้าที่ของมันด้วยครับ
ปล. ความจริงอาจมีเทคนิคอื่นอีก
ขอบคุณน้า Nutty มาก ๆ ครับ :victory
ใช่ครับ 75% แล้วล่ะ เหลืออีกนิดนึงคือ "ตรงไหน" Pass X350 กับ แอมป์ตระกูล First Watt ใช้ตำแหน่งเดียวกันเลย ปริศนาที่ เนลสัน ทิ้งไว้ ผมกำลังหาที่มาของมันอยู่ เคยสลับตำแหน่งแล้ว ได้ผลลัพธ์ที่ต่างกัน
-
ที่เหลือ ก็อยู่ในลูปของอินพุท โดยเนลสันวางเอาไว้แล้วในวงจรคือตำแหน่ง R0 ด้วยไหมครับคุณ Nut_ty :victory :victory :victory ถอดความกันอีกซักพัก เดี๋ยวก็ก๊อปกันกระจาย O0 O0 มีต้นแบบดี ๆ แล้วนี่ ;D ;D ;D แต่ก็ยังเหนื่อย ๆ ท้อ ๆ ใจกับค่าไฟเนี่ยแหบะ ตั้งแต่เล่นแบบ CLASS A เพิ่งหัดเล่นมาได้ 2 เดือน ค่าไฟต้องจ่ายเพิ่มกว่าปกติ 300-400 บาทแล้วน่ะ :cry2 :cry2
-
ที่เหลือ ก็อยู่ในลูปของอินพุท โดยเนลสันวางเอาไว้แล้วในวงจรคือตำแหน่ง R0 ด้วยไหมครับคุณ Nut_ty :victory :victory :victory ถอดความกันอีกซักพัก เดี๋ยวก็ก๊อปกันกระจาย O0 O0 มีต้นแบบดี ๆ แล้วนี่ ;D ;D ;D แต่ก็ยังเหนื่อย ๆ ท้อ ๆ ใจกับค่าไฟเนี่ยแหบะ ตั้งแต่เล่นแบบ CLASS A เพิ่งหัดเล่นมาได้ 2 เดือน ค่าไฟต้องจ่ายเพิ่มกว่าปกติ 300-400 บาทแล้วน่ะ :cry2 :cry2
เอาไปเลย 100% ใครครับเนี่ย ตีโจทย์แตกดังโพล๊ะ อยากซื้อตัวจังเลย :secret, ลายทองแดงในส่วน Ground Audio บน PCB ของ Pass จะไม่ใช่ใหญ่เข้าว่า ออกจะเล็กกระปิ๋วหลิว เสียด้วยซ้ำกลายเป็นภาคจ่ายไฟ +/- กับ SPK OUT ต่างหากที่ใหญ่บิ๊กบึ้ม :cold
ขอกล่าวถึงภาคจ่ายไฟอีกที ทางเดินร่วมของไฟบวก และ ไฟลบ ที่วิ่งเข้าหา Filter Cap ก็ไม่ใช่ว่าออกแบบเสียเต็มแผ่นไว้ก่อน Nelson Pass ออกแบบไว้เป็นส่วนๆ ทั้งหมด 4 ส่วน
1. DC + กำลังวิเคราะห์อยู่...งง
2. DC - กำลังวิเคราะห์อยู่...งง
3. DC G ไม่ได้ดึงมาจากจุดเดียวแบบสตาร์กราวนด์ (แต่ผมดูว่าใช่)
4. AC G ทั้งๆ ที่เป็นกราวนด์แท่น กลับแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ไม่ลูปวิ่งรอบแผ่น
นอกเหนือจากนั้นที่ยังงงๆ อยู่ก็คือ ทำไม ไม่วางเลย์เอาต์ลายทองแดงสำหรับ Filter Cap แบบ (+/-) + (+/-) เหมือนที่เราๆ เข้าใจ และ ทำกันอยู่ แต่กลับวกขึ้นบนส่วนหนึ่ง และ ลงล่างไปเป็นไฟลบส่วนหนึ่ง ทำให้ไม่เกิดค่าประจุแฝงในลายทองแดง
(http://image.ohozaa.com/i/086/x1MOID.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wsNz7rvwtDNKjlJz)
(http://image.ohozaa.com/i/283/7nr7jB.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wsNG35K69KqAaKPj)
-
;D ;D ;D ก็ศึกษาไปเรื่อย ๆ แบบวิธี เซาะกราว์ด อยู่บ้านนอกไม่ได้มีของดี ๆ เล่นอย่างเขาน่ะพี่ ;D ;D ;D
1. DC + กำลังวิเคราะห์อยู่...งง
2. DC - กำลังวิเคราะห์อยู่...งง
3. DC G ไม่ได้ดึงมาจากจุดเดียวแบบสตาร์กราวนด์ (แต่ผมดูว่าใช่)
4. AC G ทั้งๆ ที่เป็นกราวนด์แท่น กลับแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ไม่ลูปวิ่งรอบแผ่น
1 และ 2 ผมว่า Follow ตามได้เลย เพราะเราควบคุมไฟ 220V หรือ 110 ไม่ได้ตามเขาแป๊ะ ต้องหยวน ๆ ถั่ว ๆ กันไป ;D ;D
ส่วนต้องคิดหนักคือ
3 กับ 4 นี่แหละ Y] Y] Y] ถ้า4 ไม่แบ่งกราว์ด เล่นในโหมด Balance มีฮัมแน่ ๆ ซึ่งในตัวของมันเองอาจจะไม่ฮัม แต่เมื่อไรต่ออุปกรณ์อินพุทเข้ามา เจอทันที ;D ;D ;D เท่าที่ลองเล่นรู้มาแค่นี้ครับ d_d d_d d_d d_d
-
PCB เสร็จเรียบร้อยแระ ใช้เวลากว่า 1 เดือนเก็บงานไปเรื่อยๆ ออกแบบทีเดียวใช้ได้ทั้ง Aleph30 และ Aleph J เพราะทั้ง 2 วงจรนี้ อยู่บนพื้นฐานเดียวกัน ต่างกันที่อินพุต นิดหน่อยเท่านั้น ไม่มีตัวไหนดีกว่ากัน เก็บเป็นคอลเล็กชั่นได้ทั้งคู่
เฮ้อ...ทีนี้ก็เหลือแต่ เอ็มทู, F5 TURBO กับ F6 แล้วสินะ ปั่นกันมือหงิก :black_eye
(http://image.ohozaa.com/i/eba/UJ3zC9.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wvGM0xunUPYN3SD4)
-
อ่านแล้วได้หลักการ... O0
-
เครื่องชุดนี้น่าจะใช่ตัวที่อยู่ที่บ้านน้าดาวเหนือ ผมได้ฟังแล้วทั้งปรี และเพาเวอร์ เลยต้องตามมาอ่านในกระทู้ครับ O0
-
จัดการดัดแปลงพันธุกรรมของ Aleph 30 ให้เป็น Aleph J แต่เนื่องมาจาก Aleph J ใช้เพาเวอร์มอสเฟ็ตเพียง 2 คู่ ต่อหนึ่งข้าง ก็เลยจัดการเติมเต็มเข้าไปอีก 1 คู่ ให้เท่าๆ กับ Aleph 30 กลายเป็น 3 คู่ เท่ากัน แต่กินกระแสมโหฬาร บานตะเกียงกว่าเดิมเยอะ
ไหนๆ ก็ทำกล่องสุโค่ยยย ขึ้นมาแล้ว ก็เลยจำเป็นต้องออกแบบแอมป์ มาใช้ให้คุ้มซะหน่อย ก็คงจะคลอด Aleph J TURBO V2 กำลังขับ 60 วัตต์ โมโนบล็อก ตามมาทีหลัง ในไม่ช้า รุ่นนี้ออกแบบให้ใช้ ขั้ว XLR แบบฝังแท่น มีสลักถอกฝาได้ สไตล์ Mark Levinson ด้วย :)
(http://image.ohozaa.com/i/e99/rxImY2.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wxC3PBZDKCTdWkTu)