HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม Thai DIY Audio => ข้อความที่เริ่มโดย: DS ที่ 22 พฤศจิกายน, 2012, 02:28:12 pm
-
รับของเพื่อนมาซ่อมครับ อาการเสียคือ C 47uF/250V ในภาคจ่ายไฟบนบอร์ดของปรีโฟโน ระเบิด
วงจรเป็นทั้งหลอดและทรานซีสเตอร์อยู่บน PCB เดียวกัน ไล่วงจรไม่ไหวครับ รบกวนท่านใด
มีวงจร หรือแนะนำแหล่ง D/L ให้ จะเป็นพระคุณอย่างยิ่งเลยครับ
รุ่นเดียวกับในรูปครับ ไปยืมรูปเค้ามา
-
ซุมรูปมาได้เลย ถ้าเป็น เจเฟต คุมกระแส ผมมีอะไหล่ของมันอยู่
-
รับของเพื่อนมาซ่อมครับ อาการเสียคือ C 47uF/250V ในภาคจ่ายไฟบนบอร์ดของปรีโฟโน ระเบิด
วงจรเป็นทั้งหลอดและทรานซีสเตอร์อยู่บน PCB เดียวกัน ไล่วงจรไม่ไหวครับ รบกวนท่านใด
มีวงจร หรือแนะนำแหล่ง D/L ให้ จะเป็นพระคุณอย่างยิ่งเลยครับ
รุ่นเดียวกับในรูปครับ ไปยืมรูปเค้ามา
ใช่ตัวที่พึ่งลงขายใน web ไม่แก่หรือเปล่าครับ
-
ยากที่จะมีวงจร ผมหามาตั้งนานยังไม่เคยเจอเลยครับ :black_eye
-
ซุมรูปมาได้เลย ถ้าเป็น เจเฟต คุมกระแส ผมมีอะไหล่ของมันอยู่
ขอบคุณครับ ตอนนี้ทิ้งเครื่องไว้ที่โคราช ผมมาทำงานอยู่ อ.บัวใหญ่ จะกลับไปอีกทีก็เป็นวันเสาร์
จะรีบซูมตรงที่มีปัญหามาให้ช่วยวิเคราะห์อีกทีครับ
รับของเพื่อนมาซ่อมครับ อาการเสียคือ C 47uF/250V ในภาคจ่ายไฟบนบอร์ดของปรีโฟโน ระเบิด
วงจรเป็นทั้งหลอดและทรานซีสเตอร์อยู่บน PCB เดียวกัน ไล่วงจรไม่ไหวครับ รบกวนท่านใด
มีวงจร หรือแนะนำแหล่ง D/L ให้ จะเป็นพระคุณอย่างยิ่งเลยครับ
รุ่นเดียวกับในรูปครับ ไปยืมรูปเค้ามา
ใช่ตัวที่พึ่งลงขายใน web ไม่แก่หรือเปล่าครับ
ไม่ใช่ครับ ตัวนั้น MK III เคยอ่านที่วิจารณ์ไว้ในเว็ปไหนจำไม่ได้แล้ว
บอกว่า SL-1 เสียงดีแค่ รุ่นแรก กับ MK II ส่วน รุ่นสาม เค้าว่าเสียงไม่ดี
อันนี้ไม่ยืนยันนะครับ แค่ผ่านไปอ่านเจอ
-
ซุมรูปมาได้เลย ถ้าเป็น เจเฟต คุมกระแส ผมมีอะไหล่ของมันอยู่
ขอบคุณครับ ตอนนี้ทิ้งเครื่องไว้ที่โคราช ผมมาทำงานอยู่ อ.บัวใหญ่ จะกลับไปอีกทีก็เป็นวันเสาร์
จะรีบซูมตรงที่มีปัญหามาให้ช่วยวิเคราะห์อีกทีครับ
รับของเพื่อนมาซ่อมครับ อาการเสียคือ C 47uF/250V ในภาคจ่ายไฟบนบอร์ดของปรีโฟโน ระเบิด
วงจรเป็นทั้งหลอดและทรานซีสเตอร์อยู่บน PCB เดียวกัน ไล่วงจรไม่ไหวครับ รบกวนท่านใด
มีวงจร หรือแนะนำแหล่ง D/L ให้ จะเป็นพระคุณอย่างยิ่งเลยครับ
รุ่นเดียวกับในรูปครับ ไปยืมรูปเค้ามา
ใช่ตัวที่พึ่งลงขายใน web ไม่แก่หรือเปล่าครับ
ไม่ใช่ครับ ตัวนั้น MK III เคยอ่านที่วิจารณ์ไว้ในเว็ปไหนจำไม่ได้แล้ว
บอกว่า SL-1 เสียงดีแค่ รุ่นแรก กับ MK II ส่วน รุ่นสาม เค้าว่าเสียงไม่ดี
อันนี้ไม่ยืนยันนะครับ แค่ผ่านไปอ่านเจอ
ผมว่าที่เสียงไม่ไดีน่ะ เราะเขาไปทำ Cap เองรึเปล่า อันนี้ก็น่าจะมีส่วนนะ
-
ได้รูปมาแล้ว ตัวที่ผมกำลังหาทางซ่อมมันอยู่เป็นตัวนี้ครับ
C 47uF/250V ตัวที่ลูกศรชี้อยู่นั้นแหละครับ มันพ่นน้ำมันออกมา
เลอะไปหมด แต่ยังไม่ถึงกับระเบิด แถวนั้นมี Tr ตัวเล็ก ๆ ดำ ๆ
กับ R 1% 1/4 W อยู่เต็มไปหมด ยังไม่ได้ตรวจวัดอะไรทั้งสิ้น
ว่าจะหาวงจรให้ได้ก่อน
แต่ถ้าหาไม่ได้จริง ๆ ก็คงต้องกลับไปใช้วิชาช่างประจำหมู่บ้าน
-
C ทั้งหมดไม่ว่าจะตั้ง หรือนอนมา เป็นยี่ห้อ IC อิลินอย แค๊ป ทุกตัว
-
ตัดซีตัวนั้นออก เป่าให้แห้งแล้วลองฟังเสียงดูครับ ต่อโฟโนด้วยนะ
-
น่าเอามาแกะ DIY เป็น PCB จริงๆ เจ้า Pre ตัวนี้... O0 O0 O0
-
น่าเอามาแกะ DIY เป็น PCB จริงๆ เจ้า Pre ตัวนี้... O0 O0 O0
คุณ Nutty มีครบหมดแล้วละครับ. แต่อยู่ที่ว่าจะเรื่มทำเมื่อไหร่
-
สู้สู้ ;D ;D d_d
-
เป็นทJFET VN2222 มั้ง แต่คงไม่เสียหรอกครับ
-
เจ้าของเครื่องบอกผมว่าได้มาประมาณสองเดือน เปิดฟังเสียงดีมาก ๆ
แต่อยู่ ๆ ก็เหมือนมีใครเข้าไปจุดพลุอยุ่ในเครื่อง แถมมีควันเหมือนเวทีคอนเสริต
ต้องรีบปิดเครื่องแล้วโทรปรึกษาผม ผมคิดแล้วว่ายังไงก็ต้องรับไว้ก่อน
ปรีแอมป์ราคาระดับแสน ซ่อมได้หรือไม่ได้ขอเอามาเปิดเครื่องใน ดูให้เป็นขวัญตาไว้ก่อน
ก็เลยรับไว้ แล้วมาเปิดกระทู้หาข้อมูลจากเพือน ๆ ในนี้แหละครับ
ขอบคุณทุกท่านที่เป็นกำลังใจครับ งานนี้ถ้าซ่อมได้ จะก๊อปวงจรไว้ แจกให้เอาไปทำไว้ฟังกันเลยครับ
-
เจ้าของเครื่องบอกผมว่าได้มาประมาณสองเดือน เปิดฟังเสียงดีมาก ๆ
แต่อยู่ ๆ ก็เหมือนมีใครเข้าไปจุดพลุอยุ่ในเครื่อง แถมมีควันเหมือนเวทีคอนเสริต
ต้องรีบปิดเครื่องแล้วโทรปรึกษาผม ผมคิดแล้วว่ายังไงก็ต้องรับไว้ก่อน
ปรีแอมป์ราคาระดับแสน ซ่อมได้หรือไม่ได้ขอเอามาเปิดเครื่องใน ดูให้เป็นขวัญตาไว้ก่อน
ก็เลยรับไว้ แล้วมาเปิดกระทู้หาข้อมูลจากเพือน ๆ ในนี้แหละครับ
ขอบคุณทุกท่านที่เป็นกำลังใจครับ งานนี้ถ้าซ่อมได้ จะก๊อปวงจรไว้ แจกให้เอาไปทำไว้ฟังกันเลยครับ
ปริ้นโทรโฮลอย่างหนา ลายวงจร 3 ชั้น แกะวงจรยากมากครับ สู้ๆครับ
-
ตัดซีตัวนั้นออก เป่าให้แห้งแล้วลองฟังเสียงดูครับ ต่อโฟโนด้วยนะ
ถอด C ออกมาดูแล้ว สภาพเป็นปกติดี ไม่มีรอยบวมหรือคราบน้ำมัน
ลองวัดค่าแล้วยังใช้งานได้ดี ทดลองเสียบปลั๊กจ่ายไฟเข้าเครื่อง
เจ้าของเครื่องบอกแค่ว่ามีเสียงเป๊าะเป๊ยะ เหมือนประทัดกระเทียม
แต่ที่ผมเจอมันเหมือนประทัดยักษ์เลยครับ เป็นประกายไฟแบบที่เค้าอ๊อกเหล็ก
อยู่ตรงที่ลูกศรชี้ไว้ เสียงดังจนตกใจกันทั้งบ้าน
-
ตัดซีตัวนั้นออก เป่าให้แห้งแล้วลองฟังเสียงดูครับ ต่อโฟโนด้วยนะ
ถอด C ออกมาดูแล้ว สภาพเป็นปกติดี ไม่มีรอยบวมหรือคราบน้ำมัน
ลองวัดค่าแล้วยังใช้งานได้ดี ทดลองเสียบปลั๊กจ่ายไฟเข้าเครื่อง
เจ้าของเครื่องบอกแค่ว่ามีเสียงเป๊าะเป๊ยะ เหมือนประทัดกระเทียม
แต่ที่ผมเจอมันเหมือนประทัดยักษ์เลยครับ เป็นประกายไฟแบบที่เค้าอ๊อกเหล็ก
อยู่ตรงที่ลูกศรชี้ไว้ เสียงดังจนตกใจกันทั้งบ้าน
ผมว่าเกิดการ ลัดวงจรอะไรสักอย่างแน่ๆ ไม่ลองเรื้อเอาปริ้นมาล้างผงชักฟอกให้สะอาดแล้วใช้ลมเป่าให้แห้ง(แห้งแบบไม่มีความชื้นอยู่ในปริ้นนะครับ)น่าจะหาย :secret
-
รื้ออุปกรณ์จากปริ๊นท์ไม่ไหวครับ ปริ๊นท์แผ่นใหญ่มาก อุปกรณ์ตัวเล็ก ๆ เต็มไปหมด
แถมยังเป็นแบบปริ๊นท์ 3 ชั้น ตามที่คุณ JUUD แนะนำมาด้วย
ทำได้แค่ใช้น้ำยาทำความสะอาด และไล่ความชื้นแบบเป็นกระป๋องสเปรย์ฉีดล้าง
โดยใช้แปรงช่วยปัดทำความสะอาด แต่พอลองจ่ายไฟเข้าเครื่องก็ยังมีประกายไฟ
น่ากลัวเช่นเดิม
คงถอดใจส่งเครื่องคืนให้เจ้าของ ส่งให้ตัวแทนจำหน่ายซ่อมแซมจะดีกว่า
-
รื้ออุปกรณ์จากปริ๊นท์ไม่ไหวครับ ปริ๊นท์แผ่นใหญ่มาก อุปกรณ์ตัวเล็ก ๆ เต็มไปหมด
แถมยังเป็นแบบปริ๊นท์ 3 ชั้น ตามที่คุณ JUUD แนะนำมาด้วย
ทำได้แค่ใช้น้ำยาทำความสะอาด และไล่ความชื้นแบบเป็นกระป๋องสเปรย์ฉีดล้าง
โดยใช้แปรงช่วยปัดทำความสะอาด แต่พอลองจ่ายไฟเข้าเครื่องก็ยังมีประกายไฟ
น่ากลัวเช่นเดิม
คงถอดใจส่งเครื่องคืนให้เจ้าของ ส่งให้ตัวแทนจำหน่ายซ่อมแซมจะดีกว่า
บางครั้งตัวแทนไม่มีอะไหล่นะ ช่างเก่าๆ ที่ลาออกมาเอาอะไหล่ไปดองซะ
-
หลายๆ คนบอกว่าเจ้าภาค line Preamp ตัวนี้เสียงนี้ดีมากนะครับ
ลองๆ หาวิธีวัดแรงดัน Supply ไห้ได้ก่อน โดยตัดไม่ให้เข้าวงจรครับ สู้ๆ
-
รื้ออุปกรณ์จากปริ๊นท์ไม่ไหวครับ ปริ๊นท์แผ่นใหญ่มาก อุปกรณ์ตัวเล็ก ๆ เต็มไปหมด
แถมยังเป็นแบบปริ๊นท์ 3 ชั้น ตามที่คุณ JUUD แนะนำมาด้วย
ทำได้แค่ใช้น้ำยาทำความสะอาด และไล่ความชื้นแบบเป็นกระป๋องสเปรย์ฉีดล้าง
โดยใช้แปรงช่วยปัดทำความสะอาด แต่พอลองจ่ายไฟเข้าเครื่องก็ยังมีประกายไฟ
น่ากลัวเช่นเดิม
คงถอดใจส่งเครื่องคืนให้เจ้าของ ส่งให้ตัวแทนจำหน่ายซ่อมแซมจะดีกว่า
คือไม่ต้องถึงขนาดรื้ออุปกรณ์หรอกครับ แค่เอาแผ่นปริ้นที่ติดอุปกรณ์ทั้งหมดนั่นแหละไปล้างน้ำทำความสะอาด เห็นในภาพมันมีคราบขาวๆอยู่....อ้อ...ตรงที่ไฟอาร์ค มีร้อยใหม้หรือเปล่าครับ
-
คุณดุสิตลองถอดหลอดออก แล้วเปิดไฟ มันจะสปารคไหม สงสัยว่าจุดบัดกรีจะสกปรกครับ
-
ได้เข้ามาอ่านข้อแนะนำของเพื่อน ๆ แล้ว ทำให้มีกำลังใจสู้ต่อไป
ตกลงยังไม่ส่งคืนเจ้าของดีกว่า เอาไว้เป็นบทเรียนให้มาช่วยกันหาทางแก้ไข
ตรงที่มีไฟอาร์ค ไม่มีรอยไหม้ แผ่นปริ๊นท์ก็เป็นปกติ
แต่ที่มีรอยให้เห็นชัดเจน ก็พลาสติดที่หุ้มตัว C มีร้อยไหม้จนเป็นรู
แสดงว่าไฟอาร์ควิ่งไปหากราวด์ที่ตัว C
จะเริ่มต้นตรวจซ่อม ไปที่ละขั้นตอน แล้วจะนำมาปัญหาที่เจอมาสอบถาม
ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะซ่อมได้
ถ้ามีอะไหล่ตัวไหนต้องเปลี่ยน อาจจะต้องรบกวน คุณ nut_ty ด้วยนะครับ
-
ถอดหลอดในภาคปรีโฟโนทั้งหมดออก ลองจ่ายไฟ
เงียบดี หลอดในภาคไลน์ติดสว่าง
-
พอถึงเวลาที่กำหนดไว้ ไฟแสดงสถานะพร้อมทำงานก็ติดสว่าง
-
กำลังหาสายสัญญาณ จะต่อไปเครื่องแอมป์ลองเสียงภาคไลน์
ยังหาสายไม่เจอ ปรากฎว่ามีเสียงไฟสปาร์ค ดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นมากอีก
เลยต้องรีบปิดเครื่อง แล้วถอยออกมาตั้งหลักใหม่
-
กำลังหาสายสัญญาณ จะต่อไปเครื่องแอมป์ลองเสียงภาคไลน์
ยังหาสายไม่เจอ ปรากฎว่ามีเสียงไฟสปาร์ค ดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นมากอีก
เลยต้องรีบปิดเครื่อง แล้วถอดมาตั้งหลักใหม่
ขอดูจุดที่ไฟสปาร์คชัดๆหน่อยครับ :cold
-
ตรงที่วงใว้เห็นมีคราบขาวๆอยู่ ถ้าเป็นผมนะ ถ้าหากเอาบอร์ดออกไปล้างไม่ได้ ผมจะเอาสำลีปั้นเป็นก้อนเล็กๆแล้วจุ่มทินเนอร์บางๆเช็ดคราบแบบนี้ออกให้หมดทั้งบอร์ดหมดก่อน แล้วค่อยทำอย่างอื่นต่อไปครับ :secret
-
อย่าลืมเช็คหลอดด้วยนะครับ
-
K)
เห็นหลอดชุนกวง อยู่หลอดนึง
ไม่ถนัดพวกนี้ครับ มาช่วยเชียร์ :showoff
-
ตรงที่วงใว้เห็นมีคราบขาวๆอยู่ ถ้าเป็นผมนะ ถ้าหากเอาบอร์ดออกไปล้างไม่ได้ ผมจะเอาสำลีปั้นเป็นก้อนเล็กๆแล้วจุ่มทินเนอร์บางๆเช็ดคราบแบบนี้ออกให้หมดทั้งบอร์ดหมดก่อน แล้วค่อยทำอย่างอื่นต่อไปครับ :secret
ผมล้างด้วยสเปรย์ฉีดล้างทำความสะอาด และใช้แปรงช่วยปัดแล้วครับ
ที่ยังเห็นเป็นสีขาว ๆ ที่ขาอุปกรณ์นั้น เป็นรอยบัดกรีตะกั่ว
บริเวณที่เกิดการอาร์คประมาณในวงกลมสีแดงนั่นแหละครับ
ที่ผมไม่เข้าใจคือมันมีสาเหตุมาจากอะไร ปรีแอมป์หลอด ไฟสูงในวงจรยังไงก็ไม่เกิน 300V
อะไรทำให้มันมีแรงมากพอที่จะมาวิ่งเพ่นพ่านอยู่ในอากาศได้ ผมเคยเจอตอนที่ซ๋อมเครื่องทีวี
มันพุ่งออกจากคอหลอดภาพมาหานิ้วมือผม แต่แบบนั้นมันไฟสูงเกือบสองหมื่นโวลท์
-
อย่าลืมเช็คหลอดด้วยนะครับ
ผมยังสงสัยเรื่องเบอร์หลอดด้วยครับ
ตามทีหาข้อมูลมาได้จะใช้หลอดอยู่ 3 เบอร์ คือ 12AX7 12AT7 และ 6DJ8 หรือ ECC88
แต่ตำแหน่งขาหลอดที่เป็นของเบอร์ 6DJ8หรือECC88นั้น หลอดที่เสียบอยู่เป็นเบอร์ E188
ผมไปหาใน Tube Data Sheet แล้ว ไม่มี Spec ของหลอดเบอร์นี้ เลยไม่รู้ว่ามันเป็นเบอร์แทน หรือเบอร์เดียวกับ 6DJ8 หรือเปล่า
-
เคยเจอ เลเยอร์ตรงกลาง ช็อตกับด้านบนมั้ยล่ะ ระวังให้ดีน้าาาา
-
เจ้าของเครื่องบอกว่าตอนเอามาเปิดฟัง แรก ๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไร
จนเอาหลอดเบอร์ E188 ขาทอง ของ Gold Lion มาเสียบแทน ECC88
และก่อนจะเสียบหลอดได้ใช้น้ำยาชื่อ เมอลิน ป้ายไว้ที่ขาหลอดด้วย
หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดปฏิหารย์ มีฟ้าแลบฟ้าร้องในเครื่อง
ยังกับว่ามีพ่อมดหมอผีมาร่ายเวทย์มนต์อยู่ในนั้น
.........
-
E188 สเปกเดียวกับ 6DJ8 ครับ
-
หาเจอแต่ file ใหญ่
-
ส่งซ่อมที่พันธ์ทิพย์ งามวงษ์วานครับ.. Y]
-
E188 สเปกเดียวกับ 6DJ8 ครับ
หาเจอแต่ file ใหญ่
ขอบคุณทั้งสองท่านเป็นอย่างสูงครับ หมดปัญหาเรื่องเบอร์หลอด
ส่งซ่อมที่พันธ์ทิพย์ งามวงษ์วานครับ.. Y]
ขอบคุณมากครับ ไว้หมดหนทางเยียวยาจริง ๆ ก็คงต้องส่งไปให้ช่างใหญ่ช่วยดูแลต่อครับ
-
รุ่น Reference II เป็นรุ่นแรกๆ เลยนะครับ ผมเคยใช้อยู่หลายปี ตอนนี้เครื่องอยู่บ้านน้อง
เคาะฝาเครื่องดังก๊องๆ ออกแอมป์เลยครับ บริษัทแม่ต้องส่งแผ่นแด๊มป์มาแปะใต้ฝาครอบให้
ถัดจากรุ่นนี้น่าจะเป็น Signature 1 , 2 , 3 , 4 , 5 ( Signature III นั้นเป็นบางเครื่องที่มีปัญหาครับ)
ถัดมาชื่อรุ่น Altimate 1 , 2 , 3
ปัจจุบันเป็นรุ่น Legend ถือว่าที่สุดแล้ว แค่วอลลุ่มคนใช้ก็ฝันถึงละครับ
(http://image.ohozaa.com/i/867/p2ggo5.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wtXdmXkmfiwqJt3Q)
(http://image.ohozaa.com/i/8c6/pDOlsd.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wtXeJkgFJxYQQtml)
(http://image.ohozaa.com/i/078/O5aBwP.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wtXdJhZk6ZBz4Ylj)
-
เป็นเครื่องรุ่นนี้ครับ
-
ใช้น้ำยาสำหรับทำความสะอาดอุปกรณ์อีเลคทรอนิคส์
ฉีดล้างพร้อมทั้งใช้ปลายพู่กันเล็ก ๆ ปัดทำความสะอาด
จนน้ำยาเกือบหมดกระป๋อง ได้ความสะอาดทั้งด้านบนและด้านล่าง
สวนตรงกลางยังไม่กล้ารื้อ สุดท้ายใช้ดรายเป่าผมตัวใหญ่ไปขอยืมมาจากร้านเสริมสวย
เป่าลมแรงจนแห้งสนิทดีแล้ว กลั้นใจเสียบไฟเปิดสวิทช์
ไม่มีใครมาจุดพลุในเครื่องอีกแล้ว หลอดติดสว่างดีทุกหลอด
เปิดเครื่องทิ้งไว้เกือบชั่วโมง ยังไม่มีอาการผิดปกติ
ยกเครื่องมาต่อสายสัญญาณเข้ากับเครื่องขยาย
จะได้ลองฟังเสียงดูบ้าง
-
เสียงดีสมคำร่ำลือจริง ๆ ครับ ดีมาก ๆ เลยด้วย
แต่ก็ยังมีปัญหาไม่จบ คือมันมีเสียงคล้ายเสียงฮัม แต่เหมือนไม่ใช่
บอกไม่ถูก เหมือนตอนที่ทำเริ่มหัดประกอบเครื่องแอมป์
ใช้ไดโอดแปลงไฟจาก AC เป็น DC แล้วจ่ายเข้าเครื่อง ไม่มี C Filter
เสียงมันออกมาคล้าย ๆ แบบนั้นเลย
ลดวอลลุ่มที่ตัวปรีแอมป์จนสุด ก็ยังมีเสียงรบกวนดังมาก
เลือก Input ไปที่ช่องไหน ไม่ว่าจะเป็น Line 1 Line 2 หรือ Phono
ก็เป็นเหมือนกันหมด
ตรวจสอบเรื่องกราวด์ทั้งหมดก็ยังดีไม่มีหลุด ไม่มีหลวม
ไฟจุดไส้หลอด ไฟเลี้ยงวงจร ก็วัดได้เป็นปกติดีทุกอย่าง
-
มีสิ่งที่รู้สึกแปลกใจอยู่ 2 อย่างคือ
1. ไฟสูงที่ใช้ในวงจรวัดได้ประมาณ 315V แต่ C ขนาด 47uF ระบุว่ารับแรงดันได้แค่ 250V
ลองวัดคร่อมที่ตัว C เลยก็ได้ไฟประมาณ 295V. ไม่รู้ว่า C มันยังทนอยู่ได้อย่างไร
2. ไฟที่ใช้จุดไส้หลอด มีทั้ง 12V. และ 6V. หลอด 12AX7 กับ 12AT7 ในส่วนของภาค Line
จุดไส้หลอดแบบ 12V ส่วน 6DJ8 กับ 12AX7 ในภาค Phono จุดไส้หลอดแบบ 6V.
และหลอด 6DJ8 ซึ่งน่าจะเป็นหลอดบัฟเฟอร์ของทั้งภาค Line และ Phono แทนที่จะจุดไส้หลอดด้วย 6V.
แยกกันเด็ดขาดระหว่าง Line กับ Phone ดันเอาไส้หลอดมาอนุกรมกัน แล้วจุดไส้ด้วยไฟ 12V.
-
ไล่วงจรหาจุดต่ออินพุท เอ๊าพุท ได้แล้ว
รู้ไฟจุดไส้หลอดแล้ว ก็ลองแยกสัญญาณ
ลองเอา Line อย่างเดียวป้อนเข้า Main Amp ก็ยังมีเสียงฮัม
ปิดวอลลุ่มลงจนสุด ก็ยังฮัมดังลั่นห้อง
ตัดเอาสัญญาณเฉพาะ Phono ต่อเข้า Aux In ของเครื่อง Sansui
เล่นแผ่นเสียงได้เสียงดีด้วย แต่ฮัมดังเท่ากับ Line ไม่น้อยหน้ากันเลย
เดาเอาเองว่าต้นเหตุน่าจะมาจากภาคจ่ายไฟ
เปิดกล่องออกมาดู รู้สึกว่าไม่ค่อยยุ่งยากซับซ้อนเท่าไร
จะลองทำภาคจ่ายไฟใหม่ดูว่า อาการฮัมจะหายไปหรือไม่
-
รายการที่จะต้องเปลี่ยนมีดังนี้นะครับ
1. Socket หลอด 9 ขา แบบลงแท่นขาแบน จำนวน 10 ตัว
2. C อีเลคโตรไล รุ่นหางหนู ค่า 47uF 450V จำนวน 6 ตัว
3. C อีเลคโตรไล รุ่นหางหนู ค่า 4700uF 25V จำนวน 3 ตัว
4. C อีเลคโตรไล รุ่นหางหนู ค่า 100uF 400V จำนวน 1 ตัว
5. C อีเลคโตรไล รุ่นกระป๋อง ค่า 100uF 125V จำนวน 1 ตัว
6. C อีเลคโตรไล รุ่นกระป๋อง ค่า 68uF 200V จำนวน 1 ตัว
7. C อีเลคโตรไล รุ่นกระป๋อง ค่า 470uF 16V จำนวน 5 ตัว
อุปกรณ์ทั้งหมดนี้ ไม่เสียนะครับ แต่มีอายุการใช้งานมานานเกินกว่า 20ปี แล้ว
เป็น C แบบอีเลคโตรไล ข้างในมีน้ำมันเป็นตัวช่วยระบายความร้อน
ถึงเวลานี้ไม่รู้ว่าข้างในของตัวไหน มีสภาพเหลือกี่ % ไหน ๆ ก็เปิดฝาเครื่องแล้ว
เปลี่ยนของใหม่ใส่แทนไปเลย ......
-
รายการที่จะต้องเปลี่ยนมีดังนี้นะครับ
1. Socket หลอด 9 ขา แบบลงแท่นขาแบน จำนวน 10 ตัว
2. C อีเลคโตรไล รุ่นหางหนู ค่า 47uF 450V จำนวน 6 ตัว
3. C อีเลคโตรไล รุ่นหางหนู ค่า 4700uF 25V จำนวน 3 ตัว
4. C อีเลคโตรไล รุ่นหางหนู ค่า 100uF 400V จำนวน 1 ตัว
5. C อีเลคโตรไล รุ่นกระป๋อง ค่า 100uF 125V จำนวน 1 ตัว
6. C อีเลคโตรไล รุ่นกระป๋อง ค่า 68uF 200V จำนวน 1 ตัว
7. C อีเลคโตรไล รุ่นกระป๋อง ค่า 470uF 16V จำนวน 5 ตัว
อุปกรณ์ทั้งหมดนี้ ไม่เสียนะครับ แต่มีอายุการใช้งานมานานเกินกว่า 20ปี แล้ว
เป็น C แบบอีเลคโตรไล ข้างในมีน้ำมันเป็นตัวช่วยระบายความร้อน
ถึงเวลานี้ไม่รู้ว่าข้างในของตัวไหน มีสภาพเหลือกี่ % ไหน ๆ ก็เปิดฝาเครื่องแล้ว
เปลี่ยนของใหม่ใส่แทนไปเลย ......
ผมว่าเปลี่ยนเฉพาะ C ดีกว่าครับ อย่าเปลี่ยน socket เลย ไม่น่าจะเสื่อมคุณภาพนะ ประกอบกับมันบัดกรีออกยากมาก กลัวว่าลายทองแดงจะเยินและอาจหลุดร่อนได้ เสีนดายแทนครับ
-
ขอบคุณมากครับ จะลองเปลี่ยน C ทั้งหมดดูก่อนครับ ถ้าไม่หายค่อยลองพยายามถอด Socket ออกเปลี่ยนทีละตัว
ถอดอุปกรณ์ยากมากจริง ๆ ครับ ผมต้องไปซื้อเครื่องดูดตะกั่วตัวยาวเป็นศอก มีแรงดูดมากกว่าตัวที่ยาวแค่คืบมาใช้
ถึงดูดตะกั่วออกหมดจนถอดขา C ออกได้ แต่ไม่เคยท้อครับ ผมยกให้ทุกเครื่องเป็นครู ต้องศึกษาเรียนรู้ตลอดไปครับ
-
ขอบคุณมากครับ จะลองเปลี่ยน C ทั้งหมดดูก่อนครับ ถ้าไม่หายค่อยลองพยายามถอด Socket ออกเปลี่ยนทีละตัว
ถอดอุปกรณ์ยากมากจริง ๆ ครับ ผมต้องไปซื้อเครื่องดูดตะกั่วตัวยาวเป็นศอก มีแรงดูดมากกว่าตัวที่ยาวแค่คืบมาใช้
ถึงดูดตะกั่วออกหมดจนถอดขา C ออกได้ แต่ไม่เคยท้อครับ ผมยกให้ทุกเครื่องเป็นครู ต้องศึกษาเรียนรู้ตลอดไปครับ
ค่อยๆดูดออกนะครับ อย่าใจร้อนครับ เพราะตะกั่วมันอยู่เต็มรูอุปกรณ์เลย
ผมเคยถอด C โดยใช้เครื่องดูด Hakko 470 ยังเกือบจะเอาไม่อยู่
-
มีสิ่งที่รู้สึกแปลกใจอยู่ 2 อย่างคือ
1. ไฟสูงที่ใช้ในวงจรวัดได้ประมาณ 315V แต่ C ขนาด 47uF ระบุว่ารับแรงดันได้แค่ 250V
ลองวัดคร่อมที่ตัว C เลยก็ได้ไฟประมาณ 295V. ไม่รู้ว่า C มันยังทนอยู่ได้อย่างไร
2. ไฟที่ใช้จุดไส้หลอด มีทั้ง 12V. และ 6V. หลอด 12AX7 กับ 12AT7 ในส่วนของภาค Line
จุดไส้หลอดแบบ 12V ส่วน 6DJ8 กับ 12AX7 ในภาค Phono จุดไส้หลอดแบบ 6V.
และหลอด 6DJ8 ซึ่งน่าจะเป็นหลอดบัฟเฟอร์ของทั้งภาค Line และ Phono แทนที่จะจุดไส้หลอดด้วย 6V.
แยกกันเด็ดขาดระหว่าง Line กับ Phone ดันเอาไส้หลอดมาอนุกรมกัน แล้วจุดไส้ด้วยไฟ 12V.
เป็น 250VAC หรือเปล่าครับ
-
ที่ตัว C มีเขียนไว้ว่า 250V แค่นั้นเองครับ
ส่วนไฟจุดไส้หลอด ผมลองไล่ใหม่อีกทีแล้ว ปรากฎว่าที่ถูกต้องเป็นใช้ไฟ 12V.DC. จุดไส้หลอด 3 ชุดครับ
-
ขอบคุณมากครับ จะลองเปลี่ยน C ทั้งหมดดูก่อนครับ ถ้าไม่หายค่อยลองพยายามถอด Socket ออกเปลี่ยนทีละตัว
ถอดอุปกรณ์ยากมากจริง ๆ ครับ ผมต้องไปซื้อเครื่องดูดตะกั่วตัวยาวเป็นศอก มีแรงดูดมากกว่าตัวที่ยาวแค่คืบมาใช้
ถึงดูดตะกั่วออกหมดจนถอดขา C ออกได้ แต่ไม่เคยท้อครับ ผมยกให้ทุกเครื่องเป็นครู ต้องศึกษาเรียนรู้ตลอดไปครับ
ถ้าเป็นปริ้น 2 หน้าพากซี อาร์ หรืออะไหล่ที่มี 2 ขาผมใช้วิธีเติมตะกั่วเข้าไปแล้วใช้หัวแร้งจี้ไห้ร้อนถึงกันทั้งหมดแล้วก็ดึงเบาๆก็หลุดแล้วครับ ถ้าใช้ตัวดูดจะออกยากกว่าครับและเสี่ยงต่อปริ้นร่อนด้วยครับ ถ้าเป็นซ๊อกเก๊ตหลอดที่คิดว่าจะเปลี่ยนใหม่ ผมตัดขาอันเก่าทิ้งเลย แล้วจะถอดขาที่ติดอยู่บนปริ้นแบบที่กล่าวมาครับ.....อ้อ...ใช้หัวแร้งจี้ไห้ความร้อนจากขาข้างบนปริ้นจะถอดงายกว่าจี้จากข้างล่างครับ พอถอดออกแล้วก็เติมตะกั่วอีกที่พอร้อนได้ที่ก็ใช้ตัวดูดๆตะกั่วเก่าออก จนเห็นรูขาอะไหล่ :secret
-
ขอบคุณมากครับ
ยิ่งดูยิ่งยากขึ้นทุกทึ เพราะขาอุปกรณ์ที่ทะลุปริ๊นซ์ลงไป
พวกยังพับขาไว้ก่อนบัดกรีตะกั่วอีกด้วย แต่งานนี้จะมีเปลี่ยน C แค่ไม่กี่ตัว คงไม่ยากเท่าไร
และซีอกเก็ตหลอด ดูเหมือนจะไม่ได้แหย่ขาทะลุรูปริ๊นซ์ลงไป
น่าจะพับขาแล้วแปะไว้ด้านบน เพราะดูที่ปริ๊นซ์ด้านล่างแล้วไม่มี
ปลายขาซ๊อกเก็ตโผล่ไปให้เห็นเลย
-
ด้านล่างพับขาไม่เป็นไรครับ ตัดขาด้านบนก่อนแล้วจะง่ายขึ้นครับ
-
ยังแก้ปัญหาเรื่องฮัมไม่ตก
ไปหาวงจรเทียบเคียงมาจากในเน็ท เพิ่งรู้ว่าหลอด 12AU7 ในภาค Line ใช้งานแค่ข้างละครึ่งหลอด
ดูจากลายปริ๊นซ์แล้ว ใช้งานแค่ขา 6 7 และ 8 ส่วนขา 1 2 และ 3 ปล่อยทิ้งไว้ ทั้งข้างซ้ายและข้างขวา
-
สงสัยเรื่องไฟจุดไส้หลอด ลองถอดหลอดออกทั้งหมด เสียบไว้แค่ 6922 ในภาคบัฟเฟอร์
หาหม้อแปลง 12 V มาเร็คกูเรทด้วย IC7812 จุดไส้หลอด เปิดเครื่อง ฮัมกระจายเหมือนเดิม
-
ลองอีกที ในภาค Line เสียบหลอด 12AU7 กับ 12AX7 ถอดหลอด 6922 ออก
ต่อสัญญาณ Output จากขาหลอดของ 12AX7 ตรง ๆ ฮัมลดลงมาก แต่ยังมีให้ได้ยิน
เปิดเพลงฟังได้ เสียงดีอีกด้วย
-
ตัว SL1 ปกติมันไม่มีเฟตต่ออนุกรมจากภาคจ่ายไฟ กับขาเพลตของหลอดหรือครับ ลองเช็คเฟ็ตพวกนั้นด้วย
Analog
-
ตัว SL1 ปกติมันไม่มีเฟตต่ออนุกรมจากภาคจ่ายไฟ กับขาเพลตของหลอดหรือครับ ลองเช็คเฟ็ตพวกนั้นด้วย
Analog
ขอบคุณมากครับ ใช่ครับไฟสูงจะมีทรานซีสเตอร์คุมกระแสอยู่ทุกสเต็ปเลยครับ
ที่นับได้ในภาค Line มี 9 ตัว ในภาค Phono มี 11 ตัว ทุกต้วจะต้องถอดออกจากปริ๊นซ์
ถึงจะวัดได้ ตอนนี้ลองถอดออกมา 2 ตัว เป็นเบอร์ VN 2222L วัดแล้วช๊อตทั้งสองตัว
ไว้จดเบอร์กับจำนวนให้ครบทั้ง 20 ตัว ซื้อมาเปลี่ยนทั้งชุดเลย ถอดทิ้งไว้นาน ๆ เดี๋ยวลืมใส่ไม่ถูก
-
แผ่นปริ๊นซ์หนามากครับ ขาซ๊อกเก็ตหลอดแหย่ลงไปไม่ทะลุ
ตัวดูดตะกั่วอย่างดีที่เคยใช้งานมานับครั้งไม่ถ้วน ยาวแค่คืบ
เจองานนี้ดูดไม่ออก ต้องไปซื้อตัวใหม่ ยาวเป็นศอกถึงมีแรงดูดออกได้หมดจด
-
ถอดออกมาไล่ภาคจ่ายไฟ ทีละสเตจ ตอนนี้ภาคจ่ายไฟจุดไส้หลอด 12 V. ทั้ง 3 ชุด
เป็นปกติเรียบร้อยดีแล้ว
-
เหลือสุดท้ายคือไฟสูง แต่น่าเสียดายตะกั่วใกล้จะหมด
ใช้ตะกั่วเปลืองมาก เพราะไม่งั้นมันดูดไม่ออก
ต้องออกไปหาซื้อตะกั่วมาสำรองไว้ ก่อนจะลงมือต่อไป
-
ไล่อ่านเบอร์ทรานซีสเตอร์ทั้งหมดแล้ว เป็นเบอร์ VN 2222L รวม 18 ตัว
ที่เหลืออีก 2 ตัว เป็นเบอร์ LM 317 LZ งานนี้สงสัยคงต้องรบกวนคุณ nut_ty
-
VN 2222L เป็น Mosfets ที่มี ซีเนอร์ไดโอดคุมโวลท์อยู่ด้วย
ส่วน LM 317 LZ เป็น IC รักษาแรงดันแบบปรับแรงดันได้
ทั้งสองเบอร์มีขายใน Ebay ซื้อได้เลย
ในเมืองไทยก็คิดว่านะมีขาย แต่ผมไม่รู้จะไปเดินหาซื้อได้ร้านไหน
-
^-^
VN2222 http://www.es.co.th/detail.asp?Prod=23503557 (http://www.es.co.th/detail.asp?Prod=23503557)
LM317T http://www.es.co.th/detail.asp?Prod=23501817 (http://www.es.co.th/detail.asp?Prod=23501817)
-
ขอบพระคุณคุณ santi เป็นอย่างสูงเลยครับ ที่กรุณาช่วยหาให้
แต่โครงสร้างข้างในมันไม่เหมือนกันครับ VN2222L มีซีเนอร์อยู่ด้วย
แต่ VN2222LL ไม่มีซีเนอร์ไดโอด ผมไม่แน่ใจว่าจะเอามาใช้แทนกันได้หรือเปล่า
-
และ LM 317 ที่ใช้ในวงจรเป็นตัวถังแบบ TO-92 เหมือนทรานซีสเตอร์ตัวเล็ก ๆ
แต่ในเว็ปเป็นตัวถังอีกแบบครับ
-
หาวงจรของภาค Line ได้แล้วครับ เป็นของ CAT SL-1 แต่ไม่รู้รุ่นไหน
ภาคหลอดเหมือนกัน แต่ไฟสูงที่ใช้ทรานซีสเตอร์คุมไฟต่างไป แต่ก็ใช้เทียบเคียงได้
ก็เลยเอามาใส่ไว้ เผื่อจะได้เป็นประโยชน์
จะเห็นว่าหลอด 12AU7 ที่เสียบไว้ในเครื่องจริง มี 2 หลอด
ใช้งานจริงแค่หลอดละข้างเดียว ดังนั้นในเครื่องที่ทำเลียนแบบ
จะใช้หลอด 12AU7 เพียงหลอดเดียว
-
เขาใส่อีกหลอดใว้ทำไม :D
-
หลอดที่เป็นภาคไดร์ฟ ส่วนมาก ไม่ว่าจะเป็นตระกูล 6SL7 LSN7 12AX รวมถึง 6922 จะมีภาคขยายอยู่ภายใน 2 ชุดครับ
แล้วใน CAT SL-1 เค้าใส่ไว้ 2 หลอด แต่ใช้แค่หลอดละครึ่งเดียว ซึ่งจริง ๆ แล้ว ใช้แค่หลอดเดียวแบ่งเป็นซ้ายครึ่งหลอด ขวาครึ่งหลอดก็ได้
แต่ดูแล้วน่าจะเป็นผลดี มากกว่าผลเสียแน่นอนครับ
-
LM317LZ ผมเคยซื้อที่ ES และ นัฐพงษ์ครับ es ถูกกว่าเยอะ
http://www.es.co.th/detail.asp?Prod=12305890
vn2222 มีหรือไม่มี zener ก็ใช้แทนกันได้ครับ อยากป้องกันให้มากขึ้น เอา zener 12V มาต่อข้างนอกก็ได้ครับ
-
ขอบพระคุณมากครับ
เรียนถามคุณWithaya ด้วยครับว่า ตัว VN 2222L สามารถเอามัลติมิเตอร์วัดขาเหมือนวัดทรานซีสเตอร์ธรรมดาได้หรือไม่ครับ
-
VN วัดเหมิอนมอสเฟ็ตทั่วๆ ไปเลยครับ แตะค่าเกทเพื่อดูเข็มกวาดมาสุดเกจ์ แล้วแตะกลับขั้วอีกทีเพื่อเคลียร์... งง ?
-
งง....ด้วยครับ
ด้วยความสัตย์จริง การวัดทรานซีสเตอร์ผมยังทำได้แค่จับคู่ขาเป็น 3 คู่
เวลาวัดก็จะสลับขั้วบวก ขั้วลบของมัลติมิเตอร์
คู่นึงจะต้องวัดไม่ขึ้น อีก 2 คู่ จะวัดเหมือนวัดไดโอด
ถ้าวัดได้แบบนี้แสดงว่าทรานซีสเตอร์ยังดี ก็ใช้แบบนี้มาโดยตลอด
-
วิธีวัดเฟ็ต เอามาจากอีกเวบ แรกๆอาจงง แต่เวิครับ
.........http://www.audiodiyclub.net/index.php/topic,2596.0.html
-
อีกท่านหนึ่งที่แนะนำการวัดได้ดี เทคนิคง่ายๆ เหมาะกับช่างบ้านๆอย่างผม
......http://www.audiodiyclub.net/index.php/topic,8812.0.html
-
ขอบคุณมากครับ
ตอนนี้ถอดออกมาจากเครื่องแล้วครับ
ทั้งหมด 18 ตัว ตัวละ 3 ขา รวมที่ต้องดูดตะกั่วทั้งหมด 54 จ๊วบ
เหลือ LM317LZ 2 ตัว ยังไม่ถอด ไว้ได้ตัวใหม่มาแล้วค่อยถอดเปลี่ยน
ถอดไว้ก่อนเดี๋ยวใส่คืนไม่ถูก
ได้ VN 2222L ออกมากองไว้ 18 ตัว ไว้จะค่อย ๆ ไล่วัดไปทีละตัว
ตามคำแนะนำวิธีการวัด
-
ซ๊อกเก็ตหลอด 9 ขา จำนวน 10 ตัว ก็ถอดออกหมดแล้ว
ชุดนี้ต้องดูดทั้งหมด 90 รู เรียบร้อยแล้วครับ
มาเจอปัญหาอีกแล้วครับ ไล่เรียงความเรียบร้อยในชุด Power
IC LM317 คุมไฟ 12V ที่ใช้จุดไส้หลอด ยังทำงานเป็นปกติดีทุกตัว จ่ายไฟออกมาได้ตรงเป๊ะ
แต่มีเจ้าตัวเล็ก ดูเหมือนจะมีรอยระเบิดหน้าแหกเลย ไม่รู้ว่าเบอร์อะไร
เดาเอาว่าน่าจะเป็น VN 2222L เดี๋ยวต้องถอดออกมาลองวัดดูก่อน
-
ซ๊อกเก็ตหลอด 9 ขา จำนวน 10 ตัว ก็ถอดออกหมดแล้ว
ชุดนี้ต้องดูดทั้งหมด 90 รู เรียบร้อยแล้วครับ
มาเจอปัญหาอีกแล้วครับ ไล่เรียงความเรียบร้อยในชุด Power
IC LM317 คุมไฟ 12V ที่ใช้จุดไส้หลอด ยังทำงานเป็นปกติดีทุกตัว จ่ายไฟออกมาได้ตรงเป๊ะ
แต่มีเจ้าตัวเล็ก ดูเหมือนจะมีรอยระเบิดหน้าแหกเลย ไม่รู้ว่าเบอร์อะไร
เดาเอาว่าน่าจะเป็น VN 2222L เดี๋ยวต้องถอดออกมาลองวัดดูก่อน
TR ในภาคจ่ายไฟไม่ใช่ VN2222 นะครับ เป็น Tr แต่ไม่แน่ใจหมาย้ลข เข้าใจว่าทำหน้าที่กำหนดแรงดันไฟสูง
-
ขอบคุณมากครับ
-
ตอนนี้ ล้างรูรอแล้วครับ
เหลือ C 47uF/250V พรุ่งนี้ว่าจะถอดออกให้หมด
เจ้าของบอกว่าจะเอา Jenzen มาเปลี่ยนใหม่ให้ครบทั้ง 6 ตัว
ต้องขอบคุณทุก ๆ ท่านที่ให้การช่วยเหลือเป็นเป็นกำลังใจให้
-
ระวังตะกั่วชั้นใน จะเยิ้มติดกันนะครับ คราวนี้จะซ่อมไม่ขึ้น :cold
-
พยายามใช้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษอยู่แล้ว
ขอบคุณมากครับ
-
พรุ่งนี้เดี๋ยวส่ง vn ให้ครับ พอดีเพิ่งกลับมาจากไปเยี่ยมญาติครับ
-
ได้ Socket แบบใกล้เคียงกับของเดิม ๆ ที่ติดตั้งมาแต่แรก
ขาชุบโรเดียมสีเงิน ฐานเป็นกระเบื้อง ขนาดความกว้างเส้นรอบวงขา เท่าเดิม
ขอบอกว่าหายากมาก ๆ เลย
จัดการเอาใส่แทนที่ของเดิม ถ้าไม่บอกก็คงไม่รู้ว่าได้เปลี่ยนเป็นของใหม่ไปแล้ว
ระมัดระวังเรื่องตะกั่วเป็นพิเศษ
-
มีปัญหามาถามเพิ่มเดิมอีกครับ
ทราสซีสเตอร์ NPN เบอร์ TIP 50 หาซื้อได้ที่ไหนบ้างครับ
หรือมีเบอร์แทนอะไรบ้างครับ
-
ได้ Tr กับ IC ตัวเล็ก ๆ มาครบแล้วครับ
จัดการใส่ลงไปแทนที่ตัวเดิมทั้งหมด
เจ้าของเครื่องให้เปลี่ยน C Filter ของเดิม อิลินอย แค๊ป เอา เจนเซ่น ลงใหม่ทั้ง 6 ตัว
-
ตอนนี้เครื่องยังใช้ได้ไม่สมบูรณ์
แต่เจ้าของส่ง C ตัวใหญ่มาให้ up แทนของเดิม
จัดการเอาใส่ไปเรียบร้อยร้อย ถือว่าตรวจซ่อมไป Burn ของใหม่ไปด้วย
-
หลังจากเปลี่ยนใหม่ครบทุกอย่างแล้ว ลองเปิดเครื่อง
มีเสียงดังดีทั้งซ้าย และขวา ไม่มีจี่ ไม่มีฮัมแล้ว เงียบสงบดี
ฟังไปได้ซักพัก เริ่มเอะใจ เสียงมันวูบวาบเป็นระยะ ๆ
เสียงดังกับเบาสลับกันไปตลอดเวลา เหมือนปิดเครื่องแล้วเปิดใหม่
ลองวัดไฟสูงที่ขาหลอด ก็ปกติดีไม่มีวูบวาบ
งงอีกแล้วครับ ไม่รู้ว่ามันเกิดจากอะไร ช่วยวิเคราะห์ให้ด้วยครับ
-
ไฟที่ขาเพลตบางทีมันหลอกนะ วัดไฟไบอัสดีกว่า แรงดันตกคร่อมตัวต้านทานคาโธด และ -VG ดูว่ามันสัมพันธ์กันมั้ย นอกเหนือจากนั้นก็ไฟเลี้ยงไส้หลอด
-
ขอบคุณคุณnut_ty มากครับ
เครื่องนี้คงต้องตรวจซ่อมกันข้ามปีแน่นอนเลย
-
รบกวนสอบถามคุณnut_ty ด้วยครับว่า
VN ทั้งหมดที่อยู่ในวงจร มันทำหน้าที่คุมกระแสที่คาโทดใช่หรือไม่ครับ
ถ้าใช่ เราจะปลดมันออก แล้วคุมกระแสด้วย R แบบธรรมดาได้หรือไม่
และจะทำให้คุณภาพเสียงเปลี่ยนไปมากน้อยเพียงใดครับ
-
รบกวนสอบถามคุณnut_ty ด้วยครับว่า
VN ทั้งหมดที่อยู่ในวงจร มันทำหน้าที่คุมกระแสที่คาโทดใช่หรือไม่ครับ
ถ้าใช่ เราจะปลดมันออก แล้วคุมกระแสด้วย R แบบธรรมดาได้หรือไม่
และจะทำให้คุณภาพเสียงเปลี่ยนไปมากน้อยเพียงใดครับ
มันเป็น CCS น่ะ หากเราจะทดแทนด้วยตัวต้านทานเราก็ต้องรู้ค่ากระแสไหล และ -VG ก่อนครับ เล่นมั่วๆ ไม่ได้ ปรีแอมป์ตัวนี้เปราะเกินเหตุ ถ้าใช้ R แน่นอนว่านุ่มนวลดีแท้ แต่ตะคุมอย่างไรให้นิ่งล่ะ CADDOCK ดีมั้ย :D
-
ขอบคุณมากครับ จริง ๆ แล้วผมยังไม่ค่อยสันทัดเรื่องทฤษฎีมากนัก
ถ้าเป็น CCS ที่ใช้ Mosfet คุมกระแส ตามตัวอย่างวงจรจะมีซีเนอร์ต่อด้วย
ซึ่งถ้าเป็น VN2222L จะมีตัวซีเนอร์อยู่ภายใน ไม่ต้องมาติดตั้งไว้บน PCB
แต่พอมาใช้ VN2222LL ซึ่งไม่มีซีเนอร์ เลยทำให้เกิดปัญหานี้ หรือเปล่าครับ
-
อันนั้นมันกันเกทรั่วน่ะครับ ป้องกันการเสียหาย ไม่เกี่ยวกับไบอัสเลย ลองดูสาเหตุอื่นๆ ดีกว่า ลองถอดออก 1 ข้างได้มั้ย ฟังข้างเดียวน่ะ
-
อันนั้นมันกันเกทรั่วน่ะครับ ป้องกันการเสียหาย ไม่เกี่ยวกับไบอัสเลย ลองดูสาเหตุอื่นๆ ดีกว่า ลองถอดออก 1 ข้างได้มั้ย ฟังข้างเดียวน่ะ
ขอบคุณมากครับ จะลองถอดออกแค่ข้างเดียวก่อน
มันถอดแต่ละตัวออกจาก PCB ยากมากเลยครับ
-
เมื่อคืนไม่รู้จะเริ่มถอด VN ข้างไหนก่อน เอาเครื่องมานั่งมองดู ยังไม่เสียบหัวแร้ง
ตั้งสมาธิ คิดวนเวียนไปมา นึกในใจว่าทำไมจะต้องออกแบบให้มันยุ่งยากซับซ้อนขนาดนี้
นั่งมอง C สีทองเหลืองอร่ามที่เปลี่ยนใหม่ แล้วนึกย้อนกลับไปที่ C ตัวเดิม
มันรับแรงได้ไฟได้แค่ 250V. แต่ไฟที่วัดได้มันสูงถึง 315V. ไม่น่าเป็นไปได้ที่ C มันจะทนได้
ไฟ AC ที่วัดได้จากหม้อแปลง 260V ผ่านการแปลงเป็น DC ผ่านไดโอด แล้วกรองด้วย C 100uF/350V
วัดได้ ประมาณ 340V ผ่านชุดกรองด้วย TIP50 แล้วมันยังได้ไฟออกมา 315V.
มันน่าจะต้องมีอะไรที่ชำรุดบกพร่องในภาคจ่ายไฟ เพราะไฟที่จ่ายให้หลอดมันไม่ควรจะเกิน 250V
ตามค่าของ C Filter ในวงจรที่รับได้
คิดเลยไปถึงอาการที่เสียงมันวูบวาบ มันต้องมีอะไรที่ผิดปกติ VN ตัวเล็ก ๆ ที่ใส่ไว้มากมายในวงจร
คงจะตรวจจับเจอแรงดันหรือกระแสที่สูงเกินพิกัด จึงตัดไฟไม่ให้ทำลายหลอด พอไปลดลงถึงระดับที่ปลอดภัย
ก็ต่อไฟกลับคืนให้วงจร คงเป็นแบบนี้สลับกับไป เสียงที่ได้ยินจึงลด แล้วเพิ่มตลอดเวลา
คิดได้ดังนี้แล้ว ก็เข้านอน ยังไม่ได้ตรวจสอบอะไรเพิ่มเติม
-
ไฟที่ขาเพลตบางทีมันหลอกนะ วัดไฟไบอัสดีกว่า แรงดันตกคร่อมตัวต้านทานคาโธด และ -VG ดูว่ามันสัมพันธ์กันมั้ย นอกเหนือจากนั้นก็ไฟเลี้ยงไส้หลอด
ทำตามคำแนะนำแล้วครับ ทั้งกระแสและแรงดันมันผิดปกติไปหมด
สุดท้ายไปไล่ที่ภาคจ่ายไฟ แล้วก็เจอต้นตอ Tr NPN ที่คุมแรงดันมีเสีย ซ๊อต
ไฟสูงเลยทะลุไปถึงขาหลอด กว่า 300V ตอนนี้เอาหม้อแปลงมาหลอก
จ่ายไฟให้ไม่เกิน 250V. ฟังได้ไม่วูบวาบแล้วครับ
-
เริ่มสบายใจ ไม่เครียดแล้ว จัดการเปลี่ยน ซี ฟิลเตอร์ภาคจ่ายไฟ ชุดหน่วงเวลาตอนเปิดเครื่อง 4 ตัว
และเปลี่ยนขั้ว RCA เป็นของใหม่ ชุบโรเดียมเงาวับ เฉพาะที่ใช้งานจริง Phono 1 ชุด Line 1 ชุด
และ Output 1 ชุด
-
ระหว่างรออะไหล่ภาคจ่ายไฟ สั่งซื้อไปแล้วกำลังเดินทางมา
ก็ต่อใช้งานฟังให้สบายใจไปเรื่อย ๆ
เป็นงานซ่อมที่โหดหินสุด ๆ แต่ก็ได้ความรู้เพิ่มพูนอีกมากสุด ๆ เช่นกัน
ต้องขอบคุณทุกท่านที่ช่วยให้คำแนะนำและเป็นกำลังใจให้
แต่ทีผมจะต้องเดือนร้อนต่อไป คือเสียงที่ได้ฟังจาก CAT ตัวนี้เสียงดีมาก
ให้รายละเอียดเสียงทั้งทุ้ม กลาง แหลม แบบทีไม่เคยได้ฟังมาก่อน ที่โดดเด่นคือไม่มีเสียงรบกวนเลย
พอผมส่งเครื่องกลับไปให้เจ้าของแล้ว ผมจะกลับมาฟังปรีเดิม ๆ ที่มีใช้อยู่ได้อย่างไร
ที่สังเกตุเห็นว่าเป็นพิเศษคือสายที่ใช้เชื่อมต่อสัญญาณ
ดูเหมือนธรรมดา แต่ตอนที่เปลี่ยนขั้ว RCA จึงเห็นว่ามันไม่ใช่แบบธรรมดา
ที่เค้าใช้เป็นสายทองแดงอาบน้ำยาเหมือนลวดทองแดงที่ใช้ในหม้อแปลงหลายเส้นรวมอยู่ในปลอกห้มฉนวนเดียวกัน
-
ระหว่างรออุปกรณ์บางตัวมาอัพเกรด เปิดฟังทดสอบเครื่องไปเรื่อย ๆ
ยิ่งฟังยิ่งหลงไหลในน้ำเสียง ทั้งสะอาด ทั้งสดใส ทุ้มกลางแหลมผสมผสานกันลงตัว
ไม่มีใครล้ำหน้า ไม่มีใครน้อยหน้า เพลิดเพลินดีจริง ๆ
เลยอยากได้ฟังไว้เป็นสมบัติของตัวเองบ้าง แต่คงไม่มีปัญหาไปหาซื้อของจริง
อย่างดีก็คงทำเองตามอัตภาพ ตามที่พอจะหาวงจรเทียบเคียงได้
-
:clap :clap :clap
-
ตัวเครื่องซ่อมเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เหลืออัฟเกรดอุปกรณ์ในภาคจ่ายไฟ
เปลี่ยน C 4700uf/25V ของเดิมยี่ห้อ IC เป็น MALLORY ตัวยักษ์ใหญ่
กรองไฟ 12V จุดได้หลอด ต้องวางตั้งไว้เพราะไม่มีที่ให้นอน
และเปลี่ยน C กรองไฟสูง เป็น JENSEN สีทองอร่าม อีกสองตัว
-
ทดสอบเสียงจากแผ่นเสียงมานานพอสมควร ภาค Line ฟังจากกล่องของ Ture Vision
สุดท้ายอยากลองฟังคอนเสริต ไปขุดเอา EAGLES ชุด hell freezes over
บันทึกจากการแสดงสด ๆ เสียงที่ได้ไม่ผิดหวังเลยจริง
เครื่องดนตรีมากชิ้น ใช้กีต้าหลายตัว ทั้งกีต้าโปร่ง และกีต้าไฟฟ้า
เพอคัทชั้นมีแทรกมาตลอดเวลา กับวงออเคสต้าแบคอัพเต็มวง
เสียงที่ได้สุดยอดมาก
วิธีทดสอบของผมที่ใช้กับเครื่องเสียงคือเปิดเพลงเดียว
ฟังช้ำหลาย ๆ ครั้ง ถ้าฟังได้มากกว่า 1 รอบถือว่าเสียงเข้าขั้น
แต่กับ CAT ตัวนี้ ฟัง Hotel California ซ้ำอยู่ 3 รอบ ยังไม่รู้สึกว่าเบื่อ
-
O0 O0 c)