ต้องบอกแนวเสียงที่ต้องการมาก่อนครับ เพราะอุปกรณ์ Upgrade ตั้งแต่ R,C,สาย,หลอด มีบุคคลิกเฉพาะตัวมันอีกครับ
แต่จะมาติดตรง OPT นี่ล่ะครับว่าที่มากับเครื่องคุณภาพขนาดใหน
จขกท. อยากได้เบสที่ลงลึกกว่าเดิม ในขณะเดียวกันก็อยากได้รายละเอียดเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
ผมเอา EQ ต่อคั่นกลาง (ต้นเสียง+EQ+แอมป์) มันสามารถให้ได้ทั้งรายละเอียดกรุ๊งกริ๊ง และเบสที่หนักแน่น
แต่ผมไม่อยากมี EQ คั่นกลาง เพราะเหตุผล เช่น อุปกรณ์หลายชิ้้นไม่สะดวกในการใช้งาน, EQ ราคาถูก ระบบ
ป้องกันสัญญาณรบกวนไม่ดี ทำให้มีเสียงไม่พึงประสงค์แทรก เป็นต้น จะโมอย่างไรให้ได้เสียงเหมือนมี EQ ครับ
เพิ่งนึกได้ ผมมีคำถามเพิ่มครับ คือ เมื่อเร่งโวลลุ่มเกินเที่ยงไปแล้วเสียงจะแตกเป็นเพราะอะไร และจะแก้ไขอย่างไร จะต้องแก้ที่ไฟหรืออุปกรณ์ครับ
ถ้าไม่มีโอกาสลองฟังก็คงต้องฝึกฝีมือการถอดประกอบไปก่อนครับ เพราะถ้าจะโมนี่เวลาถอดออกแล้วใส่คืนสำคัญมากครับ สมมติว่าจะโมด้วยการเปลี่ยน C ผมแนะนำให้วางแผนว่าจะทำยังไงถึงจะเปลี่ยนกลับไปกลับมาโดยเครื่องไม่ช้ำมากนัก เพราะบางครั้งเวลาเราเปลี่ยนอะไรลง เรามักจะอุปาทานว่าของใหม่ดีกว่า ไม่แน่นะครับ ของเก่าอาจจะดีกว่าก็ได้ ^-^
จขกท. ขอคำแนะด้วยครับ วิธีที่ทำให้บอร์ดไม่ช้ำ
ปัญหาที่ผมเจอคือ....หม้อแปลงไฟpowerให้มากระแสต่ำมาก ทำให้เสียงไม่แข็งแรงครับ :black_eye
ถ้าไม่มีโอกาสลองฟังก็คงต้องฝึกฝีมือการถอดประกอบไปก่อนครับ เพราะถ้าจะโมนี่เวลาถอดออกแล้วใส่คืนสำคัญมากครับ สมมติว่าจะโมด้วยการเปลี่ยน C ผมแนะนำให้วางแผนว่าจะทำยังไงถึงจะเปลี่ยนกลับไปกลับมาโดยเครื่องไม่ช้ำมากนัก เพราะบางครั้งเวลาเราเปลี่ยนอะไรลง เรามักจะอุปาทานว่าของใหม่ดีกว่า ไม่แน่นะครับ ของเก่าอาจจะดีกว่าก็ได้ ^-^ขอคำแนะด้วยครับ วิธีที่ทำให้บอร์ดไม่ช้ำ
ทำให้เร็วที่สุด น้อยครั้งที่สุดครับ
ครับถูกต้องแล้วครับ ตรงนี้เป็นการเล่นกับฟีดแบ็ค ครับ ค่า มาก ก็ฟีดแบ็คเยอะ เกรนขยายตก เลยเปิดได้มากกว่าเดิมครับ( ตรงนี้ผมคำนวนไม่เป็๋น) แต่ใช้วิธีเดียวกับที่พี่ทำนั่นแหละ แต่แปลกใจหน่อยเดียวตรง พอไม่มีไม่น่าจะแตกยับเท่านั้นเองห้องกว้างไหมครับ ลำโพงความไวเท่าไหร่ ที่ว่าเสียงแตกพร่านี่ เปิดดังมากหรือไม่ครับ คือเปิดวอลลุ่มมากๆจนเสียงแตกพร่านี่ผมเข้าใจว่า ปกติคงเปิดธรรมดา แล้วลองบิดเพิ่มใช่ไหมครับ
ลองทำตามที่พี่ๆๆท่านแนะนำนะครับ ถ้าทำไปเยอะแล้ว ลองถอด R 118(ลอยขาออกดูก่อนนะครับ ว่าเสียงเปลี่ยนไปขนาดไหน ผมยังไม่ อยากให้ไปแก้ ค่าไบอัสไฟ อย่างที่เรียนไว้ตอนต้นผมว่าน่าจะเป้นจุดที่เค้าออกแบบไว้แล้ว
ส่วนอุปกรณ์ เท่าที่ดู เค้าก็ใช้ของมีคุณภาพทั้งนั้นเลยครับ ลองหา Cค่าน้อยๆๆ เช่นพวก0.01ไมโคร 400v ต่อคร่อม c103 c104 ดูนะครับ แล้วลองฟังเปรียบเทียบแบบมีกับไม่มี
ค่าc101 ก็เป้นจุดที่เล่นได้ ถอดออก ใส่ เข้า ใส่ค่ามากขึ้น (เบสจะมากขึ้น มากไปก็จะอึดอัด ) ใส่น้อยลง เสียงจะกระชับ แบบเบสต้นดี อะไรทำนองนี้ ถ้ามีอุปกรณ์เหลือๆๆลองดูได้ครับ
ไดโอด จะลองเปลี่ยนเป้นพวกไดโอดเม็ดถั่วก็ได้ แต่ ผมฟังไม่ออก อีกอย่างมีหลอดดักทางออกไว้แล้ว คงเสียงดีล่ะครับGz34 แพงอ่ะ 555
ท้ายถ้าที่บ้านมี ซีพวก0.1 ทนแรงดันไม่น้อยกว่า450โวลต์ ลองเคาคร่อมซีภาคจ่ายไฟ ดูครับ
ทุกขั้นตอน ใส่เข้าหรือถอดออก ต้องฟังเทียบกันเยอะๆๆนะครับ ถ้าฟังแล้วไม่แตกต่างก็ไม่ต้องไปทำครับ คงสภาพเดิมๆๆไว้ แต่ถ้าทำแล้วชอบ ก็ไปจุดอื่นต่อครับ
วันนี้ผมลองลอยขา R118 ปรากฏว่าเสียงแตกยับเลยครับ เลยไปหาแกะ R จากแอมป์เก่าๆ เอามาลอง 3 ตัว มี 10K 22K 33K ตัว 10K ลองแล้วไม่ดีครับ ส่วน 22K กับ 33K ดูเหมือนจะดีกว่าเดิมนิดนึง ทำให้เร่งโวลลุ่มเพิ่มไปได้ถึงประมาณบ่าย 2 โมง
ผมขอถามน้าๆ หน่อยครับ ผมเห็นวงจร EL34 (6CA7) ของ DIY มด มี CK และ CFB แต่วงจรของผมไม่มี
ถ้าถามว่า C แต่ละจุดที่ว่ามันทำหน้าที่อะไร มีกับไม่มีมันจะต่างกันอย่างไร
อีกหนึ่งคำถามครับ C สองยี่ห้อด้านล่างนี้ ตัวไหนเสียงดีกว่าครับ (หรือบอกแนวเสียงแต่ละตัวก็ได้)
(http://image.ohozaa.com/i/764/nEvqr3.JPG)
(http://image.ohozaa.com/i/80f/ebFLF5.jpg)
อีกหนึ่งคำถามครับ C สองยี่ห้อด้านล่างนี้ ตัวไหนเสียงดีกว่าครับ (หรือบอกแนวเสียงแต่ละตัวก็ได้)
(http://image.ohozaa.com/i/764/nEvqr3.JPG)
(http://image.ohozaa.com/i/80f/ebFLF5.jpg)
ถ้าเอากันเรื่องเสียงจริง ๆ อะ solen มันออกแบบมาให้ใช้สำหรับงานด้านเสียงโดยเฉพาะครับ แต่ vishay ดูแล้วมันเป็น class x2 อะครับมันเป็น c สำหรับใช้ในภาคจ่ายไฟครับเอาไว้ลด noise รบกวนอะครับ ส่วนเรื่องเสียงไม่เคยฟังตัว vishay ครับเลยไม่รู้ แต่ว่า solen จะให้น้ำเสียงที่ใสรายละเอียดดีมากครับแต่มันจะด้อยในด้าน dynamic กับ สมดุลเสียงครับ
ปล. ผมว่าน้าลอง burn เจ้า 5u4 ที่ให้ไปสักนิดนึงก่อนดีก่าครับน้า :secret :secret :secret จากนั้นจะเปลี่ยน c coupling หรืออะไรค่อยว่ากันครับน้า ถ้าเป็นผมอย่างที่เคยบอกในเว็บนู้นอะครับน้าผมจะจัดการ ภาคจ่ายไฟก่อนเลยครับ
เรียน จขกท.
ขอแนะนำว่าอย่าไป Edit ในกระทู้ที่มีผู้ตอบ เพราะอาจทำให้สับสนได้ว่าข้อความเดิมถูกแก้ไขไปด้วยหรือไม่
หากต้องการตอบ หรือถามต่อ สมควรใช้วิธีการโพสต์ใหม่ หรือจะอ้างถึงกระทู้ที่มีผู้ตอบก็ได้
เพราะจะไม่ทำให้สับสนครับ
Ck ไว้บายพาส Rk เนื่องจากจัดวงจรแบบ self bias เพื่อให้ได้อัตราการขยายเต็มครับ
ส่วนวงจรล่างเป็น fix bias ไม่ต้องมีR 10โอมห์นั้นไว้วัดกระแสเฉยๆครับ
เครื่องจีนทำออกมาสวยครับ อยากได้มั่งซื้อในไทยได้ที่ไหนครับ
อีกหนึ่งคำถามครับ C สองยี่ห้อด้านล่างนี้ ตัวไหนเสียงดีกว่าครับ (หรือบอกแนวเสียงแต่ละตัวก็ได้)
(http://image.ohozaa.com/i/764/nEvqr3.JPG)
(http://image.ohozaa.com/i/80f/ebFLF5.jpg)
ถ้าเอากันเรื่องเสียงจริง ๆ อะ solen มันออกแบบมาให้ใช้สำหรับงานด้านเสียงโดยเฉพาะครับ แต่ vishay ดูแล้วมันเป็น class x2 อะครับมันเป็น c สำหรับใช้ในภาคจ่ายไฟครับเอาไว้ลด noise รบกวนอะครับ ส่วนเรื่องเสียงไม่เคยฟังตัว vishay ครับเลยไม่รู้ แต่ว่า solen จะให้น้ำเสียงที่ใสรายละเอียดดีมากครับแต่มันจะด้อยในด้าน dynamic กับ สมดุลเสียงครับ
ปล. ผมว่าน้าลอง burn เจ้า 5u4 ที่ให้ไปสักนิดนึงก่อนดีก่าครับน้า :secret :secret :secret จากนั้นจะเปลี่ยน c coupling หรืออะไรค่อยว่ากันครับน้า ถ้าเป็นผมอย่างที่เคยบอกในเว็บนู้นอะครับน้าผมจะจัดการ ภาคจ่ายไฟก่อนเลยครับ
Ck ไว้บายพาส Rk เนื่องจากจัดวงจรแบบ self bias เพื่อให้ได้อัตราการขยายเต็มครับ
ส่วนวงจรล่างเป็น fix bias ไม่ต้องมีR 10โอมห์นั้นไว้วัดกระแสเฉยๆครับ
ได้ความรู้อีกแล้ว..ขอบคุณครับ
ขออนุญาติแก้นิดนะครับ หากใช้ค่ามากเกินไป ค่า Vg ที่กำหนดไว้ในจุดไบอัสจะเปลี่ยนจากที่เรากำหนดไว้ เนื่องจากกระแสไหลผ่าน Rแล้วเกิด V ครับทำให้ Vg-kมีค่าติดลบมากขึ้นทำให้กระแสไหลน้อยลง ไม่ทำให้หลอดพังครับ
เพราะหากไปคั่นไม่ให้กระแสไหลลงกราวด์หลอดจะตายในหน้าที่ครับ
ขออนุญาติแก้นิดนะครับ หากใช้ค่ามากเกินไป ค่า Vg ที่กำหนดไว้ในจุดไบอัสจะเปลี่ยนจากที่เรากำหนดไว้ เนื่องจากกระแสไหลผ่าน Rแล้วเกิด V ครับทำให้ Vg-kมีค่าติดลบมากขึ้นทำให้กระแสไหลน้อยลง ไม่ทำให้หลอดพังครับ
เพราะหากไปคั่นไม่ให้กระแสไหลลงกราวด์หลอดจะตายในหน้าที่ครับ
สำหรับผม ถ้าไฟ bias สูง และใช้ Rk ค่ามาก ผมชอบแบ่งไฟ bias ไปที่ grid ส่วนนึงเป็น fix bias เพื่อลดค่า Rk ลง ทำให้ Rk ไม่ต้องใช้ค่าทนกำลังวัตต์สูง และไม่ร้อน และแต่งเสียงด้วย Ck ครับ ;Dขออนุญาติแก้นิดนะครับ หากใช้ค่ามากเกินไป ค่า Vg ที่กำหนดไว้ในจุดไบอัสจะเปลี่ยนจากที่เรากำหนดไว้ เนื่องจากกระแสไหลผ่าน Rแล้วเกิด V ครับทำให้ Vg-kมีค่าติดลบมากขึ้นทำให้กระแสไหลน้อยลง ไม่ทำให้หลอดพังครับ
เพราะหากไปคั่นไม่ให้กระแสไหลลงกราวด์หลอดจะตายในหน้าที่ครับ
Ck ไว้บายพาส Rk เนื่องจากจัดวงจรแบบ self bias เพื่อให้ได้อัตราการขยายเต็มครับ
ส่วนวงจรล่างเป็น fix bias ไม่ต้องมีR 10โอมห์นั้นไว้วัดกระแสเฉยๆครับ
ได้ความรู้อีกแล้ว..ขอบคุณครับ
ขออนุญาตมาขยายความเพิ่ม
การจัดวงจร Self Bias เราใช้ Rk เป็นตัวตั้ง Bias ให้กับหลอด
โดยมี Ck เป็นผู้ทำหน้าที่เพิ่มลดเกนขยาย ซึ่งจะใส่ หรือไม่ใส่ก็ได้
ไม่ใส่เกนขยายต่ำ แต่ความเที่ยงตรงสูง, หากใส่เกนขยายเพิ่ม ความเที่ยงตรงลดลง
ส่วนการจัดวงจร Fix Bias นั้น เป็นการตั้ง Bias ให้กับหลอดด้วยการกำหนดเอาเอง
จึงไม่จำเป็นต้องมี Rk เพื่อเอาไว้ตั้ง Bias อีก บางรายจะต่อตรงจากขาคาโทดลงกราวด์ไปเลยก็มี
การต่อตรงจะวัดกระแสหลอดไม่ได้ เราจึงต้องมี R มาต่อคั่นเพื่อวัดกระแส
ดังนั้น การใช้ R มาต่อตรงจุดนี้ เราควรใช้ค่า 1 - 15 โอห์ม และไม่ควรใช้ค่าสูงเกินไป
เพราะหากไปคั่นไม่ให้กระแสไหลลงกราวด์หลอดจะตายในหน้าที่ครับ
สำหรับผม ถ้าไฟ bias สูง และใช้ Rk ค่ามาก ผมชอบแบ่งไฟ bias ไปที่ grid ส่วนนึงเป็น fix bias เพื่อลดค่า Rk ลง ทำให้ Rk ไม่ต้องใช้ค่าทนกำลังวัตต์สูง และไม่ร้อน และแต่งเสียงด้วย Ck ครับ ;Dขออนุญาติแก้นิดนะครับ หากใช้ค่ามากเกินไป ค่า Vg ที่กำหนดไว้ในจุดไบอัสจะเปลี่ยนจากที่เรากำหนดไว้ เนื่องจากกระแสไหลผ่าน Rแล้วเกิด V ครับทำให้ Vg-kมีค่าติดลบมากขึ้นทำให้กระแสไหลน้อยลง ไม่ทำให้หลอดพังครับ
เพราะหากไปคั่นไม่ให้กระแสไหลลงกราวด์หลอดจะตายในหน้าที่ครับ
ใช้ C อะไรในภาคไฟfix biasครับ?สำหรับผม ถ้าไฟ bias สูง และใช้ Rk ค่ามาก ผมชอบแบ่งไฟ bias ไปที่ grid ส่วนนึงเป็น fix bias เพื่อลดค่า Rk ลง ทำให้ Rk ไม่ต้องใช้ค่าทนกำลังวัตต์สูง และไม่ร้อน และแต่งเสียงด้วย Ck ครับ ;Dขออนุญาติแก้นิดนะครับ หากใช้ค่ามากเกินไป ค่า Vg ที่กำหนดไว้ในจุดไบอัสจะเปลี่ยนจากที่เรากำหนดไว้ เนื่องจากกระแสไหลผ่าน Rแล้วเกิด V ครับทำให้ Vg-kมีค่าติดลบมากขึ้นทำให้กระแสไหลน้อยลง ไม่ทำให้หลอดพังครับ
เพราะหากไปคั่นไม่ให้กระแสไหลลงกราวด์หลอดจะตายในหน้าที่ครับ
น้ำเสียงเป็นไงบ้างครับไม่เคยลองเลย เพราะส่วนตัวผมจากที่เคยทำ fix bias เพื่อหนีการใช้ r ดีดี ตรง cathode มันกลับไม่ค่อยได้ผลเท่าใดนักครับ :cry2 :cry2 สุดท้ายตัองกลับมาหา r cathode ดีดีเหมือนเดิมครับ :cry2 :cry2 :cry2 เพราะปลายแหลม fix bias มันจะไม่ค่อยพริ้วเหมือน cathode bias :secret
สำหรับผม ถ้าไฟ bias สูง และใช้ Rk ค่ามาก ผมชอบแบ่งไฟ bias ไปที่ grid ส่วนนึงเป็น fix bias เพื่อลดค่า Rk ลง ทำให้ Rk ไม่ต้องใช้ค่าทนกำลังวัตต์สูง และไม่ร้อน และแต่งเสียงด้วย Ck ครับ ;Dขออนุญาติแก้นิดนะครับ หากใช้ค่ามากเกินไป ค่า Vg ที่กำหนดไว้ในจุดไบอัสจะเปลี่ยนจากที่เรากำหนดไว้ เนื่องจากกระแสไหลผ่าน Rแล้วเกิด V ครับทำให้ Vg-kมีค่าติดลบมากขึ้นทำให้กระแสไหลน้อยลง ไม่ทำให้หลอดพังครับ
เพราะหากไปคั่นไม่ให้กระแสไหลลงกราวด์หลอดจะตายในหน้าที่ครับ
ผมใช้วิธีเดาๆ มั่วๆ 2f ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนครับว่า หลอดต้องการ bias กี่ volt กี่ ma แล้วเรามี R อะไรดีๆ ที่อยากใช้อยู่บ้าง จากนั้นก็เอา R มาคำนวนกับกระแสที่ต้องการ bias หลอด ก็จะได้ volt คร่อม R ที่เป็น self bias จากนั้น ก็เอา volt คร่อม Rk ไปลบออกจาก volt ที่ต้องการ bias ทั้งหมด แล้วก็จัดไฟ - (เน้นเป็นไฟลบ) เข้า bias grid เลยครับ หลอดก็จะทำงานตามที่กำหนดใน loadline จากนั้น ก็หา C มาคร่อม หาค่า roll off freq. โดยหาจากค่า Rk กับ Ck พยายามให้ได้ค่า roll off freq. ต่ำกว่า 15 แล้วก็ลองฟังเสียงดูครับ ว่าชอบมั้ย ก่อนจะค่อยๆ ปรับแต่งต่อไปสำหรับผม ถ้าไฟ bias สูง และใช้ Rk ค่ามาก ผมชอบแบ่งไฟ bias ไปที่ grid ส่วนนึงเป็น fix bias เพื่อลดค่า Rk ลง ทำให้ Rk ไม่ต้องใช้ค่าทนกำลังวัตต์สูง และไม่ร้อน และแต่งเสียงด้วย Ck ครับ ;Dขออนุญาติแก้นิดนะครับ หากใช้ค่ามากเกินไป ค่า Vg ที่กำหนดไว้ในจุดไบอัสจะเปลี่ยนจากที่เรากำหนดไว้ เนื่องจากกระแสไหลผ่าน Rแล้วเกิด V ครับทำให้ Vg-kมีค่าติดลบมากขึ้นทำให้กระแสไหลน้อยลง ไม่ทำให้หลอดพังครับ
เพราะหากไปคั่นไม่ให้กระแสไหลลงกราวด์หลอดจะตายในหน้าที่ครับ
คุณ gai เล่นเหมือนกับผม ที่ผมชอบ Fix Bias นั้น
ก็เนื่องจากไม่มี Rk ดี ๆ กับเขา ทางออกที่ดีที่สุดก็เลยจับ Fix Bias เพราะสามาถใช้ R ตัวจิ๋วมาใส่แทน
แต่ด้วยที่ชอบแต่งเสียง ก็ยังไม่วายใช้ Ck มาแต่งเสียงตรงจุดนี้ด้วยเช่นกัน
ผมขอเรียนตามตรงว่า R ที่เอามาต่อเพื่อวัดกระแสตรงจุดนี้
ยังไม่เคยใช้ค่าเกินกว่า 20 โอห์มเลยสักครั้ง เพราะกลัวกระแสไม่ไหลลงกราวด์
นี่ถ้ารู้ว่าใช้ R ค่ามากได้ คงได้ทดลองจาก 20R ไปจนถึง 1K ด้วยความอยากรู้อยากลองเป็นแน่แท้
c) c)
ใช้ C อะไรในภาคไฟfix biasครับ?สำหรับผม ถ้าไฟ bias สูง และใช้ Rk ค่ามาก ผมชอบแบ่งไฟ bias ไปที่ grid ส่วนนึงเป็น fix bias เพื่อลดค่า Rk ลง ทำให้ Rk ไม่ต้องใช้ค่าทนกำลังวัตต์สูง และไม่ร้อน และแต่งเสียงด้วย Ck ครับ ;Dขออนุญาติแก้นิดนะครับ หากใช้ค่ามากเกินไป ค่า Vg ที่กำหนดไว้ในจุดไบอัสจะเปลี่ยนจากที่เรากำหนดไว้ เนื่องจากกระแสไหลผ่าน Rแล้วเกิด V ครับทำให้ Vg-kมีค่าติดลบมากขึ้นทำให้กระแสไหลน้อยลง ไม่ทำให้หลอดพังครับ
เพราะหากไปคั่นไม่ให้กระแสไหลลงกราวด์หลอดจะตายในหน้าที่ครับ
น้ำเสียงเป็นไงบ้างครับไม่เคยลองเลย เพราะส่วนตัวผมจากที่เคยทำ fix bias เพื่อหนีการใช้ r ดีดี ตรง cathode มันกลับไม่ค่อยได้ผลเท่าใดนักครับ :cry2 :cry2 สุดท้ายตัองกลับมาหา r cathode ดีดีเหมือนเดิมครับ :cry2 :cry2 :cry2 เพราะปลายแหลม fix bias มันจะไม่ค่อยพริ้วเหมือน cathode bias :secret
คุณเบนมี R ดีๆ เยอะ ลองแบบผมสิครับ R cathode จะได้ไม่ร้อนมาก แล้วก็ไม่ต้องใส่ตัวโตๆ 2fใช้ C อะไรในภาคไฟfix biasครับ?สำหรับผม ถ้าไฟ bias สูง และใช้ Rk ค่ามาก ผมชอบแบ่งไฟ bias ไปที่ grid ส่วนนึงเป็น fix bias เพื่อลดค่า Rk ลง ทำให้ Rk ไม่ต้องใช้ค่าทนกำลังวัตต์สูง และไม่ร้อน และแต่งเสียงด้วย Ck ครับ ;Dขออนุญาติแก้นิดนะครับ หากใช้ค่ามากเกินไป ค่า Vg ที่กำหนดไว้ในจุดไบอัสจะเปลี่ยนจากที่เรากำหนดไว้ เนื่องจากกระแสไหลผ่าน Rแล้วเกิด V ครับทำให้ Vg-kมีค่าติดลบมากขึ้นทำให้กระแสไหลน้อยลง ไม่ทำให้หลอดพังครับ
เพราะหากไปคั่นไม่ให้กระแสไหลลงกราวด์หลอดจะตายในหน้าที่ครับ
น้ำเสียงเป็นไงบ้างครับไม่เคยลองเลย เพราะส่วนตัวผมจากที่เคยทำ fix bias เพื่อหนีการใช้ r ดีดี ตรง cathode มันกลับไม่ค่อยได้ผลเท่าใดนักครับ :cry2 :cry2 สุดท้ายตัองกลับมาหา r cathode ดีดีเหมือนเดิมครับ :cry2 :cry2 :cry2 เพราะปลายแหลม fix bias มันจะไม่ค่อยพริ้วเหมือน cathode bias :secret
ผมลองหมดตั้งแต่ electrolytic ยัน poly ครับน้า แต่สุดท้ายก็กลับมาเล่น cathode bias เหมือนเดิมครับ :P
การทำ Fix Bias ส่วนใหญ่แล้วผมจะทำ PCB ชุดไฟลบไว้คอยท่าก่อนลงมือทำแอมป์หลอดงั้นก็ยิ่งง่ายครับ ลองปรับลดค่าไฟลบให้น้อยลง แล้วไปเพิ่มไฟลบที่ cathode ด้วย R ต่อจากนั้นปรับแต่งเสียงด้วย C ครับ ลองดูว่าเสียงเปลี่ยนไปยังไงครับ :clap
อยากได้ไฟลบเท่าไร ก็ปรับ VR เอาตามใจชอบ
ตัวอย่างเช่น แผ่นนี้ใช้กับแอมป์ SE อุปกรณ์และไฟที่ใช้ก็ปรับเปลี่ยนไปตามสถานะของการใช้งานครับ
(https://lh3.googleusercontent.com/-DKo-8jhScNs/UOUbiPCRy0I/AAAAAAAAFMY/_H9TLbb8ZT8/s479/Fixed%2520Bias-New-2.jpg)
คุณเบนมี R ดีๆ เยอะ ลองแบบผมสิครับ R cathode จะได้ไม่ร้อนมาก แล้วก็ไม่ต้องใส่ตัวโตๆ 2fใช้ C อะไรในภาคไฟfix biasครับ?สำหรับผม ถ้าไฟ bias สูง และใช้ Rk ค่ามาก ผมชอบแบ่งไฟ bias ไปที่ grid ส่วนนึงเป็น fix bias เพื่อลดค่า Rk ลง ทำให้ Rk ไม่ต้องใช้ค่าทนกำลังวัตต์สูง และไม่ร้อน และแต่งเสียงด้วย Ck ครับ ;Dขออนุญาติแก้นิดนะครับ หากใช้ค่ามากเกินไป ค่า Vg ที่กำหนดไว้ในจุดไบอัสจะเปลี่ยนจากที่เรากำหนดไว้ เนื่องจากกระแสไหลผ่าน Rแล้วเกิด V ครับทำให้ Vg-kมีค่าติดลบมากขึ้นทำให้กระแสไหลน้อยลง ไม่ทำให้หลอดพังครับ
เพราะหากไปคั่นไม่ให้กระแสไหลลงกราวด์หลอดจะตายในหน้าที่ครับ
น้ำเสียงเป็นไงบ้างครับไม่เคยลองเลย เพราะส่วนตัวผมจากที่เคยทำ fix bias เพื่อหนีการใช้ r ดีดี ตรง cathode มันกลับไม่ค่อยได้ผลเท่าใดนักครับ :cry2 :cry2 สุดท้ายตัองกลับมาหา r cathode ดีดีเหมือนเดิมครับ :cry2 :cry2 :cry2 เพราะปลายแหลม fix bias มันจะไม่ค่อยพริ้วเหมือน cathode bias :secret
ผมลองหมดตั้งแต่ electrolytic ยัน poly ครับน้า แต่สุดท้ายก็กลับมาเล่น cathode bias เหมือนเดิมครับ :P