HTG2.club

Home Theater Guide webboard => มุม Thai DIY Audio => ข้อความที่เริ่มโดย: Amadeus ที่ 12 มกราคม, 2013, 05:16:47 pm

หัวข้อ: ถามสองสามข้อครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Amadeus ที่ 12 มกราคม, 2013, 05:16:47 pm
1. สายRCA เข้าหัวอย่างไรครับ ต่อสานสัญญาณเข้าที่หัว แล้วต่อชีลลงกราวด์ ถูกไหมครับ. แล้วทำอย่างนี้ทั้งหมดทุกหัวหรือป่าว (ดำสองหัว แดงสองหัว) อย่างของแบรนเนมเค้าต่อสายอย่างไรครับ

2. สายRCA.+กราวด์ ที่ใช้กับเครื่องเล่นแผ่นเสียงเข้าหัวอย่างไรครับ. เข้าเหมืนอข้อ1 แล้วมีกราวด์แยกจากหัวเข็มเส้นนึงมาลงที่ตัวถังของโฟโนหรือป่าวครับ แล้วมันจะเกิดลูปไหมครับ. ไม่เคยเห็นสายแบบนี้เค้าทำขายเลยครับ เค้าต่อแบบนี้หรือป่าว

3. กรณีใช้หลอดเร็กติฟาย. สมมต ez81  C. Fil 50 uF
หากเราใช้ c-r-c ---------->> c 50uF  -R- c 22000uf ผมสมมติค่าเว่อๆนะครับ กรณีใส่ซีตัวหลังมากๆมีข้อเสียร้ายแรงไหมครับ เช่นหลอดเร็กพังฯลฯ


ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ถามสองสามข้อครับ
เริ่มหัวข้อโดย: NEWHANDS ที่ 16 มกราคม, 2013, 01:47:40 pm
 :)
ผมไม่รู้ แต่มาช่วยดัน กลัวกระทู้ตก แล้วท่านผู้รู้จะไม่ทันได้อ่าน
หัวข้อ: Re: ถามสองสามข้อครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kirati ที่ 17 มกราคม, 2013, 02:49:58 am
ข้อ1 ผมก็ต่อใช้ตามนั้นแหละครับ
ส่วนข้อ2 ไม่ทราบเพราะไม่เคยเล่นแผ่นดำครับ
ข้อ3 ขอบายเหมือนกัน เพราะยังไม่เคยลอง
  สรุป มาช่วยดันอีกมือ  ;D ;D เพราะอยากรู้เหมือนกัน
หัวข้อ: Re: ถามสองสามข้อครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Karin Preeda ที่ 17 มกราคม, 2013, 06:21:15 am
1. สาย shield สมัยใหม่จะมีสายในสองเส้น แดง ขาว และก็ shield ที่ผมเห็นคือฝั่งต้นทางต่อ ขาว กับ ground ของ RCA และแดงต่อกับขาสัญญาณ ไม่ต่อ shield ส่วนด้านปลายทางจะต่อขาวและ shield กับ ground แดงก็ต่อกับขาสัญญาณครับ

2. สัญญาณที่ออกจากหัวเข็มคือ ขาว แดง น้ำเงิน เขียว โดย ขาวคือ + ของ channcel ซ้าย น้ำเงินคือ - ของ channel ซ้าย แดงคือ + ของ channel ขวา และเขียวคือ - ของ channel ขวาครับ ซึ่งจะเห็นว่าไม่มีต่อ ground ตรงไหนเลย จึงต้องมีสาย ground อีกเส้นนึงต่อกับตัวเครื่องและ tonearm จริงๆถ้าสายที่ใช้เป็นแบบข้างในมีสองเส้นจะใช้เทคนิคเดียวกับการต่อในข้อ 1 ก็ได้นะครับ ส่วน ground ยังคงต้องต่ออยู่

3. C ตัวหลังถ้ามากเกินไป rectifier ก็มีสิทธ์ arc ได้ครับ แต่ที่จะเกิดขึ้นก่อนคือมัน charge ไม่เต็มซักที เล่นๆไปเจอสัญญาณเสียงเบสหนักๆเสียงอาจจะแตกได้ครับ
หัวข้อ: Re: ถามสองสามข้อครับ
เริ่มหัวข้อโดย: เขียวหวาน ที่ 17 มกราคม, 2013, 03:58:32 pm
Welcome Back ครับน้าอมาดิอุซ :clap :clap :clap :clap :clap :clap
หัวข้อ: Re: ถามสองสามข้อครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Amadeus ที่ 17 มกราคม, 2013, 09:29:45 pm
ขอบคุณพี่ Karin มากครับที่ตอบคำถามครับ  จริงๆแล้วยังมีคำถามอีกเยอะเลยครับ ขอค่อยๆทยอยถามได้ไหมครับ  K]

Welcome Back ครับน้าอมาดิอุซ :clap :clap :clap :clap :clap :clap

หวัดดีครับน้าเขียว  ยังอ่านเว็บเรื่อยๆ ไม่มีโอกาสได้ทำแอมป์ครับ พอไม่ได้ทำเครื่องก็ฟังเพลงอย่างเดียวก็ดีไปอีกแบบ แต่ใจก็ยังอยากซนครับ

ได้ไปฟังเครื่องคนอื่นบ้างตามโอกาส เดี๋ยวนี้ทำแอมป์กันเก่งมากๆ พี่บางคนไม่ต้องเข้าใจทฤษฏีมากมาย อาศัยใจกับลองผิดถูก เสียงออกมาก็สุดยอดเลย O0  

เป็นกำลังใจให้คนที่ไม่ได้เรียนมาทางนี้แบบผมมาก  แต่ช่วงนี้ไม่มีโครงการจริงๆ เลยขออ่านๆไปก่อนครับ ประหยัดดี....ฮา   

หัวข้อ: Re: ถามสองสามข้อครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Amadeus ที่ 17 มกราคม, 2013, 09:36:32 pm
เอามากจากหนังสือรวมเครื่องเสียงหลอดครับ

ผมก็อยากทำแบบที่มันได้ความถี่ครบๆเหมือนกัน และก็เห็นด้วยกับอีกเล่มที่ต้องมีทั้ง

good planing กับ good design ครับ แต่ตอนนี้มันไม่เข้าใจว่าวงจรดีๆมันเป็นยังไงเท่านั้นเองครับ

คงไม่ได้จะเอาให้ถึงขนาดออกแบบ วงจรเก่งๆหรอกครับ ขอแค่เข้าใจหลักการมันบ้างก็ยังดี
หัวข้อ: Re: ถามสองสามข้อครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Amadeus ที่ 17 มกราคม, 2013, 09:48:53 pm
มาถึงคำถามแล้วครับ

 .....เค้าบอกว่า หลอดไตรโอด หากต้องการนำมาใช้ให้เพิ่มค่า impedance เป็น2-3 เท่าของ Rp จะได้กำลังสูงสุดที่ปราศจากความเพี้ยน

อย่างนี้ ถ้าหลอด 2A3 Rp = 800 ohms  เราก็ใช้ output 800X3 = ประมาณ 2.5 K  แบบนี้ถูกต้องไหมครับ

แล้วทำไมมันทำให้เกิด maximum undistorted power output หล่ะครับ  แบบนี้ 1.6 K กับ 2.4K (คูณสองเท่ากับสามเท่า)

มันดี เสียต่างกันยังไงครับ

ขอบคุณมากครับ :help
หัวข้อ: Re: ถามสองสามข้อครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Amadeus ที่ 17 มกราคม, 2013, 09:59:17 pm
ย่อหน้าแรกหมายความว่าอะไรครับ อัตราการทนได้ของเพลตหลอดคือตัวไหนในดาต้าชีท

ย่อหน้าสอง สมมติว่าหลอด 6L6 pentode connected มีRp = 35000 ohms

ทำให้ต้องใช้เอาพุท 35000 X 0.1 หรือ 0.2 คือ 3.5 -7 K แบบนี้ใช่ไหมครับ
หัวข้อ: Re: ถามสองสามข้อครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ลำน้ำ ที่ 17 มกราคม, 2013, 11:13:48 pm
ย่อหน้า แรก น้าลำตอบได้
ค่าสูงสุดที่ เพลตหลอด ทนได้ คือ  ค่า Pd ใน data sheet ครัับ Pd ย่อมาจาก Power Dissipation มีหน่วยเป็น Watt ครับ

หาได้จาก สูตร

Pd = E * I

E แรงดันที่ คร่อมหลอด ระหว่างขั้ว plate กับ ขั้ว cathode
I คือกระแส ที่ไหล ผ่าน Plate

บางที่ เค้าก็ใช้ คำอื่นๆ เช่น Pa แต่น่าจะเป็นตัวเดียวกัน
(http://www.mif.pg.gda.pl/homepages/frank/short/001/6/6BX7.gif)
หัวข้อ: Re: ถามสองสามข้อครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ลำน้ำ ที่ 17 มกราคม, 2013, 11:22:26 pm
คำถามที่น่าสนใจกว่า คือ Bias เท่าไหร่ ดี หลอดจึงจะอยู่กับ เรานาน ??

ตรงนี้ แล้ว แต่ เบอร์ แล้ว แต่ยี่ห้อ และ อื่นๆ อีกมากมายที่ไม่รู้
อย่างเช่น หลอด 2A3  เค้าบอกว่า Pd = 15W แล้วที่เค้า นิยม Bias กัน คือ 250V * 0.06A = 15W  สรุปมัน Bias กัน 100% เลย  ;D ;D

แต่ มี 2 เรื่อง ที่พี่ จะุคุยให้ฟัง ครับ  เอามาจาก data sheet
1. สำหรับหลอด ทั่วไป 60%-70% ของ Pd(max) [และ ค่า max อื่นๆด้วย] น่าจะกำลัง ดี หลอดจะอยู่กับ เรา นาน  เช่น ตัวอย่าง

พี่เชื่อ ว่า หลอดอื่นๆ ก็น่าจะมีแนวโน้ม อย่างนี้ เหมือนกัน (สรุป รูปนี้ดี ดูแล้วจำไปเลยครับ)  ;D ;D
หัวข้อ: Re: ถามสองสามข้อครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ลำน้ำ ที่ 17 มกราคม, 2013, 11:28:44 pm
เรื่อง ที่ 2 สำหรับ หลอดที่เป็น Triode คู่  อย่างเช่น พวก 6BX7 6BL7 6528 6336 
Pd ของ Triode เดี่ยว อาจจะสูง ถึง 10W  แต่เมื่อ ทำงานคู่ กันแล้ว อาจจะไม่เป็น 20W อย่างที่เราคิด จะให้เป็น นะครับ 

ดูรูปประกอบ
หัวข้อ: Re: ถามสองสามข้อครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Amadeus ที่ 19 มกราคม, 2013, 08:56:54 am
ขอบคุณพี่ลำน้ำมากครับ ทำให้ผมเข้าใจจริงๆครับ

ขอแจกลิ๊งค์หนังสือเผื่อคนอื่นยังไม่มีครับ

http://www.tonicamps.com/reference/15887683-Morgan-Jones-Building-Valve-Amplifier.pdf

http://milas.spb.ru/~kmg/files/literature/Morgan_Jones_Valve_Amplifiers_Third_Edition.pdf