HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม โฮมเธียเตอร์ (HT) => ข้อความที่เริ่มโดย: อูฐ ที่ 19 กุมภาพันธ์, 2013, 03:48:25 pm
-
เชื่อว่าเพื่อน ๆ ในเวปเรา มีหลายกลุ่ม กลุ่มเล่นแผ่นเสียง กลุ่มเล่นแผ่นซีดี กลุ่มเล่นไฟล์เพลง อยากฟังความคิดเห็นหน่อยคับว่า ชอบเล่นแบบไหนกันบ้าง เพราะอะไรอ่ะคับ ผมจะได้ขออ่านเป็นข้อมูลบ้างอ่ะคับ กำลังจะกลับมาเล่น สองแชนแนลบ้าง ซีดีเก่าก็มีเยอะ แต่อยากลองเล่นไฟล์คอมอ่ะคับ ขอเสียงเพื่อน ๆ หน่อยซิคับ
-
ผมตัดใจเล่นแผ่นเสียงตามกระแส กับเล่นมิวสิคเซิร์ฟเวอร์ครับ
ซื้อแล้ว จ่ายตังค์แล้ว แต่รอบ้านเสร็จครับ...ซีดีมันเล่นรวมกับมิวสิคเซิร์ฟเวอร์ได้ แถมแผ่นเก่าก็มีอยู่มาก ฟังไม่หมดอยู่แล้วเลยไม่เล่นครับ
เพราะเล่นมิวสิคเซิร์ฟเวอร์ ถือว่า ทูอินวัน รวมซีดีแถมยังดาวน์โหลดไฟล์ไฮเด็ฟได้อีกด้วย คุ้มกว่าครับ
-
ผมเล่นจากไฟล์ครับ ผ่าน ipod/iphone คุณภาพเสียงพอไหว ที่สำคัญคือ สะดวกสำหรับผม
-
ผมเล่นไฟล์เพลงเป็นหลักมาหลายปี จากเครื่อง Windows มา Macmini มา Music Server ชอบในความสะดวกครับ คุณภาพเสียงก็ถือว่าดีมาก
แต่ยังไม่เคยฟังเทียบกับ CD แพงๆ เพราะยังไงก็คงไม่เล่น CD เพราะไม่ค่อยถูกจริต
ตอนนี้เริ่มเล่นแผ่นดำ แรกๆเล่นขำๆ ให้ได้อารมณ์ย้อนยุค เพราะไม่ค่อยถูกจริตเรื่องลุกขึ้นลุกลงไปเปลี่ยนแผ่น แต่พอใส่ใจ set up ต่างๆ พอได้แผ่นดีๆมา เสียงก็ดีมากครับ ดีจนปีที่แล้วซื้อแต่แผ่นดำครับ
:D :D :D
-
เสียงดีอันดับหนึ่ง แผ่นเสียงครับ
รองลงมา Mac (ไฟล์สกุลAIFF)
รองลงมา CD
สะดวกสบาย iPod ต่อไวร์เรสเข้า DAC
รั้งท้ายสุดคือ MP3 ครับ
-
ไม่เคยเล่น mac แต่ pc + filelizer + cplay เสียงดีทีเดียว
ดีแบบทิ้งห่าง itune แบบชัดเจน
แต่เทียบกับ foobar + jriver เสียงจะมีฐานเบสเลยมีฐานเสียงฟังอวบอิ่มมากกว่าเวลาฟังร้อง
foobar + jriver จะฟังเหมือนแห้งเสียงร้องออกจมูก
-
ผมเล่นทั้งสามอย่าง...แล้วแต่ครับ..ได้อารมณ์ไปคนละแบบ...แต่ส่วนใหญ่มีแต่ของถูกๆ เล่นตามสถานะภาพตัวเองครับ... :)
-
เสียงดีอันดับหนึ่ง แผ่นเสียงครับ
รองลงมา Mac (ไฟล์สกุลAIFF)
รองลงมา CD
สะดวกสบาย iPod ต่อไวร์เรสเข้า DAC
รั้งท้ายสุดคือ MP3 ครับ
สอบถามครับ ต่อ Wireless เข้า DAC นี่่ต่อเป็น digital เข้าไปเลยหรือครับ แล้วใช้อุปกรณ์อะไรครับ
พอดีกำลังหาตัวรับสัญญาณเพือเล่นจาก iPhone ไปเข้าชุดฟังเพลงอยู่ ถ้าได้ก็อยากต่อไปเข้า digital in ของ DAC
พอดีไปเห็นตัวรับที่เป็น Bluetooth ของ Belkin แต่มัน out เป็น Mini Jack เลยยังลังเลอยู่ครับ
-
ขอถามหน่อยคับ เพิ่งหัดเล่น ผมจะเริ่มการเล่นไฟล์อย่างไร
1 ใช้คอมอะไรดี
2 ใช้ dac แบบไหน และ การเชื่อมต่อ อย่างไร
3 ใช้ปรี อะไร
4 ใช้ไฟล์เพลง นามสกุลอะไรดี ทีเสียงดี หาเพื่อนมาก๊อปง่าย
5 ใช้ ฮาร์ดดิส ในการเก็บยี่ห้ออะไร และ เก็บอย่างไรดี
-
ผมชอบเล่นจากคอม เพราะสะดวกครับ เสียงฟังไม่สุนทรีย์เท่าแผ่น แต่ผมเอาสะดวกมากกว่าครับ
1) คอมไม่ว่าจะเป็นของเจ้าไหน ก็มีสัญญาณรบกวนมากอยู่ดีครับ
ถ้าห่วงเรื่องสัญญาณรบกวน ก็ลองเล่นพวก media player/server ก็ได้ครับ เพราะสามารถควบคุมเรื่องสัญญาณรบกวนได้ง่ายกว่ามาก และใช้งบได้น้อยด้วยกว่าครับ
2) DAC แล้วแต่ชอบเลยครับ โดยส่วนตัวที่เคยต่อมา ผมชอบ DAC ของ AKM และก็ phillips NOS dac. โดยรวมภาคอนาล็อคของ dac ให้ผลต่อเสียงชัดเจนกว่าตัว chip ครับ สรุปลองฟังเอาครับ
3) ปรีแล้วแต่ชอบเลยครับ
4) Flac ครับ เป็น lossless หาง่าย อุปกรณ์ที่เล่นได้ก็มีมากมาย Flac เป็น lossless format ที่ไม่มี DRM support hi-bitrate จะ copy อะไรก็สะดวกดีครับ (format อื่นบางที่มันมี DRM ครับ)
5) ยี่ห้ออะไรก็ได้ที่ประกันยาวๆครับ ส่วนเก็บถ้าห่วงเรื่องกลัวไฟล์หาย/พังก็เก็บแบบ raid-1 (แบบมี back-up โดยใช้ HD สองลูก เปลืองหน่อย)
-
ผมใช้ HD player ->Dac->pre+power ครับ :D
-
เสียงดีอันดับหนึ่ง แผ่นเสียงครับ
รองลงมา Mac (ไฟล์สกุลAIFF)
รองลงมา CD
สะดวกสบาย iPod ต่อไวร์เรสเข้า DAC
รั้งท้ายสุดคือ MP3 ครับ
ถามต่อด้วยอีกคนครับ ผมก็เล่นแบบไฟล์บางครั้งโดยเอาสัญญาณ SPDIF ออกจากคอมฯเข้า DAC อยากจะถามน้าๆเรื่องไฟล์น่ะครับ
1. ใช้โปรแกรมอะไรเล่นไฟล์เพลงจึงจะได้เสียงสมบูรณ์และดีที่สุด
2. ใช้โปรแกรมอะไรเขียนไฟล์HI-DEFลงแผ่น ไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาบางทีจะเป็นนามสกุล AIFF, FLAC, Cue(CDImage .wav) ถ้าผมจะเก็บไว้ในรูปแบบแผ่นCDเพื่อเอาไปเล่นที่เครื่องเล่นCD ต้องใช้โปรแกรมอะไรเขียนแผ่นจึงจะได้คุณภาพเหมือนไฟล์ต้นฉบับ ที่ผมเคยทำจะใช้โปรแกรม ImgBurn เขียนแผ่นถ้าไฟล์รวมเป็น CDImage .wav หรือ .flac) ถ้าไฟล์แยกเป็นแทร็ค .flac ก็จะใช้โปรแกรม Nero ถ้าไฟล์เป็นแบบHDCD(ไฟล์ขนาดใหญ่กว่าแผ่นCD)หรือไฟล์เป็นแบบ CDImage .dts จะเขียนลงแผ่นไม่ได้โปรแกรมฟ้อง error ส่วน AIFF ยังไม่เคยลองเขียนลงแผ่นครับ น้าๆท่านใดเคยทำหรือมีความรู้ด้านนี้ช่วยแนะนำทีด้วยครับ
-
แอบเก็บข้อมูลครับ K)
-
ผมเล่นแต่ file ส่วนใหญ่เลย ง่ายๆ iMac + aq แมงปอ ต่อ mini2RCA เข้าแอม บางครั้งก็เปลี่ยน ต่อเข้าหูฟังแทนครับ ;)
-
ถามต่อด้วยอีกคนครับ ผมก็เล่นแบบไฟล์บางครั้งโดยเอาสัญญาณ SPDIF ออกจากคอมฯเข้า DAC อยากจะถามน้าๆเรื่องไฟล์น่ะครับ
1. ใช้โปรแกรมอะไรเล่นไฟล์เพลงจึงจะได้เสียงสมบูรณ์และดีที่สุด
ถ้าเสียงสมบูรณ์ หมายถึง สามารถปล่อยสัญญาณ digital ได้เหมือนต้นฉบับ จะใช้โปรแกรมอะไรก็ได้ที่ ปล่อย bit-perfect ได้
os ไม่ว่าจะเป็น iOS หรือ windows หรือ Linux ค่า default ของมันจะมีการทำ Sampling Rate Conversion (SRC) ซึ่งทำให้เสียงต่างกัน แล้วแต่ว่า OS ไหนจะใช้ Algorithm อะไร ถ้าเข้าใจการทำงานของมัน ก็ขึ้นอยู่ว่าคุณจะชอบ การปรุงแต่งแบบไหนครับ หรือคณจะตั้งไม่ให้มันปรุงแต่งไดๆก็ได้ครับ
โปรแกรมเล่นเพลงบางครั้งเขาก็ตั้งค่ามาโดยมีการทำ SRC มาก่อน หรือบางโปรแกรมก็จูนเสียงมาตั้งแต่ต้น ฟังแล้วชอบแบบไหน หรือจะปิดการปรุงแต่ง ก็เลือกได้ครับ
เลือกโปรแกรมที่ยังมีการพัฒนาอยู่ จะเพราะต่าง version ก็มีการตั้งต่าหรือแก้ bug แล้ว อ่าน FAQ ของโปรแกรมแล้ว ทดลองได้ครับ
2. ใช้โปรแกรมอะไรเขียนไฟล์HI-DEFลงแผ่น ไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาบางทีจะเป็นนามสกุล AIFF, FLAC, Cue(CDImage .wav) ถ้าผมจะเก็บไว้ในรูปแบบแผ่นCDเพื่อเอาไปเล่นที่เครื่องเล่นCD ต้องใช้โปรแกรมอะไรเขียนแผ่นจึงจะได้คุณภาพเหมือนไฟล์ต้นฉบับ ที่ผมเคยทำจะใช้โปรแกรม ImgBurn เขียนแผ่นถ้าไฟล์รวมเป็น CDImage .wav หรือ .flac) ถ้าไฟล์แยกเป็นแทร็ค .flac ก็จะใช้โปรแกรม Nero ถ้าไฟล์เป็นแบบHDCD(ไฟล์ขนาดใหญ่กว่าแผ่นCD)หรือไฟล์เป็นแบบ CDImage .dts จะเขียนลงแผ่นไม่ได้โปรแกรมฟ้อง error ส่วน AIFF ยังไม่เคยลองเขียนลงแผ่นครับ น้าๆท่านใดเคยทำหรือมีความรู้ด้านนี้ช่วยแนะนำทีด้วยครับ
การเขียน rip หรือการ burn CD เพลง ไม่ได้ guarantee ว่าจะเหมือนต้นฉบับ เท่าที่ผมเคยลองเมื่อนานมาแล้ว ส่วนมากจะเหมือนครับ ทดสอบโดยการเปรียบเทียบ spdif ที่เล่นออกมาจากแผ่นที่เขียน ก็เหมือนกับต้นฉบับ น้อยครั้งจะไม่เหมือนครับ AIFF, FLAC, APE, TTA เป็นไฟล์แบบ lossless ไม่ว่าจะ copy ไปกี่ครั้ง ถ้าไม่มี error จะเหมือนต้นฉบับเสมอครับ ยกเว้นถ้ามีการเข้ารหัสป้องกัน DRM อาจจะได้ไม่เหมือนต้นฉบับเวลา burn เป็น CD
-
ผมสงสัยครับว่า Files ที่ว่า Loss-less เช่น FLAC นี่ ต้นฉบับก็คือ CD Sampling Rate 44.1KHz amplitude 16bit ใช่หรือเปล่าครับ.
เพียงแต่ว่ามีการ Copy แบบ Data ไม่ใช่ Media Streaming ถูกต้องไหมครับ ?
-
Files Loss-less เช่น FLAC นี่ สามารถ เก็บ hi-bitrate hi-sampling เช่น 24bit-192k ได้ครับ APE, TTA ผมจำไม่ได้ว่า เก็บได้สูงสุดเท่าไหร่ครับ
File loss less เป็นการเก็บ copy data ครับ แต่ตอนเอาไปเล่น bit ที่เก็บอยู่ในไฟล์ ส่วนใหญ่จะถูก convert ไปเป็น i2s protocol แล้ว ส่งไปให้ DAC chip ครับ
เข้าใจว่าตอนนี้ปัญหาด้านการเก็บ perfect ข้อมูลไม่ใช่ประเด็นสำคัญแล้ว แต่ตอนนี้ปัญหายังอยู่ที่ตอนเล่นครับ
-
ขั้นตอนที่ยากที่สุดก็คือการจัดเก็บรูปแบบไฟล์ให้เหมือน CD ที่สุด หลายต่อหลายครั้งที่ผมลองนำไฟล์จาก CD มาแปลงเป็น Format ต่างๆ และ นำกลับไปบันทึกลง CD อีกครั้ง ปรากฏว่าสุ้มเสียงจาก CD มันดีกว่าต้นฉบับที่เป็น Format ต่างๆ ก็เลยงงว่าทำไมแผ่น CD กับหัวอ่านเลเซอร์มันยังคงความสามารถนั้นอยู่ร่ำไป กว่า 2 ปีที่ลองผิดลองถูก ก็เพิ่งจะจับประเด็นการ Decoder จาก Controller Chip ที่ทำงานร่วมกับหัวอ่าน มันเป็นประเภท Less Latency :cold
หากจะทำให้คอมพิวเตอร์ เล่นไฟล์ หรือ แผ่น CD ให้เทียบเท่าเครื่องเล่น CD เราต้องไม่มี Latency Time ซึ่งวันนั้นประเทศไทยคงมีสถานีอวกาศเป็นของตัวเอง ;D
-
แล้วพวก Streaming music player น่าเล่นหรือยังครับ
สั่งงานผ่าน มือถือ ก็ง่าย ลืม remote ไปได้เลย
-
เห็นด้วย กับคุณ nutty ครับ การ rip จาก audio CD และการ write ลง ไม่ guarantee ว่าจะได้เหมือน
ยิ่งการ write audio นี่ตรวจสอบได้ยากครับ นอกจากข้อจำกัดด้าน physical แล้ว protocol ทางด้านซอฟแวร์ ก็ไม่เหมือนกับ การ copy ไฟล์
ตอน rip ก็คงต้องหวังว่ามันจะได้เหมือนต้นฉบับที่สุด โดยการเทียบ checksum กับ database ที่คนอื่นได้เคย rip กันไว้ ซึ่งก็เป็นการเปรียบเทียบทาง สถิติ ถ้าตัวอย่างมาก ก็มั่นใจได้มาก
ส่วนตอนเล่นไฟล์ เพลง ไม่ว่าเราจะเก็บข้อมูลใน format ไหน พอเปลี่ยนเป็น i2s protocol เข้า chip dac ก็จะมีข้อจำกัดเรื่อง clock ของ i2s protocol
ว่ากันจริงๆ ยังมีอีกหลายภาคในการที่ทำให้ได้เสียงออกมา โดยรวมผมว่าภาคอนาล็อคมีผลต่อการฟังชัดกว่า
-
:clap :clap :clap กำลังสนใจเรื่องนี้พอดี..ดูดดดดดดด โลดดดดดด :whistling
-
วันก่อนเพิ่งซื้อ Airport Express มา เอา optical out ต่อเข้า Monarchy Audio SuperDrive DIP แล้วค่อยเอาไปเข้า DAC California SigmaII เอาใว้เล่นเพลงผ่าน Wireless จาก iPhone กับ iTune สะดวกดีทีเดียว ถ้าอยากฟังเสียงคุณภาพก็ค่อนเล่นจาก CD เอา :showoff
-
ทุกวันนี้ ผมเล่นเพลงผ่าน mac mini มากที่สุด นานๆจะจับแผ่นเสียงมาเล่นทีนึงเพราะขี้เกียจ เล่นผ่านคอมสะดวกดีครับ คุณภาพเสียงขึ้นอยู่กับ DAC ที่ใช้ ผมใช้คอมเป็นแค่ transport เท่านั้น ผมเลิกใช้ window มาหลายปี เพราะขี้เกียจรบรากับไวรัส หันมาใช้ mac ก็สะดวกดี ทีนี้ก็แล้วแต่คุณอูฐแล้วว่าถนัดค่ายไหน ถ้าชอบ iphone ipad หรือมีอยู่แล้ว การใช้ mac ก็จะทำให้ชีวิตสะดวกขึ้น เพราะเอาiphone ipad มาทำเป็น remote ได้อย่างสะดวก สวยงาม
การเลือกคอม หรือ music server ผมว่าสิ่งสำคัญที่ห้ามมองข้ามคือ user interface เวลาใช้เราจะใช้มันยังไง สะดวกไหม responsive ไหม ต่อให้เสียงดี แต่เวลาใช้แต่ละทีแสนจะยุ่งยาก หรือมีบัคเยอะ นี่ก็จบกันเหมือนกัน
-
ผมเข้ามาตอบด้วยคน ในฐานะบ้าเล่นมันทุกเวอรืชั่นมาแล้วคนหนึ่ง
ส่วนตัวถ้าพูดถึงเรื่องคุณภาพเสียงแล้วผมยกให้เสียงจากแผ่นดำครับ แผ่นดำได้อารมณ์และมิติดีกว่าพอควรยิ่งถ้าเครื่องเล่น (เทิร์น, หัวเข็ม และปรีโฟโน) ดีๆ แล้ว แผ่นดำกินขาดครับ ข้อเสียคือต้องคอยลุกๆ นั่งๆ เปลี่ยนแผ่น และต้องล้างทำความสะอาดแผ่นแบบวุ่นวายนิดหน่อย แถมเล่นแผ่นดำแล้วต้องทนนั่งฟังจนจบแผ่นข้ามเพลงไม่สะดวก
แต่รองลงมาก็น่าจะมาจากเล่นแผ่นซีดี ที่ผมชอบพวกแผ่นบันทึกแบบพิเศษ ทั้ง SACD XRCD แผ่นทอง H2D อะไรพวกนั้นเสียงจะดีกว่าซีดีทั่วๆ ไป
สุดท้ายเดี๋ยวคุณภาพใกล้แผ่นซีดีหรือเทียบเท่าแล้วก็คือเล่นไฟล์เพลงไฮเรสนี่ล่ะ เพราะถ้าได้ DAC ดีๆ ละก็เสียงออกมาใช้ได้เลย แถมฟอร์แมทนี้สะดวกสบายที่สุด ข้ามเพลง เลือกเพลง อะไรอีกได้ง่าย ข้อเสีย ฟังเพลงไม่เคยจบอัลบั้มเต็มๆ เลย อิอิ :headphone
อนาคตไฟล์เพลงดิจิตอล ไฮเรส คงเบียดซีดีตกขอบไปในที่สุด แต่สำหรับแผ่นดำกลายเป็นแบบพวก Vintage ไปแล้ว เหมือนกับเป็นของสะสมที่นำกลับมาเล่นใหม่แต่มีราคาต้นทุนในการเล่นสูงขึ้นเรื่อยๆ K] แต่ยังไงผมก็ชอบเสียงและอารมณ์ที่ได้จากแผ่นดำครับ O0
-
การเล่นเพลงด้วยไฟล์จากคอม มีสองแนวทางครับพี่อูฐ
1 คือ ใช้ คอมพิวเตอร์ ต่อตรง ด้วยสาย usb เข้าไปที่ dac > amp เลย
2 คือ ใช้ คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ มือถือ ไร้สายคอนเนคเข้ากับระบบ network wifi router ในบ้าน สั่งให้ สตรีมเพลงไปยัง dac > apm ได้เช่นกัน (dac ต้องมีคุณสมบัติต่อกับระบบ network router ในบ้านได้ จะใช้สาย lan หรือ wifi ได้ก็แล้วที่ผลิตภัณท์ครับ) แนวทางสตรีมเพลงผ่าน network นี้ ทางไมโครซอฟเขาเรียกว่า DLNA ทางฝั่ง apple เรียก Airplay
ทั้ง 1-2 สามารถต่อพ่วง NAS ที่เป็นที่เก้บเพลงจำนวนมากของเราได้
ทั้งข้อ 1-2 จำเป็นต้องมี software ที่ใช้เล่นเพลง และถ้าต้องการเล่นไฟล์ hi res music ทั้งหลาย software เล่นนั้นก็ควรรองรับด้วย รวมถึง dac ก็ควรรองรับไฟล์ hi res music ด้วย
อุปกรณ์ DAC หลายยี่ห้อ ทำงานได้ดีเยี่ยมกับคอมพวก MAC คือจิ้มปุ้ปเห็นเลย แต่กับ windows แล้ว อาจต้องมีการลง driver ให้ระบบรู้จักกันก่อนจึงจะทำงานได้ดี
ส่วนตัวคิดว่า Mac mini เป็นทางออกที่ดี ที่จะมาเล่น file music ทั้งหลาย แรมเยอะๆหน่อยก็สบายแล้วครับ ไม่แพงด้วย แต่ software ที่จะเล่นบน mac อาจจะต้องซื้อ software ลิขสิทธิ์มาใช้งาน
ไฟล์เพลงมีหลายนามสกุลมาก หลักๆจะแบ่งเป็นฝั่ง windows กับ apple ดังนั้นขึ้นอยู่กับผู้ใช้ ว่าจะเล่นไฟล์เพลงนามสกุลอะไร และจะต้องใช้ software ตัวไหนมาเล่นไฟล์นั้น
ผมไม่ได้เล่นไฟล์พวกนี้นะครับ แต่พอจะมีข้อมูลคร่าวๆเท่านี้ครับ ;)
-
- ถ้าไรท์ไฟล์ลงแผ่นซีดีอีกครั้ง ยังไงคุณภาพก็สู้ต้นฉบับไม่ได้ครับ แนะนำให้ก๊อปปี้จากแผ่นแท้ลง HDD ในครั้งเดียว
- แนะนำไฟล์สกุล aiff ครรับ
- การก๊อปปี้เพลง แม้จะผ่านพอร์ท Firewire คุณภาพจะลดลง 0.5% (ข้อมูลจากมืออาชีพที่ห้องอัดครับ ส่วน USB เขาบอกว่า มันไม่ได้มีไว้ใช้งานเพลง คงไม่ต้องถามนะว่าดร๊อปเท่าไหร่)
- ซอฟท์แวร์การเล่นสำคัญมากครับ เสียงดีๆม่ดีวัดกันตรง Software, Firmware, OS เป็นเรื่องที่เพิมจากฮาร์ดแวร์ สายสัญญาณ ตัวกรองไฟ
- ผมลองแปลงไฟล์ตั้งแต่ 44,48,88,96 มีผลเรื่องเสียงหมด เรื่องบิทก็สำคัญมากครับ 16,24,32 มีผลเรื่องเสียงทั้งหมด แต่จะแสดงความต่างมากน้อยแล้วแต่ซิสเต็มครับ และโปรแกรมที่ใช้แปลง
- คอมพิวเตอร์คือแหล่งสัญญาณรบกวน ทั้งจาก HDD และพัดลม ระบบ Firewire คือทางออกที่ใช้แก้ปัญหาเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นครับ ผมไปเจอซิสเต็มที่ใช้ Mac mini ต่อออกแบบอนาลอก เข้าแอมป์หลอด 300B สัญญาณรบกวนเพี๊ยบ แต่เจ้าของคงถูกใจ แต่ผมฟังแล้วมึนๆ
- แนะนำให้หาทางออกที่ดีกว่า เมาส์ คีย์บอร์ดครับ แล้วจะทำให้มีความสุขขึ้นอีกมากจากการใช้คอมฟังเพลง (แนะนำให้ควบคุม iTune ด้วย iPhone หรือ iPad ผ่าน app Remote ครับ)
- เครื่องคอมก็ต้องการแบบเครื่องเสียง ในเรื่องภาคจ่ายไฟ และการแก้ไขเรื่องการสั่นสะเทือน เพราะในตัวเครื่องมี HDD ที่หมุนหลายพันรอบต่อนาที ถ้านำ Mac mini วางบนแท่นลดแรงสั่นสะเทือน จะได้เสียงเบสและช่วงต่อกลางต่ำมาอีกมากมายครับ
หรือเปลี่ยน HDD เป็นแบบ SSD ก็จะได้เสียงที่เนียนและสะอาด ไร้สัญญาณรบกวนแบบ HDD จานหมุนครับ
(http://i654.photobucket.com/albums/uu262/showlowbudget/poem_audio_zpsd98a8662.jpg)
-
ไม่เคยเล่น mac แต่ pc + filelizer + cplay เสียงดีทีเดียว
ดีแบบทิ้งห่าง itune แบบชัดเจน
แต่เทียบกับ foobar + jriver เสียงจะมีฐานเบสเลยมีฐานเสียงฟังอวบอิ่มมากกว่าเวลาฟังร้อง
foobar + jriver จะฟังเหมือนแห้งเสียงร้องออกจมูก
ข้างบนนี่ ผมผ่านมาหมดแล้วครับ จบสุดท้ายอยู่ที่ mac mini บวกโปรแกรมเทพที่ใช้คู่กับ itunes ครับ สะดวกที่สุด ง่ายที่สุดครับ :drunk
-
สอบถามครับ
พอดีสนใจเอา MAC mini มาทำเป็น HTPC ไม่ทราบว่าคุณภาพภาพเป็นอย่างไรบ้างครับ เทียบกับพวก HTPC/HD Player
-
สอบถามครับ
พอดีสนใจเอา MAC mini มาทำเป็น HTPC ไม่ทราบว่าคุณภาพภาพเป็นอย่างไรบ้างครับ เทียบกับพวก HTPC/HD Player
ผมไม่คุ้นเคยกับ Mac ก็เลยอยากถามว่า ใน Mac มีโปรแกรมเล่นหนังคุณภาพดีๆ เหมือนใน PC หรือป่าวครับ (เรื่องเพลงไม่ต้องพูดถึง มีแต่คนชม Mac)
ถ้ามีก็จบครับ
ส่วน HDPlayer เน้นสะดวกอย่างเดียว เปิดปุ๊บต่อฮาร์ดดิส แป๊บเดียวได้ดู ไม่ต้องรันโปรแกรม ไม่ต้องเซ็ตอัพแบบลงลึก
ท่านต้องเลือกแล้วครับว่า ต้องการแบบใด
-
ขอบคุณ ทุกความคิดเห็นคับ ความรู้ใหม่ทั้งนั้นเลยคับ จะมาขอค่อย ๆ ศึกษาคับ
-
สอบถามครับ
พอดีสนใจเอา MAC mini มาทำเป็น HTPC ไม่ทราบว่าคุณภาพภาพเป็นอย่างไรบ้างครับ เทียบกับพวก HTPC/HD Player
ผมไม่คุ้นเคยกับ Mac ก็เลยอยากถามว่า ใน Mac มีโปรแกรมเล่นหนังคุณภาพดีๆ เหมือนใน PC หรือป่าวครับ (เรื่องเพลงไม่ต้องพูดถึง มีแต่คนชม Mac)
ถ้ามีก็จบครับ
ส่วน HDPlayer เน้นสะดวกอย่างเดียว เปิดปุ๊บต่อฮาร์ดดิส แป๊บเดียวได้ดู ไม่ต้องรันโปรแกรม ไม่ต้องเซ็ตอัพแบบลงลึก
ท่านต้องเลือกแล้วครับว่า ต้องการแบบใด
บนแมคก็มีหลายโปรแกรมครับ แต่ผมเลิกประกอบ HTPC มาหลายปี เลยไม่ได้ลองเทียบภาพกัน แมคในยุคแรกซีพียูไม่แรง เล่นไฟล์ไฮเดฟกระตุกตลอด จนปรับซีพียูใหม่ถึงเล่นได้
บนพีซีที่เคยประกอบ การ์ด ATI ก็ให้สีได้สดกว่า บนแมคก็มีผลเรื่องการ์ดจอเหมือนกันครับ ตัวที่เป็น ATI ภาพดีกว่าแบบเห็นได้ชัด โปรแกรมที่เล่นก็มี VLC, Mplayer, Nice Player รู้จักแค่นี้ครับ
แต่งานตัดวีดีโอ ผมต้องทำบนแมคอย่างเดียวเลย เพราะจอคาลิเบทสีมาแล้วครับ เวลา Export สีจะตรงกันหมด ไม่ว่าจะโยนไฟล์ลง iPhone หรือ iPad
แต่ตอนนี้ผมประกอบพีซีไว้แค่เล่นเกมอย่างเดียว แต่ก็แทบไม่ได้เปิด ขี้เกียจหาแอนตี้ไวรัส อัพเดทไดรเวอร์ เพราะบนแมคผมสั่งอัพเดททุกอย่างออนไลน์หมด ประหยัดเวลาไปเยอะครับ
-
ช่วงหลังมีโปรแกรมที่ใช้เล่น blu-ray บน mac ออกมาเยอะแล้วครับ ที่เคยเห็นแต่บนระบบธรรมดานะครับ ผมว่า ไหลลื่นไม่กระตุก และภาพก็สวยดีครับ (พอดีไม่ได้สนใจเรื่อง ht เท่าไหร่ ฟังแต่ 2 ch ครับ)
-
- ถ้าไรท์ไฟล์ลงแผ่นซีดีอีกครั้ง ยังไงคุณภาพก็สู้ต้นฉบับไม่ได้ครับ แนะนำให้ก๊อปปี้จากแผ่นแท้ลง HDD ในครั้งเดียว
- แนะนำไฟล์สกุล aiff ครรับ
- การก๊อปปี้เพลง แม้จะผ่านพอร์ท Firewire คุณภาพจะลดลง 0.5% (ข้อมูลจากมืออาชีพที่ห้องอัดครับ ส่วน USB เขาบอกว่า มันไม่ได้มีไว้ใช้งานเพลง คงไม่ต้องถามนะว่าดร๊อปเท่าไหร่)
- ซอฟท์แวร์การเล่นสำคัญมากครับ เสียงดีๆม่ดีวัดกันตรง Software, Firmware, OS เป็นเรื่องที่เพิมจากฮาร์ดแวร์ สายสัญญาณ ตัวกรองไฟ
- ผมลองแปลงไฟล์ตั้งแต่ 44,48,88,96 มีผลเรื่องเสียงหมด เรื่องบิทก็สำคัญมากครับ 16,24,32 มีผลเรื่องเสียงทั้งหมด แต่จะแสดงความต่างมากน้อยแล้วแต่ซิสเต็มครับ และโปรแกรมที่ใช้แปลง
- คอมพิวเตอร์คือแหล่งสัญญาณรบกวน ทั้งจาก HDD และพัดลม ระบบ Firewire คือทางออกที่ใช้แก้ปัญหาเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นครับ ผมไปเจอซิสเต็มที่ใช้ Mac mini ต่อออกแบบอนาลอก เข้าแอมป์หลอด 300B สัญญาณรบกวนเพี๊ยบ แต่เจ้าของคงถูกใจ แต่ผมฟังแล้วมึนๆ
- แนะนำให้หาทางออกที่ดีกว่า เมาส์ คีย์บอร์ดครับ แล้วจะทำให้มีความสุขขึ้นอีกมากจากการใช้คอมฟังเพลง (แนะนำให้ควบคุม iTune ด้วย iPhone หรือ iPad ผ่าน app Remote ครับ)
- เครื่องคอมก็ต้องการแบบเครื่องเสียง ในเรื่องภาคจ่ายไฟ และการแก้ไขเรื่องการสั่นสะเทือน เพราะในตัวเครื่องมี HDD ที่หมุนหลายพันรอบต่อนาที ถ้านำ Mac mini วางบนแท่นลดแรงสั่นสะเทือน จะได้เสียงเบสและช่วงต่อกลางต่ำมาอีกมากมายครับ
หรือเปลี่ยน HDD เป็นแบบ SSD ก็จะได้เสียงที่เนียนและสะอาด ไร้สัญญาณรบกวนแบบ HDD จานหมุนครับ
(http://i654.photobucket.com/albums/uu262/showlowbudget/poem_audio_zpsd98a8662.jpg)
สวยงามครับผม ;) ;)
-
โน๊ตบุค CPU Sempron3000+ Realtek AC97 ลงmac ได้ใหมครับ
ตอนนี้เจอ OS mac Mountain Lion กำลังหาทางเอามาลงครับ
-
ผมเคยลงพวก แฮ็กอินทอส ก็คงลงได้ครับ แต่ลงไปแล้วจะชอบเสียงที่ได้จากคอม ก็คงเป็นอีกเรื่อง
ถ้าไม่สนเรื่อง bit-correct และชอบปรับแต่งเสียงด้วย re-sampling ซอฟแวร์ ก็ใช้พวก re-sampler โปรแกรมบน windows มาลองก่อน ก็ได้ครับ OS สมัยใหม่ ไม่ได้ต่างกันมากสำหรับการฟัง
software เล่นเพลง สมัยใหม่ต่างก็ใช้ re-sampler เทคนิดในการปรับเสียง ขึ้นอยู่มาคุณจะชอบเสียงของ algorithm ไหน กับ user interface ไหนก็เท่านั้นเองครับ
เพราะโดยพื้นฐาน โปรแกรม ไม่ว่าจะเป็น บน windows หรือ mac ต่างก็สามารถส่ง bit-correct ได้ครับ
Linux ก็มี distro สำหรับ audio, vortexbox, voyage MPD, audiophile linux หรือจะ build เองก็ได้ครับ
ถ้าไม่แต่ฟังอย่างเดียว แต่ mix เสียงด้วยมอง mac ไว้ก็ไม่เสียหลาย เพราะว่ามี software กับ 3rd party hardware ที่ mature กว่าครับ
ถ้ามีงบจำกัด เอาเงินไปลงทุนกับ dac จะให้ผลลัพธ์ต่อราคา ดีกว่าครับ
-
ผมเคยลงพวก แฮ็กอินทอส ก็คงลงได้ครับ แต่ลงไปแล้วจะชอบเสียงที่ได้จากคอม ก็คงเป็นอีกเรื่อง
ถ้าไม่สนเรื่อง bit-correct และชอบปรับแต่งเสียงด้วย re-sampling ซอฟแวร์ ก็ใช้พวก re-sampler โปรแกรมบน windows มาลองก่อน ก็ได้ครับ OS สมัยใหม่ ไม่ได้ต่างกันมากสำหรับการฟัง
software เล่นเพลง สมัยใหม่ต่างก็ใช้ re-sampler เทคนิดในการปรับเสียง ขึ้นอยู่มาคุณจะชอบเสียงของ algorithm ไหน กับ user interface ไหนก็เท่านั้นเองครับ
เพราะโดยพื้นฐาน โปรแกรม ไม่ว่าจะเป็น บน windows หรือ mac ต่างก็สามารถส่ง bit-correct ได้ครับ
Linux ก็มี distro สำหรับ audio, vortexbox, voyage MPD, audiophile linux หรือจะ build เองก็ได้ครับ
ถ้าไม่แต่ฟังอย่างเดียว แต่ mix เสียงด้วยมอง mac ไว้ก็ไม่เสียหลาย เพราะว่ามี software กับ 3rd party hardware ที่ mature กว่าครับ
ถ้ามีงบจำกัด เอาเงินไปลงทุนกับ dac จะให้ผลลัพธ์ต่อราคา ดีกว่าครับ
เทสต์แล้วหรือครับที่ว่า OS สมัยใหม่เสียงไม่ต่างกันมาก OS Lion กับ Moutain Lion ยังให้เสียงได้ที่ความเร็วไม่เท่ากันนะครับ อันนี้ผมเทสต์กับ iMac 2011
สำหรับ PC CPU Intel กับ AMD ก็ให้เสียงต่างกันมาก ผมเทสต์ตั้งแต่ปี 2007 วินโดว์ที่เ็น 32bit กับ 64bit เสียงก็ห่างกันเยอะ ไม่มีความใกล้เคียงกันเลย
่และถ้าต้นสัญญาณไม่ดี ก็ไม่มีหวังที่ใส่ DAC ดีๆแล้วจะให้เสียงออกมาดีได้นะครับ
-
ผมเคยลงพวก แฮ็กอินทอส ก็คงลงได้ครับ แต่ลงไปแล้วจะชอบเสียงที่ได้จากคอม ก็คงเป็นอีกเรื่อง
ถ้าไม่สนเรื่อง bit-correct และชอบปรับแต่งเสียงด้วย re-sampling ซอฟแวร์ ก็ใช้พวก re-sampler โปรแกรมบน windows มาลองก่อน ก็ได้ครับ OS สมัยใหม่ ไม่ได้ต่างกันมากสำหรับการฟัง
software เล่นเพลง สมัยใหม่ต่างก็ใช้ re-sampler เทคนิดในการปรับเสียง ขึ้นอยู่มาคุณจะชอบเสียงของ algorithm ไหน กับ user interface ไหนก็เท่านั้นเองครับ
เพราะโดยพื้นฐาน โปรแกรม ไม่ว่าจะเป็น บน windows หรือ mac ต่างก็สามารถส่ง bit-correct ได้ครับ
Linux ก็มี distro สำหรับ audio, vortexbox, voyage MPD, audiophile linux หรือจะ build เองก็ได้ครับ
ถ้าไม่แต่ฟังอย่างเดียว แต่ mix เสียงด้วยมอง mac ไว้ก็ไม่เสียหลาย เพราะว่ามี software กับ 3rd party hardware ที่ mature กว่าครับ
ถ้ามีงบจำกัด เอาเงินไปลงทุนกับ dac จะให้ผลลัพธ์ต่อราคา ดีกว่าครับ
เทสต์แล้วหรือครับที่ว่า OS สมัยใหม่เสียงไม่ต่างกันมาก OS Lion กับ Moutain Lion ยังให้เสียงได้ที่ความเร็วไม่เท่ากันนะครับ อันนี้ผมเทสต์กับ iMac 2011
สำหรับ PC CPU Intel กับ AMD ก็ให้เสียงต่างกันมาก ผมเทสต์ตั้งแต่ปี 2007 วินโดว์ที่เ็น 32bit กับ 64bit เสียงก็ห่างกันเยอะ ไม่มีความใกล้เคียงกันเลย
่และถ้าต้นสัญญาณไม่ดี ก็ไม่มีหวังที่ใส่ DAC ดีๆแล้วจะให้เสียงออกมาดีได้นะครับ
เห็นด้วยครับ ในเว็ป amarra ก็ยังแนะนำว่า sweet spot ของ amarra อยู่บน OS X snow leopard ครับ ผมเลยยังไม่ได้อัพ os สักที