HTG2.club
Home Theater Guide webboard => มุม Thai DIY Audio => ข้อความที่เริ่มโดย: เขียวหวาน ที่ 16 พฤษภาคม, 2013, 10:35:37 pm
-
ขออนุญาติ นอกเรื่อง DIY Audio หน่อยครับ
ขอระดมความคิดกันหน่อยครับ เรื่องเครื่องเตือนเด็กติดอยู่ในรถครับ
สืบเนื่องมาจากข่าวเด็กเล็กถูกลืมไว้ในรถรับส่งนักเรียนแล้วทำให้น้องๆได้เสียชีวิตลง
ผมเองอยากขอความเห็น ให้ทุกท่านได้ช่วยกันคิดหาเครื่องมือที่จะสามารถช่วยเหลือหรือป้องกันไม่ให้น้องๆเด็กเล็กๆติดอยู่ในรถเพียงลำพัง
ไครมีไอเดียยังไงมาแชร์กันหน่อยนะครับ
ความคิดผมที่คิดได้ตอนนี้ เอา RFIDไปติดกับกระเป๋านักเรียน หรือ ติดกับชุดนักเรียน เวลา นักเรียนยังค้างอยู่ในรถ จะมีเสียงเตือน
ผมเอาตัวอย่างมจากเวลาเราไปช็อปปิ้งที่ห้าง แล้วมีบางรายการที่ scan barcode ไม่ครบหรือมีปัญหา เมื่อเราเ็ข็นรถผ่านเสาประตู มันจะมีสัญญาณร้องเตือน
แต่ผมว่ามันค่อนข้างลงทุนเยอะ
ไครมีไอเดียยังไงรบกวนช่วยแชร์ด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ
พ่อน้องป่าน(5ขวบ)กะน้องปลื้ม(3ขวบ)
-
อีกไอเดียหนึ่งที่คิดได้ตอนนี้
น่าจะมีApp ที่สามารถตรวจสอบว่าเด็กขึ้นรถกี่คนและลงจากรถครบไหม มาช่วยครูพี่เลี้ยงนะครับ
ไครมีฝีมือด้านเขียนโปรแกรมมั่ง ช่วยหน่อยครับ
-
ปัญหามันอยู่ที่คนตรวจเช็ค :black_eye แต่ก็น่าสงสารเด็กครับ อย่างที่น้าเขียวว่ามาก็โอนะครับ ทำเป็นตัวสแกนเอา
-
ที่ รร รถรับส่ง นร ทุกคัน ต้องจอดที่เดียวกันหมด ลดกระจกหน้า 2 ข้างลงครึ่งนึง 9.00 น. รปภ จะไปตรวจรถทุกคันอีกรอบ
-
ให้มีเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวในรถ หรือตามที่นั่งทุกตัวครับ
เซ็นเซอร์จะทำงานเมื่อมีการล๊อคด้วยรีโมท หากมีสิ่งผิดปกติเคลื่อนไหวในรถ หรือที่นั่งโดยสาร จะมีสัญญาณเตือนดังเหมือนระบบป้องกันขโมย เมื่อสัญญาณดัง ประตูทุกบานจะปลดล๊อคเฉพาะการดังของสัญญาณที่เกิดจากความเคลื่อนไหวภายในรถและเบาะเท่านั้นครับ หากทำให้ประตูเปิดเองได้ หรือแง้มกระจกเองได้ก็จะดีมากครับ
-
ปัญหามันอยู่ที่คนตรวจเช็ค :black_eye แต่ก็น่าสงสารเด็กครับ อย่างที่น้าเขียวว่ามาก็โอนะครับ ทำเป็นตัวสแกนเอา
หากวันไหนตัวติดกระเป๋าเสีย หล่นหาย หรือไม่ได้เอากระเป๋ามาเรียน อาจจะเป็นวันกิจกรรมหรืออื่นๆ มันจะไม่ทำงานสิครับ
-
ผมว่าถ้าโรงเรียนมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดเหตุการณ์แบบนี้ก็จะไม่เกิดขึ้นผมยกตัวอย่างนะ.......ดูเรือนจำนะนักโทษขึ้นรถกี่คนลงรถกี่
คนผู้คุมเขานับตรอดไม่มีพาดเลยครับต้องแบบนี้ครับ คือคนขับต้องมาตรวจนับเช็คอย่างละเอียดนะครับ
-
ผมว่าถ้าโรงเรียนมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดเหตุการณ์แบบนี้ก็จะไม่เกิดขึ้นผมยกตัวอย่างนะ.......ดูเรือนจำนะนักโทษขึ้นรถกี่คนลงรถกี่
คนผู้คุมเขานับตรอดไม่มีพาดเลยครับต้องแบบนี้ครับ คือคนขับต้องมาตรวจนับเช็คอย่างละเอียดนะครับ
การตรวจสอบโดยมนุษย์ต้องทำทุกครั้งครับ แต่เมื่อมีการผิดพลาดจากการตรวจสอบด้วยมนุษย์ อาจจะเพราะความประมาท เร่งรีบ วุ่นวาย สับสน การที่ทำให้รถที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กเสียชีวิตสามารถตรวจสอบตัวมันเองได้ก็จะเป็นการป้องกันได้อีกทางหนึ่งด้วยครับ
เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็เกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์ซึ่งส่งผลต่อชีวิตเด็กครับ
จะเครื่องหรือราคาเท่าไรไม่สำคัญ เพราะมันไม่สามรถมาเทียบได้กับการสูญเสียน้องๆตัวเล็กๆได้เลยแม้แต่เพียงนิดเดียวครับ
แต่ผมว่าแค่เพิ่มประสิทธิภาพกล่องสัญญาณกันขโมยและตัวเซ็นเซอร์ ให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กล่าวมาข้างต้นก็ไม่น่าจะยากอะไรครับ
-
ให้มีเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวในรถ หรือตามที่นั่งทุกตัวครับ
เซ็นเซอร์จะทำงานเมื่อมีการล๊อคด้วยรีโมท หากมีสิ่งผิดปกติเคลื่อนไหวในรถ หรือที่นั่งโดยสาร จะมีสัญญาณเตือนดังเหมือนระบบป้องกันขโมย เมื่อสัญญาณดัง ประตูทุกบานจะปลดล๊อคเฉพาะการดังของสัญญาณที่เกิดจากความเคลื่อนไหวภายในรถและเบาะเท่านั้นครับ หากทำให้ประตูเปิดเองได้ หรือแง้มกระจกเองได้ก็จะดีมากครับ
อีกหนึ่งเสียงสำหรับแนวคิดน้าครับ ดัดแปลงจากโคมไฟอัตโนมัติครับ http://www.hitechcool.com/product/28/%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%AA%E0%B8%9B%E0%B8%AD%E0%B8%95%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%97%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C-pir-motion-sensor-halogen-spot-light-%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99 (http://www.hitechcool.com/product/28/%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%AA%E0%B8%9B%E0%B8%AD%E0%B8%95%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%97%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C-pir-motion-sensor-halogen-spot-light-%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99)
-
ข้อจำกัดนึงของตัวเซนเซอร์ PIR คือมันจับการเปลี่ยนแปลงการแผ่อินฟราเรดจากสิ่งมีชีวิต ซึ่งถ้าติดตั้งเปิดโล่ง มันก็จับหมด บางทีนอกรถ หรือแสงสาดเข้ามา ก็จับได้ด้วย
แต่ถ้าติดตั้งมิดชิดหน่อย ก็จะมีอีกปัญหาที่ต้องดู คือเวลาอุณหภูมิในรถสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะระดับอุณหภูมิที่รถจอดกลางแดด และเป็นเหตุให้สูญเสียในกรณีนี้ ประสิทธิภาพจะแย่ลงมากๆ จนอาจจะไม่ทำงานได้ตามต้องการครับ
สำหรับกรณีนี้ เป็นพันธะกิจของผู้ดูแล และเจ้าหน้าที่ขับรถ ที่ต้องตรวจสอบซ้ำ สำรวจทุกเบาะ รวมถึงใต้เบาะให้แน่ใจ เพราะรถตู้ หรือ รถบัส ขนาดไม่ได้ใหญ่มากนัก เดินสำรวจนาทีเดียวก็เรียบร้อยครับ ใช้เวลาไม่มาก แต่มั่นใจได้
-
การมีเครื่องมือช่วยฯ ก็เพื่อความสะดวกในระดับหนึ่งเท่านั้นเองครับ
:) เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ สำหรับผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ซึ่งควรมีจิตสำนึกในการบริหารจัดการที่จริงใจและจริงจัง
-
ผมว่าแค่กำหนดหลักปฏิบัติให้คนขับรถหรือผู้ควบคุมรถมีความรับผิดชอบเข้าไปในรถตรวจสอบในรถหนึ่งรอบก่อนปิดประตูรถก็พอครับ
-
ให้มีเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวในรถ หรือตามที่นั่งทุกตัวครับ
เซ็นเซอร์จะทำงานเมื่อมีการล๊อคด้วยรีโมท หากมีสิ่งผิดปกติเคลื่อนไหวในรถ หรือที่นั่งโดยสาร จะมีสัญญาณเตือนดังเหมือนระบบป้องกันขโมย เมื่อสัญญาณดัง ประตูทุกบานจะปลดล๊อคเฉพาะการดังของสัญญาณที่เกิดจากความเคลื่อนไหวภายในรถและเบาะเท่านั้นครับ หากทำให้ประตูเปิดเองได้ หรือแง้มกระจกเองได้ก็จะดีมากครับ
เห็นด้วยกับความคิดนี้ครับ รถรับส่งนักเรียนต้องเป็นรถเฉพาะทางแบบนี้ O0 O0
-
ผมว่าแค่กำหนดหลักปฏิบัติให้คนขับรถหรือผู้ควบคุมรถมีความรับผิดชอบเข้าไปในรถตรวจสอบในรถหนึ่งรอบก่อนปิดประตูรถก็พอครับ
ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งอุปกรณ์สำหรับรถรับส่งนักเรียนบ้านนอก(ในกทม.คงไม่เท่าไร) และบางเรื่องก็ไม่จำเป็นต้องไฮเทคโนโลยีเท่าไรครับ(เป็นความเห็นส่วนตัวผิดอย่างไรต้องขออภัยด้วย)
พันธุ์ศักดิ์
-
ผมว่าแค่กำหนดหลักปฏิบัติให้คนขับรถหรือผู้ควบคุมรถมีความรับผิดชอบเข้าไปในรถตรวจสอบในรถหนึ่งรอบก่อนปิดประตูรถก็พอครับ
ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งอุปกรณ์สำหรับรถรับส่งนักเรียนบ้านนอก(ในกทม.คงไม่เท่าไร) และบางเรื่องก็ไม่จำเป็นต้องไฮเทคโนโลยีเท่าไรครับ(เป็นความเห็นส่วนตัวผิดอย่างไรต้องขออภัยด้วย)
พันธุ์ศักดิ์
เห็นด้วยกับความคิดนี้ครับ เทคโลยี่มีทั้งประโยชน์และโทษถ้าผิดพลาดขึ้นมาจะไม่คุ้มนะครับ ผมว่าอยู่ที่การปฏิบัติของผู้เกี่ยวข้องรับผิดชอบมากกว่า
ถ้าเอาแบบเทคโลยี่หน่อยก็น่าจะใช้ระบบนับจำนวน ขึ้น-ลง ประหยัดก็แบบกลไก แพงหน่อยก็ใช้ระบบเซนเซ่อร์แบบอิเล็กทรอนิกส์ ขาดเกินจะเตือนแบบเสียงหรือแบบล็อครถไม่ได้หรืออื่นๆเพื่อเตือนให้คนขับหรือพี่เลี้ยงทราบครับ
-
เสียงเตือนระดับออกซิเจนได้ไหมครับ
-
เครื่องมือต่างๆ ไม่ใช่ปัญหา ปัญหาอยู่ที่คน
ยิ่งมีเครื่องมือเยอะ คนยิ่งหล่ะ หลวม เพราะเราเอาชีวิตไปฝากกับเครื่องมือพวกนี้หมด ทำให้สมองคิดน้อยลง หันไปคิดเรื่องไม่เป็นเรื่องมากขึ้น
เครื่องมือและเทคโนโลยี่ที่ดี จึงเหมาะกับคนที่ต้องใช้สมองให้ควบคุมเครื่องมือควบคู่กันไป
-
เครื่องมือต่างๆ ไม่ใช่ปัญหา ปัญหาอยู่ที่คน
ยิ่งมีเครื่องมือเยอะ คนยิ่งหล่ะ หลวม เพราะเราเอาชีวิตไปฝากกับเครื่องมือพวกนี้หมด ทำให้สมองคิดน้อยลง หันไปคิดเรื่องไม่เป็นเรื่องมากขึ้น
เครื่องมือและเทคโนโลยี่ที่ดี จึงเหมาะกับคนที่ต้องใช้สมองให้ควบคุมเครื่องมือควบคู่กันไป
:clap :clap :clap
-
สังเกตุดูข่าวส่วนใหญ่ที่ลืมเด็กในรถนั้นจะเป็นรถของคนอื่น รถโรงเรียน รถคนรู้จัก รถคุณครูบ้าง ตัวที่ตรวจเช็คดีที่สุดคือครูประจำชั้นนั่นแหละครับ เช็คชื่อตอนเช้าเด็กไม่มาโทรตามผู้ปกครองผู้ปกครองแจ้งว่ามาแล้วรถคนรู้จักมาส่ง มากับรถโรงเรียน ฯ ก็ต้องตรวจสอบ ถ้าเด็กไม่สบายส่วนใหญ่ผู้ปกครองจะโทรมาลาคุณครูเอง ถ้าใส่ใจนะ่ครับ คนดีกว่าเครื่องมือแน่นอน
-
อ่านทำความเช้าใจที่ผมเขียนให้ดี ผมเขียนไว้ไม่กี่คำตอบครับ ;)
สิ่งที่พวกเรากำลังจะคิดจะเป็นประโยชน์กับน้องๆและช่วยเช็คความผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์เท่านั้น ยังไงมนุษย์เองก็ต้องตรวจเช็คให้ดีครับ ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์น่าเสียใจอย่างนี้ครับ ไม่ใช่ว่าระบบอิเล็คทรอนิกส์จะไม่มีความผิดพลาด แต่หากกันไว้ได้ทั้ง 2 ทางก็ยิ่งจะช่วยเสริมความปลอดภัยให้กับน้องๆครับ
หรือสิ่งที่เกิดขึ้นมาทั้งหมดจนต้องมานั่งเสียใจกันอยู่ทุกวันนี้ ไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของมนุษยผ์อย่างพวกเราเองครับพี่น้อง :)
ความรู้ หากสร้างประโยชน์ให้กับสังคมได้ นั่นละครับคือคุณค่าของความรู้ครับ
อาจจะมีความรู้ หรือความคิดอื่นๆที่ดีกว่านี้ ก็เท่ากับว่า ความปลอยภัยของน้องๆก็จะดีขึ้นอีกครับ
เพื่อน้องๆช่วยกันคิดนะครับ ส่วนจะมีคนนำไปต่อยอดได้หรือไม่ อย่างน้อยเราก็ได้คิดเพื่อสังคมครับ
-
ว่าไปผมก็คิดได้อีกอย่าง เคยเห็นหนังไหมครับ เมื่อมีอะไรมาตัดลำแสงเลเซอร์จะมีสัญญาณดังขึ้น
หากติดตั้งตัวรับตัวส่งตำแหน่งซ้ายสุด ขวาสุดของที่นั่งแต่ละแถวเหนือพื้นเบาะนั่งเล็กน้อน ตลอดจนช่องว่างที่วางเท้าและทางเดิน รวมถึงที่เก็บสัมภาระประตูหลังได้ ทุกครั่งที่เรากดรีโมทล๊อคแสงเหล่านี้จะทำงานรับส่งกันตามตำแหน่งต่างๆ หากมีสิ่งใดขวางทางแสงอยู่ รถร้อง ลดกระจก ปลดล๊อคประตู เปิดประตูเองได้ น่าจะง่ายกว่าตรวจจับความเคลื่อนไหว และรู้ผลได้ตั้งแต่เรากดรีโมทล๊อครถเลยครับ
-
แนวคิดเฉย ๆ นะครับ ลอง เป็นพวก ตัวนับอะไรอย่างงี้มั้ยครับ เวลาเด็กขึ้นก็ นับจำนวนเด็กไปเรื่อย ๆ พอถึงโรงเรียนเด็กลง ก็ค่อย ๆ เช็คออก จนเหลือศูนย์ คือไม่มีเด็ก
ทีนี้ถ้ามีเด็กติดค้าง เกินเวลาที่กำหนด ก็มีอะไรบางอย่างแจ้งเตือนหรือไม่ก็ ทำแบบสัญญาณกันขโมยก็ได้ครับ ให้ร้องดัง ๆ เลย คงจะพอช่วยได้ระดับนึงครับ
เอาบาร์ดโค้ดห้อยกระเป๋า หรือข้อมือเด็กตอนขึ้น ตอนลง ก็สแกน ออก หรือถ้าให้ดีก็ทำแบบ พวกร้านหนังสือก็ได้ครับ เอา ไอ้เซ็นเซอร์ ที่เช็คหน้าร้านติดที่ประตูรถ
แล้วก็เซ็นเซอร์ตัวที่เช็ดติดกับเด็กไว้ ก็โปรแกรมมัน ว่าให้เช็คตอนขึ้นลง และเมื่อถึงเวลาที่กำหนด เช่น ร.ร. เข้า 8:00 ก็ตั้งที่ 8:00 ดูว่าในรถแต่ละคันต้องไม่มีเด็กอยู่คือตัวเซ็นเซอร์
ตอนขึ้นได้ออกไปหมดแล้ว ถ้ามีก็ร้องครับ
แค่แนวคิดอีกแนวนึงนะครับ ลองดู ๆ
-
ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นครับ
ที่ผมตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา วัถตุประสงค์ เพื่อให้เพือนๆสมาชิกที่มีความรู้ความสามารถด้านอีเล็กทรนิกส์
ได้แชร์ไอเดีย ที่หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่น้องๆเด็กเล็กที่ยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ รวมทั้งช่วยให้พ่อแม่ที่มีลูกเ็ล็กจะได้สบายใจอีกระดัหนึ่ง
ผมเห็นด้วยกับการที่ใช้ความละเอียดรอบครอบของมนุษย์ มาตรวจสอบ แต่ความเข้มงวดเอาใจใส่ของแต่ละุบุคคลนั้นไม่เท่ากัน จึงเกิดปัญหาตามมา ที่เรียกว่า Human Error
ถ้าเราสามารถมีเครื่องมือมาช่วยเราให้ลดความเผลอเรอของมนุษย์ได้ จะเป็นประโยชน์ไม่น้อย
สิ่งที่ผมอยากเห็นคือไอเดียที่สามรถนำไปใช้งานได้ อาจจะเ็ป็นการประดิษฐ์อุปกรณ์อะรก็ได้มาช่วยเหลือ
โดยสิ่งประดิษฐ์นั้นจะลงทุนสูงหือต่ำก็ได้ขอให้สามารถช่วยเหลือน้องๆเด็กๆได้เป็นอันใช้ได้ครับ
ขอบคุณครับ
-
ทุกคนไม่อยากมีแผล แต่ผมมั่นใจว่าทุกคนเคยมีแผล ในเมื่อร่างกายของเราเองเราเป็นผู้ควบคุมมันได้ดีที่สุดยังไม่พ้นความประมาทหรืออุบัติเหตุจนทำให้มีแผลได้ครับ
ที่กล่าวมาข้างต้นผมต้องการให้เห็นว่า ต่อให้เราระวังเพียงใด วันใดวันหนึ่ง แม้แต่ตัวเราเองก็ทำให้ตนเองเจ็บตัวได้ ดังนั้นการดูแลผู้อื่นที่ไม่ใช่ตัวเรายิ่งต้องเพิ่มความเข้มงวดให้มากขึ้นรอบคอบมากขึ้น แต่ท่านจะมั่นใจได้เพียงใดที่จะดูแลผู้อื่นไม่ให้มีแผล
การมีอุปกรณ์ที่สามารถช่วยเหลือผู้ให้พ้นจากการบาดเจ็บได้ จึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ท่านดูแลผู้อื่นได้ดียิ่งขึ้นครับ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรจงตั้งสติ อย่าประมาท รอบคอบให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เป็นดีที่สุดครับ
-
ที่ทำงานใช้ระบบเชคชื่อครับ ก็ทำตารางลงบันทึกเด็กขึ้นลงรถปกติ ขึ้นเช้ากับกลับบ้านเที่ยวเย็นไม่เท่ากันเสมอไป
ตารางนี้ช่วยในการคิดเงินค่ารถมี่หลักฐานเอกสาร ถ้าจะทำระบบสำหรับแบบนี้ใช้ระบบเชคชื่อด้วยมือนี่ละครับ ได้ผลคุ้มค่าที่สุดแล้ว
สำคัญคือต้องเชค แต่เขาก็เชคทุกวันนะครับ เป็นผลประโยชน์โดยตรง
ผมเข้าใจประเด็นที่คุณเขียวหวานพูดถึงนะครับ เพียงแต่ยกตัวอย่างจากที่ใช้อยู่จริงครับ
:)
-
เห็นข่าวแล้วก็หวั่นๆเหมือนกัน ลูกสาวผมสี่ขวบครึ่ง ลูกชายสาม พอๆกับของพี่โจ้เลยอ่ะ
เทอมนี้ลูกสาวขึ้นรถตู้ปีแรก ปีก่อนฝากเพื่อนไป พอย้ายโรงเรียนเลยต้องนั่งรถตู้ ผมให้พี่กับน้องไปคันเดียวกัน ยอมจ่ายเยอะหน่อยให้คนขับวนไปส่งสอง รร. ปีหน้าจะย้ายไปรร.เดียวกัน ขึ้น/ลง พร้อมกันสองคน น่าจะเป็นการป้องกันได้ทางนึงครับ :(
-
ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าทำงานกับคน ต้องมีความผิดพลาดแน่นอนครับ มากน้อยแล้วแต่ระบบครับ ผมเน้นที่ระบบนะครับตัวบุคคลผลน้อยหากระบบออกแบบมาดี
กรณีควรนำ Human Factors Engineering มาใช้ครับ
เริ่มจากที่ๆ หลายท่าน Post ครับ
1)Checking การตรวจสอบครับ พื้นๆก็เช็ค In เช็ค Out ธรรมดาครับ หรือ ใช้ อุปกรณ์อย่างที่หลายท่านเสนอครับ
2)Re-Checking อันนี้สำคัญครับ ถ้าจะให้ดี เป็น Cross Checking ครับคือตรวจสอบจากบุคคลที่สอง เช่น คุณครูคนที่1 ตรวจสอบเด็กครบ คุณครูคนที่สอง ตรวจสอบซ้ำอีกที
3)Warning ฉลาก,สัญญาณเตียนต่างๆครับ
4)Auditing ,Policy ครับ ผู้บริหารต้องมีการตรวจสอบคุณภาพอย่างสม่ำเสมอและมอบหมาย ตัวชีวัดความสำเร็จของงาน ครับเช่น คุณครูที่ไปรับเด็กมาโรงเรียนตัวชี้วัดหลักคือ การรับเด็กมาโรงเรียนครบถ้วนปลอดภัย
5)ที่สำคัญต้องทบทวนความผิดพลาดเล็กๆน้อยครับ เช่น แค่เด็กลืมกระเป๋า ทบทวนดู ว่าเกิดจากอะไร แก้ไขอย่างไร เมื่อแก้ไขแล้วมีเหตุการเกิดซ้ำหรือไม่ และต้องคาดการความเสี่ยงต่างๆที่อาจเกิดขึ้น แล้วป้องกันไว้ก่อนครับ
ซึ่งทั้งหมดนี้เป็น การทำงานแบบมีคุณภาพทั่วๆไป ที่ประยุคต์เข้ากับงานอะไรก็ได้ครับ
-
:drive1
เอาแบบ คีย์การ์ด เด็กต้องมีบัตรแขวนคอทุกคน ประมาณบัตรประจำตัวเด็ก/ หรือ สมาร์ทการ์ดประมาณนั้นแหละ
เวลาเด็ก เดินผ่านก็ตี๊ด
นอกนั้นก็ มีความคิดหลายท่านที่เสนอมาโอเค เยอะเหมือนกัน
:drive1
-
เซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวธรรมดา แบบใช้แสงอินฟาเรต หรือ อัลตร้าโซนิคนี่แหละครับ แบบเดียวกับประตูเซเว่น นี่แหละครับง่ายสุดแล้ว
โดยให้ทำงานเมื่อดับเครื่องหรือล๊อครถ แล้วให้มีเสียงดับแบบกันขโมยเวลาลืมกุญแจไว้ในรถก็น่าจะโอเคแล้วครับ
-
what a big problem!
Twenty-three children have died of hyperthermia in cars in 14 states this year and eight of the deaths occurred in the first week of August.
Nearly 40 children die this way each year, according to Kids and Cars.
http://abcnews.go.com/US/children-die-august-left-hot-cars/story?id=17024906#.UZjVmUrBQ7U
-
เรื่องอันตรายของการส่งลูกไปเรียนในระบบ ผมเลยคิดตัดสินใจว่าโฮมสกลูลูกชุดหลังนี้ซะเลย
การแก้ไขของผมคือเราเป็นพ่อแม่ต้องดูเรื่องอันตรายอีกหลายๆ ด้าน นอกจากเรื่องนี้อีกด้วย ถ้าดูแค่เรื่องนี้ก็คือการคิดแบบวัวหายล้อมคอกเท่านั้น
คุณต้องดูอีกด้วยว่ารถที่ใช้รับส่งสะภาพเป็นอย่างไร? คนขับรถขับเร็วเกินไปหรือไม่? (ผมเคบพบรถโรงเรียนวิ่งเร็วกว่าภายุมาแล้ว) และยังมีเรื่องต่างอีกมากมาย ฯลฯ ผมคิดว่าระดับปริญญาหรือมัถยมแล้วค่อยส่งเค้าเข้าระบบ ค่อดูเค้ากันอีกครั้ง เพราะช่วงนั้นเค้าคงโตมากแล้ว
-
:drive1
เอาแบบ คีย์การ์ด เด็กต้องมีบัตรแขวนคอทุกคน ประมาณบัตรประจำตัวเด็ก/ หรือ สมาร์ทการ์ดประมาณนั้นแหละ
เวลาเด็ก เดินผ่านก็ตี๊ด
นอกนั้นก็ มีความคิดหลายท่านที่เสนอมาโอเค เยอะเหมือนกัน
:drive1
ผมว่าไอเดียนี้เข้าท่ามาก โดยดัดแปลงหน่อย คือที่จีนเครื่องscanนิ้วเข้าทำงานราคาไม่กี่ตังค์ ร้านอาหารข้างทางยังใช้กับเด็กเสิรฟ์เข้าทำงานเลย
เอาเครื่องscan นิ้วนี่แหละติดข้างประตู ขาขึ้นก็ให้scanโดยเครื่องจะบันทึกไว้ว่าใครขึ้นมาแล้ว(อันนี้จะต้องมีการregisterไว้ก่อนแล้ว) เวลาเด็กลงรถก็ให้เด็กscanอีกที ถ้าครบก็สามารถล๊อครถได้ถ้าไม่ครบ ก็ไม่สามารถล๊อคได้ แล้วเรียกดูได้ว่าใครยังไม่ได้ลงรถ
แต่ว่า ต้องคิดหลายๆทาง ไม่ใช่แค่คำนึงถึงเด็กอย่างเดียว ต้องคนขับรถด้วย ถ้าเด็กลืมscan คนขับก็งานเข้าซิครับ คงต้องมี account คล้ายๆ กับ auditor มาตรวจแล้วยืนยันแล้วscan เพื่อreset ได้ล๊อครถได้
เรื่องลายนิ้วมือเด็กอันนี้ต้องขอคำแนะนำคุณหมอแล้วว่า เด็ก3-10ขวบ ภายใน1ปีจะเปลี่ยนกันเร็วหรือเปล่า ถ้าเปลี่ยนกันเร็วก็ต้องregister กัน1-2เดือนครั้ง